ในขณะที่ผู้คนส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเครือญาติ ผองเพื่อนที่กำลังโลดแล่นไปท่ามกลางกระแสแห่งชีวิต แต่ข้าพเจ้าเองก็เฝ้าดูความโลดแล่นและเป็นไปของตนเองที่เคลื่อนไปดั่งกระแสแห่งสายธารของสภาวะจิต
มีค่ำคืนวันหนึ่งที่ได้ถามตนเอง
ในขณะที่เพื่อนๆ ... ต่างมุ่งหน้าสู่ความก้าวหน้า แต่เรานั้นมานั่งดูใจตนเองท่ามกลางสายลมอันหนาวเหน็บนี้ ทำไมเราจึงไม่ดำเนินไปตามเส้นทางนั้นๆ ดั่งคนอื่นๆ
คำตอบที่ได้ก็คือ แม้ว่าจะดำเนินไปตามเส้นทางเหมือนคนทั่วๆ ไปแต่ ณ วันหนึ่งทุกคนก็ต้องเข้ามาสู่การเรียนรู้เส้นทางนี้ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ดังนั้น สิ่งที่กำลังดำรงอยู่ในทุกวันนี้ คือ โอกาสที่ข้าพเจ้ากำลังได้เรียนรู้ จึงพึงตั้งใจรักษาโอกาสและเรียนรู้สภาวะที่กำลังเผชิญอยู่ ณ ขณะปัจจุบันนี้
ในแต่ละวันของสถานที่เรียนรู้อันร่มเย็นนี้
ข้าพเจ้ามักจะได้ยินไก่เทวดา ขันปลุกแต่เช้ามืดเลย จะว่าไปแล้วก็เมื่อเริ่มต้นเข้าสู่วันใหม่ พวกเขาต่างๆ ก็ส่งเสียงบอกกันเป็นทอดๆ ว่า "เช้าแล้วนะ" ข้าพเจ้าเคยทดลองจับเวลาดู พบว่า ไก่เหล่านี้จะเริ่มขันเมื่อหลังเที่ยงคืน
และจะขันอีกครั้งทุกหนึ่งชั่วโมง คือ ตีหนึ่ง ตีสอง ตีสาม และจะขันไปเรื่อยๆ จนฟ้าสว่าง
จะเป็นเช่นนี้ทุกวัน ข้าพเจ้าจึงเรียกว่า "ไก่เทวดา"
หลังรับข้าวทุกเช้า ข้าพเจ้าจึงมักเหลือข้าวมาเพื่อเลี้ยงไก่เทวดาเหล่านี้ด้วย ซึ่งจะมีหลายตัวมาก เขาจะอาศัยนอนบนต้นไม้สูง กลางวันก็จะทำงานคุ้ยเขี่ยหาอาหาร ยกเว้นบริเวณทางจงกลมที่สังกะลีวัดตัวน้อยมาช่วยกันปรับปรุงให้แก่ข้าพเจ้า คุณไก่ทั้งหลายก็จะไม่มายุ่งเกี่ยว
และพอตกตอนเย็นก็พากันบินขึ้นไปบนคาคบไม้ตามต้นต่างๆ
ช่วงกลางคืนจนถึงรุ่งสาง คือ ช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้ที่ดีมากสำหรับข้าพเจ้า เพราะจะเงียบสงัด และจะมีเพียงเสียงลมและต้นไผ่เสียดสีกัน บางครั้งก็จะมีเสียงนกแปลกๆ แทรกดังขึ้น ทำให้ได้ซึมซับกับความงดงามของธรรมชาติในยามค่ำคืนได้ดี
นั่งบ้าง เดินบ้าง ศึกษาพระไตรปิฎกบ้าง ธรรมะบ้าง
ช่วงเวลาที่ได้มาเรียนรู้เต็มคอร์สเช่นนี้มีเวลาน้อยมาก ข้าพเจ้าปรารถนาที่อยากจะศึกษาเต็มที่ ใช้เวลาอย่างเต็มที่ และขยันให้มากที่สุด
พอช่วงตีสี่ ที่นี่ก็ถือว่าสายแล้วก็เปลี่ยนหน้าที่การงานไปที่ครัวเพื่อไปเตรียมทำอาหาร
จากนั้นพอถึงหกโมงเช้าก็ไปเตรียมตัวดูแลจัดการภารกิจตนเอง
เกือบแปดโมงก็ลงลานธรรมเพื่อรับอาหารเช้า...
หลังรับอาหารเช้าก็เข้าสู่การทำงานยาว ไปจนถึงบ่ายสามก็เปลี่ยนหน้าที่อีกครั้ง คือ การเริ่มกวาดใบไม้ และหกโมงเย็นก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และเตรียมตัวทำวัตรเย็น หลังวัตรเย็นก็ต้องเพียรและตั้งใจทำการงานต่อ ...
เวลาที่นี่เคลื่อนไปเร็วมาก และมีอะไรให้เรียนรู้มากมาย
สิ่งที่ข้าพเจ้าได้บอกตัวเองก็คือ ว่าต้องตั้งใจเรียนรู้และมีความขยันหมั่นเพียรให้มาก ต่อเส้นทางการเรียนรู้อันประเสริฐนี้
...
๒๗ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔
สถานที่ทำงานในปัจจุบัน
เป็นสถานที่ทำงานอันประเสริฐยิ่งเพราะต้องขยันและเพียรมากกว่าการงานทั่วไปหลายเท่า อากาศที่นี่หนาวเย็นมาก ทำให้ได้ฝึกถึงความอดทนในระดับสุด
(บันทึกภาพในเช้าวันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔)
"แต่ ณ วันหนึ่งทุกคนก็ต้องเข้ามาสู่การเรียนรู้เส้นทางนี้ไม่วันใดก็วันหนึ่ง...."
สวัสดีค่ะ,
ยังมีอีกคนหนึ่งค่ะ ที่ยังไม่ได้เริ่มอย่างจริงจังเลย ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
หลายคน..กำลังโลดแล่นไปท่ามกลางกระแสแห่งชีวิต
พี่แก้ว ก็เช่นกัน ยิ่งทำ ยิ่งต้องทำ ...
ขออนุโมทนาบุญ
สุข สงบจงมีแด่อาจารย์ kapoom