เทียนขาว
นาง เพ็ญทิวา เพ็ญทิวา สารบุตร

การส่งเสริม IQ และ EQ เด็ก โดยใช้กีฬา "ลีลาศ"


การส่งเสริม IQ และ EQ เด็ก โดยใช้กีฬา "ลีลาศ"

     ลีลาศ เป็นกีฬาชนิดหนึ่งมีสามารถสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายได้ทุกสัดส่วน และสร้างเสริมสมาธิและสติปัญญาให้กับเด็กๆได้เป็นอย่างดี  สิ่งที่ดิฉันสังเกตเห็นได้ก็คือ  ทุกก้าวย่างของการเดินในฟลอร์ ต้องมีจังหวะ และทุกจังหวะต้องมีสมาธิ เพราะต้องจัดระเบียบร่างกายและแขนขา

     ครูที่ชมรมลีลาศ ต้องเป็นผู้ที่มีความอดทนมากๆค่ะ  เพราะการที่จะฝึกเด็กแต่ละคนให้เดินได้อย่างถูกต้องและเข้าจังหวะไม่ใช่เรื่องง่าย แม้กระทั่งผู้ใหญ่อย่างดิฉันลองเดินแล้ว ยังทำไม่ได้เลยค่ะ  อาจจะเพราะสมาธิของเรามักจะเอาไปคิดเรื่องอื่นๆที่มีอยู่มากมาย อาจจะไม่ตั้งใจจริงก็เป็นได้

      การส่งเสริมให้ลูกสาวกับลูกชายเรียนลีลาศ ความจริงไม่ใช่ความต้องการของพ่อแม่โดยตรงหรอกนะคะ เพราะดิฉันคิดแค่ว่าอยากให้ลูกมีกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ทำยามว่างและให้เขามีกีฬาที่ได้เล่นเป็นและสนุกที่ได้เล่นกีฬาชนิดนั้น เพราะดิฉันเล่นกีฬาไม่เป็นเลย(เป็นจุดด้อยของแม่นะคะ) ส่วนคุณพ่อทำได้ทุกประเภทแต่ก็เป็นกีฬาชาวบ้านทั่วไป ว่ายน้ำ ฟุตบอล พ่อทำได้ ทำเป็น ค่ะ 

      ครั้งแรกดิฉันพาลูกๆไปเรียนว่ายน้ำก่อนค่ะ แต่ด้วยความที่บ้านเราไกลจากสระว่ายน้ำและไม่มีใครไปส่ง เพราะต้องเรียน 6.00 น.-8.00น. วันเสาร์-อาทิตย์ เราอยู่ต่างอำเภอ จัดการเวลาไม่ได้ จึงไปเรียนได้แค่ไม่ถึงคนละ 10 ครั้งทั้งลูกสาวลูกชาย  ก็ไม่เป็นไร ครูเขาก็รอว่าเมื่อไหร่เราว่างเขาก็ให้กลับไปเรียนค่ะ ลูกๆบ่นอยากไปว่ายน้ำเรื่อยๆแต่พ่อแม่ก็จะมีข้ออ้างตลอดเพราะถ้าจะมาให้ทันเวลาก็คือไม่ต้องกลับบ้านให้นอนที่บ้านยาย และตื่นเช้ามาก็สามารถไปว่ายน้ำได้ ซึ่งเด็กๆก็ไม่ยอม เพราะอยากให้พ่อแม่พาไป เลยสุดท้ายได้มาเรียน    ลีลาศ ทั้งสองคน เพราะหลังเลิกเรียนช่วง 17.00น.-19.30 น. เป็นช่วงเวลาเล่นกีฬาของน้าชายพอดี จึงมาส่งหลานและรับหลานกลับบ้านด้วยได้

      ไม่ใช่เรื่องง่ายค่ะกับการจัดการเวลาของเด็กๆ เราใช้เวลาปีกว่าๆนะคะ จึงได้มีความรับผิดชอบต่อตนเอง  เวลาทำการบ้าน  อ่านหนังสือ อาบน้ำ เข้านอน เขาจึงถูกฝึกให้มีระเบียบวินัยไปในตัวค่ะ ส่วนกิจกรรมที่เราส่งเสริม IQ และ EQ ของลูก จะใช้กิจกรรม กิน  กอด เล่น และเล่า มาเสริมเสมอในช่วงเวลาของเย็นวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และเช้าวันจันทร์ ที่เราพ่อแม่มีโอกาสได้อยู่กับลูกๆค่ะ เพราะเวลานอกนั้น ลูกจะอยู่โรงเรียน  ชมรมลีลาศ  บ้านคุณตาคุณยาย

      วันนี้ดิฉันมีภาพการแข่งขันครั้งแรกในชีวิตของน้องภัทรและน้องนีนอยมาฝากให้ดูกันค่ะ

17 กรกฎา 55
การแข่งขันลีลาศ ศรีสะเกษเกมส์

       4 สิงหาคม 55 น้องภัทรและน้องนีนอย ได้รับโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันคิงส์คัพ ที่ สนามอินดอร์สเตเดียมหัวหมาก สำหรับคนเป็นพ่อแม่ก็ต้องยอมรับว่า นี่คือการเรียนรู้ของลูกที่พวกเราจะต้องสร้างโอกาส และส่งเสริมตามศักยภาพของเด็กค่ะ หากความสุขนั้นเป็นความสุขที่พ่อแม่ได้รับและลูกของเรามีความสุขในสิ่งที่เราทำ เขาได้รับการพัฒนาอย่างเหมาะสมตามวัย  เชื่อว่าเขาจะเติบโต มี IQ และ EQ ที่ดี รวมถึง มี MQ ที่เอื้อต่อการพัฒนาสังคมและประเทศไทยของเราด้วยค่ะ

หมายเลขบันทึก: 496948เขียนเมื่อ 2 สิงหาคม 2012 08:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 สิงหาคม 2012 09:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
  • ท่านที่ฝึกเต้นลีลาส มีร่างกายและบุคลิกภาพงดงามมากค่ะ ดูมีความมั่นใจและอารมณ์ดี เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมกายและใจได้เป็นอย่างดีค่ะ
  • ชอบมากค่ะ

     การเรียนลีลาศ สร้างโอกาสให้กับเด็กมากมายค่ะ โดยเฉพาะสังคมเพื่อนที่มีความชอบจังหวะดนตรี และการดูแลสุขภาพ สร้างสมาธิและการมีน้ำใจเป็นนักกีฬา การเรียนรู้วิธีการเข้าสังคมกับผู้ใหญ่และคนหลายๆวัย การรู้จักจัดการอารมณ์ตนเอง  ซึ่งเด็กที่เรียนลีลาศได้ EQ มาแบบเต็มๆค่ะ ความมั่นใจในตัวเองเป็นสิ่งที่ตามมาด้วย อีกประการหนึ่งซึ่งสำคัญกับเด็กค่ะเมื่อเวลาที่เขาเติบโตขึ้น

     เมื่อ 12-16 ธันวาคม 55 ลูกสาวไปร่วมการแข่งขันที่ เชียงใหม่เกมส์  30-31 มกราคม 56  ไปแข่งขัน  เมืองแพร่เกมส์ ผลแพ้ชนะคงไม่สำคัญเท่ากับเป็นการเรียนรู้ของอีกหนึ่งกิจกรรมดีดีที่ถ้าไม่มีความสามารถคงจะหาโอกาสไปร่วมการแข่งขันไม่ได้ค่ะ

      เด็กในประเทศไทยเรามีมาก เด็กเก่งๆก็มีเยอะค่ะ การที่จะขึ้นมาเป็นที่หนึ่งได้มีปัจจัยหลายอย่าง แม้ว่าลูกของเราอาจจะไม่ได้เป็นที่หนึ่งเลย ก็ไม่สำคัญเท่าเราได้เห็นลูกแสดงความสามารถอยู่ในสนามอย่างเต็มที่ อย่างมีความสุข เพราะที่เขาทำ เขาทำเพราะรักและมีความสุขทุกครั้งที่ได้เต้นลีลาศ นั่นคือ สิ่งที่หนูเลือกแล้ว เขาบอกผู้เป็นแม่เสมอ สักวันเขาก็ต้องเป็นที่หนึ่งได้ ถ้าเขาได้รับการพัฒนาไปเรื่อยๆอย่างถูกต้องและเหมาะสม

      อย่างไรก็ตาม เมื่อลูกของเราำัพัฒนาลูกของคนอื่นก็พัฒนาเหมือนกัน เพราะฉะนั้นก็เป็นโอกาสดีค่ะ เด็กไทยจะได้เก่งมากขึ้นเรื่อยๆ สามารถสู้ได้ในการแข่งขันระดับโลก

       พ่อแม่ ควรส่งเสริม สนับสนุนและให้โอกาสในสิ่งที่ลูกชอบ อย่างน้อยจะเป็นความสามารถพิเศษที่ติดตัวลูกไปตลอด และลูกจะได้เรียนรู้อย่างมีความสุขและมีอิสระที่ได้คิดและตัดสินใจร่วมกับผู้ปกครอง ค่ะ 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท