๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ สำนักงานเกษตรจังหวัดชุมพร ได้มีการสัมมนาประจำปี ๒๕๕๕ (Provincial Workshop) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบาย เป้าหมายและผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดกับองค์กร ประสาน สนับสนุนการดำเนินงานส่งเสริมการเกษตรภายในจังหวัด รวมทั้งเป็นเวทีในการสนับสนุนวิชาการ พัฒนาบุคลากร และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายในจังหวัด โดยใช้การจัดการความรู้เป็นเครื่องมือช่วยในการปฏิบัติงาน และเกิดการเชื่อมโยงในการสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรในระดับพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ บุคคลเป้าหมาย บุคลากรทั้งหมดของสำนักงานเกษตรจังหวัดชุมพรและสำนักงานเกษตรอำเภอทั้ง ๘ อำเภอ
ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร (นายพินิจ เจริญพานิช) ได้มาเป็นประธานในการเปิดการสัมมนาและให้แนวทางในการปฏิบัติงานและการส่งเสริมการเกษตร โดยสรุปดังนี้
๑. ในฐานะข้าราชการขอให้จงภูมิใจเพราะงานราชการเป็นงานของพระเจ้าแผ่นดินต้องทำให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข
๒. นักส่งเสริมการเกษตรต้องทำงานให้ครบวงจร ดูแลเกษตรกรตั้งแต่การผลิต ผลิตให้มีคุณภาพ ปริมาณสอดคล้องกับความต้องการ ราคายุติธรรม มีการวิเคราะห์ พยากรณ์สถานการณ์การผลิต ปัญหาที่คาดว่าจะเกิดขึ้นให้รีบแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อจะได้หาวิธีการป้องกันให้เกิดผลกระทบต่อเกษตรกรน้อยที่สุด
๓. การทำงานต้องมีการกำหนดโจทย์ในการทำงาน โจทย์ในการทำงานด้านการเกษตรของจังหวัดชุมพร มี ๗ ชนิดพืชซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดชุมพร
๓.๑ ยางพารา ปัญหาที่จะเกิดขึ้นเกี่ยวกับแรงงานกรีดยางเนื่องจากเกษตรกรชาวสวนยางของจังหวัดชุมพรจ้างแรงงานจำนวนมากจากภายนอกจังหวัดและภายนอกประเทศหากแรงงานเหล่านั้นกลับภูมิลำเนาเดิมจะทำอย่างไร เพราะฉะนั้นเราต้องมีข้อมูลกำลังแรงงานกรีดยางในพื้นที่ ว่าสวนไหนจ้างแรงงานจำนวนเท่าไหร่ เพื่อจะได้วางแผนการเตรียมการแรงงานทดแทน
๓.๒ ปาล์มน้ำมัน เกษตรกร ลานปาล์ม (จุดรวบรวม) โรงงาน ร่วมกันกำหนดและควบคุมคุณภาพผลผลิต รวมถึงแจ้งกำลังการผลิตของโรงงานและช่วงปิดซ่อมบำรุง อีกประการหนึ่งเกี่ยวกับการเพิ่มมูลค่าต้นปาล์มน้ำมันที่จะต้องตัดโค่นเพื่อปลูกทดแทนต้นปาล์มน้ำมันที่มีอายุมาก โดยเฉพาะปาล์มน้ำมันที่ปลูกหลังพายุเกย์ อย่างเช่น นำไปทำเป็นไม้อัด ปาเก้ หรือนำไปใช้ในกระบวนการผลิตไฟฟ้า
๓.๓ กาแฟ ยกระดับราคาผลผลิตปัจจุบันมีโรงงานแปรรูปผลผลิตเป็นกาแฟผง ที่ตำบลเขาทะลุ อำเภอสวี สามารถช่วยรับซื้อผลผลิตจากสมาชิกได้ในราคาที่สูงกว่าราคาตลาด
๓.๔ ทุเรียน ปัญหาน้อยลงเนื่องจากมีการผลิตนอกฤดูแต่ปัญหาที่ยังพบอยู่คือการตัดทุเรียนอ่อน จะต้องเข้มงวดในเรื่องคุณภาพ
๓.๕ มังคุดและลองกอง ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกปีกรณีให้ผลผลิตราคาต่ำในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยว จึงหาแนวทางในการผลิตนอกฤดู โดยดำเนินการโครงการนำร่องในปี ๒๕๕๕ ถ้าสามารถดำเนินการได้ ๓๐% ของพื้นที่ปลูกน่าจะช่วยลดปัญหาได้
๓.๖ เงาะ เป็นไม้ผลที่มีข้อจำกัดในการพัฒนา และพื้นที่ปลูกลดลงทุกปี
๔.ยุทธศาสตร์รายพืช ช่วยกันคิดทำอย่างไรให้เกษตรกรมีความสุข
นโยบายเกษตรจังหวัดชุมพร (ว่าที่ร้อยโท วรวุฒิ ขอดจันทึก)
นโยบายกรมส่งเสริมการเกษตร ปี ๒๕๕๕
๑. โครงการพระราชดำริ
๒. ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจ
๓. เร่งรัดการช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติ/ฟื้นฟู/เยียวยา
๔. ติดตามสถานการณ์ศัตรูพืชเพื่อวางระบบป้องกัน
๕. ใช้ระบบส่งเสริมการเกษตรเป็นหลักในการปฏิบัติงาน
๖. จัดให้มีอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.)/การมีส่วนร่วม
๗. พัฒนาศักยภาพเกษตรกร/องค์กรเกษตรกร/วิสาหกิจชุมชนและการสร้างเครือข่าย
๘. พัฒนาบุคลากรทุกระดับ
๙. ปฏิบัติงานโครงการและภารกิจทุกเรื่องอย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อบัญญัติในการปฏิบัติงาน ๑๑ ข้อซึ่งปฏิบัติตามภารกิจหลักเพื่อนำพาองค์กรไปสู่ความเป็นเลิศ
๑. แผนยุทธศาสตร์องค์กร
๒. การบริหารบุคคลแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ RBM :Result Based Management
๓. ระบบส่งเสริมการเกษตร
๔. พัฒนาบุคลากร/พัฒนาเครือข่าย
๕. สารสนเทศ (IT)
๖. การจัดการความรู้ (KM)
๗. การบูรณาการปฏิบัติงานกับหน่วยงานภาคี (ทั้งแนวตั้ง / แนวราบ)
๘. ระบบควบคุมภายใน
๙. ยึดคุณธรรม/จริยธรรม ในการปฏิบัติงาน
๑๐. การประชาสัมพันธ์
๑๑. ๓ ภูมิ (ภูมิฐาน ภูมิรู้ ภูมิปัญญา )
“ผมมาเป็นเกษตรจังหวัดชุมพร ผมอยากเห็นและปรารถนาให้มี ๓ สิ่งภายในสำนักงานเกษตรจังหวัด และสำนักงานเกษตรอำเภอทุกอำเภอ
๑. นักบุ๋น ขงเบ้ง หรือ นักวางแผน
๒. นักบู้ นักปฏิบัติจริง
๓. ขุนพิเภก เปรียบเสมือน คนถือสาร”
ไม่มีความเห็น