ภาษาทางการตลาดน่ารู้


คำศัพท์เทคนิคทางการตลาดที่น่าจดจำ

1. ถ้าเห็นสาวสวยในงานเลี้ยงจนอดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปหาแล้วพูดว่า “ผมฐานะดี แต่งงานกับผมเถอะ”นั่นคือการตลาดแบบทางตรง(Direct Marketing)

2. หากกำลังอยู่กลางกลุ่มเพื่อนแล้วเหลือบไปเห็นสาวสวยในงานเลี้ยงเพื่อนดันทะลึ่งเดินไปหาเธอแล้วชี้มาที่เราแล้วพูดว่า“ผู้ชายคนนั้นฐานะดี คุณน่าจะแต่งงานกับเขานะ”นี่คือการโฆษณา(Advertising)

3. เมื่อเห็นสาวสวยในงานเลี้ยงจนอดใจไม่ได้ที่จะเดินไปหาขอแลกเบอร์โทรศัพท์กันไว้พอสร่างเมาก็โทรกลับไปหาเธอ และพูดว่า “สวัสดีครับ ผมฐานะดีแต่งงานกับผมเถอะ” เรียกว่า การขายทางโทรศัพท์ (Telemarketing)

4. เมื่อเห็นสาวสวยในงานเลี้ยง จนต้องเดินไปหาพร้อมบริการเครื่องดื่มให้ เปิดประตู(รถ)ให้หากเธอทำกระเป๋าตกก็ช่วยเก็บ อาสาเป็นสารถี และพูดว่า “นอกจากนี้ผมยังฐานะดีด้วย คุณจะแต่งงานกับผมไหม” แบบนี้เรียก การประชาสัมพันธ์(Public Relation)

5. ถ้ากำลังอยู่ในงานเลี้ยงดีๆ ก็มีสาวสวยเดินมาหาคุณพร้อมบอกคุณว่า “คุณฐานะดี จะแต่งงานกับฉันไหม?”นั่นคือการจดจำตราสินค้า (Brand Recognition)

6. เมื่อคุณเดินไปหาและพูดว่า “ผมฐานะดี แต่งงานกับผมเถอะ”และเธอก็ตบหน้าคุณฉาดหนึ่ง นั่นคือ การตอบรับจากลูกค้า (Customer Feedback)

7. เห็นสาวสวยในงานเลี้ยงจนต้องเดินเข้าไปหา และพูดว่า “ผมฐานะดีแต่งงานกับผมเถอะ” และเธอก็แนะนำสามีเธอให้คุณรู้จักนั่นคือช่องว่างระหว่างอุปทานและอุปสงค์ (Demand and supply gap)

8. คุณเห็นสาวสวยในงานเลี้ยง คุณเดินเข้าไปหา และก่อนจะพูดอะไรมีคนอื่นเข้ามาและบอกเธอว่า “ผมฐานะดี แต่งงานกับผมเถอะ”แต่เธอก็ไปกับชายคนนั้น แสดงว่าคุณกำลังเสียส่วนแบ่งการตลาด (Market Segmentation)

9. ถ้าคุณเห็นสาวสวยในงานเลี้ยงแล้วเดินเข้าไปหาเพื่อพูดว่า“ผมฐานะดี แต่งงานกับผมเถอะ” ภรรยาของคุณก็มาถึงนั่นคือข้อควรระว้งก่อนเข้าสู่ตลาดใหม่ (Restriction for Entering newmarket)

10. ถ้าคุณเห็นสาวนสวยในงานเลี้ยงแล้วเดินเข้าไปพูดว่า "คุณสวยมากคืนนี้ไปนอนกับผมนะ เธอตอบตกลง และทั้งสองคนก็ไปร่วมทำกิจกรรมกัน"คุณกำลังร่วมกันจัดกิจกรรมทางการตลาด (Event Marketing)

11. ถ้าสาวสวยที่คุณพาไปร่วมทำกิจกรรมทางการตลาด Event Marketingด้วยกันมา เธอโทรมาหาคุณแล้วขอนัดกันไปทำกิจกรรมร่วมกันอีกครั้งภาษาการตลาดเค้าเรียกว่า การภักดีต่อตราสินค้า (Customer Loyalty)

12. หลังจากการทำกิจกรรมครั้งที่ 2 จบแล้วฝ่ายหญิงเธอรู้สึกปลื้มปิติและมีความสุขมาก อย่างนี้เรียกได้ว่ามีความพึงพอใจต่อการให้บริการ (Customer satisfaction)

13. แต่ถ้าหากเธอพึงพอใจมาก จนถึงกับเอ่ยปากขอคุณเป็นแฟนแต่คุณบอกว่าคงไม่ได้ เพราะคุณมีแฟนอยู่แล้ว ภาษาการตลาดเค้าเรียกว่า(Entry barrier)

14. ฝ่ายหญิงเธอบอกว่าไม่เป็นไรเธอคงต้องไปเป็นแฟนคนอื่นที่ไม่มีเจ้าของ ภาษาการตลาดเรียกว่าเป็นการหลีกเลี่ยงจากน่านน้ำสีเลือด (Red ocean) ไปสู่น่านน้ำสีคราม(Blue ocean) แต่ถ้าหากเธอกำลังมองหารักแท้ ที่ฝ่ายชาย(ผู้ผลิต/ผู้ขาย) ดูแลฝ่ายหญิง (ลูกค้า) ด้วยความรักอย่างแท้จริงแบบนี้ภาษาทางการตลาดยุคใหม่ เรียกว่า น่านน้ำแห่งความรัก (Love Ocean)

15. ถ้าคุณเห็นสาวสวยในงานเลี้ยงแล้วคุณเดินเข้าไปถามเธอว่า"ชื่ออะไรครับ มากับใครเหรอครับ มานานยังครับ ทำงานที่ไหนครับมีแฟนหรือยังครับ" นั่นคือส่วนหนึ่งของการวิจัยการตลาด (Marketing Research)

16. ถ้าเจอสาวสวยในงานเลี้ยงแล้วคุณเดินไปหาแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรเธอกลับบอกว่า ฉันรู้ว่าคุณฐานะดี แต่มีนิสัยเจ้าชู้และจีบหญิงไปทั่วดังนั้นโปรดอยู่ห่างๆดิฉัน แบบนี้เรียกได้ว่าเธอรู้ภาพลักษณ์ของคุณเข้าแล้ว ภาษาการตลาดเรียกว่า (Brand Image)

17. ถ้าคุณขอ ID Line มา เพื่อใช้ในการติดต่อกันในโอกาสต่อ ๆ ไปเพื่อให้เกิดการสร้างความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องในโลกของ ออนไลน์แบบนี้เรียกว่า (Social Marketing)

18. ข้อความในการสื่อสารที่คุณใช้กับเธอหากคุณสื่อสารแบบตรงไปตรงมา เน้นการขาย "ผมฐานะดี แต่งงานกับผมเหอะ" แบบนี้เรียกว่า Hard Sell แต่ถ้าการสื่อสารเป็นแบบ จูงใจด้านอารมณ์ "ผมชอบไปทานอาหารที่...... ชอบฟังเพลง ...... สร้างความโรแมนติก ฯลฯ" แบบนี้เรียก Soft Sell

19. หากคุณสามารถชวนสาวสวยคนที่เจอในงานเลี้ยงนั้น ให้ย้ายออกจากสามีของเธอไปอยู่กับคุณ นั่น คือ Disruptive Innovation

 

อ้างอิง ส่วนใหญ่ของข้อมูลนี้ได้มาจากนักศึกษาในชั้นเรียนของ อาจารย์คิตตี้ : กิตติพันธ์ คงสวัสดิ์เกียรติ

หมายเลขบันทึก: 481219เขียนเมื่อ 7 มีนาคม 2012 07:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม 2017 21:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท