กรณีกล่าวหา Plagiarism ไทย
อ่านได้ที่ http://www.timeshighereducation.co.uk/story.asp?sectioncode=26&storycode=419680&c=1
http://www.andrew-drummond.com/view-story.php?sid=537
เรื่องแบบนี้มีแต่ความเจ็บปวด คนที่เกี่ยวข้องก็คุ้นเคยชอบพอกันทั้งนั้น เอามาลงไว้เพื่อบอกว่า ประเทศไทยต้องมี guideline การจัดการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิด plagiarism และเมื่อเกิดข้อกล่าวหา มีแนวทางจัดการอย่างไร
ผมไม่ลงมติว่าจะเชื่อ นสพ. หรือเว็บไซต์ หรือไม่ เพราะข่าวว่าเรื่องยังฟ้องร้องกันอยู่ในขั้นศาล และเมื่อ นสพ. บางกอกโพสต์ลงเรื่องที่เขียนโดยนักข่าวต่างชาติคนหนึ่ง ก็โดนฟ้องศาล และบางกอกโพสต์ยอมเอาบทความออกจากเว็บไซต์ เรายังต้องฟังหูไว้หู หากไม่เห็นหลักฐาน
วิจารณ์ พานิช
๒๗ เม.ย. ๕๕
ส่วนตัวแล้วคิดว่าอาจารย์จากจุฬาฯ คงไม่ทำการโจรกรรมทางวรรณกรรม (plagiarism) ค่ะ เพราะจุฬาฯ เป็นสถาบันอันดับหนึ่งของประเทศย่อมมีมาตรฐานและความรัดกุมรอบคอบในการผลิตผลงานทางวิชาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Dissertation ของนักศึษาปริญญาเอกค่ะ แต่อย่างไรก็ตามเรื่อง plagiarism เป็นเรื่องใหญ่ที่ประเทศต้องช่วยกันแก้ไขอย่างเร่งด่วนค่ะ
- เรื่อง Plagiarism....สำคัญมากค่ะ....โดยเฉพาะระดับ Dissertation....อย่างไว้ใจใคร....ไม่ได้เลยค่ะ....โดยเพราะ...อยู่ใน Field เดียวกัน....บ้างครั้ง ....และสถาบันที่มีชื่ิอเสียง.....ก็ไม่ได้บอกว่า.... นักศึกษา....(รวมอาจารย์ด้วย)....ว่าจะเป็นคนดี...มีจริยธรรมเสมอไป....ยิ่งเป็นคนเก่งด้วยแล้ว....ถ้าเอาความเก่ง...ไปใช้ทางไม่ดี....ยิ่งทำให้...องค์กร..สังคม...เสียหาย....อย่างมากมาย....และน่าเศร้าใจค่ะ
ผมอ่านบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้ตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว เศร้าใจครับและก็ต้องบอกว่ามันยังมีอีกหลายมิติ
“การขโมยความคิด” (Plagiarism) แน่นอนครับว่าเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ควรเพิกเฉยปล่อยผ่าน มัวแต่เกรงอกเกรงใจกัน
แต่ทำไมเรื่องนี้ถึงเปิดเผยได้เมื่อเธอไม่ได้อยู่ในประเทศไทยแล้ว ในเมื่อเธอเป็นผู้ถูกละเมิดทำไมจึงต้องกลายเป็นผู้ต้องหา ต้องสวมใส่ชุดนักโทษ จนในที่สุดต้องหลบหนีออกนอกประเทศ
เป็นคำถามใหญ่อีกหนึ่งคำถามที่มีต่อกระบวนการยุติธรรมไทย
อีกคำถามคงมีถึงองค์กรอิสระ องค์การมหาชนทั้งหลายกระมังครับ
ผมเองยังไม่ปักใจเชื่อว่าใครถูกหรือผิดหรอกนะครับ อยากให้ลองไปอ่านบทความเก่าๆดูได้ที่นี่