เช้านี้เป็นวันอาทิตย์
ข้าพเจ้าชอบที่หมู่บ้านพลัม มีวันขี้เกียจหนึ่งวัน คือ เป็นวันที่หยุดทำงานหยุดทำภารกิจต่างๆ...
แต่สำหรับข้าพเจ้าแล้วในวันนี้ข้าพเจ้าจะต้อง stand by เวรวิกฤติสุขภาพจิต ... เป็นวันแห่งการงานอีกหนึ่งวัน ถือว่าเป็นงานสบายๆ เพราะงานที่หนักกว่านั้นคือ งานดูจิตดูใจ (งานภาวนา) ดังนั้นวันนี้ก็พักงานนั้นให้เบาบางลง แต่ก็ไม่ได้หยุดทำซะทีเดียว
ข้าพเจ้าตั้งข้อสังเกต...
ส่วนใหญ่หากว่าเป็นวันหยุดเช่นนี้
ผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตกำเริบ ก็มักจะมาถึงโรงพยาบาลประมาณ ๘-๙ โมง เพราะเป็นช่วงที่ทั้งคืนผู้ป่วยจะไม่นอนและจะมีอาการ แต่พอใกล้สว่างก็จะเคลิ้มหลับไปไม่นานก็ตื่น แต่ก็เริ่มพอมีอาการสงบญาติจึงมักจะนำส่งในช่วงเวลาประมาณนี้
หรือไม่อีกครั้งก็จะเป็นเวลาช่วงค่ำๆ...
ช่วงที่เริ่มว้าวุ่นในขณะที่คนอื่นๆ เริ่มเข้าสู่การพักผ่อนหลังจากกรำงานมาทั้งวัน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มักจะเอาแน่ไม่ได้ แต่จากห้วงเวลาดังกล่าวข้าพเจ้าลองเก็บสถิติเรื่องเวลาที่มักถูกตามจากแผนกอุบัติเหตุฉุกเฉิน...ความถี่ก็จะเกิดประมาณนี้
ดังนั้นช่วงเวลาดังกล่าวนี้จึงไม่ได้ออกไปวัด
แต่ได้ฝากปัจจัยซื้อของสดทำกับข้าวขึ้นศาลาแล้วในวันนี้
เช้านี้จึงได้อยู่บ้าน นั่งอ่านหนังสือและเข้ามาอ่านเรื่องราวดีดีจากกัลยาณมิตรทั้งใน Gotoknow และ Facebook
เมื่อเช้าได้มีโอกาสพิจารณาร่างกายตนเอง ถึงการทานอาหารต่างๆ ทำให้ร่างกายเกิดความไม่สุขสบายหลายอย่าง ด้วยความที่ย่อหย่อนไม่ระวังตัวทำให้เกิดพิษ (toxin) สำหรับตนเอง
แต่อย่างไรสักพักก็คงจะออกไปบ้านหลังเล็ก ที่แวดล้อมด้วยต้นไม้
เมื่อคืนอะตอมบอกว่าทำไมน้าปุ๋มไม่จำลองต้นไม้มาไว้ที่บ้าน ...ข้าพเจ้าตอบหลานไปว่า ไม่ได้หรอกในขณะที่เรายังมีต้นไม้จริง มีธรรมชาติจริงอยู่เราควรจะก้าวไปสู่สิ่งนั้น เพราะอย่างไรของเทียมก็ไม่สามารถทดแทนของแท้ไปได้หรอก...
...
คุยกับตนเอง
๖ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๔
" เพราะงานที่หนักกว่านั้นคือ งานดูจิตดูใจ (งานภาวนา) "
เป็นอะไรที่ต้องทำความแยบคายอย่างยิ่ง
ไม่เช่นนั้น ข้าพเจ้ามักจะเผิน สำคัญผิดเป็นประจำๆๆ
สาธุๆๆ ขอบคุณมากๆค่ะ
ที่หลังอนามัย...
จะมีป่าสักครับ
ยามง่วง...คิดอะไรไม่ออก...กระวนกระวาย
เดินเข้าไปท่ามกลางต้นสัก
คำตอบก็คลี่คลาย...
และคิดถึงปู่สอน
กับแรงศรัทธาที่ธรรมดา
ต้นไม้ คือ อาจารย์
....
ขอบคุณครับ