มีรัก ก็มีทุกข์


....เพราะฉะนั้น ถ้าเราไม่ต้องการผล อย่าสร้างเหตุ...

....ไม่ต้องรักแต่ให้มี "เมตตา"ต่อกัน  ไม่ต้องรัก แต่ให้มี "กรุณา"ต่อกัน ไม่ต้องรัก แต่ให้มี "มุทิตา" ต่อกัน ไม่ต้องรัก แต่ให้มี "อุเบกขา" ต่อกัน  เพราะ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นบ้านที่ประเสริฐของ "หัวใจ"......(พระอาจารย์ ฯ)

(ฟังเสียงอาจารย์ฯที่นี่)..มีรัก ก็มีทุกข์..http://navy09.blogspot.com/2013/08/blog-post_20.html

หมายเลขบันทึก: 546121เขียนเมื่อ 21 สิงหาคม 2013 07:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 สิงหาคม 2013 07:51 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

ถูกต้องครับ...มีผลต้องมีสาเหตุ...สาเหตุแห่งรักที่เป็นทุกข์ก้ด้วยเพราะ...ไม่รู้จักแบ่งบัน...ไม่รู้จักปล่อยว่าง...รักไม่เป็น

..หากเรา..มวลมนุษย์..ชื่นชอบ..อ่านอย่างเดียว..รู้สึก..ไปตามเพลง...ไม่ฝึกฝน..ตน.."เรา..ก็รักกัน..อย่างทุกวันนี่แหละ..มั้ง"...(แอบคิด)..ยายธี

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียน พร้อมกับช่อดอกไม้  อ.ขจิต  ท่าน วอญ่า คุณชนะ  ....

...เมตตา......เมตตา......เมตตา......เมตตา......เมตตา......เมตตา......เมตตา...

วิญญูชน คือผู้ประกอบด้วยหลักนักปราชญ์คือ สุ จิ ปุ ลิ ประกอบด้วยปัญญาพินิจ มีหลักโยนิโสมนสิการ คือเป็นผู้ฉลาดในการคิด คิดอย่างถูกวิธี ถูกระบบ พิจารณาไตร่ตรองรอบคอบ แล้วสามารถแยกแยะผิดถูก ชั่วดี ควรไม่ควร เหมาะไม่เหมาะ เป็นต้น ได้อย่างถูกต้องแจ่มแจ้ง
วิญญูชน เป็นผู้สามารถที่จะรู้ธรรมของพระพุทธเจ้าได้ ดังบทบาลีว่า
ปจจตต เวทิตพโพ วิญญูหิ - พระธรรมอันวิญญูชนจะพึงรู้ได้เฉพาะตน

(จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี)

ขอบคุณครับ คุณ tuknarak  ...ที่กรุณามอบดอกไม้ให้ครับ....

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท