ตามรอยพระอาจารย์ วันมาฆะบูชา


เดือนแห่ง ความเมตตา ความกรุณา ความปรารถนาดีต่อกัน

       วันมาฆะบูชา  ปีนี้ตรงกับวันจันทร์ ที่ ๒๕ กุมภาพันธ์  ที่จะถึงนี้  ทำให้นึกไปถึงเมื่อหลายปีก่อนนี้  ก่อนนอนเปิดฟังรายการธรรมะจากวิทยุเครื่องเล็กๆ  เป็นการเติมเต็มสิ่งดีๆในชีวิต และเผื่อแผ่ถึงคนรอบข้างด้วย  รวมถึงเด็กๆ  ...จากการฟังรายการธรรมะทางวิทยุทำให้ได้พบกับวิทยากรในรายการ  หลายท่าน  เรื่องเหล่านี้คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ  แต่เป็นธรรมะจัดสรร  

        วิทยากรท่านแรก ท่านพูดทิ้งท้ายรายการโดยบอกชื่อ และเบอร์โทรศัพท์ไว้  ผู้เขียนรีบคว้าปากกามาจดเบอร์ไว้ ก่อนจะปิดเปลือกตาลงเพราะดึกมากแล้ว

         วิทยากรอีกหลายๆท่านก็ได้ติดตามฟังอยู่ ...แล้ววันหนึ่ง ก็ได้เดินทางไปพบวิทยากร  ท่านแรกพบท่านตอนศึกษางานวิจัย   ท่านที่๒ ไปกราบนมัสการท่านที่สระมรกต  อ.โคกปีบ (ปัจจุบัน คือ อ.ศรีมโหสถ) และได้ติดตามท่านไปศึกษาการทำงานของท่านในวันมาฆะบูชา (ใช้เวลาอยู่ที่วัดนี้ ๓ วัน)  ท่านที่ ๓ และ๔ (๒ ท่านนี้ทำงานทีมเดียวกัน)  เรียนเชิญท่านมาเป็นวิทยากรอบรมให้เด็กๆ กลุ่มเสี่ยง

          ในปีนั้นเพื่อนรุ่นพี่ของผู้เขียน ผู้เป็นกัลยาณมิตร คอยให้กำลังใจ  คอยให้คำปรึกษา  ไปเป็นเพื่อนในหลายๆที่  ส่วนใหญ่ไปดูหนังสือ   ดูต้นไม้ และของกินฝากแม่ พี่ๆ น้องๆ  ขนมและของรางวัลฝากเด็กๆ   มาปรึกษาว่าให้ช่วยติดต่อวิทยากรให้หน่อย  จะจัดอบรมเด็กกลุ่มเสี่ยง ทำเป็นโปรแกรม ๑ สัปดาห์  ผู้เขียนจึงซักถามถึงตัวงานคร่าวๆ  จะได้วางแผนถูก

           สรุปแล้ว ๑.ติดต่อวิทยากร ๔ ท่าน (๑.พระอาจารย์วัดที่ อ.บางปะกง แปดริ้ว ๒.& ๓ วิทยากรจากชมรมกัลยาณธรรม กรุงเทพฯ  ๔.เจ้าอาวาสวัดป่าศรีถาวรนิมิตร)

                       ๒.ประสานงาน โดยทางโทรศัพท์  ทั้ง๔ ท่านยินดี และเต็มใจ เป็นวิทยากรให้  ท่านแรกลืมวัน เพราะงานท่านเยอะมาก แต่ท่านก็เมตตามาตามที่รับปากไว้ในวันศุกร์  ท่านจัดกิจกรรมเอง ๑ ชั่วโมงพอดี และมีหนังสือเล่มเล็กๆมาแจกทั้งเด็กและครู  ผู้เขียนจัดเตรียมอาหารเพล ถวาย ๑ ปิ่นโต   ถวายปัจจัยท่านโดยผ่านทางท่านผู้อำนวยการ   ท่านรับและส่งคืนให้ บอกว่าเอาไว้ใช้ในการจัดกิจกรรมให้เด็กๆ  ท่านเล่าให้ฟังว่าเคยมาบวชเรียนที่จังหวัดนี้ตอนเป็นสามเณร  ท่านอยากตอบแทนคุณแผ่นดิน    ท่านที่ ๒ & ๓ สั่งอาหารมาจากร้าน เพราะคณะนี้มาเป็นทีม ๑ คันรถตู้   ท่านที่ ๔ ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัด คณะผู้เขียนพาเด็กๆไปกราบนมัสการท่านที่วัดในตอนเช้า  สวดมนต์ทำวัตรเช้า  และกินอาหารเช้าที่โรงทาน และสระน้ำ โดยให้เด็กๆเตรียมอาหารกันไปเอง แต่ไปนั่งกินด้วยกัน  และฟังธรรมจากพระอาจารย์  หลังจากนั้นให้เด็กๆ เดินชมธรรมชาติในบริเวณวัด  จุดแรกเลย คือ ให้เดินขึ้นไปบนอ่างเก็บน้ำ เวลาประมาณ ๕ โมงเช้า (๑ ในโครงการพระราชดำริ ของในหลวง) แรกๆ ก็อิดๆออดๆ ไม่อยากเดิน  ผู้เขียนแหงนหน้ามองท้องฟ้า  เห็นพระอาทิตย์ทรงกรดพอดี จึงบอกให้เด็กๆดู...เท่านั้นล่ะ ไม่รู้ว่าพลังของพวกเขามาจากไหน เดินขึ้นไปที่อ่างเก็บน้ำกันเร็วมาก  ผิดกันกับตอนแรก อย่างชนิด แบบว่า ปั่นจักรยานยางแบน  กับ จักรยานมีเกียร์ เลยทีเดียว  

                        ๓. จัดเตรียมสถานที่ และ น้ำดื่ม  หนังสือเชิญวิทยากรภายนอก   ดูแลวิทยากรรับเชิญเป็นอย่างดี  และคอยให้กำลังใจเด็กๆ อยู่เงียบๆ

 หมายเหตุ: ๒ วันสุดท้าย เกิดอาการเป็นไข้ขึ้นมา  ตอนแรกจะไม่ได้ไปวัดกับเด็กๆด้วย  แต่มาคิดทบทวนอีกครั้ง  งานนี้ต้องไปช่วยพี่เขา  ไปให้กำลังใจเด็กๆ  ลมหายใจเราแค่คนเดียว ไม่เป็นไร กินยาฟ้าทลายโจร  กินน้ำตามเยอะๆ  นอนแต่หัวค่ำ เช้าคงจะดีขึ้น

                        งานครั้งนี้สำเร็จลงด้วยดี  เด็กๆทุกคนมีความสุข  ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตตัวเอง  ไปในทิศทางที่ดีขึ้น

                        ขอกราบขอบพระคุณคณะวิทยากร ทุกๆท่าน  ที่เมตตา และกรุณาต่อเด็กๆ เป็นอย่างดี 

                        ๑. พระอาจารย์วัดท่าข้าม  อ.บางปะกง

                        ๒. อาจารย์กำพล  ทองบุญนุ่ม (ท่านใช้ร่างกายเป็นอุปกรณ์ทางธรรม)  และคณะจากชมรมกัลยาณธรรม  บางกอกน้อย  กรุงเทพฯ

                        ๓. เจ้าอาวาส พระพี่เลี้ยง และคณะกัลยาณมิตร  วัดป่าศรีถาวรนิมิตร

                                                                                                                          เสาร์ ๒๓  กุมภาพันธ์  ๒๕๕๖

หมายเลขบันทึก: 520509เขียนเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2013 21:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2014 16:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท