ภาษาจีน
ภาษาศาสตร์ที่ข้าพเจ้ากำลังให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้คือภาษาจีนซึ่งภาษานี่เป็นภาษาที่ในปัจจุบันกำลังมีคนให้ความสนใจมากอยู่เช่นเดียวกันแต่อย่างไรก็ตามภาษานี้แตกต่างจากภาษาทั่วไปคือเป็นภาษาภาพกล่าวคือภาษานี้ใช้ภาพแทนคำการศึกษาภาษานี้ผู้ศึกษาจำต้องใช้ทักษะการจำตัวอักษรหรือภาพคำนั่นเอง
ตัวอย่างอักษรภาพคำแบบอัดษรเต็ม
วิธีเรียน: ในช่วนแรกนั้นข้าพเจ้าได้เรียนหลักการอ่านภาษาจีนก่อนคือ pinyin ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญมากถ้าหากผู้ศึกษาไม่ใส่ใจหรือไม่เข่าใจหลักก็จะไม่สามารถศึกษาต่อไปได้ และในเวลาต่อมาก็เริ่มจำภาพอักษรซึ่งในเกณฑ์มาตรฐานของบุคคลที่จะสามารถอ่านหนังสือต่างๆได้คือประมาณ 2000 อักษรซึ่งเป็นขั้นตอนวิธีการศึกษาที่ใช้เวลาค่อนข้างมาก ส่วนทักษะอื่นๆคือการฟังและพูดนั้นก็เหมือนภาษาอื่นๆทั่วๆไป
ผลการเรียน:จากการศึกาาด้วยการอ่านและฟังวิทยุนั้นสามารถฝึกทักษะต่างๆได้อย่างครบถ้วนคือ ฟัง พูด อ่าน เขียน ซึ่งสามารถทำให้พบเจออักษรมากดัวขึ้นและรู้ทำการประสมอักษรให้เกิดเป็นคำใหม่ได้มากขึ้นทั้งยังได้เพิ่มพูนทักษะการเขียนอีกด้วย ส่วนการฟังวิทยุนั้นสามารถเพิ่มทักษะการฟังและการออกเสียงของคำต่างๆได้ดียิ่งขึ้นซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการเพิ่มทักษะทางภาษาที่สามารถใช้งานได้คล่องแคล่วมากยิ่งขึ้น
ข้อคิดที่ได้จากประสบการณ์: การเรียนภาษาจีนที่ผ่านๆมานั้นข้าพเจ้าปัญหาต่างๆคือการฟังนั้นยังไม่สามารถฟังได้อย่างดีแต่หลังากลองฟังเพลงหรือวิทยุนั้นข้าพเจ้าก็พบว่าทักษะการฟังนั้นดีขึ้นเป็นลำดับและการอ่านบทความต่างๆก็สามารถเพิ่มความหลากหลายของตัวอักษรได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
เกร็ดความรู้@@@
- อักษรจียนนั้นมี 2 รูปแบบคืออักษรแบบย่อ(Simplify)และแบบเต็ม(Traditional)ซึ่งแบบย่อนั้นใช้ในสาธารณะรัฐประชาชนจีน(Mainland china) และสิงค์โปร ส่วนอักษรจีนแบบเต็มใช้ใน สาธารณรัฐจีน(Chinese Teipei) และเขตปกครองตนเองพิเศษอ่องกงและมาเก๊า
- อักษรทั้ง 2 แบบบางส่วนก็มีความคล้ายคลึงกันแต่บางส่วนก็อ่านไม่ออกเลยถ้าเรียนอักษรมาแบบใดแบบหนึ่งเว่นอักษรนี้ที่แปลว่าภาษาจีนทางขวาคือระบบเต็ม ทางซ้ายคือระบบย่อ
- ภาษาญี่ปุ่นก็มีการใช้อักษรเช่นนี้อยู่คือ คันจิและมีระบบย่อเช่นเดียวกันแต่บางตัวอาจจะย่อต่างกับภาษาจีนรวมถึงการออกเสียง และภาษาเกาหลีเองก็มีเป็นตัว ฮันจา