หนึ่งปากสองหู


หนึ่งปากสองหู

ปกติคนเราทุกคนย่อมมีหนึ่งปากสองหูเท่ากัน แต่ดูเหมือนราวกับว่าคนเราส่วนใหญ่มักมองข้ามความจริงข้อนี้ไปเช่นกัน บ่อยครั้งที่เรามักจะลืมคิดไปว่าแท้จริงแล้วเรามีแค่หนึ่งปากเท่านั้นเอง แต่ทำไมเราไม่พูดให้น้อยลงและฟังให้มากขึ้น เมื่อเรามีตั้งสองหูทำไมเราไม่รู้จักฟังให้มากกว่าที่จะพูด คนเราส่วนมากที่ผิดใจกันอยู่มักมีสาเหตุมาจากคำพูดนี่เอง บางก็พูดในสิ่งที่ไร้สาระใช้คำพูดที่ไม่ดี หรือพูดจาเพ้อเจ้อ บางก็ใช้คำหยาบ บางก็พูดดีใส่ตัวเอาชั่วไปใส่คนอื่น บางก็ชอบพูดชอบป่น และที่แย่ไปกว่านั้นก็คือการพูดจาส่อเสียดและใส่ความแลประโยชน์ ณ.ตนถึง คนจำพวกนี้มีอยู่ทั่ว ๆ ไป ทุกสังคมทุกชนชั้น เราเองเมื่อไม่อยากเป็นคนเช่นนั้นที่ดีเอาแต่สักที่จะพูดและทำตัวเหมือนราวกับว่าตนเองมีปากมากกว่าหู ที่ไม่ยอมรู้จักการรับฟังแล้ว คนที่จะสูญเสียกับผลประโยชน์ก็คือตัวเราเองที่ไม่รู้จักการรับฟัง เพราะการฟังย่อมได้รับความรู้มากกว่าการพูดเป็นที่สุด

  การที่ธรรมชาติได้กำหนดสองหูให้เรามามากกว่าหนึ่งปาก นั้นแสดงให้เราได้รู้ว่าแท้จริงแล้วธรรมชาติสร้างเรามาเพื่อให้เราได้เป็นผู้รับฟังที่ดีมากกว่าการเป็นผู้พูดเสียอีก เช่นเดียวกันกับองค์กร ถ้าผู้นำยึดเอาแต่คำสั่งของตัวเองเป็นใหญ่ เอาคำพูดของนายมาเป็นนายแล้วโดยขาดการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ใต้บังคับบัญชาเสียแล้ว งานก็ไม่สามารถเดินไปข้างหน้าได้เช่นกัน เพราะการระดมความคิดเห็นต่าง ๆ ย่อมนำมาซึ่งอีกความคิดใหม่ที่สร้างสรรค์กว่าเดิม อันแท้จริงแล้วหูมีหน้าที่รับฟังแค่เพียงอย่างเดียวยิ่งรับฟังได้มากเท่าไรยิ่งมีความรู้ติดตัวเพิ่มมากขึ้นเท่าทวีตัว เพราะการรับฟังเรื่องใดเรื่องหนึ่งมาหรือได้รับฟังสิ่งใดสิ่งหนึ่งมาย่อมต่อยอดด้วยอีกหนึ่งความคิดใหม่ ๆ เสมอ

  ประโยชน์ของหูอยู่ที่การรู้จักรับฟัง ความรู้ต่าง ๆ ที่ถูกถ่ายทอดมาด้วยคำพูดจะสิ้นสุดลงที่การรับฟัง เพราะสองหูที่เรามีอยู่เปรียบเสมือนตู้เซฟที่คอยเก็บกักตุ๋นเรื่องราวต่าง ๆ นั้นเอง ในขณะที่ปากมีหน้าที่อย่างเดียวนั้นคือการถ่ายทอดไป หรือเป็นการถ่ายเทไป เมื่อเทไปเสียแล้วจะเหลืออะไรเอาไว้ให้เราได้ใช้อีก มันก็ไม่มีไง ในขณะที่หูได้เก็บกักตุ๋นเอาไว้ พอถึงเวลาที่อยากเอามันมาใช้ก็สามารถทำให้มันก่อเกิดประโยชน์ได้เช่นกัน และที่พิเศษสุดไปกว่านั้นก็คือการเก็บกักตุ๋นความรู้ที่ได้จากการรับฟังมาปรับปรุง ผสมผสานและแตกยอดความคิดใหม่ ด้วยการประยุกต์ใช้นั้นเอง นั้นคือความพิเศษของสองหูที่ดีกว่าหนึ่งปาก เพราะหนึ่งปากที่สักแต่พูด พูดไปพูดมาได้เรื่องไปจนได้ ปากยิ่งพูดยิ่งเสีย แต่หูยิ่งฟังยิ่งได้องค์ความรู้ทำให้ผู้รับฟังมีภูมิรู้มากขึ้น และที่พิเศษไปกว่านั้นคือสองหูฟังมากยิ่งก่อเกิดประโยชน์ในขณะที่หนึ่งปากพูดมากสักแต่เสีย

เมื่อธรรมชาติได้กำหนดให้เรามีสองหูมากกว่าหนึ่งปาก ทำไมเราไม่พูดให้น้อยลงและรับฟังให้มากขึ้นกว่าเดิม ที่เป็นเช่นนี้เพราะธรรมชาติได้คงมองการณ์ไกลและเล็งเห็นได้ว่าจงเอาไปหนึ่งปากเถอะ เพราะถ้าขืนเอาปากไปมากกว่านี้คงสร้างความวุ่นวายให้กับชีวิตได้มากขึ้นกว่าเดิม และที่สร้างมาให้สองหูคงเป็นเพราะเราขาดการรับฟังที่ดีเช่นกัน บางก็ประเภทที่ว่าฟังหูซ้ายทะลุหูขาว เพราะการที่เราไม่รู้จักการรับฟังนี่เอง จึงทำให้ขาดการรับรู้ที่ดีทำให้ขาดภูมิรู้ขาดองค์ความรู้ ถึงก่อเกิดปัญหาตามมาเช่นกัน เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วจะเห็นได้ว่าธรรมชาติสมดุลที่สุดและไม่มีอะไรที่จะมากำหนดเราได้นอกเหนือไปจากธรรมชาติที่กำหนดให้มาเช่น

ตราบใดที่เราอยู่อย่างฝืนธรรมชาติ เช่นใช้หนึ่งปากมากกว่าสองหู ตราบนั้นเราจะพบกับปัญหาและอุปสรรคที่ตามมากับคำพูดของเราเช่นกัน เพราะยิ่งเราเป็นคนที่พูดมากเท่าไร เราก็ยิ่งสูญเสียผลประโยชน์ในการรับฟังมากขึ้นกว่าเดิม คนที่มีชีวิตอยู่อย่างฝืนกับธรรมชาติมักพบกับความติดขัดของชีวิต ที่เป็นแบบนั้นเป็นเพราะตัวเองไปฝืนกับธรรมชาตินั้นเอง อันแท้จริงแล้วคนเราอยู่ภายใต้กำหนดของธรรมชาติ เพราะธรรมชาติคือผู้ที่สร้างเรามา เมื่อเขาสร้างเราขึ้นมาได้เขาก็ย่อมที่จะกำหนดเราได้เช่นกัน เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเราควรพูดให้น้อยลงกว่าเดิมและรู้จักการรับฟังให้มากขึ้นกว่าเดิม เพราะสองหูที่ธรรมชาติให้มาได้กำหนดให้เราจงเป็นผู้ที่มีการรับฟังมากกว่าการพูดเช่นกัน

ชีวิตคนเราก็เช่นกันที่เป็นการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดกาล สรรพสิ่งที่ก่อเกิดย่อมเปลี่ยนแปลงเสมอ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงนั้นที่ถูกกำหนดมาโดยธรรมชาติให้ชีวิตเป็นการเปลี่ยนแปลงตลอดกาล เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเราจะทำอย่างไรเพื่อให้ตัวเองได้พบกับความสุขกับการเปลี่ยนแปลงนั้น ๆ เพราะคนส่วนใหญ่มักทุกข์กับการเปลี่ยนแปลง บางคนเมื่อคนรักได้เปลี่ยนแปลงและจากไปกลับคิดว่ารอให้กาลเวลามาเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง เพราะกาลเวลาจะทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม ต้องมานั่งอาศัยวันเวลาทั้งที่แท้จริงแล้ว เราไม่จำเป็นต้องไปนั่งอาศัยกาลเวลาแม้แต่นิดเดียว แต่มันขึ้นอยู่ที่ตัวเราเอง เพราะเราต้องเปลี่ยนทุกสิ่งด้วยตัวเราเองภายใต้การเปลี่ยนแปลงของธรรมชาตินั้น ๆ เช่นกันและไม่มีการเปลี่ยนแปลงไหนไปได้ดีที่สุดเท่ากับการเปลี่ยนแปลงตัวเอง

จะเห็นได้ว่าการChangeนั้นเอง ที่จะช่วยให้เราพบกับความสุขได้อย่างแท้จริง เพราะภายใต้การเปลี่ยนแปลงตลอดกาลของธรรมชาตินั้นถ้าเรายังเอาหนึ่งปากที่น้อยกว่าสองหูมาเป็นนายเรามากำหนดตัวเรากำหนดชีวิต ซึ่งเป็นวีธีการที่ผิดไปจากสิ่งที่ธรรมชาติกำหนดให้มา เมื่อเป็นการฝืนธรรมชาติไปเสียแล้ว ชีวิตที่ไม่สมดุลกับธรรมชาติจะเป็นชีวิตที่มีความสุขและประสบกับความสำเร็จกันได้อย่างไรกัน เหมือนอย่างที่บอกว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงไหนไปได้ดีที่สุดเท่ากับการเปลี่ยนแปลงตัวเอง และจงเปลี่ยนความคิดชีวิตเปลี่ยน ด้วยการรับฟังและเป็นผู้ฟังที่ดีมากกว่าการพูดเพ้อเจ้อ คือหมายถึงการที่เรารู้จักการเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีกเปลี่ยนเปลี่ยนจากผู้พูดมาเป็นผู้ฟังที่ดีฟังจนกว่ามันจะได้ดี ที่สำคัญยังมีเรื่องราวมากมายของชีวิตที่ได้ดีจากการฟังเช่นกัน ฟังสิ่งที่ดีมีประโยชน์นำมาก่อเกิดประยุกต์ใช้ในชีวิตตน

 

คำสำคัญ (Tags): #หนึ่งปากสองหู
หมายเลขบันทึก: 511511เขียนเมื่อ 10 ธันวาคม 2012 14:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 ธันวาคม 2012 12:04 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ชอบการเขียนแนวนี้มากนะคะพี่มณีเทวาเป็นกำลังใจให้นะคะ รับไปเลยค่ะดอกไม้สวยๆๆอิอิ...


ปากมีน้อยกว่าหูต้องพูดให้น้อยฟังให้มากครับ..ขอบคุณแนวคิดๆๆดี

พรุ่งนี้จะมาอ่านบันทึกใหม่นะคะ ขอบคุณมากสำหรับแนวคิดดีๆๆนะคะ พี่มณีเทวา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท