รามเกียรติ์ ตอนที่ ๑๔ นางสุพรรณมัจฉา


ฉบับ ดร.สัตยพรต ศาสตรี เป็นต้นเค้าในการเรียบเรียง และฉบับนี้ก็นำมาจากของรัชกาลที่ี ๑ มาเป็นต้นเค้าอีกทีนะครับ

 

รามเกียรติ์

ตอนที่ ๑๔ นางสุพรรณมัจฉา

สรคะที่ ๑๒

         หนุมานได้รับความช่วยเหลือจากกองทัพเหล่าวานร  ในการโยนก้อนหินจำนวนหลายร้อยก้อนลงในทะเล  เพื่อให้เต็มทะเล

 

         แต่พอรุ่งเช้า  เมื่อพญาวานรจะเริ่มงาน  ก็รู้สึกประหลาดใจ  ที่เห็นก้อนหินทั้งหลายหายไปหมด   ภายในคืนเดียว จึงคิดว่า  คืนนี้  ตนจะพักอยู่ ณ ที่ใกล้กับมหาสมุทรนี้  เพื่อสังเกตการณ์

 

          อันว่าพวกเราวานรได้โยนหินทั้งหลายลงไปในทะเลในเวลากลางวัน  แต่หินเหล่านั้น กลับหายไปได้อย่างไรในเวลากลางคืน  ใครหนอเป็นผู้เอามันไป  และเอาไปเพื่ออะไร   ไฉนเลย  ในเวลากลางคืนข้าจะไม่นอน  จะคอยยืนระวังอยู่ใกล้มหาสมุทร

 

        พอตะวันหลับขอบฟ้า  แสงจันทร์ได้สาดส่อง  หนุมานได้ยืนซ่อนตัวอยู่  และได้เห็นสิ่งที่มหัศจรรย์  ภาพที่เห็นคือ ปลาทั้งตัวผู้และตัวเมียจำนวนพัน ๆ ต่างพากันมาคาบหินทั้งหลายทิ้งเสีย และมีราชินีของพวกมัน  สั่งการปลาเหล่านั้นให้ช่วยกันทำการนี้

 

         ราชินีของปลาเหล่านั้น  มีชื่อว่า สุพรรณมัจฉา ผู้ชาญฉลาด ผู้เป็นธิดาแห่งท้าวทศกัณฐ์  ร่างกายของนางนั้น  ครึ่งปลาครึ่งมนุษย์

 

        หนุมานได้เข้าไปถามนางสุพรรณมัจฉา  ถึงเหตุที่มารื้อหินมากมายออกไปเสีย  นางสุพรรณมัจฉาบอกว่า   ข้านั้นได้ทำตามคำสั่งของพระบิดา  เพื่อป้องกันเหล่ายุทธ์ของท่านที่จะเข้าไปถึงเมืองลงกาได้

 

          หนุมานได้เล่าเรื่องที่พระราชบิดาของนาง คือท้าวทศกัณฐ์  ได้แปลงเพศเป็นฤษี  แล้วได้ลักพามเหสีขององค์รามไป  ด้วยอุบายหลอกลวง  เมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าก็ไม่ควรที่จะช่วยเหลือพระบิดาของเจ้า

 

        นาสุพรรณมัจฉาได้ฟังถ้อยวจีของหนุมานแล้วก็คิดเห็นเป็นเช่นนั้น  จึงได้สั่งให้พวกปลาหยุด  แล้วนำหินกลับไปวางที่เดิม

 

        หนุมานรู้สึกเกิดปลื้มปีติในตัวนาง  จึงได้หยุดนิ่ง  ทั้งสองต่างก็ได้มองดูซึ่งกันและกัน  ทั้งสองก็ได้เกิดความรักขึ้นและก็รักกัน  สิ่งเหล่านี้  เป็นเรื่องธรรมดาของสิ่งที่มีชีวิต

 

          อันว่าวานรนี้  มีร่างกายอย่างเพชร  รูปงาม  ฉลาด  กล้าหาญ  ถ้อยคำนุ่มนวล  เสียสละเพื่อประโยชน์ผู้อื่น  มีใจกรุณา  และคุณพิเศษมากมาย

 

        เมื่อเห็นอย่างนี้แล้วนางสุพรรณมัจฉา  ไม่สามารถที่จะควบคุมจิตใจของนางไว้ได้  จึงได้แหวกว่ายอยู่เหนือคลื่นแห่งความรักไป ๆ มา ๆ ไม่กล่าวอะไร

 

        อันว่าความงามของนางสุพรรณมัจฉานั้น  เหนือหลักธรรมชาติ  ไม่มีที่ติในโลก  มีผิวพรรณเหมือนกับทองคำ  มีเสียงราวกะว่านกดุเหว่า  ความงอกงามของเส้นผมเหมือนกันกลุ่มแมงภู่  ใครเล่าในโลกนี้  ที่จะไม่มัวเมาในความงามของนางได้

 

          ทั้งคู่ได้ถูกศรรักปักอกอย่างรุ่นแรง  มีความเปี่ยมล้นด้วยความสุขที่ซ่อนเร้นอย่างลึกซึ้ง  มีแก้มแดงขณะที่กอดกัน จนไม่สามารถสรรหาคำพูดใด ๆ มากล่าวได้   และทั้งสองได้ร่วมสังวาสกัน  ด้วยความยินดีปรีดาตลอดทั้งคืน

 

       หลังจากนั้น  นางสุพรรณมัจฉาก็ได้รุดไปยังเมืองลงกา  ด้วยความอิ่มเอมเปรมปรีดิ์  และก่อนที่นางจะถึงเมืองลงกา  นางสุพรรณมัจฉาได้ให้กำเนิดลูกชายตนหนึ่ง  นามว่า มัจฉานุ  ซึ่งเป็นลูกที่เกิดกับหนุมาน

 

     นางสุพรรณมัจฉากลัวว่า  ถ้าพระบิดาทราบจะทรงโกรธ  นางจึงได้ปล่อยลูกชายไว้ที่ฝั่งมหาสมุทร  มัจฉานุ  เมื่อได้เจริญวัยขึ้น  ก็ได้เป็นผู้มีพละกำลังและความกล้าหาญเหมือนกับบิดาของตน

 

หมายเลขบันทึก: 506164เขียนเมื่อ 19 ตุลาคม 2012 10:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 เมษายน 2014 19:34 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ขอบคุณอาจารย์ ชยพร ที่แวะมาให้กำลัใจครับ

ขอบคุณครับ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท