เฏวันนี้


เฏจะสองขวบเดือนหน้าแล้ว วันวัยเร็ววัน ตอนนี้คุยจ้อ พูดยืดยาวล้อเลียนได้ทุกประโยค ชอบเล่นพัดลมและลำโพงเป็นชีวิตจิตใจ ชอบเอากระป๋องแป้งมาเรียงกัน และดมที่ละอัน กระป๋องไหนไม่หอมก็ทำหน้าจะอาเจียน เสร็จจากแป้งก็จะเอาหวีทั้งหมดในบ้านมาเรียงประหนึ่งจะวางขาย แล้วก็หวีผมตัวเองทีละอัน เสร็จสรรพที่ผมตัวเองก็พาลมาผมแม่ผมพ่อ ไปถึงผมยาย

ชอบเล่นทามหาหิงคุ์ที่ท้องพ่อ คุณยายว่าเฏท้องอืดตลอดเวลา แลดูท้องป่องมาก พอเคาะดูก็รู้ว่ามีลมอยู่ในท้อง ตอนนี้เลยมีมหาหิงคุ์เป็นเพื่อนประจำตัว โชคดีที่เฏก็ชอบกลิ่นของมหาหิงคุ์เลยยอมให้ทาได้ แต่ขัดขืนบ้างเพราะจั๊กจี้ ในหนังสือบางเล่มบอกว่าอาการท้องป่องเป็นลักษณะเฉพาะตัวของเด็กวัยนี้ ผู้ปกครองไม้ต้องตกใจให้ลูกพยายามแขม่วท้อง เพราะกลัวหุ่นไม่สวย โตขึ้นก็จะหายไปเอง

น้ำหนักเฏอยู่ระหว่าง 10 – 11 กิโลกรัม มาตั้งแต่ประมาณ 10 เดือน ถึงตอนนี้จะสองขวบ แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติของเด็กวัยนี้อีกเช่นกัน ช่วงป่วยน้ำหนักก็ลงไปบ้าง ช่วงไหนเจริญอาหารก็เพิ่มขึ้นบ้างไม่กี่กรัม วิ่งเล่นสนุกสนานเรียนรู้เยอะ ก็เผาผลาญเยอะ สำหรับส่วนสูงนั้นแม่ไม่ได้วัดเลย แต่เฏก็ไม่ได้ถือว่าเตี้ยมากหรือสูงมาก อยู่ในระดับกลาง ๆ เมื่อเทียบกับเพื่อนในวัยเดือนกัน

ช่วงอายุหนึ่งถึงสองขวบ เฏป่วยหนักประมาณ 2-3 ครั้ง มีไข้สูง แต่รักษาตามอาการก็หายไป มีที่น่าเป็นห่วงก็แต่การร้องกลั้น ที่เกิดจากการเอาแต่ใจที่เคยหวุดหวิดมา 2-3 ครั้ง แต่พอโตขึ้นก็ไม่ค่อยจะร้องกลั้นนาน ๆ แล้ว

เมื่อสัปดาห์ก่อนเล่นกับรุ่นพี่ข้างบ้าน ขี่จักรยานตกฟุตบาท ฟันซี่หน้าขวาโยก เลือดไหลหยุดช้า น้ำแข็งประคบ อมน้ำแข็งแล้วก็ยังไม่หาย ทั้งยังปากแตก แม่ตกใจมากรีบรุดพาไปหาหมอ กลัวฟันจะหลุดจะได้ต่อหรือทำการใด ๆ ทัน พ่อก็เพิ่งออกเดินทางต่างจังหวัด จึงต้องพึ่งเพื่อนข้างบ้าน (พ่อแม่ของรุ่นพี่ที่เล่นด้วย) พาไปส่งให้ ไปโรงพยาบาลใหญ่ก็มีแต่แผนกฉุกเฉิน จึงต้องขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างหาร้านหมอฟันกันให้อลวน หลังคุณหมอดูอาการก็ปรากฏว่าไม่เป็นไรมาก รอดูว่าฟันจะตายหรือไม่ (โดนสังเกตจากฟันจะเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาล และอาจเปลี่ยนกลับมาเป็นสีเดิมหากไม่เป็นไรมาก แต่ต้องระวังอย่าให้อักเสบติดเชื้อ ซึ่งจะมองเห็นได้จากมีอาการตุ่มหนองอยู่ที่บริเวณโคนเหงือกตอนนี้ผ่านมาประมาณสัปดาห์กว่า ๆ แม่เห็นว่าไม่น่าจะเป็นอะไรมาก ทั้งฟันก็คงไม่ตาย แค่คลอน ๆ เฉย ๆ (แม่หวังไม่ว่าแบบนั้นนะ)

เฏนั้นจริง ๆ แล้วนั้นไม่ซนมากนัก อยากรู้อยากเห็น แต่ไม่ดื้อ คือถ้าแม่ห้าม ก็จะฟัง เพราะรู้ว่าสิ่งที่แม่ปรามนั้นจะทำให้ตนเจ็บตัว แต่บางครั้งก็มีอาการพลาดพลั้งได้บ้างตามประสาที่ยังเดียงสาโลก แต่หากมีเพื่อนคนอื่นเล่นด้วยก็ต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะแม่ไม่รู้ว่าเด็กแต่ละคนนั้นถูกเลี้ยงมาหรือมีนิสัยอย่างไร บางคนไม่รู้จักเข้าสังคม มาถึงก็ดึงผมจนเฏร้องไห้จ้า บางคนโตกว่าก็เล่นแรงเกินไปเพราะไม่รู้ว่าน้องยังเล็ก บางคนก็เล่นเข้ากันได้สนุกสนาน อุบัติเหตุจึงมักเกิดกับเพื่อนมากกว่าเกิดจากตัวของเฏเอง

ตอนนี้ท่อง ก ไก่ ถึง ฮ นกฮูกได้ แบบแม่ก็งง ๆ เพราะไม่ได้ตั้งใจจะสอน เพียงแต่ร้องเพลงให้ฟังพลาง ๆ เวลาแม่ทำกับข้าวบ้าง ทำงานบ้านบ้าง ท่อง a-z ได้ บอกรูปร่างภาษาอังกฤษ แต่ยังไม่รู้จักรูปร่างในแบบภาษาไทย เพราะยังไม่มีใครสอน ร้องเพลงได้ค่อนข้างมาก เช่น

  • เพลงอยากกลับบ้าน ของจุ้ย ศุบุญเลี้ยง
  • Tingalayo
  • Jingle Bell
  • เพลงพ่อกล่อมลูก ของเฉลียง
  • รักจับใจ พี่บี้
  • กา ก๊า กา ปาล์มมี่
  • ลาวดวงเดือน
  • Happy Birthday
  • ฯลฯ

ที่น่าสนใจคือสามารถฮัมทำนองเพลงที่รู้จัก โดยให้เนื้อร้องอื่น ๆ เข้าไปได้ อันนี้แม่ค่อนข้างจะทึ่ง เรื่องดนตรีกับเพลงนี่ไม่น่าแปลกใจ เพราะทั้งพ่อแม่ก็อยู่ในสายเลือด เราร้องเพลงกันทั้งวัน ตั้งแต่ตื่นนอน ยันเข้านอน เฏจึงสามารถแยกเสียงทำนองได้อย่างน่าอัศจรรย์ แบบที่แม่ก็ไม่คาดคิด เพราะบางเพลงติดชาร์ป ติดแฟลต เยอะ เฏก็ฮัมทำนองได้ตรงทั้งที่ยังออกเสียงคำได้ไม่ชัดเลย

นอกจากนี้ก็ยังว่ายน้ำโดยไม่มีแม่คอยจับ แต่ยังใส่ swimsafe อยู่ ยังขี่จักรยานไม่เป็น เริ่มชอบใส่รองเท้าผู้ใหญ่ และพยายามทำทุกอย่างตรงกันข้ามกับที่ควรจะทำ เช่น แม่บอกว่า ไปอาบน้ำ เฏก็จะบอกว่านอน แม่บอกว่าไปกินข้าว เฏก็จะอ่านหนังสือ เป็นต้น

ยังดีที่ชอบอ่านหนังสือ และพอจะมีวี่แววรักการอ่าน โดยเจ้ากี้เจ้าการหาหนังสือให้พ่อหรือแม่อ่าน และตัวเองก็ไปหยิบหนังสือของตัวเองมาอ่านใกล้ ๆ ทำทีว่าเรานั้นต่างคนต่างมีหนังสือของตัวเองอ่าน แต่ไม่ทันจะอ่านได้จบบรรทัด คุณชายก็เปลี่ยนเล่มอื่นมาใส่มือแม่ และตัวเองก็เปลี่ยนหนังสือของตัวเอง แบบนี้เรื่อยไป จนกว่าจะพอใจ

ตอนนี้หากได้ยินคำในโทรทัศน์ภาษาไทยคำไหน ก็จะหันมาบอกแม่แต่เป็นภาษาอังกฤษ อันนี้ใช่ได้นะ แม่ค่อนข้างพอใจ ฮ่าฮ่า เช่น การ์ตูนพูดว่า รถสีแดง เฏก็หันมาที่แม่แล้วบอกว่า red car แม่ภูมิใจเป็นพิเศษ แต่แม่ก็ต้องฝึกพูด เพิ่มพูนคำศัพท์ และฝึกใช้ภาษามากขึ้น ทั้งทางตรงที่ Peace Village และทางอ้อมต่าง ๆ บ้าง เพื่อเฏ นอกจากนี้เราก็จะเรียนรู้ภาษาอื่น ๆ ไปด้วยกัน เช่นตอนนี้แม่ก็พยายามฝึกภาษาอิตาลี ฝรั่งเศส รื้อฟื้นเกาหลี ไม่ให้หลงลืมไปเสียหมด เราถือว่าโชคดีที่มีที่ให้เรียนรู้ฟรีแบบตรงจุดที่สุด ไม่ต้องไปเข้าห้องเรียน กางหนังสือ เพราะเราพูดไทยได้ก็ไม่เคยต้องไปเข้าห้องเรียนกางหนังสือ

มากมายเหลือเกิน ถ้าจะสรุปทุกอย่างเกี่ยวกับลูกในวัยย่างเข้าสองขวบ ทั้งบันทึก ภาพถ่ายและภาพเคลื่อนไหว น่าจะเพียงพอให้ลูกได้รู้จักตัวเองในวัยความจำยังบันทึกอะไรไว้ไม่ได้ แม่รักลูกครับ คำนี้แม่พูดทุกวัน ทั้งวัน บางครั้งเฏรู้สึกว่าแม่โกรธ หรืออยากเตือนให้แม่รู้ว่ายังมีเฏ เฏก็จะหันมาที่แม่ แล้วเรียก “Mamy” Mamy ก็จะตอบพร้อมสบตากับเฏว่า “Mamy รักเฏ” แล้วเฏก็หันไปเล่นต่อ ร้ายมากคุณชาย (เฏจะเรียกตัวเองว่าคุณชาย เมื่อแม่แซวในขณะที่เฏทำตัวแก่แดดเรื่องมาก เช่น ชอบใส่ถุงเท้า ชอบชุดหล่อ ชอบหวีผม ชอบนั่งทำท่าเป็นคุณหนูเจ้ากี้เจ้าการ ฯลฯ)

แม่พาเฏไปวิ่งเล่นที่ Peace Village ทุกวันเสาร์เพราะเรามีกิจกรรม VSA Education ที่นี่จึงเหมือนเป็นโรงเรียนที่แรกของเฏ ที่มีพี่ ๆ อาสานานาชาติเป็นครูมากมาย มีพี่ ๆ มาเรียนหนังสือกันเยอะแยะมากมาย วันแรกนั้นไปนั่งฟังพี่เค้าเรียนได้นิดหน่อย สัปดาห์ถัดมาก็ยังตื่น ๆ อยู่บ้าง เพราะแม่ผลักดันให้ไปเล่นไปเรียนกับพี่ ๆ มากเกินไป เลยกลายเป็นต่อต้าน แต่ที่นี่จะเป็นโรงเรียนที่ให้เฏได้เรียนรู้ไม่จบสิ้นในรูปแบบการเรียนรู้ที่แม่ตั้งใจสร้างให้เด็ก ๆ หรือคนที่อยากเรียนรู้ที่มีโอกาสได้มาสัมผัส และได้เรียนรู้จริงแบบไม่มีกฏ ไม่มีเกณฑ์ ไม่สนุก ไม่ต้องเรียน ไม่อยากเรียนก็ไม่ต้องมา มาเรียนรู้ชีวิตจริง ๆ ความแตกต่างจริง ๆ เรียนรู้ซึ่งกันและกัน เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันบนโลกที่มีแต่ความแตกต่างใบนี้

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 495687เขียนเมื่อ 22 กรกฎาคม 2012 23:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 กรกฎาคม 2012 09:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เต็มบาวแล้ว น้องเฎ มีพัดลงมือถือด้วย น่ารักจริง

รพ.รออาสาอยู่น่ะน้องเกต

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท