ชอบกินไก่ย่างระวังมะเร็ง
คนไทยเราตายด้วยโรคมะเร็งเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะนิยมกินไก่ย่างมาก เพราะของปิ้งย่างมักอุดมไปด้วยสารก่อมะเร็ง ซึ่งมีที่มาจากสองทางคือจากควัน และ จากการเปลี่ยนรูปของโปรตีนด้วยความร้อน
หลังจากทดลอง ลองผิดถูกมาสิบปี บัดนี้ผมได้ประดิษฐ์เครื่องปิ้งไก่ไร้ควันสำเร็จแล้ว ซึ่งนอกจากจะไร้ควันแล้ว ยังรวดเร็ว ประหยัดพลังงาน (ถ่าน) ทำให้ช่วยลดสภาวะโลกร้อนได้อีกด้วย ..ยังสะดวกใช้เพราะพลิกไก่ครั้งเดียว เป็นการรักษาสุขภาพของแม่ค้าปิ้งไก่ไปด้วยในตัว เพราะปกติต้องพลิกกลับไก่อยู่หน้าเตานับร้อยครั้ง ต้องสูดควันอยู่ตลอดเวลา บางทีก็มีท้อง ลูกในท้องก็รับควันโดยอ้อม นอกจากนี้คนกินที่นั่งในร้านก็สูดควันไปด้วย (นอกจากกินไก่ที่รมควันแล้ว) ก็เลยโดนสองต่อ
นอกจากนี้เนื้อไก่ที่ปิ้งออกมายังนุ่มหอมน่ารับประทานกว่าปกติอีกด้วย เนื่องเพราะปิ้งโดยการไม่พลิกกลับไปมาทำให้สุกเร็วและความร้อนแพร่เข้าไปข้างในได้มากกว่าการพลิกบ่อยๆ
เครื่องนี้ถ้าผมจดสิทธิบัตร คงขายได้ทั่วโลก เงินไหลมากองทองไหลมาเท แต่ผมเป็นคนแพ้เงิน เลยยังไม่ได้จดสิทธิบัตรเครื่องนี้ และยินดียกให้ฟรีๆ ถ้าหน่วยงานรัฐใดจะเอาไปปชส. ให้คนใช้กันทั่วประเทศ ต่อไป
การประหยัดถ่านคือ ย่างปกติจะใช้ถ่าน 1 กก. ต่อตัว เตานี้ใช้ประมาณ 3 ขีดต่อตัว ประหยัดเงินได้ประมาณ 5 บาท (ขายไก่บางทีได้กำไรสุทธิตัวละ 5 บาทเท่านั้น เช่น ไก่ย่างห้าดาว) นอกจากนี้น้ำมันไก่ที่ได้ออกมา ก็เอามาใช้ประโยชน์หรือขายได้อีก อาจขายได้ 2 บาทก็เป็นได้
ที่เครื่องปิ้งนี้ไร้ควันก็เพราะน้ำมันไก่นี่แหละครับ ที่มันไม่หยดลงไปในเตาแล้วก่อควันเขม่า
เขม่าเกิดจากนำมันไก่ที่หยดลงไป เกิดสารที่ฝรั่งเขาวิจัยไว้แล้วเรียกว่า PHAs (Polycyclic Aromatic Hydrocarbons) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง อีกส่วนคือการปิ้งไฟให้ร้อนมากๆ จะทำให้โปรตีนแตกตัวเป็น HCA (Heterocyclic Amines) ก็เป็นสารก่อมะเร็งเช่นกัน ทั่นว่าถ้าเอาไปหมักในกรดและสมุนไพรประมาณ 1 ชม. จะลดลงไปได้ถึง 95% (
นอกจากคิดค้นเครื่องปิ้งไก่ไร้ควันแล้ว ผมยังคิดค้นสูตรหมักสมุนไพรที่คิดว่าน่าอร่อย เพราะพี่สาวและเพื่อนๆหลายท่านที่เป็นนักกินไก่ตัวยง และไม่ยกยอใคร ยกนิ้วให้มาหลายรายแล้วว่าเป็นไก่ที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมา
ว่าไปแล้วมันไม่ใช่การหมักอย่างเดียว แต่การปิ้งด้วยเตานี้มันช่วยทำให้เนื้อนุ่ม ยุ่ยและสุกถึงข้างในโดยไม่มีเลือดแดงตกค้าง หรือ การเหนียว ซึ่งน่าจะช่วยลดมะเร็งได้ด้วย
นักวิทยาศาสตร์ฝรั่งยังไม่รู้ว่าการหมักลดมะเร็งได้อย่างไร (ส่วนผมไม่รู้ว่าเขาวัดกันอย่างไร สงสัยใช้หนูลองยา) แต่ถ้าจริงผมเดาว่าการหมักให้นุ่มมันเป็นการลดความยาวห่วงโซ่โมเลกุลให้ย่อยง่ายขึ้น และให้เกิดสารแปลกๆได้น้อยลง ..กระมัง (การนุ่มก็คือการที่ช่วงโมเลกุลมันสั้น ถ้ายาวก็เหนียว ย่อยยาก ก็เป็นสารพิษได้มาก)
...ลืมโม้ไปด้วยว่า ปกติเขาปิ้งกัน 1 ชม. ของผมเพียง 0.5 ชม.เท่านั้น
ทวิช จิตรสมบูรณ์ (๒๕๕๓)
โปรดดูรูปเตาปิ้งและไก่ที่ปิ้งสุกแล้ว (ไหม้ไปนิดเพราะถ่านมากไปหน่อย)
ความเห็น (7)
กำลังนั่งน้ำลายไหลรอดูรูปครับ
ท่านวิรัตน์ครับ เอารูปมาขึ้นแล้วครับ ไหม้ไปหน่อย เพราะเป็นการทดลองครั้งแรกครับ
ดีจัง ขอบคุณค่ะที่นำมาแบ่งปัน
เคยเห็นร้านปิ้งไก่ ขายดีที่เชียงใหม่ ก็ปิ้งแบบเอียงเกือบ 90 องศาเหมือนกัน สุมไว้สองด้านของเตา
( อาจเพื่อประหยัดเนื้อที่) เพิ่งคิดออกตอนอ่านนี่แหละคะว่า เออดีนะ น้ำมันไม่หยดลงไป เป็นสารพิษขึ้นมา
ท่าน cmuPal ครับ ปิ้งไก่แบบเอียง ไม่ง่ายหรอกครับ ผมไปดูมาทั่วประเทศแล้ว ข้อเสียคือมันจะสุกไม่เท่ากัน ด้านบนด้านข้างด้านล่าง ไม่งั้นผมไม่ทำวิจัย ลองผิดถูกมาสิบปีหรอกครับ อิอิ
ท่านอาจารย์คะ
on time อยากให้อาจารย์จดสิทธิบัตร เพื่อเอาเงินค่าความคิดค่ะ
ส่วนเงินที่ถ้าได้มา ดิฉันเชื่อว่า อาจารย์จะสามารถนำไปช่วยเหลือสรรพสิ่ง ได้มากอย่าง ต่อยอด ใช้ไม่หมด การที่เรามีความคิด + พรสวรรค์ นอกจากจะต้องบำรุงร่างกาย ก็ล้วนต้องใช้เงินมากมายในต่อยอดการพัฒนา + รักษาสภาพ ทั้งนั้น ฟ้าให้มาแล้ว เอาไว้ก่อน เตรียมความพร้อมให้ตัวเองค่ะ
มีเรื่องมากมายที่คิดได้ แต่อาจไม่พร้อม และอา่จหมดแรงซะก่อน เสียดายโอกาสนะคะ
ขอบคุณค่ะ ดีใจนะคะที่ได้อ่านบทความที่อาจารย์เขียนน้า....
ขอบคุณ #2519574 ครับ
ผมคิด ประดิษฐ์อุปกรณ์ไว้นับ 100 ชิ้นครับ ส่วนใหญ่ผมให้ฟรี ขนาดให้ฟรี ยังไม่มีคนเอาเลยครับ ยัดเยียดกันแทบตาย อย่างเครื่องปิ้งไก่นี้ ผมเขียนหนังสือไปมอบให้องค์กรสุขภาพแห่งหนึ่ง ให้เอาไปเผยแพร่ทั่วประเทศ เพื่อบำรุงสุขภาพคนไทย นอกจากเขาไม่รับ จดหมายผมเขายังไม่ตอบเลยว่าได้รับแล้ว หึหึ
แต่มีอยู่ 2-3 ชิ้นที่เป็น hitech ผมคิดว่าจะจดสิทธิบัตรอยู่ เสียแต่ว่ามันต้องจดทั่วโลก ยากชะมัด เสียเงินมากด้วย ไอ้ 2-3 อย่างที่ว่านี้แต่ะละอย่างมันน่าจะทำเงินเป็นหมื่นล้านขึ้น กะว่าถ้ามีเงิน จะเอาไว้ทำอะไรเล่นสนุกๆ ส่วนตัวเราเองวันนี้กินวันละมื้อ บ้านยังไม่มีอยู่ เกษียนแล้วก็ว่าจะไปอยู่ป่า จะเอาอะไรหนักหนา ...ขอบคุณอีกครั้งครับที่ให้กำลังใจ