ผมอ่าน ส.ค.ส. ของ ศ.นพ.วิจารณ์ จบในเวลาไม่นานนัก เพราะอ่านแบบ scan เพราะเป็นแฟนบล็อคของท่านอยู่แล้ว บันทึกส่วนใหญ่จึงเป็นการอ่านรอบสอง
ท่านบอกว่า ช่วงชีวิตวัย 70 ของท่าน วนเวียนเพียรอยู่กับงานด้านการศึกษา ซึ่งท่านเน้นว่า ปัญหาคือเรากำลังถูก "ทศพิษการศึกษาไทย " เล่นงาน การตีความของผมต่อไปนี้อาจไม่ตรงของท่านอาจารย์หมอ จึงกราบขออภัยไว้ล่วงหน้า นะครับ พิษ 10 อย่างที่ขวางการปฏิรูปการศึกษา ที่ท่านว่า มีดังนี้ครับ
- ตำแหน่งทางการศึกษา ที่ได้มาด้วยเงิน
- การประเมินเป็นแบบเน้นได้-ตก การโกหกสร้างหลักฐานจึงบานเบอะ เพิ่มงานครูให้เยอะโดยไม่จำเป็น ที่สำคัญคือละเลยคุณค่าของการประเมินเพื่อพัฒนา
- ตำแหน่งวิทยะฐานะครู ไม่ได้ขึ้นอยู่บนผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน
- หลักสูตรที่ครูต้องเน้นการสอน ป้อนให้ และจับ ถูก-ผิด
- การเรียนแบบเน้นวิชา และท่องจำ มากกว่าการเรียนแบบเน้นลงมือทำเพื่อให้เกิดทักษะ
- การสอนแบบเน้นวิชา เน้นความรู้ มากกว่าที่ครูจะเน้นออกแบบ และสร้างแรงบันดาลใจ ให้เกิดการเรียนรู้
- ครูและนักเรียน สอนและเรียนแบบเดี่ยว เน้นรางวัลและแข่งขัน หรือเป็นแบบตัวใครตัวมัน
- ทิฏฐิว่าครูคือผู้รู้ ผู้ถ่ายทอด เป็นแม่พิมพ์ของชาติ ขลาดและอายที่จะยอมรับว่าไม่รู้ คือ "ครูนำเต็มแก้ว"
- ผู้บริหารโรงเรียน ที่ไม่เข้าใจการเรียนรู้ ไม่สามารถแนะนำครู และยังอยู่แบบไม่รับผิดชอบ
- การเมืองที่แสวงหาเงินและอำนาจ ฉลาดเก่งแต่โกงในวงการศึกษา
ผมคิดเล่นๆ ว่าใครบ้างที่เกี่ยวข้องกับ "ทศพิษ" เหล่านี้บ้าง ได้ความว่า
- นักการเมืองไม่ดี
- ข้าราชการที่สร้างระบบการศึกษา หรือเรียกสั้นๆ ว่า "ผู้ใหญ่ในวงการศึกษา" ที่สร้าง "ระบบ"
- ผู้บริหารโรงเรียน ผอ. ที่ไม่รู้ไม่เข้าใจในแนวทางการปฏิรูปฯ ที่ถูกต้อง
- ครูที่เหมือน "ยังหลับไหล" ใน "ระบบ"
- นักเรียนผู้รับกรรม
ยังขาดคนต้นเหตุสำคัญ ที่ "กรรณ" ได้ยินจากหมาย 2-5 ที่พบเจอเมื่อลงพื้นที่ บ่อยๆ ว่า
"ผู้บริหาร อาจารย์ มหา-ลัย" นั่นแหละปัจจัยที่ทำให้การปฏิรูปล้มเหลว......
ผมดีใจและภูมิใจ ที่ได้มีส่วนร่วมกับโครงการ LLEN โครงการ PLC และโครงการอื่นๆ ที่จะทำต่อไป ซึ่งผมมั่นใจว่าจะสามารถแก้ไขหรืออย่างน้อยก็ "เยียวยา" ให้ลูกหลานบรรเทาจากอาการ "ทศพิษทางการศึกษาไทย" ได้บ้าง