พ่อ คือคำที่ฟังดูอบอุ่น มีพลัง และสามารถไว้วางใจได้เสมอสำหรับผม ผมเป็นลูกคนเดียวของบ้านที่ค่อนข้างมีฐานะยากจน แม่ผมมีร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงนัก จึงทำงานอะไรมากมายไม่ค่อยได้ ดังนั้นรายได้ส่วนใหญ่ของครอบครัวจึงมาจาก พ่อ ของผมเอง
"พ่อผมเอง หล่อไหมครับ?"
พ่อผมทำงานรับจ้างทั่วไป ไม่ว่าเขาจะจ้างให้ทำอะไร พ่อทำได้หมดทุกอย่าง ตอนผมยังเด็ก พ่อชอบแกล้งให้หัวเราะ หลอกให้กลัวนั่นกลัวนี่อยู่เสมอ พ่อเป็นคนไม่ค่อยพูด แต่เมื่อได้พูดแล้วน่าฟังมาก ทุกเช้าผมจะซ้อนท้ายจักรยานคันเก่า ๆ ไปโรงเรียนกับพ่อ ก่อนเข้าโรงเรียน พ่อจะแอบให้เงิน(ที่พ่อซ่อนมาจากแม่)ไว้ให้ผมซื้อขนมกิน และทุกครั้งหลังจากกลับจากโรงเรียน พ่อจะเดินมารับที่หน้าบ้าน ก่อนจะเริ่มยิงมุกตลกต่าง ๆ นานา เพื่อให้ผมลืมเรื่องเครียด ๆ ที่พบจากโรงเรียน พ่อคือคนที่คอยนั่งสอนการบ้านผมที่หัวบันไดทุกวัน น่าแปลกที่พ่อจบแค่ชั้น ป.4 แต่กลับสอนในสิ่งที่ผมเรียนจากโรงเรียนแล้วไม่เข้าใจ ให้ผมเข้าใจได้ ผมรู้สึกมีความสุขในทุก ๆ วันจนกลายเป็นเรื่องเคยชิน แล้ววันหนึ่งผมก็ได้ทำบางสิ่งพลาดไป...
การเรียนในระดับที่สูงขึ้น ทำให้ผมเริ่มเปลี่ยนแปลง ผมรู้สึกจริงจังกับทุก ๆ อย่าง เครียด และทุ่มเทกับการเรียนอย่างหนัก จนบางครั้ง ความเครียดก็ทำให้ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่
วันนั้นเป็นที่แสนธรรมดามาก ผมกลับมาจากโรงเรียนตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือ ผมเครียดจากการทำงานกลุ่มกับเพื่อนเป็นอย่างมาก และแน่นอน เมื่อกลับมาถึงบ้าน พ่อก็เข้ามาต้อนรับ พร้อมกับมุกตลกอีกเช่นเคย ช่วงแรก ๆ ผมพยายามเฝือนยิ้มให้พ่อ ทั้ง ๆ ที่ในใจคิดตลอดว่า "มุขซ้ำอีกแล้ว...ไม่เห็นมันจะตลกอะไรนักหนา" เมื่อพ่อเริ่มหยอกมากขึ้น จนผมทนไม่ไหว ผมจึงตะโกนใส่พ่อว่า "พอเถอะป๊า พูดอะไรก็ไม่รู้ ไม่เห็นจะตลกตรงไหน ขำอยู่ได้!!" ทันทีหลังจากผมพูดจบ พ่อได้แค่ยืนมองหน้าผมอย่างอึ้ง ๆ ก่อนจะเดินจากไปโดยไม่พูดอะไร
หลังจากวันนั้น พ่อไม่ยอมเล่นมุขอะไรอีกเลย พ่อเอาแต่นั่งมองสมุดอะไรซักอย่างอยู่ในห้อง ผมได้แต่คอยแอบบมอง แต่ด้วยอารมณ์ของวัยนั้น มันไม่กล้าที่จะเข้าไปคุยอะไรกับพ่อมากนัก
จนวันหนึ่ง ผมแอบเข้าไปดูสมุดที่พ่อชอบมอง ทำให้รู้ว่า สมุดเล่มนั้นเป็นสมุดการบ้านสมัยอนุบาลของผมเอง ลายมือหักเขียนที่มีพ่อช่วยจับ ผมจำความรู้สึกตอนนั้นได้ดี มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะบรรยายได้ หน้าสุดท้ายของสมุดเล่มนั้น พ่อได้เขียนกลอนยาวเหยียดไว้ ผมพอจับใจความได้ว่า พ่อคิดถึงคุณปู่คุณย่า พ่อปวดหัวและเหนื่อยมาก แต่พ่อยังต้องดูแลครอบครัวอยู่ พ่อจึงพักผ่อนไม่ได้ ตอนอ่านใกล้จะจบ พ่อก็เปิดประตูห้องเข้ามาพอดี ผมนึกว่าผมจะดดนพ่อด่าที่แอบเข้าห้องโดยไม่ได้รับอนุญาตเสียอีก แต่พ่อกลับมานั่งลงข้าง ๆ พ่อหยิบมือผมขึ้นมาแบออก แล้วพ่อก็แบบมือตัวเองมาเทียบข้าง ๆ ผมเห็นมือพ่อด้าน หยาบ และเต็มไปด้วยแผลมากมาย พ่อบอกว่า "มือของพ่อน่าเกลียด เพราะพ่อไม่มีความรู้ พ่อจึงต้องทำงานหนัก เพื่อให้มือของผมไม่เป็นแบบพ่อ..." ยังไม่ทันที่พ่อจะพูดอะไรจบ ผมก็ร้องไห้ออกมาโดยไม่อยากคิดหาเหตุผล ประโยคเดียวที่ผมพูดออกในตอนนั้นคือ "ผมขอโทษ"
นับตั้งแต่นั้น ทุกครั้งที่พ่อเล่นมุก ผมจะรู้สึกมีความสุขมาก ไม่ใช่เพียงแค่คำพูดที่ชวนให้อารมณ์ดีของพ่อเท่านั้น แต่ยังมีรอยยิ้มที่ทำให้ผมรู้ว่าพ่อมีความสุขแค่ไหน เวลาเห็นผมมีความสุขอีกด้วย ผมรักพ่อจัง...รักที่สุดเลย!!
"พ่อเป็นได้ทุกสิ่ง เป็นซุปเปอร์ฮี่โร่ เป็นที่ปรึกษา เป็นเพื่อนเล่น เป็นได้แม้กระทั่ง ตัวตลก เพื่อให้เรามีความสุข...จะมีใครในโลกที่ทำ เพื่อเราได้มากขนาดนี้อีก"
ชื่นชมซุปเปอร์ฮีโร่ของน้องครับผม
.... ขอบคุณ ...บันทึกดีดีนี้ค่ะ ....
-สวัสดีครับ..
-ตามมาอ่านบันทึกเรื่อง"พ่อ"ครับ..
-อ่านบันทึกนี้ด้วยความซาบซึ้งปนกับความอบอุ่นจากพ่อครับ..
-ขอร่วมระลึกถึงพระคุณพ่อครับ
ขอบคุณที่ใช้ "ใจ" เขียนบันทึกนี้ออกมาครับ ;)...
สวัสดีคุณDr. Popครับ
พ่อคือทุกสิ่งของผมเลยครับ ^^
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นดี ๆ มากครับ
สวัสดีคุณDr. Pleครับ
ขอบคุณมากครับสำหรับกำลังใจดี ๆ
สวัสดีครับคุณเพชรน้ำหนึ่ง
พ่อคือที่สุดของคำว่ารักแล้วครับ><
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นดี ๆ นะครับ
สวัสดีครับครูOngkuleemarn
กว่าจะเขียนจนเสร็จได้ แทบจะร้องไห้คาห้องคอมเลยครับ T^T
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นดี ๆ นะครับ
สวัสดีคะ คุณ ศุภลักษณ์ ไชโย
ครอบครัวคุณเป็นครอบครัวที่อบอุ่นนะคะ
คุณพ่อของคุณเป็นแบบอย่างที่ดีให้คุณ
ดิฉันขอชื่นชมคำพูด คำสอนที่ท่านได้พร่ำสอนคุณคะ
สวัสดีคะ คุณ ศุภลักษณ์ ไชโย
อ่านแล้วประทับใจค่ะ
สวัสดีครับคุณ เจนจิรา ต่อตัน
ดีใจมากครับที่คุณอ่านแล้วรู้สึกดีตาม
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นดี ๆ นะครับ