วันนี้ได้พบคุณแม่ท่านหนึ่งที่เป็นสมาชิกที่มารับบริการที่โรงพยาบาลเราตลอด ตอนนี้มีลูกชาย 3 คน คนที่พามาวันนี้เป็นคนเล็ก 3 ขวบ แต่คนที่คุณแม่กังวลสุดกลับเป็นลูกชายคนโตที่ตอนนี้อยู่ ป.2 แล้วมีปัญหาว่าไม่อยากเรียนหนังสือแล้ว เบื่อ ....
ก็เลยมาสอบถามกันต่อว่าเกิดอะไรขึ้นเหรอ?? คุณแม่เล่าว่าเดิมทีด้วยการที่ลูกเป็นหลานชายคนแรกในครอบครัวคนจีนก็เลยได้รับการเลี้ยงดูแบบตามใจสุดๆ และใส่ความคาดหวังเต็มที่ทั้งเรื่องความสะอาด อนามัย การเรียน แล้วก็ได้ดั่งใจในระยะแรกๆ น้องเลยเป็นเด็กที่อ่านหนังสือได้เร็วกว่าในเด็กวัยเดียวกัน และมีความเป็นคนเจ้าระเบียบในชีวิตประจำวันเต็มที่ แต่เมื่อไปโรงเรียนปัญหาเริ่มเกิด เพราะโรงเรียนนี้มีการแข่งขันสูง เด็กเก่งมีหลายคน เรียนพิเศษกันแทบทุกคน เมื่อผลการเรียนออกมาก็ยังไม่ได้ดีอย่างที่ครอบครัวคาดหวัง ก็เริ่มการตำหนิ เริ่มมีการเปรียบเทียบกับรุ่นน้าๆ ที่เป็นแพทย์กัน คุณแม่ก็เริ่มเครียดเพราะมองเห็นว่าลูกเริ่มปฏิเสธการเรียนแล้ว ....
ถามในมุมมองของแม่บอกว่า ปัญหาส่วนหนึ่งมาจากโรงเรียนด้วย เพราะถ้าเทียบกับห้องลูกคนกลางที่เด็กไม่ได้เก่งมาก ลูกก็เรียนได้อันดับที่ดีสบายๆ แต่ลูกคนโตเก่งและแข่งกันก็เลยดูด้อยกว่าคนอื่น แล้วที่บ้านทำธุรกิจกัน ไม่มีเวลาให้ลูกเท่าไหร่นัก เลยส่งไปเรียนพิเศษติวอย่างเดียว
แล้วตอนนี้คุณแม่พบว่าลูกมีปัญหาสุขภาพอีกเรื่องคือกล้ามเนื้อตาข้างขวาอ่อนแรง (คือคุณแม่ได้พาไปตรวจที่รพ.จุฬา) คิดต่อว่าน่าจะมีผลต่อสมองซีกขวาลูกด้วย เพราะลูกจะไม่ค่อยมีความคิดสร้างสรรเท่าไหร่ แล้วตอนนี้ลูกก็ 8 ขวบแล้ว โอกาสจะพัฒนาลำบากแล้ว แถมมีคนรู้จักกันตาบอดจากโรคนี้ไปแล้ว
....น่าสงสารเด็กคนนี้มาก....เลยยกตัวอย่างให้คุณแม่ฟังเพื่อสะท้อนว่าลองนึกถึง เด็กอายุ 8 ขวบที่ไปโรงเรียน 8 ชั่วโมงแล้วเรียนมาเต็มที่ ตกตอนเย็นส่งไปเรียนพิเศษต่ออีก กลับมาบ้านก็เจอสิ่งแวดล้อมที่มีแต่คำว่า ต้องเรียนเก่งๆๆๆตลอดเวลา ไหวมั้ย???
มันเหมือนกับว่าเราเจอ staff ว๊ากตลอดเวลา ยิ่งถ้าคุณแม่เป็นคนหนึ่งในนั้นด้วย เด็กจะไปหาใครที่เป็นเพื่อน หรือเป็น staff เชียร์เพื่อฟัง และเข้าใจโดยไม่มีคำว่าลูกต้องเรียนเก่งนะ แต่มีกำลังใจให้ พอที่ลูกจะมีพลังเดินต่อไป ....
ก็เลยลองเสนอทางเลือกกันว่า ..
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคุณแม่จะกลับไปทำได้หรือไม่ และคำแนะนำเหมาะสมหรือเปล่า ...เพราะเราก็บอกคุณแม่ว่าให้คำแนะนำในฐานะแม่เหมือนกัน เพราะไม่มีความรู้เรื่องจิตวิทยาเด็ก เพียงแต่ฟังแล้วรู้สึกว่าหนักหนาเหลือเกินสำหรับเด็กตัวกะเปี๊ยกเดียว ที่ต้องมาแบกรับภาระที่เกิดจากความคาดหวังหรือหน้าตาของผู้ใหญ่รอบข้างขนาดนี้
สว้สดีครับ
การมองมุมที่ต่างสร้างความรู้
จะกอบกู้คิดต่างอย่างสร้างสรรค์
วัยละอ่อนสอนให้ถูกปลูกสัมพันธ์
อย่าบีบคั้นบังคับจะกลับพัง
ขอบคุณค่ะอ.ธนา นนทพุทธ เห็นด้วยอย่างมากเลยคะ ทุกอย่างต้องมาจากใจรัก และสนุกที่จะทำ
ตรงนี้ดีมากเลยครับ ให้แม่ฟีงลูกอย่างเดียว ให้ลูกระบายออกมาให้หมด
สำคัญว่า แม่จะคุ้นชินกับการสอน ฟังไม่ทันจบ ก็รีบสอนซะแล้ว
I think you have a good point there, "small man"
...แม่จะคุ้นชินกับการสอน ฟังไม่ทันจบ ก็รีบสอนซะแล้ว...
One other common reaction is "...I am busy with work/finding money/... you have to learn to handle it yourself..."