สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่แปดแล้ว ...
แม่ครูนั้นจิตใจจดจ่ออยู่กับว่า ครบ ๑๒ ครั้งเมื่อไร คือ ปลายทาง จากนั้นก็ค่อยว่ากันอีกว่าจะทำอย่างไร
ในแต่ละสัปดาห์ล้วนแต่มีเรื่องมีปัญหา มีการถูกโจมตี มีความกล่าวหา ... มีการต่อต้าน
เป็นเรื่องที่น่าขบขันก็น่าขบขัน เป็นเรื่องที่น่าโมโห มันก็น่าโมโหอยู่นะ ... แต่มันก็มีเยอะเหลือเกินกับเพียงแค่ปรารถนาที่จะพาเด็กๆ มาบ่มเพาะเรื่องศีลธรรม เน้นเรื่องศีล๕ แต่ทำไมจึงมีเรื่องกระทบเข้ามาเยอะมาก แต่ในขณะเดียวกันคนที่สนับสนุนก็มีเยอะเช่นเดียวกัน
ที่ถูกโจมตีมากก็เป็นคนในหมู่บ้าน แต่ก็มีไม่เยอะ หากแต่กล่าวหาติเตียน อยู่บ่อยเหลือเกิน
หากใจไม่เข้มแข็งพอก็น่าท้อใจอยู่หรอก
แต่นี่เข้าใจอยู่ว่า คือ บททดสอบที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
หากเราผ่านได้ เราก็มั่นคงในเป้าหมาย หากเราหยุดเราก็แย่...
และเมื่อเวลาผ่านมาถึงสัปดาห์ที่แปดแล้ว นึกย้อนกลับไปในเจ็ดสัปดาห์ที่ผ่านมาเรื่องที่ว่ามีเกิดขึ้นมันก็ดับไปของมันเอง คนที่ชอบว่าให้เราเขาก็หาเรื่องใหม่ๆ มาว่าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แต่จิตใจเราก็มองเห็นการแปรเปลี่ยนคือ วางลงได้เร็ว ได้ง่าย และมีความมั่นคงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย
เมื่อบ่ายๆ หลวงปู่เมตตาแวะผ่านมาและได้เข้าไปกราบพร้อมเด็กๆ...
หลวงปู่ถาม "ต้นสน" และน้อง "ปิ๊ง" ... ซึ่งต้นสนแม่เป็นนิติกร ทำงานอยู่สำนักอัยการจังหวัด พ่อเป็นอัยการ และแม่มีความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนามาก ได้พาต้นสนติดตามพี่แฝด "พี่ทิว-พี่ทิม" มาวัด... หลวงปู่บอกว่า "ลูกหลานชาวบ้านแถวนี้ไม่มาเลยเนาะ"
ซึ่งหากจะว่าไปแล้ว ลูกหลานชาวบ้านแถวนี้คือเป้าหมายที่สำคัญที่ข้าพเจ้าอยากมาเกื้อกูลช่วยเหลือ
แต่ชาวบ้านบางกลุ่ม ก็ต่อต้านเหลือเกิน ...มองไม่เห็นในเจตนาที่ดีที่มองไปไกลอย่างลึกซึ้ง
เด็ก ... หากเขาได้นิสัยคนวัด มีศีลและรู้จักคุณธรรม ณ วันหนึ่งเขาจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ
และนี่ก็อีก ๔ ครั้งก็ครบ ๑๒ ครั้งตามเป้าหมาย
แล้วจะต้องมานั่งถอดบทเรียน ... สรุปกันว่าทิศทางจะดำเนินไปอย่างไร
และสำหรับแม่ครู ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นแม่ครูก็มีความอดทน และมั่นคงต่อการทำกิจกรรมอย่างไม่ย่อท้อและไม่ถอยอยู่แล้ว
...
๙ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๖
ไม่มีความเห็น