สรุปการทำสังคายนาครั้งที่ ๒
สาเหตุ : ปรารภภิกษุเหล่าวัชชีบุตร
ชาวเมืองเวสาลี
มีความต้องการที่ จะเลี่ยงพระวินัย จึงแสดงวัตถุ ๑๐ ประการ
ซึ่งขัดกับหลักพระธรรมวินัยทำเมื่อ : พระพุทธศักราช ๑๐๐
ปี
สถานที่ทำ :ณ วาลุการาม เมืองเวสาลี เพื่อชำระวัตถุ ๑๐
ประการ
เวลาทำ :ทำอยู่ ๘ เดือนจึงสำเร็จ
ประธานสงฆ์ :พระยสกากัณฑกบุตร
การกสงฆ์ :พระอรหันต์ขีณาสพ ๗๐๐ รูป
ผู้ถาม: พระสัพพกามีเถระ
ผู้แก้ :พระเรวตเถระ
ผู้อุปถัมภ์ :พระเจ้ากาฬาโศกราช แห่งกรุงเวสาลี
สรุปท้ายบท
พระพุทธศาสนาฝ่ายมหายานได้เริ่มก่อตัวขึ้นแล้วหลังจากมีการแตกแยกกัน
เมื่อพิจารณาถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดการแตกแยกแล้ว
ไม่น่าจะก่อให้เกิดการแตกแยกที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ วัตถุ ๑๐
ประการที่ภิกษุชาววัชชียกขึ้นก็ถือตามพุทธมติที่ได้ตรัสกับพระอานนท์เถระก่อนที่ปรินิพพานว่า“อานนท์
โดยล่วงไปแห่งเราถ้าสงฆ์ปรารถนาจะถอนสิกขาบทเล็กน้อยเสียบ้าง
ก็จงถอนสิกขาบทเล็กน้อยเสียได้”
[1]
เมื่อพิจารณาตามนัยนี้
ความเห็นของภิกษุชาววัชชีก็ยังถือว่าไม่เป็นการนอกรีตนอกรอย
เพราะประสงค์ที่จะเปลี่ยนแปลงเฉพาะสิกขาบทเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ส่วนสิกขาบทที่สำคัญก็ยังคงอยู่
ภิกษุฝ่ายวินัยวาทีเห็นว่าสมควรจะรักษาไว้เช่นเดิม
แม้จะเป็นสิกขาบทเล็กน้อยก็ไม่ควรจะมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงอะไร
ซึ่งความเห็นเช่นนี้ก็นับว่ามีเหตุผลทั้งสองฝ่าย
แต่ความเสียหายได้เกิดขึ้นอย่างรุนแรง
ก็ตรงที่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมผ่อนผันให้แก่กันและกัน
แต่ถ้าพิจารณาในในเรื่องของทิฐิหรือความคิดเห็นแล้ว
สาเหตุการแตกแยกคงมิใช่เฉพาะในด้านศีลอย่างเดียว คงมีเหตุผลด้านอื่นๆ
ด้วย
คือความไม่ลงรอยกันในระหว่างสงฆ์ชาวเมืองต่างๆ
ความไม่ยอมรับระบบอาวุโสในหมู่สงฆ์และความต้องการเป็นผู้นำในหมู่สงฆ์ด้วยกัน
จากหลักฐานที่ปรากฏจะเห็นได้ว่า
มีการวิ่งเต้นเข้าหาพระผู้ใหญ่คือพระเรวตะด้วยกันทั้งสองฝ่าย
มีการดำเนินการทางการเมือง
คือเข้าไปขอความอุปถัมภ์จากพระเจ้าแผ่นดิน
เพราะทุกฝ่ายต่างก็ต้องการฐานอำนาจทั้งทางโลกและทางธรรมเป็นเครื่องสนับสนุนและในขณะเดียวกันก็ต้องการบีบบังคับอีกฝ่ายหนึ่งให้ยอมจำนนโดยปริยาย
กลายเป็นเรื่องขัดแย้งอย่างอื่นที่มีศีลเป็นเพียงสาเหตุเท่านั้น
[1] ที.ม.(ไทย) ๑๐/๒๑๖/๑๖๔