สมัยก่อน จำได้ว่ามีสารคดียอดนิยมรายการหนึ่งชื่อ ‘กระจกหกด้าน’
เป็นสัญญาณบอกว่า จะได้เวลากินข้าวเย็นแล้ว มื้อเย็นเป็นมื้อแห่งความสุข
เพราะเราจะได้นั่งโต๊ะ กินกันพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว
จนวันนี้ รายการนั้นก็ยังอยู่ แต่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย
ตอนเด็ก ๆ ไม่เข้าใจว่าทำไม กระจกมีหกด้าน แอบนึกไปถึงปริซิม
ตอนนี้ ก็ยังไม่ชัดเจนในความหมายแต่พออนุมาณ
(หมายถึงกระบวนการคิดในการหาข้อสรุปจากเหตุผลที่มีอยู่)
ได้ว่าอย่ามองอะไรเพียงด้านเดียว...
ความวุ่นวายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม ไม่ว่าจะเริ่มต้นจากหน่วยเล็กๆ
แต่สำคัญที่สุดอย่างครอบครัว ชุมชน หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด
ไปจนถึงระดับประเทศ หรือแม้กระทั่งความขัดแย้งระดับโลก
สาเหตุหนึ่งที่หลายคนอาจมองข้ามหรือเพิกเฉย คือ การเพ่งโทษกัน
จะเห็นว่าคนเราส่วนใหญ่ชอบตัดสินผู้อื่นด้วยการมองเพียงเปลือกนอก
เที่ยวพิพากษาคนนั้นไม่ดี คนนี้เลว คนโน้นโกง คนนั้นขี้เหนียว คนนี้น่าหมั่นไส้ สารพัดข้อหา
เรียกว่ามองกันเพียงด้านเดียวก็ตัดสินแล้วว่าคนๆ นั้นดีหรือไม่ดี
เพราะหูเบา เชื่อคนง่าย ขาดการไตร่ตรองด้วยใจที่เป็นกลางอย่างนี้นี่แหละ
ถึงทำให้สังคมเราทุกวันนี้มีแต่ความแตกแยก แบ่งพรรคแบ่งพวก
แบ่งเขาแบ่งเรา ขัดแย้งกันอยู่ร่ำไป
เพราะมี “ผู้พิพากษา” เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมดนี่เอง
จะดีกว่าไหม ถ้าจะเชิญชวนทุกท่านให้ลาออกจากตำแหน่งผู้พิพากษาอันทรงเกียรตินี้
เลิกตัดสินคนอื่นกันเสียที เลิกเพ่งโทษกัน หันมามองในด้านดีของกันและกันให้มากขึ้น
หันมาเปิด ‘ชมรมชมกันเอง’ ในครอบครัว ในองค์กร ในหน่วยงงานราชการ สถาบันการศึกษา
โดยไม่ต้องเก็บค่าสมาชิก หัดชอบๆ กันบ้างครับ เหมือนเฟซบุคที่มีแต่ปุ่ม “ไลค์” ไม่เห็นมีปุ่ม “ดิสไลค์” ให้คลิก
สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี นอกจากจะชี้ทางแห่งความหลุดพ้นให้บรรดาลูกศิษย์ลูกหาแล้ว
ท่านยังสอนให้เรารู้จักมองคนด้วย “กระจกหกด้าน” คือ มองคนให้ครบทุกด้าน ซ้าย ขวา หน้า หลัง บน ล่าง ถ้าเรามองเขาแต่ด้านขวา
เราก็จะไม่เห็นด้านซ้ายของเขา หรือมองแต่ด้านหน้าเราก็จะไม่เห็นด้านหลังของเขาว่าเป็นอย่างไร
แต่ในอีกมุมหนึ่ง กระจกหกด้าน ก็คือ กระจก หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ นั่นเอง เรื่องราวบางเรื่องที่ได้ยินผ่านกระจกหู อาจจะไม่จริงก็ได้ ต้องให้เห็นด้วยตา ต้องใช้ประสาทสัมผัสให้ครบทั้งหก ก่อนจะตัดสินใครดีชั่ว
แต่ดีที่สุด คือ อย่าไปพิพากษาใครเขาเลย พิพากษาตนเองดีกว่า
เพราะฉะนั้น อย่านึกว่าตัวเองถูกเสมอ จงหัดมองคนอื่นด้วย
“กระจกหกด้าน” เมื่อมองเขาครบทุกมุมแล้วจะได้รู้ว่าสิ่งที่เราคิดต่อผู้อื่นนั้น
อาจจะไม่ถูกเสมอไป และขอฝากคติจีนทิ้งท้ายว่า ..
ความเลวร้ายของคนเราก็คือ
การชอบที่จะพูดถึงแต่ความผิดพลาดของคนอื่น
ความโง่เขลาของคนเราก็คือ
การไม่ชอบที่จะฟังถึงความผิดพลาดของตนเอง
แหม นึกว่าหนูณิชน์ จะเขียนเองละซิ...เปล่าค่ะ หนูอ่านแล้ว
รู้สึกว่า น่าจะเอามาแบ่งปันเพิ่มพลังบวก สำหรับคนคิดบวก
และเพิ่มมุมมองให้กับหลายคนที่ยังยึดติดในมุมของตัวเอง
อย่าลืมนะคะ ลองเปลี่ยนมุมในใจดู และจะพบเหตุและผลค่ะ
ขอบคุณ บทความดี ๆ จาก http://dc-danai.com/archives/2294
เป็นกำลังใจให้นะคะ
ขอเป็นกำลังใจให้ด้วยคนคะ