บทกวีของปุกปุย (My Poem)


     บทกวี  บทกลอน  อะไรกันน่ะ?  ที่อ่านแล้วให้ความรู้สึกหอมหวานมากกว่ากันสำหรับในวันนี้  "วันสุนทรภู่"

คงจะให้คำตอบไม่ไ้ด้ว่าจะเป็นบทกวีหรือบทกลอน  แต่ถ้าเนื้อหามันโดนในจิตใจของใครก็ตามแต่  

ก็เป็นคำตอบที่เหมาะสมแล้วว่าเป็นคุณค่าทางความรู้สึกที่อบอวนไปด้วยความหวานชื่นในรสของศิลปะ

    ส่วนบทกวีของปุกปุยคงไม่มีอะไรเกินไปจากการได้แต่งบทกลอนเอง  นี้แหละถือว่าเป็นความหวานในการออก

รสของบทกลอนและก็คงจะไม่พ้นเรื่องใดนอกจากการพรรณาในเรื่องของความรัก  ถ้าหากใครได้หลงเข้ามา

ในบันทึกนี้ก็ขอบอกให้คุณรู้เลยว่า  คุณเป็นคนมีศิลปะคนหนึ่งและเราลองมารำลึกความหลังด้วยกัน  

ครั้นตอนที่คุณครูชอบให้การบ้านนักเรียนเรื่องการแต่งกลอนในทุกๆ ปีในเทศกาลวันสำคัญต่างๆ  วันครู  

วันแม่แห่งชาติ  วันสุนทรภู่  หรือวันพ่อแห่งชาติ  อะไรประมาณนี้ 

   เรามาเริ่มแต่งกันเลยดีกว่า  อาจจะไม่ไพเราะเพราะพริ้งเท่าที่ควร  แต่ปุกปุยก็ภูมิใจเสนอเพราะมาจากความคิด

ที่กลั้นกรองออกมาด้วยหัวใจที่อยากเป็นนักกวีสักครั้งในช่วงว่างงาน (ฮ่าๆ)

           ดวงดาราส่องแสงระย้ายับ                    งามแวววับจับจิตพินิจหมาย

หวนให้คิดถึงน้องมิวางวาย                              ขาดคู่กายรายล้อมระทมทรวง

           มกราน้องน้อยเอ๋ยคำลา                       หยดน้ำตาพี่นี้ไหลรินล่วง

ดั่งชีวาหม่นหมองพันธ์ผูกบ่วง                          ติดในห่วงรสรักรูปนารี

           เหตุไฉนน้องเจ้ามาหนีหาย                   รึมีชายมาเกี้ยวพาราสี

ถึงได้กล้าเหยียบย่ำใจเรียมนี้                          เจ็บเหลือดีเจียนตายน้องรู้ไม่้

           แม้นว่าเจ้าติดรูปทองพันชั่ง                  เจ้าจงฟังพี่จะหามาให้ใหม่

ทุกสลึงพึงบรรจบเป็นทองไท                          ขอเพียงใจเจ้าน้องคืนกลับมา

           ดวงจันทราคราแสงจะลับหาย               แม้วันตายวันนี้ทุกเพลา

พี่จะขอรอรักน้องแม่โสภา                               ปราถนาเพียงชิดคู่ดูเชยชม

     จากกลอนข้างบนที่ท่านปุกปุยได้ประพันธ์มาเสร็จเรียบร้อยแล้วเรียกว่า  กลอนแปด  ปุกปุยได้เขียนไป  5  บท

ถือว่าใช้เวลาพอสมควร  (ไม่รู้สัมผัสถูกเปล่า  แต่ไม่ได้ไปขโมยใครมาแน่นอน  มาจากเรื่องจริงทั้งนั้น  ฮ่าๆๆ)

เอาเป็นว่าถ้าให้อยากให้แต่งกลอนให้ก็บอกได้น่ะ  ยินดีเสมอเมื่อเธอต้องการ

หมายเลขบันทึก: 540645เขียนเมื่อ 26 มิถุนายน 2013 23:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 มิถุนายน 2013 11:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

 ดวงดาราส่องแสงระย้ายับ                    งามแวววับจับจิตพินิจหมาย


อ่อนหวาน อ่อนไหวจริงๆ ค่ะ

...แวะมาทักทายมาอ่านกลอนคนว่างงาน...คนชอบอ่านกลอน...รู้ว่าเพราะ... และมีความหมายลึกซึ้ง ...แต่เป็นคนที่แต่งกลอนไม่เป็นค่ะ ...

 ดวงดาราส่องแสงระย้ายับ                    งามแวววับจับจิตพินิจหมาย

หวนให้คิดถึงน้องมิวางวาย                              ขาดคู่กายรายล้อมระทมทรวง

           มกราน้องน้อยเอ๋ยคำลา                       หยดน้ำตาพี่นี้ไหลรินล่วง

ดั่งชีวาหม่นหมองพันธ์ผูกบ่วง                          ติดในบ่วงรสรักรูปนารี  (พยางค์สุดท้ายวรรครองไม่ใช้เสียงเอก)(บ่วงกับบ่วงเป็นสัมผัสซ้ำ)

           เหตุไฉนน้องเจ้ามาหนีหาย                   รึมีชายมาเกี้ยวพาราสี

ถึงได้กล้าเหยียบย่ำใจเรียมนี้                          เจ็บเหลือดีเจียนตายน้องรู้ไม่้ (ใช้คำว่าไหมเป็นเสียงจัตวาถ้าไม่ เป็นเสียงโท ถ้าไม้ เป็นเสียงตรี (วรรคส่งใช้เสียงวรรณยุกต์สามัญและเสียงตรี)

           แม้นว่าเจ้าติดรูปทองพันชั่ง                  เจ้าจงฟังพี่จะหามาให้ใหม่

ทุกสลึงพึงบรรจบเป็นทองไท                          ขอเพียงใจเจ้าน้องคืนกลับมา

           ดวงจันทราคราแสงจะลับหาย               แม้วันตายวันนี้ทุกเพลา(พยางค์สุดท้ายวรรครับห้ามใช้เสียงวรรณยุกต์สามัญและเสียงตรี)

พี่จะขอรอรักน้องแม่โสภา                               ปราถนาเพียงชิดคู่ดูเชยชม

ชอบที่จะตรวจดูบทกลอนแต่แต่งเองไม่ถนัด ควรใช้สัมผัสในให้ครบตามแบบฉบับสุนทรภู่ เช่น

หนวดถึงเข่าเคราถึงนมผมถึงตีน (กล่าวถึงชีเปลือย)

@pap2498 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆค่ะ  มือใหม่หัดแต่งค่ะ คราวหน้าจะพยายามให้มากกว่านี้ค่ะ

@ดร. พจนา แย้มนัยนา  ขอบคุณที่เข้ามาทักทายคนว่างงานน่ะค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท