AAR บ่มเพาะต้นกล้าใสใส


และเมื่อย้อนกลับเข้าไปดูในหัวใจของสุภาพสตรีที่ไร้ความกรุณานั้น คือ หัวใจแห่งความแห้งผากและขาดความรัก ... อันเป็นความรักที่ขาดและแห้งผากมานานแสนนาน นานจนมองไม่เห็นความดงดงามในจิตใจของเด็กๆ เหล่านี้...

หกเดือนกับการบ่มเพาะต้นกล้าน้อยๆ หลายๆ ต้นให้กลมกล่อมอยู่ในแนวปฏิบัติแห่งธรรม  ย้อนกลับไปดูเป็นเหมือนสายธารน้ำไหลที่เราทำหน้าที่เพียงแค่ทำร่องน้ำเพื่อให้สายน้ำนี้ได้ไหลไปในทิศทางที่พึงไหล  นั่นก็คือ  สายธารแห่งศีลและธรรม

จากเด็กชายบอยสู่แรงบันดาลใจที่ปรากฏ  เป็นเหมือนแสงเล็กๆ ที่เกี่ยวโยงแสงสว่างให้สว่างไสวไปทั่ว
ตั้งใจที่จะสอนหนังสือให้แก่บอย  แต่เมื่อเวลาผ่านไปกระบวนการหมุนเกลียวหาล็อคลงได้อย่างงดงาม

เด็กๆ ที่เพียรมาประจำไม่ขาดตลอดหกเดือน  ไม่มีเว้นประมาณ 12-14 คน และมีผลัดเปลี่ยนกันมาแบบขาจรในแต่ละสัปดาห์ก็ไม่ซ้ำเดิมบางวันก็เกือบยี่สิบคน  สำหรับเด็กๆ ที่มาประจำนั้นมีการแปรเปลี่ยนเกิดขึ้นในชีวิตของเขาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเข้าใจในศีล  แรงบันดาลใจในการอยากนอนวัด และที่สุดยอดมากคือ การได้บวชเป็นสามเณร

เด็กหญิงตัวน้อยๆ ตั้งแต่ ป.2 อย่างน้องกอก็ได้มีโอกาสของการรักษาศีลแปด
สำหรับข้าพเจ้าแล้วถือว่าเป็นปรากฏการณ์ที่น่าทึ่งและงดงามอย่างมาก

ตอนเช้าเด็กๆ ผู้หญิงจะทำหน้าที่ล้างห้องน้ำ (ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเธอพากันเสนอขึ้นมาและสนุกกับการภารกิจนี้มาก) จากนั้นก็จะไปช่วยเป็นลูกมือทำกับข้าวในครัว ส่วนเด็กชายก็จะติดตามพระอาจารย์ไปบิณฑบาตร หลังรับข้าวเสร็จก็เตรียมตัวเรียนหนังสือซึ่งกับแม่ครู

กิจกรรมการเรียนก็ไม่ได้มีมากมายอะไร ในเหตุผลอันละเอียดข้าพเจ้าเพียงแค่ปรารถนาให้เด็กๆ ได้คุ้นเคยและรักการเรียนหนังสือ สามารถอ่านหนังสือได้ และที่สำคัญเป็นการฝึกฝนสมาธิผ่านการเรียน ที่เน้นก็มีคณิตศาสตร์ จากนั้นเด็กๆ ก็จะเลือกเรียนตามอัธยาศัยของตนเอง บางคนก็จะทำงานศิลปะ บางคนชอบการคัดลายมือจากหนังสือนิทาน แต่ที่สังเกตจะเห็นว่าเด็กๆ ทุกคนจะชอบกิจกรรมการอ่านให้เขียนตามคำบอก

เด็กๆ ที่มาที่นี่ต่างมากันเอง มาด้วยหัวใจ
ทุกคนดูมีความสุข
มีความสุขกับการมาอยู่วัด

มันช่างวิเศษมาก  ตอนเย็นๆ เด็กชายก็จะทำหน้าที่กวาดถูศาลา ส่วนเด็กหญิงก็จะไปกวาดตาดในบริเวณบ้านแม่ชี
เขาและเธอต่างมีกิจกรรมทำตลอดทั้งวัน  จวบจนทำวัตรเย็นเสร็จ เดินจงกลมและเข้านอน

รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ  ใบหน้าและแววตาที่เปี่ยมสุข

อยู่มาวันหนึ่ง
มีคนมาฟ้องหลวงปู่เรื่องเด็กๆ ว่าเด็กๆ ไม่มีน้ำใจ  ไม่ช่วยงานวัด ไม่.... อะไรอีกมากมาย
ข้าพเจ้าทราบเรื่องจากการบอกเล่าของเด็กๆ แล้วรู้สึกเศร้าใจมาก เด็กๆ มาที่นี่มาเพื่อบ่มเพาะ และไม่ว่าจะให้เขาทำอะไรก็ไม่มีต่อต้าน เขามาด้วยดวงใจที่เบิกบาน แต่ผู้คนที่มาต่างคิดว่าเด็กๆ เหล่านี้จะต้องรับใช้พวกเขา ซึ่งที่จริงแล้วไม่ใช่เลย เด็กมาเพื่อเรียนรู้ สิ่งที่ถูกใช้อาจไม่ถูกใจผู้ใช้ จึงไม่พอใจและได้มาฟ้องหลวงปู่

เขาบอกต่อข้าพเจ้าด้วยเสียงอันเบาว่า  "เขาใช้พวกผมก็ทำให้เขาอยู่นะครับ"

เด็กชายเด็กหญิงตัวน้อยๆ หัวใจที่ยิ่งใหญ่เพียงแค่เสียสละมาอยู่วัดนี้ก็ยิ่งใหญ่มากแล้ว มาเพื่อสืบสานพุทธทายาท มาเพื่อเรียนรู้เรื่องศีลและธรรม
แต่ เขาได้รับการรดน้ำด้วยความร้อนทางจิตใจของผู้ใหญ่บางคน

ข้าพเจ้าอยากบอกต่อผู้ใหญ่ท่านนั้นว่า " เด็กไม่ใช่คนรับใช้นะคะ  แต่จะใช้เขาเขาก็มีน้ำใจที่ยิ่งใหญ่ทำให้อย่างไม่เกี่ยงงอน  อย่าได้ทำลายทำร้ายจิตใจของเขาด้วยคำพูดแห่งความไม่พอใจออกมาเลย โปรดมองเขาด้วยความรักดั่งดอกไม้บาน แล้วจะพบพลังอันมหาศาลและงดงามในจิตใจเขา เขาจากพ่อแม่มาเพื่อมาบ่มเพาะพุทธะ เขามาด้วยหัวใจแห่งศรัทธา  .... โปรดยุติ ความรุนแรงจากใจอันไม่สงบของคุณ"

เสียดายว่า... ข้าพเจ้าไม่มีโอกาสได้บอกต่อสุภาพสตรีท่านนั้น ท่านผู้ถือตัวว่าเป็นผู้ใหญ่เพื่อเข้ากราบฟ้องหลวงปู่
เด็กๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างเสียใจ
หน้าที่ข้าพเจ้าได้แต่รีบรดน้ำให้ความเหี่ยวเฉานั้นเบ่งบานและชุ่มช่ำขึ้นมาอีกครั้ง

แต่อย่างไรก็ตามข้าพเจ้าก็เชื่อว่า พุทธะแห่งจิตใจของเด็กๆ เหล่านี้ไม่มีวันตาย
เราเพียงทำหน้าที่ประคองให้เมล็ดพันธ์ุอันเติบโตจากต้นกล้าเล็กๆ นี้แปรเปลี่ยนเป็นต้นไม้ใหญ่ในวันข้างหน้า  อันเป็นต้นไม้แห่ง "ศีลธรรม"



หมายเลขบันทึก: 508668เขียนเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2012 21:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 ตุลาคม 2013 06:52 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท