งานและพลังงาน
1. งาน (work)
ในชีวิตประจำวันของเราเมื่อเราทำงานบ้าน ปัด กวาด เช็ด ถู โดยความหมายของคนทั่วๆไป ถือว่าเป็นการทำงาน แต่ในการออกกำลังกาย เช่น การวิ่ง หรือการเล่นกีฬา โดยความหมายของคนทั่วๆไปไม่ถือว่าเป็นการออกกำลังกายแต่โดยความหมายทางฟิสิกสืถือว่า การวิ่ง การเล่นกีฬา เป็นการทำงานส่วนการทำงานบ้านไม่เป็นการทำงาน ดังนั้นงานตามความหมายในวิชาฟิสิกส์จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีแรงมากระทำต่อวัตถุและทำให้วัตถุมีการกระจัด โดยปริมาณงานที่ทำจะขึ้นกับแรงและการกระจัด
เมื่อ F เป็นแรงคงตัวที่มากระทำกับวัตถุ
s เป็นการกระจัดของวัตถุในแนวเดียวกับ แรง F
จะได้ว่า ปริมาณงานที่แรง F ทำจะมีค่าเท่ากับผลคูณระหว่าง ขนาดของแรง F และขนาดของการกระจัด s ของวัตถุ ซึ่งเขียนเป็นสมการได้ดังนี้
W = Fs .......................(1)
โดย W คือ งานของแรง F เป็นปริมาณสเกลาร์ มีหน่วยเป็น นิวตัน – เมตร (N.m) หรือ เรียกว่า จูล (Joule) “J”
ถ้าออกแรงกระทำต่อวัตถุไม่ได้อยุ่ในแนวเดียวกับการเคลื่อนที่ของวัตถุ เช่น เมื่ออกแรง F กระทำกับวัตถุที่วางบนพื้นระดับในแนวทำมุม Ɵ กับแนวระดับ ทำให้วัตถุเคลื่อนที่ตามแนวระดับ ได้จากการกระจัด s
งานที่เกิดขึ้น W = FcosƟ x s
หรือ W = Fs cosƟ ...........(2)
เมื่อ F คือ ขนาดแรงที่กระทำต่อวัตถุตลอดเวลาที่มีการเคลื่อนที่
s คือ ขนาดของการกระจัดที่วัตถุเคลื่อนที่ได้
Ɵ คือ มุมระหว่างทิศทางของแรงกระทำกับแนวการเคลื่อนที่
W คือ งานที่เกิดขึ้นทั้งหมด
เมื่อ 0๐ ≤ Ɵ < 90๐ cos Ɵ เป็นบวก (+) งาน (W) ก็เป็นบวก (+)
เมื่อ Ɵ = 90๐ cos Ɵ เป็นศูนย์ (0) งาน (W) ไม่เกิด
เมื่อ 90๐ < Ɵ ≤ 180๐ cos Ɵ เป็นลบ (-) งาน (W) ก็เป็นลบ (-)
งานเป็นบวก หมายถึง งานที่เกิดจากแรงหรือส่วนประกอบของแรงที่เกิดจากการแตกแรงอยู่ในแนวเดียวกับการเคลื่อนที่
งานเป็นลบ หมายถึง งานที่เกิดจากแรงหรือส่วนประกอบของแรงที่เกิดจากการแตกแรงอยู่ในแนวสวนทางกับการเคลื่อนที่
2. การหางานที่เกิดจากแรงกระทำหลายแรงหรือวัตถุมีการเปลี่ยนแปลงทิศทาง
ในกรณีที่วัตถุถูกแรงกระทำหลายๆแรง แล้วมีการเคลื่อนที่ หรือวัตถุ มีแรงกระทำเพียงแรงเดียว แล่วมีการเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ มีวิธีการหางานได้ดังนี้
W = ƩF s cos Ɵ ...................(3)
ƩF คือ แรงลัพธ์
s คือ การกระจัดลัพธ์
Ɵ คือ มุมระหว่างแนวแรงลัพธ์กับการกระจัดลัพธ์
3. งานที่เกิดกับวัตถุที่มีรูปร่างไม่แน่นอน
มนบางครั้งวัตถุเมื่อถูกแรงกระทำแล้วมีการเคลื่อนที่โดยแต่ละตำแหน่งของวัตถุมีการเคลื่อนที่ได้ทางไม่เท่ากัน เช่น การสูบน้ำ การเคลื่อนที่ของโซ่ในการหางานจากการสูบน้ำ หรือ การหางานในการเคลื่อนที่ของโซ่ก็ยังสามารถใช้ สมการ W = Fs cosƟ โดย s คือการกระจัดของจุดศูนย์กลางมวลของน้ำและโซ่เฉพาะส่วนที่มีการเคลื่อนที่ไปเท่านั้น
กำหนดให้น้ำในบ่อมีมวล m ถูกสูบขึ้นไปยังถังเก็บน้ำ
เมื่อ F คือแรงที่ใช้ในการสูบน้ำจนหมดบ่อในที่นี้ คือ mg
s คือระยะการกระจัดจากบ่อขึ้นสู่ถัง เท่ากับ h
Ɵ คือมุมระหว่าง F กับ s ในที่นี้ คือ 0๐
จาก W = Fs cos Ɵ
จะได้ว่า W = mgh
ดังนั้น งานที่ใช้ในการสูบน้ำ (W) = mgh
4. การหางานด้วยวิธีการคำนวณจากพื้นที่ใต้กราฟ
เมื่อมีแรงกระทำต่อวัตถุแล้วทำให้วัตถุอยู่ในแนวเดียวกับการกระจัดสามารถหางานได้จากพื้นที่ใต้กราฟ
ข้อสรุป เมื่อมีกราฟระหว่าง F กับ s สามารถหาค่าของงานได้จากพื้นที่ใต้กราฟในช่วงการกระจัดนั้น
ข้อควรจำ พื้นที่ใต้กราฟระหว่างแรง (F) กับการกระจัด (s) คืองานของแรง โดย
5. กำลัง (power)
นิยาม กำลัง คือ อัตราการทำงานหรืองานที่เกิดขึ้นในหนึ่งหน่วยเวลา
กำหนดให้ W คือ งานที่ทำได้มีหน่วยเป็น (J)
t คือ เวลาที่ใช้ในการทำงาน มีหน่วยเป็นวินาที (s)
P คือ กำลัง
จากนิยามของกำลังเขียนเป็นสามการได้ว่า
P = W .................(4)
t
หน่วยของกำลัง คือ J/s หรือ เรียกว่า Watt (วัตถ์) “W”
การหากำลังของวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่ด้วยอัตราเร็ว v
จาก P = W
t
แต่ W = Fs
ดังนั้น P = Fs ( เมื่อ v = s )
t t
ได้ว่า P = Fv
หมายเหตุ 1. จาก P = Fv อาจได้ว่า P เฉลี่ย = Fv เฉลี่ย
2. กำลัง 1 กำลังม้า (HP) มีค่า 746 วัตต์
ไม่มีความเห็น