beeman 吴联乐
นาย สมลักษณ์ (ลักษณวงศ์) วงศ์สมาโนดน์

ขงเบ้ง สุมาอี้ สุมาเต็กโช ใครเก่งกว่ากัน


เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าในเรื่องสามก๊ก ขงเบ้งเก่งที่สุด

     ตอนที่แล้ว เล่าเรื่องครูยงยุทธยังไม่จบครับ คือ การแข่งขันเขียนคำศัพท์ไทยในพจนานุกรม ต้องมีรางวัลครับ คุณครูเลยกำหนดว่า ทีมที่แพ้ต้องเลี้ยงไอศครีมทีมที่ชนะ ส่วนทีมรองชนะเลิศก็มองดูทีมชนะกินไอศครีมครับ (ตัดสินกันตอนสิ้นเทอม) คราวนี้ต้องมีการตั้งชื่อทีมกันครับ ทีมที่จะได้ที่สองตั้งชื่อทีมว่า "ขงเบ้ง" เพราะตอนนั้นเราต้องเรียนภาษาไทยเรื่องสามก๊กตอนขงเบ้งตาย คราวนี้ผมซึ่งถูกอุปโลกให้เป็นหัวหน้าทีมจะตั้งชื่อว่าอะไรดีที่จะข่มทีมเขาได้ เพราะเราทราบกันดีอยู่แล้วว่าในเรื่องสามก๊ก ขงเบ้งเก่งที่สุด แต่จากการอ่านหนังสือสามก๊ก ผมทราบว่ามีอยู่คนหนึ่งซึ่งเล่าปี่บังเอิญไปพบเข้าก่อนที่จะพบขงเบ้ง (ตอนที่หนีชัวมอ ออกจากเมืองซงหยงขี่มาเต๊กเลา ข้ามแม่น้ำตันเข) ชื่อว่า "สุมาเต็กโช"  ผมเดาว่าต้องเป็นอาจารย์ของขงเบ้งอีกทีหนึ่ง เพราะเมื่อเล่าปี่ปรึกษาเรื่องกุนซือหรือที่ปรึกษา สุมาเต็กโชกล่าวว่า "ฮกหลงหรือฮองซูหากได้ใครไปคนหนึ่งก็จะทำการใหญ่ได้สำเร็จ" (ฮกหลงคือขงเบ้ง ฮองซูคือบังทอง)

      พอเล่าปี่กลับมาเมืองซินเอี๋ย ได้ซีซีมาเป็นที่ปรึกษา แต่โดยอุบายของเทียหยกที่ปรึกษาโจโฉ ปลอมหนังสือของมารดาให้ชีชีไปเมืองฮูโต๋ (เมืองหลวงของราชวงค์ฮั่นในสามก๊ก) ทำให้ซีชีต้องเดินทางไปหาโจโฉ   เมื่อชีชีไปแล้ว สุมาเต็กโชได้มาหาเล่าปี่ที่เมืองซินเอี๋ย  พอทราบว่าชีชีไปหา โจโฉ ก็กล่าวว่า "ถ้าชีชีไม่ไปมารดาจะไม่ตาย เมื่อชีชีไปมารดาก็จะตาย" (เพราะมารดาต้องการให้ชีชีอยู่กับเล่าปี่มากกว่าโจโฉ) 

      อีกตอนหนึ่งตอนที่ขงเบ้งมาอยู่กันเล่าปี่ สุมาเต็กโชกล่าวว่า "ขงเบ้งจะได้นายก็ดีแล้ว แต่น่าเสียดายที่เล่าปี่เป็นคนอาภัพ และขงเบ้งจะกระอักเลือดตาย" ผลสุดท้ายขงเบ้งก็รากเลือดตายเมื่อตอนอายุ 54 ปี เมื่อคราวบุกกิสานครั้งที่ 6 รบกับสุมาอี้ (ภายหลังตระกูลสุมา คือ สุมาเอี๋ยน ลูกของสุมาเจียว หลานสุมาอี้ ได้เป็นฮ่องเต้ราชวงศ์จิ้น รวมสามก๊กมาเป็นก๊กเดียวได้สำเร็จ) ถึงตอนนี้ผมมานึกได้ว่าอีกทีมหนึ่งเขาตั้งชื่อทีมว่า สุมาอี้ครับ

      เล่ามาเสียยืดยาว สรุปว่า ผมตั้งชื่อทีมว่า สุมาเต็กโช แล้วทีมผมชนะเลิศได้กินไอศรีมฟรีจากทีมสุมาอี้ครับ.........

       ขงเบ้งรู้ก่อนออกจากกระท่อมน้อยแห่งเขาโงลังกั๋งว่า แผ่นดินจะแยกเป็นสามก๊ก แต่สุมาเต็กโชนั้นรู้ก่อนที่ขงเบ้งไปทำงานกับเล่าปี่ว่า ขงเบ้งจะรวมสามก๊กเป็นก๊กเดียวไม่ได้ และจะกระอักเลือดตาย

 

หมายเลขบันทึก: 5099เขียนเมื่อ 7 ตุลาคม 2005 22:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 กรกฎาคม 2013 15:51 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (319)

ถ้าวิเคราะห์ให้ดี จะรู้ว่า สุมาอี้ฉลาดที่สุดเพราะวางหมากให้ลูกและหลานตัวเองได้เป็นใหญ่ในก๊กวุยที่โจโฉเป็นคนสร้าง (ฉลาดแกมโกง)

คนที่เก่งที่สุดคือ หลอก้วนจง แต่งเรื่องสามก๊กให้คนอ่าน ติดกันงอมแงมทั้งโลก ไม่ทราบว่าติดอันดับหนึ่งสือที่ขายดีที่สุดในโลกของ "กินเนสบุ๊ค" หรือเปล่า ใครทราบช่วยบอกหน่อยครับ

อาจารย์อ่านสามก๊กของเล่าชวนหัวแล้วหรือยัง เล่าชวนหัวได้ชำแหละธาตุแท้ของขงเบ้งและตัวละครอื่นๆ  ในสามก๊กให้เราเห็น  ถ้าอ่านจบแล้ว เราคงไม่อยากให้ใครยกย่องเราว่าเป็นขงเบ้งเป็นแน่

ยังไม่ได้อ่านครับ ยังไงช่วยให้รายละเอียดของหนังสือมาบ้างนะครับเผื่อจะได้ติดตามหาอ่านต่อไปบ้าง ตอนนี้กำลังติดตามผลงานของคุณเรือง วิทยาคม ในสามก๊กฉบับคนขายชาติอยู่ครับ ให้มุมมองในทัศนะแบบไทยๆ

อาจารย์ชอบก๊กไหนมากที่สุดครับ 

ผมเป็นคนนึงที่ชอบเรื่อง 3 ก๊กมากครับ

      คนแต่งเรื่องสามกีก (หลอก้วนจง) เป็นพวกเล่าปี่ เชิดชูคุณธรรม ดังนั้นจึงแต่งเรื่องให้ก๊กเล่าปี่ เป็นก๊กพระเอก พอเรามาอ่านก็ต้องคล้อยตามอยู่แล้ว อ่านตั้งแต่เด็ก แถมได้ฟังสำนวนการอ่านสามก๊กฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน)   จากคุณอาคม ธรรนิเทศ (นามสกุลอาจเขียนผิด) ในวิทยุอีก เมื่อ 30 กว่าปีมาแล้ว เลยฝังใจชอบก๊กเล่าปี่มาแต่นั้น

    แถมคนเขียน ยังเขียนให้ทหารเอกของเล่าปี่ คือ กวนอู, เตียวหุย, จูล่ง มีประวัติการรบที่เก่งฉกาจ

   มีขงเบ้งกุนซือที่ปรึกษาที่รู้เท่าทันคน มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว จนยาขอบเขียนว่า "ขงเบ้งผู้หยั่งรู้ดินฟ้ามหาสมุทร" ทำให้เด็ก ๆ ติดกันเกลียว....ครับ

ในทั้ง3คน สุมาอี้ด้อย ต่อมาขงเบ้ง ฉลาดสุดคือ สุมาเต็กโช      และฉลาดกว่าคือข้า

แล้วตกลงสามก๊กนี่เรื่องจริงหรือแต่งกันแน่ครับ

ผมเริ่มจะงงแล้ว ช่วยตอบหน่อยครับอาจารย์

   เป็นบทประพันธ์ โดยใช้เค้าโครงเรื่องที่มีอยู่ในประวัติศาสตร์ของจีนมาเขียนครับ เหมือนยาขอบเขียนเรื่องผุ้ชนะสิบทิศโดยอาศัยโครงเรื่องทางประวัติศาสตร์ซึ่งมีอยู่ 7 บรรทัด

จะกล่าวว่า สุมาเต็กโช นั้นเก่งกว่าขงเบ้งหามิได้หรอก  เพราะสุมาเต็กโช ไม่เคยแสดงฝีมือในการรบเลย  ที่บอกว่าสุมาเต็กโชรู้มาก่อนว่าขงเบ้งจะไม่สามารถรวมแผ่นดินได้ นั่นอาจไม่เป็นความจริงก็ได้  ถึงแม้จะเป็นเรื่องจริง  แต่ก็มีอีกเรื่องที่สุมาเต็กโชกล่าวผิดมหันต์  ที่ว่า ฮกหลงฮองซู ได้ใครคนนึงจะรวบรวมแผ่นดินได้  แต่เห็นได้ว่าบังทอง(ฮองซู)แทบไม่ได้สร้างผลงานอะไรเลย  แทบเสียชีวิตแบบไม่สมคำร่ำลืออีกตังหาก  ส่วนที่คุณลักษณ์บอกว่า สุมาอี้ฉลาดสุดนั้น ใช้เหตุผลเด็กอนุบาลมาตัดสิน  สุมาอี้เสียทีขงเบ้งหลายต่อหลายครั้ง  ครั้งนึงเกือบถูกขงเบ้งเผาทั้งเป็น แต่ฝนตกลงมาช่วย รอดไปได้   ในเกมสามก๊กแบบวางแผนที่ผม เล่นมาทุกภาค  จะให้ขงเบ้งฉลาด100เต็มทุกภาค ส่วนสุมาอี้อยู่ที่96-97 ซึ่งน้อยกว่า บังทอง และ พอๆกันกับจิวยี่ ลกซุน กาเซี่ยงด้วยซ้ำ  ส่วนความเห็นของคุณจุมพฎนั้น  อ่านอะไรมาก็เชื่ออย่างนั้น  จริงอยู่ว่าหล่อ กวน จง เขียนเข้าข้างทัพเล่าปี่  แต่ที่ เล่า ชวน หัว เขียนนั้นเล่า  เอาอะไรมาพิสูจน์ว่า ถูก  ความคิดที่แท้จริงของเล่า ชวน หัว ก็คือต้องการอะไรแปลกใหม่ นำสมัย เท่านั้น  เหมือนพวกวัยรุ่นสมัยนี้ชอบทำตัวเซอร์ สกปรกๆ แหวกแนวๆ  ชอบทำอะไรเด่น แปลกแนวกว่าคนอื่นเป็นต้น  ส่วนความคิดของผมเอง ไม่ได้คิดว่า เล่าปี่ ขงเบ้ง เป็นพระเอก  โจโฉ เป็นผู้ร้าย แต่อย่างไร  ผมให้ความเคารพที่ความสามารถ  ผมยังเปรียบเปรย พระนเรศวร ว่าทรง ลักษณะ คล้ายโจโฉ ด้วยซ้ำไป ( มีความเป็นผู้นำ สามารถคุมกองทัพ ปรีชาสามารถ )  ในขณะเดียวกันเล่าปี่ก็ไม่ได้คนเลวร้ายอะไรเหมือนที่ เล่า ชวน หัว เขียนเพื่อให้หนังสือตัวเองขายดี  ถึงแม้ว่าสิ่งที่เล่าปี่ทำจะเป็นการเสแสร้งก็ตาม  เห็นได้เลยว่าเล่าปี่ยอมเสียสละทุกอย่างเพียงเพื่อคำสาบานสวนท้อ (ล้างแค้นให้กวนอู)  สรุปว่า ทั้งเล่าปี่ ทั้งโจโฉ ก็เป็นถือเป็นวีรบุรุษ  ไม่มีใครดีเป็นพิเศษ หรือชั่วร้ายเป็นพิเศษ  ยกย่องกันที่ความสามารถครับ ไม่ใช่ตามกระแส  หรือต้องการแหวกแนว

คุณเป็นกลาง ลปรร. ได้ดีครับ สนุกดี

"ในเกมสามก๊กแบบวางแผนที่ผม เล่นมาทุกภาค  จะให้ขงเบ้งฉลาด100เต็มทุกภาค ส่วนสุมาอี้อยู่ที่96-97 ซึ่งน้อยกว่า บังทอง และ พอๆกันกับจิวยี่ ลกซุน กาเซี่ยงด้วยซ้ำ"

 

อ่านตรงนี้แล้วรู้สึกแปลกๆนะครับ คุณเอาเกมวางแผนสามก๊กมาปนกับความเป็นจริงได้ยังไง คุณเดาได้ไงว่าขงเบ้งจะเก่งเหมือนในเกม ผู้ผลิตเกมเขาก็ต้องให้ขงเบ้งเก่งอยู่แล้ว เพราะสามก๊กมีขงเบ้งเป็นตัวเอก แต่ในประวัติศาสตร์จริงล่ะ(ขอให้ยึดฉบับประวัติศาสตร์เฉินโซ่วเป็นหลัก) ขงเบ้งทำอะไรให้เสฉวนบ้าง ยกทัพไปตีเว่ยห้าครั้ง ไม่ประสบความสำเร็จซักครั้งเดียว แถมครั้งนึงน่าขำมากเพราะยกทัพไปตั้งเป็นหมื่นกลับตีเมืองเล็กๆที่มีทหารชายแดนเฮ็กเจียวที่มีทหารแค่สามพันไม่ได้ น่าขำจริงๆที่คุณเอาขงเบ้งไปเปรียบกับลกซุนที่ใช้กำลังทหารเผากองทัพเจ็ดแสนของเล่าปี่ได้ ส่วนเรื่องที่คุณว่าสุมาอี้เสียทีขงเบ้งหลายครั้งขอให้พิจารณาประวัติศาสตร์ดังนี้(credits จากhttp://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A4124823/A4124823.html)

"ปีเจี้ยนซิงที่ ๕ ของสู่ (.. 227) รัชกาลฮั่นโฮ่วจู่ จูเก๋อเลี่ยงถวาย ฎีกาออกทัพ ต่อฮั่นโฮ่วจู่ ตระเตรียมไปตีอาณาจักรเว่ย จูเก๋อเลี่ยงยกทัพไปถึงฮั่นจง ฝึกซ้อมทหารม้า และอพยพผู้คนจากในอาณาจักรสู่มากมายเข้าไปอยู่ในฮั่นจงเพื่อก่อตั้งเป็นค่ายชายแดน

ปีเจี้ยนซิงที่ ๖ (.. 228) จูเก๋อเลี่ยงนำทัพไปตีเว่ยครั้งที่ ๑  ในเวลาเดียวกันนั้น เมิ่งต๋า(Meng da)อดีตแม่ทัพของสู่ที่ไปสวามิภักดิ์ต่อเว่ยยกทัพก่อการกบฏต่อเว่ย คิดจะบุกตีลั่วหยาง  ซือหม่าอี้ตัดสินใจเด็ดขาดยกทัพบุกอย่างรวดเร็ว ตีเมืองซิน(ซินเฉิง : Xin cheng) สังหารเมิ่งต๋าและฆ่าชาวบ้านล้างเมือง  จูเก๋อเลี่ยงพิชิตหนานอาน(Nan an : ปัจจุบันอยู่ในอำเภอหล่งซี(หล่งซีเซี่ยน) มณฑลกานซู่) , เทียนสุ่ย(Tian shui : ปัจจุบันอยู่ในอำเภอกานกู่ จังหวัดเทียนสุ่ย(เทียนสุ่ยซื่อ : Tian shui shi ; กานกู่เซี่ยน : gan gu xian) มณฑลกานซู่) , อานติ้ง(An ding : ปัจจุบันอยู่ในอำเภอจิงชวน(จิงชวนเซี่ยน : Jing chuan xian) มณฑลกานซู่) ๓ จวิ้น(จังหวัด)ของเว่ย  ภายหลังเนื่องจากหม่าซู่(Ma su)แม่ทัพของสู่พ่ายแพ้แก่จางเหอ(Zhang he)แม่ทัพของเว่ยทำให้ต้องสูญเสียเจียถิง(Jie ting : ปัจจุบันอยู่ในอำเภอจวงล่าง(Zhuang lang) มณฑลกานซู่)ไป ประกอบกับเมิ่งต๋าลงมือร่วมก่อการไม่สำเร็จ ทำให้จูเก๋อเลี่ยงต้องถอยทัพกลับฮั่นจงในปีเจี้ยนซิงที่ ๖ นั่นเอง

ฤดูหนาวปีเจี้ยนซิงที่ ๖ จูเก๋อเลี่ยงบุกตีเว่ยครั้งที่ ๒ โดยยกทัพออกทางด่านส่านกวน(San guan)ไปล้อมเฉินชาง(Chen chang) แต่เนื่องจากเสบียงไม่พอจึงถอยทัพกลับ

ปีเจี้ยนซิงที่ ๗ (.. 229) จูเก๋อเลี่ยงบุกตีเว่ยเป็นครั้งที่ ๓ บุกตีอู่ตู(Wu du)และหยางผิง(Yang ping) ๒ จวิ้น

ปีหวงหลงที่ ๑ ของอู๋(Huang long : มังกรเหลือง :.. 229) ซุนเฉวียนประกาศตัวเป็นฮ่องเต้ เรียกขานกันว่า อู๋ต้าตี้”(Wu da di) อาณาจักรสู่ส่งทูตไปอวยพรแสดงความยินดี อู๋และสู่ทำสัญญาผูกสัมพันธไมตรีกันอีกครา อาณาจักรอู๋ย้ายราชธานีไปยังเมืองเจี้ยนเยี่ย(Jian ye)

ปีไท่เหอที่ ๔ ของเว่ย (Tai he :.. 230) เฉาเจิน(Cao zhen)และซือหม่าอี้ยกทัพบุกสู่ แต่ยังไม่ทันเข้าไปในอาณาจักรสู่ก็ต้องเจอกับภาวะอากาศฝนตกหนักไม่ขาดสายตลอดเวลาจนต้องถอนทัพกลับโดยยังไม่ทันได้สู้

ปีเจี้ยนซิงที่ ๙ ของสู่ (.. 231) จูเก๋อเลี่ยงยกทัพไปตีเว่ยครั้งที่ ๔ ซือหม่าอี้ยืนกรานตั้งทัพรับโดยไม่ออกไปรบด้วยจนกองทัพของสู่เสบียงหมดและต้องถอยทัพกลับไปเองโดยปริยาย เพียงได้สังหารแม่ทัพเว่ยนามจางเหอ(Zhang he : คนที่เอาชนะหม่าซู่และเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้การบุกเว่ยครั้งที่ ๑ ของจูเก๋อเลี่ยงล้มเหลว)เท่านั้น

ปีเจี้ยนซิงที่ ๑๒ (.. 234) จูเก๋อเลี่ยงยกทัพบุกเว่ยครั้งที่ ๕ โดยยกทัพออกทางเสียกู่(Xie gu : หุบเขาเสีย)เข้ายึดครองอู่จ้างเหยวียน(ทุ่งห้าจ้าง : Wu zhang yuan) แล้วแบ่งกำลังทหารทำนาตุนเสบียง จากนั้นตั้งประจันกับซือหม่าอี้ที่ริมฝั่งแม่น้ำเว่ย(เว่ยสุ่ย : Wei shui) ซือหม่าอี้ยังคงคุมทัพเฝ้าอยู่เฉยๆโดยไม่ออกมาสู้ด้วยเช่นเดิม

เดือน ๘ จูเก๋อเลี่ยงป่วยตายในกองทัพ เจี๋ยงหว่าน(Jiang wan)รับหน้าที่แทนจูเก๋อเลี่ยง เลื่อนขึ้นรั้งตำแหน่งต้าซือหม่า(Da si ma)กุมบังเหียนการปกครองของอาณาจักรสู่  นอกจากล้มเลิกนโยบายบุกขึ้นเหนือแล้ว แนวทางการปกครองอื่นๆเจี๋ยงหว่านล้วนแต่ปฏิบัติตามที่ระบบจูเก๋อเลี่ยงได้วางเอาไว้ก่อนแล้วทั้งสิ้น"

 

จะพบว่าสุมาอี้กับขงเบ้งแทบไม่ได้เจอกันในสมรภูมิเลย สุมาอี้แค่ตั้งท่ารบแบบยืดเยื้อก็ทำให้ทหารขงเบ้งขาดเสบียงจนต้องถอยได้ ดังนั้นเรื่องที่สุมาอี้เกือบตายเพราะถูกขงเบ้งเผาจึงไม่มี กลยุทธ์เปิดเมืองร้างดีดพิณก็ไม่มีเพราะตอนนั้นสุมาอี้ดำรงตำแหน่งมหาราชครู(ถ้าจำไม่ผิด)เพราะมีคนอิจฉาเพ็ดทูลฮ่องเต้ให้ตั้งสุมาอี้ไปอยู่ในตำแหน่งเกียรติยศที่ไม่มีอำนาจทางทหาร จนต่อมาถึงมาทำหน้าที่แม่ทัพได้

 

"เห็นได้เลยว่าเล่าปี่ยอมเสียสละทุกอย่างเพียงเพื่อคำสาบานสวนท้อ (ล้างแค้นให้กวนอู)"

 

ถ้ายังงั้นคุณก็คงต้องให้โจโฉเป็นคนดีมากด้วยเพราะเขาได้สั่งให้ทำลายเมืองชีจิ๋วที่เฉินโซ่วบันทึกว่าเป็นคนวางแผนฆ่าพ่อโจโฉแต่ฉบับงิ้วว่าเป็นพวกโจรผ้าเหลืองฆ่า โจโฉที่คิดล้างแค้นให้พ่อกับเล่าปี่ที่คิดล้างแค้นให้น้องร่วมสาบาน คนไหนน่ายกย่องกว่า และคุณก็ต้องนับถือให้กษัตริย์องค์หนึ่งเป็นคนดีสุดซึ้งเลย เขาคือ..ซ่งเกาจงฮ่องเต้แห่งราชวงศ์ซ่ง ผู้ยกแผ่นดินจีนครึ่งประเทศให้กิมก๊ก แลกกับอิสรภาพของเหว่ยเฮาพระมารดา นี่สิครับคนยอมเสียสละตัวจริงเห็นไหม เสียสละแผ่นดินตั้งครึ่งประเทศ ทุ่มมากกว่าเล่าปี่ซะอีกนะ คุณควรเรียกพระเจ้าแผ่นดินนี้ว่าซ่งเกาจงมหาราช เพราะซ่งเกาจงมหาราชนี่แหละ เป็นคนปูทางการล่มสลายของราชวงศ์ซ่ง เรียกตัวงักฮุยกลับจากแนวหน้าเพื่อพระมารดาเพราะมีคนทูลว่าที่พวกกิมไม่ปล่อยพระมารดาเพราะยังมีแม่ทัพเก่งๆ โอ้ เป็นคนดีจริงๆนะครับ

 

"เล่า ชวน หัว เขียนเพื่อให้หนังสือตัวเองขายดี"

 

ถ้าเขาต้องการเขียนให้ขายดีจริงก็มีทางอื่นอีกหลายทางนะครับ ไม่เห็นต้องไปเขียนด่าเล่าปี่แหวกแนว ต้องไปสืบหาบันทึกประวัติศาสตร์มาแปลให้พวกเราๆอ่าน ดูสิครับฉบับไหนที่เขียนออกมาเชิดชูเล่าปี่เคยไปพลิกฉบับเฉินโซ่วมาบ้างรึเปล่า ส่วนใหญ่ผมเห็นแต่เอาหลอกว้านจงมาทั้งนั้น ถ้าเล่าชวนหัวต้องการให้ขายดีเฉยๆไม่ต้องลำบากขนาดนั้นก็ได้ แค่เขียนเชิดชูเล่าปี่เหมือนที่มีคนเคยเขียนนั่นแหละครับ ไม่ต้องเสียเวลาแปลหลายๆฉบับให้ยุ่งยากเลย อีกอย่างเล่าชวนหัวไม่ได้บอกว่าแนวคิดของเขาถูก เขายังเขียนไว้ในหนังสือว่าอยากให้พวกคนอ่านวิเคราะห์ไปด้วยอย่าเชื่อเขาอย่างเดียว

 

"ความคิดที่แท้จริงของเล่า ชวน หัว ก็คือต้องการอะไรแปลกใหม่ นำสมัย เท่านั้น"

"

 

เล่าชวนหัวไม่ได้ด่าขงเบ้งเล่าปี่ลอยๆ แบบไม่มีเหตุผลเหมือนพวกขี้แพ้ชวนตี เขาได้หาหลักฐานมากมายมาอ้างถึงคนเหล่านี้ อย่างยุทธศาสตร์หลงจงคุณคิดว่าเป็นแผนของคนมีคุณธรรมงั้นหรือ การที่จะไปแย่งชิงเมืองจากคนที่เคยอุปถัมภ์ตน ขนาดโจโฉยังไม่ฆ่าตันก๋งที่เป็นกุนซือลิโป้ศัตรูของตนเพราะตันก๋งเคยช่วยเขาไว้แม้จะเป็นแค่การช่วยครั้งเดียว แต่ตันก๋งต้องการตายโจโฉจึงต้องฆ่า แต่เล่าปี่ขงเบ้งกลับคิดทรยศผู้มีพระคุณและผู้มีพระคุณนั้นก็ไม่ได้ตั้งตัวเป็นศัตรูแบบที่ตันก๋งทำกับโจโฉด้วย  แถมที่เล่าชวนหัวกล่าวว่าขงเบ้งได้รับบุณคุณจากเล่าเปียวก็ไม่ได้กล่าวลอยๆ ถามจริงเถอะครับ ถ้าตอนนั้นขงเบ้งไม่ได้รับความเมตตาจากเล่าเปียวขงเบ้งจะไปอยู่ไหน ถ้าเล่าเปียวไม่สนใจเล่าปี่ที่หนีจากอ้วนเสี้ยวมาเล่าปี่จะไปอยู่ไหน เพราะเล่าปี่ก็ยังเป็นจ้าวไม่มีศาลอยู่เลย นอกจากนี้ถ้าคุณคิดว่าเล่าปี่ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรคุณก็จงทิ้งสำนวน "กินบนเรือนขี้บนหลังคา" ซะ และคุณจงถือว่าคนทรยศคนขายชาติเป็นคนดี เพราะเล่าปี่ต้อนรับเตียวสงคนทรยศอย่างดีด้วยการให้ยอดขุนพลอย่างจูล่งต้องมาต้อนรับคนขายชาติ ผมว่าขงเบ้งเป็นพวกชอบเลียนแบบรัฐฉินสมัยเลียดก๊ก เพราะรัฐฉินใช้นโยบายขยายดินแดนแบบเดียวกับขงเบ้งนั่นแหละ แต่ขงเบ้งลืมนึกไปว่า การที่บ้านตัวเองยังไม่สะอาดแต่ถือไม้กวาดไปกวาดบ้านคนอื่นจะเป็นยังไง เขาจึงใช้นโยบายขยายดินแดนอย่างไม่ว่างเว้น ต่างกับรัฐฉินที่วางรากฐานตั้งแต่ฉินเซี่ยวกงที่มีซางยางยอดไจเสี่ยง ฉินฮุ่ยอ๋องมีจางหยียอดปราชญ์จากหุบเขาปีศาจ และในที่สุดสมัยฉินอ๋องเจิ้งมีหลี่ซือกับอ้วยเหลียวเป็นฝ่ายคิด ฝ่ายศึกมีหวังเจี่ยน หวังเปิน หลี่ซิ่น หยางตวนเหอ เป็นต้น ทำให้ในที่สุดรัฐฉินรวมแผ่นดินได้ แต่ที่ขงเบ้งทำคือมุ่งรวมแผ่นดินอย่างเดียว ทั้งที่ในกองทัพแทบไม่มีทหารฝีมือดีแล้ว ฝ่ายคิดก็มีแค่ตัวขงเบ้งคนเดียว ผมว่าขงเบ้งควรจะรีบหาทหารฝีมือดีใหม่ๆมาจะดีกว่าดันทุรังรบ ซึ่งผลทำให้เสฉวนล่มก่อนใครในสามก๊ก ตัวอย่างแบบนี้เคยมีให้เห็นสมัยจ้านกว๋อแล้ว ฉีหมิ่นอ๋องแห่งรัฐฉีชอบขยายดินแดนรุกรานรัฐอื่น ในที่สุดเลยถูกพันธมิตรหกนครนำโดยงักเยหรือเล่อยี่ บุกตีจนเหลือสองเมืองสุดท้ายโชคดีเล่อยี่ถูกปลดก่อนเลยรอดมาได้  อีกอย่างจากประวัติศาสตร์ข้างต้นคุณจะเห็นว่า

"แนวทางการปกครองอื่นๆเจี๋ยงหว่านล้วนแต่ปฏิบัติตามที่ระบบจูเก๋อเลี่ยงได้วางเอาไว้ก่อนแล้วทั้งสิ้น"

 

ถ้าขงเบ้งเก่งจริงเสฉวนต้องไม่ล่มสิครับ เพราะเจียวอ้วน(เจี๋ยงหว่าน)ดำเนินนโยบายปกครองแบบเดียวกับที่ขงเบ้งวางรากไว้ ถ้าขงเบ้งเก่งจริงต้องทำให้เสฉวนเจริญขึ้น ไม่ใช่เจริญลงจนแค่เตงงายบุกครั้งเดียวเสฉวนก็ล่มยังงี้ ผลมาจากการที่เขาเกณฑ์คนไปทำสงครามตลอดเวลาเหมือนจักรพรรดินโปเลียนแห่งฝรั่งเศสที่แม้มีกำลังเข้มแข็งแต่ก็ถูกตีจนต้องสละบัลลังก์ เพราะปวงประชาเบื่อสงคราม ผมว่าเสฉวนคงเหมือนกันเพราะหลังขงเบ้งตายเกียงอุยก็เกณฑ์คนไปตายอีก พอทหารวุ่ยมาถึงประชาชนคงโห่ร้องยินดีมากกว่ามั้งผมว่านะ

 

แต่ถ้าคุณจะคิดว่าขงเบ้งยอดๆๆๆ ก็ไม่เป็นไรนะครับ ผมแค่จะพูดให้ฟังเท่านั้น เชื่อหรือไม่แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคน...

ขออภัยที่โพสติดกัน2คอมเมนต์ครับ พอดีผมเผลอกดไป 2 ครั้ง...

คุณมม ก็มีเหตุผลที่น่าสนใจไม่น้อย แถมมีที่อ้างอิงด้วย ขอบคุณที่เข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (ลปรร.) กันครับ

ผมว่าคนที่เก่งที่สุดไม่ใช่ขงเบ้ง แต่เป็น ซุยเป๋ง ที่เล่าปี่เผอิญไปเจอข้าหลังจากที่ไปหาขงเบ้ง แล้วเล่าปี่ก็ชวนซุยเป๋งไปสนทนาด้วยแต่ซุยเป๋งไม่ไป รู้ไหมว่าซุยเป๋งพูดกับเล่าปี่ว่าอะไร ซุยเป๋งพูดกับเล่าปี่ว่า  เมื่อใดที่จิตใจของข้าพเจ้าว่างเปล่า  เมื่อนั้นข้าพเจ้าจะไปสนทนากับท่าน

ผมจึงเห็นว่าซุยเป๋งเป็นคนที่เก่งที่สุด

ผมเห็นด้วยกับความคิดเห็นของคุณสิทธิศักดิ์ ที่ว่า ซุยเป๋งเก่งที่สุด เพราะว่า ตามหลักพระพุทธศาสนา ว่าไว้ว่า ผู้ใดที่สามารถชนะจิตใจตนเองได้ผู้นั้นคือผู้ที่เก่งที่สุด
ชอบเรื่องสามก๊กครับ สนุกดี ให้แนวคิด แต่จำไม่ค่อยได้แล้ว อ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง  สงสัยต้องไปอ่านอีกรอบ:)

ขงเบ้งก็เก่ง  สุมาก็เก่ง 

  • จูล่งเก่งที่สุดเลยสุดยอดในใจผมไปเลย  เป็นนักรบด้วยกันที่เก่งมาก
  • ขอบคุณทุกๆท่านครับที่เข้ามาเขียนข้อคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง
  • ขอบคุณคุณสิทธิศักดิ์และคุณขวัญ ผมเห็นด้วยกับข้อคิดเห็นครับ มองในอีกมิติหนึ่ง
  • คุณ Patrickz คงต้องไปอ่านอีกรอบ
  • คุณเชือกกล้วย ชอบเหมือนผมเมื่อตอนเด็กๆ เลยครับ ผมชอบจูล่งมาก เป็นบุคคลที่เป็นนักรบที่เก่งมากในสนามรบ และการดำเนินเชีวิตก็เรียบง่าย แถมเวลาตายก็ตายดีคือนอนหลับแล้วไม่ตื่น ไม่เหมือนนักรบหลายคนต้องตายแบบศรีษะไม่อยู่กับตัวครับ

ขงเบ้งเก่งมากมิชะนั้นขงไม่สามารถรู้ว่ารกซุนคิดอะไรอยู่   และตอนที่จิวยีแกล้งตายเพื่อฆ่าขงเบ้งดันโดนซ้อนแผนฆ่าตายซะเอง  นับว่าขงเบ้งมิฉลาดหรอคุณเคยดูในหนังบ้างหรือเปล่า ในหนังขงเบ้งเก่งสุดถ้าไม่ตายซะก่อนเล่าปี่ก็ชนะไปแล้ว  ใครว่าขงเบ้งไม่แน่จริงแจ้งมาได้ที่ e-mail [email protected]  ผมว่าไม่มีใครเก่งเท่าขงเบ้งจะทำไงได้คุณคิดว่า ขงเบ้งไม่เก่งเพราะมีอคติหรือเปล่า ผมว่าขงเบ้งเก่งเขาสามารถใช้ทุกอย่างให้เกิดประโยชน์ เช่นชักนำท่วมกองทัพโจโฉ  หรือแม้แต่การจิ้วยีที่ได้ชัยจากการชนะโจโฉก็เพราะขงเบ้งยืมลมมาช่วยิ  ขงเบ้งเก่งที่สุด

ตอบคุณขงเบ้งเก่งที่สุด

  • อ่านเรื่อง "สามก๊ก" ทีไร ขงเบ้งคือขวัญใจของผมเลยครับ และผมเชื่อว่าทุกคนเมื่อเริ่มอ่านสามก๊กก็ต้องชอบและรักขงเบ้ง
  • ผมดูหนัง "สามก๊ก" ตอน "ขงเบ้งตาย" ต้องเสียน้ำตาให้ขงเบ้งครับ
  • แต่เมื่อผมอ่าน "สามก๊ก" มากๆ เข้า ผมเข้าใจว่า คนเขียนเรื่องสามก๊กเขาพยายามเขียนให้ขงเบ้งเป็นพระเอกครับ เพราะโดยสมมุติฐานในการเขียน เขาเขียนเชียร์ก๊กของเล่าปี่ครับ
  • ต้องอ่านโดยพินิจพิเคราะห์ ตอนขงเบ้งยกทัพไปตีวุยก๊ก 6 ครั้ง ที่ส่วนใหญ่ทำสงครามกับสุมาอี้ครับ

อ่านสามก๊กยังไม่จบเลยค่ะ  แต่จะเลือกเปิดอ่านตอนที่ชอบได้อรรถรสดีค่ะ  บังเอิญว่าได้อ่านตอนที่อาจารย์เขียนถึงด้วย  ตนเองมองว่าขงเบ้งเด่นในเรื่องปัญญา ถ้าปัญญาเป็นน้ำก็จะทำให้เนื้อเรื่องมีชีวิตชีวาน่าสนใจติดตาม เหมือนเรื่องแดจังกึมที่ตัวเอกใช้ปัญญาในการดำเนินเรื่องทำให้เรื่องน่าติดตาม     สำหรับสุมาเต็กโช คงทราบด้วยการหยั่งรู้ว่า อนาคตจะเป็นเช่นไร  ซึ่งแต่ละคนก็ต่างมีภาระหน้าที่ต่างกัน ไม่แน่ว่าถ้าขงเบ้งรู้อนาคตตัวเอง แต่ก็ยังจะเลือกที่จะทำ เพราะบางทีมิใช่จบแค่จบชีวิตเท่านั้น...

"ไม่แน่ว่าถ้าขงเบ้งรู้อนาคตตัวเอง"

  • ขงเบ้งรู้อนาคตตัวเองแน่นอนครับ รู้ตั้งแต่ก่อนก้าวขาออกจากบ้าน รู้ตั้งแต่ก่อนจะได้เจอหน้าเล่าปี่เสียอีก
  • บุรุษผู้แจ้งฟ้าและจบดิน ถ้าเรื่องแค่นี้มิอาจล่วงรู้ก็มิอาจได้ฉายาว่าฮกหลงแล้วละครับ
  • แต่ทำไมขงเบ้งถึงได้ติดตามเล่าปี่ไป เชิญทุกท่านพิเคราะห์เอาเองเถิด เดี๋ยวจะเสียอรรถรสในการอ่านไป
ผมว่า ซีซี ของ โจโฉ ฉลาดที่สุด เสียดายที่ว่าบุญน้อย เลยมาเสียตั้งแต่ต้นเรื่อง

อีกทีครับ

เรื่องการสาบานตนของ เล่าปี่ กวนอู และเตียวหุย ในสมัยนั้นยังไม่มีนะครับ

เรื่องการขงเบ้งเรียกลมมาเผากองเรือของของโจโฉก็ไม่จริง ครับ ที่จริง โจโฉเผาทัพตัวเอง เพราะเกิดโรคระบาดขึ้น (ตามที่อ่านมา) ถ้าบอกว่าตัวเองเผาทัพตัวเอง จะน่าเปลียดขนาดไหน ดังนั้นเมื่อโจโฉเผาทัพตัวเอง แล้ว ดังนั้นเรื่องที่โจโฉหนีไฟไปพบกับกองทัพที่ขงเบ้งวางดักไว้ตามที่ต่างๆก็ไม่เป้นความจริงด้วย

อีกอย่างนะครับ เล่าปี่ตายก่อนข้งเบ้งนะครับ

อ่านสามก๊ก ดูดีๆนะครับ จะเห็นว่าโจโฉ น่าจะเป็นพระเอกมากกว่า ลองดูครับ ใครเป็นคนที่ช่วยกอบกู้บ้านเมืองจากทรราช ลองอ่านของที่ มรว.คึกฤทธิ วิเคราะ์ห์ดูครับ "โจโฉนายกรัฐมนตรี ตลอดการ"

แต่ยังไงผมก็ชอบ จู่ล่งที่สุดเหมอืนกันครับ

  • หลากหลายความคิดกันดีครับ
  • สงสัยว่าวันนี้ทำไมมีท่านผู้อ่านเข้ามาเขียนข้อคิดเห็นกันมากจัง
  • ช่วงบ่ายกว่า ๆ ถึง เกือบ 5 โมงเข้า Gotoknow ไม่ได้อีกแล้ว
  • ครับผมก็เข้าไม่ได้เหมือนกัน
  • เลยคิดว่าจะย้ายบ้านหนีซะแล้วครับ
เห็นด้วยกับคุณเป็นกลาง  คิดว่าคุณเป็นกลางรู้จักธาตุแท้และตัวตนที่แท้จริงของ  เล่าชวนหัว  เหมือนกับที่พวกเรารู้
  • ขอบคุณคุณนุชครับผมเลยต้องขึ้นไปอ่านความเห็นของคุณเป็นกลาง
  • ต้องสารภาพว่าผมยังอ่านไม่หมดเลยครับเพราะค่อนข้างยาว

ขอร่วมคุยด้วยคนครับ

คนที่อ่านสามก๊กจบและอ่านไปคิดตามไปเท่านั้นถึงจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรและใครเป็นยังไง

ผมจะไม่พูดว่าใครเป็นที่สุดทางด้านนั้นด้านนี้เพราะ

  • คนที่ยังไม่ได้อ่านและกำลังจะอ่านจะเสียอรรถรส
  • คนที่อ่านจบแล้ว แต่คิดไม่เหมือนกันจะคิดว่าเป็นการแบ่งพรรคแบ่งพวกและชวนทะเลาะ

ดังนั้นเรื่องนี้ใครอ่านก็จะรู้เองครับ (จำคำพระไม่ได้) จะมาฟังคนอื่นบอก แล้วเชื่อนั้นหาได้ไม่ เพราะต่างคนต่างความคิด

แต่ขอบอกว่าความคิดของคุณเป็นกลาง เป็นความเห็นที่ดีมากครับ

ผมก็กำลังจะบอกว่าผู้เขียนตั้งใจจะให้คนอ่านเห็นความริงของโลกครับ คือ "Nothing Perfect" ถ้าคนอ่านจับตรงนี้ได้และนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์กับการดำเนินชีวิตและสังคมก็จะดีครับ

เพราะถ้าเขียนให้ขงเบ้งหรือเล่าปี่ โจโฉ หรือคนอื่นๆ Perfect มันจะสนุกอะไรครับ เหมือนหนังไทยที่พระเอกไม่เคยตาย และคนดูจะเดาไว้ว่าตอนจบเป็นยังไง แล้วอย่างนี้คนอ่านจะได้อะไรครับ

เป็นธรรมดาและความสวยงามของโลกที่แต่ละคนก็เก่งหรือถนัดกันไปคนละแบบครับ ถ้าจะให้อินเทรนด์หน่อยก็เหมือนกับทีมฟุตบอลที่ประกอบไปด้วย กองหน้า กองกลาง กองหลัง และผู้รักษาประตู ลองจินตนาการถึงฟุตบอลทีม A ที่มีแต่กองหน้าทั้ง 11 คนเล่นอยู่ในสนาม (ให้เป็น"รูนี่"ทั้ง 11 คนเลยก็ยังได้) เตะกับทีม B ที่เป็นทีมตามปกติสิครับ

อีกเรื่องที่ผู้เขียนบอกคือ "สงครามให้อะไรแก่มนุษยชาติบ้าง" นอกจากความล่มจม ย่อยยับ ประชาชนเดือดร้อน บ้านแตกสาแหรกขาด มีคนตายมากมายก่ายกอง

โอยยิ่งพูดยิ่งยาวสวัสดีครับ

 

  • คุณเปมิชสรุปได้ดีครับ
  • ต่างคนก็ต่างความคิด อ่านเองแล้วคิดตามไปด้วยถึงจะได้ครับ
  • ยิ่งอ่านก็ยิ่งได้
  • ยิ่งทำก็ยิ่งรู้
  • เหมือนอย่างการสร้างบล็อกเขียนบันทึกนี่ครับ ยิ่งทำก็ยิ่งได้ และยิ่งให้ก็ยิ่งได้
  • อย่างที่เรากำลัง ลปรร.กันนี่แหละครับ

คลับคล้ายคลับคลาคำพระว่า  กาลามสูตร  พระพุทธองค์ว่าอย่าเชื่อสิ่งที่เขาว่า  ต้องพิสูจน์ 

ความศรัทธากับความหลงเป็นฝาแฝดกัน  เมื่อศรัทธาใครก็จะทำให้เราหลงเชื่อคนๆนั้นอย่างสนิทใจ 

ที่บอกว่าเห็นด้วยกับคุณเป็นกลางเพราะได้พิสูจน์ด้วยตนเองมาแล้ว  สิ่งที่คุณเป็นกลางพูดล้วนเป็นความจริง  3 ปีเต็มที่ได้คบหากับเล่าชวนหัว  เริ่มแรกด้วยความศรัทธานับถือกันฉันท์พี่น้อง  ด้วยความจริงใจช่วยเหลือในทุกสิ่งที่เขาออกปาก  ปีแรกๆรู้สึกดีมากทำให้เราตายใจ  แต่สุดท้ายก็ฉวยโอกาสทำร้ายเรา  ก็ได้แต่เตือนคนที่ไม่รู้เท่าทันให้ระวัง  คนๆนี้อันตรายและน่ากลัว  ประวัติตั้งแต่เล็กจนถึงปัจจุบันจากคำบอกเล่าของเขาเอง   เรียกว่า  ซาตานก็ไม่ผิด  

เคยมีผู้อ่านจากโต๊ะจีนของเล่าชวนหัวในผู้จัดการบอกว่า  ไม่ต้องสนใจพฤติกรรมของเขาอ่านแต่สิ่งที่เขาเขียนก็พอ  ถ้าคิดเช่นนั้นก็จะเป็นช่องทางให้คนที่ไม่รู้อาจจะตกเป็นเหยื่อ  เหมือนกับที่เราเคยประสบมา  

เราเชื่อในกฏแห่งกรรม  กรรมใดใครก่อต้องได้รับผลกรรมนั้นแน่นอน   

ต้องขออภัยคุณสมลักษณ์ที่แสดงความเห็นในนี้  เพียงเพราะไม่อยากเห็นใครต้องประสบเคราะห์กรรมเหมือนเรา  ที่หลงศรัทธาโดยไม่ศึกษาให้ถ่องแท้เสียก่อน 

  • ศรัทธาต้องใช้ควบคู่กับปัญญาครับ
  • กฏแห่งกรรมมีแน่นอนครับ ตัวจิตจะบันทึกกรรมคือการกระทำเอาไว้ครับ
  • เล่าชวนหัวตอนนี้อายุประมาณเท่าไรครับ
  • ขอบคุณ คุณนุชที่เข้ามาลปรร. อีกครั้ง การลปรร.ไม่มีถูก-ไม่มีผิดครับ พลังแห่งความต่างสร้างโลกครับ

ขอบคุณค่ะ  

เล่าชวนหัว  เกิดปีระกา  2489

รู้จักคบเขาในปี  2543  จากรายการร้อยแซ่พันธุ์มังกร 97.5

เพราะศรัทธาในเรื่องจีนเหมือนหลายๆคนที่คล้อยตามในสิ่งที่เขาเขียน  จึงเกิดวิบากกรรม  หลังจากนั้นจิตตกมาก  แต่มีกัลยาณมิตรให้กำลังใจจึงผ่านพ้นวิกฤติมาได้  ซึ่งเป็นเรื่องที่สาหัสที่สุดในชีวิต  ถือเป็นบทเรียนราคาแพง   เป็นเพราะมั่นใจตัวเองและมองโลกในแง่ดีมากไป  ซึ่งผู้ใหญ่หลายท่านดูออกและตักเตือนว่าไม่น่าคบ  ทั้งที่ก่อนหน้าจะรู้จักคนๆนี้ก็มีนิมิตเตือนแต่  ตีความไม่ออกจึงทำให้พลาด   จึงทำให้ระวังตัวมากขึ้นในการคบคน  

 

  • ขอบคุณครับสำหรับทุกความเห็น
  • คุณนุชมี Blog ไหมครับจะได้คอยติดตามผลงาน
  • ไม่ทราบว่าคุณนุชเคยแวะไป Blog ของคุณหมอวัลลภไหมครับ
  • ตอนนี้ผมเป็นแฟน (Blog) ของคุณหมอวัลลภ กับอาจารย์สมล้กษณ์ไปซะแล้วครับ
  • ความรักทำให้คนตาบอด คำกล่าวนี้ก็มิผิดครับ ไม่ว่ารักกันในฐานะอะไร เพื่อน พี่ น้อง ฯลฯ
  • จิตที่ดีควรจะว่าง ไม่ควรมีสิ่งปรุงแต่ง ตกอยู่ใน โลภะโทสะ หรือ โมหะจริตมาครอบงำ มีแต่สติ
  • ผมก็เชื่อในกฎแห่งกรรมครับ บางทีกรรมอาจจะมาช้าไปบ้าง (ตามความรู้สึกของเรา) แต่กรรมก็จะมาถึงผู้ทำกรรมในวันหนึ่งครับ
  • ไม่คบคนพาลเป็นมงคลชีวิตครับ ผมจำไม่ได้ทั้งหมด ทั้ง 38 ประการ ไม่รู้ว่าอาจารย์สมล้กษณ์หรือคุณหมอวัลลภ จะเอาเรื่องมงคลชีวิตมาต่อจากเรื่องสังเวชนียสถานหรือไม่ครับ ถ้ายังไม่มี Idea อะไร ผมขอ request เรื่องมงคลชีวิตนะครับ ฝากบอกคุณหมอวัลลภด้วยครับ
  • ผมเคยมีหนังสือเรื่องมงคลชีวิต แต่ยกให้ตคนอื่นไปแล้ว เพราะผมรู้สึกว่าเขาควรอ่าน
  • ปกติผมชอบให้ของขวัญเป็นหนังสือครับ ให้ดอกไม้เดี๋ยวก็เหี่ยว หนังสืออยู่ได้นาน อย่าให้ตกน้ำตกไฟก้แล้วกัน
  • ปกติผมเป็นคนขี้อายมากครับ คุยไม่เก่ง (โทรศัพท์เหมาจ่ายผมขาดทุนทุกเดือน) แต่ไม่รู้ทำไม เวลาเขียน แล้วมักจะยาวทุกที สวัสดีครับทุกๆ ท่าน
สามกั๊ก เมาไม่กลับ

ผมอ่านมาหลายรอบ หลายฉบับ เริ่มจากของยาขอบ(ของพ่อ ..)ตั้งแต่อายุ 11 ขวบ ตอนนี้หาไม่เจอแล้วไม่ได้เก็บไว้ (เสียดาย)เพราะซื้อฉบับพิมพ์ใหม่ สมัยสนามหลวง ต่อมาของฉบับหอสมุดฯ, การ์ตูนญี่ปุ่น ฉบับที่เขียนใกล้เคียงตยฉบับ VCD ๕๖ แผ่น (ขอยืมแฟนเก่ามาไรด์) ตอนนี้ 40 ปี ก็ยังหยิบมาอ่านเรื้อย ๆ หรือเมื่อรู้สึกว่าสมองคิดอะไรไม่ออก เฉื่อยชา ก็จะทำให้รู้สึกกระตือรือล้นสมองแล่นเกิดความมั่นใจ

1.ผมว่าอย่าเอาเรื่องในนินายที่แต่งมาเทียบกับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ เพราะจุดประสงค์การประพันธ์คนละเรื่องกัน (แต่ก็สนุกดี) เนื้อหาทางประวัติศาสตร์ก็ไม่ใช่เรื่องจริงเสมอไปดูเรื่องไทยกับพม่าครั้งอยุธยาซิ

2. เมื่อเราคุยเรื่องสามก๊ก น่าจะแยกว่าคุยเรื่องนิยายสามก๊ก หรือประวัติศาสตร์จีนในช่วงเวลาเมื่อเทียบกับในนิยายสามก๊ก การถกเถียงน่าจะออกอัถรสมากกว่า และอ่านสนุกขึ้น กว่าจะไปคอยจับผิดความคิดตัวละครมากไป และเพื่อเป็นการมองหาแง่มุมความคิดในตัวละครมากกว่าไปวิเคราะห์บุคคลในประวัติศาสตร์จีน

3. ในเมื่อเป็นเรื่องแต่งย่อมต้องมีตัวเดินเรื่อง และตัวเดินเรื่องส่วนใหญ่จะเป็นพระเอก พระเอกก็ต้องเก่ง ถ้ายึดเอาชีวิตจริงมาเทียบ ว่าขงเบ้งเก่ง หรือสุมาอี้ หรือใคร่เก่งสุด คงไม่ได้เพราะการที่ขงเบ้งเก่งคาดการได้ถูกต้องเพราะผู้แต่งตั้งใจให้เป็นเช่นนั้น แรกๆอ่านไปก็เคยคิดแผนตามไปด้วย บางคร้งถ้ามีเหตุการณ์ผลิกผันดินเดียวก็แผนคงไม่สำเร็จเหมื่อนที่วางไว้ แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นเรื่องก็ไม่สามรถดำเนินต่อไปได้ หรือกลายเป็นเรื่องอื่นไป

4. ในโลกแห่งความเป็นจริงไม่มีใครสามารถเก่งได้คนเดียวต้องประกอบหลายส่วนทั้งพลทหาร นายกอง แม่ทัพ กุนซือ และเจ้านาย และจิตใจทั้งกองทัพ กล้าหาญ หวาดกลัว โกรธ ฉุนเฉียว เช่นตอนท้ายที่ขงเบ้งดื้อดึงยกทัพไปถึง 6 คร้งก็ล้มเหลวทุกครั้ง ผิดกับเมื่อก่อนที่เป็นคนสุขุมรอบครอบ ก็อาจวิเคระห์ไปได้ว่าจิตใจเข้าอาจเปลี่ยนไปตามการเวลา และสถาณการณ์รอบข้าง เช่นอาจเป็นโรคซึมเศร้า จากเหตุการต่าง และผู้คนรอบข้างที่ล้มหายตายจากไป (คิดเล่นๆ แต่จริงใจ) อันนี้เป็นสัจะธรรมของมนุษยชาติ ดังนั้นเราน่าจะตั้งกระทู้ที่เกี่ยวกับเรื่องนิยายสามก๊ก จะได้ช่วยกันวิเคราะห์วิจารณ์ ไม่ต้องมาพูดถึงประวัติศาสตร์ชนชาติจีน น่าจะมันกว่า  ......

   

เรียนคุณนุช

  1. เล่าชวนหัวปีนี้ก็อายุ 60 แล้ว
  2. ผมคิดว่าเขาเป็นคนจีน แต่อ่านดูที่คุณนุชเขียนมา น่าจะเป็นคนไทยนะครับ ช่วยเฉลยหน่อย
  3. เล่าชวนหัวอาจจะอินกับกลอุบายต่างๆ ของจีนมากไปหน่อย ก็เลยเป็นคนไม่จริงใจ (ในสมองมีแต่แผนการณ์ที่จะเอาเปรียบคนอื่น)
  4. ผมว่าคนที่ไม่มีคุณธรรม ที่มีความรู้ในบ้านเราก็เป็นแบบนี้
  5. คือคนที่มีความรู้ มักจะเอาเปรียบคนอื่นนะครับ
  6. ผมอยากคบกับชาวบ้านธรรมดา ที่ไม่ได้เรียนหนังสือมาก (แต่มีความรู้) เป็นคนที่จริงใจ จริงจัง และซื่อสัตย์นะครับ

เรียนคุณเปมิช

  1. คุณเปมิชได้ใช้ Blog ของผม B2B กับคุณนุชแล้วครับ... ยินดีครับ
  2. ขอบคุณที่คุณเปมิชเป็นแฟนพันธุ์แท้ของหมอวัลลภและ beeman (เป็นคนแรกเลยครับที่ต้องบันทึกไว้ เพราะบอกตรงๆ เลย...ขอบคุณครับ)
  3. เรื่องที่ ลปรร. กับคุณนุช ผมเห็นด้วยครับ
  4. เรื่องมงคล 38 ประการเป็นเรื่องน่าสนใจนะครับ ต้องทำเป็น series ผมสนใจที่จะเขียนครับ ยังไงชวนอาจารย์หมอวัลลภเขียนก่อนนะครับ ผมคงจะเขียนตอนเปิดเทอม ถ้าเป็นไปได้ สัก 3-4 เดือนก็คงจะจบ 38 ตอน หรืออาจจะเหลือ 20 ตอนก็ได้
  5. ข้อสุดท้ายนี่เรื่องพูดไม่เก่งนี่เหมือนผมเลย เวลามีคนมากๆ หรือพูดแบบพิธีการจะพูดไม่เก่ง แต่ถ้าคุยกับคนที่รู้ใจจะสนุกมาก (เมาท์คนเดียว) ผมจึงเป็นนกเพ็นกวินครับ พูดไม่เก่ง แต่การเขียนนี่ใช้ได้ดีทีเดียวเลยครับ

เรียนคุณสามกั๊ก เมาไม่กลับ

  • คุณสามกั๊ก อ่านสามก๊กอายุไล่เรี่ยกับผมครับ
  • การลปรร.ของคุณสามกั๊กนี่น่าสนใจทีเดียว คือ เรากำลังพูดถึงวรรณกรรมเรื่องสามก๊ก ดังนั้นสิ่งที่เราพูดถึงกันคือตัวละคร ดังนั้นเราต้องเอาเรื่องราวตัวละคร ในหนังสือสามก๊ก (ผมใช้ของเจ้าพระยาพระคลัง (หน) เป็นส่วนใหญ่) มาวิเคราะห์-วิจารณกันจะสนุกกว่าและไม่เสียอรรถรสครับ
  • ส่วนเรื่องประวัติศาสตร์ ก็น่าจะแยกประเด็นมาคุยกันในคราวหลัง โดยกำหนดให้ไปอ่านหนังสือกันมาก่อน (ให้บอกที่มาของหนังสือประวัติศาสตร์) และควรเป็นหนังสือเล่มเดียวกันด้วย อย่างในหนังสือประวัติของพระเจ้าตากสิน ยังมีหลาย Version เลย (ไม่รู้จะเชื่อใครดี)
  • เป็นอันว่าเราพูดถึงวรรณกรรมหรือนิยายเรื่องสามก๊กกันนะครับ ในการลปรร.
  • เรื่องการทำงานเป็นทีมนี่น่าสนใจมาก
  • อาจจะมาวิเคราะห์กันว่าทำไมขงเบ้ง จึงไม่ประสบความสำเร็จ (รวมสามก๊กให้เป็นก๊กเดียวได้) เพราะว่าขงเบ้งไม่สามารถสร้างทีมงานที่ทำงานเป็นทีมเข้าขากันได้ จึงทำให้การทำงานของเขาไม่บรรลุวัตถุประสงค์ครับ
  • ที่วิเคราะห์ว่าขงเบ้งเป็นโรคซึมเศร้าก็น่าสนใจครับ แต่โรคหนึ่งที่ผมนึกได้ตอนนี้คือ ขงเบ้งน่าจะมีปัญหาเรื่องสุขภาพและเป็นโรคหัวใจด้วยครับ
  • คบบัณฑิตเป็นมงคลชีวิตนะครับ
  • เขาเป็นใครก็ช่างครับ ถ้ารู้ว่าไม่ดีก็อยู่ห่างๆ ไว้เป็นมงคลชีวิตอีกครับ

ความเห็นของคุณ สามกั๊ก เมาไม่กลับ เป็นความเห็นที่ดีครับ

  • (ข้อ 4 ) ผมคิดว่า ขงเบ้งเป็นคนรับผิดชอบครับ รับงานจากเล่าปี่ว่าจะช่วยรวบรวมแผ่นดินมาแล้ว แม้เล่าปี่จะไม่อยู่แล้วแต่งานยังไม่เสร็จก็จะต้องทำต่อไปครับ
  • ผมคิดว่าเขารู้ว่าเวลา (ของเขา) เหลือน้อยเต็มทีแล้ว ก็เลยเกิดอาการลน (เหมือนเวลาสอบกำลังจะหมด แต่เราเพิ่งทำไปได้แค่ครึ่งเดียว)
  • ด้วยความรับผิดชอบ ถึงแม้จะรู้ล่วงหน้าว่าศึกนี้จะแพ้กลับมาก็ยังต้องยกไป (เพราะบางทีอาจมีฟลุ๊ค เหมือนคนซื้อหวย รู้ทั้งรู้ว่าโอกาสถูกกินมีถึง 99.99 % แต่ก็ยังซื้อทุกเดือน อันนี้ยิ่งกว่าขงเบ้งหลายเท่า) 
  • การรู้ว่าจะต้องแพ้แล้วนอนตีพุงอยู่บ้านเฉยๆ นั้นหาได้ไม่ การสืบไปภายหน้าผู้คนก็จะก่นด่าขงเบ้งได้ว่า เป็นคนไม่รับผิดชอบ รับงานมาแล้วไม่ทำให้สำเร็จ เอาแต่กินกับนอน
  • ครั้งหนึ่งผมไปร่วมกีฬา 8 เกียร์ที่ลาดกระบัง มีแมทช์เทนนิสอยู่แมทช์หนึ่ง ที่รุ่นพี่ผมต้องแข่งกับตัวแทนจากจุฬา เมื่อถึงเวลาแข่งแล้วก็ยังไม่เห็นเงารุ่นพี่ผม จนหมดเวลาแข่ง เราก็ไปถามรุ่นพี่คนนั้นว่าทำไมไม่มาแข่ง เขาบอกว่า ก็จุฬาเป็นทีมชาตินี่ ขืนมาก็โดนต้อนจนลิ้นห้อยน่ะสิ ผมว่า...ถ้าใครคิดแบบนี้ก็เลิกเป็นนักกีฬาเสียเถอะ
  • แต่รุ่นพี่ผมอาจคิดว่า "รู้เขารู้เรา รบศึกร้อยครั้งมิพ่าย" ก็เป็นได้
  • กลับมาที่ขงเบ้ง แม้รู้ว่าจะต้องแพ้กลับมา แต่ตัวเองก็ขอฝากชื่อให้โลกระบือต่อไปอีกหลายพันปี (ว่าเป็นคนรับผิดชอบ) ก็เลยต้องยกทัพไป จนวาระสุดท้ายของชีวิต (Keep on fighting till the end, Queen : We are the champion)
  • ตรงนี้สอนผู้อ่านว่าต้องรู้จักเป็นคนรับผิดชอบจนสุดชีวิต
  • ถึงแม้จะแพ้ แต่ขงเบ้งก็ยังคงรักษารูปมวยเอาไว้ได้ตลอดทุกครั้ง ไม่เคยย่ำแย่จนต้องจนตรอกแบบสุมาอี้แม้สักครั้งเดียว เหมือนกับที่คุณเป็นกลางได้กล่าวไว้ข้างบน

หวังว่าข้อเขียนนี้ของผม คงไม่ทำให้คนที่กำลังจะอ่านเสียอรรถรสนะครับ

ถือว่าเป็นการกระตุ้นให้ค้นหาว่า ที่ผมพูดอยู่ตอนไหนของเรื่องก็แล้วกันครับ

ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านและผู้ร่วมคุยครับ

  • ผมเขียนในเวลาเดียวกันกับอาจารย์เลยหรือนี่
  • เพียงแต่เคาะตีพิมพ์ต่างเวลากันเท่านั้น
  • เดี๋ยวจะหาว่าคุยไม่รอบวง คุณ korawee อ่านฉบับของใครอยู่ครับ
  • ถ้าอ่านของเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ผมคิดว่าน่าจะอ่านรวดเดียวยาวไปเลยจนจบนะครับ ให้รู้ก่อนว่าอะไรเป็นอะไรและใครเป็นใคร แล้วค่อยมาอ่านอีกรอบ จดไว้ก็ได้ครับว่าตอนเด่นๆ หรือตัวละครที่ชอบ อยู่หน้าไหน แล้วค่อยกลับมาอ่านซ้ำ
  • ผมคิดว่าคนที่อ่านมารอบนึงแล้ว คงไม่มีใครที่ไม่อยากอ่านอีก แล้วก็อ่านอีก ครับ
  • คิดถึงแฟนพันธุ์แท้สามก๊กครับ ใครจำได้บ้างครับไปชวนน้องเค้ามาคุยกับเราหน่อยก็น่าจะดีนะครับ

ที่อาจารย์บอกว่า"ได้ใช้ Blog ของผม B2B กับคุณนุชแล้วครับ' เป็นยังไงครับ ผมเองยังไม่ค่อยคุ้นกับ Blog สักเท่าไหร่ ปกติใช้แต่เว็บบอร์ดครับ

  • ต้องขอบคุณอาจารย์เช่นกันครับ ที่เปิดประเด็นให้ผมมีโอกาสได้คุย หาไม่แล้ว ก็คงไม่ได้คุยกัน
  • ปกติผมคุยได้ (ยาวๆ) กับคนที่คุยเป็นเรื่องเป็นราวครับ เลยมีคนบอกว่าผมเป็นคนซีเรียสบ้าง บางคนก็ว่าผมปากเสียบ้าง
  • ถ้าเปรียบเว็บบอร์ดต่างๆ เป็นที่คุย (แลกเปลี่ยนความคิด) กับคนแปลกหน้า ผมว่าที่นี่เป็นที่ที่น่าคุยที่นึงครับ

คุณเปมิช   ขอบคุณที่แนะนำ  นุชคุยด้วยได้แต่ทำอะไรกับคอมไม่เป็นต้องอาศัยเด็กๆช่วยทำให้ค่ะ  นุชเคยอ่านมงคลชีวิต 38 ประการ  และหนังสือธรรมะของอาจารย์หลายๆท่าน  รับกรรมฐานจากท่านอาจารย์สรวง  วัดถ้ำขวัญเมือง  จ. ชุมพร  ก็ปฏิบัติและพยายามสร้างแต่ความดี  พบแต่สิ่งดีๆ  และกัลยาณมิตรมาตลอด  แต่คงเป็นวิบากกรรม  เพราะจิตที่ดีจึงไม่คิดว่า  เขาจะกล้าทำกับเราได้  เขาเป็นคนจีนกวางตุ้งเหมือนนุช และเป็นรุ่นพี่  รร. เดียวกัน  ทำให้เกิดความสนิทใจว่าเป็นคนกันเอง  ตอนที่รู้จัก เขาตกงานเป็นนักเขียนไส้แห้ง  จึงเกิดความเห็นใจ  ช่วยเหลือเสมือนเป็นพี่แท้ๆ  คุณสมลักษณ์วิเคราะห์เขาได้แม่นยำมาก  สามก๊กที่เขาเรียนรู้มาเขาเอามาใช้ในชีวิตของเขาตลอดเวลา  แต่เป็นในทางเลวร้ายและไม่จริงใจกับใคร  แม้กับผู้มีพระคุณหรือเพื่อนในวงการ  เขาก็ให้ร้ายลับหลังได้  เลิกคบเขาได้เพราะกรรมดียังมี  ที่ว่านิมิตให้รู้แต่ตีความไม่ออกคือ  ก่อนรู้จักเขา  ในนิมิตรู้สึกว่าตกไปในเหวลึกลงไปลิ่วๆ  ตามืดบอดมองอะไรก็ไม่เห็น ตกใจมาก  สักพักในจิตก็ภาวนา นะโมพุทธายะๆๆ  แล้วเห็นแสงสว่างตาก็หายมืดบอด  เมื่อเกิดเหตุการณ์แล้วจึงเข้าใจ  ตอนนั้นยอมรับว่า เขาพูดอะไรเชื่อหมด  เขามีจิตวิทยา  สร้างภาพ  กว่าจะรู้ก็เสียน้ำใจ เสียเวลาไปมากมาย  ที่รู้จากเขา  ตัวเขาเองก็สร้างกรรมกับคนอื่นมาไม่น้อย  จึงได้แต่เตือนเพื่อนเวบที่อ่านคอลัมภ์ของเขา  ให้ระวังคนชื่อ เล่าชวนหัว 

นุชจะแวะไป blog คุณหมอวัลลภตามที่คุณเปมิชแนะนำค่ะ 

เรียนคุณนุช

  • คุณเปมิช คงได้ติดตามมาอ่านแล้วครับ
  • ขอขอบคุณ คุณนุชที่เอาเรื่องประสบการณ์การคบคนมาเล่าครับสนุกดีครับ (แต่คุณนุชคงไม่สนุก)
  • รู้สึกว่าคนที่เข้ามาอ่านบันทึกของผม ส่วนหนึ่งจะต้องเป็นคนที่มีธรรมมะ ในจิตใจนะครับ และส่วนหนึ่งก็เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมด้วยครับ
  • ขออภัยที่มาตอบช้าไปหน่อยครับ
  • อ่านแล้วครับแต่ไม่ว่างตอบ
  • ความรู้ถ้าเอาไปใช้ในทางที่สร้างสรรค์ก็จะเกิดประโยชน์แก่โลกได้อย่างมากมายครับ เช่น เทคโนโลยีนิวเคลียร์ ถ้าเอาไปทำโรงไฟฟ้าก็จะได้พลังงานที่สะอาด กว่าถ่านหินและน่าจะดีกว่าน้ำมัน แต่ถ้าเอาไปทำระเบิดนี่ก็แย่หน่อยครับ
  • ถ้าโลกนี้ไม่มีอาวุธและไม่มีสงคราม โลกเราก็คือสวรรค์ดีๆ นี่เองครับ แต่เสียดายที่ โลภะ โทสะ โมหะจริต และอวิชชาเข้าครอบงำคนจำนวนมาก ให้ลุ่มหลงในอำนาจ (อันจอมปลอม) และสงคราม (รวมถึงเรื่องไม่ดีทั้งปวง)
  • ถือเสียว่าเราได้มาใช้กรรมเถอะครับ เพราะถ้าเราไม่ใช้ในชาตินี้ ชาติหน้าเราก็ต้องมาเจอเจ้ากรรมนายเวรของเราอยู่ดีครับ
  • Blog ของคุณหมอวัลลภอยู่ที่นี่ครับ
  • สุขภาพ4u  http://www.gotoknow.org/health2you
  • ผมรู้จัก Blog ข้างบนเพราะเพื่อนคุณหมอวัลลภเป็นคนแนะนำ ให้มาเก็บเกี่ยวสาระเพื่อเอาไปออกอากาศทางสถานีวิทยุชุมชนใกล้ๆ บ้านแต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้เอาไปออกอากาศสักที เพราะผมคิดว่าที่สถานีจะมีอินเตอร์เน็ตจะได้เปิดเครื่องปุ๊บก็สามารถอ่านจากจอได้ทันที แต่ปรากฎว่าที่สถานีไม่มีอินเตอร์เน็ตก็เลยยังไม่ได้ดำเนินการครับ

เรียนคุณเปมิช

  • คนเราถ้ามีกิเลสน้อยหน่อย โลกเราก็จะมีความสุขครับ
  • ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเรา คิดว่าเกิดมาใช้กรรมก็สบายใจดีนะครับ
  • ตอนสุดท้ายบอกที่มาที่ไปของ การติดตามบล็อกของอาจารย์หมอวัลลภ ต้องขอบคุณครับ
  • แต่ว่าที่มาที่ไปของ "สามก๊ก" เป็นอย่างไรบ้างครับ

ค่ะ  คุณเปมิชและคุณสมลักษณ์ 

เพราะคิดได้เช่นที่คุณว่าและกำลังใจจากคนรอบข้างจึงยืนหยัดได้    ไม่เช่นนั้นคงคิดสั้น   คิดว่าชีวิตเรามีค่ามาก  ยังสามารถทำความดีเพื่อเป็นปัจจัยไปภายหน้าได้ 

ได้เข้าไปเยี่ยม  blog  คุณหมอวัลลภตามที่คุณเปมิชแนะนำ

ได้ความรู้มากมาย  ขอบคุณค่ะ 

คิดสั้นไม่ใช่เรื่องดีครับ

  • ผู้รู้บอกว่าต้องมาชดใช้กรรมอีก 500 ชาติ เช่น ชาตินี้คิดสั้นตอนอายุ 30  ชาติต่อๆ ไปตอน อายุ 30 เราก็ต้องมาเจอวิบากกรรมอย่างนี้อีก โทษหนักกว่าประหารชีวิตอีกครับ
  • ลองคิดถึงหัวอกคนที่รักเรา เช่น พ่อ แม่ พี่น้อง ไว้บ่อยๆ ครับ เขาคงไม่อยากให้เราทำอย่างนั้นแน่

  • ครับชีวิตเป็นสิ่งมีค่ามาก ใครจะรู้ว่าชาติหน้าจะมีโอกาสเกิดมาเป็นอย่างไร จะเป็นคนอีกหรือปล่าวก็ไม่รู้
  • การเกิดมาเป็นคน ทำให้ได้มีโอกาส บำเพ็ญเพียร ทำสมาธิ วิปัสนาต่างๆ ได้ ถ้าเกิดมาเป็นอย่างอื่น หรือแม้กระทั่งเป็นเทวดา ก็ไม่สามารถทำอย่างนี้ได้
  • การได้เกิดมาเป็นคนนับเป็นบุญอย่างนึง ซึ่งเราได้เคยสร้างไว้ในอดีต

 

  • ครับ ความทุกข์ความสุขล้วนเกิดจากใจ ใจเราอยากทุกข์เราก็ทุกข์ (เก็บเรื่องราวภายนอกมาเป็นอารมณ์) ถ้าปล่อยวางได้เราก็สุข จุดมันอยู่ตรงนี้ครับ แต่คนส่วนใหญ่ทำไม่ค่อยได้
  • ผมเองก็กิเลสเยอะครับ ไม่รู้จะตัดออกไปยังไง ไปร้านหนังสือไม่ค่อยได้ อยากได้เล่มนั้นเล่มนี้อยู่เรื่อย
  • ผมคิดว่าคนเราต่างก็มีมีกรรมครับ มีทฤษฎีของคุณแม่ผมที่ยังไม่เคยไปเผยแพร่ในที่สาธาณะที่ไหนคือ ทฤษฎีที่คุณแม่เรียกว่า "Classify of กรรม" คุณแม่กล่าวว่า คนที่มีกรรมอย่างเดียวกันมักจะมาอยู่ร่วมกัน ซึ่งผมพบว่าเป็นคำกล่าวที่มิผิดไปจากความจริงเท่าไรนักครับ
  • ดังนั้นคนมีกรรมก็ต้องชดใช้ ไม่ใช้ชาตินี้ ชาติหน้าก็ต้องใช้ กรรมไม่หายไปไหน คล้ายๆ กฎทรงมวล (ในวิชาเคมี)ของใครก็จำไม่ได้แล้วครับ
  • เมื่อเจอเรื่องร้ายๆ ก็คิดเสียว่า เราคงเคยทำอะไรไว้กับใคร ในอดีต ช่วยให้สบายใจได้มากครับ
  • ว่าแล้วก็แผ่เมตตาบ่อยๆ เจ้ากรรมนายเวรและสรรพสัตว์ทั้งหลาย
  • ครับ ถ้าไม่ได้เพื่อนคุณหมอวัลลภแนะนำมา ผมก็คงยังไม่รู้จักที่นี่
  • สามก๊กนั้นเขาว่ากันว่า เป็นเรื่องจริง 7 ส่วน แต่งขึ้น 3 ส่วน จริงเท็จประการใดนั้นมิอาจทราบได้ คงต้องค้นต่อไปครับ
  • เคยดูสารคดี ฝรั่งตามหาเมืองทรอย ทำไมไม่มีใครทำสารคดีตามรอยขงเบ้งบ้าง เพราะกระดูกคนที่ตายกันเป็นแสนเป็นล้าน แค่สามพันปีคงจะมีเหลือร่องรอยอยู่บ้าง
  • ผมเองก็มิใช่ผู้เชี่ยวชาญ เป็นแค่ผู้อ่านธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้นเองครับ จะเอาไปเทียบกับแฟนพันธุ์แท้สามก๊กนั้นหาได้ไม่
  • ไม่รู้น้องเค้าเล่นเน็ตไหม น่าจะไปตามมาร่วมคุยกัน

ขอบคุณผู้อ่านทุกท่าน และทุกความเห็นครับ

 

 

ค่ะ  คุณเปมิช  ที่แจกแจงมาทั้งหมด  เรียนรู้ด้วยความเข้าใจและแนะนำบอกกล่าวผู้อื่นเสมอมา   แต่เมื่อเกิดเหตุกับตัวเอง  ณ.เวลานั้นมันรู้สึกร้ายแรง  และเข้าใจเลยว่า  คนที่คิดฆ่าตัวตายเพราะหาทางออกไม่ได้  ถ้าเวลานั้นเขามีคนอยู่ข้างๆคอยช่วยเหลือให้กำลังใจประคองจิต  ก็คงจะผ่านวิกฤตนั้นได้  เพราะปัญหาทุกปัญหาแก้ได้  เพียงต้องใช้เวลา  ให้โอกาสกับตัวเอง  และตั้งสติให้ได้   คนเหล่านั้นถ้าคืนชีพมาได้ก็คงจะบอกว่า  ไม่น่าเขลาเลย 

เพียงแต่บางเวลาคิดว่า  ทำดีเป็นผู้ให้กับทุกคนตามกำลังที่สามารถทำได้  กลับมีผลกลับมาเป็นเช่นนี้   ผู้ใหญ่ปลูกฝังตั้งแต่เด็กว่า  好心有好报 (ห่าวซินโหย่วห่าวป้าว) จิตใจดีก็จะพบแต่สิ่งดี   (เลยบ้า..ดี) 

ถ้ามีกรรมต่อกันอย่างคุณเปมิชว่าก็ยินดีใช้คืนเขาไป  แต่ถ้าไม่มีล่ะ  ยังหาคำตอบไม่ได้   แต่ตอนนี้ไม่ทุกข์และคิดว่าโชคดีที่หลุดพ้นบ่วงกรรมนั้นมาได้ (ตาสว่าง) 

ไว้จะช่วยคุณเปมิชตามหาน้องแฟนพันธุ์แท้สามก๊กให้ค่ะ  

     

นี่ครับ

เปิดใจพ่อ"น้องปราบ"แฟนพันธุ์แท้สามก๊ก
โดย ผู้จัดการรายวัน 9 กุมภาพันธ์ 2547 09:39 น.
 
พล.ต. วุฒฒินันท์ ลีลายุทธ
ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักบริหารทรัพยากร กองบัญชาการทหารสูงสุด
(คุณพ่อ เด็กชายนันทสุทธิ์)
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=4738234144448

แต่ไม่รู้จะติดต่อน้องเค้าได้ยังไง

นี่ครับ

เปิดใจพ่อ"น้องปราบ"แฟนพันธุ์แท้สามก๊ก
โดย ผู้จัดการรายวัน 9 กุมภาพันธ์ 2547 09:39 น.
 
พล.ต. วุฒฒินันท์ ลีลายุทธ
ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักบริหารทรัพยากร กองบัญชาการทหารสูงสุด
(คุณพ่อ เด็กชายนันทสุทธิ์)
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=4738234144448

แต่ไม่รู้จะติดต่อน้องเค้าได้ยังไง

อีกหน่อยครับ

พล.ต.วุฒินันท ์ ลีลายุทธ
รอง ปช.ทหาร

http://web.schq.mi.th/~ocompg/D4.html

  • ขอบคุณครับ
  • แผ่เมตตาและอโหสิให้เขาเถอะครับจะได้เลิกแล้วต่อกัน
  • เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรครับ
  • หาไม่แล้วเราก็จะได้เจอเขาทุกภพทุกชาติ ไม่คุ้มเลยครับ
เรียนคุณเปมิช  ได้ติดต่อคุณแม่น้องปราบ  ทราบว่าขณะนี้น้องปราบไปเมืองจีน  แต่ได้ให้  webblog  ไปคิดว่าถ้าน้องกลับมาคงได้ร่วมแสดงความเห็น

ขอบพระคุณมากครับ

 

  • ดีใจแทนน้องปราบครับ ที่มีคุณพ่อคอยให้การสนับสนุน ในด้านต่างๆ นะครับ
  • เหตุที่สุมาเต็กโชไม่เคยแสดงฝีมือในการรบเพราะสุมาเต็กโชเป็นนักบวช (ผู้บำเพ็ญพรต) ในลัทธิเต๋า (น.171)
  • การที่ผู้บำเพ็ญพรตจะไปมีส่วนร่วมในการเข่นฆ่านั้นหาควรไม่
  • ขงเบ้งและชีซีเป็นเพื่อนสนิทกัน (น.173)

สุมาเต็กโชกล่าว (กับเล่าปี่) ว่า

  • ถ้าชีซีจะไป เขาย่อมมีอิสระในการที่จะไป แต่ไฉนจึงจะมาก่อกวนให้เหลียงต้องเผยตนออกมา เพื่อให้ปรากฏความน่าทุเรศเวทนาแก่สายตาของคนอื่นเล่า (น.173)
  • "มังกรหลับ"คงจะได้นาย แต่น่าทุเรศที่เขามิได้ตกฟากในเวลาฤกษ์งามยามดี (น.175)

เรื่องที่สุมาเต็กโชรู้ไฉนเลยบัณฑิตหนุ่มผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้แจ้งฟ้าและรู้รอบตลอดดินจะไม่รู้ และนี่เป็นสาเหตุหนึ่ง (ไม่มากก็น้อย) ที่

  • ขงเบ้งต้องการปลีกวิเวก
  • ขงเบ้งปฏิเสธเล่าปี่ครั้งแล้วครั้งเล่า

 

 

  • สรุปว่า ทุกคนรู้ว่าสถานะการณ์จะเป็นอย่างไร
  • เมื่อสุมาเต็กโชรู้ เหลียงก็ย่อมต้องรู้
  • แต่ที่เหลียงยอมออกไป (จากกระท่อม ณ เขาโงลังกั๋ง)เพราะประทับใจเล่าปี่ ครับ
เพราะเล่าปี่มีคุณสมบัติอะไรต้องเปิด  หัวข้อ "มีภาพจากสามก๊กมาฝาก"  ที่นุชเขียนฝากไว้
  • ครับ เล่าปี่ มีส่วนดีหลายๆ อย่าง ขงเบ้งถึงยอมตามไปด้วย
  • และไม่ใช่เพียงแค่ตามต้อยๆ ไปเฉยๆ การไปครั้งนี้คือการมอบชีวิตทั้งชีวิตให้เล่าปี่เลย
  • ไม่เพียงชีวิตของตนเองเท่านั้น ญาติพี่น้องก็ต้องเดือดร้อนอพยพหลบหนี (ฝ่ายตรงข้ามกับเล่าปี่) ในเวลาต่อมา

 

 

จากการอ่านสามก๊ก สิ่งที่สังเกตได้ในอุปสัยของเล่าปี่ นอกจากที่คุณนุชกล่าวไว้คือ

  1. การรู้จักอุปนิสัยของคน (คล้ายการดูโหงวเฮ้ง)
  2. การรู้จักใช้คน
  3. การรู้จักปกครองคน
  4. เหมือนสมัยนี้เขาเรียกว่า รู้จักครองตน ครองคน และครองงานนั่นแหละครับ
  • ใน version 2.0 เริ่มตั้งแต่ 6 มิ.ย. 49 ถึง 11 ก.ค. 49 มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมแล้ว 189 ครั้ง
ผมต้องการจะซื้อสามก๊กมาไว้อ่านไม่ทราบว่าหนังสือของใครแปลได้ตรงตามต้นฉบับที่สุดครับเพราะมีหลายคนอ่านแล้วไม่ค่อยตรงกัน   ช่วยตอบหน่อยครับกำลังจะซื้อเป็นของตัวเอง

ขงเบ้งมีข้อผิดพลาดหลายครั้งในการรบแม้จะไม่เสียการอย่างใหญ่หลวงให้เสียก๊กก็ตามแต่ว่าการที่ปล่อยให้ทหาร7แสนไปตายด้วยมือของลกซุน(พระเอกของผม)ก้เปงการพลาดครั้งที่1 แล้วการยกไปตีวุยก๊กทั้ง5ครั้งก็ไม่ได้ประสบผลสำเร็จเลยสักครั้งรวมแล้วผิด6ครั้ง ซึ่งจะว่าไปแล้วการที่จ๊กก๊กของเล่าปี่ไม่ได้ครองแผ่นดินอาจเป็นเพราะกวนอูเปงต้นเหตุ เพราะอะไรหลายคนอาจจะงงมาฟังกานต่อครับบ 

ตอนแรกขงเบ้งก่อนจะยกกำลังมาช่วยเล่าปี่ได้ปล่อยให้กวนอูเฝ้าเมืองเกงจิ๋วเอาไว้ซึ่งเปงจุดที่สำคัญมากๆ

เพราะขงเบ้งนั้นวางการรบในอนาคตกับวุยก๊กของโจโฉเอาไว้ว่าต้องตีจากฮันต๋งและเกงจิ๋วทั้งสองทางจึงจะสำเร็จการและทิ้งคำไว้6มั้ง  เหนือรบโจใต้ร่วมซุน

เนีย่ล่ะคับแล้วมีครั้งนึงซุนกวนมาขอแต่งกับลูกสาวกวนอูแต่กวนอูตอบไปว่าลูกเสือไม่คู่ควรกับลูกหมาเท่านั้นล่ะครับโดนบุกตีย่อยยับเนี่ยล่ะครับเต้นเหตุเล่ามาถึงเพียงนี้แค่จะอธิบายว่าคนที่เก่งที่สุดนั้นไม่มีใครเก่งสุดยอดทุกๆด้านมีแต่เก่งคนละด้านนแต่ถ้ารวบๆแล้ว  สุมาอี้ดูจะเด่นสุดรองมาก็ลกซุนเล่ามาซะยาวไปก่อนนะถ้าใครสนใจจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกีย่วกับสามก๊กก็ยินดีมากๆ[email protected]รอทุกคนอยู่นะ

คุณคิดว่าความเก่งประกอบไปด้วยอะไรหรือ? 

สุมาเต็กโช เด่นในด้านปัญญา ความสงบ ด้อยในด้านความกล้าหาญ การเสียสละเพื่อส่วนรวม 

สุมาอี้ เด่นในด้านรอบคอบใจเย็น ด้อยในด้านความกตัญูญยู

ข้งเบ้ง เด่นในด้านความฉลาด ความซื่อสัตย์ และความมีเสน่ห์ ด้อยในด้านความรอบคอบใจเย็น ...วาสนา

 

ถ้าตอบคำถามทางด้านบนผมขอตอบว่าขงเบ้งเก่งสุดครับ

ขอแลกเปลี่ยนความเห็นนะครับ

ผมเคยอ่านเจอ มีคนอ้างว่าในฉบับภาษาอังกฤษ ยกย่องชีซีเก่งที่สุดครับ

ในตอนที่ชีซีมาอยู่กับเล่าปี่ในช่วงแรก ก็ไม่เคยแพ้ใครเหมือนกัน ในส่วนของยุทธวิธีนั้นชีซีได้พิสูจน์แล้วว่าเก่งมากทั้งเรื่องการจัดทัพและแปรรูปขบวนทัพ และเป็นคนดีมีคุณธรรมอีกด้วย มีความกตัญญู ไม่ว่ายังไงการที่แม่โดนจับ ตนก็ต้องไปหาแน่นอน การที่จะทำเมินเฉยต่อผู้เป็นผู้ให้กำเนิดนั้น ผมเชื่อว่าคนดีๆคงทำไม่ได้เป็นแน่

ถึงแม้ชีซีจะไม่เคยเอ่ยถึงยุทธศาสตร์ในอนาคต แต่อย่างน้อย ชีซีก็ไม่ลังเลที่จะบอกแก่เล่าปี่ว่า ควรเชิญขงเบ้งมารับหน้าที่ ที่ปรึกษาแทนตน นับว่าเป็นคนที่ห่วงเล่าปี่ผู้เป็นนายมาก และเมื่อไปอยู่กับโจโฉ ก็ไม่ยอมปริปากออกอุบายใดๆเลย

ถ้าจะกล่าวถึงขงเบ้งนั้น ซึ่งตัวผมก็ชื่นชอบมาก การที่เล่าปี่ไปเชิญถึง 3 ครั้ง นั้นนัยหนึ่งก็คือ วางตนอย่างสงวนตัวไว้ก่อน เพื่อลองใจเล่าปี่ อีกนัยหนึ่งก็คือ ตนรู้อยู่แล้วว่าถึงช่วยเล่าปี่อย่างไร ก็ไม่สามารถรวบรวมประเทศได้  จึงคิดแล้วคิดอีกว่าจะช่วยดีไหม การที่จะสละชีวิตสันโดษ อยู่อย่างสงบร่มเย็นของตนไปสู่การต่อสู้ช่วงชิงที่จะพยายามอย่างไรก็ไม่สำเร็จ แต่แล้วขงเบ้งก็เลือกที่จะช่วยเล่าปี่ เนื่องจากเห็นว่าเล่าปี่เป็นคนมีคุณธรรม ตนไม่อาจที่จะไม่แยแสได้ และถ้าต้องเลือกอยู่ก๊กใดก๊กหนึ่งนั้น ก็ต้องเป็นเล่าปี่

สุมาเต็กโช กับขงเบ้งน่าจะเก่งพอๆกันแต่สุมาอี้ก็เก่งแต่น้อยกว่าเพราะสุมาอี้รบกับขงเบ้งทีไรก็แพ้ทุกที(อาจจะเกือบทุกที) สุมาเต็กโช เป็นครูขงเบ้ง ก็น่าจะถ่ายทอดความรู้ให้จนสุดความสามารถแต่ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าขงเบ้งจะเก่งกว่าเพราะขงเบ้งหาความรู้เพิ่มเติมตลอดเวลา

อืม..คิดอีกทีคนที่เก่งที่สุดก็อาจจะเป็นเกียงอุยเพราะอายุยังน้อยแต่สามารถอ่านแผนขงเบ้งออกซึ่งก็น่าจะมีสิทธิหาความรู้เพิ่มเติมได้มากกว่าคนอื่นๆ

 

ผมว่านะครับ บังทองไม่ใช่ว่าไม่เก่งนะครับ(อันนี้คิดเอาเอง) ตอนที่ขอให้เล่าปี่ไปทางใหญ่แล้วตนไปทางเล็ก คงเป็นเพราะว่ารู้ว่าถ้าเล่าปี่ไปทางเล็กมีสิทธตายดั่งคำขงเบ้งแน่ เลยต้องยอมไปทางเล็กแทน ฉะนั้นบังทองไม่ใช่ไม่เก่งนะครับ (ผมมองโลกในแง่ดีไปไหม) 

 

ท้ายที่สุดตระกูล ซือม่า ของสุมาอี้
ฆ่ากันในสายเลือด 16 ชั่วโคตร

จุดจบของขงเบ้งก็รู้อยู่

ทั้งนี้ทั้งนั้น สุมาเต๊กโซ ถึงไม่มีใครกล่าวแต่คงตายอย่างสงบ

ไม่ใช่ความเก่งที่วัดกัน แต่ที่ปัญญา
ผู้ใช้ปัญญาที่สมควรยกย่องคือ ใช้ปัญญาอย่างมีสติ

อันปัญญาคนทั้งสามคนนี้สุดหยั้งยากเหล่า ลิขิตฟ้ามนุษย์ไม่อาจที่จะฝืน อันท่านขงเบ้งนั้นสื่อสัตย์จงรักภักดีต่อราชวงค์ฮั่นจะช่วยกอบกู้ตากกับสุมาอี้ที่คิดเป็นใหญ่ซะเองคนยังนี้ไม่น่าเลี้ยงเพราะคิดขายเจ้าขายนาย พวกท่านที่ได้อ่านข้อความของข้าพเจ้าจงช่วยดูแลชาติรักษาชาติจงอย่าคิดคดทรยศจงตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ให้สังคมไทยอยู่เย็นเป็นสุขตราบเท่านานเทิด ตัวข้าพนี้ความรู้น้อยถ้าพูดอะไรผิดไปต้องขออภัยด้วย
คนที่เก่งที่สุดในสามก๊ก คือ ลิขิตสวรรค์ครับ ต่อให้หยั่งรู้ฟ้าดินหรือเชี่ยวชาญอาโปกสิณ สุดท้ายก้อแพ้ต่อฟ้า ทำการใหญ่ฟ้าไม่เป็นใจก็ต้องพ่ายแพ้ครับ ขงเบ้ง สุม่าอี้ ได้ลมได้น้ำช่วยมาเท่าไหร่ครับ ลองคิดดู
เพราะแสวงหา มิใช่เพราะรอคอย เพราะเชี่ยวชาญ มิใช่เพราะโอกาสเพราะสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วยดังนี้แล้ว
"ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"

ผมชอบzhugeliang มากสุดๆละ ต่างคนก็คิดว่าที่ตัวละครที่ตนชอบฉลาดหรือเก่งสุดแหละ แม้แต่คนเขียน3ก๊ก เค้าก็ไม่ได้ไปอยุ่ในเหตุการจิงๆซะหน่อย เค้าก็เอาข้อมูลเพียงน้อยนิดมาแต่งให้เราหนุกหนาน ถึงจะว่ามีการค้นคว้าหาข้อมูลก็เถอะ คศ.หลักร้อยเอง ไม่มีไครุ้หรอกว่าความจิงทั้งหมดเปงไง 


                    ปล ป๋มพึ่ง 6 ขวบเองเกิดม่ายทันก๊าบลุงๆ

สามก๊กเป็นเรื่องที่น่าติดตาม อ่านหนึ่งครั้งมีความเห็นแบบหนึ่งอ่านครั้งที่สองก็มีความเห็นและคำถามอย่างหนึ่งอ่านไปเรื่อยๆก็จะมีคำถามและคำตอบในตัวมันเองทั้งนี้แล้วแต่ลักษณะใจคอของแต่ละคนผมคิดว่ามีประโยชน์สอนให้เรารู้จักสภาพการณ์และรู้จักโอนอ่อนผ่อนตามหรือจะแข็งขืนลุมลึกและรอคอยจังหวะแต่ผู้ที่นำหลักการเหล่านี้ไปประยุกค์ใช้นั้นต้องมีคุณธรรมกำกับเคยมีตัวอย่างจริงๆกับคนที่ผมเคยรู้จักเป็นแฟนสามก๊กเหมือนกันแต่เขาใช้ไปในทางที่ผิดเขาสามารถเจรจาทำให้คนอื่นหลงเชื่อเขาได้ ดูมีเหตุและผลทำให้คนอื่นเดือดร้อนเพื่อหาประโยชน์ใส่ตัวเองมานานมากสุดท้ายเขาเรียนผูก บ่ เรียนแก้ทำให้เขาต้องสูญเสียอนาคตและโอกาสหมดต้องค่อยหลบน่าหลบตาคนฝากไว้นะครับเหนือฟ้ายังมีฟ้าแต่ใช้จะอยู่ใต้ฟ้าตลอดทุกนาทีมีโอกาสตราบจนกว่าร่างรวมกลับเป็นพื้นดิน
ผมอายุ18ปีเองอ่านตอน12ติดงอมแงม

ผมอายุ18ปีเองบังอาจแสดงความคิดเห็น

ผมว่าไม่เก่งซักคนเลย

บังทองกับขงเบ้งสุมาเต๊กโชแนะนำว่าถ้าได้มาแค่คนเดียวจะได้เป็นใหญ่แต่เพียงผู้เดียวแล้วดูสิเล่าปี่ยิ่งใหญ่ขนาดไหนโดนลกซุนตีแตกยับเยิน

สุมาอี้ก็โดนขงเบ้งตีแตกตาลีตาเหลือกเป็นตัวตลกในเรื่องสามก๊ก

ลกซุนชนะเพราะเล่าปี่โง่ตั้งกลยุทธผิดและตายแบบไร้ค่าเดียวโดนด่าแล้วตรอมใจตาย

ไม่มีใครสมควรให้ยกย่องเลยแม้แต่คนเดียว

ผมอายุ18ปีเองอ่านตอนอายุ12ติดงอมแงม

อีกอย่างคนที่เก่งที่สุดในความคิดผมคือ

โจโฉเท่าที่ผมจำได้เขาใช้ความสามารถตัวเองก่อนที่จะมีกุยแกและซุนฮกอีกตั้งต้นด้วยตัวเอง

ซุนเซ็กยืมทหารอ้วนสุดด้วยตราหยก

เล่าปี่พึ่งแต่ฝบบุญ

ถ้าลิโป้เชื่อแต่คำตันก๋งก็เป็นก๊กที่น่าจับตามอง

 

เคยได้อ่านงานเขียนของหลายๆ ที่ แม้ในยุคเดียวกันของโจโฉยังเคยยกกุยแกเปรียบเที่ยบกับขงเบ้งว่า แม้เรามีกุยแกอยู่จะไม่รบลำบากอย่างนี้เลย ดังนั้นผมจะเปรียบเที่ยบ 2 ท่านนี้ก่อน

ข้อดีของทั้ง 2 ท่านคือ

กุยแก

ไหวพริบดี เฉียบแหลมมากแผนการ ดำเนินการเพื่อจุดมุ่งหมายทางการเมือง และอุทิศตัวเพื่อการทำงานอย่างจริงจัง ความฉลาดในเรื่องตัวหนังสือ น้ำหมึกและพู่กัน ไม่มากแต่แผนการรบ สามารถเอาชัยแม่ทัพหลายท่านมาแล้วที่เห็นได้ชัดคือลิโป้ และตระกูลอ้วนเสี้ยว

ขงเบ้ง

ยึดมั่นคุณธรรมวางตัวเป็นเต้าหยิน สันโดษ ไหวพริบดีมาก เชี่ยวชาญกลยุทธ์

มองตามนี้ถือว่า กุยแกสู้ไม่ได้ แต่กุยแกมีข้อดีที่ขงเบ้งไม่มีคือ ทำงานเป็นทีม ขงเบ้งตายก่อนวัยอันควรเพราะทำงานหักโหม ไม่ไว้ใจใคร คนเชื่อฟังคล้อยตามก็เอารับใช้ให้ตำแหน่งใหญ่โต คนขัดขืนปกครองยากก็กำจัด (อุยเอี๋ยน ซึ่งเป็นคนที่เล่าปียกย่องให้มีตำแหน่งใกล้เคียงกับ 5 ทหารเสือแต่ขงเบ้งจะฆ่าเสียเพราะมีกระดูกโปนเป็นกระดูกทรยศ แต่ถ้าดูตามตำรานรลักษณ์จริงๆ แล้วกระดูกโปนที่ออกมาเป็นกระดูกบ่งบอกถึงความสูงศักดิ์และมีกลยุทธ์สูง กวนอู ให้ไปดูเกงจิ๋วเพราะขี้เกียจมานั่งปรับความเข้าใจเวลาพี่แกเหม็นขี้หน้าใครและคุยยากเพราะตรงไปตรงมาจัด เล่าฮองประหารเพราะถ้าเล่าปีตายจะขึ้มาเป็นใหญ่ปกครองยากก็เจี๋ยนโดยหาข้อหาให้จากเรื่องกวนอูซึ่งคนผิดคือบิฮองเพราะเป็นเจ้าเมืองอยู่)

ส่วนกุยแกมักทำงานเป็นทีม เชื่อฟังนายใหญ่เสมือ ร่วมคิดร่วมทำ เสียดายชอบวางตัวรุ่มร่าม ไม่รักษาอนามัยในตำราว่า กุยแกเป็นบัณฑิตหน้าขาว หมายถึงสุขภาพอ่อนแอ มักเจ็บป่วยเสมอ เลยตายไว

ซึ่งถ้ารอดมาเจอกันเกมส์คงเปลี่ยนไป

อีกนิด เล่าเสี้ยน ตามประวัติศาสตร์ฉบับตันซิ่ว ระบุว่า เล่าเสี้ยนพลัดหลงกับเล่าปี่จากสมรภูมิเตียงปัน และเป็นคนรับใช้จนอายุเกือบ 20 เล่าปี่จึงเจอและให้สืบทอดตำแหน่ง ซึ่งไม่มีอะไรในหัวเลยมีแต่การเอาตัวรอดเท่านั้นก็กจึงล่ม

ส่วนสุมาอี้ เป็นคนสุขุมนุ่มลึก เป็นเสือซ่อนเล็บวางแผนจนได้ปกครองแผ่นดินในที่สุด ในเรื่องการวาง Corporate Strategies สุมาอี้เก่งกว่าขงเบ้ง 10 เท่า

ขงเบ้งอาจชนะศึกแต่แพ้สงครามก็เท่ากับแพ้นั่นเอง ดูจากภาพนี้สุมาอี้น่าจะเก่งกว่า แต่จริงๆแล้วสุมาเอี๋ยนเก่งที่สุดเพราะกล้ายึดอำนาจจากตระกูลโจแบบเบ็จเสร็จตามที่ปู่วางแผนไว้ ซึ่งถ้าเกิดมาไม่เอาถ่านคงทำไม่สำเร็จ

อีกอย่ากอยากจะบอกท่านทั้งหลายที่อ่านสามก๊กว่า ในบทแรก ล่อกวนตงก็ได้เกริ่นให้เราๆท่านๆได้ทราบว่าสัจธรรมแห่งโลกคือการเป็นศึกแล้วสงบ เมือเสงบสักพักก็เป็นศึก การเดินสายกลางเป็นเรื่องของผู้ทรงศิล ทุกวันนี้ท่านเดินสายกลางในชีวิตได้หรือไม่ในเมื่อ

จะออกจากบ้านก็ต้องแย่งกันขึ้นรถ กินข้าวก็แย่งกันซื้อ รีบกินรีบกลับไปเรีบนไปทำงาน ทำงานก็ต้องเจอการเมืองในที่ทำงาน กลับบ้านก็ต้องดูแลคนในบ้าน เงินเดือนมาก็ต้องเลี้ยงดูให้เพียงพอ ต้องวางแผนรอบด้านให้ชีวิตเราอยู่รอดได้ไม่ทราบว่าจะเดินสายกลางได้ตรงไหน บางท่านอาจพูดด้วยความสบายใจ สายกลางคืออะไรท่านทราบหรือไม่ ก็เหมือนกับชีวิตพอเพียงแหล่ะครับที่พอพูดถึงก็นึกถึงเสื้อม่อห้อม กินข้าววันละมือ

อะไรคือสิ่งที่เราทำได้หละครับ ทุกวันนี้อย่างที่บอกแต่ข้างบน สงครามของชีวิตเราเกิดขึ้นทุกวัน เดินสายกลางจะอยู่อย่าไรในเมื่อเขาเบียดเลนเรามาเสมอ เราน่าจะบอกในสิ่งที่เราทำได้จึงดีที่สุด

สามก๊กช่วยให้ปัญญาแก่ผู้ดำรงค์ชีวิตตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ผู้แต่ก็ต้องการให้เราเข้าถึงจุดที่ว่า รู้เอาตัวรอดป้องกันตัวไม่ทำชั่วให้มาก ต่างหากหละครับ

จากผู้ที่ไม่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อนี้

-ขงเบ้งมีข้อผิดพลาดหลายครั้งในการรบแม้จะไม่เสียการอย่างใหญ่หลวงให้เสียก๊กก็ตามแต่ว่าการที่ปล่อยให้ทหาร7แสนไปตายด้วยมือของลกซุน(พระเอกของผม)ก้เปงการพลาดครั้งที่1 แล้วการยกไปตีวุยก๊กทั้ง5ครั้งก็ไม่ได้ประสบผลสำเร็จเลยสักครั้งรวมแล้วผิด6ครั้ง

 

1. การที่ทหารของ จ๊กก๊ก พ่ายแพ้ไป 7 แสนคนนั้นหาใช่ความผิดของขงเบ้งไม่แต่เป็นเพราะเล่าปี่ใช้ความแค้นส่วนตัว(เพื่อแก้แค้นแทนกวนอู)ทหารของจ๊กก๊กถึงพ่ายแพ้

2. การที่ขงเบ้งแพ้ทั้ง 5 ครั้งในการไปตี วุ๊ยก๊ก นั้นก็หาใช่ความผิดของขงเบ้งไม่แต่เป็นเพราะแม่ทัพของจ๊กก๊กเร่งหาความดีความชอบของ(แม่ทัพม้าเจ๊กและคนอื่นๆ)และไม่ฟังคำของขงเบ้ง ทำให้ สุมาอี้มายืดทางส่งสเบียงอาหารหลักของขงเบ้งจึงทำให้จ๊กก๊ก แพ้

3. การที่ขงเบ้งออกศึกแต่ละครั้งใช่ว่าจะออกไปทำศึกเฉยๆซะที่ไหนแต่เวลาออกศึกแต่ละครั้งขงเบ้งใช้ความคิดเสมอแม้กระทั้งวิธีถอยหนียังคิดได้แนบเนียนยิ่งกว่าอะไรซะอีก

4. ส่วนการที่จะบอกว่าสุมาอี้กับขงเบ่งใครเก่งกว่าใครนั้นยังสรุปไม่ได้ เพราะแต่ละคนมีความสามารถแตกต่างกัน

หลัง ๆ ผมเห็น คนพูด ถึง ระหว่าง ขงเบ้ง กับ สุมาอี้ ใครเก่งกว่ากัน

ก่อนอื่น ต่อ คำถามที่ คุณ เล่าชวนหัว และ คนที่อ่านหนังสือ ของเค้า ทุกคน มักจะถาม ก็คือ ขงเบ้ง เคยทำอะไรให้จกก๊ก บ้าง

นอกจาก ไปตี วุย 6 ครั้ง แล้วต้องถอยทัพ หมด

ตรงนี้ผมว่า น่าจะตอบเป็น คำถามได้ นะครับว่า " แล้วใคร ล่ะครับที่ สร้าง จกก๊ก ให้เล่าปี่ " ไม่ว่าจะเป็น เฉินโซ่ว หรือ หลอกว้านจง

ก็เขียน ตรงกัน คือ ขงเบ้ง เพราะถ้าไม่ใช่ขงเบ้ง แล้วเป็นใคร
? หรือว่า เพราะเล่าปี่ รบแบบมีโชค เฉย ๆ จึงยึดเสฉวน ได้ ซึ่งถ้ามองแค่ผลงาน

ตรงนี้ สำหรับความคิดผม ไม่ว่าจะชอบ หรือเกลียด คุณ ก็ต้องยอมรับในความสามารถ ของเค้า ที่สามารถ สร้างชาติ ขึ้นมาได้

ขงเบ้ง จึงไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ อะไรอีก ( ในความเห็นของผม )

ส่วนกับสุมาอี้ หลายคน มักจะพูดว่า ขงเบ้ง ไม่เคยรบชนะ สุมาอี้ จึงไม่เคยตีวุย แตก แต่ผมก็มีคำถามว่า

" ถ้าสุมาอี้ เก่งกว่าขงเบ้ง ทำไมถึงเอาแต่ ตั้งรับ ล่ะ
? "

ซึ่งในความเป็น จริง ๆ ทั้ง ของ สามก๊ก หรือ ซานกว๋อจื่อ ค่อนข้าง จะชัดเจน ในหลาย ๆ เรื่อง

อย่างน้อยที่สุด ถ้าดู จาก ของ หลอกว้านจง สิ่งที่ ทุกคน จะเห็น ก็คือ สุมาอี้ ออกมารบ ทีไร ก็แพ้ขงเบ้ง ทุกที

จึงตัดสินใจที่ ตั้งรับ ในค่าย มากกว่า ออกไปรบ เพราะรบไป ก็แพ้ แต่ถ้าตั้งรับไว้ ยังไง ก็ไม่แพ้ อีกทั้ง ทุกครั้งที่ ขงเบ้ง ถอยทัพ สุมาอี้ เคย ไล่ตาม

สำเร็จ หรือไม่
? แถมที่เขา กิสาน การพ่ายแพ้ ก็ไม่ได้แพ้สุมาอี้ มี ครั้งแรก ที่เสียเกเต๋ง ไป นั่นแหละ แพ้จริง ๆ แต่ เอาเข้าจริง สุมาอี้ ก็กลับจับขงเบ้ง ไม่ได้ เพราะอะไร ? แถมยกทัพไล่ตาม ก็ไม่ได้

ครั้งแรก ใช้คนผิด ทำให้ เสีย เกเต๋ง ที่เป็น ยุทธภูมิสำคัญ จึงทำให้ตกเป็นฝ่ายรับทั้งแนวรบ และก็พ่ายแพ้ ( แต่ก็หนีรอดมาได้ )

2 ครั้ง โดน พระเจ้าเล่าเสี้ยน เรียกตัวกลับ และ หนึ่งใน 2 ครั้ง ก็คือ สุมาอี้ ปล่อยข่าวลือในเสฉวน

1 ครั้งเสบียงหมด

1 โดนพ่อของ เฉินโซ่ว หลอกว่า ง่อก๊ก ยกทัพมาตี

ครั้งสุดท้าย สุมาอี้ รู้ว่าสู้ไม่ได้ ก็เลยเก็บตัวไม่รบ ขงเบ้ง ก็ร้อนใจ ไป ๆ มา ก็เหมือนตรอมใจตาย

สรุปว่า ใครเก่งกว่ากัน จริง ๆ ก็ไม่อยากคิด แต่ ภาพที่ออกมา โดยรวม ยังไง ขงเบ้งก็เก่งกว่า เพียงแต่การรบ ผู้นำทัพเก่งคนเดียว มันไม่พอที่จะชนะ เท่านั้นเอง

อีกเรื่องก็คือ สุมาอี้ วางแผน ใช้ 5 ทัพ ตีจกก๊ก ก็ไม่สำเร็จ รับคำสั่งพระเจ้า โจยอย มาตีจ๊กก๊ก ก็ไม่สำเร็จ แต่คนก็ยังบอกว่า สุมาอี้ เก่งกว่า ขงเบ้ง เพราะอะไรครับ
? ในเมื่อ ควาามเป็นจริงสุมาอี้ ไม่เคย รบชนะ ขงเบ้ง เลยด้วยซ้ำ

แต่ทั้ง คู่ ก็ยอมรับ ในความสามารถ ของ อีกฝ่าย เพราะขงเบ้ง ถึงกับเครียด เมื่อรู้ว่า สุมาอี้ กลับมา ส่วนสุมาอี้ ก็ได้กล่าว แค่ไม่กี่

(ในภาพยนต์ ) มีตอนนึงสุมาอี้ กล่าวว่า

ในตอนที่กำลังจะยกทัพไปปราบ เบ้งตัด (ไม่แน่ใจว่า ผมจำผิดคนป่าว เริ่มเลือนลาง ถ้าผิด ช่วยแก้ไข ด้วยนะครับ
^^ ) จับจดหมายได้ ก็ยังถึงกับพูดว่า " ผู้ปรีชามักมองการณ์ไกล" และนั่นคือเหตุที่ทำให้ สุมาอี้ ระมัดระวัง อย่างที่สุดในการจะเข้าปะทะ กับขงเบ้ง

" ขงเบ้ง รู้ในสิ่งที่เรารู้ คาดในสิ่งที่เราคาด ปัญญาเหนือเรา เราเทียบ ไม่ได้ "

และ

" ขงเบ้ง ก่อนตายยังอุตส่าห์วางแผน ยอดคน...เก่งจริง ๆ"

ดังนั้น ใครเก่งกว่า พิจารณา เอาเองนะครับ

 

ส่วนที่ว่า ก๊ก เล่าปี่ ถูกแต่งให้เป็น พระเอก ผมก็ขอโต้แย้ง ว่า ไม่จริง ครับ

1. เล่าปี่ ตาย ตอนกลางเรื่อง

2. ไม่ใช่ตัวเดินเรื่องหลัก สามก๊ก ทุกตัวละคร ต่างผลัดกันเดินเรื่อง ซึ่งถ้า เล่าปี่ เป็นพระเอก ก็ต้องไม่ผลุบ ๆ โผล่ ๆ แบบที่เป็น

3. ความสามารถเล่าปี่ ตลอดเนื้อเรื่อง ไม่ได้มีความสามารถ โดดเด่น อะไรเลย ( ซึ่งถ้าเป็นพระเอก จะต้องมี )

ฯลฯ

เพียงแต่ ด้วย บุคคลิก และคนอ่าน คนส่วนใหญ่ มักจะคิดว่า คนดี มีคุณธรรม ประชาชน รักใคร่ ก็คือ พระเอก แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่

ถ้า ทุกคนลองเทียบดูผมเชื่อว่า จะนึกออก เอง

และก็ เล่าชวนหัว ก็กล่าวว่า เล่าปี่ชั่ว เพราะคิดจะยึดเกงจิ๋ว เมืองของผู้มีบุญคุณ จริง ๆ ก็ไม่ถูก เพราะ เจ้าตัว ออกปากยกให้เอง อีกทั้ง เล่าปี่ ก็ไม่ได้รับ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ผมว่า เขาน่าจะพ้นข้อกล่าวหา

ส่วนเรื่อง เสฉวน อันนี้ ต้องตัดสินว่า คุณ มองแบบไหน นักการทหาร หรือว่า ชาวบ้านเดินดิน ?

ในความเห็น ของผม หนังสือ ของคุณ เล่าชวนหัว นั้น เนื้อหา ดีมาก แต่ที่ผู้อ่าน ต้องระวังก็คือ บทวิจารณ์ ของเขานั้น เป็นแบบ คนเดินดิน ชาวไร่ชาวนา ล้วน ๆ ไม่ใช่ มุมมอง ของนักการทหาร ฉะนั้น เมื่ออ่านแล้ว แยกให้ออก นะครับ ว่า คุณต้องการ อะไรจากการอ่าน สามก๊ก

เฉินโซ่ว เป็นลูกศิษย์ ขงเบ้ง ตามที่ เล่าชวนหัว กล่าวจริง หรือ ?

ก็ น่าแปลก มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ หลายชิ้น และ นักโบราณคดี กล่าวว่า ตอน ที่ พ่อของ เฉินโซ่ว ถูกลงโทษ ที่กล่าวเท็จทำให้เสียการใหญ่ นั้น " เฉินโซ่ว อายุแค่ 2 ขวบ " แล้ว ตอนก๊ก แตก คุณคิดว่า เค้าจะมีอายุเท่าไร ?

หรือต่อให้เป็น แบบนิยาย จริง ๆ คุณคิดว่า เค้าจะคิดยังไง กับคนที่สั่ง โกนหัว ประจาน พ่อของเค้า ถึงจะแต่งตั้งเค้าขึ้นดำรง ตำแหน่ง แทนพ่อ ก็เถอะ

อีกเรื่องที่อยากจะฝากไว้ ก็คือ มุมมอง ระหว่าง นักการทหาร กับชาวบ้านมักจะมองต่างกัน เทียบง่ายๆ

"ขงเบ้ง ดีดพิณ ลวงสุมาอี้ "

หนังสือเปิดหน้ากากขงเบ้ง ในเล่มที่ 2 ของ เล่าชวนหัว กล่าวไว้ว่า

" ไม่เป็นความจริง ครับ โม้ทั้งเพ ไม่เชื่อคุณลอง ไปยืนดีดกีต้า หน้าทหารพม่าดูสิครับ ถูกยิงตายแน่ อีกอย่างถ้าเป็นเรื่องจริง ขงเบ้ง ต้องถูกเกาฑันณต์ ยิงตายไปแล้วครับ "

หนังสือเปิดกรุสมบัติสามก๊ก ที่แต่ง โดย เลี่ยวเจี่ย ปราชญ์จีน ให้ความเห็นว่า

1. ขงเบ้งรู้ว่า ตนเอง มีชื่อด้าน สุขุมรอบคอบ ไม่เคยทำอะไรเสี่ยง กลเมืองว่าง จึงน่าสงสัย

2. ขงเบ้งรู้ว่า สุมาอี้เป็น คนขี้ระแวง คิดมาก ไม่เหมือน คนมุทะลุ ดุดัน

3. ขงเบ้งมีท่าที สงบเยือกเย็น สบายอกสบายใจ

4. ชาวเมืองทำตามคำสั่ง ไม่สับสนวุ่นวาย

พอสุมาอี้ มาเจอเข้าแบบนี้ ก็ไม่อาจจะคลายความสงสัย และเพื่อความปลอดภัยจึงถอยทัพ

มันคือ เหตุการณ์ พิเศษ ที่เกิดขึ้นภายใต้ เงื่อนไข พิเศษ นั่นก็คือ หากคุณ จะใช้มุขนี้ ก็ต้องมี เงื่อนไข ตาม 4 ข้อนั้น หากผิดแม้แต่ข้อเดียว ก็จะกลายเป็น อย่าง ที่ เล่าชวนหัว กล่าว

แล้วคุณ ล่ะ ? อ่านสามก๊ก แล้วอยากได้ แบบไหน ? แบบ คน เดินดินคิด หรือแบบ นักการทหารคิด ?

สุดท้ายนี้ ขอฝากไว้ว่า ไม่ว่าคุณจะมี ความรู้ ด้าน ประวัติศาสตร์ สามก๊ก หรือ ประวัติศาสตร์ อะไรมากแค่ไหน มันจะไม่มีค่าอะไรเลย ถ้าคุณ ไม่รู้จัก ประวัติศาสตร์ชาติ ตัวเอง ( ศึกษาประวัติศาสตร์ไทยกันบ้างนะครับ ^^ )

ผมมาตรงๆเลยนะครับ

 คุณชอบใครคนนั้นเก่ง ไม่ต้องคิดอาไรมาก

ผมก็ชอบกาเซี่ยง การวางแผนไร้เทียมทาน 

   ชอบกุยแก มากกว่า...

จูล่งสิ จุดจบดีที่สุด
ผมว่า จูล่งเป็นคนที่น่าคิดนะ เพราะเท่าที่พอรู้ จูล่งแทบจะไม่เคยพบกับความปราชัยเลย ในความจริง ขงเบ้งสมควรจะให้จูล่งไปดูแลเกงจิ๋ว ซึ่งเป็นรอยต่อ คนที่สงบเยือกเย็น และเฉลียวฉลาดเช่นจูล่ง น่าจะเหมาะสม กว่ากวนอู ผู้ซึ่งมีอารมณ์ร้อน อีกอย่าง จูล่ง มีที่ตายไม่เหมือนคนอื่น คือ ตายด้วยเพราะถึงแก่อายุ มีอายุที่มากแล้ว ตายในบ้านตนเอง อย่างสงบ ส่วนคนอื่น ล้วนแต่ มีที่ตายอันน่าสมเพช น่าเวทนา แม้แต่ขงเบ้งผู้ปราดเปรื่อง สุดท้าย ก็ตรอมใจตายกลางสนามรบ

จาว่าขงเบ้งฉลาดที่สุดก็ไม่ได้ครับ

มะ จะอธิบายให้ฟัง ขงเบ้งเปงคนเชื่อในตัวเองสูงไม่ยอมเชื่อในแผนของคนอื่นเลย ที่ก๊กล่ม เพราะนี้เหละ ขงเบ้งมะยอมคัดเลือกคนเลย มีเลือกอยุ่คนเดียว เกียงอุย เมืองขงเบ้งตาย นั้นเหละ ภาระตกอยู่ที่เกียงอุยหมดเลย เกียงอุยก็เอาแต่จะรบ ไปรบก็แพ้เค้าอีก

ส่วนบังทองตาย เปงเพราะ เล่าปี่(ตามความคิดผมนะ)เล่าปี่เป็นคนชอบคนประจบ มากกว่าผีมือ ซึ่งแตกต่างจากโจโฉ ตระกูลไม่เกี่ยว ผีมืออย่างเดียว  พอดีบังทองไปว่าให้เล่าปีอะงับ "ชนะเค้าด้วยกล ยังมาจัดงานเลี้ยงอีก"(ผมจำมะได้อะ ประมานนี้) จึงเกิดปากเสียงขึ้น ไล่บังทองออกงานเลี้ยง รุ่งเช้าจึงปรับความเข้าใจกัน แล้วเล่าปี่ให้ม้าเต๊กเหล่า(ถูกเป่า) ม้านี้อานมานสูง ซึ่งเปงม้าของเล่าปี่ด้วย แล้วบังทองได้ทำผิดกฎ คือ ขี่ม้าบัญชาการรบ ซึ่งๆหน้า ซึ่งผิดกฎกุนซือ

งับมีแค่นี้เหละ ส่วนสุมาเต๊กโช นั้น เค้ามะยุ้งเกี่ยวไรกับการรบเลย

ส่วนใหญ่ เรื่องนี้แต่งขึ้นมาเกือบทั้งหมดอะเหละ

ผมว่าคนฉลาดที่สุดคือเล่าปี่ ใช้ผู้ที่หยั่งรู้ดินฟ้าอย่างขงเบ้งได้ ได้ยอดขุนพลอย่าง กวนอู เตียวหุย จูล่ง โดยที่ตอนนั้นเล่าปี่ไม่มีอะไรเลย เทียบไปแล้วในตอนแรกเล่าปี่ถือว่าเป็นก๊กที่เล็กที่สุดด้วยซ้ำ ยังต้องหนีหัวซุกหัวซุน
  • นับว่า เล่าปี่ ฉลาดใช้คนนะครับ

ขงเบ้ง สุมาอี้ สุมาเต็กโช ใครเก่งกว่ากัน

            ผมชอบคำกล่าวของเล่าปี่ ตอนที่รับ ขงเบ้งมาครั้งแรก บัญชา กองทัพให้ กวนอู เตียวหุย และแม่ทัพ ออกไปรบหมด   แต่ถูก เตียวหุย และ กวนอู ด่าว่า ตัวเองอยู่ในค่ายเฝ้าเมือง ขี้ขลาดไม่ออกไปรบ( แถมสั่งขุนนาง เตรียมจัดงานเลี้ยงฉลองชัยชนะรอได้เลย)     เล่าปี่กลับสวนคำขึ้นมาว่า   กุนซือผู้เก่งกาจ ชนะพันลี้ ได้ตั้งแต่อยู่ในกระโจม   เป็นการเปิดตัวผลงานครั้งแรกของ ขงเบ้งที่ตื่นเต้น เร้าใจจริงๆ 

             ขงเบ้งไม่น่าอายุสั้น เงื่อนงำที่แท้จริงคื่ออะไรเหรอครับ   หรือว่าอึดอัดใจที่ สุมาอี้ไม่ค่อยยอมรบด้วยเอาแต่ตั้งรับ  จนร้อนใจ เป็นสาเหตุให้อาการ หนักขึ้น

              สุมาอี้อายุยืนยาวกว่า ขงเบ้ง คือ 70 กว่า การไม่รบของสุมาอี้ เอาแต่ตั้งรับ  ก็ได้เปรียบเยอะ ไม่ต้องเหนื่อยกาย เหนือ่ยใจ มาก  ดูเหมือนจะสบาย  ส่วน ขงเบ้งงานหนัก  เอาแต่รุก  

              ระยะหลัง สุมาอี้วางแผนให้ลูกยึดอำนาจ  ผมคิดว่าสุมาอี้ก็ รักษาตัวรอด ไว้เพื่อการใหญ่ของตัวเองเช่นกัน   สุมาอี้ก็ฉลาด นะครับ

                 ส่วนขงเบ้งก็ฉลาด ปกครอง แบบ รุกไปเรื่อยๆ ถ้าไม่ตายสะก่อน สงสัยว่า  ดินแดน คงจะต้องถูกกลืนกินไปเรื่อยๆ  

                   ที่ขงเบ้งวิจารณ์ว่า แผ่นดินนี้ต้อง แยกเป็น สามก๊ก   ส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่า ขงเบ้งไม่อยาก ไปรบรา ฆ่าฟัน กับ ซุนกวนด้วย  เพราะ พี่ชาย จูกั๊ดกิ๋น ก็อยู่นั่น   สู้ปราบโจโฉ  ดีกว่า    จะสู้ก็ยาก  ขณะนั้น กำลังก็ไม่กล้าแข็งพอ 

                 สำหรับสามก๊กนั้น ผมว่าหลายๆคน ก็เป็นพระเอกน่ะครับ ต่างคนต่างก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเอง เก่งทุกคน  ไม่ว่าจะเป็น ขงเบ้ง สุมาอี้ สุมาเต็กโช  โจโฉ  เล่าปี่ ซุนกวน  ขุนพลต่างๆ   ส่วนสุมาเต็กโช  เค้าเป็นอาจารย์   ไม่รู้จะวิจารณ์อะไรเค้าดี   เค้า เป็นอาจารย์ ไม่ ได้มายุ่งการเมืองมาก (ตามเนื้อเรื่องน่ะครับ จริงๆ ไม่รู้ทำอะไรบ้าง  ไม่เห็นค่อยพูดถึง อาจารย์คนนี้เท่าไร่ เล่มไหน พูดก็เอามาเล่ากันบ้างน่ะครับ)

                 บทสรุป ของผมน่ะครับ   ทุกคน  ทุกก๊ก  ต่างก็ ป้องกันตนเอง  ใช้ ปัญญา  กำลังเข้าสู้กัน  ไม่มีใครยอม ใคร   จะมายึดกันง่ายๆ ก็ ยาก ถึงจะเก่งแค่ไหน   ก็ตาม     สุดท้าย  

               เก่งทุกคนครับ 

                 ขงเบ้ง เก่งเรื่อง  ทำให้ จ๊กก๊ก  เล่าปี่    เข้มแข็ง จนตั้งตัวเองได้

                  สุมาอี้เก่งเรื่อง  ป้องกันตนเองได้ เอาตัวรอด   และสุดท้ายยังยึดอำนาจไว้ได้อีก 

                   สุมาเต็กโช  เก่งเรื่อง สอนสั่ง เป็นอาจารย์ครับ  

 

                   เก่งคนละด้าน     แล้ว  ใครเก่งกว่าใคร   เอาด้านไหน ละคร๊าบบบบบบบบบบๆๆๆๆๆๆๆๆ  ชี้ชัดๆ ได้มุ้ยยย   คิคิ      

                     ผมรักขงเบ้ง   เค้าหล่อ อะครับ  แฮ่ๆ ~

  • สรุปว่าเก่งไปคนละด้านใช่ไหมล่ะครับคุณบอย
  • แต่ใจน่ะ รักขงเบ้งเข้าให้แล้ว

เราว่าขงเข้นน่ะ ก็ตอนที่ขงเบ้น เปิดประตูเมืองทั้งทั้งที่ไม่มีทหารอยู๋ แต่อุมาอี้ ก็ถอย ไปสุดท้ายรู้เรืองจากชาวบ้าน โมโหเลย อิอิ แต่ลูก หลาน อุมาอี้ฉลาด ลูก เล่นปี่มัวแต่เล่นกับผู้หญิง พอข้าศึกมาถึง เมือง ก็ยอมแพ้ เสียดาย ไม่มีลูกหลาน ขงเบ้ง วุยก๊กชนะ น่ะ จ๊ก กับ ง่อ แพ้ จ๊ก แตกก่อน แล้ว ง่อ ลูกสุมาอี้ ปลด หลานของโจโฉ ออกจากการเป็นฮ่องเต่วุยก๊ก แล้วตั้งราชวงจิ้น ชารวาเดียวกับชินซีฮ่องเต้อะ

 

 

 

 

124525

 ขอบคุณ คุณลล

  • ที่สรุปเรื่องย่อสามก๊กครับ
หวาย(แอบฟังจากบางมด)

ส่วนตัวผมคิดว่า ในเรื่องเทคนิควิธีคิดต่างๆ ต้องยกให้ขงเบ้งครับคงไม่มีใครสู้ได้ แต่ที่ต้องมาอายุสั้น เพราะ ตั้งใจมากไป เครียดมากไป ไม่วางใจใช้คน เหมือนในสามก๊กจะพยายามสอนว่า ต่อให้คุณเก่งแค่ไหนก็ทำงานคนเดียวไม่ได้ เมื่อสิ้นเล่าปีไปงานหนักจึงตกมาที่ขงเบ้ง เพราะไม่ว่างใจให้คนอื่นมาช่วยงานสำคัญ ส่วนบังทองนี่ความสามารถก็ใช่ย่อยคงมิเป็นลองขงเบ้งแน่แต่บทเค้าสั้นไปมาก สุมาเต็กโช นี่เป็นอาจารย์ คนที่สอนศิษย์ให้เก่งได้ขนาดนี้ถึงสองคน คงไม่ใช่ธรรมดาครับ แต่เนื่องด้วยจากที่เป็นอาจารย์กับศิษย์คนจีนถือหลักกตัญญูเป็นสำคัญ จึงไม่ควรนำมาเปรียบเทียบกันครับ เพราะต่อให้ศิษย์เก่งกว่า แต่ทั้งหมดทั้งสิ้นก็เพราะอาจารย์ครับ

คือผมเคยอ่านมานานหลายปีแล้วจำเนื้อเรื่องได้เลือนลาง ถ้าผิดพลาดต้องขออภัยในความไม่ถูกต้องครับ

  • วิเคราะห์ได้ดีครับคุณหวาย
  • (ศูนย์ฯโตโยต้า รามอินทรา)
ไตเติ้ล เจ้าเมืองเสฉวน

ผมว่าคนฉลาดที่สุดคือขงเบ้งอยู่แร้วละ

        

                                     จาก ไตเติ้ลเจ้าเมืองเสฉวน

                                                           ผู้ฉลาดอิอิ

จากที่ทั้งอ่านหนังสือ ดูภาพยนตร์ มาหลายรอบ (คนจะหาว่าคบไม่ได้หรือปล่าวเนี่ย ^ ^" ) คิดว่าขงเบ้งเก่งที่สุด แต่ว่าสุดท้ายที่บุกกิสาน 6 ครั้งไม่ได้แผ่นดินแม้แต่คืบเดียวเป็นเพราะหลายปัจจัย นายไม่มีความสามารถ บริวาร สุขภาพ และธรรมชาติที่ไม่สามารถควบคุมได้

โดยส่วนตัวถือว่าขงเบ้งเป็นคนเก่งที่ยอมเอาความสามารถมารับใช้ชาติ มีความกตัญญูต่อนายเป็นที่ตั้ง และมีคุณธรรม รู้ทั้งรู้ว่านายตัวมีบุญไม่พอ ลูกก็ไร้ความสามารถก็ยังช่วยถึงที่สุด ทั้งๆ ที่ตอนแรกไปอยู่กับโจโฉก็คงจะรุ่งเรืองกว่า ทำงานง่ายกว่ามากด้วยปัจจัยหลายอย่างที่โจโฉมีเหนือกว่า

ส่วนสุมาเต็กโชเป็นปราชญ์ผู้รักสันโดษ อาจจะเก่งเท่ากันหรือเก่งกว่าขงเบ้ง แต่ก็ไม่ได้ใช้ปัญญาให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม เก็บเอาไว้กับตัวแล้วก็ตายจากไปโดยไม่ได้ทำให้มีอะไรเปลี่ยนแปลงกับโลกใบนี้ ซึ่งถือว่าสูญเปล่าค่ะ น่าเสียดายสติปัญญาที่อุตส่าห์มีมากกว่าคนอื่น
ถ้าคุณหัวเสีย คุณจะเสียหัว

คุณ Little Jazz \(^o^)/ 

  • วิจารณ์ได้ดีครับ ส่วนของขงเบ้ง
  • ส่วนสุมาเต๊กโชนั้น ผมคิดว่าอาจเป็นอาจารย์ทางเซ็น คงได้สอนลูกศิษย์ลูกหาไว้เหมือนกัน  เพียงแต่ว่า คงไม่ดังเท่าคนอื่นๆ

คุณ กงจักร

  • คงหมายถึง นักรบโบราณ
  • ถ้าหัวเสียแล้วออกรบ ก็คงไม่พ้นเสียหัว ครับ
ถูกต้องนะคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

จะว่าไปสามก๊ก ของทุกฉบับ ทุกผู้แต่งก็เป็นเพียงนิยายอิงประวิติศาสตร์เท่านั้น ใช่ว่าเป็นประวัติศาตร์จีนดั้งเดิมซักหน่อย

 พอดีอ่านเจอเรื่องการใช้คนของโจโฉ แปลกที่ทำไมไม่มีใครรู้ว่า โจโฉ แท้จริงไม่ใช่คนแซ่โจโดยกำเนิดเพียงแต่เป็นแซ่ของพ่อเลี้ยงโจโก๋ บิดาโจโฉเท่านั้น หลายท่านอาจจะเดาออกว่าแซ่ที่แท้จริงของโจโฉนั้นแซ่ใด จริง ๆ แล้วโจโฉ แซ่แฮหัวครับ หรือง่าย ๆ คือเป็นคนตระกูลเดียวกัน เหตุผลหรือความจริงนั้นลองศึกษาดูครับ จะให้พิมพ์ให้อ่านกันหมดคงไม่ไหว

สามก๊กที่ผมอ่านอยู่และชอบมีอยู่ 3 ฉบับ คือของยาขอบ ล่อกวานจง และ เล่า ชวน หัว ฉบับที่สามนี่อ่านแล้วติดขำนิด ๆ อาจเป็นเพราะเล่า ชวน หัว คงจะเกลียดขงเบ้งเกินเหตุไป หรืออยากจะให้ผู้อ่านได้มีความคิดเห็นแหวกแนว หาอะไรแปลกใหม่บ้าง ต่างจากทุก ๆ ฉบับ จริง ๆ แล้วผมอ่านแล้วก็เท่านั้น ดูจากอายุหรือความเก่าแก่ พิจารณาแล้วก็ไม่น่าเชื่อเท่าผู้แต่งเก่าแก่ สำหรับผู้ที่อ่านสามก๊กแล้วไม่ทราบว่าตัวเอกเป็นใคร เล่าปี่ หรือ โจโฉ กันแน่ ถ้าเปรียบเทียบเรื่องความเก่งกาจเทียบกันไม่ได้เลยแม้แต่นิด อาจมีจุดเด่นจุดด้อยต่างกันแต่ รวม ๆ แล้วห่างชั้นกันหลายขุม แค่ความได้เปรียบแต่เริ่มเรื่อง เล่าปี่ก็สู้ไม่ได้แล้ว โจโฉมีผู้รอบรู้ ช่วยหลายต่อหลายคน ซุนฮก ซุนฮิว เทียหยก กุยแก เอียวสิ่ว เป็นต้น ถึงที่กล่าวมานี้จะเทียบไม่ได้กับขงเบ้ง สุมาอี้ สุมาเต็กโช แต่ความได้เปรียบนั้นโจโฉกินขาด ทุกเรื่อง ยุทธศาสตร์ ภูมิศาสตร์ มาเข้าเรื่องดีกว่า

 ใครเก่งกว่ากันนั้น ผมไม่สามารถเปรียบเทียบได้เลย เอาเป็นข้อเด่นของแต่ละคนละกัน ขงเบ้ง ฉลาด รอบรู้ (เรียกลมได้ -*- ทำไมครับ อ่านหลายรอบแล้วไม่รู้เหรอว่า ขงเบ้งไม่ได้สามารถเรียกลมได้ เพียงแต่สามารถพยากรณ์อากาศได้ แต่ ณ เวลานั้นเพื่ออะไร หลายท่านคงทราบดี) สุมาอี้ รอบขอบ สุขุม เยือกเย็น สุมาเต็กโช อาจารย์ขงเบ้ง บังทอง ตันฮกหรือชีซี ผู้รอบรู้หลายต่อหลายคน จะเอามาเปรียบกับ 2 คนไม่ได้หรอกครับ เพียงแต่สุมาเต็กโชเป็นปราชญ์อโปคศิลป์ (อาจเขียนผิดไม่แน่ใจนะครับ ไม่ได้เปิดหนังสือดูหรือ Copy มาจากใน Net) หรือง่าย ๆ คือถือศีลธาตุน้ำ ประมาณนี้ สุมาเต็กโช หรือขงเบ้ง คงรู้แต่แรกแล้วว่าความสำเร็จจะตกอยู่ที่ใคร ดูได้จากเมื่อเล่าปี่ กำลังจพได้ขงเบ้งมาเป็นกุนซือ สุมาเต็กโช รู้ในทันทีว่า ขงเบ้งนั้นได้นายดี แต่ผิดเวลา น่าสงสารขงเบ้งจริง ๆ หรือถ้าดูจากศิลาจารึกบนเขา ตอนที่เต็งงายมาอ่านเข้าก็พอจะรู้ว่าขงเบ้ง พยากรณ์ว่าอนาคตของก๊ก จะเป็นอย่างไร

พิมพ์มาก็เยอะหลายท่านคงอยากให้เฉลยหลาย ๆ คำถามที่อยู่ในคำตอบของผม แต่ผมว่าลองศีกษาให้ละเอียดเอาเองดีกว่าครับ เพราะความคิดเห็นขงคนเราย่อมไม่ตรงกัน

ตามที่ผมคิด สุมาอี้ เก่งที่สุด ความฉลาดไม่ได้เหนือขงเบ้ง หรือสุมาเต็กโชนะครับ แต่เป้าหมายหลักของ สุมาอี้ ยิ่งใหญ่ที่สุดและสามารถทำได้ ด้วยคนในตระกูลสุมา (สุมาเอี๋ยน) ต่างจากปราชญ์อีก 2 คน ผมถือว่าปราชญ์ 3 ท่านนี้ไม่ได้เก่งกาจกว่ากันมากนัก ความฉลาก ผมยกให้ขงเบ้ง ความสำเร็จ ผมยกให้สุมาอี้ ความรอบรู้ และความแม่นยำในการพยากรณ์ผมยกให้ สุมาเต๊กโชครับ สรุปเท่านี้ละกัน

ลืม บังทอง (หงส์น้อย) หรือเปล่า เก่งแต่อับโชค  พวกคุณคิดว่าไง เกี่ยวกับ บังทอง 

คิดว่าบังทองเก่ง ดูจากกลห่วงโซ่ที่เป็นผลงานทางความคิด ทำให้ทัพโจโฉวายวอดหมดทีเดียว เรื่องอัพโชคก็คงมีส่วน แต่ที่ทำให้มีปัญหาจริงๆ น่าจะมาจากความที่ใจไม่กว้างพอ คิดเล็กคิดน้อยอยากสร้างผลงาน ไม่มีความสุขเพราะเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นคิดไม่รอบด้านไม่ฟังคำทัดทานเพราะกลัวไม่ได้ผลงาน ถ้าอยู่ในภาวะที่ไม่ถูกกดดัน ไม่ต้องสร้างผลงานแข่งกับขงเบ้งคิดว่าบังทองก็คงรอบคอบกว่านี้เรื่องนี้จริงๆ น่าเห็นใจ ขงเบ้งกับบังทองอยู่ด้วยกัน ถึงไม่คิดแข่งกันคนรอบข้างก็คงเฝ้าดูว่าใครจะเก่งกว่า ฮกหลงฮองชู ใครจะเหนือกว่าใคร ทำให้บังทองตกอยู่ในสถานะที่ยากลำบากเพราะมาทีหลัง ขงเบ้งสร้างผลงานไว้มากมายแล้ว ตัวเองจะไม่เสนออะไรที่โดดเด่นบ้างก็จะเป็นการน้อยหน้า อย่างว่าค่ะ...คนเราบางครั้งถึงมีปัญญามากมาย แต่พอเกิดกิเลสหรือทิฐิไม่ว่าด้านใดด้านหนึ่ง ก็อาจจะทำให้กระทำสิ่งที่โง่เขลาลงไปได้ชั่วขณะ ถ้าโชคดีก็อาจจะรอดตัวไปแล้วเก็บมาคิดเป็นบทเรียนไม่ให้ทำซ้ำ แต่ถ้าโชคร้ายก็คงต้องเป็นดังเช่นบังทอง คือไม่มีโอกาสมาแก้ตัวใหม่ได้อีกค่ะ
คิดว่าบังทองเก่ง ดูจากกลห่วงโซ่ที่เป็นผลงานทางความคิด ทำให้ทัพโจโฉวายวอดหมดทีเดียว เรื่องอัพโชคก็คงมีส่วน แต่ที่ทำให้มีปัญหาจริงๆ น่าจะมาจากความที่ใจไม่กว้างพอ คิดเล็กคิดน้อยอยากสร้างผลงาน ไม่มีความสุขเพราะเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นคิดไม่รอบด้านไม่ฟังคำทัดทานเพราะกลัวไม่ได้ผลงาน ถ้าอยู่ในภาวะที่ไม่ถูกกดดัน ไม่ต้องสร้างผลงานแข่งกับขงเบ้งคิดว่าบังทองก็คงรอบคอบกว่านี้

เรื่องนี้จริงๆ น่าเห็นใจ ขงเบ้งกับบังทองอยู่ด้วยกัน ถึงไม่คิดแข่งกันคนรอบข้างก็คงเฝ้าดูว่าใครจะเก่งกว่า ฮกหลงฮองชู ใครจะเหนือกว่าใคร ทำให้บังทองตกอยู่ในสถานะที่ยากลำบากเพราะมาทีหลัง ขงเบ้งสร้างผลงานไว้มากมายแล้ว ตัวเองจะไม่เสนออะไรที่โดดเด่นบ้างก็จะเป็นการน้อยหน้า

อย่างว่าค่ะ...คนเราบางครั้งถึงมีปัญญามากมาย แต่พอเกิดกิเลสหรือทิฐิไม่ว่าด้านใดด้านหนึ่ง ก็อาจจะทำให้กระทำสิ่งที่โง่เขลาลงไปได้ชั่วขณะ ถ้าโชคดีก็อาจจะรอดตัวไปแล้วเก็บมาคิดเป็นบทเรียนไม่ให้ทำซ้ำ แต่ถ้าโชคร้ายก็คงต้องเป็นดังเช่นบังทอง คือไม่มีโอกาสมาแก้ตัวใหม่ได้อีกค่ะ

คุณ ซูซาน เข้ามาให้ข้อคิดเห็น ๓ ครั้งเลย

  • พอดีบังทอง มีบทบาทไม่มากในสามก๊ก
  • แต่ก็เป็นตัวละคร ที่ทำให้การเมืองเปลี่ยนไปได้
  • ขอบคุณสำหรับข้อคิดเห็นครับ
"ผู้แพ้ มิได้เป็นผู้กำหนดประวัติศสาตร์ ผู้ชนะเท่านั้นที่จะสามารถกำหนดได้ทุกสิ่ง"
ถ้าจะพูดตามประวัติศสาตร์คงต้องยกให้สุมาอี้ว่าเป็นคนเก่งที่สุดในสมัยสามก๊ก
เพราะว่าเป็นคนรวมอำนาจ จาก โจ ซุน เล่า ได้สำเร็จ เป็นม้ามืดหรือเป็นตาอยู่ที่ไม่ธรรมดา
ดั่งคำกลอนที่ว่า

 ย้อนรอยสามก๊กย่ำย้ำอุบาย
มากเล่ห์เหลือหลายคาดไม่ถึง
อุดมการณ์ครอบไผทใครคำนึง
วีรชนอลอึงแล้วลับหาย
     โจ ซุน เล่า เจ้าอาจผงาดกล้า
ด้วยซากศพถมทางมามากเหลือหลาย
ถึงที่สุดทุกอย่างต่างเปล่าดาย
ลงท้ายแซ่สุมาครองหล้าแทน   

อ่านประวัติศาสตร์จีนทุกยุคทุกสมัย  ไม่มีใครเลยที่รวมแผ่นดินจีนได้จะเป็นคนไม่เก่ง
ไม่ว่าจะเป็นใคร คนที่สามารถขึ้นมามีอำนาจสูงสุดได้นั้น ย่อมต้องไม่ธรรมดา
แต่จะต้องเป็นคนเหนือคน  คนเหนือยอดคน  แน่นอน

ยอดคนต่างๆในสามก๊กไม่ว่าจะในฉบับใด
จะนิยายอิงประวัติศาสตร์ ของ หล่อ ก้วน จง
หรือ ฉบับ บันทึกประวัติศาสาตร์ของ เฉินโซ่ว  

ล้วนได้บรรยายไว้ในตัวอยู่แล้วว่าตอนจบใครคือผู้ชนะผู้ได้ทุกสิ่งทุกอย่างและใครคือผู้แพ้สูญเสียทุกอย่าง
นักปราชญ์ นักรบ กุนซือ แม่ทัพ ทุกคนล้วนเป็นบันได เพียงหนึ่งขั้น  ให้สำหรับคนเก่งเท่านั้นเดินข้ามไป

สุมาอี้ คือคำตอบสุดท้าย  ที่ไม่ว่าจะหนังสือเล่มสามก๊กเล่มไหน  ก็มีคำตอบที่เหมือนกัน

ส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบสุมาอี้  แต่ต้องยอมรับอย่างนึงว่า  สุมาอี้เป็นม้ามืดหรือเป็นตาอยู่ที่ไม่ธรรมดาจริงๆ
  • ขอขอบคุณ คุณหลงครับ
  • ที่ให้ข้อคิดเห็นที่ไม่ธรรมดา

ผมว่าขงเบ้งเก่งที่สุดขนาดสุมาอี้รู้ว่าขงเบ้งตายสุมาอี้ยังพูดว่า จูกัดเหลียง  ขงเบ้ง นี่แหละคือยอดกุนซือแห่งยุคคงไม่มีใครที่จะยิ่งใหญ่กว่า จูกัดเหลียง  ขงเบ้ง อีกแล้วก็สุมาอี้เป็นคนพูดเองได้ยินมากับหู

สงสัยลูกน้องขงเบ้งกลับมาเกิด..อิอิ..

"เก่ง" ? เก่งด้านไหนล่ะครับ ... ถ้าในแง่ของการรบประหัตประหารแก่งแย่งชิงดีแล้วล่ะก็ เก่งอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องบวก "เฮง" ด้วยเหมือน ประโยค ที่ว่า "คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต" ยังใช้ได้เสมอ  คำถามนี้เหมือนถามว่า นักปิงปอง นักเปตอง นักพายเรือ มาต่อยกันแล้วใครชนะ ... เป็นการเปรียบเทียบไม่มีคำตอบที่ถูกต้องเสมอไปขึ้นกับเวลาและสถานการณ์ นักปิงปองอาจจะชนะครั้งแรก แต่แพ้ครั้งที่สองสามก็ได้ ไม่เหมือนกับ เอา แชมป์โลกปิงปอง มาเล่นปิงปอง กับผม ย่อมต้องชนะทุกเกมส์อยู่แล้ว

ส่วนในสนามรบจริงไม่มีการแก้ตัว เมื่อต้องสิ้นชีพในสนามรบถือว่าแพ้แล้ว เมื่อดูจากผลสรุปสุดท้ายแล้ว "สุมาอี้" ได้ชัยเหนือ "ขงเบ้ง" ก็คงต้องให้เค้าเก่งกว่า .. ทางด้านสุมาเต็กโช มิได้มีส่วนในการรบด้วยคงต้องตัดเค้าออกไป ...

 ถ้าคำว่า "เก่ง" มีความหมายตื้นขืนดังเช่นข้างบน ผมก็คงให้ "สุมาอี้" "เก่ง" สุดครับ

เห็นด้วยกับคุณ Little Jazz \(^o^)/  ครับ

ดังคำที่สุมาเต็กโช บอกไว้ว่า หากได้ ฮกหลง หรือ ฮองซู หนึ่งในสองคนนี้ มาร่วมทำการแล้วจะรวบรวมแผ่นดินได้เป็นแน่แท้ ...    เผอิญได้มาสองคนเลยทำให้สถานการณ์การเมืองพลิกผัน และเป็นจุดเปลี่ยนของการรวมแผ่นดินไม่ได้ครับ

เข้าใจว่าคุณ beeman คงแค่อยากเล่าเรื่องตลกในการแบ่งทีมให้ฟังเฉย ๆ น่ะครับ แต่คล้ายเป็นกระทู้ที่แตกความคิดเห็นออกไปได้หลายแนวทาง ชื่นชมครับที่ทำบล็อกนี้ขึ้นมา

ขอบคุณ คุณตัวป้อมที่แวะมาเยี่ยมเยียน

  • แวะมา ๓ ข้อคิดเห็นเลยนะครับ
  • ตอนที่เขียนบันทึกนี้ก็นานมาแล้ว ยังมีผู้คนให้ความสนใจสม่ำเสมอ
  • กระทู้นี้กว้าง แล้วแต่มุมมองของคน ทำให้ได้เห็นแนวคิดของแต่ละคนว่าเป็นอย่างไร
  • เป็นการฝึกการคิดเปรียบเทียบอย่างหนึ่ง
  • คงไม่มีใครถูกและผิดอย่างแท้จริงครับ
  • แล้วแต่ว่าเหตุผลที่ยกมานั้นคืออะไร
หานซิ่น เเห่งทางไม้ขาด
ในเเพ้มีชนะ ในชนะก็ย่อมเเพ้ซ่อนอยู่เช่นกัน(ซุนวูกล่าว) เห็นได้ว่าอาจารณ์ขงเบ้งมีความคิดฉลาดลำเลิศ อีกทั้งความเเยบยนก็มากมาย ความเป็นโลกสมัยใหม่ยกย่องไว้ซึ่งคน2นามนี้ 1.ซุน 2.ขงเบ้ง ผมเห็นว่าถ้าขงเบ้งไม่ป่วยเสียก่อนงานใหญ่สำเร็จเเน่(เพราะขงเบ้งถูกขนานนามว่าเป็นเทวดามั้ง เทพเบื้องบนจึงอั้นเชิญขึ้นไปช่วยรบ เพราะการศึกที่ว่าเเม้เเต่เทวดาก็อยากที่จะรู้)

ขอขอบคุณ คุณหานซิ่นครับ

  • ช่วยเติมข้อคิดเห็นทำให้บันทึกสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
หากไม่มีขงเบ้ง แผ่นดินจึงไม่เป็นสามก๊กหรอก  แล้วสุมาอี้คงไม่มีบทบาท   เล่าปี่คงเดดสมอเร่  ตั้งแต่ศึกยุทธภูมิทุ่งพกบ๋องละมั้ง   โจโฉก็คงได้ครองแผ่นดินแน่     ฉะนั้น  ขงเบ้งเก่งตามที่บอกล่ะครับ 
  • เพราะมีขงเบ้งจึงมีสามก๊ก "กระถางธูปสามขา" หรือ "สามเหลี่ยมแห่งอำนาจ"
ผู้ชื่นชอบขงเบ้ง

ผมว่าขงเบ้ง เก่งสุดๆแล้วไม่ใช่หรอครับ

จำได้ไหมว่า ตอนที่ขงเบ้งไปหาซุนกวน

คนของซุนกวน 10-20 คนรุมถามขงเบ้งแข่งกันใช้

ปัญญา ขงเบ้งก็ชนะหมดไม่ใช่หรอครับอีกอย่าง

ตอนสุดท้ายที่ขงเบ้งตายเป็นเพราะว่าขงเบ้งคาดการณ์อะไรผิดไปรึเปล่า

  • แล้วแต่มุมมองของแต่ละคนครับ
  • ไม่มีผิด ไม่มีถูก

 

ผู้ชื่นชอบขงเบ้ง

ผมดู สามก๊กในแผ่นDVDอะงับ

อยากถาม ว่า สามก๊กนั้น มีจริงมั้ยครับ

แล้วขงเบ้งนี้ เป็นคนจริงๆหรอครับแล้วเขาก็ฉลาดแบบในหนังรึเปล่าครับบอกที

ผู้ชื่นชอบขงเบ้ง

สุมาเต็กโช  เป็นอาจารย์ ของ ขงเบ้งหรอครับ

แล้ว สุมาเต็กโชเป็นอะไรกับสุมาอี้- -

ตอบคุณผู้ชื่นชอบขงเบ้ง 

  • สามก๊กเป็นนวนิยายอิงพงศาวดาร
  • ดังนั้นจึงเป็นเรื่องราวที่มีในประวัติศาสตร์จีนจริง
  • แต่คนแต่งเรื่องสามก๊ก เมื่อเวลาผ่านไปเป็นพันๆ ปีแล้ว ดังนั้น บทพูดต่างๆ จึงเป็นเรื่องแต่งขึ้น
  • และเขาจะแต่งให้ขงเบ้งเก่งอย่างไรก็ได้
  • สุมาเต็กโช ในหนัง DVD ดูเป็นคนมีอายุมากหน่อย ผมก็เลยสันนิษฐานว่าเป็นอาจารย์ของขงเบ้งครับ
  • สุมาเต็กโชนั้น เป็น "แซ่" เดียวกับสุมาอี้ แต่จะเป็นญาติกันหรือไม่ เท่าที่อ่านเรื่องสามก๊กมาหลายฉบับ ก็ไม่ได้บอกไว้ครับ
  • ขอบคุณครับที่เข้ามาเยี่ยม
ผู้ชื่นชอบขงเบ้ง

ครับ ขอบคุณครับ แล้วผมจะเข้ามาทับบ่อยๆ

อีกครับ  ผมเป็นแฟนพันธุ์แท้ สามก๊กครับ

แต่ว่าผมงง - -ขอบคุณมากครับที่ตอบ

ผมดู DVD ถึงแผ่นที่ 11 แล้วหละงับ เสียดาย

บังทองตาย แล้วก็ ในDVD แผ่นที่ 10

ตอนสุดท้าย ตอนที่ บังทองตาย

บังทองตายที่ เนินเขาหงส์ร่วงหรอครับ

ผมเห็น มันเขียนติดพูเขา แล้ว มันมันมีจิงหรองับตอบด้วย- -พรุ้งนี้มาจะมาดูครับ

ผู้ชื่นชอบขงเบ้ง

................................

ผมไปเจอบทความของคุณสนธิ  ลิ้มทองกุล เลยอยากให้ลองอ่านกัน

บ้านเมืองวันนี้พวกเราน่าจะศึกษาประวัติคน 2 คนในอดีต คนๆ นึงชื่อ ซุยเป๋ง อีกคนชื่อ ขงเบ้ง ประวัติศาสตร์จีนสมัยราชวงศ์ฮั่น ซึ่งตอนนั้นเป็นยุคปลายราชวงศ์ฮั่นแล้ว เป็นช่วงเวลาก่อนเริ่มยุคสามก๊ก เล่าปี่ แผ่นดินเกิดการจลาจล ฆ่าฟันกัน แตกแยกทั้งแผ่นดิน ขุนศึกต่างตั้งตนขึ้นเป็นใหญ่ เล่าปี่ตอนนั้นยังตั้งตัวไม่ได้ก็เลยจะไปหาผู้ที่มีสติปัญญามาช่วย คนแรกที่เล่าปี่ไปนั้นไม่ใช่ขงเบ้ง แต่ชื่อ ซุยเป๋ง ซุยเป๋งเป็นปราชญ์อันดับเดียวกับขงเบ้ง เล่าปี่ไปพบซุยเป๋งไปกราบกรานซุยเป๋ง สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ในเรื่องการปกครองบ้านเมือง พอเล่าปีสนทนากับซุยเป๋งได้พักหนึ่งก็เห็นความฉลาดปราชเปรื่อง ตามนิสัย สันดานเล่าปี่ ซึ่งไม่รู้ว่าข้าราชการบ้านเรา หรือคนไทยบางคนติดนิสัยเล่าปี่มาตั้งแต่สมัยสามก๊กหรือเปล่า ก็คุกเขาลงกราบทันที แล้วคำนับ บอกว่า ท่านเป็นผู้มีสติปัญญา มาอยู่ป่าเสียเวลา ไปช่วยบ้านเมืองเถอะ

วันนี้บ้านเมืองเกิดจลาจลต้องอาศัยสติปัญญาท่านกอบกู้บ้านเมือง ซุยเป๋ง ตอบว่า ฟ้าจะถล่มกบทู จะหัก กบทู คือ เสาค้ำหลังคา กบทูจะหักจะไปค้ำกันไหวหรือ สรรพสิ่งย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติ มันไม่คงที่ แผ่นดินมีศึกมันก็ต้องมีสุข พอเป็นสุขแล้วก็จะกลับมามีศึกอีก พอมีศึกก็มีสุขอีก เป็นเช่นนี้เรื่อยไปตามวัฏจักรของมัน ซุยเป๋งกล่าวว่า วันนี้แผ่นดินกำลังจะเกิดจลาจล เพราะมองความเห็นเดือดร้อน จะสะท้อนว่า นี่แหละเป็นสัญญาณว่า แผ่นดินจะเป็นศึกแล้ว ถึงจะออกไปช่วยท่านก็ยืดเวลาการจลาจลบ้านเมืองออกไปได้เพียงพักเดียวเท่านั้นเอง ในที่สุดมันก็ต้องเป็นศึกอย่างแน่นอน เมื่อเป็นศึกแล้ว เมื่อมันจบศึกแล้วมันก็จะต้องเป็นสุข เล่าปี่เห็นว่า ซุยเป๋งนั้นพูดจากไม่รู้เรื่อง ก็เลยไปหาขงเบ้งในที่สุด

ท่านผู้ชมที่อ่านสามก๊กก็รู้ว่าต้องไปขอร้องขงเบ้งถึง 3 ครั้ง ขงเบ้งทนความอ้อนวอนเล่าปี่ไม่ไหวเลยต้องออกมาช่วย เมื่อขงเบ้งมาช่วยทำให้เล่าปี่มีฤทธิ์ในการรบเพิ่มขึ้นหลายเท่าทวีคูณ เพราะความปราชญ์เปรื่องของขงเบ้งทำให้ต้องฆ่าคนไปกว่า 2-3 ล้านคน ท่านผู้ชมครับในพันปีที่ผ่านมานั้น 2-3 ล้านคน เยอะมานะไม่ใช่เรื่องเล็ก ฆ่าทหารโจโฉวที่ทุ่งถกบอง ที่แม่น้ำแป๊ะโหว และศึกเช็กเป๊ก ไปล้านกว่าคน ทำสงครามภาคใต้กับพวกเบ้งเฮ็ก ไปอีก 4-5 แสนคน ทำศึกกับสุมาอี้ อีก 4-5 แสนคน รวมเบ็ดเสร็จแล้ว 2 ล้านคน ในที่สุดขงเบ้งต้องลากเลือกตาย แล้วขงเบ้งสามารถยืดอายุราชวงศ์ฮั่น อายุไปได้ 40 กว่าปีเท่านั้น แต่ต้องมีต้นทุนในการฆ่าคนกว่า 2-3 ล้านคน ในที่สุดราชวงศ์ฮั่นก็ล่มสลายอยู่ดี ที่สุดแล้ว สุมาเอี๋ยน ลูกชายของสุมาอี้ ก็รวบรวมแผ่นดินเข้าเป็นหนึ่งได้ สถาปนาเป็นราชวงศ์ต้าจิ้น แผ่นดินจึงได้เป็นสุข แต่ราชวงศ์ต้าจิ้นตั้งอยู่ได้ไม่นานก็มีการคอร์รัปชั่นโกงกินกันอย่างมโหฬาร แล้วกลายเป็นศึกจลาจล หลังจากนั้นเกิดราชวงศ์ใหม่ ไม่นานก็จลาจลอีก

พี่น้องครับ ถ้าไม่มีขงเบ้งบางทีราชวงศ์ฮั่นอาจจะสูญสิ้นเร็วกว่านั้น โดยที่ไม่ต้องมีคนตายถึง 2-3 ล้านคน ต้องถือว่าซุยเป๋งเหนือกว่าขงเบ้งจริงๆ เห็นสัจจธรรม คล้ายๆ ไหมท่านผู้ชม บางครั้งการที่เราออกมาสู้ ผมมองย้อนหลังแล้ว เราน่าจะยึดหลักซุงเป๋งมากกว่า ปล่อยให้เขาฆ่ากันเองสิ้นเรื่องสิ้นราว

 

http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9500000121330

 

พอเห็นอะไรมั้ยคับ

ซุยเป๋งบอกว่า "ทุกอย่างมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป การที่ท่าน (เล่าปี่) จะกอบกู้บัลลังก์นั้น ก็ทำไปเถิด แต่อย่าหวังว่าจะอยู่ได้นาน ทุกอย่างจะเป็นไปตามครรลองของธรรมะ เราขออยู่ตามประสาของเราเถอะ"

  • ความเห็นที่ ๑๒๓ อ่านแล้วได้แง่คิดดี แต่การใช้คำยังมี...แอบแฝงอยู่
  • ส่วนความเห็นที่ ๑๒๔ อ่านแล้ว ได้ข้อคิดทางธรรมะดีมาก

อันว่า 3 ก๊ก ที่ทุกคนเล่ามาก็ทราบอยู่แล้วว่าใครมีบทบาทมากที่สุดตั้งแต่ต้นเรื่องจนถึงเกือบจะท้ายเรื่อง นั่นคือ ขงเบ้งเนื่องจาก สุมาเต๊กโชนั้น จะว่าเก่งกว่าขงเบ้งก็ไม่ใช่เนื่องจาก สุมาเต๊กโชนั้นเป็นอาจารย์ ซึ่งใครๆก็คงได้ยินสุภาษิตไทยที่ว่า ลูกศิษย์ ย่อมเก่งกว่าอาจารย์ ดังนั้นผมคิดว่าขงเบ้งน่าจะเป็นคนที่เก่งมีสุด ส่วนสุมาอี้นั้นไม่สมควรเรียกว่าเก่งเนื่องจากเอาแต่หลบอยู่แต่ในเมืองไม่ยอมออกมารบกันจริงๆ ซะทีซึ่งผิดกับหักการของนักรบที่คอยเอาแต่หดหัว ใครจะว่าสุมาอี้ใช้กลยุทธจน ขงเบ้งรากเลอดตายนั้นก็ไม่เเปลก เนื่องจากขงเบ้งแค้นมากจึงรากเลือดตายไปเลย เหมือนในเรื่องนิยายกำลังภายในของกิมย้งทั้งหลาย  กล่าวไว้ว่านักรบนั้นไม่ควรเอาแต่หดหัว จงลุกขึ้นมาประดาบบ้าง

 

 

 

ผมขอจบไว้แต่เพียงเท่านี้ thanks very much

  • ขอบคุณ ข้อคิดเห็นของขงเบ้งครับ
อันว่า 3 ก๊ก ที่ทุกคนเล่ามาก็ทราบอยู่แล้วว่าใครมีบทบาทมากที่สุดตั้งแต่ต้นเรื่องจนถึงเกือบจะท้ายเรื่อง นั่นคือ ขงเบ้งเนื่องจาก สุมาเต๊กโชนั้น จะว่าเก่งกว่าขงเบ้งก็ไม่ใช่เนื่องจาก สุมาเต๊กโชนั้นเป็นอาจารย์ ซึ่งใครๆก็คงได้ยินสุภาษิตไทยที่ว่า ลูกศิษย์ ย่อมเก่งกว่าอาจารย์ ดังนั้นผมคิดว่าขงเบ้งน่าจะเป็นคนที่เก่งมีสุด ส่วนสุมาอี้นั้นไม่สมควรเรียกว่าเก่งเนื่องจากเอาแต่หลบอยู่แต่ในเมืองไม่ยอมออกมารบกันจริงๆ ซะทีซึ่งผิดกับหักการของนักรบที่คอยเอาแต่หดหัว ใครจะว่าสุมาอี้ใช้กลยุทธจน ขงเบ้งรากเลอดตายนั้นก็ไม่เเปลก เนื่องจากขงเบ้งแค้นมากจึงรากเลือดตายไปเลย เหมือนในเรื่องนิยายกำลังภายในของกิมย้งทั้งหลาย  กล่าวไว้ว่านักรบนั้นไม่ควรเอาแต่หดหัว จงลุกขึ้นมาประดาบบ้าง  แต่คนที่เก่งสุดคือผมเล่าปี่

มันต้อง  ถูกมีผิดดิ หนังสือเขาทำให้ใครเก่ง   นั้นแหละคือคำตอบ ที่ถูก  ก่อถามว่า  สามคนใครเก่งกว่ากัน   แยกคำว่า(เก่ง)กับคำว่า(ฉลาด) ให้เป็น   เก่งกับฉลาด  คนละความหมาย    (  วาจาอย่าเป็นเซียนกันให้มาก)

  • ค่าของคนอยู่ที่ผลของงานครับ
  • "ใครที่ยังไม่เคยอ่านสามกก อย่าริทำการใหญ่"
  • สุมาเต็กโช กับ ขงเบ้ง น่าจะคล้าย ๆ แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ กับเขาทราย กาแล็คซี่ เก่งคือกัน แต่คนละยุค คนละสมัย เหมือน ๆ แชมป์กีฬาคนละสมัย ประมาณนี้ได้หรือปล่าวครับ
  • ถ้าเปลี่ยนขงเบ้ง มาเป็นสุมาอี้ และเปลี่ยนสุมาอี้ มาเป็นขงเบ้ง ถามว่า ขงเบ้ง จะรวมแผ่นดินได้หรือปล่าวน้อ
  • ขอบคุณ คุณ กวินทรากร สำหรับ คำคม
  • ขอบคุณ คุณ นิโรธ สำหรับข้อเปรียบเทียบ "มวยคนละสมัย" ที่เก่งไปคนละแบบ...ส่วนถ้าเปลี่ยนกลับกันได้..ระหว่างขงเบ้งกับสุมาอี้..ก็เป็นเรื่องที่น่าคิดเหมือนกัน

เวปคนรัก 3 ก๊ก คับพึ่งเปิดใหม่ มาคุยกันได้ น่ะ

http://threekingdom.freeforums.org/index.php

  • ไปเยี่ยม web มาแล้ว แต่หาทางเข้าไม่ถูก..อยู่แค่ปากทาง..อิอิ

ถ้าคิดยังซุยเป๋งงั้นก็ไม่ต้องทำไรหรอกนั่งงอมืองอเท้าให้เค้ามาฆ่าซะก็จบ

คนเรามันต้องดิ้นรนไม่ใช่เดินไข่แกว่งไปมาแบบซุยเป๋งแล้วก็บอกให้เชื่อเรื่องอดีต

จะได้ไม่ต้องทำอะไรคนที่คิดแบบนั่นคือคนที่ไม่กล้าเปลี่ยนแปลงอนาคตไม่กล้าที่จะทำอะไร

แม่น้ำแยงซีเกียงไหลไปทางทิศตะวันตก พัดพาวีรชนผู้ยิ่งใหญ่หล่นลับหาย

ศิษย์อาจารย์ฮกหลง

ขงเบ้งเก่งสุด หาใครเทียบเทียม

ในบรรดาเรื่องสามก๊กนี่ ขงเบ้งเก่งสุด ฉลาดสุดแล้ว แต่ฝ่ายอื่นถึงแม้ว่าจะฉลาดไม่เท่าขงเบ้งแต่เขามีกันหลายคน ฝ่ายขงเบ้งมีคนน้อย และสวรรค์ไม่เข้าข้าง ตอนที่ขงเบ้งจะเผาสุมาอี้นั้นฝนดั้นตกลงมาดับไฟหมดไม่งั้นนะขงเบ้งก็รวบรวมราชวงศ์ได้แล้ว แม๊...เจ็บใจจริงๆเลย.

ผมว่าขงเบ้งฉลาดสุดครับ. เพราะผมชอบขงเบ้งผมเลยดูสามก๊กครับ.ผมชอบวิธีคิดแก้ปัญหา และการตั้งตัวรับกับปัญหาต่างๆ . และนอกจากจะฉลาดเหมือนเทวดาแล้วยังมีคุณธรรมที่ดีๆอีกหลายอย่างด้ว.ผมว่าขงเบ้งเป็นไอดอลที่ดีที่สุดเลยผมว่านะ.

และอีกท่านนึงที่อยากจะนับถือคือ..ข้ามไปฝ่ายซุนกวนเลย ผมชอบซุนกวนเพราะว่าซุนกวนมีความกตัญญูต่อแม่และเชื่อฟังแม่เป็นอย่างมาก ขนาดว่าเป็นผู้ที่ไม่ค่อยจะฉลาดสักเท่าไหร่นะยังได้เป็นผู้ปกครองแคว้นได้เลย แสดงว่าผู้ที่เชื่อฟังพ่อแม่นั้นจะเป็นผู้ที่ประสบความสำเร๊จในชีวิต.ซุนกวนก็เป็นตัวอย่างที่ดีด้านความกตัญญู.

ขอบคุณสำหรับข้อคิดเห็นที่ 137-139

  • ที่ต่างเชียร์ขงเบ้งเหมือนกันครับ
  • และยังได้แง่คิดจากการชมหนังสามก๊กด้วย..
นิสิตมน.พะเยาคนหนึ่ง

อาจารย์คะเราสามารถโหลดเพลงนี้ได้ที่ไหนคะ.

ถึงนิสิตมน.พะเยา

ทุกอย่างเป็นไปตามวัฏจักร

ผมนะคับ ไม่มีใครเก่งกว่าใครคับ ซุยเป่ง รู้ทุกอย่างเป็นไปตามวัฏจักร มีเกิดมีดับ ตามกันไป ซุยเป่งรู้อย่างนี้แล้วจึงไม่ได้ช่วยเล่าปี แต่ได้บอกความในแฝงให้กับเล่าปี่แล้ว

ส่วน แต่ขงเบ้งนั้นท่านช่วยเล่าปี่เพราะขงเบ้งเชื่อว่าลิขิตฟ้า หรือจะสู้มนะตนดังคำคมของตน แต่สุดท้ายก็รากเลือดตาย แต่ท่านมีความฉลาดมากที่ยือเวลาให้กับราชวงศ์ฮั่น แต่ที่สุดก็ไม่สามารถสู้ลิขิตฟ้า ไม่สามารถรวมราชวงศ์ฮั่นได้

ส่วน สุมาเตกโซ ท่านเป็นอาจารย์ แล้วก็ผ่านอะไรมามากแล้วท่านก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ท่านก็เห็นความมานะของท่านเล่าปี สุมาเต็กโซ จึงบอกให้ไปหาขงเบ้ง

จากทั้งสามคนนั้นต่างก็มีอายุที่แต่ต่างกัน ประสบการณ์แต่ละคนก็ผ่านมาไม่เหมือนกัน

และเห็นไหมว่าแม้แต่ความคิดก็แตกต่างกัน งั้นคงไม่เก่งเหมือนกัน แต่สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ที่สุดของมนุษย์ก็เหมือนกัน คือ ความตาย

สวัสดีครับ คุณทุกอย่างเป็นไปตามวัฏจักร

  • เป็นข้อคิดเห็นที่ดีมากครับ
  • แต่ขาดสุมาอี้ไป ๑ คนครับ

หนูเป็นคนที่ชอบวรรณกรรมสามก๊กมากค่ะ ที่ปลื้มที่สุดคือท่านขงเบ้ง รองลงมาคือกวนอู แต่ที่ใครๆชอบขงเบ้ง เพราะว่าเขาอยู่ฝ่ายดี และเพราะไม่ค่อยมีใครเชียร์สุมาอี้เพราะมีแต่คนมองว่าโจโฉเป็นตัวร้ายและสุมาอี้ก็อยู่ฝ่ายโจโฉ

แต่หนูก็ยังเคารพท่า่นขงเบ้งมากค่ะ

ปล. ลองเข้าที่Googleจะมีหัวข้อขงเบ้ง เฮฮา ประมาณนี้ค่ะ จะได้รู้ว่ามีคนเอาท่านขงเบ้งไปว่าเสียๆหายๆ

(ถ้าเขียนไม่ดีก็ต้องขอโทษด้วยค่ะ)

ตอบคุณ Bam ครับ

  • คนเราต่างจิตต่างใจครับ..
  • และคนเราต้องเชียร์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นบางคนอาจเชียร์ขงเบ้ง บางคนอาจเชียร์สุมาอี้ก็เป็นวิจารณาญาณของแต่ละคนครับ
  • เราทำใจสบายๆ ไม่ยึดติดก็จะไม่มีทุกข์ครับ

หากว่าฟ้าลิขิต..ท่านขงเบ้งมีมานะ..ก็ยังสู้ฟ้าลิขิตไม่ได้..(อันนี้ผมไม่ขยายความนะมันยาว)..แล้วท่านซุยเป่งก็บอกอีกว่าทุกอย่างเป็นไปตามวัฎจักร...ส่วนคนทีรวมประเทศก็ไม่ไช่นักปราญ..ท่านสุมาอี้ก็ยกให้ลูก...แล้วที่รบกันผ่านมาคืออะไร

อย่ากย้อนถามเพราะผมไม่รู้

1.เกิดเป็นคนขึ้นมาทำประโยชน์อันใด้แก่โลก...

2.คุณคิดว่าคุณมีคุณค่ามากแค่ไหนสำหรับโลกใบนี้...

3.จากเริ่มต้นถึงจุดจบของชีวิตคุณเห็นอะไร...

4.ตอนคุณเริ่มเดินคุณเห็นทางข้างหน้าหรือเปล่าว่าเป็นยังไง....

5.ดูสามก๊กแล้วคุณคิดอย่างไร.....

ปล.ส่งคำตอบทางเมล์นะคับผมอยากรู้มากเพราะผมไม่เข้าใจสามก๊ก

เจอถามกลับเป็นงงเลยครับ

  • ใครตอบปัญหา "คุณกะทะ" ได้ ช่วยตอบทีครับ

ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยนะครับข้างบนมันยากไปเอาง่ายๆละกันนะคับ!

นับแต่บรรพบุรุษ...ทั้งสามท่านที่กล่าวมาข้างต้นนั้น..

ก่อนจะเข้าสู่สมรภูมิรบ(เว้นซุยเป่ง)..ก็เป็นผู้สันโดด..ได้ยินมาว่าชอบแต่งกลอนชมธรรมชาติ

และจิบชา...

พอเมื่อเข้าสู่สมรภูมิก็ทำให้ผู้คนล้มตายรวมกันมากกว่าสองล้านคน

ทำภาวะโลกร้อนโดยไม่ตั้งใจ(ทำอย่างไรนั้นคิดกันเอาเอง)

ทั้งสามท่านนี้ผมไม่ได้ดูถูกหรือจะว่ากล่าวเลยแม้แต่น้อยนิดซ้ำยังชื่นชมในปณิธานที่ยิ่งใหญ่ของทั้งสามท่านและยังนำคำของท่านมาใช้ในบางสถานะการ

แต่ทั้งสามท่านกับเห็นแก่ตัวเอาง่ายๆเลยนะ(แต่ก็ยังดีที่มีความรู้ให้เหลือใว้ศึกษาอยู่บ้าง)

ท่านซุยเป่งเอาแต่นังหายใจชมนกชมไม้แต่งเพลงไปวันๆผลาญออกซิเจนโลกไปอย่างไร้ค่าโดยไม่นำความรู้ออกมาถ่ายทอดเลย

ท่านขงเบ้งตั้งใจรวมแผ่นดินแต่ไม่สนว่าต้องแตกแยกนั่งหายใจคิดแต่สงครามว่าจะชนะเมื่อไหร่จะรวมแผ่นดินได้ผลาญออกซิเจนโลกไปวันอีกละ

ท่านสุมาอี้ก็คล้ายๆกันแต่จะไม่เล่าละมันยาว

เอางี้สรุปคำถาม

1.ทั้งสามท่านผลาญทรัพยากรโลกไปวันๆนั้นทั้งสามท่านเคยคำนวนว่าลมหายใจที่เข้าออกนั้นทั้งหมดต้องใช้ต้นไม้กี่ต้น?(เพราะทั้งสามเก่งมากเรียนรู้จนทะลุแจ้งคำนวนหน้าจะง่ายสำหรับทั้งสามท่านนะ)

2.แล้วทั้งชีวิตของทั้งสามท่านปลูกต้นไม้ทั้งหมดกี่ต้น?

3.ท่านทั้งสามตายไปแล้วท่านทั้งสามได้อะไร?

ปล.น่าจะง่ายนะถ้าล่วงเกินอันใดขอคำติเตียนและขออภัยในความโง่เขลาของตัวข้าพเจ้าด้วย

แล้วจะเข้ามาเยี่ยมบ่อยๆ....กะทะถ้าไม่ตั้งไฟก็จะไม่มีอาหารผัดอร่อยๆให้กินหรอก..

สวัสดีครับ คุณกระทะ (คราวก่อนเขียนผิดไปหน่อย)

  • ผมคิดว่าคุณกระทะเป็นเจ้าหนู "จำไม" ดีครับ
  • การฝึกคิด ฝึกตั้งคำถามเป็นสิ่งที่ดีนะครับ
  • คราวนี้มาสนใจเรื่อง "ภาวะโลกร้อน" เลยทีเดียว..อิอิ

คำถามที่ตั้งมาก็ยากอีกแหละ

  1. เราไม่รู้จักตัวตนของคนทั้งสามจึงไม่สามารถสอบถามได้ว่า ท่านทั้งสามเคยคำนวณลมหายใจเข้าออกหรือไม่ แต่ผมก็พอจะหาคำตอบได้นะครับ คือ หากว่าเรารู้อายุของคนที่ตายก็สามารถคำนวณ จำนวนครั้งของการหายใจได้ครับ...เช่น ขงเบ้งตายเมื่ออายุ 54 ปี คำนวณลมหายใจได้ดังนี้...นาทีหนึ่งหายใจเข้า-ออก เฉลี่ย 18 ครั้ง...เท่ากับ 54 ปี*365วัน*24ชม.*60นาที*18ครั้ง..ได้เท่าไรไม่บอกกดเครื่องคิดเลขเอาเอง....คนอื่นๆ ก็เช่นกัน
  2. ข้อสอง เพราะว่าเราไม่เคยพบท่านทั้งสาม จึงไม่สามารถจะถามท่านได้..รอไว้ตายไปพบท่านทั้งสามก่อนค่อยมาตอบนะครับ...อิอิ..
  3. ข้อสาม ตายไปแล้ว ได้กลับไปเป็นธาตุ 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ..อิอิ

                  ---------------------------------------
                                   ทวนคำถาม

  1. ทั้งสามท่านผลาญทรัพยากรโลกไปวันๆนั้นทั้งสามท่านเคยคำนวนว่าลมหายใจที่เข้าออกนั้นทั้งหมดต้องใช้ต้นไม้กี่ต้น?(เพราะทั้งสามเก่งมากเรียนรู้จนทะลุแจ้งคำนวนหน้าจะง่ายสำหรับทั้งสามท่านนะ)
  2. แล้วทั้งชีวิตของทั้งสามท่านปลูกต้นไม้ทั้งหมดกี่ต้น?
  3. ท่านทั้งสามตายไปแล้วท่านทั้งสามได้อะไร?

555+

ขอเลื่อมใสในความคิดท่านเป็นอย่างสูง

555+

ธาตุทั้งสี่ทำคนปวดหัวได้

555+

ธาตุทั้งสี่นำภาวะโลกร้อน

555+

ครับในเมื่อตอบข้อนี้แล้วขอย้อนถามข้อก่อนหน้านั้นด้วยคับ

555+

คารวะเลื่อมใสๆ....

ผมว่าสุมาเต็กโชมองเล่าปี่เป็นคนมีคุนธรรมใจอ่อนไม่สามารถรวมแผ่นดินได้มากกว่าแต่ขงเบ้งเชื่อในความอุสาหะของเล่าปี่จึงมองข้ามเรื่องนี้ของเล่าปี่ไป

  • จากการดูหนังด้วย
  • เข้าใจว่าขงเบ้ง เห็นความจริงใจและตั้งใจจริงของเล่าปี่จึงไปอยู่ด้วยย
  • และแม้ว่าขงเบ้งจะรู้ว่าไม่สำเร็จ แต่ก็มีความเชื่อมั่นในสติปัญญาของตัวเองว่า จะรวมแผ่นดินได้สำเร็จ
  • แต่ว่าโชคชาตาฟ้าดินไม่เป็นใจด้วย

แวะมาเยี่ยมค่ะ ขอออกความเห็นบ้างนะคะ แต่..งงค่ะ ทำไมเอาท่านสุมาเต๊กโชมารวมด้วยล่ะคะ (เห็นมีแต่เสนาธิการ) ขอตอบแบบกลาง ๆ ค่ะ เนื่องจากไม่รู้ว่าใช้เกณฑ์ใด (แต่ใช้หลักจากนิยายสามก๊กของหลอกวนจงค่ะ)

คิดว่าท่านสุมาเต๊กโช เก่งสุดค่ะ เพราะรู้จักเร้นกายหลีกหนีวัฐจักรแห่งสงคราม ดังซุยเป๋งว่าบ้านเมืองนั้นเดี๋ยวสงบ เดี๋ยวจราจล ฝืนไปก็เหนื่อยเปล่า ดังนี้แล้ว “ไร้วาสนาอย่าขอพร” มีบางท่านจากหลาย ๆที่ ว่าสุมาเต๊กโชกล่าวไม่จริงเกี่ยวกับเรื่อง “หากได้ฮกหลง ฮองซูคนใดคนหนึ่งสามารถรวมแผ่นดินได้นั้น” จึงขอค้านค่ะ (สนับสนุนความคิดว่าท่านสุมาเต๊กโชเก่งจริงค่ะ) ด้วยเหตุผลที่ว่า ตั้งแต่แรกที่ท่านเล่าปี่ได้ ท่านขงเบ้งมาในตอนนั้นเสนอให้รับเกงจิ๋วไว้ก็ไม่เอา ลองพิจารณาดูว่าถ้าได้เกงจิ๋วแต่แรก แผนการรวมแผ่นดินจะเร็วและง่ายกว่านี้ไหม ต้องต้านโจโฉได้แน่ลำพังความสามารถของขุนพลและปัญญาของท่านขงเบ้งแล้ว ไม่เช่นนั้นแล้วท่านขงเบ้งจะสั่งน้องชายไว้หรือว่าเมื่อสำเร็จการใหญ่เมื่อใดจะกลับมาทำนาอยู่บ้านเราเหมือนเดิม นั่นเพราะท่านเองก็คิดไว้ว่าจะต้องเป็นไปตามที่คิดไว้คือท่านเล่าปี่ต้องได้เกงจิ๋วก่อน และถ้าเป็นเช่นนั้นป่านนี้ท่านเล่าปี่อาจทำการใหญ่สำเร็จไปแล้ว เชิญท่านขงเบ้งมาแต่ไม่ทำตามแผนแต่แรกพากันหนีเกือบเอาชีวิตไม่รอด อย่างนี้แล้วจึงผิดแผนที่วางไว้หมด ทุกอย่างจึงยืดเยื้อออกไป อีกทั้งอยากทำการใหญ่แต่สนใจเรื่องเล็กดังคำท่านจูล่งว่า ดึงดันแก้แค้นให้ท่านกวนอูก็ไม่ตรงกับแผนการที่ท่านขงเบ้งได้วางไว้ตั้งแต่”เยือนกระท่อมสามครั้ง” ว่าเป็นมิตรง่อต่อต้านวุย เชื่อว่าถ้าท่านกวนอูรับรู้ได้คงไม่ต้องการให้เป็นเช่นนี้ดังนี้แล้วจึงเห็นด้วยกับคำของท่านสุมาเต๊กโช

ท่านขงเบ้งรองลงมา แต่ทำไมชอบผืนลิขิตฟ้า เมื่อท่านสุมาเต๊กโชยังกล่าวว่า “ฮกหลงจะได้นาย แต่ไม่ใช่เวลาดี” นั้น ท่านขงเบ้งเองจะไม่รู้ก็ไม่ได้เนื่องจากคาดการณ์ยุทธศาสตร์สามก๊กจากในกระท่อมได้ได้แต่จะไม่รู้เรื่องนี้นั้นคงเป็นไปไม่ได้ค่ะ ทั้งรู้ว่าท่านเล่าปี่อาภัพก็ยังออกไป โดยรู้อนาคตของตนอยู่แล้ว ดังนี้จึงเ ป็นผู้ฝืนลิขิตฟ้าโดยแท้ สมที่ท่านยาขอบเขียนไว้ “ท่านขงเบ้งแพ้อย่างราบคาบเพียงครั้งเดียว คือ "แพ้เล่าปี่ที่กระท่อมหลงจง”เรื่องความเก่งอื่น ๆ คงไม่ต้องพูดถึงค่ะ ดังที่ทราบ ๆกันดีอยู่แล้ว

ท่านสุมาอี้ เก่งแต่ตั้งรับเท่านั้น ทหารก็มากกว่า ถ้าไม่กลัวท่านขงเบ้งแล้วทำไมไม่ตีกลับให้ถอยไป อยู่ฝั่งวุยแท้ๆ ได้เปรียบทุกด้าน เรื่องของใจนั้นยอมรับว่านิ่งมากน่านับถือ แต่ถ้าสลับกันท่านขงเบ้งมีกำลังมากอย่างนั้นและรักษาฝั่งจ๊กบ้าง เสบียงก็พร้อม ลองนึกภาพดูว่าท่านสุมาอี้จะมีสภาพอย่างไร แค่ว่าให้ยกทัพมาแล้วให้จัดทหารมาเท่ากับที่เคยท่านขงเบ้งเคยนำมา แค่นั้นจะกล้าตัดสินใจยกมาหรือเปล่า??

ยาวไปหน่อยขอบคุณที่อ่านนะคะ ไว้จะมาเยี่ยมใหม่ค่ะ

  • วิเคราะห์ได้ยอดเยี่ยมครับ คุณเหมย เทียนฟง
  • ขอคารวะ...

ออกแนวระบายอารมณ์ไปหน่อยค่ะ

จริง ๆ แล้วไม่ค่อยได้แสดงความคิดเห็นที่ไหน เท่าไหร่ค่ะ

ส่วนมากจะวิจารณ์เก็บไว้อ่านเอง เพราะยาวมาก

โดยเฉพาะเมื่อได้อ่าน "เปิดหน้ากากขงเบ้ง" ของท่านเล่า(แต่ไม่ ชวนหัวเอาซะเลย)

เลยวิจารณ์เก็บไว้ซะ 5 หน้าเลยค่ะ

  • share ให้คนอื่นอ่านบ้างก็จะดีมากครับ เป็นประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน..อย่ากลัวว่าจะผิดหรือจะถูก
  • มันไม่มีผิดหรือถูกหรอกครับ
  • ความจริง "เปิดหน้ากากขงเบ้ง" ควรเป็น "เปิดหน้ากากเล่าชวนหัว"...ถึงจะดี อิอิ..

ขอบคุณมากค่ะที่เปิดโอกาสให้

แต่ยาวมากอย่างที่บอก เกรงใจท่านผู้รู้ที่เข้ามาอ่านค่ะ

เดี๋ยวจะไปสะดุดใครเข้า ท่านเล่า(แต่ไม่)ชวนหัวก็มี

คนชอบอยู่มากทีเดียวค่ะ กลัวอ่านแล้วจะไม่ได้สาระกัน

ซะเปล่า ๆ

ปล.ที่ว่า 5 หน้าเนี่ยได้อ่านเฉพาะ เปิดหน้ากากขงเบ้งเล่ม 1 เท่านั้นค่ะ

ตอนนี้กำลังอ่าน เทิดศักดิ์ศรีจูล่ง อยู่ค่ะ

  • ไม่เปิดเผยก็ไม่ว่ากันครับ คุณเหมยเทียนฟง
  • ชื่อหนังสือที่ไม่เคยเห็นในแผงหนังสือเลย "เทิดศักดิ์ศรีจูล่ง"
  • วันหน้าถ้าเข้ามาอีก ช่วยบอกชื่อคนแต่งและสำนักพิมพ์ด้วยครับ..

เอ..ก็ของท่าน เล่า(แต่ไม่)ชวน หัว ยังไงล่ะคะ

เปิดหน้ากากขงเบ้ง 1-3

ชำแหละกึ๋นเล่าปี่

ควักหัวใจซุนกวน

ผ่าสมองโจโฉ

ล้วงคอสุมาอี้

เทิดศักดิ์ศรีจูล่ง

ท่านเล่า เขาเขียนไว้หมดล่ะค่ะ ที่ได้อ่านก็แล้ว ก็เปิดหน้ากากขงเบ้ง 1

และผ่าสมองโจโฉค่ะ ส่วนเทิดศักดิ์ศรีจูล่งกำลังอ่านค่ะ

ปล.ไม่ใช่ไม่อยากเปิดเผยค่ะ แต่เกรงใจ

ขงเบ้งเก่งที่..........................สุดในสามก๊ก

รักขงเบ้ง........................-*-

จูกัดเหลียง ขงเบ้ง

ชอบขงเบ้งนะ

love love

ขงเบ้งเก่งกว่า บังทอง และ ชีซีตั้งเยอะ เก่งกว่าสุมาอี้ เก่วกว่า สุมาเต็กโซ

เก่งกว่า เล่าปี่

รักและเคารพท่านขงเบ้งที่สุดเช่นกันค่ะ

ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ท่านรักขงเบ้ง

  • ยินดีให้พื้นที่ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ครับ คุณเหมยเทียนฟง และ คนรักขงเบ้ง

น่าเห็นใจขงเบ้งเหมือนกันที่ทำการไม่สำเร็จ

เพราะฟ้าไม่เป็นใจ

ทำไมฟ้าต้องกำหนดชะตาเราด้วย

เราจะฝืนมันไม่ได้หรอกรึ

เฮอะ..........

ชิวิตคนเราสมัยนี้เกิดมานั้นสั้นนัก

ทำยังไงถึงจะใช้ชิวิตให้คุ่มค่าให้ได้มากที่สุด

ให้โลกได้จดจำจารึกชื่อเราเอาไว้

เหมือน จางจื่อ เหลาจื่อ ขงจื้อ หรือ ขงเบ้ง และอีกหลายๆท่าน

ซึ่งเป็นปราชญ์ทั้งหลาย

แต่ไม่ต้องการในฐานปราชญ์

แต่ต้องการในฐานะ........

มังกรเร้นกายอยู่ในเฆตและบึง

แต่น่าเสียดายที่หาทางออกไม่ได้

เล่าเสก

  • อย่างน้อยได้เกิดมาบนผืนแผ่นดินไทย ถือว่าโชคดีที่สุดแล้ว
  • ถึงจะเป็นอย่างไร เราก็มีข้าวกิน ไม่อดอยาก ถือว่าโชคดีซ้ำสอง
  • ถ้าเราดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง นับว่าโชคดีซ้ำสาม
  • ถ้าเราดำเนินชีวิตตามหลักธรรม นับว่าโชคดีชั้นสี่แล้วครับ
  • ชีวิตนี้ ต้องการอะไรมากกว่านี้..

ถูกของท่าน Beeman ค่ะ

คนเราชอบทำอะไรอ้อม ๆให้เหนื่อยนะคะ

พระพุทธเจ้าท่านบอกทางไว้ให้เดินตรง ๆ แท้ ๆ

แต่ยังมีคนอีกมากที่เดินอ้อม ควรใช้ชีวิตเรียบง่าย

ไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่ต้องขวนขวายจนเกินไปนัก แต่ดูอย่างบางคน

มีเงินมากมายหามาด้วยความยากลำบาก

บ้างก็โกงเขามา เหนื่อยสายตัวแทบขาด

เพื่อให้ได้สุขสบาย และมีอำนาจเงินทอง

แต่สุดท้ายต่อให้ใส่ไว้ในปากยังเอาไปไม่ได้

ไม่รู้ว่าจะเดินอ้อมให้เหนื่อยทำไม

ปล.ขออภัยนะคะ ท่านเล่าเสก เห็นด้วยกับการทำอย่างไรให้ใช้ชีวิต

ได้คุ้มค่าที่สุด แต่การสร้างชื่อน่ะเป็นเพียงสมมติของโลกนี้เท่านั้น

อย่ายึดติดเลยค่ะ

ผมก็อยากจะไปอยู่ในยุคสามก๊กให้รู้แจ้งเห็นจริงกันไปเลย

แต่ความเห็นส่วนตัวจากความรู้หางอึ่งของผมคิดว่า ขงเบ้งเก่งสุดครับ

อาจจะตรงกับหลายท่านคิดนะ ขงเบ้งมีปณิธานแล้วก็ลงมือทำผมว่าเค้าคงรู้แหล่ะว่าจะทำ สิ่งใด และจะเกิดอะไร สิ่งใดๆก็ไม่แน่นอน มันก็ผิดพลาดกันได้ก็แก้ไขกันไป พลิกแพลงสถานการณ์ได้ตลอด เป็นคนที่นำความรู้มาใช้ได้ตลอดครับ ผมชื่นชม

อันนี้ คนอื่นผมว่าก็เก่งนะครับ คงมีคนที่เก่ง พอๆกับขงเบ้ง อยู่พอสมควรนะ ในยุคนั้น

แต่ใครนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับส่วนรวมบ้าง ผมว่าความรู้นำมาใช้ได้ช่ำชองของขงเบ้งก็เป็น กลยุทธ ที่มีการร่ำเรียนมา ใครก็เรียนได้นะผมว่า สุมาอี้ก็เก่ง เกียงอุยก็เก่งรู้กลขงเบ้งอายุน้อยกว่าสุมาอี้ด้วย ผมคิดว่าคนที่รับมือขงเบ้งได้เป็นคนที่เฉลียวฉลาด

แต่ขงเบ้ง ผมยกย่องให้เป็นอัจริยะของผมครับ เสียดายเจ้านายไม่เกื้อหนุนงานใหญ่ไม่บรรลุสวรรค์ไม่เป็นใจ..เฮ้อ ผมรักขงเบ้งจริงๆนะ

  • ชอบความคิดของ คุณเหมยเทียนฟง (168) ครับ 

คุณคิดไปเอง

  • วิเคราะห์ตามความคิดของตัวเองได้ดีครับ...คงไม่มีผิดไม่มีถูก
  • ผมก็ชอบขงเบ้งเหมือนกัน...ชีวิตมีความมุ่งมั่นที่จะทำตามอุดมการณ์
  • ยิ่งได้ดูหนังตอนที่ขงเบ้งตายที่สนามรบแล้วยิ่งเศร้ามาก

แวะมาเยี่ยมค่ะ ท่าน Beeman สบายดีนะคะ

และยินดีที่ได้รู้จักนะคะท่าน คิดไปเอง เป็นแฟนพันธุ์แท้ขงเบ้งเหมือนกัน

เสียดายที่มีปราชญ์อีกหลายท่านยังเร้นกาย ไม่ออกมาแสดงฝีมือ

อาจเก่งกว่าท่านขงเบ้งก็เป็นได้ ส่วนตัวแล้วเห็นว่าที่น่าจะต่อกรได้

ไม่ถึงกับฝีมือเท่ากันหรอกนะคะ น่าจะเป็นกุยแก ค่ะ น่าเสียดายดูจะ

แพ้บารมีท่านขงเบ้งเลยชิงตายไปซะก่อน แม้แต่ชีซี บังทอง ก็ยังอับแสง

คิดเล่น ๆ น่ะค่ะว่า ทุกคนโดนเก็บหมดเลยเพื่อเปิดทางให้ท่านขงเบ้ง อิอิ

ส่วนมากท่านที่คิดว่า อ.ฮกหลงไม่เก่งดังคำคุย ก็มักจะไม่พิจารณาปัจจัย

รอบข้างประกอบด้วยน่ะค่ะ ชีวิตมนุษย์ไม่ใช่ 1+1แล้วจะเท่ากับ 2 ได้เสมอ

พอทำไม่ได้ก็กลายเป็นคุยโวไป

ปล.เสียน้ำตาให้ท่านขงเบ้งทุกครั้งที่ดูเลยค่ะ ท่าน Beeman ดูสามก๊กรอบที่ 5

ในรอบ 3 เดือน ยังอดซึ้งไม่ได้

คุณเหมยเทียนฟง

  • เขียนวิเคราะห์ได้ดีมาก
  • ผมดูสามก๊ก ตอนขงเบ้งตาย แล้วเศร้าทุกที
  • ขงเบ้งเป็นคนมีอุดมการณ์และมุ่งมั่นมาก
  • ทำงานจนวินาทีสุดท้าย..น่าเหนื่อยแทนที่คนรอบข้างหลายคนไม่เอาไหน..

สุมาอี้เก่งที่สุด ประวัติศาสตร์ก็บอกอยู่แล้วว่าตระกูลสุมารวบรวมสามก๊กเป็นหนึ่งเดียวแล้วตั้งเป็นราชวงศ์จิ้น ซึ่งจุดพลิกเกมก็เกิดจากการที่สุมาอี้ทำรัฐประหารในก๊กวุย ขอให้มองในจุดที่สำคัญที่สุดคือ ในวาระสุดท้ายใครคือผู้ชนะที่แท้จริงต่างหาก ประวัติศาสตร์ไม่ได้โกหกเรา แต่หลอกว้านจงแต่งนิยายแล้วเติมสีสัน เขาชอบขงเบ้งเขาก็เชียร์ขงเบ้ง ความจริงเล่าปี่ก็ไม่ใช่คนที่เป็นใหญ่เพราะการพึ่งพาคนอื่น แต่เขาเป็นขุนศึกที่มีความสามารถมากกว่าที่หลอกว้านจงเขียน ในสามก๊กที่หลอกว้านจงเขียนเล่าปี่ตั้งก๊กได้เพราะขงเบ้งช่วย สุมาอี้สู้ขงเบ้งไม่ได้ชนะเพราะฟลุ๊คขนาดขงเบ้งตายยังหลอกสุมาอี้ได้ ใครที่เชื่อที่หลอกว้านจงเขียนไปซะหมดก็เป็นคนที่ความคิดยังอ่อนอยู่ ไม่รู้จักแยกแยะจริงเท็จอย่าคิดว่าอ่านสามก๊กจนจำได้ทุกตัวอักษรแล้วจะเก่ง ความจริงไม่ใช่หรอก ต้องมีจินตนาการหยั่งรู้สภาพที่เป็นจริงในสมัยนั้น ซึ่งเป็นยุคที่ราชวงศ์ฮั่นอ่อนแอ เกิดกบฏโพกผ้าเหลือง และความเข้มแข็งของขุนศึกเจ้าเมืองต่างๆ ต้องมองในมุมมองของนักประวัติศาสตร์และนักรัฐศาสตร์ครับ ไม่ใช่อ่านแต่นิยายแล้วเชื่อ อย่าไร้เดียงสาจนเกินไป ท่านต้องมีจินตนาการครับถึงจะรู้ว่าตระกูลสุมาคือผู้ชนะที่แท้จริง เป็นการเก่งบวกเฮง และขอฟันธงเลยว่าสุมาอี้สุดยอด อยู่ในระดับเดียวกับโตกุกาว่า อิเอยาสึ โชกุนผู้วางรากฐานให้ตระกูลโตกุกาว่า หรือเติ้งเสี่ยวผิงผู้วางรากฐานของจีน หรือวอเรนต์ บัฟเฟตท์ นักเล่นหุ้น พวกนี้มีบุคลิคคล้ายกันคือ ใจเย็น ปล่อยวาง ที่สำคัญที่สุดคือมีความเเม่นยำ

ขอบคุณ คุณเจ

  • ที่เข้ามาวิเคราะห์ ให้ได้อ่านกัน
  • อย่างที่ว่ามา "สามก๊ก" เป็นแค่นิยาย..อ่านประเทืองปัญญา
  • ผู้อ่านต้องใช้วิจารณญาน ไม่เชื่อทุกอย่างที่อ่าน
  • ผู้เขียนนิยายก็ต้องวางพล็อทเรื่องให้สนุกน่าติดตามและต้องมีพระเอก ผู้ร้าย..
  • แต่ความเป็นจริงทางประวัติศาสตร์ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง..

อ่านแล้วค่ะ ซื้อมาอ่าน เล่มละ 250 บาท

เลื่อมใสในความฉลาด และวิธีการคิด

และปรับใช้กับซีวิตเราได้ ใจเย็นขึ้นเยอะ

ลองหาอ่านดูนะคะ

หนึ่งในหนังสือโปรด...

5555

  • "ปรับใช้กับซีวิตเราได้ ใจเย็นขึ้นเยอะ"
  • ตรงนี้ถือว่าคุ้มค่ากับเงิน 250 บาทแล้วครับ...ไม่ต้องรู้ว่าใครเก่งที่สุด ก็เกิดประโยชน์แล้ว..

ขงเบ้งอยู่แล้ว

มาเยี่ยมค่ะ สบายดีนะคะท่าน BEEMAN

แวะมาแจ้งข่าวด้วยค่ะไม่รู้ทราบรึยัง แฟนพันธุ์แท้สามก๊กจะออนแอร์วันที่ 19 และ

26 กันยายน นี้ค่ะ อย่าพลาดนะคะหลังรายการกล่องดำค่ะ มาดึกหน่อย

................

ขออภัยนะคะ ท่านเจ ขอแสดงความเห็นบ้าง

ถ้าหากความเก่งวัดกันตรงที่ ทำได้ทุกอย่างให้ได้มาซึ่งอำนาจและชัยชนะแล้วล่ะก็ ขอยกให้สุมาอี้ เช่นกันค่ะ

ในเรื่องที่ว่า “เข้าข้างขงเบ้ง” เพราะอ่านนิยายมากไป ไม่รู้จักแยกแยะแถมยังอ่อนความคิดนี่ ไม่เห็นด้วยทั้งหมดค่ะ เพราะจริง ๆส่วนตัวแล้ว ก็อ่านนอกจากท่านหลอ และพอทราบอะไรพอสมควร แม้จะอ่อนเรื่องปวศ. แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ปวศ.ยังไงก็เป็นสิ่งที่มนุษย์ที่ยังมีกิเลสเป็นผู้บันทึก อาจไม่จริงซะทั้งหมดนะคะ บางทีคนที่เขา

ชอบขงเบ้งอาจมองที่จุดอื่นก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเก่งปานเทวดา

ความจริงแล้วการที่เราจะอ่านอะไรครั้งแรกและขาดซึ่งการไตร่ตรองอย่างรองคอบย่อมเกิดขึ้นได้ค่ะและไม่เห็นด้วยที่ว่า การที่ใครอ่านสามก๊กแล้วเอาแต่จำตัวละครหรือเนื้อเรื่องได้ละเอียดยิบ จะไม่ใช่คนเก่งเขาเป็นทั้งคนเก่งและคนมีความพยายามค่ะ และไม่ได้รับประกันว่าท่านนั้นจะไม่ได้คิดพิจารณาสามก๊กอย่างตามจริงมาแล้วตามประวัติศาสตร์ เพียงแต่ถ้าจุดมุ่งหมายของท่านใดเพียงเพื่อการท่องให้รู้จำให้ได้ เพียงเท่านั้นก็เห็นด้วยค่ะว่า ไม่ใช่เซียนอย่างแท้จริง ทุกอย่างอยู่ที่ว่าเราอ่านแล้วเราต้องการอะไรค่ะ ไม่ถูกไม่ผิดอย่างที่ท่าน Beeman ว่า อีกอย่าง การอ่านแล้วเชื่ออย่างท่านหลอซะเต็มร้อย เขาอาจเพิ่งเริ่มอ่านนะคะต้องให้โอกาสกันหน่อย เราเป็นแฟนสามก๊กเหมือนกัน ไม่ควรบั่นทอนกำลังใจกันเอง ควรให้เขาได้มีโอกาสแสดงความเห็นและแนะนำด้วยความเป็นมิตรจะดีกว่าค่ะ จะได้ช่วยกันสานต่อสามก๊กต่อไป

ส่วนตัวแล้วผลงานของท่าน อ.ฮกหลงอาจไม่ได้มากมายอย่างที่เรา ๆเข้าใจ เล่าปี่เองก็เป็นคนเก่ง และเก่งด้านการใช้คนมากกว่าขงเบ้งซะอีก แต่เราปฎิเสธไม่ได้ว่า เล่าปี่ไม่ได้ขงเบ้งก็อาจไม่ได้ครองเอ๊กจิ๋ว แม้ขงเบ้งจะไม่ได้มีผลงานใด ๆ มากมายกันอย่างที่เราเข้าใจ หรือแทบไม่มีเลย ทั้งเผาทุ่งพกบ๋อง,น้ำท่วมแปะโห,สงครามลิ้น,ยืมเกาทัณฑ์,เรียกลมหรือแม้แต่ค่ายกลหลอกลกซุน,ดีดพิณลวงสุมาอี้ ฯลฯ แต่ยุทธศาสตร์หลงจงก็เปิดตาให้เล่าปี่ และชี้นำไปสู่การได้ครองเกงจิ๋ว และเอ๊กจิ๋วโดยลำดับ แม้จะเป็นเพียงผลงานทางความคิด แต่ก็สามารถผลักดันให้เป็นจริงจนได้ คนเราถึงเก่งแค่ไหนแต่บางครั้งมันก็มืดแปดด้านคิดอะไรไม่ออก พอมีคนมาชี้นำ ก็อาจเห็นทางรอดได้นะคะ

คนสุดท้ายที่เป็นผู้ชนะ ไม่ได้หมายความคน ๆ เก่งเสมอไปหรอกนะคะ เพราะกระทู้นี้ก็ไม่ได้ฟันธงไม่ว่าขอบข่ายของความเก่งอยู่ตรงไหนบ้าง ช่วงโจโฉอยู่สุมาอี้ยังถูกดองอยู่เลย ถ้าไม่เป็นเพราะโจผี อาจไม่ได้แจ้งเกิดก็ได้ เพราะยังมีคนเก่งอย่างกาเซี่ยงอยู่ มาสมัยโจยอย ก็ยังคงมอบความไว้วางใจให้โจจิ๋น เพราะสุมาอี้ยังไม่มีผลงานเด่นชัด หากไม่เพราะโจจิ๋นแพ้อย่างหมดท่า สุมาอี้คงไม่ได้กลับมา อันนี้ขอลงความเห็นว่าเป็นความเฮง อย่างเดียว

แต่กรณีการตั้งรับขงเบ้งได้อย่างสูสี ก็เห็นด้วยค่ะว่า แน่มากจริง ๆ ขงเบ้งก็ไม่ได้ชนะตลอด เก่งทั้งคู่ แต่ถ้าจะยกเครดิตให้สุมาอี้ ที่ใจเย็นเห็นทีจะไม่ถูกซะทีเดียว มันเป็นไปตามสถาณการณ์มากกว่า เวลานั้นสุมาอี้เห็นว่าการออกรบไม่เป็นผลดีจึงตั้งรับ ก็เป็นหลักพิชัยสงครามอยู่แล้วถ้าเป็นขงเบ้งก็ทำเหมือนกัน แต่เพราะขงเบ้งรอไม่ได้จำเป็นต้องทำศึกเร็ว เลยยิ่งเป็นการเสริมให้สุมาอี้ดูเป็นคนนิ่ง เหนือขงเบ้งไปเลย

การรวมแผ่นดินของตระกูลสุมา หากมิใช่เพราะง่อและจ๊กอ่อนแอ ก็มิอาจยึดได้ง่าย ๆ ส่วนสุมาเจียวก็พลาดท่าจนโดนล้อมเกือบเอาชีวิตไม่รอดถ้าไม่อาศัยผลงานของจงโฮยและเตงงาย จนกำจัดเกียงอุย ก็คงจะแย่ ความโง่เขลาของเล่าเสี้ยน และซุนโฮ ต่างหากที่ช่วยตระกูลสุมาให้รวมแผ่นดินได้ อย่างง่ายดาย

สุมาอี้ฉลาด ที่สอนให้ตนเองและลูกหลาน เฝ้ารอโอกาสจะเขมือบเหยื่อ สุดท้ายก็ยึดอำนาจ นี่เป็นคนเก่ง??

ขงเบ้งโง่ ที่ไม่ยอมยึดอำนาจจากเล่าเสี้ยน? บางคนว่าฉลาดเพราะกุมอำนาจอยู่แล้วจะทำทำไม แต่จริง ๆแล้วโง่มากเพราะถ้ากุมอำนาจไว้เอง ก็อาจปราบวุยได้แล้ว จะกลัวไย ดูอย่างสุมาเอี๋ยน ยึดอำนาจได้ยังไม่ใครว่าเป็นกบถ

แถมยังเก่งอีกด้วย ??

ขออภัยนะคะ หากล่วงเกิน

  • ขอบคุณท่านเหมยเทียนฟง
  • วันที่ ๑๙ คงไม่ได้ชมเพราะจะเดินทางไปเชียงใหม่ตอนดึก ไม่มีทีวีให้ชม..อิอิ
  • วันที่ ๒๖ คงได้ชม...แต่อย่างไรจะชมย้อนหลังนะครับ ขอบคุณที่บอกข่าว
  • ที่วิจารณ์มาถือว่ายอดเยี่ยม...เพราะบอกได้ว่าเรากำลังคิดอะไรอยู่..ถ้าเราบอกได้ว่าเราคิดอะไรอยู่ มันจะทำให้คนอื่นเข้าใจตัวเรามากขึ้น...แถมเรายังเข้าใจตัวเองมากขึ้นด้วย...อิอิ

สวัสดีคับแวะมาทักทายครั้งแรก

จากที่อ่านดูข้อความแต่ละคนรู้สึกว่าได้รับความรู้ความคิดใหม่ๆมาเพิ่มมากนะครับ

ถ้าดูจากตำราประวัติสาสตร์ของจีนจริงๆนะครับ ในบรรดาเหล่าขุนนางเล่าปีคือคนลวงโลก

(แต่ทำไมชาวบ้านกลับชื่นชอบเล่าปี่) ในสัมยที่ตั้งโต๊ะเข้าครองอำนาจนั้นเหล่าบรรดา

18หัวเมืองก็พากันอ้างคุณธรรมปราบโจรร้ายแต่จริงๆแล้วหัวเมืองที่เหล่าบรรดาขุนพล

เหล่านี้ผ่านจะถูกปล้นเพื่อนำทรัพย์สินและเสบียงมาไว้ใช้ในกองทัพของตนเอง

มีครั้ง1ที่เหล่าปี่ผ่านไปหัวเมืองที่ยังไม่ถูกปล้นชาวบ้านก็พามาแสดงความยินดีต้อนรับเล่า

ปี่ กวนอูและเตียวหุย อย่างอบอุ่นแต่สิ่งที่เล่าปี่ประกาศณที่นั้นก็คือ การขอบริจากจากชาว

เมืองโดยอ้างตั่งโต๊ยว่าเพื่อปราบกฏบ18หัวเมือง ชาวเมืองก็ไม่ยอมเตียวหุยเลยได้จับ

ชาวเมืองคนหนึ่งโยนออกนอกกำแพงเมืองไป ชาวเมืองพากันร้องไห้สาปแช่ง3พี่น้อง

และขว้างปาก้อนหินขับไล่ไปพอดีกับที่ทัพของอ้วนเสี้ยวเข้าเมืองมาพอดีทำให้ชาวเมือง

พากันมาต้อนรับกองทัพ18หัวเมืองอย่างอบอุ่นทำให้เหล่าทหารแม่ทัพทั้งหลายลืมเรื่อง

การปล้นสะดมชาวเมือง ส่วนเล่าปี่ก็ได้นำบรรดาทรัพย์สินที่ได้มาไปแจกจ่ายให้แก่ชาว

เมืองอีก2หัวเมืองที่ถูกทัพ18หัวเมืองปล้นและเผาทำลาย(ปล้น1เมืองช่วยได้2หัวเมือง

แถมยังสร้างความเกลียดชั่งให้แก่ตั่งโต๊ะเพิ่มขึ้นอีก)ก็เป็นอีกความคิดของชาวจีนนะครับ

เอามาให้ได้คิดกัน ยอมเป็นโจรเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ทุกข์ยากโดยไม่สนใจว่าตัวเองจะโดนผู้อื่นกล่าวร้ายยีงไง(บรรดาขุนนางนะ)

ครั้งหน้าจะเอาสุมาอี้มาให้ บายๆครับ

  • ขอบคุณท่าน neochaan
  • เรื่องเล่าสนุกดีครับ
  • จะรอเรื่องต่อไป

แวะมาเยี่ยมค่ะ สบายดีนะคะ

เอาข่าวคราวมาฝากค่ะ แต่ไม่ทราบว่าจะเก่าไปไหม

เป็น"สามก๊ก" ฉบับล่าสุด ที่กำลังทุ่มทุนสร้างอยู่ค่ะ

ดูรายละเอียด คร่าว ๆ ได้ที่นี่ค่ะ

http://www.thaisamkok.com/forum/index.php?showtopic=11852&st=0

ปล.ท่าน neochaan ไว้จะแวะมาอ่านอีกนะคะ น่าสนใจมาก

สวัสดีครับคุณเหมยเทียนฟง

  • เข้าไปดูสามก๊ก Version ใหม่แล้ว
  • เห็นหน้าดาราแล้ว...ความรู้สีกเก่าๆ เห็นว่า "สามก๊ก" ฉบับของจีนแผ่นดินใหญ่นี่..คัดเลือกดาราได้สมตามบุคลิกของตัวละคร ยกเว้นตัวละครบางตัวเปลี่ยนตัวแสดงบ่อย เช่น จูล่ง กับ บังทอง
  • แต่โดยภาพรวม ถือว่า OK
  • ตัวละครที่เล่นดีที่สุด คิดว่าน่าจะเป็น ผู้แสดงเป็น "ขงเบ้ง" และ "โจโฉ"

แวะมาเยี่ยมค่ะ

ไม่ได้มาซะนาน สบายดีนะคะ ท่าน Beeman

ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง รักษาสุขภาพด้วยค่ะ

ไว้จะแวะมาเยี่ยมใหม่ค่ะ

  • สามสัปดาห์แวะมาเยี่ยมครั้งก็ดีครับ
  • ตอนนี้ยังไม่ป่วยเป็นอะไร ยกเว้นมีน้ำตาลเกินไป ๑๕-๒๐ mg%....อิอิ

ปกติแล้ว

ขงเบ้งเป็นผู้ชนะ

แต่ฟ้าไม่เป็นใจ เลยฝนตกลงมา

ทำให้ 3 พ่อลูก สุมา

และด้วย ขงเบ้ง ไม่กินข้าว ไม่นอน สักเท่าไหร่

เลย ทำให้ จ๊กก๊ก สลาย ลง

ถ้าไม่มีขงเบ้ง

เล่าปี่ก็คง ตายตั้งแต่ ศึกแลกๆแล้ว

  • ขอบคุณ "ไอซ์ ผู้รักขงเบ้ง" สำหรับข้อคิดเห็นครับ 

สวัสดีค่ะ ท่าน Beeman

ห่างหายการเยี่ยมไปนานเลยค่ะ ต้องขอโทษด้วย (ไม่รู้จะไปเยี่ยมที่หน้าไหนดี)

เรดคลิฟ 2 ผ่านไปแล้ว ไม่ทราบว่าได้ดูรึเปล่าคะ? ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าดีกว่าภาคแรกมากค่ะ

นำเสนอมุมมองที่แหวกแนวแต่ไม่โอเวอร์จนเกินไป ดูไม่ขัดตา ไปดูมาสองรอบเลยค่ะ

สามก๊ก ฉบับจีนแผ่นดินใหญ่เวอร์ชั่นเก่า ไม่มีใครปฎิเสธได้เลยว่ายัง "ยอดเยี่ยม"อยู่เหมือนเดิม เห็นด้วยค่ะว่า บทเด่นต้องยกให้ เปากั๋วะอัน(โจโฉ) กับ ท่านถังกวัะเฉียง(ขงเบ้ง)

ที่เล่นได้รับสมญานามว่า "The best Zhugeliang" เลยค่ะ (พอดีเป็นแฟนคลับ *-*)

งานนี้ฉบับใหม่ คงต้องแสดงฝีมือกันเหนื่อยล่ะค่ะ ถึงจะได้รับการยอมรับ แต่ท่านถังก็เคยได้รับการทาบทามให้เล่นบทโจโฉ มาก่อนด้วยนะคะ แต่ท่านเปากัวะอัน(เป็นอ.สอนการแสดง)

ก็ดูจะเหมาะกว่าจริงๆ ด้วยคาแรกเตอร์ของโจโฉ "ตัวเล็ก ตาหยี" เลยคว้ารางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมไปในเรื่องนี้ด้วยค่ะ ^^

งานสัปดาห์หนังสือน่าสนใจมาก ไม่ทราบว่าไปรึเปล่าคะ?

ยินดีที่ได้รู้จักค่ะท่าน ไอซ์

เรื่องวรรณกรรมมันก็พูดยากค่ะ เพราะเท่าที่ทราบๆมา การล้อมสาม "สุมา" ไม่ได้เกิดขึ้นจริงค่ะ แต่สิ่งที่พูดกันได้เต็มปากก็คือ ความทุ่มเทในการบุกวุย ไม่ว่าจะ้ด้วยสาเหตุใด แต่ความกตัญญูต่อสกุลเล่าของขงเบ้งก็เป็นสิ่งที่จับต้องได้ค่ะ

บางทีคนเรา ทั้งๆที่รู้ว่าทางนั้นจะพบกับจุดจบอย่างไร ต้องเจ็บปวดมากมายเพียงใด แต่ก็ยังดันทุรังจะก้าวไปทางนั้น มันเป็นสิ่งที่คนไม่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันก็จะไม่เข้าใจค่ะ เพราะบางเรื่องมันไม่มีเหตุผลจริงๆ งานนี้ต้องยกเครดิตให้ เล่าปี่ ที่กุมใจขงเบ้งได้เด็ดขาดค่ะ *-*

ปล.จะแวะมาเยี่ยมอีกค่ะ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ เห็นว่าน้ำตาลเกินแล้ว

เรียน ท่านเหมยเทียนฟง

  1. เข้ามา ลปรร. ได้ดีมาก ได้ความรู้เรื่อง "สามก๊ก" ฉบับจีนแผ่นดินใหญ่มากขึ้นเลยทีเดียว
  2. red cliff ภาค2 ไม่ได้ไปดูครับ
  3. งานสัปดาห์หนังสือครั้งที่ 27 ไปมาแล้วเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2552 ใช้เงินช่วยร้านหนังสือไปประมาณ 4,700 บาท แต่ไม่ได้ซื้อหนังสือสามก๊กมาครับ
จูกัดเหลียวขงเบ้ง

ขงเบ้งเก่งกว่าสุมาอี้

น่าตาก้อดีรวยอีกเก่งทั้งสติปันยาเก่งทั้งความเจ้าเหล่เพทุบายอีก555+

<object width="425" height="344"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/irfORnnJtM0&hl=en&fs=1"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/irfORnnJtM0&hl=en&fs=1" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="425" height="344"></embed></object>

ทั้งจูกัดเหลียงและปลา ใช้ IP เดียวกัน..อิอิ

ระหว่างสามคน คือ สุมาอี้ สุมาเต๊กโช และขงเบ้ง ใครเก่งที่สุด ขอวิเคราะห์เปรียบเทียบแค่ 2 คน คือขงเบ้งกับสุมาอี้เพราะสุมาเต๊กโชเป็นนักวิชาการไม่ได้ปฏิบัติจริง จึงบอกไม่ได้ว่าเขาเก่งหรือไม่เก่ง ส่วนขงเบ้งและสุมาอี้เป็นทั้งนักวิชาการ คือผู้คงแก่เรียนและเป็นนักปฏิบัติคือเป็นแม่ทัพคนสำคัญและเคยเป็นอัครมหาเสนาบดีบริหารแว่นแคว้นในยามสงบ

ด้านความอดทน - สุมาอี้เหนือกว่า หลักฐานที่ชัดเจนที่อ้างอิงได้คือการที่ขงเบ้งตรอมใจตายในการรบกับสุมาอี้ครั้งที่6 การเป็นแม่ทัพนั้นต้องมีจิตใจที่สงบนิ่ง ต้องไม่หวั่นไหวต่อสถานการณ์ที่กดดัน หรือยั่วยุ ซึ่งความอดทนนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือฟลุ๊ค เพราะสุมาอี้สอนลูกของเขาว่าคนเราอาจเก่งได้เท่ากัน แต่ความอดทนต่างกัน ต้องอดทน

ความเป็นนักวิชาการ - คิดว่าสูสี สุมาอี้ก็เป็นผู้คงแก่เรียนไม่ได้ด้อยกว่าขงเบ้ง และอาจเข้าถึงผลึกแห่งปรัชญามากกว่า ตัวอย่างเช่นขงเบ้งยึดปณิธานของเล่าปีในการบุกวุยก๊กเพื่อรวบรวมแผ่นดิน แต่สุมาอี้เพียงป้องกันไม่ให้แพ้ จะเห็นว่าการต้องการเอาชนะกับการป้องกันไม่ให้แพ้ต่างกัน นักเล่นหมากกระดานของจีนระดับเซียนกล่าวว่าแนวคิดของคำว่าไม่ให้แพ้เหนือกว่าแนวคิดที่ทำอย่างไรถึงจะชนะ สุมาอี้เข้าถึงหลักปรัชญาของลัทธิเต๋าได้มากกว่า

การปกครองบ้านเมืองในยามสงบ - สุมาอี้เคยเป็นอัครมหาเสนาบดีของวุยก๊ก ปรากฏว่าผลงานก็เป็นที่พอใจของชาวบ้าน ส่วนขงเบ้งเป็นอัครเสนาบดีของจ๊กก๊กยาวนานผลงานก็ดีเช่นกัน

การบัญชากองทัพ - คิดว่าสูสี แต่ยุทธศาสตร์ของสุมาอี้เหนือกว่าเพราะสุมาอี้จับทางมวยของขงเบ้งออกว่าร้อนรนทำตามปณิธานของเล่าปี่ให้เสร็จในช่วงเวลาของชีวิตของขงเบ้ง จึงเปรียบเป็นมวยแพ้ทาง ไม่ว่าขงเบ้งจะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่อาจเอาชนะได้ แต่ในรายละเอียดในการบัญชาทัพก็คงสูสี ซึ่งในเรื่องสามก๊กมีแม่ทัพที่เก่งสามคน คือ ขงเบ้ง สุมาอี้และลกซุน และที่บอกว่าสุมาอี้เก่งแต่ตั้งรับนั้นไม่จริง ความจริงก็เก่งทั้งรับและรุกนั่นแหละ ซึ่งก็แล้วแต่สถานการณ์

การส่งผ่านให้คนรุ่นต่อไป - สุมาอี้เหนือกว่ามาก เขาไม่ได้คิดถึงแต่ชั่วชีวิตของเขาเท่านั้น แต่วางรากฐานให้คนรุ่นต่อไป ถ้าอ่านสามก๊กอย่างละเอียด จะพบว่าสุมาอี้สั่งสอนลูกของเขาดีมาก สมกับเป็นผู้คงแก่เรียน เปรียบได้กับเติ้งเสี่ยวผิงผู้วางรากฐานของจีนยุคใหม่ เลยทีเดียว สวนทายาทของขงเบ้งที่วางไว้คือเกียงกุยถึงจะฝีมือใช้ได้แต่ก็ไม่ประสพความสำเร็จ ส่วนเล่าเสี้ยนคนที่ขงเบ้งน่าจะสั่งสอนที่สุดก็ไม่เอาอะไรเลย

ความเป็นผู้ดี - ดูเหมือนว่าสุมาอี้จะเป็นคนเจ้าเล่ห์ ไว้ใจไม่ได้ แต่ความจริงสุมาอี้ใช้เล่ห์เหลี่ยมครั้งเดียวเท่านั้น คือตอนทำรัฐประหารในวุยก๊ก นอกนั้นส่วนใหญ่จะโดนตระกูลโจแกล้งมาตลอด ไม่อยากเข้าร่วมก็โดนโจโฉบังคับให้เข้าร่วม โดนปลดก็หลายครั้ง ส่วนขงเบ้งแม้จะเป็นฝ่ายพระเอก แต่ก็ใช้เล่ห์เหลี่ยมจนฟุ่มเฟือย ทุกคนก็ล้วนแต่ตกอยู่ภายใต้เล่ห์เหลี่ยมของขงเบ้งทั้งนั้น

กลยุทธที่สุมาอี้ใช้ตั้งรับขงเบ้ง คือการเดินทัพทางเส้นใน สุมาอี้เป็นฝ่ายคอนโทรลเกมได้ตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ ขงเบ้งเล็งผลเลิศ ต้องรบภายใต้ข้อจำกัดคือมีเสบียงจำกัดก็เลยมีเวลาจำกัดต้องเข้าในฝ่าเข้าไปให้ถึงเมืองหลวงของก๊กวุย แต่มันเป็นยุทธการที่ไกลเกินเอื้อม ขงเบ้งพยายามอยู่ถึงหกครั้ง แต่ไม่สามารถเข้าในได้ สุดท้ายก็เหนื่อยกายเหนื่อยใจตรอมใจตายไปเอง ผู้ที่เชี่ยวชาญกลยุทธการเดินทัพทางเส้นในคนหนึ่งก็คือรัชกาลที่1แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ในคราวสงครามเก้าทัพ ฝ่ายพม่าบุกเข้ามาเก้าทิศทาง แต่ไทยรวมกำลังที่จุดตำบลแตกหักคือทุ่งลาดหญ้าเมืองกาญจน์ส่วนที่อื่นก็ปล่อยให้พม่ายกล่วงเข้ามาก่อนและเอาชนะได้ในตำบลแตกหักจึงชนะสงครามในคราวนั้น กรณีสุมาอี้ตั้งรับขงเบ้งก็เช่นเดียวกันสุมาอี้ใช้สุดยอดกลยุทธทางทหารคือการเดินทัพทางเส้นในสามารถต้านได้อย่างสบาย ส่วนที่มีคำถามว่าเหตุใดสุมาอี้ไม่ไล่ตามตีขงเบ้งตอนถอยทัพ อาจเป็นเพราะกองทัพของขงเบ้งยังแข็งแกร่งอยู่และการดำรงอยู่ของขงเบ้งก็เป็นประโยชน์ต่อสุมาอี้เช่นกัน

เรียน ท่านเจ

  • ท่านวิเคราะห์ ๒ ครั้งได้ลึกซึ้ง...

ถ้าสุมาอี้เก่งกว่า ทำไมผู้คนถึงกราบไหว้แต่ขงเบ้งล่ะ ไม่เห้นมีคนไหว้สุมาอี้เลย นอกจากญาติ ๆ ของเขาเอง ยังไงก็รักข่งหมิงที่สุดค่ะ

ถ้าจะว่าตามอ่านมาแล้วกว่า5รอบสุมาเต็กโชก็น่าจะเก่งที่สุดแต่คงจะว่าเป็นอาจารขงเบ้งไม่ได้เพราะในหนังสือมีเรื่องราวของสุมาเต็กโชแต่ไม่อาจระบุสถานที่เรียนของขงเบ้งและบังทองได้แต่แคบอกว่าขงเบ้งไปปรึงษาปัญหาด้วยเท่านั้นแต่ตามที่อ่านมาสุมาอี้คงไม่เทียบเท่าขงเบ้งเป็นแน่เพราะสุมาอี้หลงกลขงเบ้งและไม่ชนะซักแผนจนขงเบ้งตายยังหลอกสุมาอี้จนให้ทหารถอยทัพได้อย่างปลอดภัยเลยนะผมว่า

ตอบของเจนะ

ที่ว่าสุมาอี้อดทนกว่าแล้วขงเบ้งไม่อดทนไม่ใช้หรอก เพราะตามที่อ่านมาขงเบ้งป่วยหนักและสุมาอี้รู้จากการดูดาวเลยแค่ป้องกันไว้ดเยวขงเบ้งก็ตาย เพราะถ้ายกออกมาสู้ก็คงแพ้เฉียดตายเหมือนครั้งที่ผ่านมาแน่นอน

ขงเบ้งมีลูกน้องแย่ๆหลายคนครับ+กับไอ้เล่าเสี้ยนตัวซวยที่เล่าปี่น่าจะทุ่มมันลงพื้นไปเลยซะก็ดี ***และที่สำคัญขงเบ้งแพ้โชคชะตาครับ*** หากฝนไม่ตก สุมาอี้ก็คง ***ตาย**ไปนานแล้วครับ ++แต่ถ้าย้อนกลับไปดูแล้วมันพลาดตั้งแต่เสียกวนอูไปแล้วครับ ถ้ากวนอูไม่ตาย จกก๊กชนะแน่ครับ

*****ขออาลัยแด่เหล่าผู้กล้าแห่ง3ก๊กครับ****

ผมว่าม้าเฉียวเก่งสุดครับ เก่งจนโจโฉยังต้องหนีตายเลย

แต่อนิจจา ท่านม้าเฉียวป่วยเป็นไข้ตายก่อนไม่งั้นโจโฉตายแน่ๆ

ส่วนกวนอูก็เก่งครับฝีมือทวนเป็นที่1+ม้าเซ็กเทาว์=เทพ

เตียวหุย บ้ามากๆๆๆๆๆๆๆๆ สู้กับลิโป้เป็น100เพลงยังไม่แพ้ แถมพลังยังเป็นที่1อีก

จูล่ง ฉลาด เก่ง สุภาพ เยี่ยม ***

ฮองตง ฆ่าแฮหัวเอี๋ยนได้ + แก่แล้ว

****ส่วนไอ้ลิโป้ ผมว่ามันก็พอๆกับเตียวหุยแหละครับที่ทุกท่านเข้าใจว่ามันเก่งสุดก็เพราะเข้าใจว่า3พี่น้องดอกท้อฆ่าไม่ได้ แต่ที่จริงถ้ามันไม่หนีล่ะก็ **ตายสิครับ***

อีกอย่างเพราะทุกท่านคงเห็นว่ามันมีค่าพลังเยอะกว่าตัวอื่นจึงคิดว่ามันเก่งสุด****

++++++ ท่านม้าเฉียวเก่งสุดครับ ++++++

ใครชนะก็รวมจีนเป็นจีนไม่ได้หรอกครับ

+++แล้วใครรวมจีนเป็นจีนแบบปัจจุบันได้ครับช่วยบอกที+++++

  • เคารพความเห็นทุกท่านครับ
  • ขอบคุณครับ

ผมว่าได้เรียนรู้2อย่างจากสามก๊ก คือ

1.การกรองข่าว เราได้ข้อมูลจากผู้แต่งซึ่งมาจากจ๊กก๊ก เป็นจ๊กก๊กซึ่งนิยมขงเบ้ง เรายังขาดมุมมองจากทางวุยก๊กและง่อก๊กทำให้ได้ข้อมูลไม่ครบทุกมุมมอง ในการสงครามนั้นนอกจากใช้กำลังอาวุธรบกันแล้วยังมีการใช้สงครามจิตวิทยา การโฆษณาชวนเชื่ออีกด้วย เราก็ต้องกรองข่าวล่ะครับ เพราะธรรมชาติของการโฆษณาชวนเชื่อจะพูดถึงแต่ความดีของฝ่ายตน ส่วนความบกพร่องก็จะมีข้อแก้ต่างให้เสมอ จะพูดถึงแต่ความเลวความแย่ของศัตรู ส่วนความดีของศัตรูก็พูดถึงนิดหน่อยพอให้เห็นว่าไม่ลำเอียง สามก๊กจากมุมมองของวุยก๊กหรือง่อก๊กอาจแตกต่างจากสามก๊กฉบับจ๊กก๊กก็ได้ ต้องมองภาพรวมให้ออก ต้องกรองข่าว แม้ในสถานการณ์ปัจจุบันก็ต้องกรองข่าว อย่าว่าแต่เรื่องสามก๊กซึ่งเกิดขึ้นมาเป็นพันปีเลย

2.ในเกมพาวเวอร์เพลย์ การรอคอยโอกาสโดยใช้ระยะเวลานานประสพผลสำเร็จกว่าการพยายามสร้างโอกาสขึ้นมาเองในช่วงสั้นๆ กรณีของขงเบ้งและสุมาอี้ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่พิสูจน์ความถูกต้องของความคิดนี้

เรียน น้องเจ

  • ผมได้ข้อคิดจาก comment คือ การโฆษณาชวนเชื่อ Propaganda นั้นต้องทำอย่างมีระบบ ผลจะเป็นอย่างไรก็ดูจากมวลชน
  • สังเกตว่า ในเมืองไทย เหตุการณ์ชุมนุมของพวกเสื้อ ๒ สี ล้วนเป็นเรื่อง Propaganda ทั้งสิ้น
  • ขอบคุณครับที่ทำให้ได้คิดเรื่องนี้

ขงเบ้งต้องตายเพราะขุนนางในราชสำนักของเสฉวนมันกลั่นแกล้ง + กับความใจร้อนของตนเองที่พยายามจะฟื้นฟูรางวงศ์ฮั่น ตัวขงเบ้งนั้นแม้โดนแกล้งหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยทิ้งความภักดี

แต่สุมาอี้ก่อรัฐประหารถึงโดนแกล้งหลายครั้งแต่แท้จริงต้องอดทนเหมือนดังแม่ทัพไป๋ฉีแห่งแคว้นฉินที่ตีเมืองให้แคว้นฉินถึง72เมืองทำศึกมานับไม่ถ้วนฆ่าทหารตายไปนับล้านคน แต่ครั้นแคว้นจ้าวต่อต้านแคว้นฉินจ้าวแคว้นก็สั่งให้ไป๋ฉีไปรบแต่ก็ไม่ไปเพราะเห็นว่า

ทางชนะคงไม่มีสุดท้าย+กับความเอาแต่ใจของเจ้ารัฐไป๋ฉีเลยต้องฆ่าตัวตายด้วยมีดที่เจ้ารัฐฉินมอบให้ นี่คือความภักดีที่แท้จริง ขงเบ้งเองก็เป็นเช่นนั้น ภักดีซื่อสัตว์โลกจะต้องจดจำไปชั่วกาลนานแต่ถ้าถามถึง3ก๊กคิดว่ามีใครมั่งที่ไม่รู้จักขงเบ้ง

ถ้าจะให้ยกตัวอย่างความภักดีอีกคนนึงต้องไม่พ้น งักฮุย บุคคลที่มีแผลเป็นกลางหลังที่เขียนไว้ว่า จิ้นจ้งเป้ากั๋ว = รู้รักภักดีพลีชีพเพื่อชาติ

และหลายท่านอาจรู้หรือยังไม่รู้ว่าคนที่คิดค้นหน้าไม่อัตโนมัติคือขงเบ้งนะคับแต่ยังไม่ทันสร้างขงเบ้งก็ตายก่อนจึงมีการนำมาใช้ในยุคหมิง เท่าที่ผมรู้นะครับ ไม่รู้ถูกหรือผิด

และใครที่ชื่นชอบโจโฉก็ต้องขออภัยก่อนด้วยนะครับ

ตอนที่พ่อของโจโฉโดนฆ่าตายชาวบ้านแถบซีจิ๋วแทบจะโดนล้างโครตตายกันเป็นแสน

โจโฉแพ้ศึกเซ็กเพ็กเพราะความลำพอง

โจโฉอ้างราชองการฮ่องเต้บีบคั้นขุนศึกทั่วแผ่นดินให้ยอมจำนน

ภายหลังจากที่แพ้ศึกเซ็กเพ็กพอกลับถึงเมืองหลวงได้ไม่นานก็ประหารแม่ของฮ่องเต้ตั้งตนเองให้เป็นผู้สำเด็ดราชการแผ่นดินมีอำนาจเด็ดขาดทุกเรื่อง

แม้ตอนแรกจะเป็นคนดีแต่ภายหลังความโลภทำให้บุคคลผู้นี้กลายโจรกังฉิน

ส่วนซุนกวนพึ่งบารมีพ่อกับพี่ชายถึงได้เป็นใหญ่คับ ถ้าใครไม่ชอบผมก็ขอโทษก่อนเลยนะครับ

  • ยินดีที่คุณจิ้นเข้ามาแสดงความคิดเห็นครับ
  • เป็นการ Share ตามความคิดและความเชื่อครับ ไม่มีผิด ไม่มีถูก

สวัสดีค่ะท่าน Beeman

ไม่ได้มาเยี่ยมนานเลยช่วงนี้ยุ่งๆค่ะ สบายดีรึเปล่าคะ? สุขภาพเป็นยังไงบ้างคะ ^^

ยิ่งช่วงนี้เป็นหน้าฝนด้วย ต้องดูแลสุขภาพกันมากๆนะคะ

ไม่ได้มานานดูคึกคักจังค่ะ มาร่วมแสดงความเห็นอีกเช่นเคย แหะๆ

คุณเจ**

จะเปรียบด้านความอดทน สุมาอี้ต้องก็ต้อง(ได้แต่)อดทนสิคะ เพราะตอนนั้นตั้งรับได้เพียงอย่างเดียวอยู่แล้ว ฝ่ายหนึ่งแค่รับก็สบายๆกับอีกฝ่ายที่ต้องรุกเรื่องสภาพจิตใจมันต้องต่างกันอยู่แล้วค่ะ ขงเบ้งโดนบีบจากหลายๆเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องเสบียงซึ่งเป็นปัญหาตลอดมา ลองดูตอนที่โจจิ๋นกับสุมาอี้ยกมาจ๊ก ถ้าไม่เกิดฝนห่าใหญ่ได้รบกันจริงๆ อยากรู้เหมือนกันว่าใครจะนิ่งกว่าใคร เพราะขนาดขงเบ้งที่ว่าไม่นิ่งตอนบุกวุยยังได้มาตั้งหลายหัวเมือง ถ้าตั้งรับจะกลัวอะไรล่ะคะ หรือจะวัดจากศึกอื่นๆของขงเบ้งก็ได้ค่ะ มีศึกไหนที่เขาไม่นิ่งบ้าง ศึกนี้ระหว่างสุมาอี้ สถานการณ์และปัจจัยมันไม่เอื้ออำนวยค่ะ

ขอผลงานของสุมาอี้ที่มีต่อวุยก๊ก มาเพิ่มเติมความรู้หน่อยได้ไหมคะ เรื่องสุมาอี้รู้น้อยมากๆค่ะ - -

ถ้าจะบอกว่า ขงเบ้งเป็นมวยแพ้ทางสุมาอี้ก็ไม่น่าจะใช่นะคะ มวยแพ้ทางคือพวกที่เจอกันกี่ครั้งไม่ว่าสถานการณ์จะได้เปรียบเสียเปรียบอย่างไร ก็จะแพ้ มันต้องลองให้

สุมาอี้มาบุกจ๊กค่ะถึงจะตอบได้ว่าจะแพ้ทางจริงรึเปล่า^^

ส่วนเรื่องสุมาอี้เก่งทั้งรุกและรับ ก็ยังไม่เห็นผลงานชัดเจนน่ะค่ะเรื่องรุก แต่ก็คิดว่าต่อกรกับขงเบ้งได้ คงไม่เบาแน่ๆ

การส่งผ่านให้คนรุ่นต่อไปของสุมาอี้น่ายกย่องจังค่ะ ^^

เขาไม่ได้คิดถึงชั่วชีวิตเขา แต่คิดถึงบัลลังก์ของวุยก๊กเลยทีเดียว สั่งสอนลูกดีมาก?

ขงเบ้งส่งต่อให้รุ่นหลังอย่างเกียงอุยและฮ่องเต้อย่างเล่าเสี้ยน เขาทำดีที่สุดแล้วค่ะ

คนเราสอนได้แต่ตัวนะคะ เล่าเสี้ยนไม่มีความสามารถไม่ใช่ความผิดของเขาหรือขงเบ้ง

ลองคิดดูนะคะ สมมติจับใครก็ไม่รู้มาเลี้ยงให้เป็นฮ่องเต้ทั้งๆที่เขาอาจจะไม่มีคุณสมบัติเลย อาจจะไอคิวต่ำ หรือบกพร่องอะไรบางอย่าง(ไม่ได้ว่าเล่าเสี้ยนนะคะ)

แบบนี้จะเป็นฮ่องเต้ที่มีความสามารถได้อย่างไร(ไม่พูดถึงการเลี้ยงดูนะคะ) เพราะเราคาดหวังในขงเบ้งและเล่าเสี้ยนมากเกินไปรึเปล่า?

เหมือนเราไม่มีพรสวรรค์ด้านศิลปแต่ต้องมาเรียนวาดรูป ยังไงก็ทำได้ไม่ดีหรอกค่ะ

เกียงอุย ก็เหมือนกัน เปรียบง่ายๆอย่างเป็นฟุตบอลทีมชาติอังกฤษก็ได้ -*-

อยากได้คนเก่งๆใจจะขาด แต่นักเตะในอังกฤษที่เก่งๆก็มีไม่มาก (บอลลีกก็เป็นของชาติอื่นๆ) แบบนี้แล้วใครเก่งสุดก็ฝากความหวังไว้กับคนนั้น(เกียงอุย) แต่ท้ายที่สุดจะรอดหรือไม่ก็ต้องลุ้น (สุดท้ายอังกฤษก็ไม่เคยรอด)

เรื่องความเป็นผู้ดี?

เปรียบกันแบบนี้ งั้นเอางี้นะคะ พูดในเชิงคุณภาพดีไหมคะ

สุมาอี้ ใช่เล่ห์ครั้งเดียว? ตอนรัฐประหาร รัฐประหารเพื่อตระกูลตัวเอง! แล้วเป็นผู้ดีตรงไหนคะ?

ขงเบ้งใช้เล่ห์เหลี่ยมมากมาย สุดท้ายเพื่อตัวเองรึเปล่า?

ความเป็นผู้ดีที่ลงท้ายด้วยความอกตัญญู

กับ

ความไม่เป็นผู้ดีที่ลงท้ายด้วยความกตัญญู

อันไหนคือผู้ดีที่แท้จริงคะ?

ยุทธการของขงเบ้งไม่ไกลเกินเอื้อมหรอกค่ะ เพียงแต่คู่ปรับคือสุมาอี้เท่านั้นเอง ^^ ทำให้ต้องรบยืดเยื้อ ไม่งั้นถึงเหมืองหลวงแล้วล่ะคะ

เอ...ที่สุมาอี้ไม่ตามตีเพราะการดำรงอยู่ของขงเบ้งมีประโยชน์ต่อสุมาอี้ยังไงคะ? แล้วที่โจยอยสั่งให้บุกจ๊กบ้าง นี่ไม่ใช่จะกำจัดขงเบ้งเหรอคะ

การที่ขงเบ้งอยู่น่าจะเป็นอันตรายกับสุมาอี้มากกว่านะ เพราะไม่ว่ายังไงคนที่ดันทุรังบุกวุยมาตลอดก็คือขงเบ้ง

การที่ไม่ตามตี ข้อนี้เป็นแม่ทัพที่ไหนก็ต้องพิจารณารอบคอบทั้งนั้น เพราะการถอยทัพแต่ละครั้ง อย่างขงเบ้งต้องวางกลยุทธเพื่อถอยไว้อย่างรัดกุมอยู่แล้ว ข้อนี้เห็นว่าสุมาอี้ไม่กล้าตามตีเพราะกลัวจะเพลี่ยงพล้ำและเห็นว่าไม่สัมฤทธิ์ผลเท่าที่ควรมากกว่าค่ะ

ปล.ขอบคุณที่ให้ร่วมแสดงความคิดเห็นนะคะ คุณเจ ^^

คุณ Shannon**

ขงเบ้ง – ปณิธานเพื่อบ้านเมือง

สุมาอี้ – ปณิธานเพื่อวงศ์ตระกูล

ชัดเจนค่ะ ^^

คุณไม่แสดงตน **

ถ้าตามวรรณกรรม สุมาอี้แพ้ขงเบ้งตลอดค่ะ ยกเว้นที่เกงเต๋ง แต่ถ้าเป็นปวศ.ตามที่ได้ยินมาสุมาอี้แทบจะไม่เคยแพ้ขงเบ้งเลยค่ะ - -

คุณ Mr.K**

เล่าปี่ทุ่มเล่าเสี้ยนแล้วแต่จูล่งดันรับได้น่ะค่ะ 555+

พลาดเสียกวนอูยังไม่เท่าไหร่ค่ะ แต่พลาดตรงเล่าปี่ตัดสินใจยกทัพไปศึกอิเหลงอันนี้เสียทหารไปมากโดยใช่เหตุ แถมระยะเวลาการบุกวุยก็ต้องเลื่อนไปอีก ไม่งั้นร่วมกับง่อบุกวุยก็เรียบร้อยไปนานแล้ว

ที่ชมๆมา ห้าทหารเสือทั้งนั้นเลยนี่คะ ^^

เสียดายม้าเฉียวเหมือนกันค่ะ ไม่งั้นได้เห็นขุนพลขี้วีนแสดงผลงานอีกเยอะแน่ๆ

เอ..ไม่แน่ใจนะคะ แต่เท่าที่รู้มาฝ่ายที่สั่งให้ชำระเรื่องนี้ เป็นฝั่งจิ้นไม่ใช่เหรอคะ ถ้าจะบอกว่าขาดมุมของง่อ ก็พอเป็นไปได้ค่ะ

คุณจิ้น **

หน้าไม้อัติโนมัติ กับหน้าไม้สิบดอกของขงเบ้งเหมือนกันรึเปล่าคะ?

เอ่อ..ขออภัยนะคะ ประโยคนี้ที่ตอบคุณ Mr.K กะจะตอบคุณ เจ น่ะค่ะ(พลาดไป -.-)

V

V

V

เอ..ไม่แน่ใจนะคะ แต่เท่าที่รู้มาฝ่ายที่สั่งให้ชำระเรื่องนี้ เป็นฝั่งจิ้นไม่ใช่เหรอคะ ถ้าจะบอกว่าขาดมุมของง่อ ก็พอเป็นไปได้ค่ะ

  • ขอบคุณเหมยเทียนฟงที่มาช่วย comment ให้ครับ
  • ถูกใจมาก

สวัสดีค่ะ คุณbeeman 吴联乐

และทุกๆท่าน แฟนพันธ์แท้สามก๊ก

ขออาศัยพื้นที่คุณ บีแมนด้วยคนค่ะ

และทักทายคุณเหมยเทียนฟงและทุกๆคน

ปกติจะวิเคราะห์อ้วนเสี้ยวค่ะ และกวนอูค่ะ

ความซื่อสัตย์   การตอบแทนบุญคุณ  จริยธรรม  ความถูกต้อง  ความเป็นธรรมและความกล้าหาญ

วิเคราะห์อ้วนเสี้ยว(สามก๊ก)

ให้กำลังใจทุกท่านค่ะ

 

เรียน ครูจิ๋ว

  • ยินดีที่ได้รู้จักแฟนพันธุ์แท้สามก๊กครับ
  • แฟนๆ ท่านใดต้องการเข้าไปแลกเปลี่ยนก็เชิญได้ครับ

จริงๆแล้วก้อ ข่งเบ้งแหละค่ะ ที่เก่งที่สุด จริงๆแล้วขงเบ้งไม่ได้ กะอักเลือดตายนะ เป็นเพราะ ท่านขงเบ้ง สิ้นอายุไข ต่างหากค่ะ เค้าพยายามที่จะทำพิธี ต่อายุแล้ว จำได้ไหมค่ะ แต่ไม่สำเร็จ เพราะ อุ๊ยเอี๋ยนเข้ามา บอกเรื่อง สุมาอี๋ ยกทัพ มา แล้ว ถ้าจะเปรียบเทียบระหว่าง ข่งเบ้งกับ สุมาอี๋ ล่พก้อ ไม่ต้องคิดมากค่ะ ข่งเบ้ง เก่งกว่า อยู่แล้ว แต่ สุมาอี๋ ก้อไม่ได้ใช้ว่าจะไม่เก่ง มีสองตอน ที่บ่งบอก ได้ถึงความเหนือกว่า ของข่องเบ้ง คือ ตอนที่ หรอกล้อ สุมาอี๋ แล้ว แอบไปเกี่ยวข้าว สาลี แล้ว อีกตอน นหึ่งที่สุมาอี๋ เกือบโดน ไฟ ครอกตาย ตอนนั้น ที่ สุมาอี๋ รอดมมาได้ ไม่ใช้เพราะ ความเก่ง และความ ฉลาดนะค่ะ แต่เป็น เพราะ ยังไม่ถึงคาด ต่างหาก และเป็นเพราะ สวรรค์ ช่วยเค้าไว้ แม้ๆ ไม่งั้นล่ะก้อ สุมาอี๋ สิ้น ชื่อแน่ๆ

เรียน น้อง Oil

  • ก็เป็นความคิดเห็นหนึ่ง ที่ดีนะครับ

มีความคิดเห็นเดียวกับคุณออยค่ะ เพราะหากฝนไม่ตกลงมาก้อคงไม่มีสุมาอี้หรือไม่มีสุมาเอี๋ยนคนที่รวมก๊กได้ เป็นเพราะสุมาอี้ไม่ถึงคาด และฟ้าคงลิขิตให้ตระกูลสุมาเป็นผู้รวมก๊ก ดังนั้นขงเบ้งเก่งกว่าสุมาอี้ค่ะ

  • ขงเบ้งเก่ง แต่ไม่เฮง
  • เก่ง แต่ไม่สามารถฝืนชะตาฟ้าลิขิต

สมัยเด็กๆผมก็ไม่รู้หรอกครับว่าสุมาอี้เป็นใคร ถ้านึกถึงสามก๊กก็จะนึกถึงเจ้าก๊กทั้งสามคือโจโฉ เล่าปี่ ซุนกวน ในบรรดาทั้งสามคนนี้ โจโฉเป็นผู้ร้าย เล่าปี่เป็นคนดี ส่วนซุนกวนเป็นกลางๆ แล้วก็มีคนที่โดดเด่นอีกหล่ายคนซึ่งส่วนใหญ่อยู่ก๊กเล่าปี่ คือกวนอู เตียวหุย จูล่งและขงเบ้ง ซึ่งมีความโดดเด่นคนละด้าน คนที่เก่งที่สุดคือขงเบ้งผู้หยั่งรู้ฟ้าดิน ตอนเด็กๆผมก็เชียร์ก๊กเล่าปี่ล่ะครับ มีความรู้สึกว่าเป็นพวกเรา แต่ผมก็อ่านสามก๊กไม่จบ แต่ดูจากการปูพื้นฐานแล้ว น่าจะจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง คือขงเบ้งรวมสามก๊กได้ แต่พอโตขึ้นมาอ่านดูกลับพบว่าขงเบ้งรวมสามก๊กไม่ได้ ซึ่งคนที่เป็นก้างขวางคอทำให้อารามณ์ค้างคือสุมาอี้ ก็จะไม่ค่อยชอบสุมาอี้เท่าไหร่เพราะอยู่ฝ่ายเดียวกับโจโฉซึ่งเป็นผู้ร้าย แต่พออ่านไปอ่านมาผมก็ชักรู้สึกเปลี่ยนข้างครับ เพราะในโลกแห่งความเป็นจริงมันไม่มีพระเอก ไม่มีผู้ร้าย มันมองได้หลายมุมมอง และจากที่ไม่ชอบสุมาอี้ก็กลับเป็นหลงใหลคลั่งไคล้ เพราะผมคิดว่าสุมาอี้เป็นคำตอบสุดท้ายที่ถูกต้องแล้ว และสุมาอี้เป็นผู้ชนะที่แท้จริงในเรื่องสามก๊ก ถึงแม้ว่าผู้ชนะคนนี้จะไม่โดดเด่นเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ ถ้าไม่สังเกตดีๆก็ไม่อาจจะมองเห็น เพราะสุมาอี้เป็นคนซ่อนรูปและงำประกาย และสไตล์ของสุมาอี้ก็ต้องใช้ความอดทนสูงและอาศัยระยะเวลานาน มันน่าอึดอัดมากกว่าน่าเชียร์ แต่สุมาอี้ก็คือสุมาอี้ จะช้าจะเร็วสุมาอี้ก็ต้องได้ครองแผ่นดิน ส่วนขงเบ้งนั้นผมเดาว่าไสตล์ของขงเบ้งคือการเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง เป็นเผด็จการแบบฉลาด สุมาอี้นั้นเกิดก่อนขงเบ้ง 2 ปี และตายทีหลังขงเบ้งอีกนาน แสดงว่าสุมาอี้รักษาเนื้อรักษาตัวดีถึงได้อายุยืน

  • เป็นมุมมองที่น่าสนใจครับ..อิอิ

吴老师您好。

บทความเรื่องสามก๊กของอาจารย์ติดลมบนยาวข้ามปี คิดไม่ถึงเลยค่ะ

แต่ข้อเขียนอื่นเว้นห่างไปหน่อยนะคะ รออ่านอยู่ค่ะ

  • เป็นเพราะ "สามก๊ก" เป็นนิยายอมตะที่อยู่ในความทรงจำของหลายคนครับ
  • ....พอดีไม่ค่อยได้อยู่หน้าจอคอมฯ ครับ
  • เลยยังไม่ค่อยมีเรื่องราวใหม่ๆ
  • แล้วจะพยายามต่อไปครับ
  • ขอบคุณ คุณนุชครับ

สุมาอี้เคยกล่าวว่า "อันตัวข้านั้นไม่สามารถเทียบขงเบ้งได้"

เเล้วสุมาเต็กโชได้บอกว่าฮกหลงหรือฮองซูหากได้ใครไปคนหนึ่งก็จะทำการใหญ่ได้สำเร็จ" เเปลว่าความสารถมารถของสองคนนั้นเท่ากัน

มีคนเคยกล่าวไว้ว่าปราชณ์เเห่งยุคนั้นมีเเค่2คนคือ 1 ฮกหลง 2ฮองชู

ซึ่ง เมื่อขงเบ้งไปบอกเเก่ซีซี ซีซียังบอกกับเล่าปี่ว่า "ฮกหลงดังมังกรส่วนข้านั้นเป็นเพียง จิ้บหรี๊ด" เเละในเเค่วุยที่บังทองได้ใช่กลลวงโจโฉ ซีซีได้กล่าวกับบังทองว่า"แผนการของท่านเฉียบคบจนปราชณ์ในวุยก๊กคิดไม่ถึง"

เเค่นี้ก็รู้เเล้วว่าใครเก่งกว่า

เรียงลำดับความเก่ง

1. ขงเบ้ง

2. บังทอง

3. สุมาอี้

4.ซีซี

สุมาอี้กล่าวว่า"อันตัวข้าไม่อาจเทียบขงเบ้งได้" คำพูดนี้แปลว่าอะไร?แปลว่าสุมาอี้สู้ขงเบ้งไม่ได้ใช่หรือไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น การที่สุมาอี้กล่าวเช่นนี้เป็นวัฒนธรรมของคนตะวันออกที่อ่อนน้อมถ่อมตน สุมาอี้เพียงแต่ถ่อมตนเท่านั้นไม่ได้แปลว่าสู้ขงเบ้งไม่ได้ ไอ้เรื่องที่ถามว่าสุมาอี้กับขงเบ้งใครเก่งกว่ากัน ความจริงคำตอบมันก็มีอยู่แล้ว และมันก็มีมาตั้งแต่สมัยนั้นแล้ว สุมาอี้ชนะขงเบ้งในการรบกันครั้งที่ห้าโดยขงเบ้งตรอมใจตายเพราะทนความกดดันในการรบกับสุมาอีไม่ได้ ในขณะที่ขงเบ้งตรอมใจตายสุมาอี้ไม่ได้เป็นอะไรยังสบายดี มันก็เหมือนเส้นผมบังภูเขานั่นแหละครับ เส้นผมที่บังตาไม่ให้รู้ว่าใครแพ้ใครชนะก็คือลีลาสำนวนโวหารของคนแต่ง ที่ทำให้คนแพ้ดูเหมือนจะเกือบชนะ ความจริงสุมาอี้ชนะขงเบ้งมาเป็นพันๆปีแล้ว ซึ่งการที่สุมาอี้ชนะขงเบ้งได้ก็ไม่ได้แปลว่าสุมาอี้เก่งกว่า แต่ว่าจังหวะเวลาหรือไทม์มิ่งของสุมาอี้ดีกว่า ส่วนคนแต่งจะแต่งแก้แทนให้ขงเบ้งยังไงก็คงไม่มีความหมายอะไรเพราะมันไม่ใช่ความจริง ซึ่งคนสมัยใหม่รู้แล้วว่าใครคือของจริง และใครคือคนที่ถูกประโคมความเก่งกาจโดยที่ไม่ใช่ความจริง ในหนังสามก๊กโจโฉแตกทัพเรือบทบาทของจิวยี่ก็เด่นกว่าขงเบ้ง ซึ่งความจริงมันก็ควรจะเป็นเช่นนั้น หรือในหนังสือการ์ตูนหงสาจอมราชันย์สุมาอี้ก็เป็นตัวเอกบทบาทของขงเบ้งไม่เด่นเท่าไหร่ และอีกเรื่องคือมังกรอหังการหมาป่าคะนองศึกสุมาอี้ก็เป็นตัวเอกฝ่ายผู้ร้าย ตัวเอกฝ่ายดีคือบุตรมังกรซึ่งเป็นคนญี่ปุ่น(เพราะเขียนโดยคนญี่ปุ่น)ขงเบ้งก็ไม่เด่นเลย

ตามความเห็น 223 ครับ ดูๆแล้วสุมาอี้ก็ชนะอยู่ดี ไม่ว่าจะแพ้กี่ครั้งก็ตาม เหมือนตอนสมัยฮั่นโกโจ หลิวปัง โดนเซี่ยงหยี ไล่บี้จนจะตายแหล่มิตายแหล่อยู่แล้ว สุมาอี้ก็เหมือนกัน เลยทำให้มองว่า "โจโฉ เป็นเครื่องมือของ สุมาอี้" อีกต่างหากแสดงว่าสุมาอี้วางแผนเอาไว้ก่อนหน้านั้นเรียบร้อยแล้วว่ายังไงขงเบ้งก็เอาชนะไม่ได้อยู่ดี "ไม่รบ ไม่แพ้"

ผมเองก็ดูสามก๊กมาเหมือนกัน

ผมว่าแล้วนิลักษณะนิสัยคน

ผมว่าแล้วแต่คนจะมองแบบไหนมากกว่า

ไม่มีใครถูกผิดหรอก

คุณจะมองแบบเล่าปี่ หรือจะมองแบบ ซุยเป้ง หรือจะมองแบบซุนกวน หรือว่าจะมองแบบ โจโฉ

ทุกอย่างแล้ว แต่จังหวะ เวลา

มันก็ต้องคิดดูเอาเองดีกว่านะ

  • ขอบคุณฮกซู สำหรับลำดับความเก่ง
  • ขอบคุณไม่แสดงตน สำหรับข้อคิดเห็นผ่านหนังสือสำนวนญี่ปุ่น
  • ความเห็นของ 224 ลิขิตคนหรือจะสู้ชะตาฟ้า
  • ข้อคิดเห็นคุณ Jeng เรื่อง "Timing" นี่สำคัญมาก ในการดำเนินชีวิต และการดำเนินธุรกิจ

ผมรู้สึกสงสัยครับว่าสามก๊กฉบับจริงที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ที่เฉินโซว่เป็นผู้เรียบเรียงนั้นในราวค.ศ.สองร้อยกว่านั้นมีลักษณะเป็นจดหมายเหตุบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีเนื้อหากะทัดรัด แต่ในอีกพันกว่าปีต่อมาหลอกว้านจงได้เอามาแต่งเป็นนิยายแล้วแต่งเสริมเติมแต่งเข้าไปมากมาย ที่แต่งเติมเข้าไปในส่วนที่เกี่ยวกับสุมาอี้ก็อย่างเช่นขงเบ้งดีดพิณลวงทัพสุมาอี้,ขงเบ้งลวงสุมาอี้และบุตรทั้งสองเข้าหุบเขาแล้วจุดดินระเบิดเผาโชคดีที่ฝนตกลงมาสุมาอี้และบุตรจึงรอดมาได้,ขงเบ้งตายแล้วแต่ยังลวงทัพสุมาอี้ได้ ผมก็สงสัยนะครับว่าสามก๊กฉบับจริงมันไม่มีเรื่องเหล่านี้ แต่นิยายของหลอกว้านจงกลับมี รู้สึกแปลกเหมือนกัน

ขงเบ้งฉลาดที่สุด แต่สุมาอี้ฉลาดกว่า

สุมาเต็กโชฉลาดมากที่สุด

^^

สวัสดีค่ะอาจารย์ beeman

ขอแจมความเห็นสักหน่อยนะคะ ว่ากันตามฉบับวรรณกรรม

ทั้ง 3 คนเป็นผู้มีความสามารถค่ะ

อาจารย์สุมาเต็กโช : เป็นผู้ที่วิเคราะห์สถานะการณ์และคนได้อย่างปรุโปร่ง จากการที่ท่านสุมาเต็กโช วิเคราะห์เรื่องของชีช๊ และความสามารถของขงเบ้ง อีกทั้งการในอนาคตที่ขงเบ้งจะไปร่วมด้วยเล่าปี่ เพียงแต่ท่านถือสันโดษทางวิถีแห่งเต๋า จึงไม่ขอไปยุ่งเกี่ยวกับหนทางที่ไม่เที่ยงแท้ และการฝืนลิขิตของการล่มสลาย

ขงเบ้ง : เป็นปราชญ์ผู้ใฝ่เรียนรู้ ศึกษา มีคุณสมบัติในการรับราชการแผ่นดิน และมีความจงรักษ์ภักดี เขามีความคิดพัฒนาเรื่องการปฎิรูปการปกครอง ในยุคที่การปกครองฮั่นได้ล่มสลาย ขงเบ้งเองก็รู้อยู่ว่าราชวงศ์ฮั่นอ่อนแอ และจะมีการเริ่มราชวงศ์ใหม่ จึงเกิดมีการแย่งชิงกันขึ้น เขาเป็นผู้ที่มีวาทศิลป์ รู้ศาสตร์แห่งการเป็นแม่ทัพ และการจัดการฝึกฝนทางทหาร วินัยเคร่งครัด ข้อสำคัญ มีสติปัญญา และเล่ห์เหลี่ยมที่จะรับมือ กับเสือ สิงห์ กระทิง ในวงราชการ ในยุคแห่งการแย่งชิงนี้ ขนาดชุยเป๋ง ยังรู้ แล้วขงเบ้งจะไม่รู้หรือว่าหนทางอนาคตเป็นอย่างไร

แต่ขงเบ้งก็แพ้ความอ่อนน้อมถ่อมตนของเล่าปี่ ที่ยอมอดทนไปหา ถึง 3 ครั้ง กินระยะเวลาไม่ใช่น้อยๆ จากที่ได้เห็นในซีรีย์ว่า ผ่านไปถึง 3 ถดู ตั้งสารทฤดู -เหมัตฤดู ไปจนถึงได้พบกับขงเบ้ง ใน ช่วงแห่งวสันตฤดู เขาก็พร้อมที่จะติดตามรับใช้เล่าปี่ เพราะเลือกนายคนนี้แล้ว ก็รับใช้ทั้งชีวิต

ขงเบ้งได้วางแผนยุทธศาสตร์สามก๊ก เพื่อคานอำนาจ และต้องกอบกู้ในช่วงที่กำลังผลัดแผ่นดินของทางวุยก๊ก ในช่วงของโจผี แต่เมื่อเล่าปี่ได้ตัดสินใจยกทัพไปล้างแค้น ขงเบ้งได้ห้ามไว้หลายครั้งแต่ไม่เป็นผล จึงต้องปล่อยตามชะตา ขงเบ้งถึงกับร้องไห้พูดกับม้าเลี้ยงว่า ราชวงศ์ฮั่นจบสิ้นแล้ว ขงเบ้งจึงต้องเหนื่อยมากอย่างที่อาจารย์สุมาเต็กโชกล่าวไว้

แต่ขงเบ้งเป็นคนที่เข้มแข็งมาก รับปากว่าจะช่วยอุ้มชูเล่าเสี้ยน เขาก็ทำจนสุดกำลัง ตามแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไป แล้วยังบั่นทอนความเข้มแข็งของวุยก๊ก แต่ขงเบ้งก็ต้องมาเจอกับสุมาอี้ คู่ต่อสู้ที่ทำให้ขงเบ้งหนักใจ (ทำไมสุมาอี้หนังเหนียวจังฟร่ะ ขนาดเผาก็ไม่ยังตาย ^^)สุดท้ายถึงใจจะยังสู้ แต่ร่างกายไม่ไหว ก็ขอไปก่อน เขาก็ยังวางเกียงอุยให้ช่วยปกป้องรักษาต่อไป

สุมาอี้ : เป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ ทั้งบุ๋นและบู๊ เป็นคนที่สามารถรอคอยโอกาสได้

ถึงจะขับเคี่ยวกับขงเบ้ง แต่เขาก็ถือว่ามีความเป็นใจนักเลงคนนึง ยอมรับ นับถือในความสามารถของขงเบ้ง เขาจึงไม่กล้าที่จะประมาทคู่ต่อสู้เลย

หลังจากที่ได้เห็นรัฐประหารของสุมาอี้ เราก็จะรู้สึกคิดถึงขงเบ้งขึ้นมาทันทีเลย

และถึงตระกูลสุมาจะได้รวบรวมแผ่นดินไว้ ตั้งเป็นราชวงศ์จิ้น ในสามก๊ก

แต่จากนั้นอีกไม่นานราชวงศ์จิ้นก็สิ้นสุด ด้วยเส้นทางแห่งวงกลม เช่นเดียวกัน

  • แม่นางเตียววิเคราะห์ได้เยี่ยมทีเดียวครับ

เรามีข้อสังเกตอยู่สักหน่อยนะคะ อาจารย์ beeman เวลาที่ดูซีรีย์ คือเราจะเห็นภาพเปรียบเทียบเมื่อเรา ตอนที่เราดูย้อนกลับไป ซึ่งขอชมผู้ที่แต่งทรงผมและMakeup

ตอนขงเบ้งอยูที่โงลังกั๋ง ผมของเขาจะดำเงามาก บ่งบอกถึงความมีสุขภาพที่ดี

แต่พอมาถึงระยะหลัง หน้าตาเริ่มหมอง และซูบเซียว ผมขาวขึ้นมากมาย ทั้งๆที่อายุเพียง 50กว่าปี แสดงถึงสุขภาพที่เริ่มทรุดลงของเขา และจากการที่ขงเบ้ง พูดขึ้น เมื่อตอนออกศึกเบ้งเฮ้ก ตอนรบกันถึง 7 ครั้งในตอนที่เผาทัพทหารเกราะหวาย ว่า เขามีคุณแก่แผ่นดิน แต่อายุเขาจะสั้น (เพราะการทำสงครามนี่เอง)ดึงพลังชีวิตของเขาไปด้วย

ดูแล้ว น่าเศร้าจริงๆค่ะ

สวัสดีค่ะ อาจารย์ beeman

มิกล้า มิกล้า แค่พูดจากความรู้สึกที่ได้ดูสามก๊ก ฉบับนี้ค่ะ

ต้องขอโทษที่พิมพ์ภาษาไทยไปหลายคำนะคะ

สวัสดีครับ แม่นางเตียว

  • ตอนที่ขงเบ้งเผาทหาร "ลุดตัดกุด" หรือทหารเกาะหวาย ตายไป ๓,๐๐๐ คน
  • ขงเบ้งได้เปรยกับคนรอบข้างว่า "ชีวิตของเราเห็นจะอยู่ได้ไม่ยืนยาวเสียแล้ว"
  • ที่เป็นเช่นนี้ เพราะขงเบ้งทราบดีว่า การทำสงครามที่ได้ผลาญชีวิตคนไปมากมาก โดยคำสั่งของตน จะทำให้ชีวิตของตนสั้นลง
  • ขงเบ้งทำสงครามผลาญชีวิตคนในช่วงสามก๊ก คงไม่ต่ำกว่า ๕ แสนคน...นี่เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้ขงเบ้งอายุสั้น
  • ศีล ข้อ ปาณาฯ คือ ห้ามฆ่าสัตว์ เพราะการฆ่าสัตว์นั้นบั่นทอนชีวิตให้อายุสั้น
  • คนยุค ๓ ก๊ก โจโฉ เล่าปี่ และ ซุนกวน ตายตอนอายุ ๖๐ กว่าทั้งนั้น ความจริงขงเบ้งก็ควรจะตายตอนอายุ ๖๐ กว่าๆ แต่เพราะเป็นแม่ทัพสั่งทหารไปฆ่าทหารฝ่ายตรงข้ามมาก เลยทอนอายุไป ๑๐ กว่าปี

ขอวิเคราะห์ในเรื่องสามก๊กที่หลอกว้านจงแต่งนะครับว่ามีลักษณะเช่นไรและสามารถนำไปใช้ในทางปฏิบัติได้หรือไม่ ในกระบวนการทางวิทยาศาตร์จะมีการตั้งสมมุติฐาน การทดลอง เมื่อสำเร็จก็จะตั้งเป็นทฤษฎี กรณีของหลอกว้านจงเขาเอาบันทึกหมายเหตุสามก๊กที่เฉินโซว่บันทึกในราวคศ.สองร้อยกว่า แต่ในยุคสมัยของหลอฯอยู่ในยุคคศ.พันกว่ามันห่างกันเป็นพันปี นิยายเรื่องสามก๊กของหลอฯจึงมีกลิ่นอายในยุคสมัยของเขา เหตุที่เขียนขึ้นเพราะหลอเป็นขุนนางฝ่ายบุ๋นของขุนศึกคนหนึ่ง หลอฯเขียนเป็นนิยายให้ทหารในกองทัพของขุนศึกผู้นี้อ่านเพื่อศึกษาเล่ห์เหลี่ยมในการทำสงคราม แต่ลักษณะมันคงอยู่แค่ในระดับของการตั้งสมมติฐานเท่านั้น การนำไปทดลองปฏิบัติจริงเป็นเรื่องซึ่งต้องพิสูจน์เพราะกองทัพของขุนศึกผู้เป็นนายของหลอฯต้องพบกับความพ่ายแพ้ต่อกองทัพของจูหยวนจางทั้งที่กำลังก็พอฟัดพอเหวี่ยงกัน และจูหยวนจางได้ตั้งราชวงศ์หมิงในที่สุด คิดว่ากลศึกในเรื่องสามก๊กอยู่ในระดับของการตั้งสมมติฐานเท่านั้น เทียบไม่ได้กับตำราพิชัยสงครามของซุนวูซึ่งสามารถตั้งเป็นทฤษฎีได้เพราะมีความเป็นวิทยาศาสตร์ แต่ก็ยอมรับว่านิยายเรื่องสามก๊กอ่านแล้วสนุกดี เป็นวรรณกรรมชิ้นเอกเลยที่เดียว

ปล.ความคิดเห็นที่229ที่บอกว่าราชวงศ์จิ้นสิ้นสุดไม่นานนั้น ความจริงก็ไม่น้อยนะครับตั้งร้อยกว่าปี จุดเปลี่ยนน่าจะอยู่ที่ลูกของสุมาเอี๋ยนเป็นคนปัญญาอ่อน

สวัสดีค่ะ อาจารย์ beeman

ก่อนอื่นต้องขอโทษ ที่พิมพ์ภาษาไทยผิดไปหลายคำนะคะ

บทเสริมนี่ เราว่าจะไปคุยใน บท"สัจธรรมจากวรรณกรรมเรื่องสามก๊ก" ที่อาจารย์เขียนนะคะ

ขอบคุณอาจารย์ สำหรับข้อความเสริม ซึ่งอธิบายให้เห็นเป็นภาพ ประกอบกับการแสดงในซีรีย์นี้ได้เป็นอย่างดี เลยทีเดียว เพราะในการแสดง สื่อออกมาทางสีหน้า แววตา และท่าทาง ซึ่งต้องใช้พลังในการสื่ออย่างมาก เพื่ออธิบายสิ่งเหล่านี้ ผ่านการแสดง

อันที่จริง เราว่า ขงเบ้ง ถ้าอยู่ที่โงวลังกั๋ง น่าจะมีชีวิตที่ยืนยาวทีเดียวค่ะ

แต่เมื่อ ขงเบ้งเอง เลือกเส้นทางนี้ เขาก็ต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ชนิดที่ว่า ร่วมทุกข์กับเล่าปี่ เล่าเสี้ยน จนถึงที่สุด เห็นชีวิตของขงเบ้ง และยุคแห่งความแก่งแย่ง วุ่นวาย ในวรรณกรรมแล้ว ก็คิดถึง คำพูดของ จื่อก้ง หนึ่งในศิษย์เอกของ ท่านขงจื่อเลยค่ะ

เดียวขอยกเรื่องนี้ ไปคุย ที่บทนั้น ดูจะเข้ากับ บทที่อาจารย์ได้กล่าว

สวัสดี คุณเจ

  • มีมุมมองที่น่าสนใจของหลอกว้านจง
  • สรุปว่าสามก๊กก็คือ "นิยาย" นั่งเอง ขงเบ้งจึงเก่งเกินมนุษย์ แต่มีข้อสงสัยที่เขียนได้ไม่เนียนเท่าไร คือตอนที่กวนอูจะตาย ขงเบ้งน่าจะมีการเตรียมการได้ดีกว่านี้ แต่ก็ทำไม่ได้ดี แสดงว่าหลอกว้านจงหนีประวัติศาสตร์ไม่ออกนั่นเอง

สวัสดีครับแม่นางเตียว

  • ได้ไปตอบแล้วใน "สัจธรรมจากวรรณกรรมเรื่องสามก๊ก"

ชอบบบบบ!

ผมชอบสามก๊กมากคร้าบ

และผมก้อสะสมสามก๊กทุกเล่มเลย

ผมว่าน่ะ

สุมาอี้กับขงเบ้งก้อเก่งทั้งคู่แหละ

เพราะขงเบ้งถูกขอร้องให้ไปอยุ่กับเล่าปี่ตั้ง 3 ครั้ง

แต่สุมาอี้ต้องโดนโจโฉขู่ตั้ง 3 ครั้ง

อิอิ! สุดท้ายก้อเก่งพอกันนั้นแหละคร๊าบบบ

บายคร๊าบ

สวัสดีค่ะ อ.บีแมน

มาอ่านสามก๊ก ทุก คห.

วิจารณ์ได้สุดยอดทุก คห.

แล้วค่อยมาอ่านอีกนะคะ

ขอบคุณค่ะ

ความเห็นของคุณธรรมภณ ลาดนอก

  • คือ ขงเบ้งกับสุมาอี้เก่งพอกัน

ครูจิ๋วเห็นว่า

  • ทุกคห.(ตัวย่อของคุณชายขอบ) เยี่ยมยอด
  • พ่อครูบาสุทธินันท์เคยบอกว่า บันทึกของบีแมนเรื่องสามก๊กไม่มีวันตาย เพราะมีคห.เข้ามาเรื่อยๆ..อิอิ

ขงเบ้งเก่งที่สุดในโลกของจินตนาการ(ของหลอกว้านจง)ส่วนสุมาอี้เก่งที่สุดในโลกของความเป็นจริงทางประวัติศาสตร์

การที่สุมาอี้รวบรวมแผนดินได้ เพราะเป็นยุคของคนรุ่นหลังแล้วหรือเปล่าครับ?

ขุนพลที่มีชื่อลือเลื่องว่าเก่งกาจปานเทพ ไม่ว่าจะเป็น เตียวหุย กวนอู ตองฮง จูล่ง ม้าเฉียว แม้กระทั่งทางของซุนกวนหรือของโจโฉเองก็ตาม ได้แก่ชราหือไม่ก็ล้มหายตายจากไปมากแล้ว ทำให้การกระทำการใดๆ ของสุมาอี้ง่ายยิ่งขึ้นเข้าไปอีก

หรือท่านใดพอจะทราบว่า ขุนพลยุคหลังที่เก่งเทียบดังที่กล่าวมาแล้วนั้น มีท่านใดบ้าง?

ส่วนเรื่องผู้ใดเก่งกว่าใครนั้นอาจสูสี สุมาอี้ได้เปรียบตรงที่ มีเรื่องราวหรือผลงานของขงเบ้งให้ศึกษามากมายหลายสิบปี ดังว่ารู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ส่วนขงเบ้งคงเสียเปรียบตรงนี้

  • เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดที่ไม่มีถูกไม่มีผิดครับ
  • ยินดีรับฟังข้อคิดเห็นทุกท่านครับ

ขุนพลยุคหลังที่เก่งเทียบ 5 ทหารเสือนั้น ไม่แน่ใจว่ามีรึเปล่า แต่ที่

ถือว่ามีความสารถในยุคของไจเสี่ยงขงเบ้งแล้ว น่าจะเป็น กวนหิน เตียวเปา เกียงอุย น่ะคับ

สุมาอี้ผมคิดว่าเรื่องความเฉียบคมในด้านกลยุทธ์นั้นเทียบขงเบ้งไม่ได้แน่นอน แต่สุมาอี้อยู่ในช่วงเวลาที่

กองทัพจกได้สูญเสียแม่ทัพคนสำคัญไปหลายคนแล้ว แต่แม่ทัพฝ่ายวุยยังมีมากมายและด้วยการอาศัยความใจเย็น

และระมัดระวังตัว จึงกล่าวได้ว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่ขงเบ้งกลัวมากที่สุดในวุยก๊กเลยก็ว่าได้

  • ขอบคุณสำหรับข้อคิดเห็นครับ

อ.บีแมนคะ กรุณา ลบ (คห. 247) ให้ด้วยค่ะ

โพสเข้าไปแล้ว รวน หมดเลยค่ะ

ขอบคุณมากๆค่ะ

หลังจากสิ้น 5 ทหารเสือแล้วยังมี ขุนศึกที่เก่ง พอเทียบ 5 ทหารเสือได้ คือ อ๋ยเอี๋ยน แต่เสียดาย ขงเบ้งเสียชีวิตก่อนรวมก๊กได้ ผมคิดว่า ถ้าขงเบ้งอยู่ต่ออีกสัก 2 ปี น่าจะรวมก๊กได้น่ะ แตเว่าด้วยเงื่อนไขของโชคชะตาที่ฟ้าดินกำหนด ทำให้ขงเบ้ง ต้องอายุสั้น ส่วน สุมาอี้นั้น ถึงแม้สติปัญญาจะเทียบขงเบ้งไม่ได้เลยก็ตาม แต่ในเรื่อง ดวง และโชค ชะตาแล้ว เหนือกว่าขงเบ้ง ทำให้ เมื่อสิ้นขงเบ้งแล้ว ก๊กวุย ซึงใหญ่ และ แข็งแกร่งและปัจจัยหลายๆอย่างจึงสามารถ รวบรวมแผ่นดินได้

ผมว่า สุมาอี้เก่งสุดครับ

ผมคิดว่า

ขงเบ้งเป็นคนหวงตำราเนื่องจาก มีความสำนึกในบาป บุญ หากให้ตำราใครไปจะมีการฆ่าแกงต่อไปนับไม่ถ้วน แต่อีกนัยหนึ่ง ขงเบ้งเป็นคนมีวิชาชำนาญสงคราม ด้วยตัวเป็นคนไม่ยอมแพ้และต้องการสนองคุณเล่าปี่ จึงอยากจะพยายามรวมสามก๊กด้วยมือของตนเองแล้วเชิดชูราชวงศ์ฮั่น เมื่อไม่มีผู้สืบทอดตำรามีแต่เกียงอุยผู้เป็นลูกศิษได้ไปแต่ งูๆปลาๆ ซ้ำร้ายยังถูกขับออกจากเมือง เปิดโอกาสให้ทัพสุมาอี้ล่วงเข้ามาได้

ผมลองคิดว่าขงเบ้งกับสุมาอี้ใครจะเหนือชั้นกว่ากัน

ถ้าด้านสมอง วิชา กลอุบาย ความชำนาญ ผมคิดว่าขงเบ้ง

ถ้าด้านกำลังทัพ ทหารเอก ภูมิประเทศ ความมั่งคังในทรัพย์ ข้าวปลาอาหารยังบริบูรณ์ ต้องสุมาอี้

ว่าถึงการที่ขงเบ้งเสียทีหลายครั้งหลายหนให้สุมาอี้

พระเจ้าเล่าเสี้ยนคลุกอยู่แต่กับขุนนางโดนขุนนางหลอกใช้นานาซ้ำยังไม่มีสมอง

ขงเบ้งยกไปทหารย่อมอิดโรยเป็นธรรมดา

ข้าวปลาก็อยู่ไกลส่งเสียงทีก็แสนลำบาก

ภูมิประเทศสมัยราชวงศ์ฮั่นเลือกและทำไว้มั่นคงหมดแล้ว

สรุปแล้วถ้าเป็นราคาต่อ ผมว่า 10:3 แทงขงเบ้งตีวุยก๊กแตก แทง 3 ได้10 แทงวุยก๊กชนะ แทง 10 ได้ 3

หนูก็ชอบสามก๊กนะคะ แต่อ่านไม่จบสักที หลับคาหนังสือทุกที

เลยต้องอาศัยดูเป็นแบบหนังค่ะ[ดูแบบขาดๆหายๆเพราะหลับก่อน]

หนูคิดว่าการแสดงความเก่งของแต่ละคนนั้น วัดยากค่ะว่าใครเก่งกว่าใคร

ขึ้นอยู่กับโอกาส จังหวะในการใช้กลยุทธ์ สิ่งแวดล้อมทางกายภาพและคนสนับสนุนด้วยค่ะ

ถามว่าเก่งไหม หนูว่าเก่งหมดทุกคนแหละค่ะ

เพราะหากให้หนูไปคิดในเรื่องวางแผนแบบมีกลยุทธ์เองเช่น ชิซี ข้งเบ้ง บังทอง หรือสุมาอี้

ตัวหนูเองก็ทำไม่ได้ค่ะ เพียงได้แต่ศึกษาแนวคิด กลวิธี ข้อคิดที่ได้จากกลอุบายและตัวละคร แล้วเอามาย้อนดูตัวเอง

ถึงใครจะบอกว่า "อ่านสามก๊ก ครบ 3 จบ คบไม่ได้" เพราะว่าคนพวกนี้เล่เหลี่ยมมาก

ในความคิดหนู คนที่อ่านสามก๊ก ยังไงก็ยังน่าคบอยู่ดีค่ะ

เรามีสิทธิ์ที่จะเลือก หรือไม่เลือกในการเชื่อใครนี่คะ คบไว้ศึกษาแนวคิด วิธีคิด ก็สนุกดีค่ะ

คุยกับคนชอบสามก๊กแล้วสนุกดีค่ะ

- ด้วยจิตคารวะ -

จากเรปที่ 243 ที่ว่า สุมาอี้ศึกษาขงเบ้งจึงได้เปรียบ อันนี้ผมว่าก็ใช่นะคับ แต่เท่าที่ศึกษา สุมาอี้ อายุเยอะกว่าขงเบ้งเสียอีก

เพียงแต่แฝงกายไม่มีผลงานอยู่ในทัพโจโฉเนื่องจากกลัวจะมีภัยแก่ตัว โจโฉนั่นก็ไม่เคยไว้ใจสุมาอี้เลย แต่สุมาอี้นั้นสนิทชิดเชื้อกับ

โจผีเพราะรุ่นราวคราวเดียวกัน โจโฉก็คิดว่า สุมาอี้คงไม่มีอำนาจมากมายเนื่องจาก สกุลโจยึดอำนาจไว้หมดแล้ว แต่ผิดคาด สุมาอี้

เป็นพวกยึดถือในหลักของขงจื้อ ไม่เสพสุรานารี โรคภัยไม่มีแก่เฒ่าก็ยังแข่งแรงต่างกับสกุลโจที่ใช้ชีวิตอย่างเสพสุขจนอายุสั้น

ทำให้สุมาอี้เป็นขุนนาง 3 รุ่นตั้งแต่ โจโฉ โจผี และ โจยอย นี่เป็นการแฝงตัวในสกุลโจ ต่างจากขงเบ้งที่ไม่ได้แฝงตัวแต่อย่างใดจึงมีผลงานมากมาย หากเทียบความสามารถด้านการบรรชาการรบแล้ว ผมว่าขงเบ้งเหนือกว่าอยู่ขั้นนึง แต่ด้านอื่นๆแล้ว สุมาอี้เหนือการทุกประการ ไม่ว่าการใช้ชีวิต การดูแลตัวเอง แม้แต่การสร้างทายาท นี่เป็นจุดที่บ่งบอกความสามารถที่แท้จริงของคน คือ "เหนือกว่าการเป็นยอดคน คือผู้ท่สร้างยอดคน" สุมาอี้ได้สร้างทายาทที่เก่งกาจไม่แพ้ตนอีกทั้งยัง วางรากฐานให้สกุลสุมาครองแผ่นดินไว้ได้อย่างงดงาม จะสังเกตุได้ว่า สุมาอี้ออกรบกี่ครั้งๆมักจะให้ลูกๆตามออกรบด้วยเพื่อสั่งสอนและฝึกลูกๆให้เป็นยอดคน ทำให้ "พยัคมีลูกเป็นพยัค" ต่างจากขงเบ้งโดยสิ้นเชิง ขงเบ้งคิดว่าตนจะรวมแผ่นดินให้เล่าปี่ได้ โดยไม่เคยสร้างทายาทไว้เลย ลูกของเล่าปี่ซึ่งเป็นลูกบุญธรรมก็ไม่เอาไหน ลูกขงเบ้งเองก็ไม่ได้มีความเก่งกาจอะไร เพราะขงเบ้งไม่เคยฝึกฝนพวกเขาเลย นี่เป็นสิ่งที่ผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง ซึ่งขงเบ้งน่าจะรู้ตัวในภายหลัง จึงทาบทามเกียงอุย มาช่วยเพื่อเป็นทายาทในการศึกสืบไป แต่ก็ไม่เป็นอย่างที่หวัง

แต่ยังมีบางคนกล่าวว่าถ้าไม่ขงเบ้งก็ไม่มี 3 ก๊ก ฉะนั้นขงเบ้งเก่งสุด อันนี้ผมไม่เถียงแต่จะบอกว่า ถ้าไม่ขงเบ้ง โจโฉครองแผ่นดินได้ง่ายมากครับ เพราะถ้าไม่มีขงเบ้งแล้ว ศึกผาแดง ซุนกวนแพ้แน่นอน ทัพเล่าปี่ก็ไม่เหลือ จีนจะเป็นแผ่นดินเร็วขึ้นไปหลายสิบปีครับ

โดยมีสกุลโจเป็นผู้รวมประเทศไม่ใช่สกุลสุมา ขอบคุณครับ

  • ขอบคุณทุกท่าน ทุกความคิดเห็นครับ
  • วิเคราะห์ได้เยี่ยม ทุกท่านครับ
ไม่ฉลาดแต่ใครเอาเปรียบไม่ได้

การที่ จกก๊ก ต้องล่มก้อเพราะการ สืบ ทอด เจตนารมณ์ ฟื้น ฟู ราชวงศ์ ฮั่น ของเกียงอุย... ซึ่งต้องการสานต่อ จาก ขงเบ้ง

จาก การ ที่ขงเบ้งได้ตายจากไป ระหว่างกรำ ศึกเป็นเวลานาน เนื่องจากจกก๊กมีกำลังที่น้อย กว่า วุยก๊กค่อนข้างมาก...

ขงเบ้งจึงรีบทำศึกอย่างรวดเร็ว เพื่อมิให้วุยก๊ก รวบรวมกำลัง ทั้งแผ่น ดินเพื่อมาโจม ตี จกก๊กสำเร็จ สื่ง นี้ เองทำให้ขงเบ้งได้ป่วย

และ เสีย ชีวิตอย่างรวดเร็ว ... ก่อน เสียชีวิตขงเบ้งได้ ตั้งเกียงอุยเป็น แม่ ทัพ หวังให้ปกป้องรักษา จกก๊กไว้โดยให้ตำราพิชัย

สงคราม ซึ่ง ส่วนใหญ่เป็นตำราทางด้าน(ป้องกันเมือง)เสียส่วนใหญ่ .... ซึ่งขงเบ้งเองก้อต้องการให้เป็นเช่น นั้น เพราะรู้ว่า..

สติปัญญาของเกียงอุยนั้น...ส่วนใหญ่จะถนัดทางด้านป้องกันเมือง.... และ ขงเบ้งก้อรู้ ว่า ถ้าเกียงอุยรักษาแฮบังก๋วนไว้อย่างมั่นคง

ยังไง วุยก๊ก ก้อตีเสฉวนไม่แตก... แต่ ทั้งนี้ เกียงอุย ต้องการ สร้างชื่อ และ ต้องการ ทำสิ่งที่ขงเบ้งทำไม่รำเร็จ ให้สำเร็จ

(ขงเบ้งทำไม่ได้แต่กูจะทำให้ดูว่างั้น) เกียงอุยจึงเสียทัพและกลับ เสฉวนไม่ได้เพราะโดนตีตัดหลัง....

(เป็นไปตามความต้องการของตะกูลสุมา) เพราะ ไม่มี เกียงอุยในเสฉวน ก้อ จะไม่มีใครป้อง กันเสฉวนได้...

พูด ถึง ตรง นี้ ก้อ พอ จะ รู้ กัน หมด แล้ว.... ว่า เรื่อง ต่อ ไป เป็น อย่าง ไร ครับ.. ^^

สุมาอี้เป็นคนรอบคอบ ใจเย็น เจ้าเล่ห์ ตอนที่สุมาอี้โดนขงเบ้งล้อมไว้บนเขาแล้วจุดไฟเผาสวรรค์ยังช่วยให้ฝนตกลงมา แถมยังเเซ่เดียวกับสุมาเต็กโชอีก สรุปนะถ้าขงเบ้งไม่กระอักเลือดตายเสียก่อนสุมาอี้คงรวบรวมแผ่นดินได้ยากครับ

  • ได้อ่านความคิดเห็นใหม่ๆ มุมมองใหม่ๆ ตลอด
  • ขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมครับ

สุมาอี้อายุยืนกว่าตระกูลสุมาจึงรวมสามก๊กได้ การรบก็สูสีกันไม่มีใครแพ้ใครชนะ แต่สุมาอี้วางรากฐานดีกว่าและวุยก๊กก็มีความพร้อมที่สุดอยู่แล้ว

  • เรื่องสุขภาพก็มีความสำคัญ คนเราบางคนคิดแต่เรื่องงาน โดยลืมเรื่องอื่นๆ ทั้งหมด อย่างนี้ไม่ดีเลย

ขงเบ้งนั้นเป็นผู้ที่ถือว่าชำนาญพิชัยสงครามและศาสตร์ต่างๆมากมาย แต่ไม่มีใครที่จะรับความรู้ไปจากขงเบ้งได้ทั้งหมดเพราะมันเยอะเกินความสามารถของมนุษย์ ถ้าจะวัดระดับสติปัญญากัน ก็จะมีอันดับต้นๆในสามก๊กก็จะต้องมี ขงเบ้ง สุมาเต็กโซ บังทอง ซีซี สุมาอี้ อย่างแน่นอนครับ ถ้าจะวัดระดับสติปัญญาไม่ต้องหาหรอกครับขงเบ้งฉลาดกว่าสุมาอี้อยู่แล้ว แต่เนื่องด้วยกษัตริย์ของจ๊กก๊ก(เล่าเสี้ยน)มีระดับสติปัญญาน้อยมาก และในขณะนั้น 5 ทหารเสือได้สิ้นชีพจนหมด เหลือเพียงรุ่นลูกๆเท่านั้น เลยทำให้จ๊กก๊กเสียเปรียบอย่างมากแต่ก็ไม่ต่างกันขุนพลยุคแรกๆของวุยก๊กก็สิ้นชีพเกือบหมดแล้วเหมือนกัน และในระดับกำลังทหารอีก ความแข็งแกร่ง แน่นอนอยู่แล้วว่าจ๊กก๊กเสียเปรียบแน่นอน แต่เราลองคิดดูสิว่าถ้า 5 ทหารเสือของจ๊กก๊กยังอยู่ และ มีกำลังทหารเท่ากันจะเป็นอย่างไร

ผมขอเพิ่มนิดนึงครับ การที่สุมาอี้มีชัยเหนือจ๊กก๊ก เพราะว่า ขงเบ้งได้สิ้นบุญไปก่อนนะครับ ถ้าไม่สิ้นบุญ ศึกครั้งนี้อาจพลิกเกมได้นะครับถ้าสุมาอี้สิ้นบุญก่อน และอีกอย่างตระกูลสุมาเป็นผู้รวบรวมประเทศครับ เพราะพระเจ้าโจยอยก็ไม่ต่างจากเล่าเสี้ยนเท่าไรหรอกครับ ตระกูลสุมารวบรวมแล้วตั้งตนเป็นกษัตริ์เช่นเดียวกับที่โจผีทำกับราชวงศ์ฮั่นครับ เป็นความพินาศจากคนใกล้ตัวเช่นเดียวกันครับ

โง่กว่าก็ต้องโดนแบบข้อความข้างบน ครับ สรุปถ้ามีลูกน้องก็ต้องให้เก่งกว่านะไม่งันจะเป็นแบบนี้ 555555555555

  • ขอขอบคุณข้อคิดเห็นจากมังกรนิทราครับ

ลองอ่าน เปิดหน้ากากขงเบ้งดูสิครับ แล้วท่านจะหมดศรัทธาไปเยอะเลย....

แต่แนะนำให้อ่านแบบเป็นกลางนะครับ อย่าไปบ้าจี้ตามคนเขียนครับ เพราะเค้าอคติมากไปในหลายๆจุดอยู่เหมือนกัน....

  • เป็นอย่างนี้ก็ดีอยู่แล้วครับ ถ้าไปอ่านอาจจะหมดศรัทธา..อิอิ

อยากได้หนังสือสามก๊ก ค่ะ เอาแบบฉบับสมบรูณ์เลยนะค่ะ คือตอนเเรกถึงตอนสุดท้ายเลยค่ะ

ไม่ทรายว่าหาซื้อได้จากไหนค่ะ

ผมคิดว่าสไตล์ของสุมาอี้ในการรบกับขงเบ้งคงเป็นแบบสไตล์ของมูริญโญ่ที่พาอินเตอร์ มิลานคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกนั่นแหละคือเน้นความสมดุลในเกมรับและรุก มีเกมรับที่มีวินัย มีเกมรุกที่คมกริบใช้โอกาสไม่เปลือง ไม่เน้นการครองบอล สุมาอี้รบกับขงเบ้งเหมือนฟุตบอลที่นำไปแล้ว2-0 ไม่จำเป็นต้องไปแลกหรือปะทะ ประการแรกสุมาอี้ไม่จำเป็นต้องรบให้ชนะเพราะไม่ได้เป็นฝ่ายที่ยกทัพไปตีบ้านเมืองของคนอื่นเพียงแต่ระมัดระวังไม่ให้ข้าศึกบุกถล่มบ้านเมืองของตัวเองได้เท่านั้น ประการที่สองสุมาอี้มีแต้มต่อที่สำคัญอยู่แล้วในเรื่องเสบียงอาหาร ซึ่งเป็นปัญหาที่ขงเบ้งแก้ไม่เคยตก คงใช้รูปแบบ 4-2-3-1 แผงรับ 4 ตัว กองกลางตัวรับ 2 ตัว ริมเส้น 2 ข้างและตัวปั้นเกมหรือหน้าต่ำ 1 ตัว และหน้าเป้าที่ใช้โอกาส2ครั้ง=1ประตู 1 ตัว

ผมว่าสุมาเต็กโช น่าจะเป็นคนที่มีอภิญญาสามารถมองเห็นอนาคตได้ ไม่ฉลาดเหมือนขงเบ้ง ส่วนขงเบ้งนั้นก็หยั่งรู้ในอนาคตเช่นกันเพียงแต่เชื่อมั่นในตัวเองว่า "เพราะแสวงหา มิใช่เพราะรอคอย เพราะเชี่ยวชาญ มิใช่เพราะโอกาส เพราะสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วย ดังนี้แล้วลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะคน" ทำให้ขงเบ้งตัดสินใจช่วยเล่าปี่

ความจริงแล้วการวางแผนนั้นต้องประกอบด้วยแผนระยะสั้นกับแผนระยะยาว แผนระยะยาวคือการกำหนดยุทธศาสตร์การเดิน ส่วนแผนระยะสั้นนั้นเน้นกลยุทธ์แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นพลิกแพลงตามสถานการณ์ กุนซือหลายคนใน 3 ก๊ก เก่งเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่คนที่โดดเด่นทั้งสองแผนคือขงเบ้ง สามารถวางแผนระยะยาวคือยุทธศาสตร์ 3 ก๊กเปลี่ยนเล่าปี่จากขุนศึกที่วิสัยทัศน์แคบให้มองเห็นและเดินตามจนได้เป็นใหญ่ ส่วนแผนระยะสั้นนั้นก็คือการวางแผนกลศึกต่างๆพลิกแพลงตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป หากแผนทั้ง 2 เกิดขึ้นในคนเดียวย่อมมีพลังมากกว่ามีกุนซือที่เก่งเฉพาะด้านใดด้านหนึ่งหลายๆคน เพราะสามารถวางแผนระยะสั้นให้สอดคล้องและไม่กระทบกับแผนระยะยาวได้ วางแผนกลยุทธ์ในสงครามแต่ละครั้งไม่กระทบความสัมพันธ์กับซุนกวน เพราะการเป็นศัตรูกับซุนกวนจะขัดขวางการเป็นใหญ่ของเล่าปี่

ไม่จริงคับสุมาอี้เก่งกว่าขงเบ้งเพราะ ดูยังตอนต่ออายุเทียนชัยของขงเบ้ง เปนต้นลองหาอ่านเอา

สุดท้ายความหมายของเรื่องสามก๊ก ทั้งสติปัญญา ความสามรถทั้งบุ๋นบู๊ ชื่อเสียงอำนาจ วาสนา ก็ไม่สู้ฟ้าลิขิตได้นะครับ

บางเรื่องคนลิขิตได้ บางเรื่องคนเราก็ลิขิตไม่ได้ สุดท้ายเนื้อหาทั้งหมดก็อยู่ในเพลงตอนเริ่มเรื่องนั่นแหละครับ

  • ขอบคุณ ทุกความเห็นจากทุกท่านครับ

ข้าพเจ้า ได้ใช้เวลาอ่าน ข้อความหลากหลายความคิด เห็นให้บล๊อกแล้ว

ส่วนตัวผม ยกให้ จูกัดเหลียง ขงเบ้ง เนี่ยละเก่งที่สุด ถ้าถามว่า หาก ขงเบ้ง ไม่ตาย จะรวมรวบแผ่นดินเป็นใหญ่ได้เฉกเช่นสุมาอี้ หรือไม่ ผมขอตอบว่าได้ ด้วยเหตุผม หลากหลายประการ ประการแรก ขงเบ้งเป็น คนที่คำนวน คาดเดาเหตุการณ์เบื้อง ทั้งก่อนและหลัง ได้อย่างสุขุมรอบ คอบ มีเพียงครั้งสุดท้ายที่ทำพิธีต่อ ชีวิต แล้วเกิดการผิดพลาด ผิดแปลกไปจากการคำนวนของ ขงเบ้ง นอกนั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้จะเกิดเหตุูการณ์นอก ควบคุม ขงเบ้ง ก้อจะเปลี่ยน ดีเป็นร้าย เสมอ . . . . ขงเบ้งเป็น ที่ปรึกษาแบบ ที่พยายามควบคุมทุกอย่างมิให้เกิดขึ้น เหนือ ความคาดเดา ยกตัวอย่าง ทุกครั้งที่ มีทูต จากเมืองอื่นมาขอเจราจา ขงเบ้ง จะเตรียมคำพูดไว้ให้เล่าปี่เสมอ ว่าท่านทำอย่าง นี้ อย่างนั้น เพราะหาก ไม่เตรียมคำพูดหรือเตือนให้เล่าปี่ อย่าออกนอกเรื่อง ก็จะเกิดอารมณ์ เฉกเช่นตอนี่เล่าปี่ไปทำสงครามจะเอาเมือง เฉสวน การที่ทำให้การตีเมืองเฉสวน นั้นยากยิ่ง คงเเป็นเพราะ บังทองเป็นที่ปรึกษาแบบ ไม่รอบคอบ ไม่เตือนเล่าปี่ให้ ควบคุม อารมณ์ ความรู้สึก ที่มี จึงเกิดเหตุการณ์ ดังเกล่าว ขึ้น หากขงเบ้งอยู่ด้วยกับเล่าปี่ นั้น ขงเบ้งคงจะพยายามมิให้เล่าปี่ นำอารมณ์มาแสดงจนต้องเกิดศึกกับข้างเมืองเฉสวน ดีร้าย ก้อจะใช้ให้เมืองเสฉวนนั่นละ ไป ตี ทัพของ ซุนกวน แทนโดนอาจจะวางแผนอันแยบคายไว้ เกือบทุกครั้ง

ขงเบ้ง ทำศึกทุกครั้งนั้น ฝ่ายเล่าปี่ นั้นจะเป็นผ่ายเสียกำลังทหาร น้อยเป็นอย่างยิ่ง บางครั้งบางครากับไม่เสีย ทหารเลย ซักคน ด้วย อุบาย นั่งบนภู ดู เสือกัดกัด หรือ อุบายที่หลอก จิวยี่ให้ไปตีเมือง ...? (ขอโทษด้วยครับจำไม่ได้) ที่ฝ่ายขงเบ้งให้จิวยี่ กวนอู และ เตียวหุย ปลอมตัวเป็นทหารโจโฉ รอบไปยึดหัวเมืองต่างๆ สามหัวเมือง โบราณว่า หากทำการรับโดนเสีย กำลังทหารน้อย นับว่า ดีแล้ว แต่ดีที่สุด คือ รบโดน มิต้องเสียกำลังทหาร ขงเบ้งเป็นคนที่ไม่ยอมเสียทหารโดยไม่จำเป็น ครับ

การทำงานแบบขงเบ้ง ต้องโดนใจอย่างที่ผมชอบมากคือ คิดแล้ว มุ่งไปตรง ไปเส้นทางเดียว คือ สังเกตุว่าทุกครั้งที่ ขงเบ้งแนะนำอะไรเล่าปี่ ก็จะบอกให้เล่าปี่ ทำตามแผน ไปเลยแผนเดียว ไม่มีมาให้เล่าปี่ตัดสินใจว่า ท่านเลือกทางนี้ไหม ทางนั้นไหม ต่างกับบังทอง สถานการณ์ คับขัน หน้าเมืองเฉสวน ยังจะมาให้เล่าปี่เลือกแผน ว่าท่านจะทำ เช่นไร โดนมีอยู่ สามทางให้เลือกก นั่นแล จะทำให้โอกาศการทำงาน มีผิดพลาดมากขึ้น และคิดการไปไม่ตลอด

กำลังนั้นอาจจะทำให้ ทหารและประชาชนทั้งหลายมาเป็น พวก ได้ ในเวลาอันสั้น . . .

แต่การซื้อใจนั้น ทำให้ ทหารและประชาชนนั้นรักใคร่ มาเป็น พวก ได้ในระยะยาว แม้จะพ่ายแพ้ ก็มีแต่คนสงสารและ สรรเสริญ

ด้วยเหตุผมที่กล่าวมาบางข้อ ข้าพเจ้าคิดว่า หากขงเบ้ง มิสิ้นบุญ นั้นแล ยังไงคิดว่าคนอย่างขงเบ้ง ก้อ ต้อง รวบรวมแผ่นดิน ได้ ตามมันสมอง ของขงเบ้ง " หากไร้ขงเบ้งแล้ว ไซร่ สามก๊ก คงเป็น นวนิยาย ที่มีแต่ การสู้ด้วยการรู้เท่าทันกันไปหมด คงจะน่าเบื่อพลึก "

ปล.จิวยี่ ท่านรู้รึ ยังว่าทำไม ขงเบ้ง จึงเกิดมา . . . . ขงเบ้งนั้นเกิดมา เพื่อทำให้ นิยาย สามก๊กเล่มนี้เป็นอมตะ

คนที่เก่งที่สุด ผมว่าคือสุมาอี้แหละครับ

สุมาอี้ เยือกเย็น สุขุม อดทนรอเวลาให้ได้จังหวะได้เปรียบก่อน ยอมกล้ำกลืนความอัปยศหลายต่อหลายครั้ง ตั้งแต่ยอมให้โจยอยปลดจากตำแหน่งเพราะถูกกลของม้าเจ๊ก พอไปรบขงเบ้ง ก็ play save ท่าเดียว เพราะรู้ว่าชัยภูมิเหนือกว่า ขนาดขงเบ้งส่งชุดชั้นในผู้หญิงไปให้ ยังยิ้มได้ ไม่ยอมออกรบ จนขงเบ้งกระอักเลือดตาย

พอถูกปลดจากแม่ทัพใหญ่ หลังขงเบ้งตาย ก็แกล้งทำเป็นป่วยพูดจากไม่รู้เรื่อง จนสามารถกลับมายึดอำนาจได้

นี่แหละครับ ที่ซุนวู กล่าวไว้ในตำราพิชัยสงครามว่า "ผู้ชนะ ต้องตั้งอยู่ในฐานะไม่แพ้ก่อน และไม่เสียโอกาสให้ผู้อื่นต้องแพ้... ฝ่ายชนะนั้น รู้ว่าชนะก่อนจึงออกรบ แต่ฝ่ายแพ้นั้น (คือพวก) ออกรบก่อนแล้วค่อยคิดว่าจะ(หาทางเอา)ชนะ"

ขงเบ้งเป็นคนเก่งก็จริง แต่เป็นพวกไม่ไว้ใจใครเลย ขงเบ้งตรากตรำทำงานในสนามรบ ขนาดที่ว่า ถ้าคนผิดวินัยที่จะต้องถูกเฆี่ยน 30 ทีขึ้นไป ยังต้องส่งให้ขงเบ้งตรวจก่อน ทำงานหนักจนตายตอนอายุแค่ 54 ปี นี่แสดงให้เห็นว่า ขงเบ้งไม่เห็นคนอื่นในสายตาเลย

พูดถึงความฉลาดหลักแหลม ต้องยกให้ขงเบ้งก็จริง แต่อัจฉริยะที่ไม่มีพรรคพวก และไม่ได้สร้างคนเก่งๆ ขึ้นมารองรับตัวเองเลย จนตัวจะตายแล้วถึงได้ยอมปล่อย "ตำรา" ของตัวเองให้กับเกียงอุย สุดท้าย ก๊กนี้เลยแตกเละเทะก่อนใครเพื่อน

คนอย่างขงเบ้งนี้ ในองค์กรธุรกิจนี่ก็เจอเยอะนะครับ ประเภททำอะไรต้องตัดสินใจคนเดียว ลูกน้องเป็นแค่คนคอยชงข้อมูล หรือคอยส่ง "ไขควง-ตะปู" ให้ คนพวกนี้ไม่ใช่ "นักบริหาร" เป็นแค่ "เสมียนใหญ่" เท่านั้น

ลองเทียบกับเล่าปี่ เล่าปี่นี่ไม่มีอะไรเลย (หมายถึงกลยุทธ์-ความหลักแหลม) แต่อาศัยมีบารมีสั่งสมมานาน แล้วก็วางตัวได้เก่ง ทำให้คนรัก แต่ที่เล่าปี่เหนือกว่าขงเบ้งอย่างเห็นได้ชัด ก็คือเรื่อง การดูคน และการรักษาน้ำใจลูกน้อง เล่าปี่ทำให้ลูกน้องมาตายแทนตัวได้หลายต่อหลายครั้ง ในที่สุดก็ยังสามารถตั้งตัวเป็นฮ่องเต้ได้ ในยุคที่เล่าปี่ได้เสฉวน เลยเป็นยุคเฟื่องฟูที่สุด เพราะมีทั้งทหารเอก, กองทัพขนาดใหญ่, ขุนนางพลเรือน, ที่ปรึกษา, ฯลฯ และก็ไม่ได้วางบทบาทเด่นให้ขงเบ้งคนเดียวด้วย น่าเสียดายแต่ในที่สุด ก็เลี่ยงไม่พ้น self extreme หลังจากได้เป็นฮ่องเต้ ก็เอาแต่ใจตัวเอง ยกทัพไปตีก๊กซุนกวนโดยไม่มีที่ปรึกษา เลยแพ้ยับกลับมา

ผมว่ากรณีของขงเบ้งกับบังทองนั้น หลอกวนจง คงพยายามเปรียบเทียบให้เห็นว่า นักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ 2 คน ที่มีความรู้ทัดเทียมกัน ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องประสบความสำเร็จเหมือนกัน ถ้ามีองค์ประกอบอื่นๆ ต่างกัน เช่น

ขงเบ้งสุขุมรอบคอบ รู้จักเตรียมตัว ฉลาดในการเจรจา คุยกับซุนกวน โต้ตอบกับพวกปราชญ์ของง่อก๊ก จนซุนกวนยอมรับนับถือ

บังทองบุ่มบาม ไม่มียุทธศาสตร์เลย ไปคุยกับซุนกวน ก็ถูกไล่ออกมา แสดงว่าก่อนจะไปคุย ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย ไม่รู้ว่าอะไรควรพูดไม่ควรพูด ไม่ "อ่าน" ซุนกวนให้ขาด เหมือนขงเบ้ง

ตอนเปิดตัวขงเบ้ง เล่าปี่ไปหาถึง 3 ครั้ง แต่ละครั้ง ก็หลอกล่อไม่ให้พบ แต่ก็กลับเอาพ่อตาบ้าง น้องชายบ้าง มาพูดสรรเสริญตัวเอง จนเล่าปี่เคลิ้ม ไม่เชิญไม่ได้แล้ว (ตอนนั้นเล่าปี่หมดเค้าหน้าตักแล้ว ต้องโซเซไปหาที่พึ่ง)

บังทองเปิดตัวกับเล่าปี่ ตอนที่เล่าปี่ "พร้อม" ทุกอย่างแล้ว ก็กลับไม่ได้ทำให้เล่าปี่ประทับใจอะไร สุดท้ายก็ถูกส่งไปเป็นนายอำเภอ

ตอนเข้าเสฉวน บังทองเสนอให้เล่าปี่ "ฆ่า" เล่าเจี้ยงในงานเลี้ยง พอเล่าปี่ไม่ทำ ก็ยังไปสั่งอุยเอี๋ยน ไปรำกระบี่ จนเกือบได้ซัดกัน ดูแล้วเหมือนบังทองไม่รู้เลยนะครับ ว่าอีกฝ่าย เขาก็มีคนฉลาดทัดเทียม จากนั้น ก็ถูกเล่าปี่ "สอนมวย" เข้าอีก ว่า ที่เล่าปี่ตั้งตัวมาได้ เพราะเล่าปี่ "เย็น" ในขณะที่โจโฉ "ร้อน", โจโฉ "ดุร้าย" ในขณะที่เล่าปี่ "เมตตา", ฯลฯ แสดงว่าอ่านเกมการเมืองไม่ขาด

พอออกรบเข้าจริงๆ ก็ไปตั้งทัพในชัยภูมิอันตราย คืออยู่ใต้เขื่อน จะถูกเปิดเขื่อนท่วมได้ จนมีผู้รู้ฝ่ายเสฉวนมาบอกเล่าปี่ แสดงว่าบังทองไม่ได้ดูรายละเอียดของชัยภูมิ

พอตอนจะตาย ก็วิเคราะห์แผนที่ แล้วก็ยกทัพไปตี ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ใช้กลอุบายอะไรเลย แต่มุ่งจะใช้กำลังทหารเข้าตีหักโหม แถมยังไปเอาม้า "เต็กเล้า" ของเล่าปี่ ไปขี่ ทั้งๆ ที่ม้าตัวนี้ มีหลายคนก็เคยบอกแล้วว่าจะเป็นอันตรายต่อคนขี่ที่ไม่ใช่เจ้าของ แสดงว่าไม่รอบคอบ

ดูตอนขงเบ้งออกรบสิครับ เอาแผนที่มากาง ถ้าไม่มี (อย่างตอนไปรบเบ้งเฮก) ก็ต้องให้คนไปทำแผนที่มา แล้วนั่งวิเคราะห์แผนจนตกผลึก ถึงจะออกรบ

แค่นี้ก็เห็นแล้วนะครับ ว่าจริงๆ แล้ว หลอกวนจง พยายามเปรียบเทียบให้เห็นระหว่างปราชญ์ 2 คนนี้ เอาไว้เป็นบทเรียนคนรุ่นหลัง

272. ท่านบัณฑิต วิเคราะห์ได้เยี่ยมยุทธ ครับ

273-275. นายแมวนี่ก็เป็นนักอ่านและนักวิเคราะห์ชั้นยอดครับ

เห็นด้วยกับการวิเคราะห์ของนายแมวครับ วิเคราะห์ได้เยี่ยม

ขงเบ้งตายเพราะทำงานมากเกินไป

วิเคราะห์ได้แตกฉานจริงๆๆๆๆๆๆ

เรามองที่ผลลัพธ์สุดท้ายกันมากไปรึเปล่า แค่ที่ขงเบ้งรวม3ก๊กไม่ได้ก็ว่าขงเบ้งพูดผิด

ถ้าขงเบ้งไม่มานะบากบั่นเกือบชั่วชีวิต จะยังมีจ๊กก๊กได้เหรอ

ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน....จริง100%!!!!!!!

แต่ถ้าจะให้เปรียบเทียบว่าใครเป็น คนดีที่สุดนั้น.... เราว่าเป็นขงเบ้ง

-ขงเบ้ง...ยอมเสียสละลงจากเขา เพื่อทำให้แผ่นดินที่ปั่นป่วนวุ่นวายนี้สงบลงบ้างอย่างน้อยก็มีแค่สามก๊ก

ชาวบ้านตาดำๆได้อยู่อย่างสันติสุขมากขึ้น(ลองนึกสภาพว่าอยู่ที่ไหนก็ไม่มีความปลอดภัย ย้ายบ้านเป็นสิบๆครั้ง เอ้าอพยพกันอยู่นั่นแหละ ทั้งระเบิด ถูกขูดรีด โจรร้าย อดยาก)

-ขงเบ้ง...รู้จักแยกแยะชั่วดี มีความจงรักภักดีและซื่อสัตย์ต่อเล่าปี่มาก แม้เล่าปี่ตายก็ยังช่วยดูแลเล่าเสี้ยน(ที่ไม่ได้เรื่องได้ราว)ต่อไป( เราไม่นับถือสุมาอี้ที่อยู่กับโจโฉ มีชีวิตอย่างเสแสร้ง ทำงานให้คนที่ไม่ดี)

-ขงเบ้ง...มีความวิริยะอุตสาหะมาก สุมาอี้น่ายกย่อง ที่รู้จักรอคอยโอกาส ก็จริง....แต่เราคิดว่าขงเบ้งน่ายกย่องกว่ามากที่มีความเพียรพยายามเป็นสิบๆๆปีโดยไม่ได้เกียจคร้านลงเลย

เพราะธรรมดาโลกแล้วคนเราย่อมไหลลงสู่ที่ต่ำ(เกียจคร้าน ลืมตัว)

-ขงเบ้ง...มีความสมะถะใช้ชีวิตเรียบง่าย

-และที่ทำๆเป็นสิบปีนี้ทำเพื่อสร้างราชวงศ์จูกัดก็หาไม่....!!!

นึกแล้วจะรู้เลยว่าขงเบ้งเป็นที่มีความเสียสละมากเพียงใดที่ยอมสละชีวิตสันโดษ ที่ปลอดภัย สุขใจ สบายกายกว่ามาก

เข้ามาเอี่ยวติดบ่วงกรรม ทั้งที่เค้าก็ไม่ได้อยากเป็นฮ่องเต้ แต่มาก็เพื่อทำให้บ้านเมือง ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข มีกษัตริย์ที่ดี

และยังดำเนินชีวิตด้วยสติ เสมอต้นเสมอปลายตราบชั่วชีวิตได้

กลียุคสร้างยอดคน

ผมชอบบังทองนะ

คิดว่าถ้าเล่าปี่ได้บังทองมาก่อน บังทองน่าจะมีบทมากกว่านี้

ตรงที่มีคนบอกว่าบังทองไม่รู้เวลา มัวแต่ให้เล่าปี่เลือกว่าจะยึดเมืองเสฉวนโดยวิธีไหน

ผมคิดว่าบังทองน่าจะฉลาดมาก ที่มันใจว่าวิธีไหนก็สามารถยึดได้ และแต่ละวิธีก็มีอธิบายประกอบด้วยว่า วิธีนี้ จะเป็นแบบนี้

แถมได้มีการพูดคุยกับหัวหน้าด้วย ให้ได้เลือกตัดสินใจ

ต่างจากขงเบ้งบังคับให้มีวิธีเดียว จนเล่าปี่ตอนหลังคิดอะไรไม่เป็นเลย

แล้วที่บังทองตาย ผมว่าก็เป็นเพราะเล่าปี่นั่นหละเรื่องมาก

อ่อ จริงๆ ผมว่าไม่มีใครเก่งกว่ากันหรอกครับ มันอยู่ที่จังหวะ และโอกาสมากกว่า

บางคนอาจจะเก่งมาก แต่ดันพลาด แล้วตายเร็ว เลยไม่มีผลงาน ฮ่าๆๆ

จากเรื่องสามก๊ก การรบในเรื่องนี้ใช้พิชัยยุทธทั้งสิ้น สุมาอี้ไม่มีทางชนะหรอกถ้าไม่รู้ความเป็นไปของจ๊กก๊ก ขงเบ้งจะหลุดลุ่ยกว่านี้ถ้าเปิดเกมรุก ใส่สุมาอี้

รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ยังไม่ถือว่าสุดยอด ชนะโดยไม่รบคือยอดคน

278-285

  • ขอบคุณทุกท่านและทุกความเห็น
  • มีประโยชน์มากครับ

สงสัยคับ...ทำไมโจโฉให้สร้างสุสาน72แห่ง แต่ไม่ให้คนรุ่นหลังรุ้ว่าตัวเองอยุ่สุสารไหน...เพราะอะไรขอรับ....

เวรกรรมตามทันกันในชาตินี้

ขั้นตอน-จังหวะ-คม สุมาอี้ดีกว่า

ผมก็ว่าขงเบ้งเก่งจริง แต่ในเฉพาะยุคที่ไม่มีคนฉลาดใกล้เคียง จึงชนะมาตลอด

พอมายุคสุมาอี้นำทัพแล้ว ขงเบ้งนั้นเรียกว่าสะดุกตัวสั่นกันเลยที่เดียว เพราะมีคน

ที่เก่งใกล้เคียวตัวเอง ดังนั้นมายุคหลังๆจะว่าขงเบ้งเก่งคนเดียวนั้นไม่ได้ เพราะสถานการร์มักสร้างวีระบุรุษ สุมาอี๊ ผมถือ ว่าเป็นวีระชนคนกล้า คนหนึ่ง

แถมสั่งสอนลูกหลานดีด้วย ดีจนสามรถกลืนกินและชนะได้ทุกก๊ก ต่างจากขงเบ้งนั้น

ไม่ได้สอนเด็กรุ่นหลังๆเลย มัวเอาเวลาไปทำการทหารอย่างเดียว ก๊กตัวเองนั้นคนไม่

มีคุณภาพพึ่งพา อะไรไม่ได้เลย ถึงเอาเกียงอุยมาสอนอย่างไรก็ไม่ได้ดีอะไรผมเห็น

ยงไปตีเค้ากี่ครั้งก็แพ้ พูดแล้วช่างน่าอนาจใจ เด็กๆในเสฉวน เกิดมาไร้ความสามารถทั้งนั้น เพราะผู้ใหญ่ไม่สนใจ ปลูกฝังความรู้กัน

  • น่าคิดครับ คุณ rinkoe
  • ผมคิดว่าน่าจะเหมือนกับระบบการศึกษาของไทยในปัจจุบันเลย..อิอิ

เหมือนอย่างที่หลายท่านว่านะครับ ว่าเป็นเรื่องของจังหวะและโอกาส สุมาอี้นั้นเป็นยอดคนที่สามารถอดทนรอโอกาสที่จะมาถึงตนได้ แต่ขงเบ้งนั้นเป็นผู้สร้างโอกาสขึ้นมาด้วยตนเอง ขงเบ้งไม่เคยรอให้โอกาสมาถึงแต่แสวงหาโอกาส วางแผนสร้างโอกาสให้เกิดกับตนเอง จนทำให้เล่าปี่ยิ่งใหญ่ได้แม้โอกาสต่างๆไม่อำนวยให้ ส่วนสุมาอี้นั้นเหมือนโอกาสจะเป็นใจเข้ามาเกื้อหนุนอยู่เสมอในยามตกต่ำหรือเข้าตาจน ถ้าผมมองแล้วผมมองว่าขงเบ้งเหนือกว่าเพราะสร้างทุกอย่างด้วยมืออย่างแท้จริง แต่สุมาอี้ความสำเร็จนั้นเริ่มมาจากโอกาสที่มักมีผู้หยิบยื่นให้เสมอ และไม่อาจคาดเดาเหตุการณ์ได้ทะลุอย่างขงเบ้ง ทำให้แผนการสุมาอี้ไม่ซับซ้อนเหมือนขงเบ้ง แต่สุมาอี้เหนือกว่าขงเบ้งตรงความทะเยอทะยานที่มากกว่า ความทะเยอทะยานจึงเป็นตัวผลักดันให้สุมาอี้ประสบความสำเร็จในท้ายที่สุด แต่ขงเบ้งนั้นเพียงทำหน้าที่ของตนเองตามที่ได้รับปากเล่าปี่ไว้เท่านั้น หากขงเบ้งมีความทะเยอทะยานเหมือนสุมาอี้ ชิงแผ่นดินเล่าเซี่ยน แล้วค่อยวางแผนยึดก๊กอื่นๆ ก็ไม่แน่ว่าผู้ชนะจะเป็นสุมาอี้หรือไม่ เพราะหากขงเบ้งได้เป็นใหญ่ก็ไม่ขัดกับมติฟ้าที่ต้องการให้ราชวงศ์ฮั่นล่มสลายอีกด้วย ขงเบ้งก็อาจไม่อายุสั้นอย่างที่เป็น

ทุกท่านมีเหตุผลสนับสนุนที่ดีครับ ความคิดเห็นต่างๆล้วนไม่มีถูกผิด แต่ผมเชื่อในคำกล่าวที่ว่า "ตาเห็นในสิ่งที่ใจเลือก" ครับ รักใครชอบใครก็เป็นสิทธิ์นะครับ ดีๆครับที่มีความเห็นหลากหลายขอบพระคุณครับที่มีเรื่องดีๆให้อ่าน

จังหวะว่ากำลังเปิดหาข้อมูลเลยมาเจอและได้ลองอ่านความคิดเห็นของแต่ล่ะคนจนอ่านแล้วเริ่มคิดว่าเริ่มจะเถียงกันที่ว่า"ใครเก่งกว่าใคร"จริงๆแล้วผมว่ามันก็อยู่องค์ประกอบหลายๆอย่างนะครับ โอกาส จังหวะเวลา สภาพแวดล้อม ทรัพยากร

และอะไรหลายๆอย่างถ้าจะมาวัดที่ใครคนใดคนนึงอย่างเดียวผมว่ามันคงไม่ถูกเท่าไหร่ผมว่าบรรดาคนรักสุมาอี้ หรือ คนรักขงเบ้ง ลองมาดูองค์ประกอบและปัจจัยที่อยู่รอบกายของบุคคลทั้ง 2 ดูก่อนไหมครับ!? ถ้าจะวัดว่าใครเก่งกว่าใคร จะมาเถียงกันว่าใครเก่งกว่าใครนั้นผมว่าทั้ง2ท่านเค้าก็เก่งทั้ง2ท่านแหละครับ สุมาอี้ก็รู้ว่าควรจะทำอย่างไรถ้าขงเบ้งยกทัพมา,ขงเบ้งเองก็รู้ว่าจะทำอย่างไรเวลาที่ต้องถอยทัพ แต่!!!ชีวิตคนเรามันเหมือนกันหรือเท่ากันหรือเปล่าก็เปล่าถ้าชีวิตคนเรามันเหมือนป่านนี้ก็นัดเวลาที่จะตายพร้อมกันได้แล้วล่ะครับบางคนเมื่อถึงที่ตายยังไงก็ต้องตายบางคนดวงจะเกิดมายิ่งใหญ่ยังไงเค้าก็หาทางจนได้บุญวาสนาคนเรามันไม่เท่ากันหรอกครับก็คล้ายๆกับ หลิวปังกับเซี่ยงอี่ สุดท้ายหลิวปังก็ได้ตั้งราชวงศ์ฮั่น

ในกรณีสุมาอี้นั้นดวงตระกูลเค้าจะได้มาเป็นฮ่องเต้จะทำอย่างไรมันก็ต้องเป็นแบบนั้นเรื่องมันก็แค่นี้แหละครับ

อย่ามาเถียงกันเลยว่าใครเก่งกว่าใครแต่ล่ะคนมันก็มีทั้งดีและไม่ดี(ขอยกอีกตัวอย่างบ้างท่านในนี้ฝันอยากเป็นนักบินถามหน่อยว่าความฝันอยากเป็นนักบินนั้นจะมีสักกี่คนที่จะได้เป็นมันก็อาจจะอยู่ที่ว่าใครจะทำหรือไม่ทำให้เป็นจริงแต่คนที่เลือกจะทำเค้าจะสำเร็จสักกี่คน?)"ถ้าจะมัวแต่เถียงกันว่าใครเก่งกว่าใครผมว่าเอาเวลามานั่งวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียของแต่ล่ะคนมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันของตัวเองดีกว่าไหม?"ไม่ใช้แค่2ท่านนี้ด้วยซ้ำ จูล่ง กวนอู โจโฉ เตียวหุย และอีกหลายคนที่พวกท่านลืมไปในช่วงต้นสามก็ก อย่าง กุยแก ซุนฮก เป็นต้น ฝากไว้ให้คิดกันครับ

เอาง่ายๆเลยนะครับ ก่อนอื่นผมจะไม่พูดถึงเรื่องความจงรักภักดีต่อราชวงศ์ฮั่นและเรื่องของกลศึก เพราะผมว่าขงเบ้งเก่งกว่าสุมาอี้ด้านกลยุทธ์ (ไม่มาก) แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวเท่านั้น นอกนั้นทุกเรื่องสุมาอี้เก่งกว่าหมด ไม่ว่าจะ

1. ในเรื่องของการบริหารจัดการกองทัพ และเรื่องการคัดคน

ขงเบ้งเป็นรองสุมาอี้อย่างเห็นได้ชัด จะเห็นได้ว่าขงเบ้งเป็นคนที่ชอบใช้งานแม่ทัพโดยการดูโหงวเฮ้งเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการรับสมัครคนเข้ามาเป็นแม่ทัพ หรือตำแหน่งสำคัญในการบริหารบ้านเมือง ก็มักจะชอบตัดสินจากความชอบส่วนตัว คือ ถ้าใครโหงวโอ้งไม่ถูกใจพี่ขงเบ้งแก แกไม่เอาเลย เอาง่ายๆ ลองดูกรณีอุยเอี๋ยนเป็นตัวอย่างนะครับ

ขณะที่สุมาอี้รู้ดีว่า การจะทำให้บ้านเมืองอยู่ในความปกครองได้นั้น ต้องรู้จักคัดคนที่มีความสามารถ เพราะฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจนะครับว่าทำไมช่วงท้ายๆ ทางฝ่ายจ๊กก๊กถึงไม่มีแม่ทัพหรือกุนซือ ที่เก่งๆเลย ไม่ใช่ว่าคนเก่งไม่มี คนเก่งน่ะมีอยู่เสมอแต่ไม่มีโอกาสได้เข้ามาทำงานโชว์ความสามารถครับก็ด้วยเพราะการถูกใจไม่ถูกใจส่วนตัวของขงเบ้งเอง

2. ในเรื่องของการรู้จักประมาณตนเอง และการใจเย็น สุขุม

ในเรื่องนี้ไม่ต้องงงนะครับว่าทำไมสุมาอี้ถึงไม่กล้าทำอะไรขงเบ้งมาก ไม่กล้ายกทัพออกมาประจันหน้า นั่นก็เพราะว่าสุมาอี้เป็นคนที่รู้จักประมาณตนเองไงครับ ถ้ายังไม่มีโอกาสให้ฉกฉวยจริงๆก็จะยังไม่ลงมือ ตรงจุดนี้สุมาอี้เหนือกว่ามาก ในเรื่องของการอดทน การใจเย็นสุขุม รอโอกาส ถ้าเปรียบกับการจีบสาว ขงเบ้ง ก็เป็นผู้ชายที่เข้าไปจีบหญิงตรงๆ ไม่ต้องดูสถานการณ์ แต่สุมาอี้ ก็คงเป็นผู้ชายที่สุขุม รอโอกาสเหมาะๆแล้วค่อยจู่โจมสาว

3. ในเรื่องของการรักษาสุขภาพของตนเอง

ขงเบ้ง ด้อยกว่าสิ้นเชิง ขงเบ้ง เป็นคนไม่ชอบปล่อยวางแม้กระทั่งเรื่องการจัดงานในเรื่องเล็กๆน้อยๆ แทนที่ถ้าเป็นเรื่องหยุมหยิมน่าจะมอบงานให้คนอื่นทำบ้าง แต่นี่ตัวเองก็ยังจะทำคนเดียวทั้งหมด จนไม่ค่อยได้พักผ่อนเป็นการฝืนร่างกาย จนทำให้สุขภาพย่ำแย่

ในขณะที่สุมาอี้ เป็นคนที่สบายๆ รู้ว่าตัวคนเดียวไม่อาจจัดการทำการใหญ่ได้ เลยรู้จักแบ่งหน้าที่ให้ลูกน้องทำ และสุมาอี้เองก็ไม่ได้มุ่งมั่นที่จะเอาชนะมากไปจนต้องคิดมากวิตก แต่กลับดำรงตนอย่างสบายๆ ทำเฉพาะเรื่องใหญ่ และพักผ่อนอย่างเพียงพอ จนเป็นหนึ่งในตัวละครสามก๊กที่อายุยืนที่สุด

4. ในเรื่องของการอบรมสั่งสอนบุตรของตน

ขงเบ้ง ลูกของขงเบ้งมีคนไหนบ้างล่ะครับที่เก่งกาจ??? และเล่าปี่ก็เช่นกันเล่าเสี้ยนได้เรื่องมั้ย??? นี่ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าอบรมลูกของตนไม่ได้ดีเลย

ในขณะที่ลูกชายของสุมาอี้ คือ สุมาสู และสุมาเจียวนั้น ต่างก็ฉลาดและเก่งกาจไม่แพ้ผู้เป็นพ่อเลย รวมถึงสุมาเอี๋ยนผู้เป็นหลานด้วย ถ้าไม่ใช่การอบรมสั่งสอนที่ดีทั้งเรื่องไหวพริบและกลยุท จะมีหรือที่ลูกหลานของตนจะได้ขึ้นมาผงาดในแผ่นดินได้ แม้ว่าเรื่องราวของราชวงศ์ของสุมาเอี๋ยนต่อจากนี้จะไม่ค่อยโสภานักก็เถอะ แต่ก็ถือว่าได้คำตอบแล้วนะครับว่าขงเบ้ง และสุมาอี้ ใครล้มเหลวในเรื่องใดบ้าง

เพิ่มเติมครับ

แต่ที่แน่นอนที่สุด กุนซือที่เก่งที่สุดผมว่าไม่ใช่ ขงเบ้ง ซุยเป๋ง ชีซี สุมาเต๊กโช บังทอง สุมาอี้ จิวยี่ ลกซุน กุยแก แต่อย่างใดเลย กุนซือที่เก่งกาจที่สุดแม้จะเป็นช่วงสั้นๆ ผมว่า กาเซี่ยง เก่งสุดในสามก๊กครับ

อยากร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยครับ

หากถามว่า สุมาอี้ กับ ขงเบ้ง ใครเก่งกว่ากัน ?

เมื่อพิจารณาทุกองค์ประกอบแล้วขอตอบได้เลยว่า ขงเบ้ง เก่งกว่า เหนือกว่า สุมาอี้ มากมายนัก เพียงแต่ตรากตรำทำงานหนัก จึงสิ้นอายุขัยก่อนวัยอันควร ขงเบ้งนั้นได้ช่วยเล่าปี่ ก่อร่างสร้างตัวจากเจ้าเมืองเล็กๆจนสถาปนาขึ้นเป็นถึงพระเจ้าเล่าปี่ องค์ฮ่องเต้แห่งอาณาจักรจกก๊ก ปกครองเมืองเสฉวน ซึ่งเป็นก๊กหนึ่งในสามก๊ก ส่วนสุมาอี้เป็นเพียงขุนนางอยู่ภายใต้อำนาจการปกครองของอาณาจักรวุยก๊กของโจโฉและเป็นพวกฉกฉวยโอกาสในขณะที่วุยก๊กมีองค์ฮ่องเต้ที่อ่อนแออย่างพระเจ้าโจยอย เท่านั้นเอง

ผมว่าแต่ละคนเก่งกันไปในแต่ละตอนแต่ละฉาก ความเก่ง่ความฉลาดไม่ค่อยจะคงที่ บางที่ดูเหมือนเป็นคนละคนกัน ขงเบ้งนั้นเก่งมากเวลาวางแผนการรบมักวางแผนด้วยตนเองเสมอ วางแผนแต่ละครั้งมักศึกษาปัจจัยแวดล้อมหรือยุทธศาสตร์ก่อนเสมอ แต่วันดีคืนดี กลับส่งม้าเจ๊กไปดูแลจุดยุทธศาสตร์สำคัญอย่างเกเต๋ง ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญซึ่งเป็นทั้งทางถอยและขนส่งเสบียง ซึ่งขงเบ้งก็ไม่ไว้ใจม้าเจ๊กเท่าใดนัก แต่ก็อนุญาตให้ทำ และที่สำคัญไม่บอกว่าให้ดำเนินการอย่างไร ซึ่งขัดกับอุปนิสัยของขงเบ้งที่วางแผนต้องรอบคอบเสมอ พยายามลดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุด ซึ่งยุทธศาสตร์เกเต๋งนั้นขงเบ้งย่องรู้ว่าเป็นอย่างไร ควรตั้งค่ายอย่างไร ที่ผ่านมาเวลาขงเบ้งมักใช้การยิ่งคำถามว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้แบบนั้นต้องทำอย่างไร แล้วให้อีกฝ่ายตอบคำถามมา หากไม่ถูกต้องก็จะแก้ไขให้ แต่ครั้งนี้เหมือนไม่ใช่ขงเบ้งคนเดิม ไม่ไว้วางใจ แต่ใช้ให้ทำงาน แล้วไม่วางแผนให้ด้วย หรืออาจเป็นวรรณกรรมทำให้บางครั้งขาดความสมจริงในบางฉากบางตอน ทำให้ความเก่งกาจ กลับลดน้อยลง ส่งให้อีกฝ่ายดูเด่นขึ้นมา


ผมว่า หลอกว้านจง เก่งที่สุด ที่รวบรวมเรื่ิองราว บางครั้งก็เอียง ที่2 สุมาเต็กโช ((กุยแกตายเร็วไปหน่อย)) ที่3 สุมาอี้

ขอแก้เรื่องซุนกวนพึ่งบารมีพ่อกับพี่ชายหน่อย

การที่ซุนกวนอายุแค่ 18 แต่ซุนเซ็กไว้ใจให้ทำหน้าที่แทนตนเองต่อแสดงว่าเค้าไม่ธรรมดา คนแบบซุนกวนในสายตาของดิฉันเป็นยอดนักปกครอง ซึ่งคนแบบนี้เหมาะสมมากที่จะเป็นผู้นำในสมัยนี้ ก่อนการศึกที่ผาแดง กังตั๋งมีแต่ความแตกแยก มีทั้งคนที่อยากสู้กับคนที่อยากยอม วุ่นวายสับสน เรื่องทำศึกไม่ต้องพูดถึง แต่ใครจะเชื่อผู้ชายอายุ 18 คนนี้ สามารถทำให้ทุกคนปรองดองกัน และรวมใจเป็นหนึ่งต้านศัตรูจนได้รับชัยชนะอย่างสวยงาม

ขนาดโจโฉ ยังเคยออกปากชมว่าถ้ามีลูกต้องให้ได้อย่างซุนกวน

ใครบอกว่าซุนกวนพึ่งบารมีพ่อ พี่ชาย ลองคิดเล่นๆ ตอนที่เราอายุ 18 แล้วต้องแบกภาระใหญ่หลวงขนาดนั้น เราจะทำได้อย่างเขาหรือไม่

http://www.vcharkarn.com/vcafe/168196

"อ่านใจเขาให้ออก ค้นพบตัวเราให้เจอ"  แพ้ชนะตัดสินกันตรงจุดนี้ครับ (อ้างอิงจากคำสอนของซุนวูนะครับ)

ตัวอย่างเช่น

ถ้าเราไม่รู้ใจพระพุทธเจ้า ว่าท่านคิดแบบไหน เพื่ออะไร

แล้วตัวเรา กำลังค้นหาอะไร และเพื่ออะไร

มันก็ไม่มีประโยชน์ที่เราจะมานั่งไหว้พระทุกๆวันจริงไหมครับ

นอกเรื่องไปนิด  แต่ขงเบ้งกะสุมาอี้ใครเก่งกว่ากันลองไปอ่านในเวปข้างต้นดูดีกว่าครับ


ตอบด้วยคนนะครับทุกคนลืมกาเซี่ยงไปได้ไงสุมาอี้ ขงเบ้ง เคยวางแผนผิดพลาดทุกคนแต่ในสามก๊กมีกาเซี่ยงคนเดียวที่วางแผนแล้วไม่เคยพลาดตามความเห็นของผมกาเซี่ยงยอดเยี่ยมที่สุด

ขงเบ้ง – ปณิธานเพื่อบ้านเมือง

สุมาอี้ – ปณิธานเพื่อวงศ์ตระกูล

สรุปฟ้าดินฉลาดสุดใครก็ไม่อาจฝืน555…555

อ่านให้ข้อคิด ดีๆแล้วแต่สติปัญญาใครจะกลั่นกรองรู้ว่าใครกันแน่นที่เก่งที่สุด ผมมองว่าโจโฉเก่งที่สุด เอาแต่ตัวละครสำศัญนะ สุมาเต๊กโชว์กะ อาจจะเป็นชิ๋นซี๋ฮ๋องบอกแต่งให้ว่ามีคนในตระกูลเป็นอาจารย์ ขงเบ้ง ที่ผมมองโจโฉฉลาดเพราะเขาใช้คนเป็น ต่างจากขงเบ้งที่เก่งแต่ใจอ่อน ขาดข้อนี้ละ

อยากให้ทุกท่านได้อ่านของเรืองวิทยา ฉบับคนขายชาติ ตัวอักษรของเขาทำให้จินตภาพชัดเจนขึ้นมาก อาจทำให้บางมุมที่คาใจ ได้คำตอบขึ้นมาก็ได้ ลองดูนะคะ (ถ้ายังไม่เบื่อกันซะก่อน

ส่วนผมนะ ผมว่าถ้า ขงเบ้ง ไปอยู่กับ ซุนกวน ผมว่ารวมแผ่นดินได้

คือ อยู่กับเล่าปี่ ขงเบ้ง ไม่กล้าขัดใจ

สุมาเต็กโชได้แต่มองและคาดเดาเหมือนเป็นหมอดูแต่ไม่มีตอนไหนที่แสดงฝีมือในทางปฏิบัติจริงอย่างชัดเจนเหมือนคนวิพากษ์การเมืองแต่ไม่ได้ทำย่อมมีโอกาสถูกแลผิดแต่เมื่อได้ปฏิบัติจริงกับบริบทตอนเกิดเหตุจริงสุมาเต็กโชอาจไม่เป็นท่าก็ได้เอามาเปรียบเทียบความเก่งกันมิได้ แต่ขงเบ้งคิดกลยุทธ์แก้ปัญหาได้แยบยลจนเห็นความหลักแหลม ทำงานโหมหนักเสียสลุะเพื่อบ้านเมืองจนไม่ห่วงใยสุขภาพ ลืมดูดวงตนเอง ส่วนสุมาเต็กโช คงนั่งมองดูดวงชะตาของขงเบ้งและดวงชะตาของเล่าปี่ด้วยปัจจัยต่างๆและทำนาย


คนเก่งที่สุดคือผู้แต่งสามก๊กครับกุมชะตาทุกตัวทุกฉากจริงบ้างไม่จริงบ้างครับ

เห็นด้วยทุกความคิดเห็นครับ เป็นไปได้ ไม่ถูก ไม่ผิดครับ

ในสามก๊กมีคนเก่งหลายคน...ขาดแต่เจ้านายที่เก่งกาจ...อ้วนเสี้ยวมีคนเก่งๆ อยู่หลายคนก็ยังต้องแพ้เพราะฐิถิตัวเอง ลิโป้รบเก่งที่สุดแต่เบาปัญญา ซุนกวนรวมคนเก่งตั้งแต่รุ่นพ่อ รุ่นพี่ โจโฉใช้คนเป็นรอบรู้ มีประสบการณ์ เล่าปี่มีทหารเสือมีขงเบ้ง...ในพงศาวดารจะเหลือเชื่อเกินจริง หรืออย่างไร สุดท้ายทุกคนก็แพ้สังขาร...สุมาอี้ขึ้นมาได้เพราะโอกาสอำนวย....ถ้าสุมาอี้มาแก้ปัญหาตั้งแต่ช่วง 10 ขันทีครองเมือง ผลก็คงไม่ออกมาแบบนี้ แต่ขณะที่บ้านเมืองแบ่งเป็น 3 ฝ่ายชัดเจนก็รู้ว่าจะรบกับใคร...วุ่ยก๊กมีรากฐานการปกครองจากโจโฉมาดี...ง่อก๊กนับเป็นดินแดนทางใต้ของจีนในสมัยนั้นซึ่งถ้านับเป็นดินแดนของจีนมักพูดถึงลุ่มน้ำฮวงโห ง่อก็กเลยอยู่สบายไม่ค่อยโดนใครรุกราน ความเสื่อมจึงมาเยือน...จ๊กก๊กเริ่มแรกทำศึกทางใต้ ต่อมาทำศึกทางเหนือ ตลอดช่วงชีวิตขงเบ้งทำศึกตลอดเวลา มาเสียตอนที่เล่าปี่จะแก้แค้นให้กวนอู พอขาดเล่าปี่ไป กรรมเลยมาลงที่ขงเบ้ง

สุดท้ายใครเก่งกว่ากัน...ผมว่าบอกไม่ได้หรอกเพราะ 3 คน 3 ช่วงเวลา หลายปัจจัย หลายเงื่อนไข...สรุปคือ วุ่ยก๊ก มีรากฐานการปกครองที่ดีกว่า สุมาอี้เลยคว้าชัย

ท่าน yyy วิเคราะห์ได้เยี่ยมครับ

ผมขอแสดงความเห็นด้วยคนนะครับ เรื่องของสุมาเต็กโชนั้นเขาอาจจะเก่งกว่าขงเบ้งบังทอง สุมาอี้ แต่เขาไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยยยกเขาออกไป1คน ส่วนขงเบ้งกับบังทองนั้นต้องบอกว่าอาจสูสีเรื่องตำราพิชัยสงครามแต่การวางแผนและความรอบคอบสู้ขงเบ้งไม่ได้เลย ส่วยคู่ขงเบ้งกับสุมาอี้นั้น สองคนนี้อาจจะเป็นมวยถูกคู่เขาอาจเสมอกันแต่จังหวะและเวลาของสุมาอี้ดีกว่าอีกทั้งเรื่องวิสัยทัศน์ขงเบ้งเขาจะจัดการทุกอย่างคนเดียวเป็นส่วนใหญ่แล้วก็ออกคำสั่งแต่ทางสุมาอี้เขารุ้จักเลือกใช้คนให้ตรงกับงานเลยททำให้เขาเครียดน้อยกว่าขงเบ้งในส่วนนี้ทำให้สุมาอี้ได้เปรียบแต่ถ้าวัดกันเรื่องความฉลาดนั้นน่าจะพอๆกันตามที่ผมเคยอ่านขงเบ้งแพ้ให้สุมาอี้จึงวางแผนให้โจโฉขับไล่สุมาอี้ตรงนี้ดูเหมือนขงเบ้งจะเป็นฝ่ายชนะแต่ไม่ใช่เลยในทางกลับกันสุมาอี้หลังจากโดนโจโฉขับไล่เขาก็ไม่ได้เป็นเดือดเป็นร้อนกลับใช้ชีวิตอย่างสุขสบายเหมือนกับเขารู้อยู่แล้วว่ายังไงซะโจโฉก็ต้องตามเขากลับไปเพื่อสู้กับขงเบ้งแล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ พอสุมาอี้กลับมาขงเบ้งก็ถึงกับเหงื่อตกอีกครั้ง ส่วนนี้จึงทำให้ผมคิดว่าถึงเขาสองคนอาจฉลาดเท่าๆกันแต่ขงเบ้งกลับกลัวสุมาอี้ อีกอย่างนึงเหมือนที่บางท่านได้แสดงความคิดเห็นไว้ว่าขงเบ้งเขาจะเอาตัวเองเป็นศูนนย์กลางจึงทำให้เขาแบกรับทุกอย่าวเอาไว้ทั้งหมดและทำงานภายใต้ความกดดัน แต่ทางสุมาอี้เขาเลือกใช้คนของโจโฉทำงานให้จะแพ้หรือชนะเขาก็ไม่เสียหายอะไรแต่เขาไม่ต้องมานั่งกดดันเหมือนขงเบ้ง นอกจากที่ว่าไปก้อมีเรื่องเวลา จังหวะ และโชคชะตาเจ้ามาเกี่ยว พูดง่ายๆเหมือนทางสุมาอี้เขาดวงดีบวกกับสติปัญญาที่มัเลยชนะศึกไป แต่ที่สุมาอี้เหนือกว่าขงเบ้งจริงๆคือเขารู้จักมองการไกลกว่าขงเบ้งเขาวางรากฐานต่างๆไว้เพื่อให้คนที่มาสานต่อทำงานต่อไปได้สะดวกหากเขาต้องตายก้อจะมีคนที่เก่งพอจะมาแทนเขาได้ แต่ทางขงเบ้งมีแต่ตัวคนเดียวมาคิดได้ทีหลังตะให้เดียงอุยสืบต่อก็ไม่ทันเสียแล้ว ความเห็นของผมก้อมีเท่านี้ล่ะครับขอบคุณสำหรับความเห็นต่างๆที่ทำให้รู้เรื่องอะไรหลายๆอย่างครับ

ทั้งดูทั้งอ่านประกอบกันหลายรอบ ก็สนุกดีครับ เอาเฉพาะช่วงชีวิตที่ดวลกัน ผมให้เสมอ เก่งพอกัน ทั้งคู่ หลังจากนั้น ขงเบ้งตาย สุมาอี้ไปต่อ ก็ต้องให้คะแนนเรื่องการดูแลสุขภาพ การออกกำลังกาย (รำดาบรำกระบี่ฝึกยุทธ) การสอนอบรมลูก การระมัดระวังคำพูด การอดทนต่อความเจ็บใจที่ถูกปลดถูกมองข้ามถูกใช้เมื่อถึงสถานการณ์คับขัน การเลือกทีมงานหรือร่วมงานกับแม่ทัพนายกอง เช่น กุยฮวด เตียวคับการให้โอกาสนายทหารเด็กเช่นเตงงาย กับ จงโฮย ซึ่งตอนหลังจัดการเกียงอุยได้ราบคาบกับทางสุมาอี้ เพิ่มไปอีก สรุปให้สุมาอี้ชนะขงเบ้งด้วยคะแนน 10 ต่อ 9 ครับและขอบคุณความเห็นก่อนหน้าผมทุกท่านด้วยครับ

แต่สุมาเต๊กโชไม่รู้ว่าใครจะมาทำงานกับเล่าปี่เป็นคนแรกระหว่างบังทองกับขงเบ้ง ถ้ารู้ว่าเป็นขงเบ้งแต่แรกคงไม่แนะนำถึง2ท่านให้เล่าปี่ไปหาหรอก คงแนะนำให้ไปหาของเบ้งเลยแล้วคงไม่บอกว่าทั้ง2ท่านดีกว่าตนเกิน10เท่าหรอกถ้าสุมาเต๊กโชเก่งกว่าขงเบ้งจริงซึ่งเล่าปี่ก็เคยชวนท่านสุมาเต๊กโชมาเป็นกุนซือแล้วด้วย จากคำพูดเรื่องกระอักเลือดตายคงมีนัยอื่น แล้วผมเดาว่าผู้เขียนกระทู้คงยังอ่านสามก๊กไม่หมด

แต่สุมาเต๊กโชไม่รู้ว่าใครจะมาทำงานกับเล่าปี่เป็นคนแรกระหว่างบังทองกับขงเบ้ง ถ้ารู้ว่าเป็นขงเบ้งแต่แรกคงไม่แนะนำถึง2ท่านให้เล่าปี่ไปหาหรอก คงแนะนำให้ไปหาของเบ้งเลยแล้วคงไม่บอกว่าทั้ง2ท่านดีกว่าตนเกิน10เท่าหรอกถ้าสุมาเต๊กโชเก่งกว่าขงเบ้งจริงซึ่งเล่าปี่ก็เคยชวนท่านสุมาเต๊กโชมาเป็นที่ปรึกษาแล้วด้วย จากคำพูดเรื่องกระอักเลือดตายคงมีนัยอื่น แล้วผมเดาว่าผู้เขียนกระทู้คงยังอ่านสามก๊กไม่หมด

เอาเฉพาะในสามก๊ก ขงเบ้ง เก่งสุด ไม่เคยพ่ายแพ้ใคร ปัจจุบันยังมี สุสานขงเบ้ง (ที่ฝังศพอู่โหว) ที่คนจีนไปกราบไหว้ (เฉิงตู) อยู่จนทุกวันนี้ และขงเบ้งยังมีผลงาน คุณูปการ ในการสร้าง รหัสวิดน้ำ และ การทำนา 2 ครั้งต่อปี ของคนจีนในเสฉวน ตราบเท่าปัจจุบัน และนี้คือผลงานที่ถือว่า ยิ่งใหญ่มาก

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท