เปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดี...


           ทำอย่างไรเราถึงจะเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีได้...?

           พระพุทธเจ้าท่านสอนเราว่า ในเบื้องต้นให้รักษาศีล "เพราะศีลนี้เป็นบาตรฐานเป็นพื้นฐานของความดี" ถ้าเราไม่มีศีล ความดีมันก็เกิดขึ้นมาไม่ได้ ท่านถึงได้วางกฎระเบียบไว้ ให้โยมทั่ว ๆ ไปรักษาศีล ๕ ให้มีศีล ๕ วันพระ วันอุโบสถก็ให้มีศีล ๘ ศีลอุโบสถ สามเณรก็รักษาศีล ๑๐ พระก็รักษาศีล ๒๒๗

 Large_tt8033

           การรักษาศีลนั้น ขึ้นอยู่ที่เราตั้งใจว่าจะทำสิ่ง ตั้งเจตนาว่าจะเป็นคนที่ละอายต่อบาป เกรงกลัวต่อบาป ไม่กล้าคิด ไม่กล้าพูด ไม่กล้าทำ...

 

           คนเราที่ผิดศีลแล้วมันขาดความละอาย มันไม่เกรงกลัวต่อบาป ไม่ละอายต่อบาป

           “คนเรานะถ้าไม่มีศีลมันคบกันได้ยาก ไม่เป็นที่ไว้วางใจให้กับคนอื่น แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่ไว้ใจตัวเอง”

 

           พระอริยเจ้าท่านถึงเป็นผู้ที่มีศีล มีข้อวัตรปฏิบัติ ผู้ที่จะรักษาศีลได้คือผู้ที่มีสมาธิเป็นธรรมชาติ

           สมาธิที่เป็นธรรมชาติก็ได้แก่ การตั้งเจตนาไว้ว่าสิ่งไหนที่เราสมาทานแล้ว เราต้องประพฤติปฏิบัติให้เป็นปกติในชีวิตประจำวัน มีความหนักแน่น มีความมั่นคง ไม่ว่าสิ่งไหนจะเกิดขึ้นต่อเราในชีวิตประจำวัน เราต้องไม่ง่อนแง่นคลอนแคลน ไม่หวั่นไหว

 Large_tonkla044

           ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเอาศีลไว้ก่อน เอาข้อวัตรปฏิบัติไว้ก่อน “ยึดมั่นตั้งมั่นว่าเราจะมีความสุข มีความพอใจในการรักษาศีล”

 

           ต้องเอาสมาธิเข้ามาช่วย เอาความหนักแน่นความเข้มแข็งเข้ามาช่วย เดี๋ยวทุกอย่างมันก็จะผ่านพ้นไปในทางที่ดี

           คนเราถ้าไม่ได้ตามใจตัวเองมันก็เครียด มันจะเครียดก็ช่างหัวมัน อย่าไปทำผิดศีลนะ

 Large_tt8060

 

 

           เราจะข้ามน้ำ ข้ามทะเลมันก็ต้องอาศัยยานพาหนะ เราจะข้ามวัฏฏะสงสารเราก็ต้องอาศัยศีล

           มันต้องมีหลักการ ต้องมีจุดยืน เราจะไปสะเปะ สะปะไม่ได้ ให้รู้จักไหว้พระสวดมนต์นั่งสมาธิทุกวัน

 

           ปัญหาต่าง ๆ มันไม่ได้มาจากที่อื่น มันอยู่ที่หัวใจของเรา

           หัวใจของเรามันอยากทำตามใจตัวเอง มันทำตามใจตัวเองไม่ได้ มันต้องทำตามศีล ตามธรรม ตามคุณธรรม

 Large_tonkla043

           ศีลนี้เป็นสิ่งที่ดีมาก ช่วยเหลือเราให้หลุดพ้นจากความไม่ดีทั้งหลายทั้งปวง เหมือนกับรถคันใหญ่ ๆ มันติดหล่มก็มีเครื่องวินซ์มาดึงขึ้นไป ศีลนี้จึงทำให้เราละอาสวะที่มันหยาบ ๆ ออกไปจากใจของเราได้

           เช่น ศีลข้อที่ ๑ ท่านให้เราเจริญเมตตามาก ๆ อย่างไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ ไม่มีอะไรที่จะเปลี่ยนแปลงเราได้นอกจากเรามีศีล รักษาศีล

           เพราะความรู้ความเห็นที่เรามีอยู่นี้มันไม่ใช่ศาสนา มันเป็นแต่ปรัชญาเฉย ๆ มันเป็นเพียงปริยัติ ปริยัติมันต้องมีการปฏิบัติมันถึงจะเกิดผล

 

           การประพฤติการปฏิบัติมันเป็นสิ่งที่ยาก เป็นที่บังคับตัวเองทำความดีนะ

           คนเราก็เปรียบเสมือนน้ำไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ มันท่วมบ้านที่อยู่ที่อาศัยหมดนะ

           ต้องมีการปฏิบัติ มันต้องมีเขื่อนใหญ่ ๆ เพื่อจะหยุดน้ำได้ ที่เราเรียนหนังสือตั้งแต่อนุบาลจนถึงปริญญาเอกก็เพื่อที่จะเป็นผู้มีศีล มีสมาธิ มีปัญญา เพื่อจะมาช่วยเหลือตนเอง มาช่วยเหลือผู้อื่น...

Large_tonkla060


พระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ที่องค์พ่อแม่ครูอาจารย์เมตตามอบให้นำมาบรรยาย

วันพฤหัสบดีที่ ๒๒ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๕๔

 

หมายเลขบันทึก: 480673เขียนเมื่อ 2 มีนาคม 2012 06:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 21:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท