สวัสเสดยเปียนเหม่ย (เขมร-ขอม-สยาม..ตามภาษา)


คำว่า “ซัวเสดย” ในภาษาเขมรนั้น ผมวิเคราะห์ว่า ลอกมาจากคำว่า “สวัสดี” ของไทย

ซัวเสดย…เปยหม่าย (อีกหลักฐานว่า..เขมรไม่ใช่ขอม)

คำว่า”ซัวเสดย” (หรือ “สวัสดี) ในภาษาเขมรนี้ มีนัยยะให้พิเคราะห์มากหลาย

ผมได้เขียนบทความที่ให้เหตุผลและหลักฐาน ไว้มากหลายว่า เขมรไม่ใช่ขอม แต่ขอมคือสยาม (ซึ่งไม่ใช่ไทยหรอกนะ อย่าเพิ่งหลงภูมิใจ)

ปมด้อยของคนไทยคือมักไปหลงงมงายว่าภาษาเราจำนวนมากนั้น “เลียน” มาจากเขมร ทั้งที่จริงแล้วไม่ได้เลียนหรอก แต่”ลอกมาทั้งดุ้น” ต่างหา ทั้งนี้เพราะสยามกะขอมคือคนคนเดียวกัน (ส่วนเขมรนั้นไม่ใช่ขอม)

พระเจ้าอู่ทอง (ปฐมกษัตริย์แห่งอยุธยา) คือขอม ที่หนีตายมาจากนครวัด เพราะถูกพวกเขมรไล่ฆ่า ......นั่นคือทฤษฎีที่ผมตั้งไว้พร้อมอรรถาธิบาย...(ถ้าไม่เชื่อก็ลบหลู่ได้นะครับ แต่ก่อนจะลบหลู่ขอให้ไปค้นหาบทความเก่าๆผมอ่านให้ละเอียด และคิดให้แตกเสียก่อน ไม่งั้นอาจ”บาป” ที่บังอาจด่าผู้ให้ทานแห่งปัญญาก็เป็นได้นะจ๊ะ)

คนไทยเรามีจุดอ่อนสำคัญตรงที่...เป็นชนชาติทีมีปมด้อย เช่น พอมีอะไรไปพ้องกับเพื่อนบ้านก็ต้องอนุมานไว้ก่อนว่า “เราลอกเขามา” โดยไม่คิดตรงข้ามบ้างเลยว่า “เขาลอกเราไป” .... ยิ่งถ้าไปพ้องกับจีน อินเดีย อินโด ยิ่งแล้วใหญ่ ถ้าไปพ้องกะเขาเมื่อไรนักวิชาการระดับหมา (ด๊อก) เป็นต้องสรุปได้ทันควันว่า เราลอกเขามาแหงๆ

ภาษา “ขอม” ที่ปนมากับภาษาไทยจำนวนมากนั้นก็เช่นกัน นักวิชาการไทยระดับด๊อกสรุปกันแบบง่าวสุดๆไปนานแล้วว่า เราลอก”เขมร”มา .....ทั้งที่ขอมนั้นไม่ใช่เขมร และสยามกะขอมคือคนคนเดียวกัน ...เฮ้อ ต้องให้ขะยม (กระผม) พิมพ์สักกี่ล้านครั้งหว่ากว่าพวกเขาจะ “get” กันสักกระผีก

คำว่า “ซัวเสดย” ในภาษาเขมรนั้น ผมวิเคราะห์ว่า ลอกมาจากคำว่า “สวัสดี” ของไทย ซึ่งมันมีที่มาแบบว่า นักวิชาการหรือชนชั้นสูงเขมร มาอ่านคำว่า สวัสดี ของไทยแล้ว”แยกคำผิด” เป็นสองคำ คือ สวั....สดี จากนั้นอ่าน สวั ว่า ซัว และ สดี ว่า เสดย

อันว่าภาษาเขมรผมได้สังเกตเอาเองโดยไม่เคยเรียนภาษานี้แม้กระผีกว่า เขาจะปรับสำเนียงไทยเป็นสำเนียงเขมรแบบที่แทบกำหนดตายตัวได้เสมอ ....เช่น อา ของเรานั้นเขมรจะออกเสียงเป็น เอีย เสมอ (พระ-เพรียะ วิหาร-วิเหียร์) อี ของเราจะเป็น เอียน เสมอ เช่น มี เป็น เมียน .....ส่วน ไอเป็น เอย เสมอ ชัย เป็น เชย ดังนั้น เมือง อู่ทองมีชัย จึงออกเสียยงเป็น อุดงเมียนเชย ส่วนเขาพระวิหาร ก็เป็น เขาเพรียะวิเหียร์

สำหรับเสียนง อีนั้น เขมรจะลอกเราแล้วออกเสียงเป็น เอย เช่น ปราสาทบันทายศรี ก็เป็น บันทายเสรย (บันทายสะเรย)

ดังนั้นพอเขมรลอก สวั-สดี ของไทยเราไป ก็เลยกลายเป็น “ซัว-เสดย” นั่นเอง

สำหรับข้อที่อาจโต้แย้งว่า สวัสดี ออกเสียงเป็น สวั..สดี ได้งัยนั้น ก็ตอบได้ไม่ยากหรอกครับ เพราะคนไทยเราที่จบปริญญาเอกมาจากนอกด้วยซ้ำ ผมถามว่า คำอังกฤษเหล่านี้ออกเสียงอย่างไร Howard, Stewart, Fuel, Film, Determine ผมรับรองว่าร้อยละ ๙๙ ออกเสียงไม่ถูกและหรือเน้นคำไม่ถูก (แม้แต่พวกสื่อ ศ.ดร. อดีตทูต usa ก็ปล่อยไก่กันมามากแล้ว) ดังนั้นคำว่า สวัสดี นี้พวกเขมรที่ลอกไทยไปก็ทำนองเดียวกันนั่นแหละ

เอ๊ะ...หรือว่า คำว่า สวัสดี นั้นไทยเราลอกมาจาก “ซัวสะเดย” ของเขมร...๕ห้า5

...คนถางทาง (๑๐ มกราคม ๒๕๕๕)

หมายเลขบันทึก: 474264เขียนเมื่อ 10 มกราคม 2012 17:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 ตุลาคม 2012 01:41 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

555 ขะยม เหรอ นี่ถ้าไม่วงเล็บไว้ ก็คงไม่รู้หรอกว่า แปลว่าอะไร ว่าแต่ น่าสงสัย ทำไมสนใจเรื่อง เขมร จัง แถมยังรู้ภาษาเขมรอีกด้วยอ่ะ แต่ก็ชอบฟังภาษาเขมรนะ ฟังแล้วก็ขำ ดี มีพี่ครู คนหนึ่งเค้าอารมณ์ขัน เคยทักทายเราเป็น ภาษาเขมร เล่นๆกัน แต่พอถามว่าแปลว่าไรเหรอ แกก็ซ่ายหน้าว่า ไม่รู้ ฮา มาก อย่างขำ

         คำว่า "สวัสดี" เริ่มใช้โดย พระยาอุปกิตศิลปสาร ซึ่งท่านพิจารณามาจากศัพท์  "สวัสติ" (ภาษาสันสกฤต) หรือ"โสตถิ" (ภาษาบาลี)  ณ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากนั้น ในปี พ.ศ. 2486 จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้นเห็นชอบให้ใช้คำว่า "สวัสดี" เป็นคำทักทายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม เป็นต้นมา 
       "สวัสดี" เป็นภาษาสันสกฤต มาจากคำว่า "สุ" เป็นคำอุปสรรค (คำเติมหน้าศัพท์ที่ทำให้ความหมายของศัพท์เปลี่ยนแปลงไป) แปลว่า ดี งาม หรือ ง่าย และคำว่า "อสฺติ" เป็นคำกิริยาแปลว่า มี แผลงคำว่า "สุ" เป็น "สว" (สฺวะ) ได้โดยเอา "อุ" เป็น "โอ" เอา "โอ" เป็น "สฺว" ตามหลักไวยากรณ์ แล้วสนธิกับคำว่า "อสฺติ" เป็น "สวสฺติ" อ่านว่า สะ-วัด-สะ-ติ แปลว่า "ขอความดีความงามจงมี (แก่ท่าน)"

"ขอมคือสยาม (ซึ่งไม่ใช่ไทยหรอกนะ อย่าเพิ่งหลงภูมิใจ)" -ตกลง"สยาม"ไม่ได้หมายถึง "ไทย"เหรอคะ? แล้ว"สยาม"มีอัตลักษณ์อย่างไรคะ?

"ภาษาเราจำนวนมากนั้น “เลียน” มาจากเขมร ทั้งที่จริงแล้วไม่ได้เลียนหรอก แต่”ลอกมาทั้งดุ้น” ต่างหาก ทั้งนี้เพราะสยามกะขอมคือคนคนเดียวกัน (ส่วนเขมรนั้นไม่ใช่ขอม)" -แล้วภาษาไทยลอกมาจากเขมรหรือขอมกันแน่คะ? แล้ว "สยาม" ก็ไม่ใช่ "ไทย"นี่คะ?

       ภาษาไทยไม่ได้"เลียน"ภาษาเขมรค่ะ แต่รับคำของภาษาเขมรมาทับศัพท์ ใช้แทนสิ่งที่ยังไม่มีคำจำกัดความ หรือใช้ปะปนกันตามวิถีชีวิต ถ้าลอกมาทั้งดุ้นหรือเจ้าของภาษาคือกลุ่มคนเดียวกัน โครงสร้างของภาษาไทยและเขมรควรจะเหมือนกันอย่างกับแกะ และพูดคุยกันได้แทบจะรู้เรื่อง 

"คนไทยเรามีจุดอ่อนสำคัญตรงที่...เป็นชนชาติทีมีปมด้อย เช่น พอมีอะไรไปพ้องกับเพื่อนบ้านก็ต้องอนุมานไว้ก่อนว่า “เราลอกเขามา” โดยไม่คิดตรงข้ามบ้างเลยว่า “เขาลอกเราไป” - ในจุดนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่ประเด็นสำคัญค่ะ เพราะที่สุดแล้วทุกแนวคิดก็จะต้องมีหลักฐานที่มาสนับสนุนให้แนวคิดเหล่านั้นให้เกิดน้ำหนักของความน่าเชื่อถือ ถ้าไม่มีหลักฐานที่มาสนับสนุนก็จะเป็นแนวคิดที่ดูเลื่อนลอย หาข้อสรุปไม่ได้ เราก็จะพูดได้ว่าแนวคิดนั้นมีข้อบกพร่องอย่างไร และข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ปัจจุบันนี้คนไทยเห็นต่างกันมาก รู้สึกว่าคนที่แนวคิดแบบคุณก็ไม่ใช่น้อยเหมือนกันค่ะ

      ในช่วงที่ประเทศไทยเจริญก้าวหน้าจนกล้าที่จะพูดว่า "เหนือกว่าประเทศเพื่อนบ้าน" เป็นเวลาเดียวกันที่สังคมสอนในคนดูถูกดูแคลนชนชาติต่างๆเหล่านั้น และการที่ได้เห็นประเทศไทยมีสภาพที่ดีกว่า(ในมายาคติของโลกาภิวัฒน์) เพื่อนบ้านของเรานั้นก็อยากจะเข้ามาอยู่ มามีชีวิตที่ดีกว่าที่นี่ อีกนัยหนึ่งเหมือนเป็นแรงกระตุ้นให้ประเทศต่างๆ หันมาพัฒนาประเทศเพื่อที่จะได้ทัดเทียมกับเรา การที่กัมพูชานำคำว่า "ซัวเสดย" มาใช้ นั้นก็เป็นนัยว่าเขาพยายามที่จะไล่ตามเรา มองเราเป็นต้นแบบในการพัฒนาประเทศ  อีกหลายๆประเทศก็เช่นกัน 

      * "ขอม" ไม่ใช่ชื่อชนชาติค่ะ แต่เป็นชื่อกลุ่มทางวัฒนธรรม เป็นคำที่คนไทยทางตอนเหนือมักใช้เรียกกลุ่มคนที่อยู่ทางตอนล่างหรือคนกลุ่มที่อยู่บริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา นับถือฮินดูหรือพุทธมหายาน ทางใต้ของแคว้นสุโขทัย อาจจะหมายถึงพวกละโว้ หรือลพบุรี สัญนิษฐานว่ามาจากคำว่า “เขมร”+”กรอม” แปลว่า ใต้,ล่าง  คนไทยส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าขอมคือเขมร เพราะในตำราประวัติศาสตร์ไทยมักใช้คำว่า "เขมร" และ"ขอม" สลับไปสลับมาและยังหมายถึงชนกลุ่มเดียวกัน ทำให้เกิดความสับสน ตอนที่ยังเรียนประถมดิฉันก็เข้าใจเช่นนั้น 

      เพราะฉะนั้นดิฉันขอสรุปว่า "ไทยไม่ใช่ขอม(ในอุดมคติของคุณ) สยามไม่ใช่ขอม(ในอุดมคติของคุณ) และเขมรก็ไม่ใช่ขอม(ในอุดมคติของคุณ) แต่ ไทย(ตอนล่าง)ก็ใช่ขอม สยามก็ใช่ขอม(ถ้าอยู่ในละแวกดังกล่าว) เขมรก็ใช่ขอม(เพราะคนไทยแต่ก่อนก็เรียกรวมๆอย่างนั้น) และ "ขอม" ไม่ใช่ชนชาติ(เพียงคำนิยามที่คนไทยสร้างขึ้น)"  

ปล. ถ้าไม่เชื่อก็ลบหลู่ได้ค่ะ แต่ขอให้ใช้คำสุภาพ และหลักฐานที่เป็นเหตุเป็นผลมาสนับสนุน เป็นกลาง ไม่มีอคติก็เพียงพอค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท