ข้าพเจ้าได้รับการบอกกล่าวว่ามีแม่ชีเดินทางมาพักอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นการมาแบบไม่ตั้งใจ เพราะแม่ชีตั้งใจจะติดตามคณะพระภิกษุเดินทางธุดงค์ไปจังหวัดแห่งหนึ่ง แต่ได้ผ่านเมืองยโสธร รถจึงมาแวะส่งไว้ที่วัด
เรื่องราวที่ข้าพเจ้าได้ทราบก็คือ แม่ชีนั้นมักจะมีพฤติกรรมแปลกๆ ไม่ว่าจะเป็นท่าทางหรือการส่งเสียง กลอกตาไปมา ข้าพเจ้าจึงเข้าไปดูอาการแม่ชี
เริ่มต้นด้วยการสนทนาพูดคุยเพื่อทำความรู้จัก และเป็นการสำรวจความคิด ความเชื่อ ทัศนะคติต่อเรื่องต่างๆ ในชีวิต การจัดลำดับเรื่องราวและความต่อเนื่องที่ทางความคิด ร่วมกับการสำรวจอารมณ์ ความรู้สึก พร้อมสังเกตการแสดงออกทางพฤติกรรม
จากการมองดูรูปลักษณ์ภายนอก จะเห็นว่าแม่ชีไม่ได้มีอะไรที่แตกต่างๆ จากคนอื่นๆ ยังดำเนินชีวิตได้ตามปกติ แต่จะมีอาการแสดงก็ต่อเมื่ออยู่ต่อหน้าพระประธาน หรือเวลาที่ทำวัตรสวดมนต์ ก็จะทำมือและส่งเสียงแปลกๆ
ซึ่งเมื่อสอบถาม แม่ชีก็บอกว่าควบคุมตัวเองไม่ได้ เป็นอาการของกิเลส
และมีถ้อยความหลายอย่างที่สะท้อนออกมาให้เห็นถึงความผิดปกติทางความคิด ที่อยู่เหนือออกไปจากความเป็นจริง หรือข้อเท็จจริง
ข้าพเจ้าได้สังเกตอาการอยู่สองวัน พอวันจันทร์จึงตัดสินใจพาแม่ชีมารับการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งจากจิตแพทย์และพิจารณาการได้รับยา
เมื่อได้โทรไปพูดคุยกับลูกๆ ของแม่ชีพบว่าแม่ชีมีอาการมานาน ตั้งแต่ก่อนบวชแต่ไม่ได้รับการรักษา แม่ชีบอกว่าให้ลูกพามาบวชแล้วจะช่วยให้อาการนี้ดีขึ้นได้
เวลาที่ข้าพเจ้าเห็นแม่ชี ก็เกิดความรู้สึกสงสารอยากจะช่วยให้เป็นปกติ เพราะดูความมุ่งมั่นและตั้งใจต่อการปฏิบัติธรรมอย่างมาก แต่เสียดายต้องมาเกิดอาการวิปลาสเกิดขึ้นก่อน ...
แต่แม่ชีเองนั้นก็ไม่ยอมรับการเจ็บป่วยของตนเอง
และปฏิเสธการรักษา ต้องอาศัยการพูดคุยโน้มน้าวให้แม่ชียอมทานยา
หลักการพูดโน้มน้าวนั้น ก็เพื่อให้เกิดเป็นบุญกุศลยึดเอาคิดความเชื่อของแม่ชีมาเป็นเป้าหมายเพื่อที่จะการรักษานั้นดำเนินต่อไป พร้อมกับการทำ Behavior Therapy ควบคู่กันไปด้วย ...และเมื่อแม่ชีสามารถปรับพฤติกรรมได้ ก็ให้กำลังใจ
จากประวัติชีวิตของการเป็นแม่ชีนั้น ไปอยู่ที่วัดไหนก็จะได้รับการรังเกียจและคอยเปลี่ยนวัดไปเรื่อยๆ ฟังดูก็น่าเวทนา แต่ข้าพเจ้าก็เชื่อว่าหากแม่ชีมีโอกาสและรักษาโอกาสไว้ได้ แม่ชีก็จะสามารถได้รับการรักษาหรือเยียวยา
ก็ได้แต่ลุ้นว่า...
โอกาสนี้ที่แม่ชีได้เดินทางมาที่วัดแห่งนี้ ...การรักษาที่ได้รับจะทำให้แม่ชีอาการดีขึ้นจากการเจ็บป่วยทางจิตใจนี้
...
๒ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๔
ร่วมแรงส่งกำลังใจให้ท่านดีขึ้นค่ะ
มาเป็นกำลังใจให้แม่ชีด้วยคนค่ะ
ให้แกหายเร็วๆจะได้สร้างกุศลด้วยค่ะ
ขอบคุณสำหรับความมีน้ำใจที่ดีงามที่มอบให้แม่ชีค่ะ
บนเส้นทางแห่งชีวิตเราสามารถพบกับสภาวะเช่นนี้ได้อย่างเท่าเทียวกัน
ตราบใดที่เรายังเป็นผู้รู้ตัว ยังไม่เพลี้ยงพล้ำ เราจึงกรุณาเกื้อกูลกัน
...
ขอบพระคุณค่ะ คุณ Bonnie
๓ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๔
...
แม่ชีไม่ยอมทานยา ทานเฉพาะครั้งแรกที่ข้าพเจ้านำให้ให้ทาน นั่นสืบเนื่องมาจากที่ว่าแม่ชีไม่ได้ตระหนักรู้ว่าตนเองนั้นเจ็บป่วย หากแต่เริ่มรู้อยู่บ้างว่าตนเองนั้นมีพฤติกรรมที่ผิดปกติไป...
ข้าพเจ้าใช้แนวทางจิตบำบัดและพฤติกรรมบำบัดเข้ามาเยียวยาร่วมด้วย
พบว่าสองวันที่ผ่านมาแม่ชีเริ่มควบคุมตนเองได้บ้างเมื่ออยู่ต่อหน้าสาธารณชน
ข้าพเจ้าเชื่อว่าเมื่ออยู่ในสิ่งที่แวดล้อมด้วยความรักความเข้าใจ ตลอดถึงความเห็นอกเห็นใจจะสามารถเป็นเพิ่มเป็นพลังแห่งการเยียวยาได้ ที่สุดแล้วก็จะสามารถรวบรวมจิตใจให้แน่นขึ้นไม่แกว่งไปตามอารมณ์ ความคิด หรือความรู้สึกที่ปรุงแต่งขึ้นมาจนอาจทำให้เกิดเป็นความิดเพี้ยนไปได้
....
พี่เคยมีญาติที่เป็นเช่นนี้
บางครั้งต้องควบคุมด้วยการฉีดยาก่อน และกินยาควบคู่ไปด้วย แล้วจะค่อยๆดีขึ้น
ระยะแรก คนไข้อาจไม่ยอมไปตามนัด
พี่จะฝากให้พยาบาลที่ รพสต โทรมาแจ้งถึงวันนัดแล้ว หรือถ้าไม่ไป พยาบาลจะมาฉีดยาให้ที่บ้าน
จนอยู่ได้ปกติ