การใช้ต้นทุนชีวิตเพื่อสุขภาวะในวิถีทางที่แตกต่างกันของผู้คน


หากมีจังหวะกลับบ้านเกิดที่อำเภอหนองบัว นครสวรรค์ และเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ ก็มักจะเป็นโอกาสได้เห็นวิถีชีวิตและสีสันของโลกที่ผ่านพบระหว่างการเดินทาง ทำให้การเดินทางที่อาจจะเหน็ดเหนื่อย การรอคอยและการต้องปรับตนเองไปตามกำหนดเวลาการเดินรถซึ่งย่อมต่างกับจังหวะชีวิตที่ดำเนินไปด้วยพาหนะส่วนตัว กลายเป็นโอกาสได้พบกับความประทับใจ รวมทั้งได้อยู่กับตนเอง ได้การเจริญสติ ตรึกตรอง และได้ความคิดดีๆมากมายไปด้วยเสมอ

สุขภาวะของการปฏิบัติที่เกินจะสามารถคิดเป็นเงินได้

ระหว่างรอรถไฟที่สถานีนครสวรรค์ เมื่อครั้งเดินทางขนชุดนิทรรศการไปจัดแสดงในงานงิ้วหนองบัวเมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๕๕ ที่ผ่านมา ลุงชาวนาคนหนึ่ง เดินทางมาจากบ้านที่บางมูลนาก จังหวัดพิจิตร ถือเอากลไกและชิ้นส่วนของเครื่องสูบน้ำ ติดมือเดินทางด้วยรถไฟเที่ยวเช้าขบวนรถฟรีมุ่งสู่นครสวรรค์ เพื่อให้ช่างซ่อมชิ้นส่วนและกลไกเครื่องสูบน้ำที่ถือติดมือไปด้วย หลังจากซ่อมเสร็จแล้ว สิ้นค่าใช้จ่าย ๘๐๐ บาท ถือกลับไปนอนรอรถไฟที่สถานีนครสวรรค์ตั้งแต่ก่อนบ่ายสองโมง ไม่กินข้าว ไม่กินน้ำ เพื่อรอขบวนรถไฟฟรีเที่ยวกลับซึ่งจะเดินทางถึงสถานีนครสวรรค์เกือบ ๕ โมงเย็น 

ผมจำเป็นต้องซื้อตั๋วรถด่วนพิเศษขาขึ้นเพราะขบวนหลังจากนั้นจะถึงชุมแสงเย็นเกินไปจนผมไม่มีรถเมล์ต่อเข้าบ้านที่หนองบัว ราคา ๕๐ บาท ด้วยความที่นึกเห็นใจที่ลุงต้องนั่งนอนรอต่อไปอีกหลายชั่วโมงเพื่อรอรถไฟฟรี อีกทั้งเป็นชาวบ้าน ท่าทางเป็นคนทำมาหากิน กระเหม็ดกระแหม่และมุ่งการพึ่งตนเอง จึงเกรงว่าลุงจะกลับถึงบางมูลนากเย็นเกินไปเลยขออาสาออกค่ารถให้ แต่ลุงไม่ยอมเพราะบอกว่ากลับไปก็มืดค่ำและไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้ว อีกทั้งการเดินทางเข้าบ้านก็ไม่ลำบากเพราะคุ้นเคยกับสภาพบ้านช่องเป็นอย่างดี คนรู้จักตลอดทาง จากนั้น ผมกับลุงก็กลายเป็นเพื่อนคุยกัน

ลุงใส่แว่นตาดำตลอดเวลา คงเกรงว่าจะเป็นการไม่สุภาพต่อผม เมื่อมีจังหวะก็เลยถอดแว่นตาออกและบอกว่าลุงเพิ่งลอกต้อกระจกมาโดยหมอของโครงการในหลวง

ลุงจึงกำลังอยู่ในช่วงที่ต้องมีน้ำตาไหล หมอแนะนำไม่ให้โดนแสง ลม ฝุ่น และน้ำ จึงต้องสวมแว่นกันแดดกันลมตลอดเวลา เราคุยกันสารพัดเรื่อง ทั้งการทำมาหากิน ผู้คน ชีวิต สุขภาพ ประสบการณ์ต่อสังคม ความรู้เกี่ยวกับดินน้ำลมไฟ

ขบวนรถที่ผมต้องเดินทางมาถึงสถานีนครสวรรค์ก่อน เมื่อจำต้องอำลากัน ผมก็ให้รู้สึกอาลัยมิตรต่างวัย เลยเปิดกระเป๋าหยิบเอาถุงเมล็ดพันธุ์พืชผัก ซึ่งมีน้องผู้เคยเป็นทีมวิจัยและผู้ใต้บังคับบัญชาผมอุตส่าห์มอบให้ผมสองถุง โดยบอกว่าเป็นเมล็ดผักของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ที่ทรงมอบแก่ชาวบ้านหลังสถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่ผ่านมาของปีนี้ แต่เดิมนั้น ผมตั้งใจว่าจะเอาไปฝากแม่ที่หนองบัวถุงหนึ่งและจะเอาไปปลูกเองที่บ้านสันป่าตองถุงหนึ่งให้เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตทั้งของตนเองและคนรอบข้าง

ผมหยิบออกมาแล้วมอบให้แก่ลุงถุงหนึ่ง เพราะเห็นความขยันขันแข็งและต้องกลับบ้านไปซ่อมเครื่องสูบน้ำต่ออีก โดยบอกว่า เมล็ดผักที่ผมได้มาในถุงนี้ เขาบอกว่าเป็นเมล็ดผักของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีที่ได้ทรงให้คนแจกจ่ายแก่ประชาชนหลังน้ำท่วม ผมขอมอบให้แก่ลุง จะได้มีกำลังใจ ทำมาหากินขึ้น มีความสุขกายสุขใจ จากนั้น ก็อำลากัน

ผมหอบชุดจัดนิทรรศการและกระเป๋าเดินทางพะรุงพะรัง เดินแยกออกจากลุงตรงไปขึ้นรถไฟ ระหว่างที่ยืนรอให้คนลงและจะเดินขึ้นบันไดไปนั้น ผมก็เห็นลุงเดินมาหาและขอช่วยหิ้วของ ลุงบอกว่า ไม่รอขบวนรถฟรีแล้ว แต่ได้ไปซื้อตั๋วรถด่วนพิเศษเที่ยวเดียวกับผมเพื่อไปลงบางมูลนากซึ่งราคาคงสูงกว่าที่ผมต้องจ่ายอีกหลายบาท และขอช่วยผมหิ้วชุดนิทรรศการขึ้นรถเดินทางไปด้วยกัน...!!!!

สุขภาวะบนชีวิตหนังสือและการอ่าน

ที่มุมหนึ่งของสถานีรถไฟนครสวรรค์ ได้เจียดพื้นที่ส่วนหนึ่งจัดมุมหนังสือและมุมสำหรับนั่งหย่อนใจไปกับการอ่านหนังสือ ทั้งสำหรับผู้โดยสารระหว่างรอรถไฟและสำหรับผู้คนจากชุมชนโดยรอบ แม้จะมีคนเข้าไปนั่งอ่านไม่มากนัก แต่ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการสร้างความสุขกายสบายใจ พร้อมกับขวนขวายเพิ่มพูนความรอบรู้ผ่านประสบการณ์จากการอ่านและพัฒนารสนิยมชีวิตไปกับหนังสือ

ต้นทุนชีวิตและทุนทางสังคม
กับนัยสำคัญต่อมิติ
สุขภาวะอันหลากหลาย

วันนี้ ผมเดินทางไปบ้านเกิดที่หนองบัวอีกครั้งหนึ่ง ต้องนั่งรอรถเมล์ตั้งแต่บ่ายโมงกว่ากระทั่งกว่าห้าโมงเย็น อากาศก็แสนจะร้อนอบอ้าว

ที่ท่ารถเมล์ชุมแสง-หนองบัวนั้น ชาวนาจากหนองบัวคนหนึ่งนั่งรอรถอยู่ข้างผม ในมือถือถุงพลาสติกใส่ประเก็นเครื่องยนต์ไถนาและรถอีแต๋น ออกเดินทางจากหนองบัวด้วยรถเมล์เที่ยวเช้าหกโมงเช้าแล้วต่อรถไฟไปนครสวรรค์ ถือเอาประเก็นที่ขาดและน้ำหล่อเย็นรั่วเข้าลูกสูบเครื่องได้ ไปเทียบกับประเก็นใหม่แล้วซื้อในราคา ๑,๕๐๐ บาทเพื่อเอาไปซ่อมเอง เมื่อซื้่อได้แล้วก็เดินทางกลับกระทั่งมานั่งรอรถเมล์กับผมเมื่อกว่าหกโมงเย็น

ที่จำต้องไปซื้อและซ่อมเองนั้น ก็เนื่องจากว่าหากต้องไปที่ร้านและจ้างช่างที่หนองบัวซ่อมให้ ก็จะต้องไปเข้าคิวรอชาวนาและเกษตรกรที่ไปใช้บริการจากช่างซึ่งมีอยู่อย่างจำกัดเป็นเวลาหลายวัน ซึ่งวงจรการทำนาและการเก็บเกี่ยวผลผลิตของชาวนาจะรอคอยหลายวันไม่ได้

อีกทั้งในการซ่อมนั้น ค่าเปิดเครื่องและค่าซ่อมอย่างเดียวก็จะราคามากกว่า ๑,๘๐๐ บาท หากรวมอะหลั่ยด้วยก็จะต้อง ๒-๓ พันบาทขึ้นไป ชาวนาเจ้านี้จึงต้องเรียนรู้ที่จะไปซื้อของมาซ่อมเองและเวลาทั้งหมดใน ๑ วันนี้คืบหน้าไปเพียงขั้นเดินทางไปซื้ออะหลั่ยเท่านั้น อีกทั้งต้องเดินทางไปกลับกว่า ๒๐๐ กิโลเมตร และต้องสิ้นเวลาทั้งวันจากเช้าตรู่กระทั่งมืดค่ำ

แบบแผนอย่างนี้ คงเป็นความเป็นจริงร่วมกันของผู้คนอีกเป็นจำนวนมากในสังคม ซึ่งถ้าหากเกิดความเจ็บไข้ได้ป่วยและประสบกับปัญหาสุขภาพของตนเอง รวมทั้งของคนรอบข้าง พร้อมกับเกิดความจำเป็นอย่างอื่นที่เกี่ยวกับการทำมาหากินดังเช่นกรณีของชาวนาหนองบัวคนนี้ ผมก็พอจะเห็นแนวโน้มของวิถีปฏิบัติได้ว่า กำลังการซื้อ กำลังการบริโภค รวมทั้งความพยายามเข้าถึง และการใช้ต้นทุนชีวิต ทั้งหลายทั้งปวงของชาวบ้านและคนทำมาหากิน ที่มีอยู่และดำเนินไปท่ามกลางบริบทของชีวิตในสังคมอย่างนี้ จะลงทุนไปที่สุขภาพตนเองหรือการดูแลเครื่องมือทำมาหากินสำหรับตนเองและครอบครัว สุขภาวะของเขาจึงเป็นสุขภาวะที่มีความเชื่อมโยงกับผู้คน การทำมาหากิน และหลายมิติของชีวิตมากทีเดียว

สุขภาวะทางใจจากความเอื้อเฟื้อแบ่งปันกัน

ผมเดินไปกินข้าวมื้อกลางวันที่เพิงร้านค้าท่ารถเมล์ ผมสั่งข้าวผัดกระเพาคลุกกับไข่ดาว แม่ค้าทำให้อย่างพิถีพิถัน อร่อย และต้อนรับขับสู้จนผมเกรงใจ เมื่อกินข้าวเสร็จแล้วเวลาก็เพียงบ่ายโมงกว่าเท่านั้น แม่ค้ามีน้ำใจให้ผมนั่งรอรถเมล์ อีกทั้งถามไถ่หารถที่จะเดินทางจากชุมแสงไปหนองบัวเพื่อฝากให้ผมได้ขึ้นไปลงกลางทางที่บ้านตาลินบ้านผมซึ่งห่างจากชุมแสง ๒๓ กิโลเมตรและอีก ๗ กิโลเมตรจะถึงหนองบัว แต่ก็ไม่มีใครที่จะเดินทางผ่านไปถึงหนองบัวและบ้านผม ผมต้องนั่งรอไปจนกว่าที่รถเมล์จะมาสักเที่ยวหนึ่งประมาณ ๕-๖ โมงเย็น

ผมเลยขอนั่งที่เพิงร้านค้า และนั่งออกแบบกระบวนการเวทีให้กับหน่วยงาน ๒ แห่งที่ได้เชิญผมไปบรรยายและเป็นวิทยากรให้ในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จนเสร็จเรียบร้อย ทั้งสามารถส่งอีเมล์ให้เจ้าของงานได้นำไปพิจารณาปรับแต่งหรือดำเนินการต่อไปตามอัธยาศัยได้อีกด้วย 

แม่ค้าอุตส่าห์ไปถอดปลั๊กพัดลมซึ่งมีอยู่ตัวเดียวในร้านมาให้  ไม่มีฝาครอบใบพัด เมื่อกดปุ่มใบพัดลมก็หมุนสั่นสะท้านไปทั้งหมด จึงนอกจากจะไม่ช่วยให้เย็นแล้ว ลมจากพัดลมก็ช่วยเสริมให้รู้สึกร้อนผ่าวมากเข้าไปอีก ผมร้อนอบอ้าวจนมึนหัว เหนียวตัวและคันเหนอะหนะตามคอ เกาและลูบไปตรงไหนก็มีแต่เหงื่อไคลหลุดออกมาเป็นก้อนจนแทบจะปั้นลูกกระสุนหนังสะติ๊กได้ แต่ก็อยากนั่งรอรถเมล์และทำงานไปพลางอยู่ในเพิง เพราะแม้จะร้อนอบอ้าวเพียงไหน ก็ให้แสนจะชุ่มชื่นใจไปกับน้ำใจที่ผู้คนแบ่งปันให้กันอย่างนี้

เป็นชีวิตและโลกรอบข้างอีกมิติหนึ่ง ที่ให้ความสุขใจ ความบันดาลใจ และได้ความประทับใจมาก.

หมายเลขบันทึก: 486113เขียนเมื่อ 26 เมษายน 2012 01:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 กันยายน 2013 22:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

ดูภาพบนสุดแล้ว
รู้สึกผ่อนคลายดีจัง

กราบนมัสการท่านพระอาจารย์มหาแลครับ

ผมจะไปนอนอยู่บ้านหนองบัวสัก ๓-๔ วันครับ จะถือโอกาสนั่งทำงาน อ่านหนังสือ และเตรียมจัดเวทีถอดบทเรียนคนหนองบัว เพื่อรวบรวมบทเรียนและองค์ความรู้การปฏิบัติ รวมทั้งหาแนวริเริ่มทำสิ่งต่างๆที่พอจะทำกันได้ในโอกาสต่อๆไป ผมจะบอกกล่าว เชิญชวน และช่วยกันประสานงานต่างๆไปเรื่อยๆไปด้วยนะครับ

                        

คล้ายๆว่าพอจะสื่อความหมายและได้ความรู้สึกอย่างในคำขวัญที่คนทั่วไปคุ้นเคยกันดีที่ว่า หลับเถิดประชา ทหารกล้าจะคุ้มภัย ไปด้วยได้เหมือนกันเลยนะครับว่า แต่นี่ยิ่งดูมีความสุขสบายมากกว่านั้นอีก เพราะชาวบ้านก็นอนทอดหุ่ย และทหารก็ได้เดินทางกลับบ้าน สื่อได้ว่ารอบข้างมีความสงบสุข ศานติ และสบายอกสบายใจ

                        

คล้ายๆว่าพอจะสื่อความหมายและได้ความรู้สึกอย่างในคำขวัญที่คนทั่วไปคุ้นเคยกันดีที่ว่า หลับเถิดประชา ทหารกล้าจะคุ้มภัย ไปด้วยได้เหมือนกันเลยนะครับ ยิ่งไปกว่านั้น นี่ยิ่งดูมีความสุขสบายมากกว่านั้นอีกนะครับเนี่ย เพราะชาวบ้านก็นอนทอดหุ่ย และทหารก็ได้เดินทางกลับบ้าน สื่อได้ว่ารอบข้างมีความสงบสุข ศานติ และสบายอกสบายใจ จังหวะมันพอดีน่ะครับ

My eye sight must be getting worse, I can't see plastic bags on railways, roads, in all the pictures. Last time I was at a railway station, plastic bags were dancing in the winds.

Things are changing. Now Thailand looks clean and there are plastic bags on roadsides of Dreamland ;-)

ที่สถานีรถไฟนครสวรรค์กับท่ารถเมล์ชุมแสงนี่ ปลอดถุงพลาสติกและขยะ รวมทั้งก้นบุหรี่และไม่ค่อยมีคนสูบบุหรี่ สะอาดสะอ้านมากเลยนะครับ หลายจังหวัดที่ผมไปก็ไม่ค่อยได้เห็นสะอาดอย่างนี้ ....เห็นด้วยครับว่าสิ่งต่างๆได้เปลี่ยนแปลงจากอดีตมากแล้วอย่างที่คุณ sr ว่าเลย แต่ที่ว่าเดี๋ยวนี้ไทยแลนด์สะอาด และยังมีถุงพลาสติกอยู่บนรายทางสู่ดรีมแลนด์นี่ ผู้คนคงยังไม่รู้กระมังครับว่า ห่อและบรรจุภัณฑ์สำหรับดูแลความฝันนั้น สำคัญมากต่อการมุ่งไปสู่ดรีมแลนด์

อ่านบันทึกนี้แล้วชอบเป็นพิเศษค่ะ เหมือนได้เดินทางไปกับอาจารย์ด้วยคะ :)

ได้เห็นสภาพสังคม เห็นสภาพความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองในแต่ละช่วง แล้วก็ได้ความสนุกไปอีกแบบครับอาจารย์ดร.จันทวรรณครับ

การเดินทางที่ช้าลง ทำให้เราได้เห็นรายละเอียดของชีวิตที่เราได้พบพานระหว่างทาง ซึ่งชีวิตคนทำงานที่เร่งรีบ ต้องการความสะดวกสบาย มักไม่ได้พบ พวกเขาสะดวกสบายทว่าเปลี่ยวเหงา เนื่องเพราะไม่ได้ปฏิสัมพันธ์กับผู้คนด้วยหัวใจ

เคยพบเจอคนร่ำรวยแต่อ้างว้างอยู่บ้างโดยบังเอิญ ชีวิตที่ปลอดจากภาระทางการเงิน ไม่ต้องดิ้นรนอะไรมากนัก กลับทำให้เขารู้สึกว่างเปล่า ต้องการหาความหมายในการมีชีวิตอยู่

ระยะหลังเริ่มพบเห็นคนทำงานด้านสุขภาวะหลาย ๆ คน กลับมีสุขภาวะที่ไม่ดีนัก รู้สึกสะท้อนใจว่า หน้าที่การงานกับความเป็นไปในชีวิตของพวกเขา ดูไม่ไปด้วยกันเลย เมื่อยังสร้างสุขภาวะให้แก่ตนเองไม่ได้ จะผลักดันให้เกิดสุขภาวะที่ดีในวงกว้างได้ละหรือ เป็นคำถามที่ติดค้างในใจจริง ๆ คิดเอาเองว่า หน้าที่การงานและวิถีชีวิตน่าจะเดินคู่กันไปได้ และส่งเสริมกันและกัน

ขอบคุณบันทึกดี ๆ บันทึกนี้ของอาจารย์ค่ะ เห็นได้เลยว่า อาจารย์เป็นคนที่อยู่ ณ แห่งหนใด ก็เปล่งรัศมีของความเป็นมิตรและความอบอุ่นให้แก่ผู้คนรอบข้างเสมอ ..^__^..

 

ถ่ายทอดและสะท้อนภาพอย่างนี้ขึ้นมาเยอะๆ น่าจะทำให้เกิดภาพความเป็นจริงอีกด้านหนึ่งของสังคมเยอะๆและทำให้ผู้คนโดยเฉพาะภาครัฐและองค์กรของรัฐในท้องถิ่น ได้ความคิดในการจัดสรรและพัฒนาพื้นที่ความเป็นส่วนรวมที่ดูแลทางด้านจิตใจด้วยและระบบที่อำนวยความสะดวกการดำเนินชีวิตของคนทำมาหากิน ที่ใช้ได้ มีโอกาสพัฒนาชีวิตและให้รสนิยมชีวิตที่ดี มากยิ่งๆขึ้น สักนิดหนึ่ง แต่เกิดขึ้นเรื่อยๆก็ดีเหมือนกันนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท