พบกันวันอาทิตย์กับ ผอ.ประสิทธิ์ หนูกุ้ง วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๖
พบกันวันอาทิตย์
กับ ผอ.ประสิทธิ์ หนูกุ้ง
วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๖
เรียน ผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัด ที่เคารพ
พบกันวันอาทิตย์ วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๖ เป็นฉบับที่ครบหนึ่งโหลพอดี ก็พยายามที่จะเล่าและถ่ายทอดงานการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้รับทราบและสร้างความเข้าใจร่วมกัน
ดีใจที่พบผู้บริหารและครูหลายท่าน ทราบว่าได้อ่านพบกันวันอาทิตย์ หรือสำเนาปิดประกาศให้ครูหรือผู้เกี่ยวข้องได้อ่านกัน กระผมก็ขออภัยหากมีการพิมพ์ผิดบ้างบางคำหรือใช้ภาษาไม่ถูก แต่ก็พยายามแก้จนกระทั่งว่าถูกต้องหลังจากผู้อ่านโทรมาบอกหรือเขียนมาใน Hotline ก็ต้องขอบคุณไว้เป็นเบื้องต้น อย่างไรก็ตามก็พยายามให้เป็นตัวอย่างในการใช้คำพูด คำเขียน ที่เขียนถูกต้อง สื่อเข้าใจง่ายและตรงประเด็น
สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นวันครู ประจำปี ๒๕๕๖ ที่เห็นเพื่อนครูในทุกอำเภอ ได้แสดงพลังในการร่วมจัดกิจรรมกันทุกอำเภอ และทราบจากท่านรองที่รับผิดชอบอำเภอทุกอำเภอว่า ผู้บริหารและครูได้ให้ความสำคัญ จัดกิจกรรมทั้งในภาคเช้า พิธีรำลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ และการแข่งขันกีฬา รวมทั้งบางอำเภอจัดทำบุญ เลี้ยงสังสรรค์ กันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะต้องขอบคุณนายอำเภอทั้ง ๕ อำเภอ ที่ได้กรุณามาร่วมเป็นเกียรติและเป็นประธานทุกอำเภอ ซึ่งถือว่าคุณครูกับฝ่ายปกครองสามารถเชื่อมสัมพันธ์กันเป็นอย่างดียิ่ง
อีกอย่างหนึ่งที่ทราบคือ การที่มีครูอาวุโสนอกประจำการ ที่เป็นผู้ใหญ่หรือเกษียณไปแล้วหลายคน ได้มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญและน่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะท่านทั้งหลายคือรุ่นพี่ที่เป็นตัวอย่างที่ดีของรุ่นต่อๆกันมา การได้แสดงความกตัญญูหรือรำลึกถึง และมาร่วมกิจกรรมในวันครู จะเป็นการบ่งบอกว่ารุ่นน้องๆยังรักและเคารพ รวมทั้งพร้อมที่รับการเสนอแนะ ชี้นำประสบการณ์ และน้องๆจะดูแลทุกท่าน หากได้บอกกล่าวกันโดยถือว่า เราเป็นผู้ที่ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาของชาติร่วมกัน
กระผมเองไม่ได้มีโอกาสไปร่วมทุกอำเภอ แต่ได้มอบท่านรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและทีมงานศึกษานิเทศก์ที่รับผิดชอบไปร่วมงานแทน และได้ไปประกอบพิธีทำบุญตักบาตรในภาคเช้าที่เครือข่ายอำเภอนาทวีจัดขึ้น เป็นประธานร่วมกับนายอำเภอนาทวีในพิธีรำลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ และตอนเย็นได้ไปร่วมงานพบปะสังสรรค์กับพี่น้องเพื่อนครูเครือข่ายอำเภอสะเดา และนาทวี ตามลำดับ ก็พยายามที่ไปให้ทุกที่แต่ติดเรื่องห้วงเวลาที่ตรงกัน แต่ได้บอกผ่านท่านรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาว่า กระผมระลึกถึงและส่งความปรารถนาไปยังทุกคนด้วยความเคารพ
เท่าที่พบปีนี้ทุกอำเภอมีรางวัลที่จะมอบให้ครูค่อนข้างมาก และหลายประเภท แต่ก็จะเป็นเครื่องยืนยันว่า ครูที่ได้รับรางวัลเหล่านั้น คือตัวชี้วัดที่ดีว่า “ท่านได้รับการยกย่องและชื่นชมจากหน่วยงานต่างๆว่าเป็นครูดี ครูเด่นและควรที่จะได้รับการสรรเสริญในโอกาสวันสำคัญของทุกปี” ต้องขอแสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่ง และให้รักษาความดีนี้สืบไป
สารของประธานคณะกรรมการอำนวยการคุรุสภา ได้ระบุว่าปีนี้รัฐบาล กระทรวงศึกษาธิการและคุรุสภา ต่างตระหนักในพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีต่อพวกเรา และพสกนิกรของพระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พสกนิกรในพื้นที่ห่างไกล พิการ ด้อยโอกาส จึงได้มีความเห็นตรงกันว่า ในโอกาสที่พระองค์ทรงมีพระชนม์มายุครบ ๘๐ พรรษา พวกเราจะร่วมกัน “เฉลิมพระเกียรติพระแม่แห่งแผ่นดิน ผู้ทรงเป็นครู” ของพวกเรา ด้วยการประพฤติปฏิบัติตนเป็นครูที่ดีดังที่ “พระแม่แห่งแผ่นดิน ผู้ทรงเป็นครู”ได้ทรงปฏิบัติพระองค์เป็นแบบอย่างแก่พวกเรา... ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง
นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ในสัปดาห์ที่แล้ว ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จมาทรงงานในพื้นที่จังหวัดสงขลา โดยเฉพาะการทรงงานด้านการศึกษาในอำเภอสะเดาจำนวน ๑ โรง และอำเภอสะบ้าย้อย จำนวน ๒ โรง ซึ่งพี่น้องเพื่อนครูมีโอกาสได้ถวายงานและรับเสด็จในพื้นที่ กระผมเองและคณะได้ไปรับเสด็จที่โรงเรียนตำรวจตระเวณชายแดน อำเภอสะบ้าย้อย และท่านรองสุวรรณ ขวัญแก้วและคณะได้ไปทั้งสองโรงเรียน นับเป็นสิ่งที่เป็นมงคลในการได้รับใช้งานของพระองค์ท่าน และขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
สิ่งที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลาเขต ๓ ได้ดำเนินการคือเป็นสำนักงานกลางในการร่วมมือ (MOU) กับมหาวิทยาลัยทักษิณ มหาวิทยาลัยราชภัฎ สงขลา และ โรงเรียน ตชด.ในพื้นที่ ๑๐ โรงเรียนในอันที่พัฒนางานวิชาการและระบบการพัฒนาบุคลากรร่วมกัน เพื่อสนองงานในโครงการพระราชดำริ และคิดว่าในอนาคต คงจะได้ดำเนินการให้เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น
ในสัปดาห์ที่แล้วกระผมได้เชิญผู้บริหารโรงเรียนและครูแนะแนวทั้ง ๓๗ โรงเรียน ที่เป็นโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา ซึ่งอนาคตจะเปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียนการศึกษาภาคบังคับ” เข้าร่วมประชุม เพื่อหามาตรการในการรณรงค์เด็กเข้าเรียนในชั้นอนุบาล ประถมศึกษาปีที่ ๑ และมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ซึ่งมีแนวโน้มจะมีนักเรียนลดลง โดยมีการพิจารณาในเรื่องมาตรการต่างๆ ที่จะเพิ่มปริมาณนักเรียน โดยเฉพาะโรงเรียนที่มีแนวโน้มว่านักเรียนจะลดลงทุกปี ซึ่งขณะนี้กลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษากำลังสรุปมาตราการดังกล่าว เพื่อแจ้งให้ทุกโรงได้รับทราบ
อย่างไรก็ตามมาตรการที่สรุปได้โดยย่อ ประกอบด้วย
๑.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้องให้สนับสนุนครูผู้สอนในวิชาเอกที่ขาดแคลนกับโรงเรียนที่มีนักเรียนเพิ่มขึ้น
๒.ให้ผู้บริหารโรงเรียนและครูประจำชั้นศึกษาปีที่ ๖ เป็นครูแนะแนวที่ต้องรณรงค์ให้นักเรียนของตนเองเข้าเรียน และประสานกับโรงเรียนขยายโอกาสในพื้นที่เพื่อรองรับการเข้าเรียนของนักเรียน
๓. การจัดครูเข้าสอนในชั้นอนุบาล ๑ ชั้น ป.๑ และ ม.๑ ในปีการศึกษาหน้าต้องจัดครูให้เหมาะสมกับช่วงชั้นและเป็นผู้ที่นักเรียนให้ความเคารพ ศรัทธา และเชื่อมั่นในคุณภาพที่เกิดขึ้นทั้งนักเรียนและผู้ปกครอง
๔. การประชาสัมพันธ์เชิงรุก ที่เน้นเรื่องคุณภาพของโรงเรียนและการดูแลในอนาคต
๕. เรื่องอื่นๆอีก คงรอให้เจ้าหน้าที่สรุปและ กระผมจะลงนามถึงทุกโรงเรียนโดยเร่งด่วน
ยังมีเป้าหมายที่สำคัญที่จะเป็นตัวช่วยผู้บริหารและครูแนะแนว ในการรณรงค์การรับนักเรียนปีนี้ คือวิทยากรอิสลามศึกษาและพนักงานราชการหรือครูผู้สอนที่สอนอิสลามศึกษาในโรงเรียนแต่ละโรง ที่จะสร้างความเข้าใจกับชุมชน ผู้ปกครอง และนักเรียน ในการเข้าเรียนในปีการศึกษาหน้า เพราะบุคลากรที่ทำหน้าที่สอนอิสลามศึกษาจะเป็นผู้ทรงความรู้ และเป็นที่ศรัทธาของนักเรียนอยู่แล้ว ก็จะเป็นตัวหลักให้กับผู้บริหารและครู ในการดำเนินกิจกรรมการรับนักเรียนให้ประสบความสำเร็จ ก็ขอให้กำลังใจทุกคนที่ได้ทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง ตัวชี้วัดคือปริมาณของเด็กที่จะเข้าศึกษาต่อในแต่ละโรงในปีหน้า....ทุกโรงต้องเพิ่มขึ้น
ในการประชุม อ.ก.ค.ศ.ครั้งที่ ๑/๒๕๕๖ ที่ผ่านมา ได้มีวาระที่จะแจ้งให้ผู้บริหารและเพื่อนครูได้ทราบหลายเรื่อง ซึ่งกระผมได้ลงไว้หน้าเวปของ สพป.สงขลา ๓ แล้ว สามารถอ่านได้ที่ (มติ อ.ก.ค.ศ.) แต่ที่สำคัญคือการย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนและรองผู้อำนวยโรงเรียน แทนตำแหน่งที่ว่าง ก็ขอต้อนรับทุกท่านสู่ที่ทำงานใหม่ด้วยความยินดียิ่ง นอกจากนั้นก็แสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับการพิจารณาผลงานให้ผ่าน/ปรับปรุง/และพัฒนา ส่วนผู้ที่ไม่ผ่านก็ให้กำลังใจในการทำผลงานใหม่ และคิดว่าท่านได้เดินทางมาไกลปรับปรุงไม่มากก็คงจะได้ผ่านแน่นอน ขอให้กำลังใจ อ่านได้ที่นี่
สำหรับตำแหน่งที่ว่างไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน รองผู้อำนวยการโรงเรียน และศึกษานิเทศก์ ที่ว่างอยู่ก็จะได้ประกาศรับย้ายต่อไป
เรียนท่านทั้งหลายเพื่อทราบว่า ในการทำงานในระดับเขตพื้นที่การศึกษา ได้มีท่านรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่ที่จะช่วยกระผมในการบริหารงานให้เกิดประสิทธิภาพ และกำกับดูแลงานในสำนักงานให้เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ จึงได้แบ่งงานให้รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ดังนี้
๑.รองเสริมสุข สุวรรณกิจ รับผิดชอบกลุ่มบริหารงานบุคคล โดยมีรองสมศักดิ์ นิตย์คำพร เป็นผู้กลั่นกรองอีกคนหนึ่ง
๒.รองอุทัย กาญจนะ รับผิดชอบกลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา กลุ่มส่งเสริมสถานศึกษาเอกชน และรับผิดชอบการจัดการศึกษาในอำเภอเทพา
๓.รองสุวรรณ ขวัญแก้ว รับผิดชอบกลุ่มนโยบายและแผน และรับผิดชอบการจัดการศึกษาในอำเภอสะเดา
๔.รองสุปกรณ์ ทิพย์เสนา รับผิดชอบกลุ่มนิเทศติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา และรับผิดชอบการจัดการศึกษาในอำเภอสะบ้าย้อย
๕.รองปราณี สุวรรณะ รับผิดชอบกลุ่มบริหารการคลังและสินทรัพย์ และรับผิดชอบในการจัดการศึกษาในอำเภอจะนะ
๖.รองสมศักดิ์ นิตย์คำพร รับผิดชอบกลุ่มอำนวยการ และรับผิดชอบในการจัดการศึกษาในอำเภอนาทวี
การแบ่งงานดังกล่าว เป็นการแบ่งแบบบูรณาการ เพื่อให้ช่วยกันทำงานแบบประสานสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มงานและสถานศึกษา มิได้แบ่งแบบแยกกันโดยอิสระ โดยทำงานในมิติของเป้าหมายที่ต้องการคุณภาพและประสิทธิภาพของงานทั้งในสำนักงานเขตพื้นที่และสถานศึกษาเป็นหลัก โดยเริ่มปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๕๖ เป็นต้นไป
ในวันอาทิตย์ที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๖ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาได้จัดสอบวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ นานาชาติ ขึ้น โดยมีนักเรียนทั้งสังกัด สช. เทศบาล และ สพฐ.เข้าร่วมการสอบ จำนวน ๔๕๔ คน เพื่อคัดเลือกคนเก่งไปแข่งขันระดับภาคและระดับประเทศต่อไป การสอบครั้งนี้กระผมต้องขอบคุณทีมศึกษานิเทศก์และผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านนาทวี คณะครูจากหลายสถานศึกษาที่มาดำเนินการคุมสอบ ตรวจกระดาษคำตอบให้แล้วเสร็จและประกาศผลภายในวันเดียวกัน ซึ่งเป็นความสามารถของท่านทั้งหลายที่ทำงานได้รวดเร็ว โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ ต้องขอขอบคุณไว้ ณ โอกาสนี้ และขอแสดงความยินดีกับนักเรียนและผู้บริหาร ครูผู้สอน ที่มีนักเรียนได้รับเหรียญทอง เหรียญเงินและเหรียญทองแดงในครั้งนี้ด้วย ผลการสอบอ่านที่นี่
ผมตั้งข้อสังเกตว่า ในการสอบครั้งนี้ในสังกัด สพป.สงขลาเขต ๓ จะมีโรงเรียนเดิมๆที่เคยส่งมาสอบของ สสวท.ในครั้งที่แล้ว และสอบกิจกรรมนี้ในปีที่แล้ว อันเป็นการแสดงให้เห็นว่า ยังมีโรงเรียน ผู้บริหารโรงเรียนและครู ขาดการส่งเสริมโอกาสให้กับเด็กในเรื่องนี้อีกหลายโรง ที่จริงแล้ว การสอบอย่างนี้จะเป็นตัวชี้วัดคุณภาพของสถานศึกษา คุณภาพการเรียนการสอน ได้อีกทางหนึ่ง ในปีหน้าอยากจะให้ทุกโรงให้ความสำคัญส่งนักเรียนมาสอบเพื่อจะได้ให้โอกาสแก่ “ช้างเผือก” ในพื้นที่มากขึ้น
อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นการแก้ไขอำนาจการอนุญาตไปต่างประเทศของผู้บริหาร ครูและบุคลากร รวมทั้งนักเรียน ที่ไม่ใช้งบประมาณของทางราชการ ขณะนี้ สพฐ.ได้มอบอำนาจให้ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ปฏิบัติราชการแทน เลขา กพฐ.แล้ว อ่านได้ที่นี่ จึงขอให้ปฏิบัติเป็นไปตามแนวทางที่ สพฐ.กำหนดต่อไป
พบกันวันอาทิตย์ในสัปดาห์นี้ มีเรื่องมาเล่าสู่ผู้บริหารครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อรับทราบร่วมกันพอสังเขป อ่านกันอีกครั้งในสัปดาห์หน้าครับ
ด้วยความเคารพรัก
(นายประสิทธิ์ หนูกุ้ง)
ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต ๓
