การปรับปรุงและพัฒนาตนเองนั้น เป็นเรื่องที่คิดว่าง่ายก็ง่ายนะครับ จะว่ายากก็ยากมากเลยครับ เพราะต้องอาศัยปัจจัยต่างหรือบริบทรอบข้างเข้ามาช่วยในการที่จะทำให้สิ่งที่อยากทำหรือสิ่งที่อยากพัฒนาในส่วนของตนเองให้ได้รับความสำเร็จนะครับ
ผมคิดว่าสิ่งที่อยากทำเพื่อพัฒนาตนเองก็มีอยู่หลายๆ ส่วนครับ
ประการที่๑ คือการพูด ผมอยากที่จะสามารถพูดแล้วผู้ฟังเข้าใจได้ทันที โดยที่ไม่ต้องมีสำนวนหรือถ้อยคำที่ยุ่งยากเข้ามา ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเราเป็นนักภาษา เวลาพูดก็จะติดสำนวนบ้าง ทำให้เพื่อนๆ หรือคนอื่นๆ เวลาฟังเราพูดแล้วอาจรู้สึกว่าตัวเองด้อยหรือเหมือนกับว่าเราดูถูกเขานะครับ ในส่วนนี้ก็อยากที่จะพัฒนาเป็นอันดับแรก
ประการที่๒ คือการคิดหวังดีต่อผู้อื่นในบางเรื่อง ซึ่งบางครั้งเราหวังดีมากไป เช่น การเลือกซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ ยกตัวอย่างโทรศัพท์นะครับ ผมก็จะบอกขอดีของรุ่นที่เพื่อนๆ จะซื้อว่าเป็นอย่างไรเมื่อใช้ไปได้สักพัก หรือแนะนำรุ่นที่ดี พอเพื่อนๆ ที่ซื้อไปก่อนเมื่อได้ยินสิ่งที่พูดไปเกี่ยวกับสิ่งที่ตนเองซื้อไปแล้วก็จะรู้สึกว่าจะพูดไปทำไม ซึ่งผมนั้นก็เป็นได้แค่ผู้แนะนำว่าถ้าซื้อไปแล้วไม่เป็นไร แต่สิ่งที่อยากให้รู้ว่าเมื่อจะซื้อครั้งต่อไปควรซื้อ.... นะครับ ในส่วนนี้ก็อยากที่จะพัฒนา อาจเป็นส่วนของการสื่อสารมากกว่าที่เขาอาจไม่เข้าใจในความหวังดีของเราหรือ...
ประการที่๓ คือการทำงาน ผมเป็นคนที่ทำงานค่อนข้างรวดเร็ว จนบางครั้งเหมือนจะเป็นการเร่งเพื่อนๆ คนอื่นไปด้วย จึงคิดว่าจะทำให้ช้าลงอีกนิด เพื่อเป็นการรอเพื่อนๆ เราจะได้ไปด้วยกันนะครับ ไม่ใช่ช้าจนกลายเป็นว่าดินพอกหางหมูหรือขี้เกียจไปเลยนะครับ แบบนี้ก็ไม่ดี
ประการที่๔ คือการคิด ผมเป็นคนที่มักคิดอะไรไว้ก่อนล่วงหน้าเสมอ บางครั้งคิดแผนไว้เป็นเดือนๆ ซึ่งกว่าจะทำก็อาจไม่เป็นเช่นนั้น เพราะปัจจัยในหลายๆ ด้านที่เข้ามาทำให้เปลี่ยนไป จึงอยากจะคิดให้น้อยลงนะครับบ แต่ไม่รู้ว่าจะคิดถูกไหมนะครับ
ประการที่๕ คือการพูดที่ไม่เน้นหลักการมากไปสำหรับเพื่อน ๆ ปัญหาอย่างมากสำหรับผม คือเมื่อเวลาพูดกับเพื่อนกันเอง จะเน้นหลักการมากเกินไปทำให้การสนทนาดูเหมือนจะมีเรื่องให้คิดอยู่ตลอดเวลานะครับ สิ่งนี้ก็ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดี
ประการที่๖ คือการทำให้เวลาทำงานเหมือนกับเวลาวันหยุด ซึ่งผมนั้นจะมีรูปแบบที่ชัดเจนมาก คือเวลาทำงานก็คือทำงานนะครับ จะไม่ค่อยจะเล่นเท่าไร แต่ถ้าเป็นวันหยุดก็จะหยุดจริงๆ บ่อยตัวสบายๆ นะครับ ทำตัวง่ายๆ ส่วนหนึ่งอาจเป็นที่พ่อผมสอน แล้วสิ่งนี้ติดตัวผมมาตลอดนะครับ พ่อมักพูดเสมอว่า เวลาทำงานเป็นทำงาน เวลากินเป็นกิน เวลานอนเป็นนอน เวลาเล่นเป็นเล่น ทั้งหมดก็คือเวลาทำอย่างหนึ่งก็ไม่ควรไปทำอีกอย่างหนึ่งเวลากินข้าวก็กินข้าวให้เสร็จเสียก่อนไม่ควรที่จะทำอย่างอื่นไปด้วยนะครับ ซึ่งผมก็คิดว่าดี แต่เวลาไปอยู่กับเพื่อนๆ ที่ทำงานเขาอาจจะรู้สึกว่าหยิ่งเพราะว่าเราอาจตั้งหน้าตั้งตาทำงานมากไปจนไม่ได้พูดกับเพื่อนๆ ทุกคนนะครับ อาจจะคุยกับแค่บางคนที่อยู่ใกล้ๆกัน
ประการที่๗ คือการออกกำลังกาย ส่วนนี้ปรกติทุกวันผมจะวิ่งรอบสนามหนึ่ง กกท. วันละ ๒๕-๓๐ นาที และบริหารต่อประมาณอีก ๒๐ นาที สรุปแล้วก็ประมาณ ๑ ชั่วโมง หลังปีใหม่นี้ผมอยากออกกำลังกายเพิ่มคือวิ่ง ๔๕ - ๖๐ นาที ให้ได้และบริหารท่าอื่นต่อ สรุปแล้วประมาณสัก ๒ ชั่วโมง เวลาไปออกกำลังกายแล้วรู้สึกว่ามีความสุขมากนะครับ วันไหนไม่ได้ออกกำลังรู้สึกเหงาๆ เลยนะครับ...^0^
ในส่วนของตนเองก็คงพอไว้เท่านี้นะครับ สิ่งที่อยากทำต่อคือในส่วนคนในครอบครัวหรือในบ้านของผมเอง
ประการที่๑ คือการกลับบ้านบ่อยขึ้น ผมนั้นกลับบ้านไปหาแม่ผมปีละครั้งเองนะครับ จึงอยากจะตั้งใจไว้ว่าอยากจะกลับไปหาแม่ผมให้บ่อยขึ้น อย่างน้อยสองถึงสามเดือนครั้งก็น่าจะดีครับ ไม่รู้เป็นไรช่วงหลังๆ มา ผมคิดว่าแม่สำคัญมากกว่างาน ถ้าเรายังไม่ตายและยังมีแรงอยู่เราก็ยังสามารถที่จะทำงานได้อีกต่อไป แต่ถ้าแม่เราไม่อยู่เราจะไปหาท่านที่ไหน และก็คงไม่มีใครที่จะคอยพูดให้เราฟังได้ แม้ว่าท่านจะพูดมากก็ตาม สิ่งนั้นก็เป็นการสอนเราตามที่ท่านเคยเห็นมา จึงคิดว่าผมจะพยายามทำให้ได้
ประการที่ ๒ คือการไปเยี่ยมหรือไปเล่นกับพ่อ เนื่องจากว่าพ่อกับแม่ผมนั้นได้หย่าร้างกันไปนานละ ผมก็ไม่ได้ไปเยี่ยมเยือนท่านมา ๑๐ ปีแล้วนะครับ จึงคิดว่าจะไปหาท่านให้ได้นะครับ
ตอนนี้ก็ได้ ๙ ข้อพอดีแล้วนะครับ เป็นเลขสวย เลยคิดว่า เพียงเท่านี้ถ้าเราสามารถทำได้ก็ถือได้ว่าดีแล้วนะครับ จริงผมก็ไม่ได้หวังต้องทำให้ได้ทุกข้อ แต่ก็จะพยายามทำให้ได้นะครับ เพื่อเป็นการปรับปรุงและพัฒนาตนเองอยู่เสมอ แม้ว่าหลายๆ ท่านจะบอกว่าเราสามารถทำได้ทุกเวลา นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นข้อเท็จจริง แต่ถ้าคนเรามีสิ่งกระตุ้นมาเสริม ก็จะสามรรถทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้นนะครับ Gotoknow ก็เป็นส่วนช่วยเพิ่มแรงกระตุ้นนี้เพื่อทำให้คนเราได้ตระหนักคิดและพัฒนาตนเองไปด้วยอยู่เสมอนะครับ ต้องขอบคุณ Gotoknow ไปด้วยนะครับ
ปี ๒๐๑๓ นี้ ผมก็อยากให้ทุกท่านมีสุขภาพกายที่แข็งแรงนะครับ ไม่มีโรคภัยใดๆ มาเบียดเบียน มีสุขภาพใจที่สมบูรณ์ คิดดี คิดบวก และอย่าลืมออกกำลังด้วยนะครับ
Happy Ba ทุกท่านะครับ
เรื่องดีดี ทั้งนั้นเลยนะคะ ขอบคุณ ข้อ๙ หนักคิดและพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ...ดีจริงๆค่ะ
ประการที่๑ คือการกลับบ้านบ่อยขึ้น ผมนั้นกลับบ้านไปหาแม่ผมปีละครั้งเองนะครับ จึงอยากจะตั้งใจไว้ว่าอยากจะกลับไปหาแม่ผมให้บ่อยขึ้น อย่างน้อยสองถึงสามเดือนครั้งก็น่าจะดีครับ ไม่รู้เป็นไรช่วงหลังๆ มา ผมคิดว่าแม่สำคัญมากกว่างาน ถ้าเรายังไม่ตายและยังมีแรงอยู่เราก็ยังสามารถที่จะทำงานได้อีกต่อไป แต่ถ้าแม่เราไม่อยู่เราจะไปหาท่านที่ไหน และก็คงไม่มีใครที่จะคอยพูดให้เราฟังได้ แม้ว่าท่านจะพูดมากก็ตาม สิ่งนั้นก็เป็นการสอนเราตามที่ท่านเคยเห็นมา จึงคิดว่าผมจะพยายามทำให้ได้
ประการที่ ๒ คือการไปเยี่ยมหรือไปเล่นกับพ่อ เนื่องจากว่าพ่อกับแม่ผมนั้นได้หย่าร้างกันไปนานละ ผมก็ไม่ได้ไปเยี่ยมเยือนท่านมา ๑๐ ปีแล้วนะครับ จึงคิดว่าจะไปหาท่านให้ได้นะครับ
พี่มาเชียร์ว่า เพิ่มอีกได้ไหมคะ ไปถี่กว่านี้ เพราะเป็นแม่จึงคิดว่าแม่ทุกคนอยากพบลูกมาก ๆ ที่สุดที่ลูกมีเวลา ว่างจากภารกิจ
ขอบคุณสำหรับคำพรท้ายบันทึกค่ะ
ขอบคุณพี่เปิ้นนะครับบกำลังใจแล
สำหรับกำลังใจและคอมเม้นให้นะครับ ตอบช้าไปบ้างนะครับ
พอเน็ตที่ห้องเสียนะครับ
ขอบคุณพี่ภูสุภาด้วยเช่นกันนะครับ
เพิ่มได้ครับ แต่ก็อยากไปถี่อยู่นะครับ ติดที่เวลานะครับ แต่ก็ขอบคุณนะครับพี่จะพยายามแล้วกันนะครับ ^0^ สู้ๆๆ
ภูสุภา |
ชยพร แอคะรัจน์ |
Dr. Ple |
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์ |
ดีมากค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
ขอบคุณบันทึกดีๆที่นำมาแบ่งปันกัน และส่งความสุขปีใหม่ ๒๕๕๖ ค่ะ
ภาพจากสายบริหารงานสื่อสารองค์กร SCB
สวัสดีปีใหม่ นะครับ คุณลูกสายลม
ขอขอบคุณทุกๆ กำลังใจอีกนะครับ
แม้กาลเวลาไปผ่านไปนานสักเพียงไหน ถ้้าภายในใจที่เป็นมิตรเเละดีต่อกัน ความสุขก็จะบังเกิดมีในใจของทุกท่านนะครับ สวัสดีปีใหม่นะครับ
ครูอ้อย แซ่เฮ |
แผ่นดิน |
ภูสุภา |
ธ.วั ช ชั ย |
ชยพร แอคะรัจน์ |
นาง นงนาท สนธิสุวรรณ |
แสงแห่งความดี |
Dr. Ple |
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์ |
อักขณิช |
เมืองน่ารัก |