เด็กคือ เหยื่อของความรู้ที่ผิด
เมื่อวันก่อนได้รับฟังเรื่องเล่าจากน้องที่โดนทุบรถขณะขับกลับบ้าน ซึ่งในตอนนั้นก็ไม่ใช่เวลาดึกมากไม่น่าจะเกินสามทุ่มและก็เป็นถนนหลัก ปรากฏว่าพอรถเลี้ยวโค้ง แก็งเด็กวัยรุ่นก็เริ่มสตาร์ทรถแล้วขับรถพุ่งมาในทิศทางตรงกันข้าม แต่ไม่ชนแล้วใช้ไม้ทุบกระจกรถกระจุย โชคดีว่าคนขับประคองรถไว้ได้แล้วขับผ่านไปต่อได้
เราได้คุยกันเรื่องนี้ว่า เด็กน่าจะมีการใช้สุราและสารเสพติดเพราะว่า หากเป็นสภาวะปกติก็คงจะไม่กล้าเพราะมันน่าหวาดเสียวมากอาจถึงเสียชีวิตได้ และธรรมชาติของเด็กวัยรุ่นชอบความท้าทายการทำเช่นนี้อาจมีการพนันเข้ามาร่วมด้วย
ข้าพเจ้ามานึกถึงเด็กหลายๆคนที่โดนจับในเรื่องยาเสพติด แล้วถูกพามาอยู่วัด เมื่อได้สัมผัสกับเด็กในระยะหนึ่งพบว่าเด็กๆนั้นจิตใจดีมาก อัธยาศัยก็ดี ถ้าหากเพียงว่าการเติบโตและการเลี้ยงดูของเขาได้รับการบ่มเพาะในเรื่องคุณธรรมศีลธรรม เรื่องกุศลและอกุศล เขาก็จะสามารถแยกแยะได้ถูกว่าสิ่งใดพึงทำสิ่งใดไม่พึงทำ
เพียงเราได้รับการสอน
แล้วข้าพเจ้าก็มาตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมอาชกรรมเล็กๆ ระบาดไปอย่างรวดเร็วมากในกลุ่มเด็กและเยาวชน ไม่ว่าจะเป็นสุราและยาเสพติด เรื่องขโมย ยิ่งโดยเฉพาะเด็กๆ ที่เกิดจากพ่อแม่ที่ไม่มีความพร้อมหรือไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิด พอเกิดมาแล้วก็ไม่ได้รับการเลี้ยงดูที่ถูกต้องเหมาะสม โดยเฉพาะในเรื่องการอบรมบ่มเพาะทางด้านจิตใจ
พอเด็กถูกชักชวนให้ทำอะไรจึงคล้อยตามไปได้ง่ายมาก
เด็กจึงดูเหมือนเป็นเหยื่อ เหยื่อของความไม่รู้(อวิชชา)หรืออาจรู้ผิด(มิจฉาทิฐิ)
เมื่อมาพิจารณาใคร่ครวญทุกวันนี้เด็กที่เติบโตมามักถูกเคี่ยวเข็ญในเรื่องเรียนหนังสือ เรื่องการงาน เรื่องฐานะ เรื่องความมั่นคงของชีวิต แต่เด็กๆ ไม่ได้รับการสอนในเรื่องคุณธรรม เรื่องศีลธรรม เรื่องคุณงามความดีต่างๆ ที่พึงมีเกิดขึ้นทางจิตใจ
ซึ่งต่างจากเมื่อก่อนมาก
ที่เด็กๆ ได้รับการบ่มเพาะเรื่องคุณงามความดี แต่เดี๋ยวนี้เด็กมักถูกสอนให้เป็นเลิศ เป็นที่หนึ่งและต้องประสบความสำเร็จ เน้นการแข่งขันเอาตัวรอด ความเกื้อกูลลดลง
จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมการระบาดของอาชญากรตัวน้อยจึงดำเนินไปอย่างรวดเร็ว
...
๒๘ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๕
ไม่มีความเห็น