"Fear comes from uncertainty. When we are absolutely certain, whether of our worth or worthlessness, we are almost impervious to fear" William Congreve
ความกลัวเกิดจากความรับรู้ถึงความไม่แน่นอน
จะขจัดความกลัวก็ต้องขจัดความไม่แน่นอน
ด้วยการมุ่งมั่นพยายามมีวินัยไม่เฉไฉกับกิเลส
อย่าเพิ่งประมาทกับธงชัยที่เห็นอยู่ตรงหน้าแต่ยังเอื้อมไม่ถึง
จนกว่ามือจะได้สัมผัสเส้นชัยนั่นคือความแน่นอน
แล้วความกลัวจะหมดไปและเสริมพลังให้ชีวิตแกร่งขึ้นอย่างมั่นคง
ว่าชัยชนะนี้ที่เราได้มาเราทำได้ด้วยตัวของเราเอง ...
ปรัชญานี้ได้ยืดถือปฏิบัติมาหลายสิบปี ตั้งแต่สมัยทำงานใหม่ๆ จะมีการ์ดใบเล็กใบหนึ่งที่เก็บไว้ในกระเป๋าตลอดเวลาเป็นรูปผู้หญิงปีนภูเขาสูงชันเพื่อไปให้ถึงธงที่โบกสะบัดอยู่บนยอดเขา ได้ใช้เป็นคติเตือนใจเพื่อสร้างความมุ่งมั่นในการทำงานให้สำเร็จ
แต่แม้ในชีวิตนี้จะได้ทำตามฝันและได้คว้าธงชัยมาหลายครั้ง เส้นทางที่เลือกเดินก็เหมือนกับการปีนภูเขาสูงหลายต่อหลายลูก ร่างกายและจิตใจก็ต้องเหนื่อยล้าเป็นธรรมดา ป่วยบ้าง เครียดบ้าง การทำงานที่ไม่สมดุลย์กับการใช้ชีวิตมันส่งผลเสีย หลายครั้งกลายเป็นความสุขบนความทุกข์...
Source: convoy.tumblr.com via Lany on Pinterest
ตอนนี้เลือกที่จะทำอะไรไม่เกินตัว เพราะชีวิตส่งผลต่องานและงานก็ส่งผลต่อชีวิต มองหาสมดุลย์ให้กับตัวเองและคนที่รักด้วยการทำสิ่งเหล่านี้ให้เป็นกิจวัตร
* รักษาร่างกายให้แข็งแรง
* มองหาความสุข ความง่าย หาความสงบ เล็กๆ น้อยๆ ในจิตใจ
* จิบชาปล่อยวางลดความอยากได้อยากเป็นลง
* ใช้ชีวิตง่ายๆ สบายๆ ไม่เร่งรีบ แต่สร้างระบบให้แก่ชีวิตและการทำงาน
* วางแผนแบ่งงานตามความสำคัญและความเร่งด่วน
* คุยทบทวนการใช้ชีวิตและการทำงานกับคู่ชีวิตที่เป็นทั้งคู่คิดและคู่หู
* ก่อนนอนนั่งดูว่าจะต้องทำอะไรในวันพรุ่งนี้
* ลืมตาตื่นมาตอนเช้ายิ้มกับลูกและสามี
* ดำเนินชีวิตและการทำงานทำตามแผนที่ตั้งไว้
* และพยายามทำงานให้เสร็จทีละอย่าง
* ระหว่างทำงานแต่ละชั่วโมงเสร็จก็หยุดและพยายามนั่งสมาธิให้ได้สัก 5 นาที
* ถ้าหาเวลาไปวัดเพื่อนั่งสมาธิระหว่างวันได้ก็จะทำ
* ตกเย็นหาเวลาเดินวิ่งออกกำลังกายกับคนที่รัก
* และไม่ลืมที่จะบอกรักลูกและสามีบ่อยๆ
... เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว ...
ความสมดุลย์ในชีวิต คือความงามและความสุขของตนและผู้คนรอบข้างนะคะ ขอให้กำลังใจค่ะ
ขออนุโมทนาบุญกุศลที่อาจารย์ััจันได้ทำประโยชน์ให้กับสังคมไทยและประเทศชาติด้วยครับ ;)...
เป็นทั้งเงาและเจ้าของเงาแห่งความสำเร็จ ;)...
ลูกสาวคิดคล้ายๆกัน บังเอิญหรือเป็นวาสนา?
Run towards your fears.
* รักษาร่างกายให้แข็งแรง - Be Healthy
* มองหาความสุข ความง่าย หาความสงบ เล็กๆ น้อยๆ ในจิตใจ - EnJoy Downtime
* จิบชาปล่อยวางลดความอยากได้อยากเป็นลง - Relax
* ใช้ชีวิตง่ายๆ สบายๆ ไม่เร่งรีบ แต่สร้างระบบให้แก่ชีวิตและการทำงาน - Learn to calm yourself
* ดำเนินชีวิตและการทำงานทำตามแผนที่ตั้งไว้ - Embrace self-responsibility
* และพยายามทำงานให้เสร็จทีละอย่าง - Start fresh each day
* ถ้าหาเวลาไปวัดเพื่อนั่งสมาธิระหว่างวันได้ก็จะทำ - Meditate
* และไม่ลืมที่จะบอกรักลูกและสามีบ่อยๆ - Call Mom Often
อาจารย์จัน ลืมไปอีกข้อหนึ่ง - Listen to Music
ฝากเสียงเปียโนมาให้เป็นกำลังใจครับ
รูปแบบการดำเนินชีวิตในแบบที่อาจารย์ถ่ายทอดมา ถือว่าเป็นอุดมคติ ของใครหลายคนเลยทีเดียวค่ะ
...
ชอบบทที่อาจารย์ วิเคราะห์ความกลัวค่ะ
จะขจัดความกลัวก็ต้องขจัดความไม่แน่นอน
สำหรับตัวเอง สิ่งที่เอาใช้ชนะความกลัว คือ ความหวัง
นึกภาพ Self image คนแบบไหนที่เราอยากเป็น
ความคิดของอาจารย์ คล้าย ๆ กับความคิดที่พี่ปฏิบัติอยู่ค่ะ เห็นด้วยจริง ๆ นี่คือ ความสมดุลย์ของชีวิตคนเราที่พึงควรกระทำค่ะ...
ขอบคุณค่ะอาจารย์จัน:)
อ่านบรรทัดสุดท้ายจบ พี่โอ๋ก็ตอบออกมาทันทีว่า นี่ยิ่งกว่าพออีกนะคะ กิจวัตรนี้ถ้าทำได้ทุกวัน ชีวิตก็มีคุณภาพล้นเหลือจนสามารถจะเผื่อแผ่วิถีนี้ให้คนอื่นเห็นได้เลยว่า ชีวิตที่มีความสุขหาได้ไม่ยากเลย
เพียงเท่านี้ก็มีความสุขจริงๆ ค่ะ ขอบคุณทุกท่านมากค่ะ :)
บนเส้นทางชีวิต สำคัญที่สุดคือ จิตใจ
ถ้า "ใจ" สุข ทำอะไรก็สุข
ใจจะสุขได้ ร่างกายซึ่งเป็นที่ตั้งของใจต้องสุขด้วย
ให้เวลาดูแลร่างกาย จิตใจ ทุกวัน
ค้นหาสิ่งที่ร่างกาย จิตใจของเราต้องการ และเชื่อฟัง
นั่นแหละ ความสุข
ถูกทุกอย่างที่อาจารย์พูดถึงทุกวันนี้ก็จัดสรรเวลาและปฏิบัติอยู่ในแนวทางที่อาจารย์ถอดบทเรียนนี้ทุกอย่าง จึงรู้สึกว่า ชีวิตมันก็เป็นเช่นนี้เองค่ะ สุขอยู่ที่ใจ และตัวเราเท่านั้นที่จะทำให้เราสุขหรือทุกข์ได้ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนค่ะ