ทางเดินสายเปลี่ยวหรือสนามรบที่ถูกทอดทิ้ง


ข้าพเจ้ากำลังใคร่ครวญอยู่กับตนเองถึงเรื่องราวที่กำลังเผชิญหน้าอยู่ แต่เป็นการเผชิญหน้าอย่างนิ่งเงียบไม่ดีดดิ้นหรือพยายามแก้ไข ได้แต่มองเข้าไปในใจตนเอง

จิตใจของคนเป็นอย่างไร ก็รับซึมซับแสดงออกมาอย่างนั้น

ความรู้สึกคล้ายกับว่าเป็นนักรบที่ออกสู่สนามรบ ก่อนออกเดินทางเหล่าทหารหาญที่เป็นดั่งเพื่อนที่รบเคียงบ่าเคียงไหล่ ลั่นวาจาประมาณว่าเราจะไม่ทอดทิ้งกัน

แต่...เมื่อสนามรบยากขึ้นเรื่อยๆ ...

อยู่ๆ เพื่อนทหารนั้นก็วิ่งหนีไปหลบซ่อนตัวด้วยความหวาดกลัว เพื่อคอยว่าสถานการณ์สงบหรือยังค่อยออกมา ส่วนที่เหลือก็ดูเหมือนจะรบไปด้วยกัน ตอนโดนล้อมรอบเรารุกสู้อยู่เบื้องหน้า แต่พอถึงคราเรา...ทหารนั้นกลับวิ่งแปรพักต์ด้วยความหวาดหวั่นหรือประมาณว่าไม่ใช่ฝ่ายเดียวกัน

ได้อาศัย...เจ้าทหารบ้านที่ไร้ตำแหน่งและตราดาวใดใด ขี่ม้าไม่ใช่สีขาวมาช่วยเคลียร์ทางให้และออกรบแทน

ย้อนกลับไปอ่านข้างต้นที่เขียนออกมาก็ขำขำในตนเอง

แต่...ก็นี่ล่ะนะคือ ชีวิต

และเมื่อไปอ่านถ้อยความของน้องตุ๊กๆ ที่ว่า

Tooktook Dentผู้ต้องการพ้นทุกข์ ต้องเรียนรู้ตามจริง สิ่งที่รู้แจ้งอาจไม่ใช่เหตุผลแบบโลกๆ ครูบาอาจารย์บอกไว้ว่า ทางนี้เป็นทางสายเปลี่ยว(เหมือนเดินอยู่คนเดียว) แต่บอกตัวเองไว้เสมอว่าพร้อมจะก้าวเดินต่อไปตามรอยเท้าพระบรมศาสดา

มันใช่เลย...นี่แหละคือ ชีวิต

เป็นกำลังใจอันงดงามเมื่อถูกล้อมรอบและยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยว ในท่ามกลาง การผ่อนตนอยู่กับลมหายใจ ไม่วิ่งหนี ไม่หลบซ่อน แต่ก็ไม่ได้ต่อกร และไม่ได้จำยอม หากแต่น้อมรับสภาวะที่เกิดขึ้น และค่อยๆ เรียนรู้ไป ด้วยการแกะรอยรายละเอียดของชีวิต

นี่คือ อีกหนึ่งบทที่เรากำลังเติบโตขึ้น

หมายเลขบันทึก: 458158เขียนเมื่อ 3 กันยายน 2011 22:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 ตุลาคม 2013 22:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท