..ป้ามอนอนรักษาใน ไอ ซี ยู สามวัน รอสังเกตอาการ ป้ามอยังมีสายต่างๆคาไว้เหมือนเดิม จึงได้แต่ส่งสายตาบอกถึงความต้องการ เช่น รู้สึกหนาวหลังจากการเช็ดตัวของพยาบาล หรือเจ็บบริเวณที่ถูกยิง อาการของป้ามอคงเดิม ปัสสาวะของป้ามอยังมีสีปนเลือด ญาติเป็นกังวล จึงขอแพทย์ให้ส่งตัวป้ามอไปโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยที่ต้องใช้เวลาเดินทางถึง 3 ชั่วโมง ป้ามออยากถามว่าทำไมต้องไป อาการหนักใช่ไหม แล้วนี่จะมีโอกาสกลับมาบ้านหรือไม่ แต่ป้ามอพูดอะไรไม่ได้เพราะบังไม่ถอดท่อช่วยหายใจ ป้ามอสาวโสดทั้งกล้าๆกลัวๆแต่ไม่รู้จะบอกญาติอย่างไร ระหว่างทางนำส่ง ป้ามอได้แต่ส่งสายตาดูหลานคนเล็กอายุ 2 ขวบที่เฝ้าเรียกป้ามอ ด้วยความไร้เดียงสา หลานจะรู้หรือปล่าวว่าป้าจะไปไหน ยังไงป้ามอก็จะกลับมาหาหลาน
ป่ามอรับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย ครึ่งเดือนก็ได้กลับมาพักที่บ้าน สภาพป้ามอบยังมีแขนขาอ่อนแรง หน้าตาอ่อนเพลีย แต่แววตาสู้ คราวนี้สิ่งต่างๆที่อยากเล่าพรั่งพรูออกจากปากป้ามอ ด้วยความห่วงใยของเพื่อนบ้าน จึงมีผู้คนแวะมาเยี่ยมมากมาย ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ป้ามองต้องเล่าให้ผู้คนฟัง แต่ละวันป้ามอแทบไม่ด้องพักผ่อน ตามที่แพทย์บอก แต่ก็รู้สึกถึงความห่วงใยที่ทุกคนมีให้ ป้ามอสามารถรับประทานอาหารอ่อนได้ แต่จะรู้สึกอึดอัดในเวลาเย็น น้องสาวซึ่งเป็นหัวหน้าสถานีอนามัยทำแผลถูกยิงบริเวณหน้าท้องทุกวัน วิถึชีวิตป้ามอดูเหมือนจะเข้าสู่สภาวะปกติในเร็ววันหากไม่มีเหตุการณ์บาอย่างเกิดขึ้น วันหนึ่งน้องสาวต้องตกใจ เมื่อพบว่ามีหนองสีเขียวทะลักออกมาจากแผลบริเวณหน้าท้องของป้ามอ ส่งกลิ่นเหม็น ป้ามอเฝ้าถามตัวเองว่าถึงเวลาแล้วหรือ
ไม่มีความเห็น