ร่วมบันทึกระลึกถึงแม่สักครั้ง หมดเขต 15 สค.


เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 สิงหาคม 2555 ขอเชิญสมาชิก GotoKnow ร่วมบันทึกลงบล็อกของท่านในหัวข้อ “เรื่องเล่าดีๆ ของแม่กับลูก” ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของตนเองและคนรอบข้างหรือคนที่ท่านคิดว่าเป็นแบบอย่างที่ดีในการดำรงชีวิต


ร่วมบันทึก “เรื่องเล่าดีๆ ของแม่กับลูก
ใส่คำสำคัญด้วยคำว่า “แม่

 

(คลิ้กคำว่าแม่ดูค่ะ) กิจกรรมบันทึกในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 6 ของ “สรอ. ขอความรู้หมดเขต 15 สค. นี้ค่ะ และทำการสุ่มจับรางวัลเงินสด 2,500 บาท จำนวน 2 รางวัล จากบันทึกทั้งหมดในครั้งนี้ค่ะ

 

สนับสนุนโดย สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ หรือ สรอ. ซึ่งเป็นองค์การมหาชนในกำกับของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มีระบบการบริหารงานจัดการที่เป็นอิสระจากระบบราชการ ทำหน้าที่ในการพัฒนาระบบบริการรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government) ของประเทศไทย สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สรอ. ได้ที่ http://www.ega.or.th

 
 
 
 
หมายเลขบันทึก: 496932เขียนเมื่อ 1 สิงหาคม 2012 21:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 ตุลาคม 2015 12:28 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (24)

เป็นเรื่องที่ใกล้ชิดกับตัวเองมากที่สุด...เขียนได้ง่าย...ผมคิดว่าทุกท่านเขียนบันทึกเกี่ยวกับแม่ได้ดีทุกท่าน...เชียร์กันเขียนเยอะๆ ครับ...

ขัวข้อนี้ดีมากๆเลยค่ะ.. เพราะมันอยู่ในใจของทุกท่านอยู่แล้ว..

 

เป็นหัวข้อที่ดีมากค่ะ

คนส่วนใหญ่ จะรู้ซึ้งถึงความรักความห่วงใยของแม่ที่มีต่อตัวเองว่ามากแค่ไหน ก็ต่อเมื่อได้เป็นพ่อเป็นแม่คนแล้ว บางที่ก็ทันเวลาที่จะทดแทนบุญคุณอันใหญ่หลวงนั้นกับแม่ขณะที่แม่ยังมีชีวิตอยู่ แต่บางคนก็ไม่มีโอกาส.. วันนี้ยังไม่สายและยังมีโอกาส..เพราะเรายังมีชีวิตอยู่..ใช้เวลาที่เหลือทำสิ่งดีๆให้แม่ ความเอาใจใส่มีค่ายิ่งกว่าสิ่งของและเงินทองใดๆ แต่ถ้าแม่ไปจากเราแล้วไม่มีตัวตนให้เราได้ตอบแทน ก็จงทำแต่สิ่งดี เป็นคนดี..เป็นประโยชน์ต่อโลก นั่นคือการตอบแทนพระคุณแม่แล้วเพราะแม่ทุกคนอยากเห็นลูกเป็นคนดี...ก็จะเป็นบุญให้แก่แม่ที่แม้จะไม่เห็นกันแต่ท่านยังอยู่ในใจในกายของเราเสมอตลอดไป..

  • เรื่องนี้ อ.วิจะแนะนำให้นักศึกษาทุกคนเขียนค่ะ เพราะทุกคนมีแม่ จึงเป็นการเขียนในเรื่องที่ตนมีประสบการณ์ตรงที่จะนำมาแลกเปลี่ยน
  • ขอบคุณสำหรับ "โครงการสรอ.ขอความรู้ครั้งที่ 6" ที่ให้ร่วมบันทึก “เรื่องเล่าดีๆ ของแม่กับลูก” และใส่คำสำคัญด้วยคำว่า “แม่” ค่ะ   

อยากร่วมบันทึกค่ะ บันทึกแน่นอนค่ะอาจารย์จัน ขอเวลาร่างก่อนนะคะ

จีรวรรณ เอี๋ยวประเสริฐ

เรื่องเล่าดี ของแม่กับลูก 

ข้าพเจ้าขอยกเรื่องของแม่ข้าพเจ้าเองนะคะ ข้าพเจ้าเป็นลูกผู้หญิงคนเล็กของบ้าน มีพี่ชายอีกหนึ่งคน พ่อของข้าพเจ้าเสียตั้งแต่ข้าพเจ้าอายุ 2 ขวบ ตั้งแต่นั้นมา มีเพียงคนเดียวที่เลี้ยงดูข้าพเจ้าและพี่ชายเป็นอย่างดี นั่นคือ ผู้หญิงที่ข้าพเจ้าเรียกท่านว่า "แม่" แม่ของข้าพเจ้าจากที่ทำอะไรไม่เป็นเลย ก็เริ่มต้นด้วยการค้าขาย ขายมาเรื่อยๆช่วงนั้นแม่ไม่มีเวลาเท่าไหร่นักเพราะต้องหาแต่เงินเพื่อมาส่งเสียพี่ชายเรียนหนังสือ ข้าพเจ้าและพี่ชายต้องอยู่กับยาย แม่ข้าพเจ้าไม่มีคำว่าหยุด ท่านทำแบบนี้ทุกวัน จนวันนึงแม่มีเงินเก็บตั้งตัวได้ท่านจึงเลิกขายของ ด้วยเหตุผลที่ว่า อยากมีเวลาดูแลและอยู่ใกล้ชิดลูกบ้างเพราะลูกเริ่มโตและเข้าสู่วัยรุ่นแล้ว แม่ดูแลเอาใจใส่ทุกเรื่องทุกอย่างของพี่ชายและตัวข้าพเจ้าเองเป็นอย่างดี จากที่กินอยู่ที่บ้านของยายแม่ก็เริ่มกลับมาอยู่บ้านของตัวเองอีกครั้งเพราะตั้งแต่พ่อเสียไปแม่ก็ไม่กลับไปนอนที่บ้านอีกเลย เราอยู่บ้านกัน สามคน มีความสุขมากจนเวลาผ่านมาหลายปีจนพี่ชายอายุ 20 ปี แม่ก็เริ่มเติมแต่งและตกแต่งบ้านใหม่อีกครั้งด้วยเงินที่แม่หามาได้เพราะพี่ชายจะบวชทดแทนคุณแม่แม่บอกว่าที่ตกแต่งบ้านนี้เพราะอยากให้ลูกมีเหมือนเพื่อนๆไม่อยากให้ลูกรู้สึกว่าขาดแคลนอะไรไป พอพี่ชายบวชให้แม่ นั่นคือสิ่งที่แม่รอและหวังมาตลอด เรามีความมสุขกันมาก แม่ตื่นเช้าทุกวันเพื่อทำกับข้าวไปใส่บาตรจนพี่ชายสึกจากการเป็นพระและกลับมาอยู่บ้าน เราอยู่กันอย่างมีความสุขและรักกันมาก ข้าพเจ้าและพี่ชายทึ่งในแม่ของข้าพเจ้ามากเพราะใครจะไปคิดว่าผู้หญิงคนนึงที่เสียคู่ชีวิตตั้งแต่อายุยังไม่เท่าไหร่จะสามารถสร้างทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อที่จะให้ความสุขกับลูกได้ขนาดนี้ สามารถทำให้ความรักความอบอุ่นกับลูกจนเราทั้งสองคนไม่เคยรู้สึกว่าเราขาดพ่อเลย เพราะท่านทำหน้าที่พ่อและแม่ที่ีดีมากถึงมากที่สุด สุดท้ายนี้อยากจะบอกกับแม่ว่า เราทั้งสองคนรักแม่มากจะทดแทนบุญคุณท่านให้ได้มากที่สุด 

บันทึก เรื่อง "แม่" เข้าโครงการ Blogs to Book ได้เลยนะครับอาจารย์ ;)...

เรื่องเล่า  แม่กับลูก 

ข้าพเจ้าขอยกเรื่องของแม่ข้าพเจ้าเอง ข้าพเจ้าเป็นลูกผู้หญิงคนที่สี่ ในจำนวนห้าคน มีพี่ชายหนึ่งคน พี่สาวสองคน  และน้องสาวอีกหนึ่งคน  ชีวิตครอบครัวข้าพเจ้ายากจนมาก อยู่ชนบท อาชีพทำนา  แม่พ่อกับแม่ ของข้าพเจ้ามีวิสัยทัศน์กว้างไกล จะบอกลูกให้ตั้งใจเรียนและให้เรียนต่อสูง ๆ และมีงานทำเลี้ยงตนเองได้  แต่ไม่บังคับอยากเรียนก็เรียน  ไม่อยากเรียนก็ไม่ต้องเรียน  เมื่อโตมาจะต้องเลี้ยงตนเองได้  และว่างเว้นจากการทำงาน แม่จะพาลูก ๆ ปลูกผักขาย  และลี้ยงปลาขายจับเป็นอาหาร  อีกอย่างที่นาติดกับป่าช้า  ในป่านี้จะมีเห็ด  มีแมลง  มีผลไม้ป่า  รวมทั้งผักป่า  แม่และพ่อจะพาเข้าไปหาของพวกนี้มาขายให้ชาวบ้านและเป็นอาหาร คนส่วนมากจะกลัวผี  ไม่กล้าเข้าป่าช้านี้            ป่าช้านี้จึงเป็นสถานที่หาของขายเป็นรายได้ของครอบครัวเรา  แทบจะไม่ได้ใช้เงินเลยก็เป็นได้  เงินที่หามาได้               พ่อกับแม่จะแบ่งให้ลูก ๆ ทั้ง 5 คน  เท่า ๆ กัน   โดยนำกระบอกไม้ไผ่มาเจาะรู้แล้วให้หย่อนเงินลงไปไว้  เต็มเมื่อไหร่ค่อยผ่ากระบอกไม้ไผ่  เอาเงินไปฝากธนาคารไว้  ( หากว่าย้อนดูปัจจุบันน่าจะเข้าหลักเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริของพระองค์ท่าน มีทั้งประมาณตน  ประหยัด  สร้างภูมิคุ้มกัน  มีความรู้  มีคุณธรรม )  หลังจากนั้นพอเรียนจบระดับประถมศึกษา  ต้องเข้าเรียนระดับมัธยมศึกษา  ระยะทางจากหมู่บ้านถึงตัวอำเภอ (ในเมือง)  ลำบากมากต้องปั่นจักรยานไปเอง พี่ชายคนโตบอกว่าต้องอดทน และจะต้องเรียนต่อให้จบมหาวิทยาลัย  เพื่อมีงานทำเลี้ยงพ่อแม่และน้อง ๆ ส่วนพี่สาวสองคน  ไปได้ครึ่งทางไม่จบมัธยมศึกษาตอนต้นเลยเพราะเหนื่อยในการเดินทาง  บอกพ่อแม่ว่า  ขอทำนาเลี้ยงตนเอง  พอมาถึงตัวข้าพเจ้า  พ่อและแม่เริ่มแก่ตัว  เศรษฐกิจของครอบครัวเริ่มแย่ลง  ทุกคน              ไม่อยากให้ข้าพเจ้าเรียนต่อ  ยกเว้น  แม่คนเดียวบอกว่า  เรียนเลยถ้าอยากเรียน  แม่จะหาเงินส่งเรียนเองแต่ต้องตั้งใจเรียน วันนั้น  ข้าพเจ้าดีใจมาก  ที่มีโอกาสได้เรียนต่อ  แม่ของข้าพเจ้าทำงานหนักมาก  รับจ้างทุกอย่างขอให้ได้เงินส่งลูกเรียน  และจะพร่ำสอนเสมอว่า  ตั้งใจเรียน  เป็นคนดี  ซื่อสัตย์ ขยัน  อดทน เอื้อเฟื้อ  เผื่อแผ่  และเป็นคนที่มีคุณธรรม  รู้จักเกรงกลัวต่อบาป  หมั่นทำความดี  หากทำได้ทุกอย่างจะคุ้มภัยเราในการดำเนินชีวิตวันข้างหน้า  ขณะนั้นยังไม่รู่ว่าจริงหรือที่แม่สอนให้ทำนั้น  แต่ก็พยายามทำตามเท่าที่ทำได้   จากนั้นข้าพเจ้าได้มีโอกาสศึกษาต่อระดับปริญญาตรี โดยจะทำตามแม่สอน  และรู้จักหาเงินเรียนเอง  ด้วยวิธีสุจริต  เช่น  รับจางล้างถ้วย  ในร้านก๋วยเตี๋ยว  รับจ้างเขียนรายงาน  รับจ้างล้างส้วม  อื่น ๆ  จนไม่ต้องขอเงินจากทางบ้านเลย  จนเรียนจบข้าพเจ้าก็ได้พบกับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเขารับราชการ  อาสามาดูแลข้าพเจ้า  เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นที่ปรึกษา เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง  ทำให้ชีวิตข้าพเจ้ามีความสุข  มีครอบครัวที่ดี มีงานทำที่ดีในทุกวันนี้  น่าจะมีผลมาจากการกระทำตามที่แม่บอก  และผลบุญจากการที่เราเชื่อฟังคำสั่งสอนมา  ตรงตามคำโบราณบอกว่า  ความดีและบุญ  คนไหนทำคนนั้นได้  ข้าพเจ้ารักแม่มาก  ทุกปีในเทศกาลวันแม่ข้าพเจ้าต้องกลับไปกราบแม่  รักอื่นใดใยเล่าเท่าแม่รัก….รักแม่ที่สุดในโลก

 

 

คิดถึงแม่ครับ. วันนั้นหัวหน้างานมาแวะคุยด้วยที่บ้าน..เผอิญมีโทรศัพท์เข้ามา..พอรับสายจึงรู้ว่าเป็นแม่ผมเอง..ท่านพูดด้วยความดีใจว่า "แม่ได้รับเงินที่ลูกส่งมาให้แล้วแต่ยังไม่ได้ใช้"เพราะมาป่วยและนอนอยู่ที่ร.พ.ซึ่งพี่สาวเป็นพยาบาลและคอยดูแลอยู่.. สองสามวันต่อมาจึงต้องขอลางานด่วน..เพราะแม่ได้เสียชีวิตแล้ว..แม่ยังไม่ได้ใช้เงินที่ลูกส่งมาให้เลย..ที่จริงผมมักจะส่งเงินให้แม่เสมอๆตั้งแต่ยังเป็นหางธนาณัติจนมาถึงการโอนเข้าบัญชี..ผมไม่เคยนับว่าเป็นจำนวนเงินเท่าไรแล้ว ? น้องสาวเคยบอกว่าแม่จะแบ่งมรดกให้ลูกๆแล้วตามด้วย.."พี่อย่าเอาเลยน๊ะเพราะพี่ไม่เคยส่งเสียแม่เลย"..เธอเข้าใจผิดเพราะแม่ผมไม่เคยบอกพี่ - น้องว่าผมส่งเงินให้เป็นประจำ.แม่แวะมาเยี่ยมผมก่อนที่ท่านจะป่วยและนำห่อเงินมาให้จำนวนหนึ่งผมรับไว้..แต่ไม่ทราบว่าเท่าไร ? รับแล้วส่งให้ภรรยาเก็บไว้เลย ภรรยาผมเป็นคนเล่าให้น้องสาวฟังเรื่องที่ผมแอบส่งเงินให้แม่ เป็นค่าผ่อนบ้านและค่าใช้จ่าย จนภรรยามักจะพูดเสมอว่า..พี่ส่งเงินผ่อนบ้านให้แม่เสมอๆคงจะเป็นผลบุญ..จึงทำให้ผ่อนบ้านตัวเองเสร็จโดยราบรื่น..ผมได้แต่ยิ้มและเชื่อในใจว่าคงเป็นเพราะที่ผมเคยดูแลแม่นั่นเอง..จึงผ่อนบ้านของตัวเองโดยราบรื่น ทั้งที่คนในหมู่บ้านผมยังไม่มีใครผ่อนหมดเลย..ตอนลาออกมาจากราชการผมได้บำนาญน้อย ผ่อนแล้วเหลือเพียงร้อยบาทเศษ. ผมรับบำนาญ ๘,๖๒๔ บาทแต่ผ่อนบ้าน๘,๕๐๐ บาท. ผมเคยมากราบแม่บ่อยๆแม้จะไม่สามารถมาในวันแม่ได้ อยากบอกทุกท่านที่ยังมีแม่อยูด้วยว่า..หาเวลาไปกราบท่านบ้างตามโอกาส..ไม่จำเป็นต้องไปในวันแม่. เราจะคิดหรือทำอะไรกับแม่ไม่ได้อีกแล้วถ้า..ท่านจากเราไปตามเวลา..อ่านจบแล้วผมว่ายังไม่สายหรอกครับ..ลืมเสียเถอะเรื่องที่ถูกท่านดุ ด่า เพราะยังไงๆท่านก็เป็นแม่ของเรา.

รักและคิดถึงแม่เสมอครับ.

บันทึกแล้วค่ะ style ชลัญอาจประหลาด สมตำแหน่งนักประหลาด นะค่ะอาจารย์จัน

ในชีวิตนี้ ตั้งแต่ลืมตามองดูโลก มีสองชีวิตที่คอยดูแลทะนุถนอม อบรม ขัดเกลา ด้วยความมานะพยายาม มุ่งหวังให้ลูกประสบความสำเร็จมีชีวิตที่สวยงาม มีความสุข ไม่มีความกังวลใจ สองชีวิตนั้นคือ พ่อ กับแม่ จากครอบครัวที่เกิดมาท่ามกลางขุนเขา ป่าไม้ และชาวเกษตรกรเต็มยศ สำหรับการเลี้ยงดูลูกๆด้วยน้ำพักน้ำพักน้ำแรงของพ่อแม่ที่การศึกษาไม่สูงมากนัก ป.4 แต่มากด้วยความสามารถเหมือนไม่ใช่คนที่ได้เรียนแค่นั้น แม่เป็นผู้ที่ดูแลตั้งแต่แรกเกิด ด้วยสองมือของแม่เพราะพ่อมีความจำเป็นต้องจากบ้านไปแดนไกลเพื่อเก็บหอมรอมริบสร้างและจุนเจือครอบครัว ดังนั้นครูในบ้านคนแรกคือแม่ ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2523 จากที่ลืมตามองดูโลกนั้น จำความได้ว่า แม่จะคอยสั่งสอนเสมอให้เป็นคนดี ทำงาน และให้ดูตัวอย่างคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต แล้วให้เราลองปฏิบัติตาม เพื่อสักวันหนึ่งเราจะได้ประสบความสำเร็จบ้าง อนุบาล เราเองจะชอบอ่าน เขียน จนได้รับรางวัลคัดลายมือมาโดยตลอด และกลับมาบ้าน สมัยนั้นไฟฟ้าก็ยังไม่มี อ่านกับโคมไฟ เราสองคนก็นั่งอ่านหนังสือกันทุกวัน จนประมาณ ป.1 ไฟฟ้าเริ่มมีก็สบายขึ้น ทุกครั้งด้วยอาชีพชาวนา เมื่อถึงฤดูกาลทำนาสังเกตดูว่าแม่จะเหนื่อยมาก ออกจากบ้านแต่เช้า กลับบ้านก็เย็นหรือมืด พ่อเริ่มมาอยู่บ้านตอนเราอยู่ม.3 เราก็เห็นพ่อกับแม่ ช่วยกันทำงานกันหนักมาก เพื่ออยากให้เรากับน้องได้เรียนหนังสือ ไม่มีปมด้อย และพร่ำสอนให้เราได้นึกได้ในใจเสมอคือ คนดี พระคุ้มครอง แม่จึงสอนให้สวดมนต์ ไหว้พระ นึกพระรัตนตรัย ทำสมาธิให้เกิด แก้ปัญหาด้วยสติ จนเราสามารถบากบั่นการดำเนินชีวิตมาได้จนบัดนี้ จนลูกของพ่อกับแม่เรียนจบ ป.โท มีหน้าที่การงานทำที่มั่นคง แต่แล้ว เมื่อต้นปีที่ผ่านมาอยู่ๆแม่ก็มีอาการมือบวม เราก็พาแม่ไปหาหมอเพื่อหาสาเหตุของโรค หมอแล้ว หมอเล่า จนกระทั่งมีหมอคนหนึ่งบอกว่า นั่นคือโรคกล้ามเนื้อแข็ง ไม่หายหรอก เราเสียใจมากไม่อยากได้ยินคำนี้เพราะแม่เป็นคนที่สุขภาพดีมาตลอด อดทนสูงมาก ไม่เคยเจ็บป่วยเลย ครั้งนี้นับเป้นครั้งแรกและเป้นครั้งที่ทรมานใจลูกอย่างมาก เราจึงพาแม่ไปรักษาที่โรงพยาบาลศรีพัฒน์ ที่เชียงใหม่ต้องขอบพระคุณหมอมากเลย ที่หมอที่นั่นให้ความเป็นกันเองกับคนไม่ได้ร่ำรวยอย่างเรา นัดมาดูอาการตลอด ทุกวันนี้แม่หยุดทำงานหนักแล้ว อยู่กับบ้าน อาจมีรำคาญตัวเองบ้างเพราะเคยทำงานมาก่อน น้ำหนักลดลงแต่ยังดีว่าแม่มีกำลังใจดี จากลูก ญาติๆ คนรอบข้าง รักแม่มากนะคะ

"เรื่องเล่าดีๆของแม่กับลูก"

   คำว่าแม่สำหรับฉันถึงแม้จะเป็นเพียงคำสั้นๆแต่ความหมายของคำว่าแม่นั้นยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใดบนโลกนี้ แม่เป็นได้ทุกอย่างสำหรับฉัน แม่ทำได้ทุกอย่างเพื่อฉัน คอยทะนุถนอมปกป้องฉันไม่ให้เจ็บไข้ได้ป่วย แม่เลี้ยงดูฉันตั้งแต่เล็กจนโตด้วยมือเล็กๆทั้งสองแม่ แม่ทำงานหาเงินโดยไม่มีวันหยุด ไม่บ่นสักคำ และแม่ไม่เคยนึกถึงสุขภาพตนเอง แม่เปรียบเหมือนครูคนแรกของฉัน แม่ฝึกให้ฉันเดิน ฝึกให้ฉันพูด สอนให้ฉันอ่านหนังสือ แม่สอนให้ฉันเรียนรู้สิ่งต่างๆด้วยตนเอง และแม่จะคอยเอาใจช่วยอยู่เสมอ แม่ไม่เคยปล่อยให้ฉันท้อแท้ เดียวดายอยู่คนเดียว เมื่อเวลาฉันเจ็บป่วยแม่จะคอยดูแล ป้อนข้าว ป้อนน้ำ ป้อนยา เช็ดตัวให้ฉัน แม่เปรียบเสมือนแพทย์คนแรกที่ฉันรู้จัก แม่คอยเป็นแม่ครัวทำอาหารอร่อยๆให้ฉันได้ทาน แม่พูดกับฉันเสมอว่า"แม่ทำได้ทุกอย่างเพื่อลูก" แม่ส่งฉันเรียนหนังสือในโรงเรียนที่ดี โดยไม่คำนึงถึงเรื่อยค่าใช้จ่าย แม่สอนฉันเสมอว่าให้ฉันตั้งใจเรียน เรียนให้จบ เป็นเด็กดี เพราะถ้าหากเราตั้งใจเรียน เมื่อเราเรียนจบเราก็จะมีงานการที่ดี แม่จะพาฉันไปวัด ไปทำบุญทุกครั้งที่มีวันสำคัญ มีเวลาว่างหรือมีโอกาส เพราะแม่อยากให้ฉันได้ดีในวันข้างหน้า แม่รู้ว่าคำสอนของพระธรรม ช่วยโน้มน้าวจิตใจของฉันได้ เพราะเหตุนี้แม่จึงพาฉันเข้าวัดบ่อยๆ คอยให้ฉันอ่านหนังสือพระ หนังสือธรรมะอยู่ประจำ และมันก็จริงอย่างที่แม่คิด คำสอนของพระธรรมทำให้ฉันใจอ่อน ฟังแม่ทุกอย่าง เป็นเด็กดี ไม่ใช่คำสอนของพระธรรมเพียงอย่างเดียวที่ทำให้ฉันใจอ่อนได้ คำสอน คำพูด น้ำเสียงที่ออกมาจากใจแม่ก็ทำให้ฉันใจอ่อนได้เช่นกัน ถึงแม้ฉันจะเป็นเด็กที่แสดงความรักจากคำพูดหวานๆไม่เป็น การแสดงออกดีๆไม่เป็นเหมือนเด็กคนอื่น แต่ฉันก็รักแม่เสมอ การที่ฉันชอบไปนอนกลิ้งอยู่กับแม่นั้นแหละมันคือการแสดงความรักของฉัน ถึงแม้แม่จะชอบบ่นชอบว่าฉันเวลาที่ฉันชอบไปนอนกลิ้งอยู่กับแม่ ชอบไปอยู่ใกล้ๆแม่ แม่ชอบพูดว่าแม่อึดอัน แม่ตัวเหนียวเหงื่อแต่ฉันก็ไม่สนใจ โดนบ่น โดนว่ากี่ทีก็ไม่จำ เพราะฉันรู้ว่าสิ่งที่ฉันทำมันไม่ได้ผิด ไม่ได้ทำให้แม่เสียใจ ไม่ได้ทำให้แม่ต้องร้องไห้ แม่ของฉันร่างกายของท่านไม่ค่อยจะแข็งแรง ฉันไม่รู้ว่าแม่จะอยู่กับฉันไปได้อีกนานแค่ไหน  ฉันจะพยายามทำทุกสิ่งให้ดีที่สุดในวันนี้ ตอนนี้ฉันทำได้เพียงตั้งใจเรียนหนังสือให้ดีที่สุด โดยมีแม่เป็นกำลังใจให้ฉันทุกครั้งในเวลาที่ฉันท้อ หมดกำลังใจ แม่มีแววตาที่อ่อนโยน สองแขนที่พร้อมจะเช็ดหยดน้ำตาของฉันเสมอ โดยที่ใครคนอื่นไม่มี ไม่มีใครเปรียบเสมือนแม่ของฉันอีกแล้ว  หนูอยากบอกว่า..."หนูรักแม่่"คะ....

..แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง...ข้อความนี้ไม่ต้องบรรยายเลย เพราะนั่น ทุกคนที่เป็นลูกต้องรู้ซึ้งถึงโซ่ทองคล้องใจระหว่าง แม่ลูก

สำหรับผมเกิดมาจากครอบครัวของชาวนาโดยมีพี่น้องร่วมกัน สี่ท้อง แต่ห้าคน ไม่ต้องสงสัยครับ ผมเกิดมาท้องสุดท้ายแต่มีฝาแฝดร่วมเกิดมาด้วย โดยผมเกิดก่อนประมาณ 1 ชั่วโมง ก็เลยได้เป็นพี่ ก็ลองคิดดูว่า อาชีพชาวนา แต่ต้องส่งเสียให้ลูกเรียนทุกคน เป็นความคิดของพ่อที่มีความตั้งใจที่จะให้ลูกๆทุกคนได้เรียนหนังสือให้มีงานทำที่มั่นคง พี่สาวคนโตได้เรียนครูอย่างที่หวัง ส่วนพี่ชาย กับพี่สาว เรียนไม่เก่ง เลยไม่ได้เป็นครู ส่วนผมกับน้องชายได้เป็นครูตามความหวังของพ่อและแม่แต่ก็ต้องได้มาจากความลำบากตรากตรำของพ่อและแม่ คิดถึงแม่ครั้งใดผมรู้สึกสำนึกผิดทุกครั้ง สมัยที่ยังเด็ก ตอนเช้าต้องไปนาไถกับพ่อ ก่อนแล้วแม่จะหุงหาอาหารไปส่งซึ่งระยะทางจากบ้านถึงทุ่งนาก็ไกลมากประมาณ 6 กิโลเมตรและก็ต้องเดินอย่างเดียว กว่าแม่จะไปถึงนาก็สายมาก ผมรู้สึกหิวข้าวมาก ๆ ไถนาไปก็หันดูแต่ว่าเมื่อไรแม่จะมาในใจก็ได้แต่ตำหนิว่าแม่อย่างมากมาย ผมมันโง่ที่ปล่อยให้ความหิวมาบังสติขาดความยังคิดนั่นคือความรู้สึกผิดทียังติดมา ถ้าย้อนเวลาไปได้ ผมขอกราบแทบเท้าขอโทษ คุณแม่ ผู้ที่มีแต่รักและห่วงใยลูกทุกคน  แต่ผมก็ไม่มีโอกาสได้กระทำในสิ่งผิด แต่ลูกชายคนนี้ขอกระทำแต่สิ่งดีดีตามหน้าที่ ตามสติกำลังความสามารถ ให้พ่อและแม่ได้ภาคภูมิใจ ตัวลูกคนนี้ด้วยเถิดนี่คือส่วนหนึ่งของลูกที่กว่าจะคิดได้ก็สายไปแล้ว แต่ผมก็รู้อยู่ว่ายังมีสายตาของแม่ที่เฝ้ามองและห่วงใยลูกอยู่เสมอ ผมรักแม่มากที่สุดครับ

  1. สวัสดีค่ะ ท่านอ.จันทวรรณ
  2. เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ลูกๆ ได้ตระหนักถึงพระคุณของแม่
  3. จิตใจลูกๆจะสงบ นิ่ง เยือกเย็น ไม่ก้าวร้าว
  4.  ขอบคุณที่เปิดเวทีนี้คะ

คนที่เป็นแม่เท่านั้นจึงจะรู้ซึ้งถึงคำว่า"แม่" ขอร่วมเปิดตำนานของแม่ด้วยค่ะดร.จันทวรรณ

นายอานนท์ ภาคมาลี

ข้าพเจ้าได้เขียนมาแล้ว เรื่องเล่าดีๆ ของแม่กับลูก

" คำว่าแม่ยิ่งใหญ่ ไม่มีคำใดในภาษาไทยมาเปรียบเทียบได้ว่ามีค่ากว่า เพราะแม่ต้องรู้สึกปั่นป่วนทรมารกับอาการแพ้ท้อง ต้องอดทนอุ้มท้องคนๆหนึ่งไว้ต้องเก้าเดือน ซึ่งยังไม่รู้ว่าอาหารที่แม่กินไปลูกจะได้กินอิ่ม เวลาที่แม่หนาว เวลาที่แม่ร้อน เวลาที่แม่ทุกข์ เวลาที่แม่สุข ลูกที่อยู่ในท้องจะรู้สึกเหมือนแม่หรือเปล่า วันที่แม่เจ็บปวด สิ่งที่แม่คิดอยู่ตลอดเวลา ลูกที่ออกมาจะครบสามสิบสอง สมบูรณ์แข็งแรงหรือเปล่า เสียงร้องครั้งแรกของลูก เปรียบเหมือนเสียงสวรรคทันทีที่แม่ได้ยิน ยามใดที่ได้ยินเสียงลูกร้อง สิ่งแรกที่แม่ต้องทำ ให้ลูกได้ดูดนมจากอก ถึงแม้นแม่จะเจ็บปวดต่างๆนาๆกับอาการที่ลูกทำกับแม่ ตั้งแต่ฟันเริ่มขึ้น กัดหัวนมแม่ยามดูดนม ฉี่ถ่ายมายามแม่กำลังกินกำลังนอน ต้องจับเช็คซักล้าง ยามป่วยไข้แม่ต้องคอยเช็คตัวป้อนข้าวพาไปหาหมอ เวลากินก็ไม่ได้กิน เวลานอนก็ไม่ได้นอน แม่ต้องทนปั่นทอนตัวเอง เพื่อลูกตลอดเวลา แม่รักลูกมากกว่าตัวเอง ทุกๆครั้งที่ลูกเจ็บแม่อยากเจ็บแทน ทุกๆครั้งที่ลูกทุกข์แม่อยากทุกข์แทน แต่เวลาที่แม่เจ็่บทำไมลูกจึงเจ็บบ้างไม่ได้เล่า เวลาแม่ทุกข์ลูกจึงทุกข์แทนบ้างไม่ได้หรือ ลูกคนนี้ทำเพื่อแม่ได้ทุกอย่าง แม้ต้องแลกด้วยชีวิต เพราะลูกรู้แล้วว่า กว่าแม่จะได้ลูกคนนี้มาแม่ต้องลำบากแค่ไหน " ลูกที่รักแม่ "

         ใครที่ยังไม่มีโอกาสได้ทำเพื่อแม่ ทำวันนี้เดี๋ยวนี้ก็ยังไม่สาย อย่ารอจนกว่าไม่มีวันนี้ให้เราได้ทำเพื่อแม่แล้ว

เรื่องเล่า แม่กับลูก

   มีพี่น้องกันสองคน เป็นลูกคนเล็ก ตั้งแต่เล็กจนโตที่จำความได้ ไม่เคยถูกแม่ตีสักครั้ง ความผูกพันธ์กับแม่ ความรู้สึกที่ลูกคนนี้มีให้แม่ตั้งแต่เล็กจนโต รู้สึกยังไง ก็ยังรู้สึกอย่างนั้น แม่ไม่ดีในสายตาใคร แม่เป็นอย่างไร ลูกคนนี้คิดเสมอ แม่ ก็ คือ แม่ หลายคนในสังคมมักพูดถึงแม่ต่างๆนาๆ แม่ไม่สวย แม่ดำ แม่ขี้บ่น แม่ฯ แต่ลูกคนนี้พูดถึงแม่อยู่อย่างเดียวเสมอมา แม่คือผู้ให้เราได้เกิดมา ไม่มีแม่เราจะได้มานั่งเขียนประโยคนี้ให้คนอ่านหรือ ใครที่โกรธแม่ ใครที่มีอะไรกับแม่ สิ่งที่หาซื้อไม่ได้แล้ว"แม่" ตั้งแต่เล็กจนโตไม่ค่อยได้มีโอกาสได้อยู่กับแม่ ตอนเด็กๆ อยู่กับยาย เพราะแม่ต้องไปทำงาน พอโตมาทำงานได้ ก็มาทำงานโรงงาน อยู่มาพอแต่งงาน ก็ไม่สามารถกลับไปอยู่กับแม่ได้ เพราะคนที่แต่งงานด้วย เขาเป็นลูกคนเดียว ไม่มีพี่น้อง ก็ต้องอยู่กับแม่แฟน แต่เวลาใดที่มีโอกาสก็จะไปเยี่ยมแม่ตลอด โทรหาแม่ ถามกินข้าวหรือยังเจ็บป่วยไหม อาการที่เป็นอยู่หายหรือยังทุกวัน   ปีใหม่ก็พาไปเที่ยว สงกรานต์รดน้ำขอพร ซื้อของกินอร่อยๆที่แม่ชอบไปให้ อะไรทีแม่ชอบจะจำเสมอและเมื่อไปเยี่ยมจะซื้อไปฝาก แม่ก็จะดีใจยิ้มกว้างๆ สิ่งแรกที่ทำเวลาไปเยี่ยมแม่ จะยกมือไหว้และสวมกอดแม่ทุกครั้ง เพราะตั้งแต่เล็กจนแต่งงาน เวลาใดที่ได้อยู่กับแม่จะนอนกับแม่ เพราะชอบนอนกอดแม่ เวลานอนกอดแม่แล้วรู้สึกอบอุ่นมากๆ มันเป็นสิ่งหนึ่งที่ลูกคนนี้ได้จากแม่ เวลาได้กอดแม่ อบอุ่นใจเวลาทำอะไรก็จะมีความมั่นใจ มั่นคงหนักแน่น มีภูมิต้านทานต่อปัญหา ทำอะไรสำเร็จเสมอ และตั้งแต่เล็กจนโต ลูกคนนี้ไม่เคยทำอะไรให้แม่เสียใจ ทำแต่สิ่งที่ให้แม่ได้ยิ้มและหัวเราะ สบายใจมีความสุขใจ " รักแม่เสมอ"

กาพย์ห่อโคลง

....มอบใจมอบจิตซ้อง..................พระคุณ....แม่เฮย อุ้ม ปลอบ ป้อง เกื้อหนุน.............ลูกนี้ ทุกข์ เจ็บ พลาด ค้ำจุน...............บ หน่าย....หนีนา รักลูกจวบจากลี้...........................ซาบซึ้งดวงแด

....แม่รักแม่พันผูก........................แม่รักลูกสุขปลอดภัย จักแทนพระคุณไฉน.....................ขอรับใช้ชั่วชีวี

หัวข้อดีมากค่ะ ในเรื่องราวของแม่ แม้ว่าบางคนอาจไม่มีแม่อยู่ในตอนนี้เราก็สามารถระลึกถึงความดีของท่านไว้ ใครมีแม่ในตอนนี้ควรหันหลังมาดูแม่บ้าง อย่าปล่อยให้แม่ดูแลเราเพียงฝ่ายเดียว ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ทำสิ่งดีๆเพื่อแม่บ้าง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท