มวยไชยา ลำดับขั้น และ สายคาดเอว ตอนแรก


เริ่มจากการที่เราไม่รู้ก่อน มีความดำมืดในใจ จนไปสู่ด้านสว่างคือสีขาว

เริ่มกันให้เข้าใจก่อนว่า ระบบลำดับขั้น หรือ สายคาดเอวนี้ ตามปกติแล้วก็ไม่มีใน มวยไทย หรือ มวยไชยา นะครับ สมัยผมเข้ามาเริ่มฝึกนั้นก็ไม่มีครับ เพราะตามปกติแล้ว ครูมวย ก็จะสอนโดยมองความสามารถของลูกศิษย์ ผ่านตาของท่านเอง เพราะท่านจะสามารถรู้และรับทราบได้อยู่แล้วว่า ลูกศิษย์แต่ละคนนั้นมีความสามารถถึงขั้นไหน เด่นในด้านใด ท่านก็จะสอนให้ตามนั้น ค่อยๆถ่ายทอดวิชาไปตามความก้าวหน้าของลูกศิษย์คนนั้น ซึ่งก็ทำให้แต่ละท่านนั้นได้ฝึกฝนตามความสามารถของตนเอง แต่จริงๆในเคล็ดวิชาเองก็มีการแบ่งแยกลำดับขั้นไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น

 

เหยาะ ย่าง ยัก เยื้อง

ป้อง ปัด ปิด เปิด

ถด ถอย เหาะ เหิร

ทุ่ม ทับ จับ หัก เป็นต้น

 

แต่ มันก็มีจุดเสียตรงที่ว่า ลูกศิษย์แต่ละท่านก็ได้เทคนิควิธีการมาคนละอย่าง คนละแบบ สูง ต่ำ สั้น ยาว อ้วน ผอม ขยัน ขี้เกียจ ซึ่งบางคนอาจจะไม่เข้าใจว่า ทำไมครูสอนเทคนิคนี้กับคนนี้ ทำไมไม่สอนผม เพราะครูมวยท่านวิเคราะห์ไว้แล้วว่า คนนี้น่าจะฝึกแบบนี้ถึงจะเหมาะ แต่จริงๆหลักๆแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับขยันไม่ขยันนะแหละครับ

 

ปัญหา อีกอย่างนึงคือ การที่ไม่สามารถรู้ได้ว่า คนที่ฝึกมวยไชยานั้น อยู่ในขั้นใด ซึ่งในปัจจุบันทำให้มีคนแอบอ้าง มาเป็นครูมวยโบราณกันอย่างมากมาย เพราะไม่มีจุดชี้วัดว่า คนใดมีความรู้แค่ไหน บางคนนั้นเรียน 3 วันก็ออกมาสอนได้ บางคนไม่เคยเรียนโดยตรงเลยก็มี ดูวีดีโอ แล้วนำมาสอนก็ยังเคยเจอ

 

นี่คือสิ่งที่ผมคิดว่าน่าจะควรมี มาตรฐานที่เกิดขึ้นบ้างเพื่อให้รู้ว่า อย่างน้อยคนที่มาสอนท่านนั้น มีความรู้ ความน่าเชื่อถือเพียงใด สมัยก่อนครูมวยนั้นจะส่งผ่านต่อกันโดยอาจจะมีการครอบครูให้เพื่อเป็น สัญลักษณ์ถึงการรับรองว่า คนที่ได้รับการครอบครูนั้นสามารถสอนได้ ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องวิชาการ แต่หมายถึง นิสัย ความเป็นครู ความเหมาะสม แต่ ณ ปัจจุบัน หลังจากมวยไชยาเริ่มเติบโต ก็เริ่มมีคนเข้ามาแอบอ้างกันมากมายตามที่กล่าวไป

 

ซึ่งเท่าที่ ผมทราบมาจริงๆเรื่องระบบลำดับขั้นนี้ สมัยครูทองนั้นก็เคยคิดเอาไว้เรื่องการใช้ มงคล หรือ ประเจียดในการแบ่งขั้น เพียงแต่เมื่อตรองดูแล้วมันก็ไม่เหมาะเท่าไหร่ เพราะ มงคลและประเจียดเป็นของสูง จะนำมามีสีนั้นสีนี้ก็ดูแปลกๆ และ ปกติแล้วการฝึกซ้อมก็ไม่ได้สวม มงคลหรือประเจียดอยู่แล้ว จึงยกเลิกไป ซึ่งปัจจุบันสมาคมครูมวยไทย ใช้ มงคล ในการแบ่งขั้นนะครับ ครูแปรงเองได้ขั้น ปรมาจารย์มงคลทอง แต่ครูแปรงเองไม่ได้คิดว่าเป็นการยืนยันอะไรในตัววิชามวยไชยา เพราะถือว่าเป็นการให้จากผู้ที่ไม่ได้มาจากสายมวยไชยา และ สำคัญคือไม่ได้เป็นครูของครูแปรงเป็นผู้มอบให้

 

ครูแปรงเอง ซึ่งช่วยครูทองสอนและรวบรวมข้อมูลของวิชามวยไชยามาตลอด เมื่อครูทองเสียและมีรุ่นน้องมาบอกว่าเมื่อครูทองสั่งไว้ว่าครูตาย ใครอยากเรียนมวยให้ไปหาแปรง ครูแปรงก็ยึดถือว่าเป็นคำสั่งของครูบาอาจารย์ที่เหมือนให้ช่วยสืบทอดวิชานี้ ต่อไป ท่านจึงเผยแพร่ และพยายามสร้างระบบขึ้นมาเพื่อไม่ให้มวยไชยา ต้องขาดผู้สืบทอดเหมือนยุคของท่านที่มีกลุ่มเล็กๆและมีคนสนใจจะสอนมวยนี้ นั้นก็หาได้ยากเหลือเกิน

 

ครูเองก็ได้เริ่มปรับปรุงในส่วนของ ทั้งภาพลักษณ์และการถ่ายทอดความรู้มาโดยตลอด เช่นการทำชุดฝึกเพื่อให้เหมือนกันทุกคน และ เปลี่ยนภาพลักษณ์ที่ว่ามวยไทยต้องถอดเสื้อฝึกซ้อม ผู้หญิงบางท่านก็อาจจะลำบาก แต่เมื่อมีชุดฝึก ซึ่งก็ดูสุภาพด้วย ดูดีด้วย มีเอกลักษณ์ไทยด้วยก็ทำให้ภาพลักษณ์ตรงนี้ดูดีขึ้นมา (แม้ว่าจะเป็นมวยคาดเชือก ที่หลายคนก็เข้าใจไปว่ามันโหดร้าย)

 

ต่อ มาในการประชุมก็มีการเสนอว่า น่าจะมีสายสี เพื่อแบ่งขั้นให้ชัดเจน ซึ่งครูแปรงเองท่านก็คิดว่าน่าจะเหมาะสม ตอนแรกนั้นเป็นผ้าขาวม้า ต่อมาก็เป็นผ้าสีแดง และกลายเป็นสายแต่ก็ยังใช้สายแบบถักเอง ซึ่งอาจจะแตกต่างจากสายของวิชาอื่นๆอย่าง เทควันโด้ ยูโด คาราเต้ เพราะครูแปรงเองก็อยากให้มีเอกลักษณ์ของไทยในสิ่งเหล่านั้น พร้อมทั้งตัวสายยังนำมาใช้ป้องกันตัวได้อีกด้วยต่างหาก ซึ่งครูทองได้เคยสอนครูแปรง ถึงการใช้เชือกกระดูกงู ซึ่งเป็นวิชาหนึ่งในเคล็ดวิชาอาวุธไทยโบราณ ว่าด้วยของอ่อน อีกทั้งครูแปรงได้เรียนและสอนอาวุธไทย จึงได้เรียนรู้สิงนี้มา ซึ่งมีความพลิกแพลงได้หลากหลาย จึงได้แฝงวิชานี้อยู่ในเชือกที่มอบให้แก่ลูกศิษย์ ซึ่งจะสอนในขั้นสูงต่อไป

 

ลำดับขั้นและสายของ มวยไชยา บ้านครูแปรงก็อาจจะแปลกกว่าที่อื่น ตรงเริ่มที่สายดำเลยคือ ตามความคิดของครูแปรงซึ่งอิงกับหลักศาสนาว่า มันเริ่มจากการที่เราไม่รู้ก่อน มีความดำมืดในใจ เมื่อเรามาเรียนมวยไชยา เราได้ศึกษาทั้งมวยและตนเองไปพร้อมๆกัน ก็จะค่อยๆกระเทาะเปลือกแห่งความไม่รู้ออกไป จนไปสู่ด้านสว่างคือสีขาว และ ขั้นสูงสุดคือสีทอง เป็นความรุ่งเรืองทางจิตใจและวิชาการ แต่สีทองนี่ก็เป็นเพียงการเริ่มที่เราได้เรียนขั้นพื้นฐานไปแล้ว ต่อไปก็เป็นขั้นครู ที่ต้องคิดวิเคราห์เรียนรู้มากขึ้นกว่าเดิมครับ เพราะวิชามันเรียนได้ไม่รู้จบครับ จริงๆในแต่ละขั้นนั้นก็มีความหมายลึกซึ้งละเอียดกว่านี้นะครับ เพียงแต่คงไม่จำเป็นต้องพูดในเบื้องต้น

 

จบเรื่องความเป็นมาของ ลำดับขั้น และ สายคาดเอว ตอนแรกก่อนครับ เดียวจะยาวเกินไป

หมายเลขบันทึก: 485625เขียนเมื่อ 20 เมษายน 2012 13:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 15:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท