นอนวัด


เช้าวันจันทร์ที่ ๑๒ กย. ข้าพเจ้าได้เจอกันกับหมออ้อที่ตลาด หมออ้อเอื้อนเอ่ยว่า "วันนี้เราเข้าไปนอนวัดกันไหมคะ" ... ข้าพเจ้าก็ตอบตกลงอย่างไม่ลังเล เราจึงนัดหมายกันในหลังเลิกงาน

สำหรับข้าพเจ้าแล้วบางครั้งส่วนใหญ่ก็จะเข้าไปในวันเสาร์-อาทิตย์

หากเป็นเมื่อก่อนเราจะเข้าไปทำวัตรเท่านั้น แต่ในรอบนี้เราคิดว่าการไปนอนวัดนั้นคือความปกติ เช้ามาก็อาบน้ำแต่งตัวไปทำงานเลย

...

ข้าพเจ้าไม่ได้เข้าไปนอนในกุฏิเราตัดสินใจนอนกับแม่ออก (อุบาสิกา) ที่ครัวกลาง แม่กุลอนุเคราะห์ให้มุ้งลูกสองคนนอนด้วยกัน เป็นมุ้งเต๊นซ์เล็กๆ... แต่ก็ได้นอนอย่างสบายใจทีเดียว

ถือว่าไปนอนวัด หากเข้าไปในกุฏิข้างใน ก็มักจะตื่นดึกขึ้นมาภาวนาเดินจงกลม-นั่งสมาธิ แต่นี้มีความตั้งใจที่อยากจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกับแม่ออก ... ไม่ว่าไปที่ไหนเราจะเจอแต่ความขัดแย้งไม่เว้นแม้แต่ในวัด แต่หากเราสามารถรวมความเป็นหนึ่งเดียวได้ ถือว่านี่คือ วิถีแห่งการเยียวยาศานติให้เกิดขึ้นแก่โลก

วัตรเย็น ...

ที่หน้าวิหาร ต่อหน้าพระพุทธเมตตา แสงไฟได้รับการต่ออย่างสว่างไสว วันนี้เป็นวันพระใหญ่คนมาทำวัตรแบบไปกลับเยอะ ส่วนมากก็จะเป็นชาวบ้านในละแวกนั้น

คนรุ่นเก่ายังคงมาเช่นเดิม...ตราบเท่าที่มีลมหายใจ

คนรุ่นใหม่ หากพ่อแม่พาวิถีชีวิตก็จะคุ้นเคยกับวัด ข้าพเจ้าเชื่อในเรื่องการบ่มเพาะ

การทำวัตรเย็นตามวิถีและท่วงทำนองสายวัดป่า แม่ออกที่นี่อายุมากสุด ๘๑ ปี คือคุณยายอิฐ ซึ่งยังคงแข็งแรงเพียงแต่เวลาเดินหลังค่อมลงมากกว่าเดินแต่ก็ไม่เคยล้ม มีสติในการเดินเสมอ "ยายยังไม่เคยล้มในวัดเลยนะ" คือ คำพูดแบบภูมิใจนิดๆ ของคุณยายเมื่อเราเข้าไปเดินประคองบนพื้นลื่น

กิจกรรมทำวัตรกว่าจะเสร็จก็ประมาณสี่ทุ่มกว่า ...ข้าพเจ้ากับหมออ้อตัดสินใจนอนเลย แม้ว่าวันทั้งวัดไม่ได้มีโอกาสทำงานใช้หนี้สงฆ์ ณ ที่วัด แต่ก็ยังทำงานรับใช้ผู้คนนอกวัดอย่างไม่ได้หยุด

มุ้งครอบเล็กๆ แต่สามารถเข้าไปนอนได้ในขนาดตัวเล็กๆ สองคน บางครั้งกุฏิเต็มข้าพเจ้ากับหมออ้อก็เคยพักร่วมกันในกุฏิเล็กมาแล้ว หลักการนอนแบบภาวนา ทำให้เราสามารถหลับได้เร็วและหลับได้ลึก ตื่นขึ้นมาสดชื่นไม่งัวเงีย

...

เสียงระฆังบอกว่าตีสี่แล้ว

แต่ข้าพเจ้าได้ตื่นก่อนหน้านี้ เดินกลับมาที่ครัวกลาง พบว่าแม่ออกเก็บมุ้งหมอนเรียบร้อยหมดแล้วรวมถึงที่นอนที่ข้าพเจ้ากับหมออ้ออาศัยนอนด้วยกัน

เช้านี้อากาศสดชื่น ท้องฟ้าสว่างจากแสงพระจันทร์ที่มารอรุ่งอรุณ

เป็นเช้าแห่งวันหลังฝนตก แม่ออกต่างเตรียมตัวไปทำวัตรเช้ากัน ...คนจะน้อยกว่าทำวัตรเย็นเพราะคนเหลือที่นอนวัดมีไม่มากประมาณเกือบสามสิบคนเห็นจะได้

เช้านี้เราได้สวดบนพาหุง...เมื่อคืนสวดชัยะมงคลคาถา ซึ่งทั้งสองบทนี้เป็นบทที่ข้าพเจ้าชอบ ทำให้จิตใจเบิกบานดีเวลาที่สวดไปด้วยก็จะระลึกถึงความหมายของบทสวดไปพร้อมๆ กัน...

เช้าแห่งวันตื่นรู้และเบิกบาน

...

   

 

  

  

 

  

...

กลับบ้านอย่างเบิกบาน...

๑๓ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๔

...

สิ่งที่ได้เรียนรู้...

บางครั้งบางคราเราปรารถนาจะทำบางสิ่งบางอย่าง แต่เมื่อถึงกาลแล้วอาจจะไม่ได้ทำในสิ่งที่ปรารถนานั้น ซึ่งมักจะมีเหตุให้ได้ดำรงอยู่ท่ามกลางสภาวะนั้นๆ...

ความรัก ความเบิกบานนั้นอยู่ในหัวใจของคนทุกคน รอเพียงน้ำมารอลงไปในใจเท่านั้นเอง

กำลังใจก็ยังคงเป็นสิ่งที่โลกต้องการอยู่เสมอ

"ใจร่มเย็นและเป็นสุข" นั่นน่ะคือ ศานติ

 Large_dsc00113c_resize 

 

หมายเลขบันทึก: 460314เขียนเมื่อ 13 กันยายน 2011 21:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 ตุลาคม 2013 22:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

นักวิชาการผู้สูงอายุน่ามาอ่านคะ นี่ไง the best fall prevention :-)

มีสติในการเดินเสมอ "ยายยังไม่เคยล้มในวัดเลยนะ"

ปล. คราวนี้คงไม่มียุงชูชก ท้องแตกอีกนะคะ :-)

555 ยุงชูชกไม่มีค่ะ ...^__^...เชื่อในเรื่องการเยียวยาทางมิติจิตวิญญาณช่วยทำให้กาย จิต สังคมดีค่ะ

พี่กะปุ๋มคะ งดงามค่ะ

โดยเฉพาะภาพแม่อุ๊ย ปั่นจักรยาน ไปวัด

เมื่อช่วงวันพระใหญ๋ที่ผ่านมา ยามเช้าเห็นแม่อุ๊ยปั่นจักรยาน มาวัด แถวบ้านพัก

แค่ได้เห็นภาพ ก็ได้ยิ้มพิมพ์อิ่มเอมใจ ขอบคุณค่ะ

ขอบพระคุณนะคะ...สำหรับกำลังใจ...

  • Ico48    Poo

  • Ico48    CMUpal

  • Ico48    หนูรี

  • Ico48    ใบไม้ร้องเพลง
  • น้องPoo  พี่นำฝากนี้มาภาพค่ะ

    ชื่อภาพ "ร่องรอยชีวิต"...

     

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท