beeman 吴联乐
นาย สมลักษณ์ (ลักษณวงศ์) วงศ์สมาโนดน์

ขงเบ้ง สุมาอี้ สุมาเต็กโช ใครเก่งกว่ากัน


     ตอนที่แล้ว เล่าเรื่องครูยงยุทธยังไม่จบครับ คือ การแข่งขันเขียนคำศัพท์ไทยในพจนานุกรม ต้องมีรางวัลครับ คุณครูเลยกำหนดว่า ทีมที่แพ้ต้องเลี้ยงไอศครีมทีมที่ชนะ ส่วนทีมรองชนะเลิศก็มองดูทีมชนะกินไอศครีมครับ (ตัดสินกันตอนสิ้นเท...
มีต่อ

ถ้าวิเคราะห์ให้ดี จะรู้ว่า สุมาอี้ฉลาดที่สุดเพราะวางหมากให้ลูกและหลานตัวเองได้เป็นใหญ่ในก๊กวุยที่โจโฉเป็นคนสร้าง (ฉลาดแกมโกง)

คนที่เก่งที่สุดคือ หลอก้วนจง แต่งเรื่องสามก๊กให้คนอ่าน ติดกันงอมแงมทั้งโลก ไม่ทราบว่าติดอันดับหนึ่งสือที่ขายดีที่สุดในโลกของ "กินเนสบุ๊ค" หรือเปล่า ใครทราบช่วยบอกหน่อยครับ

อาจารย์อ่านสามก๊กของเล่าชวนหัวแล้วหรือยัง เล่าชวนหัวได้ชำแหละธาตุแท้ของขงเบ้งและตัวละครอื่นๆ  ในสามก๊กให้เราเห็น  ถ้าอ่านจบแล้ว เราคงไม่อยากให้ใครยกย่องเราว่าเป็นขงเบ้งเป็นแน่

ยังไม่ได้อ่านครับ ยังไงช่วยให้รายละเอียดของหนังสือมาบ้างนะครับเผื่อจะได้ติดตามหาอ่านต่อไปบ้าง ตอนนี้กำลังติดตามผลงานของคุณเรือง วิทยาคม ในสามก๊กฉบับคนขายชาติอยู่ครับ ให้มุมมองในทัศนะแบบไทยๆ

อาจารย์ชอบก๊กไหนมากที่สุดครับ 

ผมเป็นคนนึงที่ชอบเรื่อง 3 ก๊กมากครับ

      คนแต่งเรื่องสามกีก (หลอก้วนจง) เป็นพวกเล่าปี่ เชิดชูคุณธรรม ดังนั้นจึงแต่งเรื่องให้ก๊กเล่าปี่ เป็นก๊กพระเอก พอเรามาอ่านก็ต้องคล้อยตามอยู่แล้ว อ่านตั้งแต่เด็ก แถมได้ฟังสำนวนการอ่านสามก๊กฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน)   จากคุณอาคม ธรรนิเทศ (นามสกุลอาจเขียนผิด) ในวิทยุอีก เมื่อ 30 กว่าปีมาแล้ว เลยฝังใจชอบก๊กเล่าปี่มาแต่นั้น

    แถมคนเขียน ยังเขียนให้ทหารเอกของเล่าปี่ คือ กวนอู, เตียวหุย, จูล่ง มีประวัติการรบที่เก่งฉกาจ

   มีขงเบ้งกุนซือที่ปรึกษาที่รู้เท่าทันคน มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว จนยาขอบเขียนว่า "ขงเบ้งผู้หยั่งรู้ดินฟ้ามหาสมุทร" ทำให้เด็ก ๆ ติดกันเกลียว....ครับ

ในทั้ง3คน สุมาอี้ด้อย ต่อมาขงเบ้ง ฉลาดสุดคือ สุมาเต็กโช      และฉลาดกว่าคือข้า

แล้วตกลงสามก๊กนี่เรื่องจริงหรือแต่งกันแน่ครับ

ผมเริ่มจะงงแล้ว ช่วยตอบหน่อยครับอาจารย์

   เป็นบทประพันธ์ โดยใช้เค้าโครงเรื่องที่มีอยู่ในประวัติศาสตร์ของจีนมาเขียนครับ เหมือนยาขอบเขียนเรื่องผุ้ชนะสิบทิศโดยอาศัยโครงเรื่องทางประวัติศาสตร์ซึ่งมีอยู่ 7 บรรทัด

จะกล่าวว่า สุมาเต็กโช นั้นเก่งกว่าขงเบ้งหามิได้หรอก  เพราะสุมาเต็กโช ไม่เคยแสดงฝีมือในการรบเลย  ที่บอกว่าสุมาเต็กโชรู้มาก่อนว่าขงเบ้งจะไม่สามารถรวมแผ่นดินได้ นั่นอาจไม่เป็นความจริงก็ได้  ถึงแม้จะเป็นเรื่องจริง  แต่ก็มีอีกเรื่องที่สุมาเต็กโชกล่าวผิดมหันต์  ที่ว่า ฮกหลงฮองซู ได้ใครคนนึงจะรวบรวมแผ่นดินได้  แต่เห็นได้ว่าบังทอง(ฮองซู)แทบไม่ได้สร้างผลงานอะไรเลย  แทบเสียชีวิตแบบไม่สมคำร่ำลืออีกตังหาก  ส่วนที่คุณลักษณ์บอกว่า สุมาอี้ฉลาดสุดนั้น ใช้เหตุผลเด็กอนุบาลมาตัดสิน  สุมาอี้เสียทีขงเบ้งหลายต่อหลายครั้ง  ครั้งนึงเกือบถูกขงเบ้งเผาทั้งเป็น แต่ฝนตกลงมาช่วย รอดไปได้   ในเกมสามก๊กแบบวางแผนที่ผม เล่นมาทุกภาค  จะให้ขงเบ้งฉลาด100เต็มทุกภาค ส่วนสุมาอี้อยู่ที่96-97 ซึ่งน้อยกว่า บังทอง และ พอๆกันกับจิวยี่ ลกซุน กาเซี่ยงด้วยซ้ำ  ส่วนความเห็นของคุณจุมพฎนั้น  อ่านอะไรมาก็เชื่ออย่างนั้น  จริงอยู่ว่าหล่อ กวน จง เขียนเข้าข้างทัพเล่าปี่  แต่ที่ เล่า ชวน หัว เขียนนั้นเล่า  เอาอะไรมาพิสูจน์ว่า ถูก  ความคิดที่แท้จริงของเล่า ชวน หัว ก็คือต้องการอะไรแปลกใหม่ นำสมัย เท่านั้น  เหมือนพวกวัยรุ่นสมัยนี้ชอบทำตัวเซอร์ สกปรกๆ แหวกแนวๆ  ชอบทำอะไรเด่น แปลกแนวกว่าคนอื่นเป็นต้น  ส่วนความคิดของผมเอง ไม่ได้คิดว่า เล่าปี่ ขงเบ้ง เป็นพระเอก  โจโฉ เป็นผู้ร้าย แต่อย่างไร  ผมให้ความเคารพที่ความสามารถ  ผมยังเปรียบเปรย พระนเรศวร ว่าทรง ลักษณะ คล้ายโจโฉ ด้วยซ้ำไป ( มีความเป็นผู้นำ สามารถคุมกองทัพ ปรีชาสามารถ )  ในขณะเดียวกันเล่าปี่ก็ไม่ได้คนเลวร้ายอะไรเหมือนที่ เล่า ชวน หัว เขียนเพื่อให้หนังสือตัวเองขายดี  ถึงแม้ว่าสิ่งที่เล่าปี่ทำจะเป็นการเสแสร้งก็ตาม  เห็นได้เลยว่าเล่าปี่ยอมเสียสละทุกอย่างเพียงเพื่อคำสาบานสวนท้อ (ล้างแค้นให้กวนอู)  สรุปว่า ทั้งเล่าปี่ ทั้งโจโฉ ก็เป็นถือเป็นวีรบุรุษ  ไม่มีใครดีเป็นพิเศษ หรือชั่วร้ายเป็นพิเศษ  ยกย่องกันที่ความสามารถครับ ไม่ใช่ตามกระแส  หรือต้องการแหวกแนว

คุณเป็นกลาง ลปรร. ได้ดีครับ สนุกดี

"ในเกมสามก๊กแบบวางแผนที่ผม เล่นมาทุกภาค  จะให้ขงเบ้งฉลาด100เต็มทุกภาค ส่วนสุมาอี้อยู่ที่96-97 ซึ่งน้อยกว่า บังทอง และ พอๆกันกับจิวยี่ ลกซุน กาเซี่ยงด้วยซ้ำ"

 

อ่านตรงนี้แล้วรู้สึกแปลกๆนะครับ คุณเอาเกมวางแผนสามก๊กมาปนกับความเป็นจริงได้ยังไง คุณเดาได้ไงว่าขงเบ้งจะเก่งเหมือนในเกม ผู้ผลิตเกมเขาก็ต้องให้ขงเบ้งเก่งอยู่แล้ว เพราะสามก๊กมีขงเบ้งเป็นตัวเอก แต่ในประวัติศาสตร์จริงล่ะ(ขอให้ยึดฉบับประวัติศาสตร์เฉินโซ่วเป็นหลัก) ขงเบ้งทำอะไรให้เสฉวนบ้าง ยกทัพไปตีเว่ยห้าครั้ง ไม่ประสบความสำเร็จซักครั้งเดียว แถมครั้งนึงน่าขำมากเพราะยกทัพไปตั้งเป็นหมื่นกลับตีเมืองเล็กๆที่มีทหารชายแดนเฮ็กเจียวที่มีทหารแค่สามพันไม่ได้ น่าขำจริงๆที่คุณเอาขงเบ้งไปเปรียบกับลกซุนที่ใช้กำลังทหารเผากองทัพเจ็ดแสนของเล่าปี่ได้ ส่วนเรื่องที่คุณว่าสุมาอี้เสียทีขงเบ้งหลายครั้งขอให้พิจารณาประวัติศาสตร์ดังนี้(credits จากhttp://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A4124823/A4124823.html)

"ปีเจี้ยนซิงที่ ๕ ของสู่ (.. 227) รัชกาลฮั่นโฮ่วจู่ จูเก๋อเลี่ยงถวาย ฎีกาออกทัพ ต่อฮั่นโฮ่วจู่ ตระเตรียมไปตีอาณาจักรเว่ย จูเก๋อเลี่ยงยกทัพไปถึงฮั่นจง ฝึกซ้อมทหารม้า และอพยพผู้คนจากในอาณาจักรสู่มากมายเข้าไปอยู่ในฮั่นจงเพื่อก่อตั้งเป็นค่ายชายแดน

ปีเจี้ยนซิงที่ ๖ (.. 228) จูเก๋อเลี่ยงนำทัพไปตีเว่ยครั้งที่ ๑  ในเวลาเดียวกันนั้น เมิ่งต๋า(Meng da)อดีตแม่ทัพของสู่ที่ไปสวามิภักดิ์ต่อเว่ยยกทัพก่อการกบฏต่อเว่ย คิดจะบุกตีลั่วหยาง  ซือหม่าอี้ตัดสินใจเด็ดขาดยกทัพบุกอย่างรวดเร็ว ตีเมืองซิน(ซินเฉิง : Xin cheng) สังหารเมิ่งต๋าและฆ่าชาวบ้านล้างเมือง  จูเก๋อเลี่ยงพิชิตหนานอาน(Nan an : ปัจจุบันอยู่ในอำเภอหล่งซี(หล่งซีเซี่ยน) มณฑลกานซู่) , เทียนสุ่ย(Tian shui : ปัจจุบันอยู่ในอำเภอกานกู่ จังหวัดเทียนสุ่ย(เทียนสุ่ยซื่อ : Tian shui shi ; กานกู่เซี่ยน : gan gu xian) มณฑลกานซู่) , อานติ้ง(An ding : ปัจจุบันอยู่ในอำเภอจิงชวน(จิงชวนเซี่ยน : Jing chuan xian) มณฑลกานซู่) ๓ จวิ้น(จังหวัด)ของเว่ย  ภายหลังเนื่องจากหม่าซู่(Ma su)แม่ทัพของสู่พ่ายแพ้แก่จางเหอ(Zhang he)แม่ทัพของเว่ยทำให้ต้องสูญเสียเจียถิง(Jie ting : ปัจจุบันอยู่ในอำเภอจวงล่าง(Zhuang lang) มณฑลกานซู่)ไป ประกอบกับเมิ่งต๋าลงมือร่วมก่อการไม่สำเร็จ ทำให้จูเก๋อเลี่ยงต้องถอยทัพกลับฮั่นจงในปีเจี้ยนซิงที่ ๖ นั่นเอง

ฤดูหนาวปีเจี้ยนซิงที่ ๖ จูเก๋อเลี่ยงบุกตีเว่ยครั้งที่ ๒ โดยยกทัพออกทางด่านส่านกวน(San guan)ไปล้อมเฉินชาง(Chen chang) แต่เนื่องจากเสบียงไม่พอจึงถอยทัพกลับ

ปีเจี้ยนซิงที่ ๗ (.. 229) จูเก๋อเลี่ยงบุกตีเว่ยเป็นครั้งที่ ๓ บุกตีอู่ตู(Wu du)และหยางผิง(Yang ping) ๒ จวิ้น

ปีหวงหลงที่ ๑ ของอู๋(Huang long : มังกรเหลือง :.. 229) ซุนเฉวียนประกาศตัวเป็นฮ่องเต้ เรียกขานกันว่า อู๋ต้าตี้”(Wu da di) อาณาจักรสู่ส่งทูตไปอวยพรแสดงความยินดี อู๋และสู่ทำสัญญาผูกสัมพันธไมตรีกันอีกครา อาณาจักรอู๋ย้ายราชธานีไปยังเมืองเจี้ยนเยี่ย(Jian ye)

ปีไท่เหอที่ ๔ ของเว่ย (Tai he :.. 230) เฉาเจิน(Cao zhen)และซือหม่าอี้ยกทัพบุกสู่ แต่ยังไม่ทันเข้าไปในอาณาจักรสู่ก็ต้องเจอกับภาวะอากาศฝนตกหนักไม่ขาดสายตลอดเวลาจนต้องถอนทัพกลับโดยยังไม่ทันได้สู้

ปีเจี้ยนซิงที่ ๙ ของสู่ (.. 231) จูเก๋อเลี่ยงยกทัพไปตีเว่ยครั้งที่ ๔ ซือหม่าอี้ยืนกรานตั้งทัพรับโดยไม่ออกไปรบด้วยจนกองทัพของสู่เสบียงหมดและต้องถอยทัพกลับไปเองโดยปริยาย เพียงได้สังหารแม่ทัพเว่ยนามจางเหอ(Zhang he : คนที่เอาชนะหม่าซู่และเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้การบุกเว่ยครั้งที่ ๑ ของจูเก๋อเลี่ยงล้มเหลว)เท่านั้น

ปีเจี้ยนซิงที่ ๑๒ (.. 234) จูเก๋อเลี่ยงยกทัพบุกเว่ยครั้งที่ ๕ โดยยกทัพออกทางเสียกู่(Xie gu : หุบเขาเสีย)เข้ายึดครองอู่จ้างเหยวียน(ทุ่งห้าจ้าง : Wu zhang yuan) แล้วแบ่งกำลังทหารทำนาตุนเสบียง จากนั้นตั้งประจันกับซือหม่าอี้ที่ริมฝั่งแม่น้ำเว่ย(เว่ยสุ่ย : Wei shui) ซือหม่าอี้ยังคงคุมทัพเฝ้าอยู่เฉยๆโดยไม่ออกมาสู้ด้วยเช่นเดิม

เดือน ๘ จูเก๋อเลี่ยงป่วยตายในกองทัพ เจี๋ยงหว่าน(Jiang wan)รับหน้าที่แทนจูเก๋อเลี่ยง เลื่อนขึ้นรั้งตำแหน่งต้าซือหม่า(Da si ma)กุมบังเหียนการปกครองของอาณาจักรสู่  นอกจากล้มเลิกนโยบายบุกขึ้นเหนือแล้ว แนวทางการปกครองอื่นๆเจี๋ยงหว่านล้วนแต่ปฏิบัติตามที่ระบบจูเก๋อเลี่ยงได้วางเอาไว้ก่อนแล้วทั้งสิ้น"

 

จะพบว่าสุมาอี้กับขงเบ้งแทบไม่ได้เจอกันในสมรภูมิเลย สุมาอี้แค่ตั้งท่ารบแบบยืดเยื้อก็ทำให้ทหารขงเบ้งขาดเสบียงจนต้องถอยได้ ดังนั้นเรื่องที่สุมาอี้เกือบตายเพราะถูกขงเบ้งเผาจึงไม่มี กลยุทธ์เปิดเมืองร้างดีดพิณก็ไม่มีเพราะตอนนั้นสุมาอี้ดำรงตำแหน่งมหาราชครู(ถ้าจำไม่ผิด)เพราะมีคนอิจฉาเพ็ดทูลฮ่องเต้ให้ตั้งสุมาอี้ไปอยู่ในตำแหน่งเกียรติยศที่ไม่มีอำนาจทางทหาร จนต่อมาถึงมาทำหน้าที่แม่ทัพได้

 

"เห็นได้เลยว่าเล่าปี่ยอมเสียสละทุกอย่างเพียงเพื่อคำสาบานสวนท้อ (ล้างแค้นให้กวนอู)"

 

ถ้ายังงั้นคุณก็คงต้องให้โจโฉเป็นคนดีมากด้วยเพราะเขาได้สั่งให้ทำลายเมืองชีจิ๋วที่เฉินโซ่วบันทึกว่าเป็นคนวางแผนฆ่าพ่อโจโฉแต่ฉบับงิ้วว่าเป็นพวกโจรผ้าเหลืองฆ่า โจโฉที่คิดล้างแค้นให้พ่อกับเล่าปี่ที่คิดล้างแค้นให้น้องร่วมสาบาน คนไหนน่ายกย่องกว่า และคุณก็ต้องนับถือให้กษัตริย์องค์หนึ่งเป็นคนดีสุดซึ้งเลย เขาคือ..ซ่งเกาจงฮ่องเต้แห่งราชวงศ์ซ่ง ผู้ยกแผ่นดินจีนครึ่งประเทศให้กิมก๊ก แลกกับอิสรภาพของเหว่ยเฮาพระมารดา นี่สิครับคนยอมเสียสละตัวจริงเห็นไหม เสียสละแผ่นดินตั้งครึ่งประเทศ ทุ่มมากกว่าเล่าปี่ซะอีกนะ คุณควรเรียกพระเจ้าแผ่นดินนี้ว่าซ่งเกาจงมหาราช เพราะซ่งเกาจงมหาราชนี่แหละ เป็นคนปูทางการล่มสลายของราชวงศ์ซ่ง เรียกตัวงักฮุยกลับจากแนวหน้าเพื่อพระมารดาเพราะมีคนทูลว่าที่พวกกิมไม่ปล่อยพระมารดาเพราะยังมีแม่ทัพเก่งๆ โอ้ เป็นคนดีจริงๆนะครับ

 

"เล่า ชวน หัว เขียนเพื่อให้หนังสือตัวเองขายดี"

 

ถ้าเขาต้องการเขียนให้ขายดีจริงก็มีทางอื่นอีกหลายทางนะครับ ไม่เห็นต้องไปเขียนด่าเล่าปี่แหวกแนว ต้องไปสืบหาบันทึกประวัติศาสตร์มาแปลให้พวกเราๆอ่าน ดูสิครับฉบับไหนที่เขียนออกมาเชิดชูเล่าปี่เคยไปพลิกฉบับเฉินโซ่วมาบ้างรึเปล่า ส่วนใหญ่ผมเห็นแต่เอาหลอกว้านจงมาทั้งนั้น ถ้าเล่าชวนหัวต้องการให้ขายดีเฉยๆไม่ต้องลำบากขนาดนั้นก็ได้ แค่เขียนเชิดชูเล่าปี่เหมือนที่มีคนเคยเขียนนั่นแหละครับ ไม่ต้องเสียเวลาแปลหลายๆฉบับให้ยุ่งยากเลย อีกอย่างเล่าชวนหัวไม่ได้บอกว่าแนวคิดของเขาถูก เขายังเขียนไว้ในหนังสือว่าอยากให้พวกคนอ่านวิเคราะห์ไปด้วยอย่าเชื่อเขาอย่างเดียว

 

"ความคิดที่แท้จริงของเล่า ชวน หัว ก็คือต้องการอะไรแปลกใหม่ นำสมัย เท่านั้น"

"

 

เล่าชวนหัวไม่ได้ด่าขงเบ้งเล่าปี่ลอยๆ แบบไม่มีเหตุผลเหมือนพวกขี้แพ้ชวนตี เขาได้หาหลักฐานมากมายมาอ้างถึงคนเหล่านี้ อย่างยุทธศาสตร์หลงจงคุณคิดว่าเป็นแผนของคนมีคุณธรรมงั้นหรือ การที่จะไปแย่งชิงเมืองจากคนที่เคยอุปถัมภ์ตน ขนาดโจโฉยังไม่ฆ่าตันก๋งที่เป็นกุนซือลิโป้ศัตรูของตนเพราะตันก๋งเคยช่วยเขาไว้แม้จะเป็นแค่การช่วยครั้งเดียว แต่ตันก๋งต้องการตายโจโฉจึงต้องฆ่า แต่เล่าปี่ขงเบ้งกลับคิดทรยศผู้มีพระคุณและผู้มีพระคุณนั้นก็ไม่ได้ตั้งตัวเป็นศัตรูแบบที่ตันก๋งทำกับโจโฉด้วย  แถมที่เล่าชวนหัวกล่าวว่าขงเบ้งได้รับบุณคุณจากเล่าเปียวก็ไม่ได้กล่าวลอยๆ ถามจริงเถอะครับ ถ้าตอนนั้นขงเบ้งไม่ได้รับความเมตตาจากเล่าเปียวขงเบ้งจะไปอยู่ไหน ถ้าเล่าเปียวไม่สนใจเล่าปี่ที่หนีจากอ้วนเสี้ยวมาเล่าปี่จะไปอยู่ไหน เพราะเล่าปี่ก็ยังเป็นจ้าวไม่มีศาลอยู่เลย นอกจากนี้ถ้าคุณคิดว่าเล่าปี่ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรคุณก็จงทิ้งสำนวน "กินบนเรือนขี้บนหลังคา" ซะ และคุณจงถือว่าคนทรยศคนขายชาติเป็นคนดี เพราะเล่าปี่ต้อนรับเตียวสงคนทรยศอย่างดีด้วยการให้ยอดขุนพลอย่างจูล่งต้องมาต้อนรับคนขายชาติ ผมว่าขงเบ้งเป็นพวกชอบเลียนแบบรัฐฉินสมัยเลียดก๊ก เพราะรัฐฉินใช้นโยบายขยายดินแดนแบบเดียวกับขงเบ้งนั่นแหละ แต่ขงเบ้งลืมนึกไปว่า การที่บ้านตัวเองยังไม่สะอาดแต่ถือไม้กวาดไปกวาดบ้านคนอื่นจะเป็นยังไง เขาจึงใช้นโยบายขยายดินแดนอย่างไม่ว่างเว้น ต่างกับรัฐฉินที่วางรากฐานตั้งแต่ฉินเซี่ยวกงที่มีซางยางยอดไจเสี่ยง ฉินฮุ่ยอ๋องมีจางหยียอดปราชญ์จากหุบเขาปีศาจ และในที่สุดสมัยฉินอ๋องเจิ้งมีหลี่ซือกับอ้วยเหลียวเป็นฝ่ายคิด ฝ่ายศึกมีหวังเจี่ยน หวังเปิน หลี่ซิ่น หยางตวนเหอ เป็นต้น ทำให้ในที่สุดรัฐฉินรวมแผ่นดินได้ แต่ที่ขงเบ้งทำคือมุ่งรวมแผ่นดินอย่างเดียว ทั้งที่ในกองทัพแทบไม่มีทหารฝีมือดีแล้ว ฝ่ายคิดก็มีแค่ตัวขงเบ้งคนเดียว ผมว่าขงเบ้งควรจะรีบหาทหารฝีมือดีใหม่ๆมาจะดีกว่าดันทุรังรบ ซึ่งผลทำให้เสฉวนล่มก่อนใครในสามก๊ก ตัวอย่างแบบนี้เคยมีให้เห็นสมัยจ้านกว๋อแล้ว ฉีหมิ่นอ๋องแห่งรัฐฉีชอบขยายดินแดนรุกรานรัฐอื่น ในที่สุดเลยถูกพันธมิตรหกนครนำโดยงักเยหรือเล่อยี่ บุกตีจนเหลือสองเมืองสุดท้ายโชคดีเล่อยี่ถูกปลดก่อนเลยรอดมาได้  อีกอย่างจากประวัติศาสตร์ข้างต้นคุณจะเห็นว่า

"แนวทางการปกครองอื่นๆเจี๋ยงหว่านล้วนแต่ปฏิบัติตามที่ระบบจูเก๋อเลี่ยงได้วางเอาไว้ก่อนแล้วทั้งสิ้น"

 

ถ้าขงเบ้งเก่งจริงเสฉวนต้องไม่ล่มสิครับ เพราะเจียวอ้วน(เจี๋ยงหว่าน)ดำเนินนโยบายปกครองแบบเดียวกับที่ขงเบ้งวางรากไว้ ถ้าขงเบ้งเก่งจริงต้องทำให้เสฉวนเจริญขึ้น ไม่ใช่เจริญลงจนแค่เตงงายบุกครั้งเดียวเสฉวนก็ล่มยังงี้ ผลมาจากการที่เขาเกณฑ์คนไปทำสงครามตลอดเวลาเหมือนจักรพรรดินโปเลียนแห่งฝรั่งเศสที่แม้มีกำลังเข้มแข็งแต่ก็ถูกตีจนต้องสละบัลลังก์ เพราะปวงประชาเบื่อสงคราม ผมว่าเสฉวนคงเหมือนกันเพราะหลังขงเบ้งตายเกียงอุยก็เกณฑ์คนไปตายอีก พอทหารวุ่ยมาถึงประชาชนคงโห่ร้องยินดีมากกว่ามั้งผมว่านะ

 

แต่ถ้าคุณจะคิดว่าขงเบ้งยอดๆๆๆ ก็ไม่เป็นไรนะครับ ผมแค่จะพูดให้ฟังเท่านั้น เชื่อหรือไม่แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคน...

ขออภัยที่โพสติดกัน2คอมเมนต์ครับ พอดีผมเผลอกดไป 2 ครั้ง...

คุณมม ก็มีเหตุผลที่น่าสนใจไม่น้อย แถมมีที่อ้างอิงด้วย ขอบคุณที่เข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (ลปรร.) กันครับ

ผมว่าคนที่เก่งที่สุดไม่ใช่ขงเบ้ง แต่เป็น ซุยเป๋ง ที่เล่าปี่เผอิญไปเจอข้าหลังจากที่ไปหาขงเบ้ง แล้วเล่าปี่ก็ชวนซุยเป๋งไปสนทนาด้วยแต่ซุยเป๋งไม่ไป รู้ไหมว่าซุยเป๋งพูดกับเล่าปี่ว่าอะไร ซุยเป๋งพูดกับเล่าปี่ว่า  เมื่อใดที่จิตใจของข้าพเจ้าว่างเปล่า  เมื่อนั้นข้าพเจ้าจะไปสนทนากับท่าน

ผมจึงเห็นว่าซุยเป๋งเป็นคนที่เก่งที่สุด

ผมเห็นด้วยกับความคิดเห็นของคุณสิทธิศักดิ์ ที่ว่า ซุยเป๋งเก่งที่สุด เพราะว่า ตามหลักพระพุทธศาสนา ว่าไว้ว่า ผู้ใดที่สามารถชนะจิตใจตนเองได้ผู้นั้นคือผู้ที่เก่งที่สุด
ชอบเรื่องสามก๊กครับ สนุกดี ให้แนวคิด แต่จำไม่ค่อยได้แล้ว อ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง  สงสัยต้องไปอ่านอีกรอบ:)

ขงเบ้งก็เก่ง  สุมาก็เก่ง 

  • จูล่งเก่งที่สุดเลยสุดยอดในใจผมไปเลย  เป็นนักรบด้วยกันที่เก่งมาก
  • ขอบคุณทุกๆท่านครับที่เข้ามาเขียนข้อคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง
  • ขอบคุณคุณสิทธิศักดิ์และคุณขวัญ ผมเห็นด้วยกับข้อคิดเห็นครับ มองในอีกมิติหนึ่ง
  • คุณ Patrickz คงต้องไปอ่านอีกรอบ
  • คุณเชือกกล้วย ชอบเหมือนผมเมื่อตอนเด็กๆ เลยครับ ผมชอบจูล่งมาก เป็นบุคคลที่เป็นนักรบที่เก่งมากในสนามรบ และการดำเนินเชีวิตก็เรียบง่าย แถมเวลาตายก็ตายดีคือนอนหลับแล้วไม่ตื่น ไม่เหมือนนักรบหลายคนต้องตายแบบศรีษะไม่อยู่กับตัวครับ

ขงเบ้งเก่งมากมิชะนั้นขงไม่สามารถรู้ว่ารกซุนคิดอะไรอยู่   และตอนที่จิวยีแกล้งตายเพื่อฆ่าขงเบ้งดันโดนซ้อนแผนฆ่าตายซะเอง  นับว่าขงเบ้งมิฉลาดหรอคุณเคยดูในหนังบ้างหรือเปล่า ในหนังขงเบ้งเก่งสุดถ้าไม่ตายซะก่อนเล่าปี่ก็ชนะไปแล้ว  ใครว่าขงเบ้งไม่แน่จริงแจ้งมาได้ที่ e-mail [email protected]  ผมว่าไม่มีใครเก่งเท่าขงเบ้งจะทำไงได้คุณคิดว่า ขงเบ้งไม่เก่งเพราะมีอคติหรือเปล่า ผมว่าขงเบ้งเก่งเขาสามารถใช้ทุกอย่างให้เกิดประโยชน์ เช่นชักนำท่วมกองทัพโจโฉ  หรือแม้แต่การจิ้วยีที่ได้ชัยจากการชนะโจโฉก็เพราะขงเบ้งยืมลมมาช่วยิ  ขงเบ้งเก่งที่สุด

ตอบคุณขงเบ้งเก่งที่สุด

  • อ่านเรื่อง "สามก๊ก" ทีไร ขงเบ้งคือขวัญใจของผมเลยครับ และผมเชื่อว่าทุกคนเมื่อเริ่มอ่านสามก๊กก็ต้องชอบและรักขงเบ้ง
  • ผมดูหนัง "สามก๊ก" ตอน "ขงเบ้งตาย" ต้องเสียน้ำตาให้ขงเบ้งครับ
  • แต่เมื่อผมอ่าน "สามก๊ก" มากๆ เข้า ผมเข้าใจว่า คนเขียนเรื่องสามก๊กเขาพยายามเขียนให้ขงเบ้งเป็นพระเอกครับ เพราะโดยสมมุติฐานในการเขียน เขาเขียนเชียร์ก๊กของเล่าปี่ครับ
  • ต้องอ่านโดยพินิจพิเคราะห์ ตอนขงเบ้งยกทัพไปตีวุยก๊ก 6 ครั้ง ที่ส่วนใหญ่ทำสงครามกับสุมาอี้ครับ

อ่านสามก๊กยังไม่จบเลยค่ะ  แต่จะเลือกเปิดอ่านตอนที่ชอบได้อรรถรสดีค่ะ  บังเอิญว่าได้อ่านตอนที่อาจารย์เขียนถึงด้วย  ตนเองมองว่าขงเบ้งเด่นในเรื่องปัญญา ถ้าปัญญาเป็นน้ำก็จะทำให้เนื้อเรื่องมีชีวิตชีวาน่าสนใจติดตาม เหมือนเรื่องแดจังกึมที่ตัวเอกใช้ปัญญาในการดำเนินเรื่องทำให้เรื่องน่าติดตาม     สำหรับสุมาเต็กโช คงทราบด้วยการหยั่งรู้ว่า อนาคตจะเป็นเช่นไร  ซึ่งแต่ละคนก็ต่างมีภาระหน้าที่ต่างกัน ไม่แน่ว่าถ้าขงเบ้งรู้อนาคตตัวเอง แต่ก็ยังจะเลือกที่จะทำ เพราะบางทีมิใช่จบแค่จบชีวิตเท่านั้น...

"ไม่แน่ว่าถ้าขงเบ้งรู้อนาคตตัวเอง"

  • ขงเบ้งรู้อนาคตตัวเองแน่นอนครับ รู้ตั้งแต่ก่อนก้าวขาออกจากบ้าน รู้ตั้งแต่ก่อนจะได้เจอหน้าเล่าปี่เสียอีก
  • บุรุษผู้แจ้งฟ้าและจบดิน ถ้าเรื่องแค่นี้มิอาจล่วงรู้ก็มิอาจได้ฉายาว่าฮกหลงแล้วละครับ
  • แต่ทำไมขงเบ้งถึงได้ติดตามเล่าปี่ไป เชิญทุกท่านพิเคราะห์เอาเองเถิด เดี๋ยวจะเสียอรรถรสในการอ่านไป
ผมว่า ซีซี ของ โจโฉ ฉลาดที่สุด เสียดายที่ว่าบุญน้อย เลยมาเสียตั้งแต่ต้นเรื่อง

อีกทีครับ

เรื่องการสาบานตนของ เล่าปี่ กวนอู และเตียวหุย ในสมัยนั้นยังไม่มีนะครับ

เรื่องการขงเบ้งเรียกลมมาเผากองเรือของของโจโฉก็ไม่จริง ครับ ที่จริง โจโฉเผาทัพตัวเอง เพราะเกิดโรคระบาดขึ้น (ตามที่อ่านมา) ถ้าบอกว่าตัวเองเผาทัพตัวเอง จะน่าเปลียดขนาดไหน ดังนั้นเมื่อโจโฉเผาทัพตัวเอง แล้ว ดังนั้นเรื่องที่โจโฉหนีไฟไปพบกับกองทัพที่ขงเบ้งวางดักไว้ตามที่ต่างๆก็ไม่เป้นความจริงด้วย

อีกอย่างนะครับ เล่าปี่ตายก่อนข้งเบ้งนะครับ

อ่านสามก๊ก ดูดีๆนะครับ จะเห็นว่าโจโฉ น่าจะเป็นพระเอกมากกว่า ลองดูครับ ใครเป็นคนที่ช่วยกอบกู้บ้านเมืองจากทรราช ลองอ่านของที่ มรว.คึกฤทธิ วิเคราะ์ห์ดูครับ "โจโฉนายกรัฐมนตรี ตลอดการ"

แต่ยังไงผมก็ชอบ จู่ล่งที่สุดเหมอืนกันครับ

  • หลากหลายความคิดกันดีครับ
  • สงสัยว่าวันนี้ทำไมมีท่านผู้อ่านเข้ามาเขียนข้อคิดเห็นกันมากจัง
  • ช่วงบ่ายกว่า ๆ ถึง เกือบ 5 โมงเข้า Gotoknow ไม่ได้อีกแล้ว
  • ครับผมก็เข้าไม่ได้เหมือนกัน
  • เลยคิดว่าจะย้ายบ้านหนีซะแล้วครับ
เห็นด้วยกับคุณเป็นกลาง  คิดว่าคุณเป็นกลางรู้จักธาตุแท้และตัวตนที่แท้จริงของ  เล่าชวนหัว  เหมือนกับที่พวกเรารู้
  • ขอบคุณคุณนุชครับผมเลยต้องขึ้นไปอ่านความเห็นของคุณเป็นกลาง
  • ต้องสารภาพว่าผมยังอ่านไม่หมดเลยครับเพราะค่อนข้างยาว

ขอร่วมคุยด้วยคนครับ

คนที่อ่านสามก๊กจบและอ่านไปคิดตามไปเท่านั้นถึงจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรและใครเป็นยังไง

ผมจะไม่พูดว่าใครเป็นที่สุดทางด้านนั้นด้านนี้เพราะ

  • คนที่ยังไม่ได้อ่านและกำลังจะอ่านจะเสียอรรถรส
  • คนที่อ่านจบแล้ว แต่คิดไม่เหมือนกันจะคิดว่าเป็นการแบ่งพรรคแบ่งพวกและชวนทะเลาะ

ดังนั้นเรื่องนี้ใครอ่านก็จะรู้เองครับ (จำคำพระไม่ได้) จะมาฟังคนอื่นบอก แล้วเชื่อนั้นหาได้ไม่ เพราะต่างคนต่างความคิด

แต่ขอบอกว่าความคิดของคุณเป็นกลาง เป็นความเห็นที่ดีมากครับ

ผมก็กำลังจะบอกว่าผู้เขียนตั้งใจจะให้คนอ่านเห็นความริงของโลกครับ คือ "Nothing Perfect" ถ้าคนอ่านจับตรงนี้ได้และนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์กับการดำเนินชีวิตและสังคมก็จะดีครับ

เพราะถ้าเขียนให้ขงเบ้งหรือเล่าปี่ โจโฉ หรือคนอื่นๆ Perfect มันจะสนุกอะไรครับ เหมือนหนังไทยที่พระเอกไม่เคยตาย และคนดูจะเดาไว้ว่าตอนจบเป็นยังไง แล้วอย่างนี้คนอ่านจะได้อะไรครับ

เป็นธรรมดาและความสวยงามของโลกที่แต่ละคนก็เก่งหรือถนัดกันไปคนละแบบครับ ถ้าจะให้อินเทรนด์หน่อยก็เหมือนกับทีมฟุตบอลที่ประกอบไปด้วย กองหน้า กองกลาง กองหลัง และผู้รักษาประตู ลองจินตนาการถึงฟุตบอลทีม A ที่มีแต่กองหน้าทั้ง 11 คนเล่นอยู่ในสนาม (ให้เป็น"รูนี่"ทั้ง 11 คนเลยก็ยังได้) เตะกับทีม B ที่เป็นทีมตามปกติสิครับ

อีกเรื่องที่ผู้เขียนบอกคือ "สงครามให้อะไรแก่มนุษยชาติบ้าง" นอกจากความล่มจม ย่อยยับ ประชาชนเดือดร้อน บ้านแตกสาแหรกขาด มีคนตายมากมายก่ายกอง

โอยยิ่งพูดยิ่งยาวสวัสดีครับ

 

  • คุณเปมิชสรุปได้ดีครับ
  • ต่างคนก็ต่างความคิด อ่านเองแล้วคิดตามไปด้วยถึงจะได้ครับ
  • ยิ่งอ่านก็ยิ่งได้
  • ยิ่งทำก็ยิ่งรู้
  • เหมือนอย่างการสร้างบล็อกเขียนบันทึกนี่ครับ ยิ่งทำก็ยิ่งได้ และยิ่งให้ก็ยิ่งได้
  • อย่างที่เรากำลัง ลปรร.กันนี่แหละครับ

คลับคล้ายคลับคลาคำพระว่า  กาลามสูตร  พระพุทธองค์ว่าอย่าเชื่อสิ่งที่เขาว่า  ต้องพิสูจน์ 

ความศรัทธากับความหลงเป็นฝาแฝดกัน  เมื่อศรัทธาใครก็จะทำให้เราหลงเชื่อคนๆนั้นอย่างสนิทใจ 

ที่บอกว่าเห็นด้วยกับคุณเป็นกลางเพราะได้พิสูจน์ด้วยตนเองมาแล้ว  สิ่งที่คุณเป็นกลางพูดล้วนเป็นความจริง  3 ปีเต็มที่ได้คบหากับเล่าชวนหัว  เริ่มแรกด้วยความศรัทธานับถือกันฉันท์พี่น้อง  ด้วยความจริงใจช่วยเหลือในทุกสิ่งที่เขาออกปาก  ปีแรกๆรู้สึกดีมากทำให้เราตายใจ  แต่สุดท้ายก็ฉวยโอกาสทำร้ายเรา  ก็ได้แต่เตือนคนที่ไม่รู้เท่าทันให้ระวัง  คนๆนี้อันตรายและน่ากลัว  ประวัติตั้งแต่เล็กจนถึงปัจจุบันจากคำบอกเล่าของเขาเอง   เรียกว่า  ซาตานก็ไม่ผิด  

เคยมีผู้อ่านจากโต๊ะจีนของเล่าชวนหัวในผู้จัดการบอกว่า  ไม่ต้องสนใจพฤติกรรมของเขาอ่านแต่สิ่งที่เขาเขียนก็พอ  ถ้าคิดเช่นนั้นก็จะเป็นช่องทางให้คนที่ไม่รู้อาจจะตกเป็นเหยื่อ  เหมือนกับที่เราเคยประสบมา  

เราเชื่อในกฏแห่งกรรม  กรรมใดใครก่อต้องได้รับผลกรรมนั้นแน่นอน   

ต้องขออภัยคุณสมลักษณ์ที่แสดงความเห็นในนี้  เพียงเพราะไม่อยากเห็นใครต้องประสบเคราะห์กรรมเหมือนเรา  ที่หลงศรัทธาโดยไม่ศึกษาให้ถ่องแท้เสียก่อน 

  • ศรัทธาต้องใช้ควบคู่กับปัญญาครับ
  • กฏแห่งกรรมมีแน่นอนครับ ตัวจิตจะบันทึกกรรมคือการกระทำเอาไว้ครับ
  • เล่าชวนหัวตอนนี้อายุประมาณเท่าไรครับ
  • ขอบคุณ คุณนุชที่เข้ามาลปรร. อีกครั้ง การลปรร.ไม่มีถูก-ไม่มีผิดครับ พลังแห่งความต่างสร้างโลกครับ

ขอบคุณค่ะ  

เล่าชวนหัว  เกิดปีระกา  2489

รู้จักคบเขาในปี  2543  จากรายการร้อยแซ่พันธุ์มังกร 97.5

เพราะศรัทธาในเรื่องจีนเหมือนหลายๆคนที่คล้อยตามในสิ่งที่เขาเขียน  จึงเกิดวิบากกรรม  หลังจากนั้นจิตตกมาก  แต่มีกัลยาณมิตรให้กำลังใจจึงผ่านพ้นวิกฤติมาได้  ซึ่งเป็นเรื่องที่สาหัสที่สุดในชีวิต  ถือเป็นบทเรียนราคาแพง   เป็นเพราะมั่นใจตัวเองและมองโลกในแง่ดีมากไป  ซึ่งผู้ใหญ่หลายท่านดูออกและตักเตือนว่าไม่น่าคบ  ทั้งที่ก่อนหน้าจะรู้จักคนๆนี้ก็มีนิมิตเตือนแต่  ตีความไม่ออกจึงทำให้พลาด   จึงทำให้ระวังตัวมากขึ้นในการคบคน  

 

  • ขอบคุณครับสำหรับทุกความเห็น
  • คุณนุชมี Blog ไหมครับจะได้คอยติดตามผลงาน
  • ไม่ทราบว่าคุณนุชเคยแวะไป Blog ของคุณหมอวัลลภไหมครับ
  • ตอนนี้ผมเป็นแฟน (Blog) ของคุณหมอวัลลภ กับอาจารย์สมล้กษณ์ไปซะแล้วครับ
  • ความรักทำให้คนตาบอด คำกล่าวนี้ก็มิผิดครับ ไม่ว่ารักกันในฐานะอะไร เพื่อน พี่ น้อง ฯลฯ
  • จิตที่ดีควรจะว่าง ไม่ควรมีสิ่งปรุงแต่ง ตกอยู่ใน โลภะโทสะ หรือ โมหะจริตมาครอบงำ มีแต่สติ
  • ผมก็เชื่อในกฎแห่งกรรมครับ บางทีกรรมอาจจะมาช้าไปบ้าง (ตามความรู้สึกของเรา) แต่กรรมก็จะมาถึงผู้ทำกรรมในวันหนึ่งครับ
  • ไม่คบคนพาลเป็นมงคลชีวิตครับ ผมจำไม่ได้ทั้งหมด ทั้ง 38 ประการ ไม่รู้ว่าอาจารย์สมล้กษณ์หรือคุณหมอวัลลภ จะเอาเรื่องมงคลชีวิตมาต่อจากเรื่องสังเวชนียสถานหรือไม่ครับ ถ้ายังไม่มี Idea อะไร ผมขอ request เรื่องมงคลชีวิตนะครับ ฝากบอกคุณหมอวัลลภด้วยครับ
  • ผมเคยมีหนังสือเรื่องมงคลชีวิต แต่ยกให้ตคนอื่นไปแล้ว เพราะผมรู้สึกว่าเขาควรอ่าน
  • ปกติผมชอบให้ของขวัญเป็นหนังสือครับ ให้ดอกไม้เดี๋ยวก็เหี่ยว หนังสืออยู่ได้นาน อย่าให้ตกน้ำตกไฟก้แล้วกัน
  • ปกติผมเป็นคนขี้อายมากครับ คุยไม่เก่ง (โทรศัพท์เหมาจ่ายผมขาดทุนทุกเดือน) แต่ไม่รู้ทำไม เวลาเขียน แล้วมักจะยาวทุกที สวัสดีครับทุกๆ ท่าน
สามกั๊ก เมาไม่กลับ

ผมอ่านมาหลายรอบ หลายฉบับ เริ่มจากของยาขอบ(ของพ่อ ..)ตั้งแต่อายุ 11 ขวบ ตอนนี้หาไม่เจอแล้วไม่ได้เก็บไว้ (เสียดาย)เพราะซื้อฉบับพิมพ์ใหม่ สมัยสนามหลวง ต่อมาของฉบับหอสมุดฯ, การ์ตูนญี่ปุ่น ฉบับที่เขียนใกล้เคียงตยฉบับ VCD ๕๖ แผ่น (ขอยืมแฟนเก่ามาไรด์) ตอนนี้ 40 ปี ก็ยังหยิบมาอ่านเรื้อย ๆ หรือเมื่อรู้สึกว่าสมองคิดอะไรไม่ออก เฉื่อยชา ก็จะทำให้รู้สึกกระตือรือล้นสมองแล่นเกิดความมั่นใจ

1.ผมว่าอย่าเอาเรื่องในนินายที่แต่งมาเทียบกับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ เพราะจุดประสงค์การประพันธ์คนละเรื่องกัน (แต่ก็สนุกดี) เนื้อหาทางประวัติศาสตร์ก็ไม่ใช่เรื่องจริงเสมอไปดูเรื่องไทยกับพม่าครั้งอยุธยาซิ

2. เมื่อเราคุยเรื่องสามก๊ก น่าจะแยกว่าคุยเรื่องนิยายสามก๊ก หรือประวัติศาสตร์จีนในช่วงเวลาเมื่อเทียบกับในนิยายสามก๊ก การถกเถียงน่าจะออกอัถรสมากกว่า และอ่านสนุกขึ้น กว่าจะไปคอยจับผิดความคิดตัวละครมากไป และเพื่อเป็นการมองหาแง่มุมความคิดในตัวละครมากกว่าไปวิเคราะห์บุคคลในประวัติศาสตร์จีน

3. ในเมื่อเป็นเรื่องแต่งย่อมต้องมีตัวเดินเรื่อง และตัวเดินเรื่องส่วนใหญ่จะเป็นพระเอก พระเอกก็ต้องเก่ง ถ้ายึดเอาชีวิตจริงมาเทียบ ว่าขงเบ้งเก่ง หรือสุมาอี้ หรือใคร่เก่งสุด คงไม่ได้เพราะการที่ขงเบ้งเก่งคาดการได้ถูกต้องเพราะผู้แต่งตั้งใจให้เป็นเช่นนั้น แรกๆอ่านไปก็เคยคิดแผนตามไปด้วย บางคร้งถ้ามีเหตุการณ์ผลิกผันดินเดียวก็แผนคงไม่สำเร็จเหมื่อนที่วางไว้ แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นเรื่องก็ไม่สามรถดำเนินต่อไปได้ หรือกลายเป็นเรื่องอื่นไป

4. ในโลกแห่งความเป็นจริงไม่มีใครสามารถเก่งได้คนเดียวต้องประกอบหลายส่วนทั้งพลทหาร นายกอง แม่ทัพ กุนซือ และเจ้านาย และจิตใจทั้งกองทัพ กล้าหาญ หวาดกลัว โกรธ ฉุนเฉียว เช่นตอนท้ายที่ขงเบ้งดื้อดึงยกทัพไปถึง 6 คร้งก็ล้มเหลวทุกครั้ง ผิดกับเมื่อก่อนที่เป็นคนสุขุมรอบครอบ ก็อาจวิเคระห์ไปได้ว่าจิตใจเข้าอาจเปลี่ยนไปตามการเวลา และสถาณการณ์รอบข้าง เช่นอาจเป็นโรคซึมเศร้า จากเหตุการต่าง และผู้คนรอบข้างที่ล้มหายตายจากไป (คิดเล่นๆ แต่จริงใจ) อันนี้เป็นสัจะธรรมของมนุษยชาติ ดังนั้นเราน่าจะตั้งกระทู้ที่เกี่ยวกับเรื่องนิยายสามก๊ก จะได้ช่วยกันวิเคราะห์วิจารณ์ ไม่ต้องมาพูดถึงประวัติศาสตร์ชนชาติจีน น่าจะมันกว่า  ......

   

เรียนคุณนุช

  1. เล่าชวนหัวปีนี้ก็อายุ 60 แล้ว
  2. ผมคิดว่าเขาเป็นคนจีน แต่อ่านดูที่คุณนุชเขียนมา น่าจะเป็นคนไทยนะครับ ช่วยเฉลยหน่อย
  3. เล่าชวนหัวอาจจะอินกับกลอุบายต่างๆ ของจีนมากไปหน่อย ก็เลยเป็นคนไม่จริงใจ (ในสมองมีแต่แผนการณ์ที่จะเอาเปรียบคนอื่น)
  4. ผมว่าคนที่ไม่มีคุณธรรม ที่มีความรู้ในบ้านเราก็เป็นแบบนี้
  5. คือคนที่มีความรู้ มักจะเอาเปรียบคนอื่นนะครับ
  6. ผมอยากคบกับชาวบ้านธรรมดา ที่ไม่ได้เรียนหนังสือมาก (แต่มีความรู้) เป็นคนที่จริงใจ จริงจัง และซื่อสัตย์นะครับ

เรียนคุณเปมิช

  1. คุณเปมิชได้ใช้ Blog ของผม B2B กับคุณนุชแล้วครับ... ยินดีครับ
  2. ขอบคุณที่คุณเปมิชเป็นแฟนพันธุ์แท้ของหมอวัลลภและ beeman (เป็นคนแรกเลยครับที่ต้องบันทึกไว้ เพราะบอกตรงๆ เลย...ขอบคุณครับ)
  3. เรื่องที่ ลปรร. กับคุณนุช ผมเห็นด้วยครับ
  4. เรื่องมงคล 38 ประการเป็นเรื่องน่าสนใจนะครับ ต้องทำเป็น series ผมสนใจที่จะเขียนครับ ยังไงชวนอาจารย์หมอวัลลภเขียนก่อนนะครับ ผมคงจะเขียนตอนเปิดเทอม ถ้าเป็นไปได้ สัก 3-4 เดือนก็คงจะจบ 38 ตอน หรืออาจจะเหลือ 20 ตอนก็ได้
  5. ข้อสุดท้ายนี่เรื่องพูดไม่เก่งนี่เหมือนผมเลย เวลามีคนมากๆ หรือพูดแบบพิธีการจะพูดไม่เก่ง แต่ถ้าคุยกับคนที่รู้ใจจะสนุกมาก (เมาท์คนเดียว) ผมจึงเป็นนกเพ็นกวินครับ พูดไม่เก่ง แต่การเขียนนี่ใช้ได้ดีทีเดียวเลยครับ

เรียนคุณสามกั๊ก เมาไม่กลับ

  • คุณสามกั๊ก อ่านสามก๊กอายุไล่เรี่ยกับผมครับ
  • การลปรร.ของคุณสามกั๊กนี่น่าสนใจทีเดียว คือ เรากำลังพูดถึงวรรณกรรมเรื่องสามก๊ก ดังนั้นสิ่งที่เราพูดถึงกันคือตัวละคร ดังนั้นเราต้องเอาเรื่องราวตัวละคร ในหนังสือสามก๊ก (ผมใช้ของเจ้าพระยาพระคลัง (หน) เป็นส่วนใหญ่) มาวิเคราะห์-วิจารณกันจะสนุกกว่าและไม่เสียอรรถรสครับ
  • ส่วนเรื่องประวัติศาสตร์ ก็น่าจะแยกประเด็นมาคุยกันในคราวหลัง โดยกำหนดให้ไปอ่านหนังสือกันมาก่อน (ให้บอกที่มาของหนังสือประวัติศาสตร์) และควรเป็นหนังสือเล่มเดียวกันด้วย อย่างในหนังสือประวัติของพระเจ้าตากสิน ยังมีหลาย Version เลย (ไม่รู้จะเชื่อใครดี)
  • เป็นอันว่าเราพูดถึงวรรณกรรมหรือนิยายเรื่องสามก๊กกันนะครับ ในการลปรร.
  • เรื่องการทำงานเป็นทีมนี่น่าสนใจมาก
  • อาจจะมาวิเคราะห์กันว่าทำไมขงเบ้ง จึงไม่ประสบความสำเร็จ (รวมสามก๊กให้เป็นก๊กเดียวได้) เพราะว่าขงเบ้งไม่สามารถสร้างทีมงานที่ทำงานเป็นทีมเข้าขากันได้ จึงทำให้การทำงานของเขาไม่บรรลุวัตถุประสงค์ครับ
  • ที่วิเคราะห์ว่าขงเบ้งเป็นโรคซึมเศร้าก็น่าสนใจครับ แต่โรคหนึ่งที่ผมนึกได้ตอนนี้คือ ขงเบ้งน่าจะมีปัญหาเรื่องสุขภาพและเป็นโรคหัวใจด้วยครับ
  • คบบัณฑิตเป็นมงคลชีวิตนะครับ
  • เขาเป็นใครก็ช่างครับ ถ้ารู้ว่าไม่ดีก็อยู่ห่างๆ ไว้เป็นมงคลชีวิตอีกครับ

ความเห็นของคุณ สามกั๊ก เมาไม่กลับ เป็นความเห็นที่ดีครับ

  • (ข้อ 4 ) ผมคิดว่า ขงเบ้งเป็นคนรับผิดชอบครับ รับงานจากเล่าปี่ว่าจะช่วยรวบรวมแผ่นดินมาแล้ว แม้เล่าปี่จะไม่อยู่แล้วแต่งานยังไม่เสร็จก็จะต้องทำต่อไปครับ
  • ผมคิดว่าเขารู้ว่าเวลา (ของเขา) เหลือน้อยเต็มทีแล้ว ก็เลยเกิดอาการลน (เหมือนเวลาสอบกำลังจะหมด แต่เราเพิ่งทำไปได้แค่ครึ่งเดียว)
  • ด้วยความรับผิดชอบ ถึงแม้จะรู้ล่วงหน้าว่าศึกนี้จะแพ้กลับมาก็ยังต้องยกไป (เพราะบางทีอาจมีฟลุ๊ค เหมือนคนซื้อหวย รู้ทั้งรู้ว่าโอกาสถูกกินมีถึง 99.99 % แต่ก็ยังซื้อทุกเดือน อันนี้ยิ่งกว่าขงเบ้งหลายเท่า) 
  • การรู้ว่าจะต้องแพ้แล้วนอนตีพุงอยู่บ้านเฉยๆ นั้นหาได้ไม่ การสืบไปภายหน้าผู้คนก็จะก่นด่าขงเบ้งได้ว่า เป็นคนไม่รับผิดชอบ รับงานมาแล้วไม่ทำให้สำเร็จ เอาแต่กินกับนอน
  • ครั้งหนึ่งผมไปร่วมกีฬา 8 เกียร์ที่ลาดกระบัง มีแมทช์เทนนิสอยู่แมทช์หนึ่ง ที่รุ่นพี่ผมต้องแข่งกับตัวแทนจากจุฬา เมื่อถึงเวลาแข่งแล้วก็ยังไม่เห็นเงารุ่นพี่ผม จนหมดเวลาแข่ง เราก็ไปถามรุ่นพี่คนนั้นว่าทำไมไม่มาแข่ง เขาบอกว่า ก็จุฬาเป็นทีมชาตินี่ ขืนมาก็โดนต้อนจนลิ้นห้อยน่ะสิ ผมว่า...ถ้าใครคิดแบบนี้ก็เลิกเป็นนักกีฬาเสียเถอะ
  • แต่รุ่นพี่ผมอาจคิดว่า "รู้เขารู้เรา รบศึกร้อยครั้งมิพ่าย" ก็เป็นได้
  • กลับมาที่ขงเบ้ง แม้รู้ว่าจะต้องแพ้กลับมา แต่ตัวเองก็ขอฝากชื่อให้โลกระบือต่อไปอีกหลายพันปี (ว่าเป็นคนรับผิดชอบ) ก็เลยต้องยกทัพไป จนวาระสุดท้ายของชีวิต (Keep on fighting till the end, Queen : We are the champion)
  • ตรงนี้สอนผู้อ่านว่าต้องรู้จักเป็นคนรับผิดชอบจนสุดชีวิต
  • ถึงแม้จะแพ้ แต่ขงเบ้งก็ยังคงรักษารูปมวยเอาไว้ได้ตลอดทุกครั้ง ไม่เคยย่ำแย่จนต้องจนตรอกแบบสุมาอี้แม้สักครั้งเดียว เหมือนกับที่คุณเป็นกลางได้กล่าวไว้ข้างบน

หวังว่าข้อเขียนนี้ของผม คงไม่ทำให้คนที่กำลังจะอ่านเสียอรรถรสนะครับ

ถือว่าเป็นการกระตุ้นให้ค้นหาว่า ที่ผมพูดอยู่ตอนไหนของเรื่องก็แล้วกันครับ

ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านและผู้ร่วมคุยครับ

  • ผมเขียนในเวลาเดียวกันกับอาจารย์เลยหรือนี่
  • เพียงแต่เคาะตีพิมพ์ต่างเวลากันเท่านั้น
  • เดี๋ยวจะหาว่าคุยไม่รอบวง คุณ korawee อ่านฉบับของใครอยู่ครับ
  • ถ้าอ่านของเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ผมคิดว่าน่าจะอ่านรวดเดียวยาวไปเลยจนจบนะครับ ให้รู้ก่อนว่าอะไรเป็นอะไรและใครเป็นใคร แล้วค่อยมาอ่านอีกรอบ จดไว้ก็ได้ครับว่าตอนเด่นๆ หรือตัวละครที่ชอบ อยู่หน้าไหน แล้วค่อยกลับมาอ่านซ้ำ
  • ผมคิดว่าคนที่อ่านมารอบนึงแล้ว คงไม่มีใครที่ไม่อยากอ่านอีก แล้วก็อ่านอีก ครับ
  • คิดถึงแฟนพันธุ์แท้สามก๊กครับ ใครจำได้บ้างครับไปชวนน้องเค้ามาคุยกับเราหน่อยก็น่าจะดีนะครับ

ที่อาจารย์บอกว่า"ได้ใช้ Blog ของผม B2B กับคุณนุชแล้วครับ' เป็นยังไงครับ ผมเองยังไม่ค่อยคุ้นกับ Blog สักเท่าไหร่ ปกติใช้แต่เว็บบอร์ดครับ

  • ต้องขอบคุณอาจารย์เช่นกันครับ ที่เปิดประเด็นให้ผมมีโอกาสได้คุย หาไม่แล้ว ก็คงไม่ได้คุยกัน
  • ปกติผมคุยได้ (ยาวๆ) กับคนที่คุยเป็นเรื่องเป็นราวครับ เลยมีคนบอกว่าผมเป็นคนซีเรียสบ้าง บางคนก็ว่าผมปากเสียบ้าง
  • ถ้าเปรียบเว็บบอร์ดต่างๆ เป็นที่คุย (แลกเปลี่ยนความคิด) กับคนแปลกหน้า ผมว่าที่นี่เป็นที่ที่น่าคุยที่นึงครับ

คุณเปมิช   ขอบคุณที่แนะนำ  นุชคุยด้วยได้แต่ทำอะไรกับคอมไม่เป็นต้องอาศัยเด็กๆช่วยทำให้ค่ะ  นุชเคยอ่านมงคลชีวิต 38 ประการ  และหนังสือธรรมะของอาจารย์หลายๆท่าน  รับกรรมฐานจากท่านอาจารย์สรวง  วัดถ้ำขวัญเมือง  จ. ชุมพร  ก็ปฏิบัติและพยายามสร้างแต่ความดี  พบแต่สิ่งดีๆ  และกัลยาณมิตรมาตลอด  แต่คงเป็นวิบากกรรม  เพราะจิตที่ดีจึงไม่คิดว่า  เขาจะกล้าทำกับเราได้  เขาเป็นคนจีนกวางตุ้งเหมือนนุช และเป็นรุ่นพี่  รร. เดียวกัน  ทำให้เกิดความสนิทใจว่าเป็นคนกันเอง  ตอนที่รู้จัก เขาตกงานเป็นนักเขียนไส้แห้ง  จึงเกิดความเห็นใจ  ช่วยเหลือเสมือนเป็นพี่แท้ๆ  คุณสมลักษณ์วิเคราะห์เขาได้แม่นยำมาก  สามก๊กที่เขาเรียนรู้มาเขาเอามาใช้ในชีวิตของเขาตลอดเวลา  แต่เป็นในทางเลวร้ายและไม่จริงใจกับใคร  แม้กับผู้มีพระคุณหรือเพื่อนในวงการ  เขาก็ให้ร้ายลับหลังได้  เลิกคบเขาได้เพราะกรรมดียังมี  ที่ว่านิมิตให้รู้แต่ตีความไม่ออกคือ  ก่อนรู้จักเขา  ในนิมิตรู้สึกว่าตกไปในเหวลึกลงไปลิ่วๆ  ตามืดบอดมองอะไรก็ไม่เห็น ตกใจมาก  สักพักในจิตก็ภาวนา นะโมพุทธายะๆๆ  แล้วเห็นแสงสว่างตาก็หายมืดบอด  เมื่อเกิดเหตุการณ์แล้วจึงเข้าใจ  ตอนนั้นยอมรับว่า เขาพูดอะไรเชื่อหมด  เขามีจิตวิทยา  สร้างภาพ  กว่าจะรู้ก็เสียน้ำใจ เสียเวลาไปมากมาย  ที่รู้จากเขา  ตัวเขาเองก็สร้างกรรมกับคนอื่นมาไม่น้อย  จึงได้แต่เตือนเพื่อนเวบที่อ่านคอลัมภ์ของเขา  ให้ระวังคนชื่อ เล่าชวนหัว 

นุชจะแวะไป blog คุณหมอวัลลภตามที่คุณเปมิชแนะนำค่ะ 

เรียนคุณนุช

  • คุณเปมิช คงได้ติดตามมาอ่านแล้วครับ
  • ขอขอบคุณ คุณนุชที่เอาเรื่องประสบการณ์การคบคนมาเล่าครับสนุกดีครับ (แต่คุณนุชคงไม่สนุก)
  • รู้สึกว่าคนที่เข้ามาอ่านบันทึกของผม ส่วนหนึ่งจะต้องเป็นคนที่มีธรรมมะ ในจิตใจนะครับ และส่วนหนึ่งก็เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมด้วยครับ
  • ขออภัยที่มาตอบช้าไปหน่อยครับ
  • อ่านแล้วครับแต่ไม่ว่างตอบ
  • ความรู้ถ้าเอาไปใช้ในทางที่สร้างสรรค์ก็จะเกิดประโยชน์แก่โลกได้อย่างมากมายครับ เช่น เทคโนโลยีนิวเคลียร์ ถ้าเอาไปทำโรงไฟฟ้าก็จะได้พลังงานที่สะอาด กว่าถ่านหินและน่าจะดีกว่าน้ำมัน แต่ถ้าเอาไปทำระเบิดนี่ก็แย่หน่อยครับ
  • ถ้าโลกนี้ไม่มีอาวุธและไม่มีสงคราม โลกเราก็คือสวรรค์ดีๆ นี่เองครับ แต่เสียดายที่ โลภะ โทสะ โมหะจริต และอวิชชาเข้าครอบงำคนจำนวนมาก ให้ลุ่มหลงในอำนาจ (อันจอมปลอม) และสงคราม (รวมถึงเรื่องไม่ดีทั้งปวง)
  • ถือเสียว่าเราได้มาใช้กรรมเถอะครับ เพราะถ้าเราไม่ใช้ในชาตินี้ ชาติหน้าเราก็ต้องมาเจอเจ้ากรรมนายเวรของเราอยู่ดีครับ
  • Blog ของคุณหมอวัลลภอยู่ที่นี่ครับ
  • สุขภาพ4u  http://www.gotoknow.org/health2you
  • ผมรู้จัก Blog ข้างบนเพราะเพื่อนคุณหมอวัลลภเป็นคนแนะนำ ให้มาเก็บเกี่ยวสาระเพื่อเอาไปออกอากาศทางสถานีวิทยุชุมชนใกล้ๆ บ้านแต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้เอาไปออกอากาศสักที เพราะผมคิดว่าที่สถานีจะมีอินเตอร์เน็ตจะได้เปิดเครื่องปุ๊บก็สามารถอ่านจากจอได้ทันที แต่ปรากฎว่าที่สถานีไม่มีอินเตอร์เน็ตก็เลยยังไม่ได้ดำเนินการครับ

เรียนคุณเปมิช

  • คนเราถ้ามีกิเลสน้อยหน่อย โลกเราก็จะมีความสุขครับ
  • ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเรา คิดว่าเกิดมาใช้กรรมก็สบายใจดีนะครับ
  • ตอนสุดท้ายบอกที่มาที่ไปของ การติดตามบล็อกของอาจารย์หมอวัลลภ ต้องขอบคุณครับ
  • แต่ว่าที่มาที่ไปของ "สามก๊ก" เป็นอย่างไรบ้างครับ

ค่ะ  คุณเปมิชและคุณสมลักษณ์ 

เพราะคิดได้เช่นที่คุณว่าและกำลังใจจากคนรอบข้างจึงยืนหยัดได้    ไม่เช่นนั้นคงคิดสั้น   คิดว่าชีวิตเรามีค่ามาก  ยังสามารถทำความดีเพื่อเป็นปัจจัยไปภายหน้าได้ 

ได้เข้าไปเยี่ยม  blog  คุณหมอวัลลภตามที่คุณเปมิชแนะนำ

ได้ความรู้มากมาย  ขอบคุณค่ะ 

คิดสั้นไม่ใช่เรื่องดีครับ

  • ผู้รู้บอกว่าต้องมาชดใช้กรรมอีก 500 ชาติ เช่น ชาตินี้คิดสั้นตอนอายุ 30  ชาติต่อๆ ไปตอน อายุ 30 เราก็ต้องมาเจอวิบากกรรมอย่างนี้อีก โทษหนักกว่าประหารชีวิตอีกครับ
  • ลองคิดถึงหัวอกคนที่รักเรา เช่น พ่อ แม่ พี่น้อง ไว้บ่อยๆ ครับ เขาคงไม่อยากให้เราทำอย่างนั้นแน่

  • ครับชีวิตเป็นสิ่งมีค่ามาก ใครจะรู้ว่าชาติหน้าจะมีโอกาสเกิดมาเป็นอย่างไร จะเป็นคนอีกหรือปล่าวก็ไม่รู้
  • การเกิดมาเป็นคน ทำให้ได้มีโอกาส บำเพ็ญเพียร ทำสมาธิ วิปัสนาต่างๆ ได้ ถ้าเกิดมาเป็นอย่างอื่น หรือแม้กระทั่งเป็นเทวดา ก็ไม่สามารถทำอย่างนี้ได้
  • การได้เกิดมาเป็นคนนับเป็นบุญอย่างนึง ซึ่งเราได้เคยสร้างไว้ในอดีต

 

  • ครับ ความทุกข์ความสุขล้วนเกิดจากใจ ใจเราอยากทุกข์เราก็ทุกข์ (เก็บเรื่องราวภายนอกมาเป็นอารมณ์) ถ้าปล่อยวางได้เราก็สุข จุดมันอยู่ตรงนี้ครับ แต่คนส่วนใหญ่ทำไม่ค่อยได้
  • ผมเองก็กิเลสเยอะครับ ไม่รู้จะตัดออกไปยังไง ไปร้านหนังสือไม่ค่อยได้ อยากได้เล่มนั้นเล่มนี้อยู่เรื่อย
  • ผมคิดว่าคนเราต่างก็มีมีกรรมครับ มีทฤษฎีของคุณแม่ผมที่ยังไม่เคยไปเผยแพร่ในที่สาธาณะที่ไหนคือ ทฤษฎีที่คุณแม่เรียกว่า "Classify of กรรม" คุณแม่กล่าวว่า คนที่มีกรรมอย่างเดียวกันมักจะมาอยู่ร่วมกัน ซึ่งผมพบว่าเป็นคำกล่าวที่มิผิดไปจากความจริงเท่าไรนักครับ
  • ดังนั้นคนมีกรรมก็ต้องชดใช้ ไม่ใช้ชาตินี้ ชาติหน้าก็ต้องใช้ กรรมไม่หายไปไหน คล้ายๆ กฎทรงมวล (ในวิชาเคมี)ของใครก็จำไม่ได้แล้วครับ
  • เมื่อเจอเรื่องร้ายๆ ก็คิดเสียว่า เราคงเคยทำอะไรไว้กับใคร ในอดีต ช่วยให้สบายใจได้มากครับ
  • ว่าแล้วก็แผ่เมตตาบ่อยๆ เจ้ากรรมนายเวรและสรรพสัตว์ทั้งหลาย
  • ครับ ถ้าไม่ได้เพื่อนคุณหมอวัลลภแนะนำมา ผมก็คงยังไม่รู้จักที่นี่
  • สามก๊กนั้นเขาว่ากันว่า เป็นเรื่องจริง 7 ส่วน แต่งขึ้น 3 ส่วน จริงเท็จประการใดนั้นมิอาจทราบได้ คงต้องค้นต่อไปครับ
  • เคยดูสารคดี ฝรั่งตามหาเมืองทรอย ทำไมไม่มีใครทำสารคดีตามรอยขงเบ้งบ้าง เพราะกระดูกคนที่ตายกันเป็นแสนเป็นล้าน แค่สามพันปีคงจะมีเหลือร่องรอยอยู่บ้าง
  • ผมเองก็มิใช่ผู้เชี่ยวชาญ เป็นแค่ผู้อ่านธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้นเองครับ จะเอาไปเทียบกับแฟนพันธุ์แท้สามก๊กนั้นหาได้ไม่
  • ไม่รู้น้องเค้าเล่นเน็ตไหม น่าจะไปตามมาร่วมคุยกัน

ขอบคุณผู้อ่านทุกท่าน และทุกความเห็นครับ

 

 

ค่ะ  คุณเปมิช  ที่แจกแจงมาทั้งหมด  เรียนรู้ด้วยความเข้าใจและแนะนำบอกกล่าวผู้อื่นเสมอมา   แต่เมื่อเกิดเหตุกับตัวเอง  ณ.เวลานั้นมันรู้สึกร้ายแรง  และเข้าใจเลยว่า  คนที่คิดฆ่าตัวตายเพราะหาทางออกไม่ได้  ถ้าเวลานั้นเขามีคนอยู่ข้างๆคอยช่วยเหลือให้กำลังใจประคองจิต  ก็คงจะผ่านวิกฤตนั้นได้  เพราะปัญหาทุกปัญหาแก้ได้  เพียงต้องใช้เวลา  ให้โอกาสกับตัวเอง  และตั้งสติให้ได้   คนเหล่านั้นถ้าคืนชีพมาได้ก็คงจะบอกว่า  ไม่น่าเขลาเลย 

เพียงแต่บางเวลาคิดว่า  ทำดีเป็นผู้ให้กับทุกคนตามกำลังที่สามารถทำได้  กลับมีผลกลับมาเป็นเช่นนี้   ผู้ใหญ่ปลูกฝังตั้งแต่เด็กว่า  好心有好报 (ห่าวซินโหย่วห่าวป้าว) จิตใจดีก็จะพบแต่สิ่งดี   (เลยบ้า..ดี) 

ถ้ามีกรรมต่อกันอย่างคุณเปมิชว่าก็ยินดีใช้คืนเขาไป  แต่ถ้าไม่มีล่ะ  ยังหาคำตอบไม่ได้   แต่ตอนนี้ไม่ทุกข์และคิดว่าโชคดีที่หลุดพ้นบ่วงกรรมนั้นมาได้ (ตาสว่าง) 

ไว้จะช่วยคุณเปมิชตามหาน้องแฟนพันธุ์แท้สามก๊กให้ค่ะ  

     

นี่ครับ

เปิดใจพ่อ"น้องปราบ"แฟนพันธุ์แท้สามก๊ก
โดย ผู้จัดการรายวัน 9 กุมภาพันธ์ 2547 09:39 น.
 
พล.ต. วุฒฒินันท์ ลีลายุทธ
ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักบริหารทรัพยากร กองบัญชาการทหารสูงสุด
(คุณพ่อ เด็กชายนันทสุทธิ์)
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=4738234144448

แต่ไม่รู้จะติดต่อน้องเค้าได้ยังไง

นี่ครับ

เปิดใจพ่อ"น้องปราบ"แฟนพันธุ์แท้สามก๊ก
โดย ผู้จัดการรายวัน 9 กุมภาพันธ์ 2547 09:39 น.
 
พล.ต. วุฒฒินันท์ ลีลายุทธ
ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักบริหารทรัพยากร กองบัญชาการทหารสูงสุด
(คุณพ่อ เด็กชายนันทสุทธิ์)
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=4738234144448

แต่ไม่รู้จะติดต่อน้องเค้าได้ยังไง

อีกหน่อยครับ

พล.ต.วุฒินันท ์ ลีลายุทธ
รอง ปช.ทหาร

http://web.schq.mi.th/~ocompg/D4.html

  • ขอบคุณครับ
  • แผ่เมตตาและอโหสิให้เขาเถอะครับจะได้เลิกแล้วต่อกัน
  • เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรครับ
  • หาไม่แล้วเราก็จะได้เจอเขาทุกภพทุกชาติ ไม่คุ้มเลยครับ
เรียนคุณเปมิช  ได้ติดต่อคุณแม่น้องปราบ  ทราบว่าขณะนี้น้องปราบไปเมืองจีน  แต่ได้ให้  webblog  ไปคิดว่าถ้าน้องกลับมาคงได้ร่วมแสดงความเห็น

ขอบพระคุณมากครับ

 

  • ดีใจแทนน้องปราบครับ ที่มีคุณพ่อคอยให้การสนับสนุน ในด้านต่างๆ นะครับ
  • เหตุที่สุมาเต็กโชไม่เคยแสดงฝีมือในการรบเพราะสุมาเต็กโชเป็นนักบวช (ผู้บำเพ็ญพรต) ในลัทธิเต๋า (น.171)
  • การที่ผู้บำเพ็ญพรตจะไปมีส่วนร่วมในการเข่นฆ่านั้นหาควรไม่
  • ขงเบ้งและชีซีเป็นเพื่อนสนิทกัน (น.173)

สุมาเต็กโชกล่าว (กับเล่าปี่) ว่า

  • ถ้าชีซีจะไป เขาย่อมมีอิสระในการที่จะไป แต่ไฉนจึงจะมาก่อกวนให้เหลียงต้องเผยตนออกมา เพื่อให้ปรากฏความน่าทุเรศเวทนาแก่สายตาของคนอื่นเล่า (น.173)
  • "มังกรหลับ"คงจะได้นาย แต่น่าทุเรศที่เขามิได้ตกฟากในเวลาฤกษ์งามยามดี (น.175)

เรื่องที่สุมาเต็กโชรู้ไฉนเลยบัณฑิตหนุ่มผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้แจ้งฟ้าและรู้รอบตลอดดินจะไม่รู้ และนี่เป็นสาเหตุหนึ่ง (ไม่มากก็น้อย) ที่

  • ขงเบ้งต้องการปลีกวิเวก
  • ขงเบ้งปฏิเสธเล่าปี่ครั้งแล้วครั้งเล่า

 

 

  • สรุปว่า ทุกคนรู้ว่าสถานะการณ์จะเป็นอย่างไร
  • เมื่อสุมาเต็กโชรู้ เหลียงก็ย่อมต้องรู้
  • แต่ที่เหลียงยอมออกไป (จากกระท่อม ณ เขาโงลังกั๋ง)เพราะประทับใจเล่าปี่ ครับ
เพราะเล่าปี่มีคุณสมบัติอะไรต้องเปิด  หัวข้อ "มีภาพจากสามก๊กมาฝาก"  ที่นุชเขียนฝากไว้
  • ครับ เล่าปี่ มีส่วนดีหลายๆ อย่าง ขงเบ้งถึงยอมตามไปด้วย
  • และไม่ใช่เพียงแค่ตามต้อยๆ ไปเฉยๆ การไปครั้งนี้คือการมอบชีวิตทั้งชีวิตให้เล่าปี่เลย
  • ไม่เพียงชีวิตของตนเองเท่านั้น ญาติพี่น้องก็ต้องเดือดร้อนอพยพหลบหนี (ฝ่ายตรงข้ามกับเล่าปี่) ในเวลาต่อมา

 

 

จากการอ่านสามก๊ก สิ่งที่สังเกตได้ในอุปสัยของเล่าปี่ นอกจากที่คุณนุชกล่าวไว้คือ

  1. การรู้จักอุปนิสัยของคน (คล้ายการดูโหงวเฮ้ง)
  2. การรู้จักใช้คน
  3. การรู้จักปกครองคน
  4. เหมือนสมัยนี้เขาเรียกว่า รู้จักครองตน ครองคน และครองงานนั่นแหละครับ
  • ใน version 2.0 เริ่มตั้งแต่ 6 มิ.ย. 49 ถึง 11 ก.ค. 49 มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมแล้ว 189 ครั้ง
ผมต้องการจะซื้อสามก๊กมาไว้อ่านไม่ทราบว่าหนังสือของใครแปลได้ตรงตามต้นฉบับที่สุดครับเพราะมีหลายคนอ่านแล้วไม่ค่อยตรงกัน   ช่วยตอบหน่อยครับกำลังจะซื้อเป็นของตัวเอง

ขงเบ้งมีข้อผิดพลาดหลายครั้งในการรบแม้จะไม่เสียการอย่างใหญ่หลวงให้เสียก๊กก็ตามแต่ว่าการที่ปล่อยให้ทหาร7แสนไปตายด้วยมือของลกซุน(พระเอกของผม)ก้เปงการพลาดครั้งที่1 แล้วการยกไปตีวุยก๊กทั้ง5ครั้งก็ไม่ได้ประสบผลสำเร็จเลยสักครั้งรวมแล้วผิด6ครั้ง ซึ่งจะว่าไปแล้วการที่จ๊กก๊กของเล่าปี่ไม่ได้ครองแผ่นดินอาจเป็นเพราะกวนอูเปงต้นเหตุ เพราะอะไรหลายคนอาจจะงงมาฟังกานต่อครับบ 

ตอนแรกขงเบ้งก่อนจะยกกำลังมาช่วยเล่าปี่ได้ปล่อยให้กวนอูเฝ้าเมืองเกงจิ๋วเอาไว้ซึ่งเปงจุดที่สำคัญมากๆ

เพราะขงเบ้งนั้นวางการรบในอนาคตกับวุยก๊กของโจโฉเอาไว้ว่าต้องตีจากฮันต๋งและเกงจิ๋วทั้งสองทางจึงจะสำเร็จการและทิ้งคำไว้6มั้ง  เหนือรบโจใต้ร่วมซุน

เนีย่ล่ะคับแล้วมีครั้งนึงซุนกวนมาขอแต่งกับลูกสาวกวนอูแต่กวนอูตอบไปว่าลูกเสือไม่คู่ควรกับลูกหมาเท่านั้นล่ะครับโดนบุกตีย่อยยับเนี่ยล่ะครับเต้นเหตุเล่ามาถึงเพียงนี้แค่จะอธิบายว่าคนที่เก่งที่สุดนั้นไม่มีใครเก่งสุดยอดทุกๆด้านมีแต่เก่งคนละด้านนแต่ถ้ารวบๆแล้ว  สุมาอี้ดูจะเด่นสุดรองมาก็ลกซุนเล่ามาซะยาวไปก่อนนะถ้าใครสนใจจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกีย่วกับสามก๊กก็ยินดีมากๆ[email protected]รอทุกคนอยู่นะ

คุณคิดว่าความเก่งประกอบไปด้วยอะไรหรือ? 

สุมาเต็กโช เด่นในด้านปัญญา ความสงบ ด้อยในด้านความกล้าหาญ การเสียสละเพื่อส่วนรวม 

สุมาอี้ เด่นในด้านรอบคอบใจเย็น ด้อยในด้านความกตัญูญยู

ข้งเบ้ง เด่นในด้านความฉลาด ความซื่อสัตย์ และความมีเสน่ห์ ด้อยในด้านความรอบคอบใจเย็น ...วาสนา

 

ถ้าตอบคำถามทางด้านบนผมขอตอบว่าขงเบ้งเก่งสุดครับ

ขอแลกเปลี่ยนความเห็นนะครับ

ผมเคยอ่านเจอ มีคนอ้างว่าในฉบับภาษาอังกฤษ ยกย่องชีซีเก่งที่สุดครับ

ในตอนที่ชีซีมาอยู่กับเล่าปี่ในช่วงแรก ก็ไม่เคยแพ้ใครเหมือนกัน ในส่วนของยุทธวิธีนั้นชีซีได้พิสูจน์แล้วว่าเก่งมากทั้งเรื่องการจัดทัพและแปรรูปขบวนทัพ และเป็นคนดีมีคุณธรรมอีกด้วย มีความกตัญญู ไม่ว่ายังไงการที่แม่โดนจับ ตนก็ต้องไปหาแน่นอน การที่จะทำเมินเฉยต่อผู้เป็นผู้ให้กำเนิดนั้น ผมเชื่อว่าคนดีๆคงทำไม่ได้เป็นแน่

ถึงแม้ชีซีจะไม่เคยเอ่ยถึงยุทธศาสตร์ในอนาคต แต่อย่างน้อย ชีซีก็ไม่ลังเลที่จะบอกแก่เล่าปี่ว่า ควรเชิญขงเบ้งมารับหน้าที่ ที่ปรึกษาแทนตน นับว่าเป็นคนที่ห่วงเล่าปี่ผู้เป็นนายมาก และเมื่อไปอยู่กับโจโฉ ก็ไม่ยอมปริปากออกอุบายใดๆเลย

ถ้าจะกล่าวถึงขงเบ้งนั้น ซึ่งตัวผมก็ชื่นชอบมาก การที่เล่าปี่ไปเชิญถึง 3 ครั้ง นั้นนัยหนึ่งก็คือ วางตนอย่างสงวนตัวไว้ก่อน เพื่อลองใจเล่าปี่ อีกนัยหนึ่งก็คือ ตนรู้อยู่แล้วว่าถึงช่วยเล่าปี่อย่างไร ก็ไม่สามารถรวบรวมประเทศได้  จึงคิดแล้วคิดอีกว่าจะช่วยดีไหม การที่จะสละชีวิตสันโดษ อยู่อย่างสงบร่มเย็นของตนไปสู่การต่อสู้ช่วงชิงที่จะพยายามอย่างไรก็ไม่สำเร็จ แต่แล้วขงเบ้งก็เลือกที่จะช่วยเล่าปี่ เนื่องจากเห็นว่าเล่าปี่เป็นคนมีคุณธรรม ตนไม่อาจที่จะไม่แยแสได้ และถ้าต้องเลือกอยู่ก๊กใดก๊กหนึ่งนั้น ก็ต้องเป็นเล่าปี่

สุมาเต็กโช กับขงเบ้งน่าจะเก่งพอๆกันแต่สุมาอี้ก็เก่งแต่น้อยกว่าเพราะสุมาอี้รบกับขงเบ้งทีไรก็แพ้ทุกที(อาจจะเกือบทุกที) สุมาเต็กโช เป็นครูขงเบ้ง ก็น่าจะถ่ายทอดความรู้ให้จนสุดความสามารถแต่ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าขงเบ้งจะเก่งกว่าเพราะขงเบ้งหาความรู้เพิ่มเติมตลอดเวลา

อืม..คิดอีกทีคนที่เก่งที่สุดก็อาจจะเป็นเกียงอุยเพราะอายุยังน้อยแต่สามารถอ่านแผนขงเบ้งออกซึ่งก็น่าจะมีสิทธิหาความรู้เพิ่มเติมได้มากกว่าคนอื่นๆ

 

ผมว่านะครับ บังทองไม่ใช่ว่าไม่เก่งนะครับ(อันนี้คิดเอาเอง) ตอนที่ขอให้เล่าปี่ไปทางใหญ่แล้วตนไปทางเล็ก คงเป็นเพราะว่ารู้ว่าถ้าเล่าปี่ไปทางเล็กมีสิทธตายดั่งคำขงเบ้งแน่ เลยต้องยอมไปทางเล็กแทน ฉะนั้นบังทองไม่ใช่ไม่เก่งนะครับ (ผมมองโลกในแง่ดีไปไหม) 

 

ท้ายที่สุดตระกูล ซือม่า ของสุมาอี้
ฆ่ากันในสายเลือด 16 ชั่วโคตร

จุดจบของขงเบ้งก็รู้อยู่

ทั้งนี้ทั้งนั้น สุมาเต๊กโซ ถึงไม่มีใครกล่าวแต่คงตายอย่างสงบ

ไม่ใช่ความเก่งที่วัดกัน แต่ที่ปัญญา
ผู้ใช้ปัญญาที่สมควรยกย่องคือ ใช้ปัญญาอย่างมีสติ

อันปัญญาคนทั้งสามคนนี้สุดหยั้งยากเหล่า ลิขิตฟ้ามนุษย์ไม่อาจที่จะฝืน อันท่านขงเบ้งนั้นสื่อสัตย์จงรักภักดีต่อราชวงค์ฮั่นจะช่วยกอบกู้ตากกับสุมาอี้ที่คิดเป็นใหญ่ซะเองคนยังนี้ไม่น่าเลี้ยงเพราะคิดขายเจ้าขายนาย พวกท่านที่ได้อ่านข้อความของข้าพเจ้าจงช่วยดูแลชาติรักษาชาติจงอย่าคิดคดทรยศจงตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ให้สังคมไทยอยู่เย็นเป็นสุขตราบเท่านานเทิด ตัวข้าพนี้ความรู้น้อยถ้าพูดอะไรผิดไปต้องขออภัยด้วย
คนที่เก่งที่สุดในสามก๊ก คือ ลิขิตสวรรค์ครับ ต่อให้หยั่งรู้ฟ้าดินหรือเชี่ยวชาญอาโปกสิณ สุดท้ายก้อแพ้ต่อฟ้า ทำการใหญ่ฟ้าไม่เป็นใจก็ต้องพ่ายแพ้ครับ ขงเบ้ง สุม่าอี้ ได้ลมได้น้ำช่วยมาเท่าไหร่ครับ ลองคิดดู
เพราะแสวงหา มิใช่เพราะรอคอย เพราะเชี่ยวชาญ มิใช่เพราะโอกาสเพราะสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วยดังนี้แล้ว
"ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"

ผมชอบzhugeliang มากสุดๆละ ต่างคนก็คิดว่าที่ตัวละครที่ตนชอบฉลาดหรือเก่งสุดแหละ แม้แต่คนเขียน3ก๊ก เค้าก็ไม่ได้ไปอยุ่ในเหตุการจิงๆซะหน่อย เค้าก็เอาข้อมูลเพียงน้อยนิดมาแต่งให้เราหนุกหนาน ถึงจะว่ามีการค้นคว้าหาข้อมูลก็เถอะ คศ.หลักร้อยเอง ไม่มีไครุ้หรอกว่าความจิงทั้งหมดเปงไง 


                    ปล ป๋มพึ่ง 6 ขวบเองเกิดม่ายทันก๊าบลุงๆ

สามก๊กเป็นเรื่องที่น่าติดตาม อ่านหนึ่งครั้งมีความเห็นแบบหนึ่งอ่านครั้งที่สองก็มีความเห็นและคำถามอย่างหนึ่งอ่านไปเรื่อยๆก็จะมีคำถามและคำตอบในตัวมันเองทั้งนี้แล้วแต่ลักษณะใจคอของแต่ละคนผมคิดว่ามีประโยชน์สอนให้เรารู้จักสภาพการณ์และรู้จักโอนอ่อนผ่อนตามหรือจะแข็งขืนลุมลึกและรอคอยจังหวะแต่ผู้ที่นำหลักการเหล่านี้ไปประยุกค์ใช้นั้นต้องมีคุณธรรมกำกับเคยมีตัวอย่างจริงๆกับคนที่ผมเคยรู้จักเป็นแฟนสามก๊กเหมือนกันแต่เขาใช้ไปในทางที่ผิดเขาสามารถเจรจาทำให้คนอื่นหลงเชื่อเขาได้ ดูมีเหตุและผลทำให้คนอื่นเดือดร้อนเพื่อหาประโยชน์ใส่ตัวเองมานานมากสุดท้ายเขาเรียนผูก บ่ เรียนแก้ทำให้เขาต้องสูญเสียอนาคตและโอกาสหมดต้องค่อยหลบน่าหลบตาคนฝากไว้นะครับเหนือฟ้ายังมีฟ้าแต่ใช้จะอยู่ใต้ฟ้าตลอดทุกนาทีมีโอกาสตราบจนกว่าร่างรวมกลับเป็นพื้นดิน
ผมอายุ18ปีเองอ่านตอน12ติดงอมแงม

ผมอายุ18ปีเองบังอาจแสดงความคิดเห็น

ผมว่าไม่เก่งซักคนเลย

บังทองกับขงเบ้งสุมาเต๊กโชแนะนำว่าถ้าได้มาแค่คนเดียวจะได้เป็นใหญ่แต่เพียงผู้เดียวแล้วดูสิเล่าปี่ยิ่งใหญ่ขนาดไหนโดนลกซุนตีแตกยับเยิน

สุมาอี้ก็โดนขงเบ้งตีแตกตาลีตาเหลือกเป็นตัวตลกในเรื่องสามก๊ก

ลกซุนชนะเพราะเล่าปี่โง่ตั้งกลยุทธผิดและตายแบบไร้ค่าเดียวโดนด่าแล้วตรอมใจตาย

ไม่มีใครสมควรให้ยกย่องเลยแม้แต่คนเดียว

ผมอายุ18ปีเองอ่านตอนอายุ12ติดงอมแงม

อีกอย่างคนที่เก่งที่สุดในความคิดผมคือ

โจโฉเท่าที่ผมจำได้เขาใช้ความสามารถตัวเองก่อนที่จะมีกุยแกและซุนฮกอีกตั้งต้นด้วยตัวเอง

ซุนเซ็กยืมทหารอ้วนสุดด้วยตราหยก

เล่าปี่พึ่งแต่ฝบบุญ

ถ้าลิโป้เชื่อแต่คำตันก๋งก็เป็นก๊กที่น่าจับตามอง

 

เคยได้อ่านงานเขียนของหลายๆ ที่ แม้ในยุคเดียวกันของโจโฉยังเคยยกกุยแกเปรียบเที่ยบกับขงเบ้งว่า แม้เรามีกุยแกอยู่จะไม่รบลำบากอย่างนี้เลย ดังนั้นผมจะเปรียบเที่ยบ 2 ท่านนี้ก่อน

ข้อดีของทั้ง 2 ท่านคือ

กุยแก

ไหวพริบดี เฉียบแหลมมากแผนการ ดำเนินการเพื่อจุดมุ่งหมายทางการเมือง และอุทิศตัวเพื่อการทำงานอย่างจริงจัง ความฉลาดในเรื่องตัวหนังสือ น้ำหมึกและพู่กัน ไม่มากแต่แผนการรบ สามารถเอาชัยแม่ทัพหลายท่านมาแล้วที่เห็นได้ชัดคือลิโป้ และตระกูลอ้วนเสี้ยว

ขงเบ้ง

ยึดมั่นคุณธรรมวางตัวเป็นเต้าหยิน สันโดษ ไหวพริบดีมาก เชี่ยวชาญกลยุทธ์

มองตามนี้ถือว่า กุยแกสู้ไม่ได้ แต่กุยแกมีข้อดีที่ขงเบ้งไม่มีคือ ทำงานเป็นทีม ขงเบ้งตายก่อนวัยอันควรเพราะทำงานหักโหม ไม่ไว้ใจใคร คนเชื่อฟังคล้อยตามก็เอารับใช้ให้ตำแหน่งใหญ่โต คนขัดขืนปกครองยากก็กำจัด (อุยเอี๋ยน ซึ่งเป็นคนที่เล่าปียกย่องให้มีตำแหน่งใกล้เคียงกับ 5 ทหารเสือแต่ขงเบ้งจะฆ่าเสียเพราะมีกระดูกโปนเป็นกระดูกทรยศ แต่ถ้าดูตามตำรานรลักษณ์จริงๆ แล้วกระดูกโปนที่ออกมาเป็นกระดูกบ่งบอกถึงความสูงศักดิ์และมีกลยุทธ์สูง กวนอู ให้ไปดูเกงจิ๋วเพราะขี้เกียจมานั่งปรับความเข้าใจเวลาพี่แกเหม็นขี้หน้าใครและคุยยากเพราะตรงไปตรงมาจัด เล่าฮองประหารเพราะถ้าเล่าปีตายจะขึ้มาเป็นใหญ่ปกครองยากก็เจี๋ยนโดยหาข้อหาให้จากเรื่องกวนอูซึ่งคนผิดคือบิฮองเพราะเป็นเจ้าเมืองอยู่)

ส่วนกุยแกมักทำงานเป็นทีม เชื่อฟังนายใหญ่เสมือ ร่วมคิดร่วมทำ เสียดายชอบวางตัวรุ่มร่าม ไม่รักษาอนามัยในตำราว่า กุยแกเป็นบัณฑิตหน้าขาว หมายถึงสุขภาพอ่อนแอ มักเจ็บป่วยเสมอ เลยตายไว

ซึ่งถ้ารอดมาเจอกันเกมส์คงเปลี่ยนไป

อีกนิด เล่าเสี้ยน ตามประวัติศาสตร์ฉบับตันซิ่ว ระบุว่า เล่าเสี้ยนพลัดหลงกับเล่าปี่จากสมรภูมิเตียงปัน และเป็นคนรับใช้จนอายุเกือบ 20 เล่าปี่จึงเจอและให้สืบทอดตำแหน่ง ซึ่งไม่มีอะไรในหัวเลยมีแต่การเอาตัวรอดเท่านั้นก็กจึงล่ม

ส่วนสุมาอี้ เป็นคนสุขุมนุ่มลึก เป็นเสือซ่อนเล็บวางแผนจนได้ปกครองแผ่นดินในที่สุด ในเรื่องการวาง Corporate Strategies สุมาอี้เก่งกว่าขงเบ้ง 10 เท่า

ขงเบ้งอาจชนะศึกแต่แพ้สงครามก็เท่ากับแพ้นั่นเอง ดูจากภาพนี้สุมาอี้น่าจะเก่งกว่า แต่จริงๆแล้วสุมาเอี๋ยนเก่งที่สุดเพราะกล้ายึดอำนาจจากตระกูลโจแบบเบ็จเสร็จตามที่ปู่วางแผนไว้ ซึ่งถ้าเกิดมาไม่เอาถ่านคงทำไม่สำเร็จ

อีกอย่ากอยากจะบอกท่านทั้งหลายที่อ่านสามก๊กว่า ในบทแรก ล่อกวนตงก็ได้เกริ่นให้เราๆท่านๆได้ทราบว่าสัจธรรมแห่งโลกคือการเป็นศึกแล้วสงบ เมือเสงบสักพักก็เป็นศึก การเดินสายกลางเป็นเรื่องของผู้ทรงศิล ทุกวันนี้ท่านเดินสายกลางในชีวิตได้หรือไม่ในเมื่อ

จะออกจากบ้านก็ต้องแย่งกันขึ้นรถ กินข้าวก็แย่งกันซื้อ รีบกินรีบกลับไปเรีบนไปทำงาน ทำงานก็ต้องเจอการเมืองในที่ทำงาน กลับบ้านก็ต้องดูแลคนในบ้าน เงินเดือนมาก็ต้องเลี้ยงดูให้เพียงพอ ต้องวางแผนรอบด้านให้ชีวิตเราอยู่รอดได้ไม่ทราบว่าจะเดินสายกลางได้ตรงไหน บางท่านอาจพูดด้วยความสบายใจ สายกลางคืออะไรท่านทราบหรือไม่ ก็เหมือนกับชีวิตพอเพียงแหล่ะครับที่พอพูดถึงก็นึกถึงเสื้อม่อห้อม กินข้าววันละมือ

อะไรคือสิ่งที่เราทำได้หละครับ ทุกวันนี้อย่างที่บอกแต่ข้างบน สงครามของชีวิตเราเกิดขึ้นทุกวัน เดินสายกลางจะอยู่อย่าไรในเมื่อเขาเบียดเลนเรามาเสมอ เราน่าจะบอกในสิ่งที่เราทำได้จึงดีที่สุด

สามก๊กช่วยให้ปัญญาแก่ผู้ดำรงค์ชีวิตตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ผู้แต่ก็ต้องการให้เราเข้าถึงจุดที่ว่า รู้เอาตัวรอดป้องกันตัวไม่ทำชั่วให้มาก ต่างหากหละครับ

จากผู้ที่ไม่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อนี้

-ขงเบ้งมีข้อผิดพลาดหลายครั้งในการรบแม้จะไม่เสียการอย่างใหญ่หลวงให้เสียก๊กก็ตามแต่ว่าการที่ปล่อยให้ทหาร7แสนไปตายด้วยมือของลกซุน(พระเอกของผม)ก้เปงการพลาดครั้งที่1 แล้วการยกไปตีวุยก๊กทั้ง5ครั้งก็ไม่ได้ประสบผลสำเร็จเลยสักครั้งรวมแล้วผิด6ครั้ง

 

1. การที่ทหารของ จ๊กก๊ก พ่ายแพ้ไป 7 แสนคนนั้นหาใช่ความผิดของขงเบ้งไม่แต่เป็นเพราะเล่าปี่ใช้ความแค้นส่วนตัว(เพื่อแก้แค้นแทนกวนอู)ทหารของจ๊กก๊กถึงพ่ายแพ้

2. การที่ขงเบ้งแพ้ทั้ง 5 ครั้งในการไปตี วุ๊ยก๊ก นั้นก็หาใช่ความผิดของขงเบ้งไม่แต่เป็นเพราะแม่ทัพของจ๊กก๊กเร่งหาความดีความชอบของ(แม่ทัพม้าเจ๊กและคนอื่นๆ)และไม่ฟังคำของขงเบ้ง ทำให้ สุมาอี้มายืดทางส่งสเบียงอาหารหลักของขงเบ้งจึงทำให้จ๊กก๊ก แพ้

3. การที่ขงเบ้งออกศึกแต่ละครั้งใช่ว่าจะออกไปทำศึกเฉยๆซะที่ไหนแต่เวลาออกศึกแต่ละครั้งขงเบ้งใช้ความคิดเสมอแม้กระทั้งวิธีถอยหนียังคิดได้แนบเนียนยิ่งกว่าอะไรซะอีก

4. ส่วนการที่จะบอกว่าสุมาอี้กับขงเบ่งใครเก่งกว่าใครนั้นยังสรุปไม่ได้ เพราะแต่ละคนมีความสามารถแตกต่างกัน

หลัง ๆ ผมเห็น คนพูด ถึง ระหว่าง ขงเบ้ง กับ สุมาอี้ ใครเก่งกว่ากัน

ก่อนอื่น ต่อ คำถามที่ คุณ เล่าชวนหัว และ คนที่อ่านหนังสือ ของเค้า ทุกคน มักจะถาม ก็คือ ขงเบ้ง เคยทำอะไรให้จกก๊ก บ้าง

นอกจาก ไปตี วุย 6 ครั้ง แล้วต้องถอยทัพ หมด

ตรงนี้ผมว่า น่าจะตอบเป็น คำถามได้ นะครับว่า " แล้วใคร ล่ะครับที่ สร้าง จกก๊ก ให้เล่าปี่ " ไม่ว่าจะเป็น เฉินโซ่ว หรือ หลอกว้านจง

ก็เขียน ตรงกัน คือ ขงเบ้ง เพราะถ้าไม่ใช่ขงเบ้ง แล้วเป็นใคร
? หรือว่า เพราะเล่าปี่ รบแบบมีโชค เฉย ๆ จึงยึดเสฉวน ได้ ซึ่งถ้ามองแค่ผลงาน

ตรงนี้ สำหรับความคิดผม ไม่ว่าจะชอบ หรือเกลียด คุณ ก็ต้องยอมรับในความสามารถ ของเค้า ที่สามารถ สร้างชาติ ขึ้นมาได้

ขงเบ้ง จึงไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ อะไรอีก ( ในความเห็นของผม )

ส่วนกับสุมาอี้ หลายคน มักจะพูดว่า ขงเบ้ง ไม่เคยรบชนะ สุมาอี้ จึงไม่เคยตีวุย แตก แต่ผมก็มีคำถามว่า

" ถ้าสุมาอี้ เก่งกว่าขงเบ้ง ทำไมถึงเอาแต่ ตั้งรับ ล่ะ
? "

ซึ่งในความเป็น จริง ๆ ทั้ง ของ สามก๊ก หรือ ซานกว๋อจื่อ ค่อนข้าง จะชัดเจน ในหลาย ๆ เรื่อง

อย่างน้อยที่สุด ถ้าดู จาก ของ หลอกว้านจง สิ่งที่ ทุกคน จะเห็น ก็คือ สุมาอี้ ออกมารบ ทีไร ก็แพ้ขงเบ้ง ทุกที

จึงตัดสินใจที่ ตั้งรับ ในค่าย มากกว่า ออกไปรบ เพราะรบไป ก็แพ้ แต่ถ้าตั้งรับไว้ ยังไง ก็ไม่แพ้ อีกทั้ง ทุกครั้งที่ ขงเบ้ง ถอยทัพ สุมาอี้ เคย ไล่ตาม

สำเร็จ หรือไม่
? แถมที่เขา กิสาน การพ่ายแพ้ ก็ไม่ได้แพ้สุมาอี้ มี ครั้งแรก ที่เสียเกเต๋ง ไป นั่นแหละ แพ้จริง ๆ แต่ เอาเข้าจริง สุมาอี้ ก็กลับจับขงเบ้ง ไม่ได้ เพราะอะไร ? แถมยกทัพไล่ตาม ก็ไม่ได้

ครั้งแรก ใช้คนผิด ทำให้ เสีย เกเต๋ง ที่เป็น ยุทธภูมิสำคัญ จึงทำให้ตกเป็นฝ่ายรับทั้งแนวรบ และก็พ่ายแพ้ ( แต่ก็หนีรอดมาได้ )

2 ครั้ง โดน พระเจ้าเล่าเสี้ยน เรียกตัวกลับ และ หนึ่งใน 2 ครั้ง ก็คือ สุมาอี้ ปล่อยข่าวลือในเสฉวน

1 ครั้งเสบียงหมด

1 โดนพ่อของ เฉินโซ่ว หลอกว่า ง่อก๊ก ยกทัพมาตี

ครั้งสุดท้าย สุมาอี้ รู้ว่าสู้ไม่ได้ ก็เลยเก็บตัวไม่รบ ขงเบ้ง ก็ร้อนใจ ไป ๆ มา ก็เหมือนตรอมใจตาย

สรุปว่า ใครเก่งกว่ากัน จริง ๆ ก็ไม่อยากคิด แต่ ภาพที่ออกมา โดยรวม ยังไง ขงเบ้งก็เก่งกว่า เพียงแต่การรบ ผู้นำทัพเก่งคนเดียว มันไม่พอที่จะชนะ เท่านั้นเอง

อีกเรื่องก็คือ สุมาอี้ วางแผน ใช้ 5 ทัพ ตีจกก๊ก ก็ไม่สำเร็จ รับคำสั่งพระเจ้า โจยอย มาตีจ๊กก๊ก ก็ไม่สำเร็จ แต่คนก็ยังบอกว่า สุมาอี้ เก่งกว่า ขงเบ้ง เพราะอะไรครับ
? ในเมื่อ ควาามเป็นจริงสุมาอี้ ไม่เคย รบชนะ ขงเบ้ง เลยด้วยซ้ำ

แต่ทั้ง คู่ ก็ยอมรับ ในความสามารถ ของ อีกฝ่าย เพราะขงเบ้ง ถึงกับเครียด เมื่อรู้ว่า สุมาอี้ กลับมา ส่วนสุมาอี้ ก็ได้กล่าว แค่ไม่กี่

(ในภาพยนต์ ) มีตอนนึงสุมาอี้ กล่าวว่า

ในตอนที่กำลังจะยกทัพไปปราบ เบ้งตัด (ไม่แน่ใจว่า ผมจำผิดคนป่าว เริ่มเลือนลาง ถ้าผิด ช่วยแก้ไข ด้วยนะครับ
^^ ) จับจดหมายได้ ก็ยังถึงกับพูดว่า " ผู้ปรีชามักมองการณ์ไกล" และนั่นคือเหตุที่ทำให้ สุมาอี้ ระมัดระวัง อย่างที่สุดในการจะเข้าปะทะ กับขงเบ้ง

" ขงเบ้ง รู้ในสิ่งที่เรารู้ คาดในสิ่งที่เราคาด ปัญญาเหนือเรา เราเทียบ ไม่ได้ "

และ

" ขงเบ้ง ก่อนตายยังอุตส่าห์วางแผน ยอดคน...เก่งจริง ๆ"

ดังนั้น ใครเก่งกว่า พิจารณา เอาเองนะครับ

 

ส่วนที่ว่า ก๊ก เล่าปี่ ถูกแต่งให้เป็น พระเอก ผมก็ขอโต้แย้ง ว่า ไม่จริง ครับ

1. เล่าปี่ ตาย ตอนกลางเรื่อง

2. ไม่ใช่ตัวเดินเรื่องหลัก สามก๊ก ทุกตัวละคร ต่างผลัดกันเดินเรื่อง ซึ่งถ้า เล่าปี่ เป็นพระเอก ก็ต้องไม่ผลุบ ๆ โผล่ ๆ แบบที่เป็น

3. ความสามารถเล่าปี่ ตลอดเนื้อเรื่อง ไม่ได้มีความสามารถ โดดเด่น อะไรเลย ( ซึ่งถ้าเป็นพระเอก จะต้องมี )

ฯลฯ

เพียงแต่ ด้วย บุคคลิก และคนอ่าน คนส่วนใหญ่ มักจะคิดว่า คนดี มีคุณธรรม ประชาชน รักใคร่ ก็คือ พระเอก แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่

ถ้า ทุกคนลองเทียบดูผมเชื่อว่า จะนึกออก เอง

และก็ เล่าชวนหัว ก็กล่าวว่า เล่าปี่ชั่ว เพราะคิดจะยึดเกงจิ๋ว เมืองของผู้มีบุญคุณ จริง ๆ ก็ไม่ถูก เพราะ เจ้าตัว ออกปากยกให้เอง อีกทั้ง เล่าปี่ ก็ไม่ได้รับ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ผมว่า เขาน่าจะพ้นข้อกล่าวหา

ส่วนเรื่อง เสฉวน อันนี้ ต้องตัดสินว่า คุณ มองแบบไหน นักการทหาร หรือว่า ชาวบ้านเดินดิน ?

ในความเห็น ของผม หนังสือ ของคุณ เล่าชวนหัว นั้น เนื้อหา ดีมาก แต่ที่ผู้อ่าน ต้องระวังก็คือ บทวิจารณ์ ของเขานั้น เป็นแบบ คนเดินดิน ชาวไร่ชาวนา ล้วน ๆ ไม่ใช่ มุมมอง ของนักการทหาร ฉะนั้น เมื่ออ่านแล้ว แยกให้ออก นะครับ ว่า คุณต้องการ อะไรจากการอ่าน สามก๊ก

เฉินโซ่ว เป็นลูกศิษย์ ขงเบ้ง ตามที่ เล่าชวนหัว กล่าวจริง หรือ ?

ก็ น่าแปลก มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ หลายชิ้น และ นักโบราณคดี กล่าวว่า ตอน ที่ พ่อของ เฉินโซ่ว ถูกลงโทษ ที่กล่าวเท็จทำให้เสียการใหญ่ นั้น " เฉินโซ่ว อายุแค่ 2 ขวบ " แล้ว ตอนก๊ก แตก คุณคิดว่า เค้าจะมีอายุเท่าไร ?

หรือต่อให้เป็น แบบนิยาย จริง ๆ คุณคิดว่า เค้าจะคิดยังไง กับคนที่สั่ง โกนหัว ประจาน พ่อของเค้า ถึงจะแต่งตั้งเค้าขึ้นดำรง ตำแหน่ง แทนพ่อ ก็เถอะ

อีกเรื่องที่อยากจะฝากไว้ ก็คือ มุมมอง ระหว่าง นักการทหาร กับชาวบ้านมักจะมองต่างกัน เทียบง่ายๆ

"ขงเบ้ง ดีดพิณ ลวงสุมาอี้ "

หนังสือเปิดหน้ากากขงเบ้ง ในเล่มที่ 2 ของ เล่าชวนหัว กล่าวไว้ว่า

" ไม่เป็นความจริง ครับ โม้ทั้งเพ ไม่เชื่อคุณลอง ไปยืนดีดกีต้า หน้าทหารพม่าดูสิครับ ถูกยิงตายแน่ อีกอย่างถ้าเป็นเรื่องจริง ขงเบ้ง ต้องถูกเกาฑันณต์ ยิงตายไปแล้วครับ "

หนังสือเปิดกรุสมบัติสามก๊ก ที่แต่ง โดย เลี่ยวเจี่ย ปราชญ์จีน ให้ความเห็นว่า

1. ขงเบ้งรู้ว่า ตนเอง มีชื่อด้าน สุขุมรอบคอบ ไม่เคยทำอะไรเสี่ยง กลเมืองว่าง จึงน่าสงสัย

2. ขงเบ้งรู้ว่า สุมาอี้เป็น คนขี้ระแวง คิดมาก ไม่เหมือน คนมุทะลุ ดุดัน

3. ขงเบ้งมีท่าที สงบเยือกเย็น สบายอกสบายใจ

4. ชาวเมืองทำตามคำสั่ง ไม่สับสนวุ่นวาย

พอสุมาอี้ มาเจอเข้าแบบนี้ ก็ไม่อาจจะคลายความสงสัย และเพื่อความปลอดภัยจึงถอยทัพ

มันคือ เหตุการณ์ พิเศษ ที่เกิดขึ้นภายใต้ เงื่อนไข พิเศษ นั่นก็คือ หากคุณ จะใช้มุขนี้ ก็ต้องมี เงื่อนไข ตาม 4 ข้อนั้น หากผิดแม้แต่ข้อเดียว ก็จะกลายเป็น อย่าง ที่ เล่าชวนหัว กล่าว

แล้วคุณ ล่ะ ? อ่านสามก๊ก แล้วอยากได้ แบบไหน ? แบบ คน เดินดินคิด หรือแบบ นักการทหารคิด ?

สุดท้ายนี้ ขอฝากไว้ว่า ไม่ว่าคุณจะมี ความรู้ ด้าน ประวัติศาสตร์ สามก๊ก หรือ ประวัติศาสตร์ อะไรมากแค่ไหน มันจะไม่มีค่าอะไรเลย ถ้าคุณ ไม่รู้จัก ประวัติศาสตร์ชาติ ตัวเอง ( ศึกษาประวัติศาสตร์ไทยกันบ้างนะครับ ^^ )

ผมมาตรงๆเลยนะครับ

 คุณชอบใครคนนั้นเก่ง ไม่ต้องคิดอาไรมาก

ผมก็ชอบกาเซี่ยง การวางแผนไร้เทียมทาน 

   ชอบกุยแก มากกว่า...

จูล่งสิ จุดจบดีที่สุด
ผมว่า จูล่งเป็นคนที่น่าคิดนะ เพราะเท่าที่พอรู้ จูล่งแทบจะไม่เคยพบกับความปราชัยเลย ในความจริง ขงเบ้งสมควรจะให้จูล่งไปดูแลเกงจิ๋ว ซึ่งเป็นรอยต่อ คนที่สงบเยือกเย็น และเฉลียวฉลาดเช่นจูล่ง น่าจะเหมาะสม กว่ากวนอู ผู้ซึ่งมีอารมณ์ร้อน อีกอย่าง จูล่ง มีที่ตายไม่เหมือนคนอื่น คือ ตายด้วยเพราะถึงแก่อายุ มีอายุที่มากแล้ว ตายในบ้านตนเอง อย่างสงบ ส่วนคนอื่น ล้วนแต่ มีที่ตายอันน่าสมเพช น่าเวทนา แม้แต่ขงเบ้งผู้ปราดเปรื่อง สุดท้าย ก็ตรอมใจตายกลางสนามรบ

จาว่าขงเบ้งฉลาดที่สุดก็ไม่ได้ครับ

มะ จะอธิบายให้ฟัง ขงเบ้งเปงคนเชื่อในตัวเองสูงไม่ยอมเชื่อในแผนของคนอื่นเลย ที่ก๊กล่ม เพราะนี้เหละ ขงเบ้งมะยอมคัดเลือกคนเลย มีเลือกอยุ่คนเดียว เกียงอุย เมืองขงเบ้งตาย นั้นเหละ ภาระตกอยู่ที่เกียงอุยหมดเลย เกียงอุยก็เอาแต่จะรบ ไปรบก็แพ้เค้าอีก

ส่วนบังทองตาย เปงเพราะ เล่าปี่(ตามความคิดผมนะ)เล่าปี่เป็นคนชอบคนประจบ มากกว่าผีมือ ซึ่งแตกต่างจากโจโฉ ตระกูลไม่เกี่ยว ผีมืออย่างเดียว  พอดีบังทองไปว่าให้เล่าปีอะงับ "ชนะเค้าด้วยกล ยังมาจัดงานเลี้ยงอีก"(ผมจำมะได้อะ ประมานนี้) จึงเกิดปากเสียงขึ้น ไล่บังทองออกงานเลี้ยง รุ่งเช้าจึงปรับความเข้าใจกัน แล้วเล่าปี่ให้ม้าเต๊กเหล่า(ถูกเป่า) ม้านี้อานมานสูง ซึ่งเปงม้าของเล่าปี่ด้วย แล้วบังทองได้ทำผิดกฎ คือ ขี่ม้าบัญชาการรบ ซึ่งๆหน้า ซึ่งผิดกฎกุนซือ

งับมีแค่นี้เหละ ส่วนสุมาเต๊กโช นั้น เค้ามะยุ้งเกี่ยวไรกับการรบเลย

ส่วนใหญ่ เรื่องนี้แต่งขึ้นมาเกือบทั้งหมดอะเหละ

ผมว่าคนฉลาดที่สุดคือเล่าปี่ ใช้ผู้ที่หยั่งรู้ดินฟ้าอย่างขงเบ้งได้ ได้ยอดขุนพลอย่าง กวนอู เตียวหุย จูล่ง โดยที่ตอนนั้นเล่าปี่ไม่มีอะไรเลย เทียบไปแล้วในตอนแรกเล่าปี่ถือว่าเป็นก๊กที่เล็กที่สุดด้วยซ้ำ ยังต้องหนีหัวซุกหัวซุน
  • นับว่า เล่าปี่ ฉลาดใช้คนนะครับ

ขงเบ้ง สุมาอี้ สุมาเต็กโช ใครเก่งกว่ากัน

            ผมชอบคำกล่าวของเล่าปี่ ตอนที่รับ ขงเบ้งมาครั้งแรก บัญชา กองทัพให้ กวนอู เตียวหุย และแม่ทัพ ออกไปรบหมด   แต่ถูก เตียวหุย และ กวนอู ด่าว่า ตัวเองอยู่ในค่ายเฝ้าเมือง ขี้ขลาดไม่ออกไปรบ( แถมสั่งขุนนาง เตรียมจัดงานเลี้ยงฉลองชัยชนะรอได้เลย)     เล่าปี่กลับสวนคำขึ้นมาว่า   กุนซือผู้เก่งกาจ ชนะพันลี้ ได้ตั้งแต่อยู่ในกระโจม   เป็นการเปิดตัวผลงานครั้งแรกของ ขงเบ้งที่ตื่นเต้น เร้าใจจริงๆ 

             ขงเบ้งไม่น่าอายุสั้น เงื่อนงำที่แท้จริงคื่ออะไรเหรอครับ   หรือว่าอึดอัดใจที่ สุมาอี้ไม่ค่อยยอมรบด้วยเอาแต่ตั้งรับ  จนร้อนใจ เป็นสาเหตุให้อาการ หนักขึ้น

              สุมาอี้อายุยืนยาวกว่า ขงเบ้ง คือ 70 กว่า การไม่รบของสุมาอี้ เอาแต่ตั้งรับ  ก็ได้เปรียบเยอะ ไม่ต้องเหนื่อยกาย เหนือ่ยใจ มาก  ดูเหมือนจะสบาย  ส่วน ขงเบ้งงานหนัก  เอาแต่รุก  

              ระยะหลัง สุมาอี้วางแผนให้ลูกยึดอำนาจ  ผมคิดว่าสุมาอี้ก็ รักษาตัวรอด ไว้เพื่อการใหญ่ของตัวเองเช่นกัน   สุมาอี้ก็ฉลาด นะครับ

                 ส่วนขงเบ้งก็ฉลาด ปกครอง แบบ รุกไปเรื่อยๆ ถ้าไม่ตายสะก่อน สงสัยว่า  ดินแดน คงจะต้องถูกกลืนกินไปเรื่อยๆ  

                   ที่ขงเบ้งวิจารณ์ว่า แผ่นดินนี้ต้อง แยกเป็น สามก๊ก   ส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่า ขงเบ้งไม่อยาก ไปรบรา ฆ่าฟัน กับ ซุนกวนด้วย  เพราะ พี่ชาย จูกั๊ดกิ๋น ก็อยู่นั่น   สู้ปราบโจโฉ  ดีกว่า    จะสู้ก็ยาก  ขณะนั้น กำลังก็ไม่กล้าแข็งพอ 

                 สำหรับสามก๊กนั้น ผมว่าหลายๆคน ก็เป็นพระเอกน่ะครับ ต่างคนต่างก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเอง เก่งทุกคน  ไม่ว่าจะเป็น ขงเบ้ง สุมาอี้ สุมาเต็กโช  โจโฉ  เล่าปี่ ซุนกวน  ขุนพลต่างๆ   ส่วนสุมาเต็กโช  เค้าเป็นอาจารย์   ไม่รู้จะวิจารณ์อะไรเค้าดี   เค้า เป็นอาจารย์ ไม่ ได้มายุ่งการเมืองมาก (ตามเนื้อเรื่องน่ะครับ จริงๆ ไม่รู้ทำอะไรบ้าง  ไม่เห็นค่อยพูดถึง อาจารย์คนนี้เท่าไร่ เล่มไหน พูดก็เอามาเล่ากันบ้างน่ะครับ)

                 บทสรุป ของผมน่ะครับ   ทุกคน  ทุกก๊ก  ต่างก็ ป้องกันตนเอง  ใช้ ปัญญา  กำลังเข้าสู้กัน  ไม่มีใครยอม ใคร   จะมายึดกันง่ายๆ ก็ ยาก ถึงจะเก่งแค่ไหน   ก็ตาม     สุดท้าย  

               เก่งทุกคนครับ 

                 ขงเบ้ง เก่งเรื่อง  ทำให้ จ๊กก๊ก  เล่าปี่    เข้มแข็ง จนตั้งตัวเองได้

                  สุมาอี้เก่งเรื่อง  ป้องกันตนเองได้ เอาตัวรอด   และสุดท้ายยังยึดอำนาจไว้ได้อีก 

                   สุมาเต็กโช  เก่งเรื่อง สอนสั่ง เป็นอาจารย์ครับ  

 

                   เก่งคนละด้าน     แล้ว  ใครเก่งกว่าใคร   เอาด้านไหน ละคร๊าบบบบบบบบบบๆๆๆๆๆๆๆๆ  ชี้ชัดๆ ได้มุ้ยยย   คิคิ      

                     ผมรักขงเบ้ง   เค้าหล่อ อะครับ  แฮ่ๆ ~

  • สรุปว่าเก่งไปคนละด้านใช่ไหมล่ะครับคุณบอย
  • แต่ใจน่ะ รักขงเบ้งเข้าให้แล้ว

เราว่าขงเข้นน่ะ ก็ตอนที่ขงเบ้น เปิดประตูเมืองทั้งทั้งที่ไม่มีทหารอยู๋ แต่อุมาอี้ ก็ถอย ไปสุดท้ายรู้เรืองจากชาวบ้าน โมโหเลย อิอิ แต่ลูก หลาน อุมาอี้ฉลาด ลูก เล่นปี่มัวแต่เล่นกับผู้หญิง พอข้าศึกมาถึง เมือง ก็ยอมแพ้ เสียดาย ไม่มีลูกหลาน ขงเบ้ง วุยก๊กชนะ น่ะ จ๊ก กับ ง่อ แพ้ จ๊ก แตกก่อน แล้ว ง่อ ลูกสุมาอี้ ปลด หลานของโจโฉ ออกจากการเป็นฮ่องเต่วุยก๊ก แล้วตั้งราชวงจิ้น ชารวาเดียวกับชินซีฮ่องเต้อะ

 

 

 

 

124525

 ขอบคุณ คุณลล

  • ที่สรุปเรื่องย่อสามก๊กครับ
หวาย(แอบฟังจากบางมด)

ส่วนตัวผมคิดว่า ในเรื่องเทคนิควิธีคิดต่างๆ ต้องยกให้ขงเบ้งครับคงไม่มีใครสู้ได้ แต่ที่ต้องมาอายุสั้น เพราะ ตั้งใจมากไป เครียดมากไป ไม่วางใจใช้คน เหมือนในสามก๊กจะพยายามสอนว่า ต่อให้คุณเก่งแค่ไหนก็ทำงานคนเดียวไม่ได้ เมื่อสิ้นเล่าปีไปงานหนักจึงตกมาที่ขงเบ้ง เพราะไม่ว่างใจให้คนอื่นมาช่วยงานสำคัญ ส่วนบังทองนี่ความสามารถก็ใช่ย่อยคงมิเป็นลองขงเบ้งแน่แต่บทเค้าสั้นไปมาก สุมาเต็กโช นี่เป็นอาจารย์ คนที่สอนศิษย์ให้เก่งได้ขนาดนี้ถึงสองคน คงไม่ใช่ธรรมดาครับ แต่เนื่องด้วยจากที่เป็นอาจารย์กับศิษย์คนจีนถือหลักกตัญญูเป็นสำคัญ จึงไม่ควรนำมาเปรียบเทียบกันครับ เพราะต่อให้ศิษย์เก่งกว่า แต่ทั้งหมดทั้งสิ้นก็เพราะอาจารย์ครับ

คือผมเคยอ่านมานานหลายปีแล้วจำเนื้อเรื่องได้เลือนลาง ถ้าผิดพลาดต้องขออภัยในความไม่ถูกต้องครับ

  • วิเคราะห์ได้ดีครับคุณหวาย
  • (ศูนย์ฯโตโยต้า รามอินทรา)
ไตเติ้ล เจ้าเมืองเสฉวน

ผมว่าคนฉลาดที่สุดคือขงเบ้งอยู่แร้วละ

        

                                     จาก ไตเติ้ลเจ้าเมืองเสฉวน

                                                           ผู้ฉลาดอิอิ

จากที่ทั้งอ่านหนังสือ ดูภาพยนตร์ มาหลายรอบ (คนจะหาว่าคบไม่ได้หรือปล่าวเนี่ย ^ ^" ) คิดว่าขงเบ้งเก่งที่สุด แต่ว่าสุดท้ายที่บุกกิสาน 6 ครั้งไม่ได้แผ่นดินแม้แต่คืบเดียวเป็นเพราะหลายปัจจัย นายไม่มีความสามารถ บริวาร สุขภาพ และธรรมชาติที่ไม่สามารถควบคุมได้

โดยส่วนตัวถือว่าขงเบ้งเป็นคนเก่งที่ยอมเอาความสามารถมารับใช้ชาติ มีความกตัญญูต่อนายเป็นที่ตั้ง และมีคุณธรรม รู้ทั้งรู้ว่านายตัวมีบุญไม่พอ ลูกก็ไร้ความสามารถก็ยังช่วยถึงที่สุด ทั้งๆ ที่ตอนแรกไปอยู่กับโจโฉก็คงจะรุ่งเรืองกว่า ทำงานง่ายกว่ามากด้วยปัจจัยหลายอย่างที่โจโฉมีเหนือกว่า

ส่วนสุมาเต็กโชเป็นปราชญ์ผู้รักสันโดษ อาจจะเก่งเท่ากันหรือเก่งกว่าขงเบ้ง แต่ก็ไม่ได้ใช้ปัญญาให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม เก็บเอาไว้กับตัวแล้วก็ตายจากไปโดยไม่ได้ทำให้มีอะไรเปลี่ยนแปลงกับโลกใบนี้ ซึ่งถือว่าสูญเปล่าค่ะ น่าเสียดายสติปัญญาที่อุตส่าห์มีมากกว่าคนอื่น
ถ้าคุณหัวเสีย คุณจะเสียหัว

คุณ Little Jazz \(^o^)/ 

  • วิจารณ์ได้ดีครับ ส่วนของขงเบ้ง
  • ส่วนสุมาเต๊กโชนั้น ผมคิดว่าอาจเป็นอาจารย์ทางเซ็น คงได้สอนลูกศิษย์ลูกหาไว้เหมือนกัน  เพียงแต่ว่า คงไม่ดังเท่าคนอื่นๆ

คุณ กงจักร

  • คงหมายถึง นักรบโบราณ
  • ถ้าหัวเสียแล้วออกรบ ก็คงไม่พ้นเสียหัว ครับ
ถูกต้องนะคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

จะว่าไปสามก๊ก ของทุกฉบับ ทุกผู้แต่งก็เป็นเพียงนิยายอิงประวิติศาสตร์เท่านั้น ใช่ว่าเป็นประวัติศาตร์จีนดั้งเดิมซักหน่อย

 พอดีอ่านเจอเรื่องการใช้คนของโจโฉ แปลกที่ทำไมไม่มีใครรู้ว่า โจโฉ แท้จริงไม่ใช่คนแซ่โจโดยกำเนิดเพียงแต่เป็นแซ่ของพ่อเลี้ยงโจโก๋ บิดาโจโฉเท่านั้น หลายท่านอาจจะเดาออกว่าแซ่ที่แท้จริงของโจโฉนั้นแซ่ใด จริง ๆ แล้วโจโฉ แซ่แฮหัวครับ หรือง่าย ๆ คือเป็นคนตระกูลเดียวกัน เหตุผลหรือความจริงนั้นลองศึกษาดูครับ จะให้พิมพ์ให้อ่านกันหมดคงไม่ไหว

สามก๊กที่ผมอ่านอยู่และชอบมีอยู่ 3 ฉบับ คือของยาขอบ ล่อกวานจง และ เล่า ชวน หัว ฉบับที่สามนี่อ่านแล้วติดขำนิด ๆ อาจเป็นเพราะเล่า ชวน หัว คงจะเกลียดขงเบ้งเกินเหตุไป หรืออยากจะให้ผู้อ่านได้มีความคิดเห็นแหวกแนว หาอะไรแปลกใหม่บ้าง ต่างจากทุก ๆ ฉบับ จริง ๆ แล้วผมอ่านแล้วก็เท่านั้น ดูจากอายุหรือความเก่าแก่ พิจารณาแล้วก็ไม่น่าเชื่อเท่าผู้แต่งเก่าแก่ สำหรับผู้ที่อ่านสามก๊กแล้วไม่ทราบว่าตัวเอกเป็นใคร เล่าปี่ หรือ โจโฉ กันแน่ ถ้าเปรียบเทียบเรื่องความเก่งกาจเทียบกันไม่ได้เลยแม้แต่นิด อาจมีจุดเด่นจุดด้อยต่างกันแต่ รวม ๆ แล้วห่างชั้นกันหลายขุม แค่ความได้เปรียบแต่เริ่มเรื่อง เล่าปี่ก็สู้ไม่ได้แล้ว โจโฉมีผู้รอบรู้ ช่วยหลายต่อหลายคน ซุนฮก ซุนฮิว เทียหยก กุยแก เอียวสิ่ว เป็นต้น ถึงที่กล่าวมานี้จะเทียบไม่ได้กับขงเบ้ง สุมาอี้ สุมาเต็กโช แต่ความได้เปรียบนั้นโจโฉกินขาด ทุกเรื่อง ยุทธศาสตร์ ภูมิศาสตร์ มาเข้าเรื่องดีกว่า

 ใครเก่งกว่ากันนั้น ผมไม่สามารถเปรียบเทียบได้เลย เอาเป็นข้อเด่นของแต่ละคนละกัน ขงเบ้ง ฉลาด รอบรู้ (เรียกลมได้ -*- ทำไมครับ อ่านหลายรอบแล้วไม่รู้เหรอว่า ขงเบ้งไม่ได้สามารถเรียกลมได้ เพียงแต่สามารถพยากรณ์อากาศได้ แต่ ณ เวลานั้นเพื่ออะไร หลายท่านคงทราบดี) สุมาอี้ รอบขอบ สุขุม เยือกเย็น สุมาเต็กโช อาจารย์ขงเบ้ง บังทอง ตันฮกหรือชีซี ผู้รอบรู้หลายต่อหลายคน จะเอามาเปรียบกับ 2 คนไม่ได้หรอกครับ เพียงแต่สุมาเต็กโชเป็นปราชญ์อโปคศิลป์ (อาจเขียนผิดไม่แน่ใจนะครับ ไม่ได้เปิดหนังสือดูหรือ Copy มาจากใน Net) หรือง่าย ๆ คือถือศีลธาตุน้ำ ประมาณนี้ สุมาเต็กโช หรือขงเบ้ง คงรู้แต่แรกแล้วว่าความสำเร็จจะตกอยู่ที่ใคร ดูได้จากเมื่อเล่าปี่ กำลังจพได้ขงเบ้งมาเป็นกุนซือ สุมาเต็กโช รู้ในทันทีว่า ขงเบ้งนั้นได้นายดี แต่ผิดเวลา น่าสงสารขงเบ้งจริง ๆ หรือถ้าดูจากศิลาจารึกบนเขา ตอนที่เต็งงายมาอ่านเข้าก็พอจะรู้ว่าขงเบ้ง พยากรณ์ว่าอนาคตของก๊ก จะเป็นอย่างไร

พิมพ์มาก็เยอะหลายท่านคงอยากให้เฉลยหลาย ๆ คำถามที่อยู่ในคำตอบของผม แต่ผมว่าลองศีกษาให้ละเอียดเอาเองดีกว่าครับ เพราะความคิดเห็นขงคนเราย่อมไม่ตรงกัน

ตามที่ผมคิด สุมาอี้ เก่งที่สุด ความฉลาดไม่ได้เหนือขงเบ้ง หรือสุมาเต็กโชนะครับ แต่เป้าหมายหลักของ สุมาอี้ ยิ่งใหญ่ที่สุดและสามารถทำได้ ด้วยคนในตระกูลสุมา (สุมาเอี๋ยน) ต่างจากปราชญ์อีก 2 คน ผมถือว่าปราชญ์ 3 ท่านนี้ไม่ได้เก่งกาจกว่ากันมากนัก ความฉลาก ผมยกให้ขงเบ้ง ความสำเร็จ ผมยกให้สุมาอี้ ความรอบรู้ และความแม่นยำในการพยากรณ์ผมยกให้ สุมาเต๊กโชครับ สรุปเท่านี้ละกัน

ลืม บังทอง (หงส์น้อย) หรือเปล่า เก่งแต่อับโชค  พวกคุณคิดว่าไง เกี่ยวกับ บังทอง 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท