สัปดาห์นี้มีเรื่องที่คิดว่าน่าสนใจขอเลือกมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 10 เรื่องดังนี้
1. วันที่ 6 มิ.ย.56 คุณกิตติมา ครู กศน.ตำบล กศน.อ.เขาสวนกวาง ถามในเฟซบุ๊คกลุ่มครูนอกระบบ ว่า ใครมีอำนาจในการจัดตั้งศูนย์การเรียนชุมชน
ผมตอบว่า
- ถ้าเป็นศูนย์การเรียนชุมชนระดับชุมชน ( หมู่บ้าน หรือ ชุมชนในเขตเทศบาล/กทม. ฯลฯ ) ประกาศจัดตั้งโดย กศน.อำเภอ/เขต ตามระเบียบข้อ 6 (1) สามารถจัดตั้งได้ทุกชุมชน ตามความพร้อม
- ถ้าเป็นศูนย์การเรียนชุมชนประจำตำบล ( มีตำบลละแห่งเดียว ปัจจุบันเปลี่ยนไปตั้งเป็น กศน.ตำบลแทน ) ประกาศจัดตั้งโดย ผวจ.ตามระเบียบข้อ 6 (2)
ดูระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยศูนย์การเรียนชุมชน พ.ศ. 2552 ที่ http://web.krisdika.go.th/data/law/law2/%ca80/%ca80-2g-2552-a0001.pdf
2. วันที่ 7 มิ.ย.56 ผมไปประชุมที่ สนง.กศน.จ.พระนครศรีอยุธยา แทน ผอ.กศน.อ.ผักไห่ ( ผอ.ไปอบรมลูกเสือ ) เรื่องปรึกษาหารือเกี่ยวกับการจ้างครู ศรช.
ตามที่ สนง.กศน.มีนโยบายให้มีครู ศรช.ปฏิบัติงานในพื้นที่ กศน.ตำบลให้เต็มจำนวน และ สนง.กศน.จ.อย.ประกาศรับสมัครคัดเลือกครู ศรช. ( ต้องการ 52 คน ) ไว้แล้วนั้น แต่เนื่องจากไม่ได้รับเงินอุดหนุนเพิ่ม ( กลับลดในภาค 1/56 ลง 18 % จะต้องถึงกับให้ครู กศน.คุมสอบปลายภาคเองโดยไม่เบิกค่าตอบแทนแล้ว ) จึงต้องประชุมเพื่อให้แต่ละอำเภอระบุว่ามีเงินจ้างได้เท่าไร จะได้เรียกตัวมาทำสัญญาเท่านั้น
ผลการประชุมคือ จะเรียกตัวรวม 32 คน บางคนจะได้รับเงินเดือนเต็ม 11,680 บาท บางคนจะได้เงินตามรายหัวนักศึกษา หัวละ 150 บาท
สำหรับ กศน.อ.ผักไห่ มีนักศึกษาภาค 1/56 เกินโควต้าครู กศน.ตำบลและครู ศรช.เก่า อยู่ 120 คน ( ภาคเรียนนี้จะไม่เหลือนักศึกษาไว้ให้ครูอาสาฯรับผิดชอบ ) จึงให้เรียกตัว 2 คน รับผิดชอบนักศึกษาคนละ 60 คน รับเงินเดือนคนละ 9,000 บาท
นอกจากนี้มีการประชุมเรื่องอื่น เช่นเรื่องการรับสมัคร จบ ม.6 ใน 8 เดือน ที่ให้ขยายเวลารับสมัครถึง 14 มิ.ย.56 ซึ่ง จ.อย. รับสมัครได้จำนวนรองบ๋วย ( 6 % ) ในขณะที่มีหลายจังหวัดรับได้เกินเป้า ( เกิน 100 % หรือเกินตำบลละ 18 คน ) จ.อย.จึงต้องทำทุกวิธีให้ได้ผู้สมัคร รุ่น 1+2/56 ได้ตามเป้า
3. ในระหว่างการประชุมตามข้อ 2. นั้น มีการพูดกันว่า ที่สำนักงาน กศน.กำหนดบทบาทภารกิจให้ครูอาสาฯสอนผู้ไม่รู้หนังสือไม่น้อยกว่าภาคเรียนละ 35 คน ถ้าผู้ไม่รู้หนังสือมีไม่ถึงเกณฑ์ ให้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนระดับประถม ม.ต้น ม.ปลาย นั้น จะต้องรับผิดชอบระดับประถม ม.ต้น ม.ปลาย กี่คน
เรื่องนี้ มีคำตอบชัดเจนอยู่แล้ว ในหนังสือสำนักงาน กศน. ที่ ศธ 0210.04/4162 เรื่องบทบาทภารกิจของครูอาสาสมัคร กศน. ลงวันที่ 14 พ.ย.56 ข้อ 1 ที่กำหนดว่า ให้ครูอาสาฯสอนผู้ไม่รู้หนังสือไม่น้อยกว่าภาคเรียนละ 35 คน ถ้าผู้ไม่รู้หนังสือมีไม่ถึงเกณฑ์ ให้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนระดับประถม ม.ต้น ม.ปลาย 60 คน
( ในทางปฏิบัติ ถ้าสอนผู้ไม่รู้หนังสือด้วย แต่ไม่ครบ 35 คน ให้สอน กศ.ขั้นพื้นฐาน แทนในอัตราผู้ไม่รู้หนังสือ 1 คน ต่อ กศ.ขั้นพื้นฐาน 2 คน เช่น สอนผู้ไม่รู้หนังสือ 11 คน ขาด 24 คน แทนด้วย สอน กศ.ขั้นพื้นฐาน 48 คน เป็นต้น ทั้งนี้เพราะการสอนผู้ไม่รู้หนังสือยากกว่า เนื่องจากต้องสอนเป็นรายบุคคล และหลักสูตร 200 ชั่วโมง )
4. วันเสาร์ที่ 8 มิ.ย.56 คุณ “วินโด้ คร๊าบ” กศน.ป่าคา ถามผมผ่านเฟซบุ๊ค ว่า ครู ศรช.ลาคลอดได้กี่เดือน
ผมตอบว่า ตอบบ่อยแล้ว กรมบัญชีกลางบอกว่า ครู ศรช. ไม่ใช่ลูกจ้างชั่วคราว ( ไม่ได้รับค่าจ้าง แต่ได้รับค่าตอบแทนเป็นค่าสอนเหมาจ่าย ) จึงไม่มีสิทธิการลาอย่างลูกจ้างชั่วคราว แต่ให้เป็นไปตามข้อสัญญา ( หนังสือกรมบัญชีกลาง ที่ กค 0527.6/30738 ลงวันที่ 29 ตุลาคม 2544 เรื่องขอหารือการเบิกจ่ายค่าจ้างชั่วคราว โดย กศน.ส่งหนังสือกรมบัญชีกลางฉบับนี้มาให้หัวหน้าสถานศึกษาที่เป็นสำนักผู้เบิกทุกแห่ง ตามหนังสือกรมการศึกษานอกโรงเรียน ที่ ศธ 0402/ 4676 ลงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2544 )
และ กลุ่มงานคลัง สำนักงาน กศน. ยังตีพิมพ์หนังสือ “ตอบคำถามเกี่ยวกับงานคลังสำหรับ กศน.อำเภอ” เมื่อเดือนตุลาคม 2551 ไว้ในหน้า 63 ว่า
“ข้อ 17. ถามว่า ครูศูนย์การเรียนมีสิทธิลาคลอดบุตรโดยได้รับเงินเดือน/ค่าตอบแทนหรือไม่อย่างไร
กลุ่มงานคลังตอบว่า ครู ศรช.ไม่ถือเป็นลูกจ้างของส่วนราชการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ่ายค่าจ้างลูกจ้างส่วนราชการ พ.ศ.2526 จึงไม่มีสิทธิลา แต่สามารถหยุดงานกรณีคลอดโดยใช้สิทธิเบิกเงินสงเคราะห์การหยุดงานทดแทน จากสำนักงานประกันสังคมได้”
5. คืนวันเดียวกัน ( 8 มิ.ย.) คุณกมนทรรศน์ พลายสูงเนิน ผู้สอบได้เป็นครู ศรช. จ.พระนครศรีอยุธยา ถามผมผ่านเฟซบุ๊ค ว่า พนักงานราชการค้ำประกันครู ศรช.เข้าทำงานได้ไหม
ผมตอบว่า พนักงานราชการค้ำประกันไม่ได้ ผู้ค้ำประกันจะต้องเป็นข้าราชการพลเรือน ข้าราชการครู พนักงานเทศบาล พนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่อยู่ในระดับปฏิบัติการ หรือเทียบเท่าระดับปฏิบัติการขึ้นไป
6. วันอาทิตย์ที่ 9 มิ.ย.56 ครูที่ปรึกษา จบ ม.6 ใน 8 เดือน ให้ผมไปพูดเรื่องการทำแฟ้มประสบการณ์ ที่กลุ่มเทียบระดับฯจบ ม.6 ใน 8 เดือน ( ผมพูดถึงเรื่องการทำวิจัยชุมชนด้วย ว่า ให้ทำก่อนสอบครั้งที่ 2 เพราะต้องใช้เวลา และให้ทำเป็นกลุ่มตำบล ผู้ที่อยู่ตำบลเดียวกันให้รวมทำวิจัยชุมชนเรื่องเดียว เรื่องละ 2-4 คน ตำบลใดมีคนเดียวให้รวมกับตำบลอื่น )
7. วันเดียวกัน ( 9 มิ.ย.) คุณ “Pimlada Tunponpipatkun” ถามในหน้าเฟซบุ๊คผม ว่า ค่าตอบแทนคณะกรรมการประเมินภาคประสบการณ์ ( จบ ม.6 ใน 8 เดือน ) จ่ายยังไง
เบิกจ่ายเป็นรายวิชา ๆ ละ ไม่เกิน 100 บาทต่อกรรมการประเมิน 1 คน ต่อผู้เข้าเทียบระดับการศึกษา 1 คน ต่อการประเมิน 1 ครั้ง ถ้าเป็นการประเมินด้วยข้อสอบอัตนัย เบิกจ่ายเป็นค่าตรวจกระดาษคำตอบอัตนัยของกรรมการ ข้อละไม่เกิน 10 บาท โดยเบิกจ่ายจากเงินงบประมาณ
8. วันที่ 10 มิ.ย.56 คุณธงไชย กศน.อ.ตากฟ้า ถามผมผ่านเฟซบุ๊ค ( ถามต่อจากสัปดาห์ก่อน ) ว่า ใบระเบียนภาษาอังกฤษ หลักสูตร 2544 ไม่พิมพ์ชื่ออำเภอ จังหวัด ของสถานศึกษา จะทำยังไง
ผมตอบว่า แสดงว่า ยังไม่กรอกชื่ออำเภอ(ภาษาอังกฤษ) จังหวัด(ภาษาอังกฤษ) ในตารางรหัส ที่เมนู 3 -1 ( ตารางรหัส - ศูนย์กศน. )
9. วันเดียวกัน ( 10 มิ.ย.) สำนักงาน กศน.ได้นำแผ่นพับเรื่อง “จะเลือกรับบำนาญสูตรไหนดี” มาเผยแพร่ในเว็บไซต์สำนักงาน กศน. ซึ่ง พ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการฉบับใหม่ใกล้จะมีผลบังคับใช้แล้ว มีกำหนดแล้วว่าผู้ที่จะขอเปลี่ยนสูตรรับบำนาญ ให้ยื่นเรื่องตั้งแต่วันถัดจากวันที่กฎหมายมีผลบังคับ ถึง ภายในวันที่ 30 ก.ย.57 เท่านั้น โดยมีสูตรการรับบำนาญให้เลือก 2 สูตร คือสูตรสมาชิก กบข. กับ สูตรดั้งเดิม ( พรบ.2494 ) นอกจากจะเปลี่ยนจากสูตรสมาชิก กบข. เป็นสูตรดั้งเดิมได้แล้ว ข้าราชการเก่าที่เดิมไม่ได้เข้า กบข. ก็มีสิทธิ์เปลี่ยนมาเข้าสูตรสมาชิก กบข.ในครั้งนี้ได้ด้วย
ผู้มีสิทธิ์เปลี่ยน มี 3 กลุ่ม ( ขรก.ใหม่ที่เพิ่งบรรจุหลัง มี.ค.40 ไม่ต้องเสียเวลาคิด-ตัดสินใจ เพราะไม่มีสิทธิ์ ) คือ
- ขรก.ที่เป็นสมาชิก กบข.ก่อนวันที่ 27 มี.ค.40
- ขรก.บำนาญ ที่เคยเป็นสมาชิก กบข.ก่อนวันที่ 27 มี.ค.40 ( รับบำนาญสูตรสมาชิก กบข.แล้ว ก็เปลี่ยนได้ด้วย )
- ขรก.ที่ไม่ได้เป็นสมาชิก กบข.
จะตัดสินใจเปลี่ยนดีหรือไม่ มีแนวทางคร่าว ๆ ว่า ผู้ที่ควรขอเปลี่ยนไปใช้สูตรดั้งเดิม เพื่อให้ได้บำนาญมากกว่า คือ
1) ผู้ที่มีอายุราชการมากกว่า 35 ปี
2) ผู้ที่มีอายุตัวนับถึงวันเข้า กบข. มากกว่า 40 ปี ( ขรก.เก่า จะเข้า กบข.ในปี 2540 จึงควรเป็นผู้ที่เกิดก่อนปี 2500 )
3) ถ้าเป็น ขรก.บำนาญอยู่แล้ว เป็นผู้ที่รับบำนาญไปแล้วมากกว่า 10 ปี
4) มีสุขภาพแข็งแรง
( ผู้ที่ยื่นขอเปลี่ยนไปใช้สูตรดั้งเดิม จะได้รับเงินสะสมและดอกผลของเงินสะสมคืน ตั้งแต่ 1 ต.ค.57 แต่เงินประเดิม+เงินชดเชย+เงินสมทบ พร้อมดอกผลของเงินนี้ จะถูกตัดไปเลย ขรก.บำนาญที่รับบำนาญสูตรสมาชิก กบข.แล้ว ถ้าขอเปลี่ยนเป็นสูตรดั้งเดิม ก็ต้องส่งคืนเงินประเดิม+เงินชดเชย+เงินสมทบ )
อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยอื่นอีก ควรตัดสินใจโดยใช้วิธี คำนวณทั้งสูตรสมาชิก กบข. และสูตรดั้งเดิม ว่าสูตรใดได้บำนาญมากกว่า ก็เลือกสูตรนั้น ดูรายละเอียดและสูตรการคำนวณทั้ง 2 สูตรได้ที่ http://203.172.142.88/webnfe/attachments/32673_File0014.PDF
10. วันที่ 11 มิ.ย.56 การแข่งขันสุดยอด กศน. รอบคัดเลือกเป็นตัวแทนของ ภาคใต้ ผลการแข่งขัน 3 ทีม ที่ผ่านเข้ารอบเพื่อไปแข่งขันชิงชนะเลิศระดับประเทศ คือ
1) NF27 ปัตตานี ( อ.ทุ่งยางแดง ) Disini langkasuka ( ดีซีนี ลังกาสุกะ )
2) NF28 ชุมพร ( อ.หลังสวน ) "แสงหิ่งห้อย"
3) NF30 นครศรีธรรมราช ( อ.เมือง ) นาฏยลีลา มโนราห์ร่วมสมัย
ขณะนี้การแข่งขันรอบคัดเลือก เหลือเพียงภาคเดียวคือ กรุงเทพมหานคร ถ้าได้ครบทั้ง 6 ภาค ๆ ละ 3 ทีม แล้ว จะให้ทั้ง 18 ทีม เข้าบ้าน NF ( ข้อมูลจากท่าน ผชช.กนกพรรณ ) ในวันที่ 1-4 กค 56 ณ สีดารีสอร์ท นครนายก โดยวิทยากรมืออาชีพ จะมาเป็นเทรนเนอร์ ฝึกเทคนิคการร้อง เล่น เต้น แสดง เพื่อเพิ่มพูนทักษะด้านต่างๆให้ดียิ่งขึ้น เตรียมพร้อมชิงชัยระดับประเทศ