ดอกแก้ว


ดอกแก้วที่นิยมปลูกตามบ้านกัน กลิ่นหอมยามเช้าพาชื่นใจ แต่สรรพคุณมีมากมายทั้งก้าน ดอก รากและใบ ทำให้การปลูกต้นแก้วไว้ที่บ้านสักต้นทำให้ได้ยามาไว้ในบ้านอีกอย่างหนึ่ง อีกทั้งใบยังมีฤทธิ์ ขับพยาธิตัวตืด แก้บิด แก้ท้องเสีย ยังอมบ้วนปากแก้ปวดฟันได้ดี ใครที่ยังไม่มีก็ลองหามาปลูกไว้ในบ้านสักต้นก็ดีนะคะ มาดูข้อมูลสมุนไพรที่เขาวิจัยออกมาเป็นสรรพคุณที่น่าเชื่อถือกันคะ

ชื่อวิทยาศาสตร์ :   Murraya paniculata  (L.) Jack. ชื่อสามัญ :   Andamansatin wood, Chinese box tree, Orange jasmine วงศ์ :    RUTACEAE ชื่ออื่น :  กะมูนิง (มลายู-ปัตตานี)แก้วขาว (ภาคกลาง) แก้วขี้ไก่ (ยะลา) แก้วพริก ตะไหลแก้ว (ภาคเหนือ)แก้วลาย (สระบุรี) จ๊าพริก (ลำปาง) ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :  ไม้ต้นขนาดเล็ก สูงได้ถึง 10 เมตร ไม่ผลัดใบ ใบ เป็นใบประกอบ ผิวใบมันเข้มและเป็นมันทั้งสองด้าน ดอก ช่อ ออกเป็นกระจุก สีขาว ร่วงง่าย มีกลิ่นหอมมากผล สดกลมรี หรือรูปไข่ ปลายสอบเล็กน้อย ที่เปลือกมีต่อมน้ำมันเห็นได้ชัดกว้าง 5-8 มม. ยาว 0.8-1 ซม. ผลอ่อนสีเขียว ผลสุกสีส้มแดงเมล็ดรูปไข่ปลายสอบ มีขนสั้นๆ อยู่รอบเมล็ด กว้าง 4-6 มม. ยาว 6-9 มม.สีขาวขุ่น มีจำนวน 1-2 เมล็ดต่อผล
สรรพคุณ :

  • ก้านและใ   - รสเผ็ด สุขุม ขม ใช้เป็นยาชาระงับปวด แก้ผื่นคันที่เกิดจากชื้น แก้แผลเจ็บปวดเกิดจากการกระทบกระแทก ต้มอมบ้วนปาก แก้ปวดฟัน 
  • ราก -   รสเผ็ด ขม สุขุม ใช้แก้ปวดเอว แก้ผื่นคันที่เกิดจากชื้น และที่เกิดจากแมลงกัดต่อย
  • ใบ -   ขับพยาธิตัวตืด แก้บิด แก้ท้องเสีย 
  • ราก, ใบ -เป็นยาขับประจำเดือน 
  • ดอก, ใบ -  ช่วยย่อย แก้ไขข้ออักเสบ แก้ไอ เวียนศีรษะ
  • ผลสุก - รับประทานเป็นอาหารได้

ป.ล ขอขอบคุณข้อมูลงานวิจัยจาก http://www.rspg.or.th ด้วยนะคะ


คำสำคัญ (Tags): #ดอกแก้ว
หมายเลขบันทึก: 511525เขียนเมื่อ 10 ธันวาคม 2012 15:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 ธันวาคม 2012 12:00 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ขอบคุณนะคะ สำหรับความรู้เพิ่มเติมนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท