เมื่อผมนั่งส่องพระนางพญา ผมได้หวนนึกถึงความยากลำบากของการเรียนโดยแทบไม่มีครู
ต้องลุยด้วยตัวเองเกือบตลอดทาง
มีคนเข้ามาชี้ทางบ้างก็เล็กน้อยกระท่อนกระแท่น ไม่ตลอดรอดฝั่ง
ทำให้ผมล้มลุกคลุกคลานมาในแทบทุกเนื้อ ทุกกรุ
แต่ด้วยความตั้งใจที่จะเอาชนะให้ได้ ผมจึงสู้มาตลอด จนถึงฝั่ง ที่ทำให้ได้พระนางพญาเข่าโค้งมาทุกเนื้อ ทุกราคา ตั้งแต่หลักร้อย จนถึงหลักหมื่นกลาง
และใช้พระหลักหมื่นกลางย้อนกลับลงไปดูพระหลักพัน และพระหลักร้อยตามลำดับ
ผมจึงเริ่มจับประเด็นทีละอย่าง ที่ว่าเป็นลักษณะพระแท้ ดูง่าย ไปจนถึงพระแท้ดูยาก ที่อาจจะไปปนกับพระเก๊ดูยาก
สิ่งแรกที่ผมจับประเด็นได้คือ
ร่องทราย ที่มน เนียนรอบๆเม็ดทรายมน
หลักการที่สอง คือ
เม็ดทรายมน โผล่พ้นผิวดิน ที่ส่วนนูน
หลักการที่สาม คือ
เม็ดทรายเหี่ยวเป็นริ้วที่ผิวกร่อน
หลักการที่สี่ คือ
ดูเนื้อแน่น แกร่งมัน
หลักการที่ห้า คือ
ดูพิมพ์
จากห้าหลักการที่ผมค่อยๆพัฒนามาด้วยตนเอง ผมจึงนำมาปรับให้มือใหม่หัดส่องสามารถนำไปใช้ได้อย่างเป็นจริง
ที่สามารถหยิบและตัดสินใจพลาดน้อยที่สุด ก็คือ สิ่งที่ช่างยังไม่ได้ทำในพระเก๊ โดยลำดับจากนอกเข้าใน คือ
ทั้งหกประเด็นนี้ เป็นสิ่งที่ช่างยังไม่ได้ทำ หรือทำต่างไปจากของจริง
ที่สามารถใช้ในการตัดสินใจหยิบพระได้ครับ
ขอให้โชคดีกว่าผมครับ
แบบองค์นี้พอถึงยุคหรือเปล่าครับ
ด้านหลังครับ
องค์ที่สองครับ
ด้านหลังครับ
ยุคไหนละครับ เนื้อแกล้งทำแบบนี้เจตนาร้ายแน่นอน อย่าไปติดกับการเล่นคำของเซียนเลยครับ ใช้คำจริงๆดีกว่าครับ พระใหม่หรือเก่าก็น่าบูชา ถึงยุคไม่ถึงยุคก็ดีทั้งนั้น ยกเว้นพระเก๊ไม่ควรเล่นครับ
ได้มา 1 องค์ครับอาจารย์ นางพญาเข่าโค้งพิษณุโลก รีบถ่ายภาพโพสมาให้อาจารย์ช่วยดูอีกทีครับ
ขอบตัดด้านข้างครับอาจารย์ รบกวนพิจารณาด้วยครับอาจารย์
ดูเป็นดินดิบไหมครับ คราบก็ดูแปลกๆครับ
เป็นดินเผาครับ
ไม่มีร่องรอยการเผา และไม่ใช่ดินดิบ
ผมเดาว่าเป็นพลาสติกอัดครับ อิอิอิอิ