ไม่รู้เป็นไง อ่านกลอนนี้แล้วนึกถึงสมัยเด็กๆค่ะ
แถวๆบ้านไม่ค่อยส่งลูกเรียนเท่าไร (ส่วนใหญ่จะทำไร่ทำนากัน) แต่แม่ของ kunrapee พยายามส่งเสียให้ลูกให้ได้ร่ำเรียนให้ได้มากที่สุดทั้งสามคน (ขายไร่ขายนาส่งเรียน กันเลยทีเดียว).. ชาวบ้านก็พูดคล้ายๆจะประนามหยามเหยียดแม่ว่า.. ส่งให้เรียนไปเถอะ สุดท้ายก็ต้องมาทำไร่ทำนาเหมือนเดิม.. แม่มาเล่าและสอนเราว่า ให้พยายามตั้งใจเรียนอย่าให้เค้าว่าเราได้..
ปัจจุบันนี้ มีแต่คนอิจฉาแม่กันทั้งนั้น.. (เกี่ยวกันรึป่าว ก็ไม่รู้นะคะ)
สวัสดีครับ kunrapee อ่านข้อคิดเห็นขนลุกเลยครับ ตรงกับจุดประสงค์ที่เขียน ครับ ..เขาได้รับคำดูถูก เรียนไปทำไม่ ...เหมือนที่เขียนมาครับ...เดี๋ยวนี้..มีแต่คนอิจฉา..ในหมู่บ้าน..จะให้น้องเขาอ่าน คงจะมีกำลังใจมาก..เขาสอบบรรจุปีนี้ รับ ๒๙ คน น้องเขาติด..สวัสดีครับ
ลูกนกกลันทาจากป่าใหญ่ สู่ทุ่งกว้างเมืองไกลซีเมนต์กัก บินผ่านฟ้าฝ่าลมฝนร้างรังรัก มาพำนักรังปูนหนุนฝันคว้าง สลัดคราบเหงื่อฝนจนบาดเจ็บ หนาวและเหน็บดวงใจในรังร้าง คนึงภาพลำเนาลำนำทาง เคว้งและคว้างบนตึกเปลี่ยวของเสี้ยวเมือง น้ำตานกตกในแต่ใจสู้ คึดถึงคำสอนครูผู้กระเตื้อง กระตุ้นใจให้ลูกนกหายขุ่นเคือง ให้ปราดเปรื่องในมรรคากล้าบินไป ถึงไม่มีกลันทาผืนป่าเก่า จักค่อยบินข้ามภูเขาสู่ทุ่งใหม่ นกตัวน้อย...จักเติบโต..งามวิไล สู่ทุ่งฝันอันสดใสในป่าเดิม...
ลูกนกกลันทา...คารวะครูผู้่สอนบิน...พ่อ...แม่....และผู้มีพระคุณทุกท่านด้วยใจอันดีงาม
" วันนี้ลูกเริ่มเข้าสู่วงการ
เมื่อวันวานเพียงนึกว่าฝึกฝน
วันนี้ลูกยืนหยัดด้วยตีนตน
ล้างผู้คนเคยหมิ่นให้หันมอง "
ขอบคุณครับคุณครู... ( ทางไกลใจยังมีครู )
คึดฮอดครูหลาย