พาคุณพ่อคุณแม่ไปหาหมอเมื่อ๒๙กุมภาพันธ๋ ๒๕๕๕ และขอบคุณคุณย่าที่อบรมลูกมาดี


วันที่๒๙กุมภาพันธ์๒๕๕๕

         วันนี้สี่ชีวิตออกจากบ้านประมาณตีห้าครึ่งมุ่งหน้าไปรพ.กาฬสินธุ์ ถึงรพ.กาฬสินธุืก่อนแปดโมง ผู้เขียนไปกับคุณพ่อไปยื่นบัตรนัดแล้วไปรอคิวตรวจเลือดซึ่งวันนี้คุณพ่อได้คิวที่๑๑ ได้ตรวจเลือดตั้งแต่ก่อนเก้าโมงจึงได้กินข้าวเช้าเร็วกว่าคราวก่อน

ส่วนพ่อบ้านพาคุณยายไปตรวจกับหมอกระดูกอีกที่หนึ่งแต่มาไม่ตรงวันนัดผู้เขียนพาคุรพ่อไปนั่งรอตรวจเลือดแล้วจึงไปดุคุณแม่เลยได้ไปสอบถามจนทง่าไม่ได้มาตามนัดให้มาค้นบัตรที่ห้องบัตรไปไหมเขาเลยแนะนำให้ไปรับคิวทางหน้าตึกเสียก่อนซึ่งได้คิวที่๓หากผู้เขียนไม่ไปถามคุณแม่คงต้องรออีกนามเพราะเอาบัตรนัดไปยื่นห้องที่เขานัดเลยแต่มาไม่ตรงวันนัดเขาคงไม่ได้เตรียมประวัติไว้ให้คงต้องมาค้นทีหลังก็จะได้รอต่อไปอีกดีแต่ได้ถามจึงไม่ต้องเสียเวลาพอพยาบาลหน้าห้องตรวจมาก็ได้ประวัติแล้วจึงได้ไปเอ็กซเรย์เลยซึ่งผู้พาไปคือพ่อบ้าน เขาเล่าให้ฟังตอนหลังว่าตอนพาคุณแม่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเอ็กซเรย์นั้นคุณยายท่านหนึ่งถามว่าเป็นลูกชายเหรอ เขาบอกว่าเปล่าเป็นลูกเขยคุณยายเลยน้ำตาคลอและบอกว่ายายก็มีลูกอยู่ที่กาฬสินธุ์นะ์แต่ยายก็มากับเพื่อนบ้านพ่อบ้่านก็เลยถามว่ามีเบอร์โทร.ของลูกไหมจะช่วยโทร.บอกให้ว่าคุณแม่มาโรงพยาบาล แต่ คุณยายบอกว่าไม่ต้องหรอกเขาไม่มาหรอกลูกยายที่เขาพอมีงานมีการทำเขาไม่มาดูยายหรอกคนที่หุงข้าวหากับให้ยายกินก็คือลูกคนที่ไม่ค่อยสมประกอบตอนนี้ก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไปไหนแล้วก็ยังไม่รู้เป็นห่วงอยู่ยังไม่กลับเลย พอเอกซเรย์เสร็จพ่อบ้านก็พาคุณแม่มารอที่ห้องตรวจส่วนคุณยายท่านนั้นเอ็กซเรย์ทีหลังเสร็จแล้วเวรเปลพาไปส่งแล้วส่งผิดที่ทางเพื่อนบ้านที่มาด้วยกันก็ตามหาแต่ไม่ทันกันจนในที่สุดก็มีคนมาส่งคุณยายที่ห้องตรวจได้ฟังเรื่องราวของคุณยายแล้วรู้สึกสะเทือนใจสะเทือนใจที่ท่านไม่มีลุกมาด้วยทั้งที่ลูกก็อยู่ใกล้ๆ ขณะเดียวกันก็รู้สึกขอบคุณคุณย่า(แม่ของพ่อบ้าน)ที่อบรมสั่งสอนลูกมาดีมาอยู่กับพ่อตาแม่ยายก็ทำตัวเหมือนลูกช่วยเหลือดูแลด้วยความเต็มใจจนคุณยายนึกว่าเป็นลูกของคุณแม่  หลังจากผู้เขียนไปยื่นขอรับคิวของคุณแม่ได้คิวที่สามแล้วเขาบอกว่าไปรอหน้าห้องตรวจเลยก็เอาคิวไปให้คุณแม่กับพ่อบ้านส่วนผู้เขียนก็มาหน้าห้องตรวจเลือดรอคุรพ่อตรวจเลือดเสร็จแล้วพาคุณพ่อไปกินข้าวแล้วกลับไปรอรับผลเลือดได้ผลเลือดก่อน๑๐โมงแต่คุณหมอยังไม่ได้มาตรวจคงติดตรวจคนไข้ในอยู่ผู้เขียนก็เลยไปดูคุณแม่พอดีเขกำลังจะเรียกเข้าตรวจพอดีเลยไดเ้พาคุณแม่เข้าตรวจ คุณหมอให้ดูผลเอกซเรย์และบอกว่าที่คุณแม่ปวดขาและสะโพกเป็นเพราะกระดูกอ่อนตรงข้อสะโพกข้างขวามันหายหมดแล้วหัวัวกระดูกต้นขาที่ยื่นเข้าไปในเบ้าสะโพกก็เบียดเข้าไปข้างในเหมือนถุูกกระแทกซึ่งอาจจะเป็นเพราะคุณแม่เคยล้มเมื่อไม่นานนี้  คุณหมอบอกว่าวิธีแก้ไขก็คือต้องผ่าตัดจึงจะหายซึ่งคุณแม่คงไม่ผ่าคุณหมอก็เลยให้ยาแก้ปวดไว้เวลาปวดมากและให้ใช้ไม้เท้า  คุณแม่มีกำมือแล้วเหยียดนิ้วลางไม่ออกด้วย คุณหมอว่าเป็นนิ้วล็อกเกิดจากมีพังผืดเกาะตรงนิ้วจึงฉีดยาเข้าตรงโคนนิ้วนั้นแล้วนัดไปดูอีก๒เดือนข้างหน้าเสร็จแล้วก็ให้ไปรับยาก็ให้พ่อบ้่านพาไปส่วนผู้เขียนก็กลับมาหาคุณพ่ออีกหมอมาตรวจแล้วแต่ยังไม่ทันได้ตรวจรออยู่จนเกือบบ่ายโมงจึงได้ตรวจและไปรอรับยาทำเอาคุณพ่อหงุดหงิดพาลจะเลิกไปตรวจที่นี่อีก(ท่านผู้เฒ่านี่เอาใจยากจังก่อนที่จะมาที่กาฬสินะูธุ์ก็ตรวจที่รพ.หนึ่งอยู่ท่านก็ชอบคุณหมอท่านหนึ่งก็อยากตรวจแต่กับท่านนี้เพราะท่านพูดจาดีแต่ผลการรักษาไม่ค่อยจะดีหน้าห้องตรวจพยายามจะเปลี่ยนให้ตรวจกับหมอท่านอื่นบ้างคุณพ่อก็ไม่ยอมขอตรวจแต่กับคนเดียวปรากฏว่าผลการรักษาไม่ดีเลยปวดเข่ามากๆเก๊าฑ์กำเริบจนจะเดินไม่ได้ผู้เขียนเลยชวนมารักษาที่กาฬสินธุ์ดูซึ่งก็ทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆจนทุกวันนี้ท่านก็ดีขึ้นไม่ปวดมากนักคุณหมอที่รักษาท่านอยู่ท่านก็ชื่นชอบเสียอย่างเดียวรอตรวจนานเพราะท่านดูละเอียดแต่ละคนใช้เวลานานท่านก็เลยรอนานเลยหงุดหงิดพาลจะเลิกรักษาด้วย ท่านผู้เฒ่านี่เอาใจยากจังนะคะ)  ตรวจเสร็จรอรับยาก็เกือบบ่ายโมงครึ่งปรากฏว่ายาลดความดันที่เคยใช้นั้นรพ.ไม่ซื้อมาแล้วเพราะราคาแพงเกินไปจึงได้ยาที่เคยกินแล้วบวมจึงถามเภสัชกรว่าเคยกินแล้วบวมถ้ากินอีกจะไม่บวมเหรอเภสัชเลยบอกว่าหากบวมให้มาก่อนนัดพอดียาขนานเก่ายังเหลืออยู่ส่วนหนึ่งคงได้กินขนานใหม่ใกล้ๆวันนัดครั้งต่อไปหากบวมอีกคุณหมอคงพิจารณาให้ยาขนานใหม่ ได้ยาแล้วก็พากับกลับก่อนกลับก็แวะทานอาหารก่อน ได้ไปที่ร้านอาหารขนุนเงินตรงทางเลี่ยงเมืองทางทิศตะวันออกทางจะมาบ้านพอดีเจ้าของร้านเป็นพี่พยาบลที่เกษียณแล้ว พี่ท่านบอกว่าชอบทำอาหารเลยมาเปิดร้าน วันนี้สั่งลาบกับต้มปลาบึกเห็นเครื่องปรุงต้มปลาคล้ายข่าแต่มีสีเหลืองสอบถามได้คำตอบว่าเป็นข่าเหลือง ส่วนพ่อบ้านเนื่องจากวันนี้เป็นวันพระจึงสั่งอาหารมังสวิรัติก็ได้ผัดผักรวมมากินกับข้าวเหนียว ส่วนคุณยายก็กินข้าวเหนียวกับลาบปลาผู้เขียนกับคุณพ่อกินข้าวจ้าวของทางร้านกินอาหารเสร็จแล้วก็พากันกลับถึงบ้านเกือบห้าโมงเย็น กล่าวถึงข้าวคุณแม่ท่านชอบข้าวเหนียวหากกินข้าวไม่มีข้าวเหนียวจะไม่ยอมกิน จึงต้องหาข้าวเหนียวไว้ให้พอดีที่ร้านนี้ไม่มีข้าวเหนียวจึงซื้อไว้ก่อน  มาถึงบ้่านแล้วด้วยความเหนื่อยพ่อบ้านก็เลยหลับรวดเีดียวถึงสองทุ่มจึงได้ลุกไปอาบน้ำแล้วไปอยู่เวรที่โรงเรียน

หมายเลขบันทึก: 480579เขียนเมื่อ 1 มีนาคม 2012 00:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 มีนาคม 2012 05:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ขอบคุณ คุณหมอธิรัมภา อาจารย์ขจิต และอาจารย์ small man ที่มากดให้ดอกไม้ค่ะ ขอบคุณค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท