....เพราะฉะนั้น ถ้าเราไม่ต้องการผล อย่าสร้างเหตุ...
....ไม่ต้องรักแต่ให้มี "เมตตา"ต่อกัน ไม่ต้องรัก แต่ให้มี "กรุณา"ต่อกัน ไม่ต้องรัก แต่ให้มี "มุทิตา" ต่อกัน ไม่ต้องรัก แต่ให้มี "อุเบกขา" ต่อกัน เพราะ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นบ้านที่ประเสริฐของ "หัวใจ"......(พระอาจารย์ ฯ)
(ฟังเสียงอาจารย์ฯที่นี่)..มีรัก ก็มีทุกข์..http://navy09.blogspot.com/2013/08/blog-post_20.html
ถูกต้องครับ...มีผลต้องมีสาเหตุ...สาเหตุแห่งรักที่เป็นทุกข์ก้ด้วยเพราะ...ไม่รู้จักแบ่งบัน...ไม่รู้จักปล่อยว่าง...รักไม่เป็น
..หากเรา..มวลมนุษย์..ชื่นชอบ..อ่านอย่างเดียว..รู้สึก..ไปตามเพลง...ไม่ฝึกฝน..ตน.."เรา..ก็รักกัน..อย่างทุกวันนี่แหละ..มั้ง"...(แอบคิด)..ยายธี
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียน พร้อมกับช่อดอกไม้ อ.ขจิต ท่าน วอญ่า คุณชนะ ....
...เมตตา......เมตตา......เมตตา......เมตตา......เมตตา......เมตตา......เมตตา...
วิญญูชน คือผู้ประกอบด้วยหลักนักปราชญ์คือ สุ จิ ปุ ลิ ประกอบด้วยปัญญาพินิจ มีหลักโยนิโสมนสิการ คือเป็นผู้ฉลาดในการคิด คิดอย่างถูกวิธี ถูกระบบ พิจารณาไตร่ตรองรอบคอบ แล้วสามารถแยกแยะผิดถูก ชั่วดี ควรไม่ควร เหมาะไม่เหมาะ เป็นต้น ได้อย่างถูกต้องแจ่มแจ้ง
วิญญูชน เป็นผู้สามารถที่จะรู้ธรรมของพระพุทธเจ้าได้ ดังบทบาลีว่า
ปจจตต เวทิตพโพ วิญญูหิ - พระธรรมอันวิญญูชนจะพึงรู้ได้เฉพาะตน
(จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี)
ขอบคุณครับ คุณ tuknarak ...ที่กรุณามอบดอกไม้ให้ครับ....