เชื่อง่ายก็โง่ได้เสมอ (เรื่องของอาหาร ไม่ใช่การเมือง.นะครับ)


 

 

เก็บบทความนี้ไว้สักปีเห็นจะได้  เพราะโดนใจที่คุณหมอมา

 

ทำให้รู้้ตัวว่าเราก็โง่เหมือนกัน และคิดว่าที่ฉลาด ๆ อยู่แล้วในเรื่่อง

 

อาหารก็อาจจะฉลาดขี้นอีก หากได้อ่านเรื่องนี้ ขอให้ทุกท่านสุขภาพดี

 

ด้วยอาหารด้วยนะครับ

  1. Credit: นพ.กฤษดา ศิรามพุช,พบ.(จุฬาฯ)
    ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ
    American Board of Anti-aging medicine
    ยอมอดหม่ำ ระวังทำ “เสียโอกาส”

    ดังที่บอกไปครับว่าตัวของเราสุขภาพของเรานั้นอยู่ที่ปาก แต่หากรับประทานมากเกินไปก็อาจทำให้ป่วยได้เพราะปากเช่นกัน ความสำคัญของเวชศาสตร์อายุรวัฒน์อยู่ตรงนี้ละครับ คือการปรับให้ได้สมดุลย์กำลังดีระหว่างของที่ “ชอบกิน” กับของที่ “ควรรับประทาน”

    คำกล่าวที่ว่า “กินอย่างไรได้อย่างนั้น(You are what you eat)” ไม่อาจใช้ได้กับทุกคนเสมอไปครับ ยกตัวอย่างคุณทวดอายุร้อยปีที่ดื่มไวน์สูบบุหรี่ปุ๋ย ก็ยังแข็งแรงและสุขภาพดีได้แถมแซงหน้าคนกินอาหารสุขภาพเสียอีก
    สำหรับคำที่เหมาะกับปัจจุบันจริงๆก็คือ “กินดีแล้วต้องคิดดีด้วยจะช่วยได้” ครับ ถ้าจะรับประทานอาหารสักอย่างหนึ่งขอท่านที่รักอย่า “กลัว” จน “เกร็ง” จะพาลไม่อร่อย กินได้ทีละคำน้อย หมดอร่อย ไม่สนุก 
    เพราะในทุกคำของอาหารแม้ขึ้นชื่อว่า “ต้องห้าม” ก็แอบมีประโยชน์ซ่อนอยู่มาก หากท่านไม่อยากพลาดโอกาสทองของสุขภาพต้องจับตาดูอาหารต่อไปนี้ให้ดีครับ

    1) ไข่แดง มีประโยชน์มากครับ ท่านที่คิดว่าไข่แดงคือผู้ร้ายลองคิดง่ายๆว่าแม่ไก่จะผลิตผู้ร้ายมาให้ลูกได้อย่างไรกัน ไข่แดงไม่ได้มีแต่ความมันอย่างเดียวนะครับแต่มีวิตามินดีและสารต้านอนุมูลอิสระอย่าง “ไบโอติน” อยู่ด้วย ที่สำคัญคือมีโอเมก้าสามช่วยลดไขมันอยู่ครบในไข่แดงนั้นเอง กินวันละฟองได้สบายจุงเบยครับ

    2) ปลาหมึก เคยถูกตราว่าเป็นข้าศึกสำคัญของคนไข้ไขมันสูง แต่ผมมักบอกตรงกันข้ามเสมอว่าถ้าอยากให้สุขภาพดีต้องรับประทานปลาหมึกครับ เพราะปลาหมึกไม่ได้มีแต่ไขมันผู้ร้ายอย่างเดียว แต่มันอุดมไปด้วย “โอเมก้า3” ที่เป็นไขมันดีเช่นเดียวกับในปลาทูและแซลมอน การรับประทานปลาหมึกให้ได้ประโยชน์เต็มที่ขอให้เลี่ยงการทอดและชุบแป้งครับ

    3) หอยนางรม และหอยอื่นๆ นานาสารพัดเนื้อหุ้มเปลือกนี้มีประโยชน์ในหลายแง่ครับ อย่างหอยนางรมมี “สังกะสี” ในปริมาณที่สูงมาก ส่วนหอยแมลงภู่นั้นมีแคลอรีต่ำเหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก คนรักหอยมีเฮได้ครับว่าการบริโภคหอยนั้นถ้าสุกแล้วปลอดภัยมาก แต่หากสุกๆดิบๆก็จะอันตรายมากเช่นกันจากเชื้อท้องเสียที่มีอยู่มาก ขอแนะวิธีรับประทานหอยให้อร่อยหมดคาวคือลวกด้วยน้ำต้มตะไคร้ครับ
    4) กะทิ คนไข้หลายรายถูกสั่งห้ามกะทิ เช่นแกงเขียวหวาน,ขนมกะทิ,กล้วยบวดชี ทั้งที่กะทิมี “ของดี” อยู่อย่างหลากหลายครับ การรับประทานกะทิให้ปลอดภัยคือไม่ปรุงหวานจัดหรือเค็มจัดจนเกินไปครับ แล้วถ้ามื้อไหนมีกะทิแล้วก็ควรเลี่ยงของหวานและมันเพราะกะทิให้แคลอรีสูงอยู่แล้วครับ เช่นมื้อนี้มีผักลวกราดกะทิก็ไม่ต้องเอาผักไปชุบแป้งทอดอีกเป็นต้น

    5) ไอศกรีม ของหวานเย็นชื่นใจอย่างนี้มีประโยชน์มากครับผมมัก “จ่าย” ให้กับเด็กป่วยมือเท้าปากที่มาหา ใครจะว่าไอศกรีมเป็นของร้ายทำให้เจ็บคอ แต่ในกรณีโรคมือเท้าปากนี้มันช่วยชีวิตเด็กได้เลยนะครับ ขอท่านที่รักลองคิดดูว่าเวลาเจ็บคอเหลือแสนมันไม่อยากกินอะไร แต่ถ้าได้ของเย็นๆหวานๆได้พลังงานแถมยังชื่นใจ มันช่วยได้มากเลยนะครับและคำตอบนั้นก็คือไอศกรีมแสนอร่อยนี่เอง
     
  1. 6) น้ำเย็น ใครว่าไม่สบายห้ามกินน้ำเย็น ไม่จริงเสมอไปนะครับ เพราะน้ำเย็นนี่เองที่ทำให้ดับอาการร้อนข้างในกาย อุณหภูมิของน้ำที่เย็นนี่เองที่ทำให้ดูดซึมเข้าร่างกายได้ดีกว่าน้ำอุ่นครับ น้ำเย็นควรงดเวลาปวดท้องหรือท้องเสีย แต่เมื่อใดที่ออกกำลังมาเหนื่อยหรือกำลังขาดน้ำ น้ำเย็นจะช่วยได้มากครับ 

    7) ลูกอม ขนมอมเล่นเย็นๆใจอย่างทอฟฟี่ หรือช็อกโกแลตชิ้นจ้อย ช่วยได้ไม่น้อยทีเดียวครับในคนเป็นเบาหวานที่กำลังจะหมดแรงร่วงลง การได้ลูกอมหวานๆสักเม็ดอมกลั้วในกระพุ้งแก้มให้ตุ่ยจะช่วยหยุดอาการใกล้วูบลงได้อย่างชะงัด ขอให้จัดลูกอมเม็ดจ้อยติดกระเป๋าไว้ครับในท่านที่หน้ามืดบ่อย,ความดันต่ำ และโดยเฉพาะโรคเบาหวาน การรับประทานลูกอมให้ปลอดภัยขอให้ช่วยบ้วนปากแปรงฟันต่อด้วยนะครับ

    8) ผักผลไม้ดอง ของที่ครูดุสมัยเด็ก ของที่ถูกตีตราว่าด้อยค่าไม่เหมือนผลไม้สด ในทางอายุรวัฒน์แล้วมีประโยชน์มากครับเพราะเป็นแหล่งรวมของ “โพรไบโอติกส์” คือจุลินทรีย์เชื้อดีที่ช่วยให้ลำไส้แข็งแรงสุดไส้ ควรเลือกผลไม้ดองธรรมชาติที่ไม่ใส่สี,ขัณฑสกรและไม่หวานจัดเกินไปครับ แค่นี้ก็ช่วยให้ระลึกถึงคุณครูผู้สอนสุขบัญญัติได้อีกครั้ง 

    9) กาแฟ ดื่มกาแฟไม่แย่อย่างที่คิดครับ แต่ถ้าใครที่ไม่ดื่มก็ไม่จำเป็นต้องขวนขวายหาดื่มหรอกนะครับ กาแฟมีส่วนช่วยให้ผู้ใหญ่ไม่ “วูบ” หรือ “มึนศีรษะง่าย” ท่านใดที่มีอาการวูบวาบบ่อยมึนหัวง่าย ขอให้ลองดื่มกาแฟสัก 2 ช้อนตอนเช้าจะช่วยได้ครับ หรือในท่านที่อยากให้สมองแล่นดีช่วยต้านอนุมูลอิสระก็ขอให้ดื่มแค่ไม่เกินวันละแก้วเป็นพอครับ 

    10) น้ำหวาน และน้ำอัดลมเป็นเครื่องดื่มที่ให้คุณมากกว่าที่คิดนะครับบ่องตง ท่านคงเคยได้ยินนักวิชาการออกมาห้ามเรื่องน้ำรสหวานทั้งหลาย แต่ทราบไหมครับว่าถ้าท้องเสียขึ้นมา “น้ำแดง” ยี่ห้อที่เราคุ้นเคยนั่นละครับช่วยได้มากที่สุด มากกว่าน้ำเกลือแร่ผงที่จิบแล้วชวนคลื่นไส้เสียอีก หรือในผู้ใหญ่ใกล้จะเป็นลม กินข้าวไม่ได้ อย่างน้อยได้น้ำหวานเย็นๆสัก 1-2 แก้วต่อวันนี่ซื้อเวลาไปได้เป็นวันเลยนะครับ

    เมื่อมองไปท่านที่รักจะเห็นว่าไม่มีของใดที่ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิงในโลกนี้และเราไม่ควรตัดสินสิ่งใดจากภายนอกเพียงอย่างเดียว 
    นี่เองคือ “สัจธรรม”

    แต่ธรรมดาโลกมักกลับกันดังที่เห็นคือมองแต่ภายนอกก่อน เชื่อเพราะฟังสืบกันมา และน่าแปลกที่ว่าคนเรามักหากฏระเบียบข้อบังคับให้กับตัวเอง หรือไม่ก็ยอมให้ใครก็ไม่รู้มาห้ามหัวใจเรา โดยสร้างเงื่อนไขว่าห้ามกินอย่างโน้น ต้องอดอย่างนี้ 
    ทั้งที่จริงแล้วมันไม่มีอาหารต้องห้ามในโลกนี้เลยครับ

 

จาก   10 อาหารที่คนไข้ถูกห้าม แต่ความจริงมีประโยชน์มาก - Stock2morrow

 

โดย

Credit: นพ.กฤษดา ศิรามพุช,พบ.(จุฬาฯ)

ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ
American Board of Anti-aging medicine

หมายเลขบันทึก: 551183เขียนเมื่อ 18 ตุลาคม 2013 07:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 ตุลาคม 2013 07:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท