งานนั้นคือหน้าที่ งานนี้คือหัวใจ


น้องๆมีลีลาการนำเสนอแบบสนุกสนานเร้าใจสุดๆ

 

 

งานนั้นคือหน้าที่ ... งานนี้คือหัวใจ

โอ้โห...

ใครนะช่างตั้งหัวข้อเสวนาได้โดนใจจริงๆ

พอแม่ต้อยได้รับคำเชิญจากท่านคณบดีคณะแพทย์ศาสตร์
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ให้ไปร่วมเสวนา และแลกเปลี่ยนในหัวข้อ เรื่องนี้ จึงมิรอช้า

ทั้งๆที่มีคิวนัดผ่าตัดตาแล้ว .. อย่ากระนั้นเลย

จัดแจง เลื่อนการผ่าตัดต้อกระจกที่คุณหมอนัดไว้อย่างดิบดีและเวลามาตรงกัน  ออกไปซะงั้น

ก็หัวข้อที่ตั้งไว้
ช่างน่ารักและตรงกับใจเสียจริงๆ

แม่ต้อยว่าทุกวันนี้การทำงานของพวกเราหลายๆคน
รวมทั้งตัวแม่ต้อยเอง เราจะมีเส้นกั้นระหว่างงาน หัวใจ และความสุข

งาน 
หัวใจ และ ความสุข ถูกสิ่งบางสิ่งแยกให้ออกจากกันโดยอัตโนมัติ

งานจึงกลายเป็น”ภาระ” ที่หนักหนาสาหัส
ที่ถูกเรียกชื่อว่า “ หน้าที่” และความทุกข์  จึงไม่แปลกที่เรามักได้ยินคำพูดที่ได้ฟังแล้วนึกขำๆ แต่แฝงไว้ด้วยความหมายบางประการ ดังเช่น " วันสุข( ศุกร์) แห่งชาติ

เป็นต้น ฮ่าๆๆๆ  เพราะวันศุกร์คือ ความมหมายของการได้พัก ได้ไปเสาะแสวงหาความสุขในรูปแบบต่างกันตามความชอบของเรานั่นเอง

 

เมื่อวกกลับมาที่งาน เราพบว่า บางครั้งเราลืมที่จะกลับมามองดูว่า เราจะทำให้ที่ทำงาน เป็นที่อยู่อาศัยของใจด้วยได้อย่างไร?

สำหรับ “ใจ”ของคนทำงานนั้นไม่เคยมีการทบทวน
ว่าเราทุกคน มี”หัวใจ” สำหรับงานที่ทำหรือไม่ มากน้อยเพียงใด

คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย ได้ตั้งเป้าหมายชัดเจนที่จะธำรงคุณภาพของงานด้วยมิติด้านจิตใจของคน ควบคู่กันไป หรือที่เรารู้จักกันในนาม Spiritual Health Care  SHA นั่นเอง

 

การเสวนาในครั้งนี้เราจึงมาแลกเปลี่ยนกันว่า
ทำอย่างไร จึงจะทำให้งานนั้น
ซึ่งเป็น”หน้าที่”ให้เข้ามาหลอมรวมกันกับ”หัวใจ”ดวงน้อยๆของเราเองให้มีความสุข
สนุกในงานที่ทำ

คนเสวนา มี แม่ต้อย นพ.ดร. สกล สิงหะ นพ.สงวนสินธ์ และ นพ.โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์

คนรู้จักกันทั้งนั้น

 

ฟังดูคล้ายจะยาก
แต่เรื่องราวเหล่านี้ต้องมีการสร้างแรงบันดาลใจ
และมีกิจกรรมบางอย่างที่ทำให้คนทำงานมีพลัง รับรู้เป้าหมายของการทำงานได้

แม่ต้อยได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ร่วมกับวิทยากรท่านอื่นๆที่กล่าวชื่อมาข้างต้นอย่างออกรสออกชาด
เพราะเรื่องราว ที่เคยรับรู้จากน้องๆในการทำงานที่ผ่านมา ซึ่งทำให้คนที่เหนื่อยล้า หมดแรง
สามารถมีพลังใจในการทำงาน และ งานที่ทำกลับกลายเป็นความสุขได้

มันสร้างพลังได้มากจริงๆ ทั้งคนนำเสนอ และคนที่รับฟัง

 

นอกจากนั้น ในเวทีสนทนาครั้งนี้
เรามีเรื่องราวแลกเปลี่ยนกันมากมายระหว่างคนทำงานจริง และแลกเปลี่ยนกับ แขกรับเชิญ
เรียกได้ว่า ต่างก็แลกแบ่งปันประสบการณ์ ไม่มีใครเก่งกว่าใคร ในเวทีแห่งนี้

“ บ่องตง ทำแล้ว ฟิน”

น้องๆมีลีลาการนำเสนอแบบสนุกสนานเร้าใจสุดๆ
มีการใช้สื่อและเทคนิคนำเสนออย่างสร้างสรรค์

ทำให้แม่ต้อยได้ศัพย์ขั้นเทพของวัยรุ่นมามากมาย อิอิ

เลยบอกน้องไปว่า " บ่องตง ฟังแล้วฟิน" เรียกเสีบงเฮฮาได้อีกครั้ง

แต่ที่น่าสนใจคือน้องๆทำให้แม่ต้อยได้เรียนรู้ว่าการสร้างสรรค์งานที่น่าเบื่อหย่าย
จำเจ เช่นงานสารบัญ งานห้องสมุด
กลับกลายเป็นงานที่มีชีวิตชีวานั้นเขามีวิธีคิดอย่างไร

สนุก มีสาระ และมีความสุขจริงๆ

สำหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ “
งานนั้นคือหน้าที่ งานนี้คือหัวใจ”

ขอขอบคุณมากๆนะคะ ที่ได้มีโอกาสอันงดงามเช่นนี้

สวัสดีคะ

แม่ต้อย



คำสำคัญ (Tags): #sha
หมายเลขบันทึก: 541670เขียนเมื่อ 7 กรกฎาคม 2013 15:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 กรกฎาคม 2013 15:04 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

hahaha. แม่ต้อยวัยรุ่นอะค่ะ

“ บ่องตง ทำแล้ว ฟิน”^___^

แม่ต้อยได้ไปกินติ่มซำหาดใหญ่ไหมคะ ของอร่อยเยอะมากที่ภาคใต้

สวัสดีคะ. น้องชาดา

ต้องวัยรุ่นสิคะ. เพราะน้องๆ เขาเสนอแบบนั้นคะ

สนุกดีคะ. อิอิ

แม่ต้อย

สวัสดีคะ น้องแก้ว

แม่ต้อยชอบทานพวกแกงเหลือง อาหารใต้ๆมากกว่าคะ

ทานทุกวันคะ

วันที่๑ สิงหาคม แม่ต้อยไม่ได้ไปพูดเรื่องr2r นะคะ

เพราะนัดผ่าตัดวันที่๓๑ กรกฏาคม คะ.

หมออัครินทร์. บอกว่ายังไม่ต้องไปคะ

แม่ต้อยให้หมอสมจิตไปแทนนะคะ

รักคะ

แม่ต้อย

“ บ่องตง ทำแล้ว ฟิน”

" บ่องตง ฟังแล้วฟิน"

โอแม่ต้อยครับ เห็นภาพจริงๆ ขอบคุณนะครับ...

ลูกหมู

ปลายเดือนนี้เราจะมีงาน SHA กันอีกแล้วค่ะ พี่ เป็นงานเล็กๆในคณะเราเองค่ะ 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท