กระผม ร.อ.วิรัตน์ ดุสิตา นักศึกษาโครงการหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาการจัดการนวัตกรรม รุ่นที่ 1 มหาวิทยาลัยรามคำแหง รหัส 4914981493 ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์ที่ได้ให้ความรู้และผลักดันให้เกิดสังคมแห่งการเรียนรู้ด้านนวัตกรรมขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการค้นคว้าและแสวงหาความรู้ด้านนวัตกรรม
กระผมขอตอบคำถามและเสนอข้อคิดเห็นจากคำถามที่อาจารย์ได้ให้ไว้ในการบรรยาย เรื่อง HR and Innovation ทั้ง 4 ข้อ โดยสรุปดังนี้
เมื่อนวัตกรรมคือสิ่งใหม่ที่เกิดจากการใช้ความรู้และความคิดสร้างสรรค์.. ดังนั้นจุดกำเนิดของนวัตกรรมย่อมต้องเกิดจากทรัพยากรมนุษย์ที่มีความรู้และความคิดสร้างสรรค์... กล่าวคือ ทรัพยากรมนุษย์ที่ได้รับการพัฒนาและสะสมองค์ความรู้ในด้านต่าง ๆ รวมทั้งด้านนวัตกรรมตามกลยุทธ์และเป้าหมายขององค์กร ย่อมสามารถที่จะนำแนวความคิดใหม่ ๆ ไปประยุกต์ให้เกิดเป็นโครงการ แผนงาน หรือแผนปฏิบัติการต่าง ๆ ได้ โดยปัจจัยแห่งความสำเร็จของโครงการเหล่านั้นขึ้นอยู่กับ
- ศักยภาพของทรัพยากรมนุษย์ภายในองค์กร
- องค์ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และความร่วมมือกันภายในองค์กร
- วิสัยทัศน์ กลยุทธ์ คุณธรรมและจริยธรรมขององค์กร
- การบริหารการเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอน ตลอดจนการแข่งขันระหว่างองค์กรตามกระแสโลกาภิวัฒน์
ซึ่งศักยภาพที่แท้จริงของทรัพยากรมนุษย์และการบริหารจัดการถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่บ่งชี้ว่าโครงการเหล่านั้นจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว
ในความคิดของผม ผมอยากจะนำความรู้ด้านทรัพยากรมนุษย์ไปใช้ให้เกิดผลหรือทำโครงการเกี่ยวกับ " นวัตกรรมการบริการ " เพราะผมเห็นว่าองค์กรขนาดเล็กในประเทศยากที่จะแข่งขันด้านนวัตกรรมกับองค์กรขนาดใหญ่ การบริการแบบใหม่ที่เข้าถึงลูกค้าตั้งแต่ระดับรากหญ้า น่าจะสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากกว่าผลิตภัณฑ์ที่มีการแข่งขันด้านเทคโนโลยีและราคา...
-----------------------------
กระผม นายปทมพงศ์ บุบผาวงศ์ นักศึกษาโครงการหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาการจัดการนวัตกรรม รุ่นที่ 1 มหาวิทยาลัยรามคำแหง รหัส 4914981385 ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์ที่ได้ให้ความรู้และแนวความคิดในการเรียนรู้ต่างๆมากมาย กระผมจึง
ขอตอบคำถาม เรื่อง HR and Innovation ในแนวทางสรุปทั้ง 4 ข้อ ดังนี้
การดำเนินธุรกิจในสภาพแวดล้อมปัจจุบันที่ต้องมีการปรับตัวให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ต้องมีแนวคิดใหม่ๆที่นอกกรอบบาง เพื่อการแข่งขันและรองรับกับเทคโนโลยีใหม่ๆท่กำลังจะเกิดขึ้น และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงานให้มีความรู้ ความเข้าใจ ความคิดสร้างสรรค์ในสิ่งที่ตนสนใจจะทำ จะได้นำไปใช้ และต่อยอดได้อีก และยังสามารถช่วยในการคิด Project หรือ Action Plan ต่างๆได้ดังนี้
- ช่วยให้ Project หรือ Action Plan ที่ทำนั้นมีความยั่งยืนและยาวนาน
- มีความคิดที่รวดร็วและสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีคุณภาพ
- มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ใหม่เพิ่มมากขึ้น
- สามารถวัดผลให้เป็นรูปธรรมได้
และวิธีการทีจะทำให้สำเร็จได้คือ
- ต้องทำงานกันเป็นทีม
- รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นบ้าง
- มีความร่วมมือกัน
- มีความสามัคคีกัน
- มีการคิดเชิงระบบ
- ต้องมีวิสัยทัศน์ร่วมกัน
และความสำเร็จนั้นมันก็มีอุสรรคที่จะทำให้ไม่ประสบความสำเร็จก็คือ 3 C
- Change Culture
- Customer Base
- Commond Control
และมีพิ่มเติมอีกคือ
- ไม่ชอบที่จะมีการเสี่ยง
- ไม่มีจริยธรรม
- ไม่มีการกล้าแสดงออก
ส่วนโครงการที่จะทำนั้น ผมจะทำด้านการฝึกอบรมพนักงานเฉพาะด้านให้มีความชำนาญที่มากที่สุด เพราะ สามารถช่วยให้งานที่ทำอยู่มีผลผลิตเพิ่มขึ้น แก้ปัญหาในการปฏิบัติงานได้รวดเร็ว ลดอุบัติเหตุในการทำงาน เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปสู่ทิศทางที่องค์กรต้องการ
นา – เมื่อ HR เป็นฐาน ของ นวัตกรรม
บ่ายวันจันทร์ หลังการเรียนกับ อ.ศุภชัย และ อ.จิระ ( ผมขอโทษที่ไม่ใช้ ดร. เพราะผมนับถือความเป็น อาจาร์ย มากกว่า ดีกรี ) วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม 2549 ผม(นาย ธเนศ รุจิวิพัฒน์ ID:4914981251 ลำดับที่ 61) ได้เรียนตามหลักสูตร MBA. Innovation Management ที่ รามคำแหง ในกระบวนวิชา BM611ช่วงเช้า อ.ศุภชัย หล่อโลหะการ ผอ. สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ให้ความรู้ ด้าน นวัตกรรม กับ HR และ ช่วงบ่าย กูรู ด้าน HR ท่านอาจาร์ย จิระ หงส์ลดารมภ์ พร้อมทีมงานมากมาย มาเน้นเรื่อง HR ว่าเป็น Partner กับ การสร้างนวัตกรรมนวัตกรรม…HR…นวัตกรรม….HR …นวัต…H..R…..นวัต .R…ฟังไปฟังมา หลายครั้ง เลยรวมกันเป็น น สระอา…นา.. ที่นานา สินทรัพย์พื้นฐาน ที่ ชาวไทย ชาวสังคมเกษตรกรอย่างเรา รู้จักกันดี จะปลูกข้าว ปลูกมัน ปลูกอะไร ก็ต้องใช้ นา ซึ่งสอดคล้องกับ Human Resouce ไม่ว่าจะประกอบกิจการ อะไร ก็ต้อง มีคน เป็นทรัพยากรหลักแล้ว นา มันเกี่ยวอะไรกับ Innovation ล่ะ ครับ พี่น้อง ?เกี่ยวสิครับน้องพี่ !ผมคิดว่า สิงคโปร์ คงเข้าใจ ว่า ไมมี นา ที่ไหน วิเศษ เท่ากับ นา-HR ที่สามารถปลูกอะไรก็ได้ ปลูกมูลค่าเพิ่มแค่ไหนก็ได้ จนสามารถ ปลูก เทมาเส็ก ขึ้นมาและ ออกดอกออกผล เป็นระบบโทรคมนาคม ที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในบ้านเราได้เช่นเดียวกับ อิสราเอล ก็คงเข้าใจเช่นกันว่า นาพื้นนี้ สามารถ ออกดอก ออกผล ทวีค่า ทวีคูณไปได้อย่างไม่มีขอบเขต แถม ยังรักษา แก่นแท้แห่งเมล็ดพันธุ์ไว้ได้ แม้นจะมีการผสมข้ามสายพันธุ์ก็ตาม จนทำให้ อิสราเอล สามารถมีอิทธิพลต่อ ชาติยักษ์ใหญ่ ของโลกได้กลับมาดูที่ ประเทศอันเป็นที่รักของเรากันบ้าง คงยังไม่ ช้าเกินไปถ้าเรา จะเริ่ม มอง ที่นา-HR ของเรา ในมุมมองใหม่ๆ มองเป็น ที่นาวิเศษ เช่น1. ปลูกอะไรก็ได้ เช่น จะปลูก IPOD , Starbuck , Academy Fantasia , Compitiveness , Value , Balanced Score card2. ให้ดอกผล เป็นทวีคูณ เช่น 3M จะปลูก กาวแบบใหม่ ดันออกมาเป็น Post it ,3. เพิ่มมูลค่าได้เอง และ เก็บรักษามูลค่าได้4. เป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แถม วัดค่าไม่ได้อีกหาก ต้องใช้ ความเชื่อ สัมผัสมัน เหมือนที่หลายประเทศ ที่ประสบความสำเร็จ เขาเชื่อ อย่างจริงใจ และ ลงมือกระทำอย่าง จริงจัง เพื่อ สร้าง และ พัฒนา นาวิเศษ ที่มองไม่เห็นของเขา5. เมื่อเป็นนาวิเศษ ก็ย่อม ต้องสร้าง ดูแล และ พัฒนา แบบพิเศษ เช่น - ไถด้วย ความรู้ จนเป็น สังคมแห่งการเรียนรู้ - กลบด้วย ความคิด ต้องคิดเป็น ใช้ความรู้เป็น- ลงหน้าดิน ด้วย Competency - เติมความคิดสร้างสรรค์ , Intregrate thinking , ความกล้า จนเป็น สังคม แห่งนวัตกรรม- ใส่ความคิด เชิงกลยุทธ์ การประเมินสภาพรอบข้าง จน สามารถ แข่งขันได้- ใส่ความกล้า ความตั้งใจ ให้พร้อม ที่จะลงมือทำตลอดเวลาทั้งหมด ทั้งปวงที่ ผม พรรณนา มาก็เพื่อจะ สร้าง Mind set ว่า Human Resource เป็น ทุน ที่สำคัญ และ เป็น Critical Factor ต่อ ความสำเร็จ ของทุกวัตถุประสงค์ เราควร บริหารจัดการอย่างดี และ อย่างสอดคล้องกับ กลยุทธ์ของ องค์กร Harvard Businees Review ได้ศึกษา กลยูทธ์ของ บริษัทตัวอย่างต่างๆ และ จัดรูปแบบ กลยุทธ์ ของ บริษัทเหล่า นั้นดังนี้( Remark : สังเกตุไหมว่า ขนาด Harvard ยัง สร้างความรู้ใหม่ โดยการ จัดหมวดหมู่ ความรู้เดิม )1. Short Term – เน้น ไปที่ Productivity เช่น TQM, ISO, QCC2. Medium Term – เน้น ที่ Customer เช่น CRM, Customer Loyalty3. Long Term – เน้นไปที่ Innovation เช่น New product&Service , New Businees , New core funtionโดยเขาเสนอ ผ่าน Model ของ Balanced Scorecard ซึ่งเป็น Model ที่ ตั้งบนสมมุติฐานที่ว่า Intangible assets อันได้แก่ Human Capital, IT Capital และ Organization Capital เป็น ปัจจัยพื้นฐานของความสำเร็จทาง กลยุทธ์ดังนั้น การจัดการ Human Capital จึงต้องทำอย่างสอดคล้องกับ กลยุทธ์ และ ผลของการจัดการ Human Capital จะส่งผลกลับไปยัง ความสำเร็จของกลยุทธ์ อย่างเป็นเหตุเป็นผล และ ตรวจสอบได้ ( เหมือนกระจกสะท้อน )ถ้าอ้างอิง จาก Model นี้ (ซึ่ง Harvard ได้ เสนอ ตั้งแต่ปี 1992 และ มีการพิสูจน์แล้วว่า Model นี้ใช้ได้ ผ่าน บริษัทมากมาย ) จะเห็นว่า Human Capital เป็น ฐาน ของ Innovation จริง ถ้าเรา จะสร้าง Model การสร้างนวัตกรรม ขึ้นมา อาจเป็นดังนี้ ( เปรียบเทียบกับการปลูกข้าว )1. การสร้าง Intangible Assets ( สร้างนา) - สร้าง พัฒนา ดูแล Human Capital2. การเพาะปลูก Innovation ( หว่านเมล็ด ) – Vision Mission, Strategy, Idea3. กระบวนการ Innovate ( แตกหน่อ – เติบโตเป็นต้น ) – Project , Action plan, Action , Evaluate, 4. ผลงาน ( ข้าวเปลือก ) - ผลงาน5. Innovation ( ข้าวสาร ) – ประสบความสำเร็จดังนั้น Idea ย่อมเกิดจาก การ สร้างนา ที่ดี และ Project ย่อม เป็นผลพวงจาก Vision Mission และ Idea แต่ จะประสบความสำเร็จหรือไม่ อยู่ที่ มุมมอง ของ ฝั่ง Demand พร้อมหรือยัง ครับ ที่จะเริ่ม มอง HR ในมุมมองใหม่ เริ่มจาก ตัวเอง และ ห้อง 2 ของเรา ช่วยกันสร้าง องค์กรแห่งการเรียนรู้ ให้แก่ เพื่อนๆ Sec 2 กันน่ะครับผมในฐานะ ทีมงานวิชาการ พร้อมร่วมมือ กับเพื่อน เสมอ และ นี้จะเป็น โครงการที่เราจะได้ใช้ความรู้จากการเรียนด้าน HR และ นวัตกรรม มาประยุกต์ใช้ร่วมกัน
พบกันใหม่ ให้ใกล้กว่าเดิม
นา – เมื่อ HR เป็นฐาน ของ นวัตกรรม
บ่ายวันจันทร์ หลังการเรียนกับ อ.ศุภชัย และ อ.จิระ ( ผมขอโทษทีไม่ใช้ ดร. เพราะผมนับถือความเป็น อาจาร์ย มากกว่า ดีกรี )
วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม 2549 ผมได้เรียนตามหลักสูตร MBA. Innovation Management ที่ รามคำแหง ในกระบวนวิชา BM611
ช่วงเช้า อ.ศุภชัย หล่อโลหะการ ผอ. สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ให้ความรู้ ด้าน นวัตกรรม กับ HR และ ช่วงบ่าย กูรู ด้าน HR ท่านอาจาร์ย จิระ หงส์ลดารมภ์ พร้อมทีมงานมากมาย มาเน้นเรื่อง HR ว่าเป็น Partner กับ การสร้างนวัตกรรม
นวัตกรรม…HR…นวัตกรรม….HR …นวัต…H..R…..นวัต .R…ฟังไปฟังมา หลายครั้ง เลยรวมกันเป็น น สระอา…นา.. ที่นา
นา สินทรัพย์พื้นฐาน ที่ ชาวไทย ชาวสังคมเกษตรกรอย่างเรา รู้จักกันดี จะปลูกข้าว ปลูกมัน ปลูกอะไร ก็ต้องใช้ นา ซึ่งสอดคล้องกับ Human Resouce ไม่ว่าจะประกอบกิจการ อะไร ก็ต้อง มีคน เป็นทรัพยากรหลัก
แล้ว นา มันเกี่ยวอะไรกับ Innovation ล่ะ ครับ พี่น้อง ?
เกี่ยวสิครับน้องพี่ !
ผมคิดว่า สิงคโปร์ คงเข้าใจ ว่า ไมมี นา ที่ไหน วิเศษ เท่ากับ นา-HR ที่สามารถปลูกอะไรก็ได้ ปลูกมูลค่าเพิ่มแค่ไหนก็ได้ จนสามารถ ปลูก เทมาเส็ก ขึ้นมาและ ออกดอกออกผล เป็นระบบโทรคมนาคม ที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในบ้านเราได้
เช่นเดียวกับ อิสราเอล ก็คงเข้าใจเช่นกันว่า นาพื้นนี้ สามารถ ออกดอก ออกผล ทวีค่า ทวีคูณไปได้อย่างไม่มีขอบเขต แถม ยังรักษา แก่นแท้แห่งเมล็ดพันธุ์ไว้ได้ แม้นจะมีการผสมข้ามสายพันธุ์ก็ตาม จนทำให้ อิสราเอล สามารถมีอิทธิพลต่อ ชาติยักษ์ใหญ่ ของโลกได้
กลับมาดูที่ ประเทศอันเป็นที่รักของเรากันบ้าง คงยังไม่ ช้าเกินไปถ้าเรา จะเริ่ม มอง ที่นา-HR ของเรา ในมุมมองใหม่ๆ มองเป็น ที่นาวิเศษ เช่น
ปลูกอะไรก็ได้ เช่น จะปลูก IPOD , Starbuck , Academy Fantasia , Compitiveness , Value , Balanced Score card
ให้ดอกผล เป็นทวีคูณ เช่น 3M จะปลูก กาวแบบใหม่ ดันออกมาเป็น Post it
เพิ่มมูลค่าได้เอง และ เก็บรักษามูลค่าได้
เป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แถม วัดค่าไม่ได้อีกหาก ต้องใช้ ความเชื่อ สัมผัสมัน เหมือนที่หลายประเทศ ที่ประสบความสำเร็จ เขาเชื่อ อย่างจริงใจ และ ลงมือกระทำอย่าง จริงจัง เพื่อ สร้าง และ พัฒนา นาวิเศษ ที่มองไม่เห็นของเขา
เมื่อเป็นนาวิเศษ ก็ย่อม ต้องสร้าง ดูแล และ พัฒนา แบบพิเศษ เช่น
ไถด้วย ความรู้ จนเป็น สังคมแห่งการเรียนร้
กลบด้วย ความคิด ต้องคิดเป็น ใช้ความรู้เป็น
ลงหน้าดิน ด้วย Competency
เติมความคิดสร้างสรรค์ , Intregrate thinking , ความกล้า จนเป็น สังคม แห่งนวัตกรรม
ใส่ความคิด เชิงกลยุทธ์ การประเมินสภาพรอบข้าง จน สามารถ แข่งขันได้
ใส่ความกล้า ความตั้งใจ ให้พร้อม ที่จะลงมือทำตลอดเวลา
ทั้งหมด ทั้งปวงที่ ผม พรรณนา มาก็เพื่อจะ สร้าง Mind set ว่า Human Resource เป็น ทุน ที่สำคัญ และ เป็น Critical Factor ต่อ ความสำเร็จ ของทุกวัตถุประสงค์ เราควร บริหารจัดการอย่างดี และ อย่างสอดคล้องกับ กลยุทธ์ของ องค์กร
Harvard Businees Review ได้ศึกษา กลยูทธ์ของ บริษัทตัวอย่างต่างๆ และ จัดรูปแบบ กลยุทธ์ ของ บริษัทเหล่า นั้นดังนี้
( Remark : สังเกตุไหมว่า ขนาด Harvard ยัง สร้างความรู้ใหม่ โดยการ จัดหมวดหมู่ ความรู้เดิม )
Short Term – เน้น ไปที่ Productivity เช่น TQM, ISO, QCC
Medium Term – เน้น ที่ Customer เช่น CRM, Customer Loyalty
Long Term – เน้นไปที่ Innovation เช่น New product&Service , New Businees , New core funtion
โดยเขาเสนอ ผ่าน Model ของ Balanced Scorecard ซึ่งเป็น Model ที่ ตั้งบนสมมุติฐานที่ว่า Intangible assets อันได้แก่ Human Capital, IT Capital และ Organization Capital เป็น ปัจจัยพื้นฐานของความสำเร็จทาง กลยุทธ์
ดังนั้น การจัดการ Human Capital จึงต้องทำอย่างสอดคล้องกับ กลยุทธ์ และ ผลของการจัดการ Human Capital จะส่งผลกลับไปยัง ความสำเร็จของกลยุทธ์ อย่างเป็นเหตุเป็นผล และ ตรวจสอบได้ ( เหมือนกระจกสะท้อน )
ถ้าอ้างอิง จาก Model นี้ (ซึ่ง Harvard ได้ เสนอ ตั้งแต่ปี 1992 และ มีการพิสูจน์แล้วว่า Model นี้ใช้ได้ ผ่าน บริษัทมากมาย ) จะเห็นว่า Human Capital เป็น ฐาน ของ Innovation จริง
ถ้าเรา จะสร้าง Model การสร้างนวัตกรรม ขึ้นมา อาจเป็นดังนี้ ( เปรียบเทียบกับการปลูกข้าว )
การสร้าง Intangible Assets ( สร้างนา) - สร้าง พัฒนา ดูแล Human Capital
การเพาะปลูก Innovation ( หว่านเมล็ด ) – Vision Mission, Strategy, Idea
กระบวนการ Innovate ( แตกหน่อ – เติบโตเป็นต้น ) – Project , Action plan, Action , Evaluate,
ผลงาน ( ข้าวเปลือก ) - ผลงาน
Innovation ( ข้าวสาร ) – ประสบความสำเร็จ
ดังนั้น Idea ย่อมเกิดจาก การ สร้างนา ที่ดี และ Project ย่อม เป็นผลพวงจาก Vision Mission และ Idea แต่ จะประสบความสำเร็จหรือไม่ อยู่ที่ มุมมอง ของ ฝั่ง Demand
พร้อมหรือยัง ครับ ที่จะเริ่ม มอง HR ในมุมมองใหม่ เริ่มจาก ตัวเอง และ ห้อง 2 ของเรา ช่วยกันสร้าง องค์กรแห่งการเรียนรู้ ให้แก่ เพื่อนๆ Sec 2 กันน่ะครับ
ผมในฐานะผู้ดูแล งานวิชาการ พร้อมร่วมมือ กับเพื่อน เสมอพบกันใหม่ ให้ใกล้กว่าเดิม1) การจัดการทรัพยากรมนุษย์มีส่วนช่วยในการสร้างนวัตกรรมดังนี้
- สร้างองค์ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และการคิดอย่างเป็นระบบให้กับคนในองค์กร เพื่อนำไปสู่การสร้างนวัตกรรม โดยนำหลักการและความรู้พื้นฐานมาต่อยอด แตกแขนงและประยุกต์ให้เกิดสิ่งใหม่ เช่น ผลิตภัณฑ์ใหม่ การบริการรูปแบบใหม่ การนำไปใช้ประโยชน์แบบใหม่
- ส่งเสริมให้เกิดความกล้า กล้าคิด กล้าทำ กล้าทดลอง กล้าล้มเหลว มีการเรียนรู้จากประสบการณ์ นำความผิดพลาดมาเป็นบทเรียน ไม่ทำผิดซ้ำรอยเดิม
- สร้างกระบวนการมอบหมายและกระจายอำนาจ ให้พนักงานได้แสดงความรู้ความสามารถ และการคิดตัดสินใจด้วยตนเอง
- สร้างให้เกิดวัฒนธรรมรักการเปลี่ยนแปลง ไม่ชอบการหยุดนิ่ง เป็นนักพัฒนา ไม่ท้อถอย พยายามแก้ปัญหาด้วยปัญญา
- ส่งเสริมให้เกิดการกระจายและถ่ายทอดความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ แบ่งปันประสบการณ์กันทั้งในและนอกองค์กร
2) การนำความคิดสร้างสรรค์ไปสร้างให้เกิดรูปธรรมในการทำงาน ต้องส่งเสริมความกล้าที่จะทำ ลองผิดลองถูก มีความมุ่งมั่นมุมานะบนพื้นฐานของความรู้ นำประสบการณ์ของความล้มเหลวมาพัฒนาเป็นบทเรียนแห่งความสำเร็จ ต้องให้การยอมรับและสนับสนุนผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ให้สามารถลงมือดำเนินการได้ และลดบทบาทของผู้ที่ชอบต่อต้านและชอบตรวจหาข้อเสียและจุดอ่อนในความคิดของผู้อื่นอย่างไม่มีเหตุผลเพียงพอ ซึ่งเป็นการบั่นทอนกำลังใจของผู้ที่เสนอความคิดใหม่ๆ ต้องสร้างจิตสำนึกและวัฒนธรรมองค์กรว่า ความคิดสร้างสรรค์ต่างๆที่เสนอขึ้นมาเหล่านั้น ล้วนเกิดขึ้นมาจากความรักและปรารถนาดีต่อองค์กร เพื่อให้องค์กรเกิดการพัฒนา แม้ว่าบางครั้งหลังจากได้ทดลองทำแล้วจะไม่ประสบผลสำเร็จก็ตาม ต้องไม่เกิดการกล่าวโทษหรือซ้ำเติมเจ้าของความคิดนั้นๆ
3) การทำให้โครงการประสบความสำเร็จในการสร้างนวัตกรรม ต้องเกิดจากการส่งเสริมและสนับสนุนอย่างจริงจังจากเจ้าของหรือผู้บริหารสูงสุด ทั้งทางด้านเงินทุน เวลา แรงงานและองค์ความรู้ ผู้บริหารต้องกำหนดนโยบายที่ชัดเจนในการสร้างนวัตกรรม สร้างความร่วมแรงร่วมใจของคนทั้งองค์กรรวมถึงตัวผู้บริหารด้วย และสร้างแรงจูงใจในทุกๆขั้นของการพัฒนา กระตุ้นให้เกิดวัฒนธรรมรักการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ถูกต้อง โดยมุ่งตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า/ผู้บริโภคให้มีทางเลือกที่สร้างความพึงพอใจสูงสุด และความสำเร็จที่เกิดขึ้นต้องยกให้เป็นผลงานของคนทั้งองค์กร ส่วนความล้มเหลวต้องเป็นความรับผิดชอบของผู้บริหารแต่ผู้เดียว อุปสรรคที่ขัดขวางความสำเร็จในการสร้างนวัตกรรมคือ
- การต่อต้านการเปลี่ยนแปลงของคนในองค์กร ซึ่งมักมองการเปลี่ยนแปลงในเชิงลบ หาข้อเสียมากกว่าข้อดี และจินตนาการถึงความล้มเหลวก่อนที่จะลงมือทำด้วยซ้ำไป ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่ทำลายการสร้างนวัตกรรม
- การมองข้ามความต้องการของลูกค้า ทำให้ขาดการยอมรับจากลูกค้า เพราะลูกค้ามีภาพลักษณ์ในใจอยู่ก่อนแล้ว การสร้างภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ใหม่หรือรูปแบบการบริการใหม่ต้องใช้ความพยายามและการลงทุนอย่างมหาศาลเพื่อทดแทนสิ่งที่ฝังอยู่ในใจของลูกค้า ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเชื่อมโยงนวัตกรรมกับความต้องการของลูกค้า
- คุณสมบัติของผู้บริหาร ผู้บริหารบางคนอาจมีความคาดหวังต่อพนักงานสูงเกินไป จนทำให้เกิดทัศนคติที่ไม่ดีต่อพนักงาน ทำให้ไม่รับฟังความคิดเห็น ไม่มั่นใจที่จะมอบหมายงานและอำนาจการตัดสินใจให้ หรือการขาดความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งของผู้บริหารในแนวทางการสร้างนวัตกรรม หรือไม่อาจเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับพนักงาน
4) โครงการที่คาดว่าจะทำหลังจากการเรียน คือ การพัฒนาเพื่อผลิตบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม โดยมีการใช้วัตถุดิบและกระบวนการผลิตทั้งหมดต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมรวมถึงการนำกลับมาใช้ใหม่ การรีไซเคิลและการทำลายย่อยสลาย ซึ่งจะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เน้นด้านสิ่งแวดล้อม อีกทั้งสร้างภาพพจน์ที่ดีของผลิตภัณฑ์ที่บรรจุและบริษัทผู้ผลิตสินค้า
รายงานนวัตกรรมกับการบริหารทรัพยกรมนุษย์
โครงการบริหารธุรกิจมหาบัญฑิต MBA (Innovation)
นำเสนอ ท่านอาจารย์ ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์จัดทำโดย นาย จักร์กริช เงาแสงจันทร์ รหัสนักศึกษา 4914980889Tel: 01-1711339 จากหัวข้อ
ทุกสิ่งในโลกล้วนแล้วแต่เป็นฝีมือมนุษย์ทั้งสิน มนุษย์เป็นตัวก่อให้เกิดทุกสิ่งไม่ว่าจะเป็นปัญหา หรือ ความสำเร็จต่างๆ บางครั้งความสำเร็จก็มาจากความล้มเหลวได้เหมือนกัน แต่อะไรหละที่เป็นตัวทำให้เกิดการพัฒนาในมนุษย์ได้ โดยการใช้ความรู้ ความคิดสร้างสรร ความมีคุณธรรม ก็สามารถทำให้เกิดคุณค่ากับตัวเองและสังคมได้ เมื่อทุกสิ่งมารวมกัน ก็เกิดความคิดสร้างสรรเป็น นวัตกรรม ขึ้น
ดังนั้นทรัพยากรมนุษย์จึงมีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง บนโลกได้ โดยการนำความคิดสร้างสรรนั้น ไปทำให้เกิดเป็นรูปธรรม ซึ่งต้องใช้ความรู้ การจัดการ ที่ดี ถ้าทรัพยากรมนุษย์ขาดความรู้ ขาดความสามารถ และขาดการจัดการที่ดี ก็ไม่สามารถนำความคิดสร้างสรรเหล่านั้น แสดงออกมาสู่สาธารณชนได้รับรู้ได้ ความคิดสร้างสรร (IDEA) ¯ ขั้นตอนการจัดการ (ACTION PLAN) ¯ โครงการ (PROJECT) โดยการใช้ความรู้จากการศึกษา ค้นคว้า และทดลองในสิ่งที่สร้างสรรขึ้น โดยความรอบครอบรอบรู้ และประสพการณ์จากผู้รู้รอบๆข้าง ที่ผ่านขบวนการคิด วิเคราะห์ พัฒนา และกล้าทำ กล้าเสี่ยงที่จะพบกับความล้มเหลวได้ อุปสรรคที่ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จ เกิดจากขาดความรู้ ความเข้าใจในสิ่งที่คิดสร้างสรรขึ้น และสำคัญที่สุดคือ ขาดความกล้า ที่จะลงมือทำ และ กล้าที่จะพบกับความผิดหวัง จากความตั้งใจตั้งแต่แรกว่า จะต้องมี BRAND ของตัวเองให้ได้ อยากสร้าง สินค้าที่สามารถแก้ปัญหาให้กับผู้สูงอายุ ให้สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข และ ปลอดภัยนี่คือ สิ่งที่ตั้งใจไว้ เพราะในปัจจุบันนี้ ผู้สูงอายุจะมีจำนวนมากขึ้น เพราะวิวัฒนาการในทุกๆด้านเจริญก้าวหน้าขึ้น ผู้คนอายุยืนขึ้น นอกจากสุขภาพแล้ว ผู้สูงอายุทั้งหลายยังประสพกับการดำเนินชีวิตที่ยุ่งยาก เช่น จะดื่มน้ำ แต่ไม่มีแรงจะยกแก้วน้ำ จะลุกขึ้นยืนก็ต้องใช้แรงในการดันตัวเองอย่างมาก ดังนั้นเมื่อได้อยู่ในสาย นวัตกรรม แล้ว จะออกแบบสินค้าใดๆเพื่อตอบสนองการใช้งานของผู้สูงอายุทั้งหลายให้ได้
รายงานนวัตกรรมกับการบริหารการจัดการทรัพยากรมนุษย์ (ฉบับสมบูรณ์)
โครงการบริหารธุรกิจมหาบัญฑิต MBA (Innovation)นำเสนอ ท่านอาจารย์ ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์จัดทำโดย นาย จักร์กริช เงาแสงจันทร์ รหัสนักศึกษา 4914980889Tel: 01-1711339 จากหัวข้ออัจฉริยาพร ภูสดศรี ID 4914980686 (no.32)
ลูกศิษย์อาจารย์ที่รามคำแหงนะคะ ประทับใจมากกับการสอน เร้าใจและตรงประเด็น
และขอตอบคำถามอย่างตรงประเด็นเลยนะคะ
ในความเข้าใจของดิฉัน นวัตกรรม คือ การทำสิ่งที่มีอยู่แล้ว ให้เกิดเป็นสิ่งที่ดีขึ้น เป็นการดึงศักยภาพที่แท้จริงออกมา โดยอาศัยคนมีฝีมือ
1.มนุษย์เป็นทรัพยากรที่สำคัญในการผลักดันให้เกิดนวัตกรรม (แต่ต้องเป็นคนเก่งด้วยนะ) เหมือนที่เล่าปี่ได้ขงเบ้งมาช่วยงาน แล้วขงเบ้ง(HR) ก็สร้างนวัตกรรมโดยการใช้สิ่งที่อยู่ (กวนอู+เตียวหุย) อย่างถูกทางในการรบขยายดินแดน (ถึงแม้ตอนท้ายจะทำไม่สำเร็จ )
2.ขงเบ้งก็ได้นำ idea ของเล่าปี่ (การรวบรวมแผ่นดินวงศ์ฮั่น) มาวางแผนการที่ดี และมีผู้ปฏิบัติการตามแผนที่วางไว้อย่างดีเยี่ยม และเปิดตัวได้ดี กับการจัดการกับทหารโจโฉ โดยเอาชนะได้แม้มีคนน้อยกว่า
3.โครงการจะประสบผลสำเร็จหรือไม่นั้น อยู่ที่ทิศทางที่ชัดเจนเด็ดเดี่ยวของผู้นำ การบำรุงขวัญกำลังใจลูกน้องที่เหมาะสมตามความชอบ ส่วนที่ทำให้ไม่ประสบผลสำเร็จ ส่วนใหญ่แล้วมักมาจากผู้นำที่ไม่ดี โลเลไม่กล้าตัดสินใจ ใจแคบ และเหตุการณ์เฉพาะหน้าต่างๆที่ควบคุมไม่ได้
4.โครงการที่อยากจะทำนั่นคือ การเปิดโรงเรียนอนุบาลเพื่อสร้างเยาวชนเพื่อเป็นผู้นำที่ดี คิดเป็น ทำเป็น เพราะส่งเหล่านี้ถ้าได้รับการปลูกฝังที่ดีตั้งแต่เด็ก
ดิฉันเชื่อว่าเมื่อโตขึ้นพวกเขาจะเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีค่า ในการนำนวัตกรรมต่างๆให้เกิดขึ้น
เพราะในทุกสังคมมีต้องผู้นำ และยิ่งถ้าเป็นผู้นำที่ดีมีศักยภาพ สังคมนั้นก็จะดีตามไปด้วย
รายงานนวัตกรรมกับการบริหารการจัดการทรัพยากรมนุษย์ (ฉบับสมบูรณ์)
โครงการบริหารธุรกิจมหาบัญฑิต MBA (Innovation)นำเสนอ ท่านอาจารย์ ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์จัดทำโดย นาย จักร์กริช เงาแสงจันทร์ รหัสนักศึกษา 4914980889Tel: 01-1711339 จากหัวข้อ4. หากท่านอยากทำนวัตกรรมด้านทรัพยากรมนุษย์เราจะทำในเรื่องใด? หากข้าพเจ้าจะจัดทำโครงการด้านนวัตกรรมด้านการบริหารการจัดการทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งข้าพเจ้าจะทำในเรื่องของ การสร้าง วัฒนธรรมองค์กรเป็นหลัก (Cooperate Culture) เพราะวัฒนธรรมองค์กรที่ดีจัดเป็นการสร้างนวัตกรรมที่ท้าทายอย่างหนึ่ง โดย จะมีผลดีกับองค์กร สังคม ประเทศชาติ และเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติในที่สุด เพราะนวัตกรรมการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ที่ดีจะทำให้ทรัพยากรมนุษย์เหล่านั้นตระหนัก ถึงความสำคัญต่อตนเองและผู้อื่น สามารถประดิษฐคิดค้นและพัฒนาสิ่งต่างๆ ออก สู่ภายนอก โดยเน้นการนำนวัตกรรมด้านสินค้า และบริการที่ทรงคุณค่า และจริยธรรมทางธุรกิจ ไปสู่สังคมและพลโลกในที่สุด ข้าพเจ้าจะใช้หลักการ 3C เช่นกัน แต่เป็น 3C สู่ความสำเร็จ คือ- Communication Clearly หมายถึง ฝึกอบรมให้มีการสื่อสารชัดเจนตรงประเด็น รับผิดชอบต่อการสื่อสารนั้น- Continuous Human Resource Improvement หมายถึงพัฒนาแนวความคิดของบุคคลด้านการสร้างนวัตกรรมให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง- Create Business culture on Business Ethic. หมายถึง การสร้างวัฒนธรรมด้านการทำธุรกิจบนจริยธรรมด้านธุรกิจ เมื่อได้แนวทางและหลักการดังกล่าวก่อเกิดเป็นนวัตกรรมด้านการบริหารการจัดการด้ายทรัพยากรมนุษย์แล้วจากนั้นจะนำไปสร้าง กระบวนการและขั้นตอนเพื่อบรรลุเป้าหมายสู่ความสำเร็จต่อไป
น.ส.รุ่งฤดี ประมัย MBA Innovation Management ID:4914980170
การสร้างความรู้การที่จะได้ Idea ใหม่เพื่อก่อให้เกิด Innovation นั้นต้องอยู่ในบรรยากาศที่เหมาะสม ซึ่งอาจจะต้องเป็นบรรยากาศที่กดดันให้เรามองหาสิ่งใหม่ๆ มาช่วยบรรเทาความกดดันขณะนั้น หรืออาจจะเป็นบรรยากาศที่สบายๆ แล้วเกิด Idea โป๊ะเช๊ะขึ้นมา ซึ่งการจะเกิด Innovation ได้นั้นต้องมีพื้นฐานของความรู้ และองค์กรจะต้องส่งเสริมให้คนในองค์กรเกิดความรู้ ไม่ว่าจะเป็นการบังคับให้รู้โดยการ Training หรือกระตุ้นให้อยากเรียนรู้ด้วยตนเอง (หนึ่งใน 7 habits: Sharpen the saw) เป็นการสร้างให้องค์กรเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ เสมือนเป็นอุตสากรรมต้นน้ำ ซึ่งจะนำไปสู่อุตสาหรรมปลายน้ำก็คือ Innovation อย่างเช่นที่อาจารย์ศุภชัยและอาจารย์จิระได้กล่าวไว้นั่นเอง
กล้าที่จะลงมือทำเมื่อเกิด Idea แล้วก็ต้องสร้างบรรยากาศที่ส่งเสริมให้คนในองค์กรกล้าที่จะนำ Idea นั้นมาทำให้เป็นจริง โดย Idea ที่ได้มานั้นต้องอยู่บนหลักความรู้และความจริง ไม่ใช่สิ่งเพ้อฝัน ตรงกับความต้องการของตลาด ต้องมีจริยธรรม และมีกระบวนการที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม เพื่อก่อให้เกิดการลงมือปฏิบัติได้จริง ดังเช่นที่อาจารย์ศุภชัยท่านกล่าวไว้ว่า Innovation ไม่สำคัญเท่ากับกระบวนการที่ก่อให้เกิด Innovation (ถึงจะได้เงินสนับสนุนจาก สนช.)
ความเสี่ยงสูงก่อนอื่นองค์กรต้องยอมรับความจริงว่าโอกาสที่ Innovation จะประสบความสำเร็จนั้นค่อนข้างยาก เรียกว่าล้มเหลวซะเป็นส่วนมากซึ่งก็คือเม็ดเงินที่ต้องลงทุนแล้วสูญเปล่าแต่ก็ต้องทำเพราะอะไร ก็เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าถ้าองค์กรพัฒนาไม่ทันกับโลกภายนอกก็เหมือรอวันเจ๊ง ดังคำพูดของอาจารย์ศุภชัยว่า “การทำ Innovation มีโอกาสที่จะเจ๊ง แต่ถ้าไม่ทำเลยก็เจ๊งแน่นอน” เพราะฉะนั้นการทำเรื่องนวัตกรรมต้องได้รับความร่วมมือจากฝ่ายบริหาร ซึ่งฝ่ายบริหารต้องรับเป็นเจ้าภาพในเรื่องความเสี่ยง และต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากคนทั้งองค์กรเป็นแรงผลักดันให้เกิดความสำเร็จ ส่วนอุปสรรคที่ขัดขว้างความสำเร็จก็คือคนอีกเช่นกัน ดังเช่นทฤษฎี 3C ของอาจารย์จิระ ก็เกิดจากคนทั้งนั้น เพราะคนขาดความรู้ความเข้าใจ ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่ล้มเหลว
เรื่องนวัตกรรมที่สนใจนั้นสนใจในเรื่องการสร้าง By Product ไม่ว่าจะเป็นทางด้านสินค้าหรือบริการให้เกิดมูลค่าเพิ่มที่สูงขึ้นนายธาดา มั่นคง รหัสนักศึกษา 4914980743
1. ทรัพยากรมนุษย์มีส่วนช่วยใน innovation อย่างไร มนุษย์เกิดมาบนพื้นฐานที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านความคิด, ทักษะ, ความสามารถ, เผ่าพันธุ์, เชื้อชาติ หรือแม้แต่ศาสนา ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยอย่างหนึ่งที่ทำให้มนุษย์มีความคิดที่แตกต่างกันไป ความแตกต่างกันนี้ช่วยสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นด้านวิชาการ, เทคโนโลยี,รวมถึงความต้องการที่ตอบสนองตัวเองให้มากที่สุด จึงเกิดการคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ มาเพื่อทดแทน หรือต่อยอดสิ่งที่มีอยู่นั้นให้ดีและมีประสิทธิภาพ สิ่งเหล่านี้เรียกว่า นวัตกรรม คำว่า นวัตกรรม นั้นจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ถ้าปราศจากความคิด ความต้องการ(ต้องการที่จะก่อให้เกิดสิ่งใหม่) รวมถึงความกล้า อีกด้วย (กล้าที่จะลงมือทำในสิ่งที่คิดค้นให้เป็นรูปธรรมขึ้นมา) ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่ใช่มนุษย์ลงมือคิดค้นและทำขึ้นมา ดังนั้นทรัพยากรมนุษย์จึงมีส่วนก่อให้เกิด นวัตกรรมขึ้น อย่างหลากหลาย สิ่งเหล่านี้เกิดสาเหตุเนื่องจากมนุษย์ต้องการความสะดวกสบายจึงได้หาวิธีตอบสนองตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้จึงคิดค้นหาวิธีเพื่อให้สิ่งที่มีอยู่นั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่กล่าวมาในข้างต้นถ้าปราศจากทรัพยากรมนุษย์ก็เหมือนขาดสมองที่คอยสั่งการ ถ้าไม่มีสมอง ความคิดสร้างสรรค์ ก็คงจะไม่เกิดขึ้นมา สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ก่อให้เกิดธุรกิจ โลกก็ย่อมไม่มีการเปลี่ยนแปลง และทุกอย่างก็คงไม่มีการพัฒนาขึ้นไป ดังนั้นทรัพยากรมนุษย์จึงเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเกิด นวัตกรรม และยังส่งผลให้มนุษย์นั่นรู้จักที่จะคิดที่จะสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดการคิดนอกกรอบและสิ่งเหล่านั้นจะส่งผลต่อการต้องการที่จะเรียนรู้เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ต่อไปในระบบธุรกิจอีกด้วย2. ทรัพยากรมนุษย์ช่วยในการนำ idea เพื่อทำให้เกิด Project หรือ action plan อย่างไร ความคิดสร้างสรรค์ ที่เกิดจากมนุษย์ เป็นพรสวรรค์ บวกกับพรแสวงของแต่ละบุคคลที่เกิดขึ้น แล้วนำ ความคิด นั้นมาสร้างสรรค์ให้เกิด Project เพื่อนำ Project นี้ก่อให้เกิดเป็นรูปธรรมขึ้นมา คนต่างๆ สามารถมีความคิดได้ แต่ถ้าเมื่อใดความคิดนั้นได้ถูกเก็บไว้กับตัวก็จะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ ดังนั้นความคิดต่างๆที่แต่ละบุคคลคิดขึ้นมาอาจก่อให้เกิดประโยชน์ได้ในระดับสังคม หรือประเทศก็เป็นได้ หรือแม้แต่ความคิดที่จะปรับเปลี่ยนสิ่งต่างๆ ที่มีอยู่แล้วของมนุษย์ให้เป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้นก็ถือเป็นความคิดที่ก่อให้เกิด Project ใหม่ๆ ได้เช่นกัน มนุษย์มีส่วนก่อให้เกิดการกระทำต่างๆ มากมาย กล่าวคือ ถ้าความคิดนั้นถูกเก็บไว้ดังที่กล่าวมาแล้ว ก็ไม่สามารถสร้าง นวัตกรรมขึ้นมาได้ แต่ถ้าเมื่อใด กล้าที่จะเสี่ยงและลงมือปฏิบัติ นวัตกรรมนั้นก็จะเกิดเป็นรูปธรรมขึ้นมาซึ่ง นวัตกรรมนี้อาจก่อประโยชน์ต่อสังคม ธุรกิจและระดับโลกก็เป็นไปได้เช่นกัน ดังนั้นจะเห็นได้ถึงบทบาทของทรัพยากรมนุษย์ว่ามีบทบาทสำคัญเพียงใดต่อการก่อเกิดซึ่ง นวัตกรรม ถ้าไม่มีมนุษย์ที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ นวัตกรรม ก็ย่อมไม่เกิดขึ้น3. ทำอย่างไรจึงจะทำให้โครงการเหล่านั้นประสบความสำเร็จ และอุปสรรค์ที่ทำให้โครงการไม่ประสบความสำเร็จมีอะไรบ้าง ความสำเร็จของโครงการ§ การคิด ถ้าความคิดนั้นเป็นความคิดที่สร้างสรรค์ เพื่อก่อให้เกิดสิ่งใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนหรือ เป็นการต่อยอดจากของเดิมที่มีอยู่ ก็จะก่อให้เกิด นวัตกรรม ที่ดีต่อสังคมและประเทศได้ซึ่งถือเป็นความสำเร็จในด้านความคิดของโครงการ§ การดู เมื่อผ่านกระบวนการคิดที่ดีแล้ว ก็นำสิ่งที่คิดนั้นมาดูความเป็นไปได้ที่จะก่อให้เกิดนวัตกรรม ด้วยการศึกษาจากแหล่งวิชาการต่างๆ ตลาด ธุรกิจ และดูถึงระดับโลกในระยะยาวว่าสิ่งนี้จะสำเร็จได้ถึงในระดับใด รวมทั้งการคำนึงถึงคุณธรรมของ นวัตกรรม นั้น และสามารถตั้งเป้าหมายที่วางไว้เพื่อให้นำมาซึ่งการสนับสนุนความคิดของเรา§ การทำ เมื่อผ่านกระบวนการศึกษาอย่างรอบคอบแล้วก็ลงมือกระทำให้เกิดเป็นรูปธรรมขึ้นมา ซึ่งการลงมือกระทำนั้น ต้องกล้าที่จะเสี่ยง เสี่ยงต่อผลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งถ้าการทำนั้นก่อให้เกิด นวัตกรรมที่ดีและมีประโยชน์ ก็จะทำให้เกิดความสำเร็จในระดับตนเอง สังคม รวมถึงประเทศอีกด้วยอุปสรรค์ที่ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จ§ การกลัวการเปลี่ยนแปลง มนุษย์กลัวการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดจนในบางครั้งอาจปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์ที่จะทำให้เกิด นวัตกรรม ขึ้นมาซึ่งสิ่งเหล่านี้ เป็นเสมือนกำแพงที่ถูกกั้นไว้ระหว่างความคิดกับสิ่งที่จะทำ เป็นอุปสรรค์อย่างยิ่งต่อการพัฒนา นวัตกรรม§ การที่ไม่กล้าเสี่ยง ในหลายๆคนไม่กล้าที่จะเสี่ยงต่อการทำอย่างใดอย่างหนึ่งเนื่องมาจากความกลัว และความขัดแย้งภายในจิตใจ กล่าวคือ อาจกลัวที่จะทำ กลัวที่จะถูกตำหนิ กลัวที่จะถูกต่อว่า และความกลัวต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งทำให้บุคคลนั้นเกิดความไม่แน่ใจ และลังเลที่จะทำหรือไม่ทำ ทำให้ นวัตกรรม นั้นอาจเกิดและตายในคนๆนั้นไปโดยมิได้ถ่ายทอดสิ่งนั้นออกมาเลยก็ได้เช่นกัน§ การไม่แชร์ความรู้ให้กัน คนส่วนใหญ่เมื่อมีความคิดที่เป็นของตนเองและคิดว่าความคิดของตนนั้นเป็นความคิดที่เยี่ยมยอด จึงไม่ต้องการที่จะแบ่งปันความคิดของตนให้กับคนอื่นๆ ทำให้เกิดปัญหาตามมาก็คือ ความไม่เข้าใจในมุมมองของ นวัตกรรม ซึ่งสิ่งนี่จำเป็นต้องแชร์กันในด้านความรู้ ความคิด และกระบวนการต่างๆ รวมถึงผลที่ออกมาให้บุคคลอื่นๆ ได้รับรู้จึงถือเป็น นวัตกรรม ที่สมบูรณ์ ที่สุด กล่าวคือสามารถทำให้คนหลายๆ คนได้เข้าใจในสิ่งที่ผู้นั้นได้คิด นวัตกรรม ออกมา แล้วนำนวัตกรรมนั้นไปใช้ประโยชน์ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมต่อไป§ การปิดกั้นทางด้านความคิดของผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่า ไม่ว่าจะเป็นการดูถูกทั้งด้านการศึกษา, สถาบัน, และความคิดสร้างสรรค์ของผู้ที่ด้อยกว่า ตัวอย่างเช่น นาย ก จบการศึกษาจากมหาลัยแห่งหนึ่งที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงเท่าไร แต่นาย ก ก็รู้จักที่จะคิดและปฏิบัติ รวมถึงการศึกษาค้นคว้ามาโดยตลอด เมื่อนาย ก ได้คิดค้น นวัตกรรม แล้วไปเสนอต่อผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่าให้พิจารณา ผู้มีอำนาจผู้นั้นอาจปิดกั้นความคิดของนาย ก ด้วยการดูถูกถึงสถาบันการศึกษาที่นาย ก จบมาว่าไม่มีชื่อเสียง เกรดเฉลี่ยนาย ก ที่ได้ไม่ดี รวมถึงความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ของนาย ก อีกด้วย สิ่งนี้เป็นอุปสรรคอย่างยิ่งต่อการเกิด นวัตกรรม ซึ่งอคตินี้สมควรลบออกจากความคิดของผู้มีอำนาจเหนือกว่า ใช่ว่าคนที่จบจากสถานศึกษาที่ไม่มีชื่อเสียงมาก จะไม่มีหัวคิด และจะเป็นผู้ปฏิบัติงานไม่เป็นเสมอไป4. เราจะเอาความรู้เรื่องทรัพยากรมนุษย์ไปใช้ให้ได้ผลจริงๆ หรือทำเป็นโครงการที่เป็นรูปธรรมในเรื่องใด ก่อนอื่นจะต้องสร้างทักษะของมนุษย์ให้ตรงกับความต้องการที่จะผลิต นวัตกรรม นั้นๆให้เกิดขึ้นเสียก่อน เพราะทักษะไม่ว่าจะเป็นด้านความคิด หรือการปฏิบัติงานจะมีผลต่อการผลิตสิ่งๆหนึ่งขึ้นมา ในด้านทักษะของผมเป็นทางด้าน Developer เกี่ยวกับWebsite ดังนั้นทักษะก็จะเป็นไปในทาง Website และ การคีย์ Code จึงมีความสนใจในการสร้างนวัตกรรมทางด้าน ซอฟต์แวร์ หรือแม้แต่ ฮาร์ดแวร์ สิ่งที่คิดไว้คือการสร้าง ซอฟต์แวร์ ผนวกกับ ฮาร์ดแวร์เพื่อผลิตยา ณ ทันทีทันใด ภายในโรงพยาบาล (เป็นแค่ความคิดหรือจินตนาการ) กล่าวคือ โรงพยาบาลเพียงแค่สั่งวัตถุดิบตัวยามาเพื่อเข้าเครื่องผลิตยา ตามการสั่งยาของแพทย์ เนื่องจากจะได้ปริมาณยาที่พอกับความต้องการของคนไข้ เช่น คนไข้คนหนึ่งมีอาการปวดหัวเล็กน้อยแต่ไอมาก เพียงแค่แพทย์สั่งยาว่าปริมาณยาแก้ปวดเท่าไร ยาแก้ไอเท่าไรที่เหมาะแก่คนไข้รายนี้ เครื่องก็จะคำนวณปริมาณและผลิตออกมาเป็นยาเพียงเม็ดเดียว(ผสมยาแก้ปวดกับแก้ไอรวมกันแล้วอัดเป็นเม็ดออกมา) ไม่ต้องแยกยาแก้ปวด ยาแก้ไอออกจากกัน และเป็นปริมาณที่เหมาะสมกว่ายาแก้ปวดทั่วไปเม็ดหนึ่งเนื่องจากยาเม็ดหนึ่งอาจมีปริมาณตัวยามากเกินความต้องการของคนไข้ก็ได้ แต่เครื่องนี้จะผสมยาในส่วนที่เหมาะสมกับคนไข้เป็นรายๆไป
สวัสดีครับ ศ.ดร.จีระ ทีมงานและนักศึกษา ป.โท การจัดการนวัตกรรม ม.รามคำแหงทุกท่าน
เมื่อวันอาทิตย์ทีผ่านมา ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้มีโอกาสไปร่วมแชร์ความรู้และประสบการณ์ร่วมกับ ศ.ดร.จีระ และนักศึกษาที่ เรื่อง HR and Innovation ให้แก่นักศึกษาปริญญาโทหลักสูตรที่สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติร่วมกับมหาวิทยาลัยรามคำแหงจัดขึ้นแห่งแรกในประเทศไทย ต้องขอขอบพระคุณ ศ.ดร.จีระ เป็นอย่างมากที่เปิดโอกาสให้เข้าไปร่วมกิจกรรมนี้ ถึงแม้นักศึกษาในรุ่นนี้ มีจำนวนมาก แต่บรรยากาศในการเรียนรู้ดีมากขึ้นตามลำดับ ศ.ดร.จีระ ได้แลกเปลี่ยนความรู้ให้นักศึกษาได้ทราบเรื่องโลกาภิวัตน์ เรื่องทรัพยากรมนุษย์ และเรื่อง Innovation นักศึกษาบางคนคิดทฤษฎีของตัวเองได้ หลังจากที่ได้เรียนรู้จาก ศ.ดร.จีระ และหลังจากที่ผมได้ยกทฤษฎี นวัตกรรม 3 Q’s ซึ่งได้แชร์กับนักศึกษา ทฤษฎีดังกล่าว ผมขออธิบายเพิ่มเติมดังนี้ทฤษฎี นวัตกรรม 3 Q’s มีดังนี้ Quality of Human Resources คุณภาพทรัพยากรมนุษย์ นวัตกรรมเกิดได้จากทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ มีพื้นฐานทฤษฎีทุน 8K’s ของ ศ.ดร.จีระ อย่างครบถ้วน เมื่อทรัพยากรมนุษย์ มีคุณภาพ ย่อมทำให้เกิด Q ต่อมา คือ Quality of Thinking, Action and Continue Improvement ทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพเมื่อมีทุน 8K’s ครบถ้วน จะเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่เก่งและดี มีคุณธรรม ซึ่งจะคิดและทำดี คิดสร้างสรรค์ ศึกษาหาความรู้และพัฒนาตนเอง พัฒนางานอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิด Q ตัวต่อมาคือ Quality of Innovation นวัตกรรมที่มีคุณภาพ ซึ่งได้มาจากทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ อีกเรื่องหนึ่งที่ผมเห็นว่านักศึกษาสนใจถามผมมากก็คือ เรื่อง Blog ของ ศ.ดร.จีระ หลายคนยังไม่มีประสบการณ์ในเรื่องนี้ และกังวลว่าจะทำได้ไม่ดี นักศึกษาหลายคน มีความตั้งใจสมกับเรียนด้านการจัดการนวัตกรรมในระดับ ปริญญาโท การเขียน Blog กับ ศ.ดร.จีระ หากนักศึกษาทำเป็นนิสัย จะทำให้เกิดนวตกรรมเกิดขึ้นทางปัญญา โดยไม่รู้ตัวฉะนั้น ถ้านักศึกษาต้องการให้การเรียนหลักสูตรนี้ได้ผลดียิ่งขึ้น ต้องคิดเสมอว่าไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ และเราจะทำ ท้าทายทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน ด้วยความอดทน และการทำอย่างมุ่งมั่น ก็จะทำให้เกิดนวตกรรมทางปัญญา เห็นความแตกต่างของสรรพสิ่งทั้งหลาย ย่อมจะทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งจะนำไปสู่ประตูแห่งนวตกรรมทางความคิด ทางปัญญา และนวตกรรมด้านอื่น ๆ จะตามมา ที่สำคัญ นักศึกษาต้องสะสม ทุน 8 ทุน (ทฤษฎี 8K’s ของ ศ.ดร.จีระ) มีอะไร บ้าง ผมแนะนำให้เข้าไปศึกษาได้ที่ http://www.chiraacademy.com/ ส่วนการเขียน Blog แนะนำให้เข้าไปที่ http://gotoknow.org/blog/chirakm ตัวอักษรที่ใช้เขียนข้อความลงใน Blog ผมแนะนำให้ใช้ตัวอักษรแบบ Tahoma ขนาด 12 ครับ จะได้ตัวอักษรรูปแบบและขนาดพอดีและเหมาะกับการเขียน Blog
ในช่วงท้ายของชั่วโมง บรรยากาศดีมาก ผมได้ขึ้นไปนั่งกับ ศ.ดร.จีระ และได้ร่วมสรุปและแชร์ความรู้บนหน้าเวทีหน้าชั้นเรียน ซึ่ง อาจารย์ส่วนใหญ่ไม่ค่อยทำกัน และที่สำคัญ คือเปิดโอกาสให้นักศึกษาแต่ละกลุ่มได้ร่วมแสดงความคิดเห็น บรรยากาศการเรียน เป็นไปตามทฤษฎี 4 L's ทำให้ผมพลอยได้บุญไปกับ ศ.ดร.จีระ ด้วยหลายคนขอนามบัตรผมจนไม่พอแจก นักศึกษาจะรู้จักผมได้มากขึ้นจาก Blog ของ ศ.ดร.จีระ นี้ Email address ของผม [email protected] โทร. 01-9370144 สุดท้าย หนังสือ HR สายพันธุ์แท้ ที่นักศึกษาได้ไป ในหนังสือมีสาระที่น่าศึกษา ขอให้นักศึกษาค่อย ๆ อ่านวันละ 30 นาที หรือมากกว่านั้น แล้วพกติดตัวไปไหนไปด้วย อ่านให้หมดเล่ม แล้วหมั่นทบทวน จะทำให้นักศึกษา ได้เข้าใจเกี่ยวกับทรัพยากรมนุษย์มากขึ้น การเรียน นวตกรรม ต้องเข้าใจเรื่องทรัพยากรมนุษย์ด้วย มิเช่นนั้น จะไม่มีคำว่านวตกรรม เพราะนวตกรรมมาจากทรัพยากรมนุษย์ ผมขอขอบพระคุณ ศ.ดร.จีระ อีกครั้ง ที่ให้เกียรติเปิดโอกาสให้ผมร่วมเวทีนี้ด้วย ขอให้นักศึกษาทุกคนจงประสบความสำเร็จสมดังตั้งใจ เจริญด้วยศีล สติ ปัญญา สมาธิ สวัสดีครับ ยมนักศึกษาปริญญาเอกรัฐประศาสนศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตฉะนั้น ถ้านักศึกษาต้องการให้การเรียนหลักสูตรนี้ได้ผลดียิ่งขึ้น ต้องคิดเสมอว่าไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ และเราจะทำ ท้าทายทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน ด้วยความอดทน และการทำอย่างมุ่งมั่น ก็จะทำให้เกิดนวตกรรมทางปัญญา เห็นความแตกต่างของสรรพสิ่งทั้งหลาย ย่อมจะทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งจะนำไปสู่ประตูแห่งนวตกรรมทางความคิด ทางปัญญา และนวตกรรมด้านอื่น ๆ จะตามมา ที่สำคัญ นักศึกษาต้องสะสม ทุน 8 ทุน (ทฤษฎี 8K’s ของ ศ.ดร.จีระ) มีอะไร บ้าง
ในช่วงท้ายของชั่วโมง บรรยากาศดีมาก ผมได้ขึ้นไปนั่งกับ ศ.ดร.จีระ และได้ร่วมสรุปและแชร์ความรู้บนหน้าเวทีหน้าชั้นเรียน ซึ่ง อาจารย์ส่วนใหญ่ไม่ค่อยทำกัน และที่สำคัญ คือเปิดโอกาสให้นักศึกษาแต่ละกลุ่มได้ร่วมแสดงความคิดเห็น บรรยากาศการเรียน เป็นไปตามทฤษฎี 4 L's ทำให้ผมพลอยได้บุญไปกับ ศ.ดร.จีระ ด้วยหลายคนขอนามบัตรผมจนไม่พอแจก นักศึกษาจะรู้จักผมได้มากขึ้นจาก Blog ของ ศ.ดร.จีระ นี้ Email address ของผม [email protected] โทร. 01-9370144
ผมแนะนำให้เข้าไปศึกษาแนวคิดทฤษฎี ทุน 8 K's และทฤษฎีอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ของ ศ.ดร.จีระได้ที่http://www.chiraacademy.com/ ส่วนการเขียน Blog แนะนำให้เข้าไปที่http://gotoknow.org/blog/chirakm ตัวอักษรที่ใช้เขียนข้อความลงใน Blog ผมแนะนำให้ใช้ตัวอักษรแบบ Tahoma ขนาด 12 ครับ จะได้ตัวอักษรรูปแบบและขนาดพอดีและเหมาะกับการเขียน Blog
สุดท้าย หนังสือ HR สายพันธุ์แท้ ที่นักศึกษาได้ไป ในหนังสือมีสาระที่น่าศึกษา ขอให้นักศึกษาค่อย ๆ อ่านวันละ 30 นาที หรือมากกว่านั้น แล้วพกติดตัวไปไหนไปด้วย อ่านให้หมดเล่ม แล้วหมั่นทบทวน จะทำให้นักศึกษา ได้เข้าใจเกี่ยวกับทรัพยากรมนุษย์มากขึ้น
การเรียน นวตกรรม ต้องเข้าใจเรื่องทรัพยากรมนุษย์ด้วย มิเช่นนั้น จะไม่มีคำว่านวตกรรม เพราะนวตกรรมมาจากทรัพยากรมนุษย์ ผมขอขอบพระคุณ ศ.ดร.จีระ อีกครั้ง ที่ให้เกียรติเปิดโอกาสให้ผมร่วมเวทีนี้ด้วย ขอให้นักศึกษาทุกคนจงประสบความสำเร็จสมดังตั้งใจ เจริญด้วยศีล สติ ปัญญา สมาธิ
สวัสดีครับ
ยม
นักศึกษาปริญญาเอกรัฐประศาสนศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต
น.ส.จรัสพิมพ์ ลิ่มสิริตรังค์ รหัส 4914980277 นักศึกษาโครงการหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาการจัดการนวัตกรรม รุ่นที่ 1 มหาวิทยาลัยรามคำแหง ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์ที่ได้ให้ความรู้และความคิดใหม่ ๆ เพิ่มเติมค่ะ ขอตอบคำถาม เรื่อง HR and Innovation ในแนวทางสรุปทั้ง 4 ข้อ ดังนี้
1. ทรัพยากรมนุษย์ช่วยเหลือ Innovation อย่างไร
1.1 ในทางด้านของการบริหารจัดการคน ทำให้มีการจัดการที่ดี มีศักยภาพเพิ่มขึ้น ให้พนักงานได้แสดงความรู้ความสามารถ และการคิดตัดสินใจด้วยตนเอง
1.2 ในด้านของความคิด เป็นการให้คนกล้าที่จะแสดงความคิดเห็น การแสดงออก เป็นการเปิดโอกาสให้แต่ละคนแสดงศักยภาพที่อยู่ในตัวออกมาให้มากที่สุด
1.3 ในด้านของการเปลี่ยนแปลง ไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ แสวงหาสิ่งใหม่ ๆ อยุ่ตลอดเวลา
2. ทรัพยากรมนุษย์ช่วยในการนำ Idea เพื่อทำให้เกิด Project หรือ Action Plan อย่างไร
- ช่วยให้ Project หรือ Action Plan เป็นรูปเป็นร่าง มีการต่อยอดไปหาสิ่งใหม่ ๆ เสมอ
- ช่วยให้มีการเปลี่ยนแปลงในด้านของความคิด การกล้าที่จะแสดงความคิดเห็นมากขึ้น
- ช่วยให้แต่ละคนสามารถแสดงศักยภาพที่อยู่ในตัวออกมาได้เต็มที่
- ทำให้เกิดความสามัคคีในหมู่คณะ
3. ทำอย่างไรถึงทำให้โครงการเหล่านั้นประสบความสำเร็จ อุปสรรคในทรัพยากรมนุษย์ที่ทำให้โครงการเหล่านั้นไม่ประสบความสำเร็จมีอะไรบ้าง
การที่จะทำให้โครงการเหล่านั้นประสบความสำเร็จ เราต้องมีการวางแผนการจัดการทรัพยากรมนุษย์ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางบุคคลากรให้เหมาะสมกับตำแหน่งงาน การจัดกำลังคนให้เหมาะกับงานเหล่านั้น การเปิดกว้างสำหรับความคิดทุกความคิด การให้โอกาส การทำงานเป็นทีม ร่วมมือร่วมใจกันทำงาน
ส่วนในเรื่องของอุปสรรคที่ทำให้โครงการเหล่านั้นไม่ประสบความสำเร็จนั้น อาจจะมีปัจจัยหลายด้านไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการปิดกั้นทางความคิด การใช้อิทธิพลจากตำแหน่งงานในการบีบบังคับ การแบ่งพรรคแบ่งพวกและยังรวมถึงทฤษฎี 3 C's คือ Culture Change , Customer Base และ Command Control
4. เราจะเอาความรู้เรื่องทรัพยากรมนุษย์นั้นไปใช้ให้ได้ผลจริง ๆ หรือทำโครงการที่เป็นรูปธรรมในเรื่องใด
ในโลกปัจจุบันเป็นโลกของการแข่งขันไม่ว่าจะเป็นทางด้านการตลาด การขายไอเดีย และการบริการ ซึ่งในส่วนของการบริการนั้นเราจะเห็นได้จากทุก ๆ ที่ไม่ว่าจะเป็นบนสายการบิน ตามห้างสรรพสินค้า ต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งตามร้านอาหาร ก็จะต้องมีการบริการที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับผู้มาใช้บริการแต่โดยส่วนใหญ่แล้วการบริการจะถูกละเลยจากทุกคน เพราะเห็นเป็นแค่ service ที่ทุกแห่งต้องมี แต่ในความเป็นจริงการบริการเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งโครงการที่จะทำนั้นเป็นโครงการเกี่ยวกับ "การบริการกับการพัฒนา" เพื่อให้บุคคลที่เป็นผู้ให้บริการได้รับการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง นำไปสู่การพัฒนาไปหาสิ่งที่ดีขึ้น การเอาใจเขามาใส่ใจเรา โดยคำนึงว่าบุคคลที่เรากำลังบริการอยู่นั้นคือตัวเราเอง การให้เกียรติและเป็นมิตรกับผู้รับบริการ การแสดงความเอาใจใส่และอำนวยความสะดวกให้กับผู้รับบริการจากเราสิ่งที่เราได้กระทำออกไปด้วยใจที่ จะสะท้อนให้เห็นถึงผลตอบรับที่ได้กลับมาในภายหลัง
ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์ที่ได้ให้ความรู้ และทำให้รู้สึกว่าวิชาบริหารทรัพยากรบุคคลนั้นสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งดิฉันได้รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีเป็นอย่างสูงที่ได้เป็นลูกศิษย์อาจารย์ค่ะ ขอเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับคำถาม 4 ข้อดังนี้ค่ะ
1. ทรัพยากรมนุษย์มีส่วนช่วยใน Innovation อย่างไร
ตอบ ทรัพยากรมนุษย์เป็นโครงสร้างพื้นฐานของการที่จะก่อให้เกิด Innovation ถ้าทรัพยากรบุคคลมีแนวคิดและความรู้ที่ดี และมองโอกาสออก ก็จะก่อให้เกิด Innovation ที่มีประสิทธิภาพได้ ซึ่งถ้ามองในมุมขององค์กร ถ้าต้องการให้มีคนกลุ่มนี้อยู่ในองค์กรจะต้องมีระบบบริการทรัพยากรมนุษย์ที่มีประสิทธิภาพที่มุ่งเน้นให้คนคิดให้เป็น ถึงจะสามารถสร้างประโยชน์ให้กับองค์กรได้2. ทรัพยากรมนุษย์ช่วยในการทำ idea ให้เกิด project หรือ action plan อย่างไร
ตอบ ทรัพยากรมนุย์เมื่อเกิดความคิดสร้างสรรค์ที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้ว เมื่อไม่เกิดการสานต่อความคิดนั้นก็จะไม่มีตัวตน ไม่มีประโยชน์ โดยความคิด (Idea) นั้นจะต้องไม่เพ้อเจ้อ สามารถทำได้จริง โดยนำหลักวิชาการมาวัดในหลักความคิด ฉะนั้น เมื่อคิดแล้วต้องมีการร่างโครงการ หลักปฏิบัติ เขียนเป็นแผนวิชาการ แผนการลงทุน เพื่อให้มองออกเป็นรูปธรรมและได้แนวทางในการทำขอบเขตของงาน ประโยชน์ที่จะได้รับ รวมทั้งกรรมวิธีทำงาน หรือระยะเวลาที่จะสร้างให้เกิดสิ่ง ที่คิดขึ้นมาให้สำเร็จ (Action plan) หลังจากนั้นต้องลงมือทำ
3. ทำอย่างไรถึงจะทำให้โครงการเหล่านั้นประสบความสำเร็จ อุปสรรคในเรื่องทรัพยากรบุคคล ที่ทำให้โครงการไม่ประสบความสำเร็จมีอะไรบ้าง
ตอบ เมื่อมีโครงการขึ้นมาถ้าจะทำให้โครงการประสบความสำเร็จประกอบด้วย
1.) ต้องมีการตั้งเป้าหมายโครงการ เพื่อให้ทุกคนที่มีส่วนร่วมในโครงการมีเป้าหมายเดียวกัน
2.) จัดทีมที่มีความสามารถเหมาะสม
3.) มีระยะเวลาโครงการที่แน่นอน
4.) มีโอกาสที่เหมาะสม
5.) มีการเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม
6.) ไม่ขัดแย้งกับระบอบสังคม และหลักคุณธรรม จริยธรรม
7.) เป็นความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภค หรือ สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภค
อุปสรรคในเรื่องทรัพยากรบุคคลที่ทำให้โครงการไม่ประสบความสำเร็จคือ
1.) ผู้บริหารไม่ให้ความร่วมมือ
2.) ผู้เข้าร่วมโครงการไม่เข้าใจเป้าหมายที่ต้องการอย่างแท้จริง
3.) ผู้เข้าร่วมโครงการไม่มีความคิดสร้างสรรค์
4.) ผู้เข้าร่วมโครงการไม่เปลี่ยนแนวความคิด ใช้การทำงานแบบเก่าไม่ปรับให้เหมาะสมในแต่ละงาน
5.) ขาดการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
4. เราจะเอาความรู้เรื่องทรัพยากรมนุษย์ไปใช้ให้ได้ผลจริง ๆ หรือทำให้เกิดโครงการที่เป็นรูปธรรมในเรื่องใด
ตอบ ทำโครงการการฝึกอบรมแนวความคิดของพนักงานในแผนก ให้รู้จักคิดเป็น และแสดงความคิดเห็นในเรื่องของงานที่ทำอยู่ปัจจุบัน รวมทั้ง Product ที่น่าจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะ Product และบริการทำอยู่เป็นเกี่ยวกับในเรื่องของการศึกษา ฉะนั้นจะต้องหาวิธีการที่ทำให้เด็กไทยรักการศึกษาและค้นคว้าหาความรู้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดผมต้องขอขอบคุณท่าน ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ พร้อมทีมงานเป็นอย่างสูง สำหรับการได้รับเกียรติในการรับการถ่ายทอด ชี้นำความรู้ มุมมองและแง่คิดใหม่ๆ ในด้านการจัดการทรัพยากรมนุษย์เพื่อให้สอดรับกับการพัฒนานวัตกรรม ซึ่งในปัจจุบันกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจยุคใหม่ไปเสียแล้ว.
ต่อข้อถามที่ได้ฝากไว้นั้น ผมใคร่อยากจะขอขยายความตามความคิดเห็นส่วนตัวดังนี้
1)การจัดการทรัพยากรมนุษย์มีส่วนช่วยสร้างนวัตกรรมได้อย่างไร
เป็นสิ่งที่ปฎิเสธไม่ได้เลยสำหรับองค์กรต่างๆ หากจะกล่าวถึงทรัพยากรมนุษย์นั้น ต้องถือว่าเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดสำหรับองค์กรนั้นๆ เพราะทรัพยากรมนุษย์ที่ถูกบรรจุอยู่ภายในองค์กร จะเป็นกลจักรในการขับเคลื่อนองค์กรให้เดินไปข้างหน้า โดยอาศัยเทคโนโลยีและองค์ความรู้ที่มีอยู่ ปรับใช้อย่างเหมาะสมเพื่อให้องค์กรสามารถพัฒนาตนเองให้ก้าวล้ำ หลีกหนีออกจากภาวะการแข่งขันที่ไม่มีผู้ใดได้ประโยชน์จากสงครามครั้งนี้. การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงองค์กรนั้นจะเกิดขึ้นได้จำต้องอาศัยนวัตกรรมใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอสินค้าในหลากหลายรูปแบบทั้งที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้ หมายรวมถึงงานบริการต่างๆ ทั้งนี้การจัดการทรัพยากรมนุษย์ที่มีความเป็นเลิศเท่านั้น(เช่นตามทฎษฏี 4L) ที่สามารถที่จะก่อให้เกิดนักคิดที่สามารถที่จะสรรสร้างสิ่งใหม่ๆให้เกิดขึ้นกับองค์กรอย่างเป็นระบบ นำความเป็นไปได้ในแง่มุมต่างๆ ผลได้ผลเสีย มาประมวลผลหาผลลัพธ์และวิถีทางที่ดีที่สุดในการพัฒนาองค์กร เห็นได้ชัดว่าหากไม่มีการจัดการทรัพยากรมนุษย์ที่มีประสิทธิผลแล้ว ก็ยากยิ่งนักที่จะก่อให้เกิดนวัตกรรมที่จะช่วยพัฒนาองค์กรให้ล้ำหน้า และสิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือนวัตกรรมควรได้รับการส่งเสริมให้มีการใช้ความคิดต่อยอด ของบุคคลในองค์กรหรือภายนอกองค์กร และกำหนดแนวทางการพัฒนาไปในแนวทางเดียวกัน โดยอาศัยการยอมรับจากผู้บริหารระดับสูงในการปรับใช้.
2) ทรัพยากรมนุษย์ช่วยทำให้เกิดการทำงาน project หรือ Action Plan อย่างไรบ้าง
การจัดการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่มีประสิทธิภาพ ให้มีความคิดที่เป็นระบบ อาศัยองค์ความรู้ที่มีอยู่ มาต่อยอดทางความคิด รวบรวมโอกาสความเป็นไปได้ต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับผลได้ผลเสียของโครงการ วิถีทางปฎิบัติที่เป็นไปได้ตามแนววิธีการคิด สรุปออกมาเป็นแนวทางในการดำเนินโครงการนั้นๆ.
3) Idea หรือโครงการใหม่ๆ นั้นจะทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ.
ต้องอาศัยนักคิดที่มีคุณภาพ ที่ได้รับการพัฒนาจากระบบการจัดการทรัพยากรบุคคล สืบค้นหาวิถีทางที่เหมาะสม อาจมีการลองผิดลองถูก แต่ถึงอย่างไรนวัตกรรมที่เกิดขึ้นก็ยังคงมีความเสี่ยง ซึ่งจำต้องได้รับการยอมรับจากฝ่ายบริหารระดับสูงในผลของการดำเนินการเพื่อนำพาให้เกิดนักคิดที่สามารถคิดต่อยอดไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด มิฉะนั้นจะกลายเป็นการสกัดกั้นมิให้องค์กรสร้างบุคคลากรที่มีคุณภาพ หรือนวัตกรรมต่างๆ เนื่องจากความเกรงกลัวผลที่อาจเกิดขึ้นจากการกระทำที่ผิดพลาด ทำให้ไม่กล้าแสดงออก กลายเป็นการปิดประตูไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลงใดๆ องค์กรหรือโครงการก็จะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ตามวัตถุประสงค์.
4)จะนำความรู้เรื่องทรัพยากรมนุษย์ไปใช้ให้ได้ผลจริงหรือก่อให้เกิดโครงการที่เป็นรูปธรรมในเรื่องใด
ผมให้ความสำคัญกับการ empowerment ทั้งนี้เนื่องจากการให้ความสำคัญกับทุกๆ ฟันเฟืองขององค์กร จะช่วยส่งเสริมให้เกิดความรักในองค์กร ตั้งใจพัฒนาร่วมกัน ในทุกระดับของการบริหารในองค์กรจะมีความคิดและมุมมองที่แตกต่างเนื่องจากระดับความรับผิดชอบ การพบปะ ปฎิสัมพันธ์ ทั้งนี้จะก่อให้เกิดนวัตกรรมที่หลากลายในหลายระดับการบังคับบัญชา และหากทุกฟันเฟืองมีแนวความคิดที่จะพัฒนาองค์กรร่วมกัน นวัตกรรมจะเกิดขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และก้าวไปเป็นองค์กรที่แข็งแกร่งและยั่งยืน โดยมีอัตราการโยกย้ายเปลี่ยนแปลงงานต่ำที่สุด.
ขอขอบคุณสำหรับเนื้อที่ในการแสดงความคิดเห็น.
กระผม โสทร สารธรรม นักศึกษานักศึกษาโครงการหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาการจัดการนวัตกรรม รุ่นที่ 1 มหาวิทยาลัยรามคำแหง รหัส 4914981166 ขอตอบคำถามและแสดงความคิดเห็นทั้ง 4 ข้อโดยสรุปดังนี้
1)การจัดการทรัพยากรมนุษย์มีส่วนช่วยสร้างนวัตกรรมได้อย่างไร
นวัตกรรม คือ สิ่งใหม่ที่เกิดจากการใช้ความรู้และความคิดสร้างสรรค์จากความหมายดังกล่าวข้างต้นจะเห็นว่านวัตกรรมจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่มีมนุษย์เพราะว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวสามารถใช้ความรู้และความคิดสร้างสรรค์ทำให้เกิดสิ่งใหม่ได้และนำความคิดนั้นมาพัฒนาให้เกิดเป็นรูปธรรมได้
2) ทรัพยากรมนุษย์ช่วยทำให้เกิดการทำงาน project หรือ Action Plan อย่างไรบ้าง
โครงการหลายๆโครงการนั้นจะต้องเริ่มมาจากจุดเดียวกันนั่น คือ ความคิด หลังจากที่เรามีความคิดแล้วเราต้องนำความคิดนั้นมาศึกษาและวิเคราะห์หาความเป็นไปได้ที่เราจะลงมือทำ เมื่อเราคิดว่าจะลงมือทำโครงการนั้นๆแล้วเราจะต้องมาวางแผนงานให้เสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด หลังจากนั้นเราก็ต้องลงมือทำจริง ขั้นสุดท้ายเราก็ต้องติดตามผลซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งไม่อย่างนั้นเราจะไม่รู้เลยว่าความคิดที่เราคิดนั้นประสบความสำเร็จหรือเปล่า
3. ทำอย่างไรถึงทำให้โครงการเหล่านั้นประสบความสำเร็จ อุปสรรคในทรัพยากรมนุษย์ที่ทำให้โครงการเหล่านั้นไม่ประสบความสำเร็จมีอะไรบ้าง
โครงการจะประสบความสำเร็จได้ก่อนอื่นเราจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องที่เราจะทำเป็นอย่างดี ต้องตอบคำถามให้ได้ว่าเราทำไปเพื่ออะไร ต้องมีการวางแผนงานอย่างเป็นระบบ เพื่อที่จะทำให้โครงการนั้นสามารถเสร็จให้ทันตามกำหนด หัวใจหลักของการที่โครงการจะประสบความสำเร็จนั้นผมคิดว่าโครงการนั้นจะต้องตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าอย่างตรงจุด ส่วนของโครงการที่ไม่ประสบความสำเร็จนั้นหลักๆคงมาจากโครงการนั้นๆไม่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าทำโครงการมาแล้วไม่มีใครซื้อสุดท้ายโครงการนั้นก็ต้องล้มไปและอาจจะมาจากการวางแผนที่ไม่ดี ไม่มีความรู้เพียงพอที่จะทำโครงการนั้น
4)จะนำความรู้เรื่องทรัพยากรมนุษย์ไปใช้ให้ได้ผลจริงหรือก่อให้เกิดโครงการที่เป็นรูปธรรมในเรื่องใด
โครงการที่ผมจะทำนั้น ผมคงจะทำโครงการเกี่ยวกับทางด้านการเกษตร เพระผมเห็นว่าการเกษตรเป็นพื้นฐานของคนไทยมานาน ไม่ว่าเราจะพัฒนาไปถึงไหนสุดท้ายผมก็คิดว่าเราต้องกลับมาสู่จุดเดิมที่เราถนัด
กระผม นายยงเดช ศุภเจริญวงศ์ รหัสนักศึกษา 4914981739 สาขา Innovation รุ่นที่ 1
ทรัพยากรมนุษย์ ช่วยเห ลือ INNOVATION ได้อย่างไร ความคิดใหม่ ๆ ที่ทรัพยากรมนุษย์สามารถช่วย INNOVATION 1. ทำให้เกิดความรู้ในด้านเกี่ยวกับงานด้านต่าง ๆ มากมาย โดยเป็นการผสมผสาน ความรู้ที่มีอยู่แล้ว และอาจจะก่อให้เกิดความรู้สิ่งใหม่ 2. แหล่งความคิดที่มีอยู่ในตัวของพนักงาน ซึ่งเป็นทรัพยากรมนุษย์ ได้รับการพัฒนาด้านนวัตกรรม ที่มีค่าไม่มากก็น้อย3. เครื่องมือต่าง ๆ ที่มีอยู่ในทรัพยากรมนุษย์ ได้มีการปรับเปลี่ยน ปรับปรุง ตามสภาวะการณ์ ทรัพยากรมนุษย์สามารถสร้างแผนงานได้อย่างไร 1.ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ที่จัดตั้งในบริษัท ล้วนแล้วมีข้อมูลด้านต่าง ๆ อยู่แล้วที่สามารถนำมาอ้างอิงได้อย่างมากมาย อาจมีข้อมูลด้านปัญหาตัวของบุคคลากร ความรู้ เทคโนโลยี เครื่องมือ ผลการวิจัย 2.ใช้หลัก EPC 1. Explanation เป็นการอธิบายเกี่ยวกับความคิดให้กับบุคคลากรให้ได้รับทราบข้อมูลต่าง ๆ ว่าตอนนี้ธุรกิจจะหัวเรือไปในทิศทางใด 2. Predicition คิดถึงปัญหา ความเสี่ยง ๆ ในด้านต่าง ๆ ที่จะเกิดกับความคิดดังกล่าว ที่จะไม่สามารถ ประสบความสำเร็จได้อย่างสมบูรณ์ 3. Control เป็นการควมคุมปรากฎการณ์ที่จะเกิดขึ้น (เป็นการคาดคะแน) และในปัจจุบัน เพราะเมื่อสามารถอธิบายและคาดคะแนได้เหตุการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เป็นสาเหตุสำคัญ แล้วก็สามารถหางทางควบคุมให้เหตุการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างมีสติอย่างรอบคอบและรัดกุม ทำอย่างไรจะทำให้ทรัพยากรมนุษย์ทำให้โครงการประสบความสำเร็จ1. มีการพัฒนาในตัวบุคคลากรในด้าน ที่จะมี นวัตกรรมใหม่ (Innovation) ปรับสภาพการเรียนรู้ ระบบการทำงาน การคิดการแก้ไขปัญหา ในด้านต่าง ๆ ให้แม่นยำมากที่สุด2. ทำการวิจัย ในด้านที่จะสร้างนวัตกรรม มีการตั้งสมมติฐาน ความน่าจะเป็น ตัวแปรอิสระ ตัวแปรตาม จนสามารถนำข้อมูลวิจัย มานวัตกรรมให้เกิดประสิทธิภาพ ปัญหาที่อาจจะทำให้โครงการ ไม่ประสบความสำเร็จ 1.ขาดการพัฒนาด้านบุคคลากร 2.ด้านเทคโนโลียี ข้อมูล การสือสาร จะนำความรู้ทางด้านทรัพยากรไปใช้ได้ผลจริง ๆ หรือทำโครงการที่เป็นรูปธรรม ทำร้านอาหาร โดยจะนำเอาเทคโนโลยีเข้าไปใส่ในทุก ขั้นตอนตั้งแต่เข้าร้านจึงถึงออกจากร้าน ดัดแปลงทรัพยากรบุคคลที่มีอยู่ในองค์กร และข้อมูลต่าง ๆ ในอดีต ให้อยู่ในระบบนวัตกรรม Innovation
จากการที่ได้ศึกษาอบรมวิชา BM 611 กับอาจารย์ ดร. จีระ ทำให้ดิฉันมีประสบการณ์เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับนวัตกรรมในการเรียนรู้ และ วิธีการสอนรูปแบบใหม่ ซึ่งยังไม่เคยพบที่ไหนมาก่อน รู้สึกประทับใจมาก จึงกราบขอบพระคุณอย่างยิ่งในประสบการณ์จากท่านในครั้งนี้
จากหัวข้อที่อาจารย์ให้มา วิเคราะห์จากแนวความคิดของดิฉันเอง ได้ดังนี้
1. ทรัพยากรมนุษย์มีส่วนช่วยในการสร้าง Innovationอาจกล่าวได้ว่า Innovation เกิดได้เพราะความพยายามของมนุษย์ ในการเปลี่ยนแปลง หรือสร้างสรรค์ในสิ่งที่ตนเองจินตนาการไว้ในอดีต และนำจินตนาการเหล่ามาสร้างให้เกิดความเป็นจริง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับตนเอง โดยใช้เครื่องมือที่ตนเองมีอยู่ ได้แก่ สติปัญญาและความรอบรู้ที่ได้จากประสบการณ์ในอดีต เช่น การทำงาน การท่องเที่ยว เป็นต้น
· แนวคิด HR => Innovation แบ่งเป็น 2 แนวทาง ดังนี้ü แนวคิด Innovation แบบดั้งเดิมหรือแนวคิดแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน (ของประเทศไทย) ซึ่งเป็นแนวคิดที่นำมาใช้ประโยชน์ได้จริงและไม่ต้องใช้เงินลงทุนมากมาย โดยใช้สูตร ดังนี้
Innovation = มันสมอง +สองมือ+แรงกายและแรงใจ+ความทุ่มเท+ความพยามอย่างเต็มที่
ü แนวคิด Innovation แบบปัจจุบัน
Innovation = ทุนทางปัญญา + ทุนทรัพย์+ระบบการจัดการที่ดี +การตลาด 2. ทรัพยากรมนุษย์ช่วยในการทำ Idea ให้เกิด Action Plan จะต้องมีองค์ประกอบ ดังนี้· ระดมแนวคิดและผสมผสานแนวคิดของผู้ร่วมงานหรือผู้ร่วมทำโครงการ
· การยอมรับแนวความคิดของผู้ร่วมงาน /โครงการ ภายใต้เกณฑ์ที่ผู้เข้าร่วมงานตั้งไว้ เพื่อลดแนวความคิดแบบแปลกแยก (ถ้าไม่ตั้งเกณฑ์อาจทำให้เกิดความคิดแบบแปลกแยกซึ่งเป็นรอยร้าวด้านแนวคิด)
· ตั้งทีมงานเพื่อประสานและดูแลให้บรรลุเป้าหมายเพื่อความสำเร็จของโครงการ
· กระตุ้นแนวคิดให้มีการ Up-Date อยู่ตลอดเวลา โดยการจูงใจด้วยการให้ผลตอบแทนหรือรางวัลเพื่อให้แผนงานประสบความสำเร็จ
3. ปัจจัยที่ทำให้โครงการเหล่านั้นประสบความสำเร็จ มีดังนี้· ความร่วมมือ /ความสามัคคีของผู้ร่วมงานในการปฎิบัติงานให้เป็นไปตามแผน
· S = T &O (Success = Time & Opportunity) ความสำเร็จขึ้นอยู่กับ เวลาและโอกาส ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่มองข้ามไม่ได้
· การสร้างแรงจูงใจในการทำงาน มี Career Path ที่ชัดเจนเพื่อความก้าวหน้าของพนักงาน
· คุณธรรมและจริยธรรมของผู้บริหารโครงการ เช่น การเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไม่แสดงการแบ่ง ชนชั้น ฐานะและการศึกษา และแบ่งพรรคแบ่งพวก
· จรรยาบรรณที่ผู้ร่วมงานมีต่อโครงการ (ไม่ขายความคิดหรือนำความลับไปให้แก่คู่แข่ง ทั้งในขณะที่ทำงานอยู่หรือลาออกไปแล้ว)
· สร้างความน่าเชื่อถือให้เกิดกับโครงการ เช่น มีความ ซื่อสัตย์ จริงใจ ตรงเวลา ให้กับคู่ค้า เพื่อสร้างเครือข่ายพันธมิตรในอนาคต (ขยายตลาดผลผลิตทางนวัตกรรมให้แพร่หลายไปทั่วโลก) ซึ่งทำให้โครงการให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว
อุปสรรคที่ทำให้โครงการไม่ประสบความสำเร็จ· นโยบายการบริหารขาดความชัดเจน ทำให้ผู้ร่วมงานหลงทาง ไม่สามารถทำให้โครงการบรรลุตามเป้าหมาย
· ความขัดแย้งภายในโครงการ ซึ่งเกิดจากความกดดันจากผู้บริหาร และการแข่งขันชิงดีชิงเด่นระหว่างผู้ร่วมงานด้วยกันเอง
· ขาดความรู้ ความชำนาญในเรื่องนั้นอย่างแท้จริง และขาดความเอาใจใส่อย่างจริงจัง ในโครงการ
· ขาดความกล้าที่เสี่ยงในการลงทุน (มีเงินแต่ไม่ยอมทุ่ม)
· ขาดเงินลงทุน (ทุ่มเทแต่ไม่มีเงินจะทุ่ม)
4. จะเอาความรู้เรื่องทรัพยากรมนุษย์ไปใช้ให้ได้ผลจริง โดยมีโครงการที่คิดว่าอยากจะทำในอนาคต· ทำ Home-Stay for Health ในแถบลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อบริการนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ (เน้นแถบเอเชียและยุโรป) เป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เน้นเอกลักษณ์ท้องถิ่นไทย เช่น ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสนุกกับกิจกรรมระหว่างพักผ่อน การเรียนรู้วิธีการไถนารูปแบบใหม่ “Skate in the paddy field”
· ส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมท้องถิ่นที่มีความแปลกใหม่ควบคู่กับ Home-Stay for Health ตัวอย่าง เช่น
- ค้นคว้า วัตถุที่นำมาประดิษฐ์เป็น Skate ใส่ให้วัวควาย เพื่อผ่อนแรงในการไถนา ซึ่งเป็นการสร้างมิติใหม่ให้เกิดกับวงการทำนาไทยโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งควายเหล็ก อีกทั้งยังเป็นการประหยัด สอดรับกับเศรษฐกิจพอเพียง
- นำพลังงานจากสัตว์พาหนะมาใช้ทดแทนรถยนต์ โดยการคิดค้นอุปกรณ์ชิ้นส่วนเล็กๆ มาใส่ในเกือกม้าเพิ่มระยะทางในการเดินทางของม้าโดยมีความเหนื่อยเท่าเดิม โดยใช้ Remote Control ในการควบคุมอุปกรณ์ (เป็นแค่แนวคิดแบบ Innovation เท่านั้น ในอนาคตอันไกลอาจจะเกิดขึ้นได้)
สวัสดีค่ะอ.ดร.จีระและพี่ๆทีมงานจากที่ได้ฟังเทปที่ได้เปิดวันนั้นแล้วดิฉันรู้สึกทึ่งในความคิดและความสำเร็จของทั้งท่านพารณและอ.ดร จีระมาก ดิฉันไม่ได้เรียนและทำงานเกี่ยวกับการบริหารหรือด้านธุรกิจแต่เรียนHealth Science คือเป็นพยาบาลค่ะแต่ด้วยความที่ดิฉันอยากมีความคิดใหม่ๆและมีความคิดที่กว้างเท่าทันคนอื่นจึงมาเรียนMBA Innovation นี้และตามที่พี่ยมพูดในตอนท้ายว่า innovationที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ innovation ตัวเองดิฉันได้เห็นประจักษ์กับตัวเองแล้วค่ะขอตอบคำถามค่ะ
1.การจัดการทัพยากรมนุษย์เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมอย่างไร
***ตามที่ท่านพารณกล่าวไว้ว่าการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้น เราต้องมีความศรัทธาเราต้องเชื่อมั่นในคุณต่าของคน เพราะคนเป็นทัพยากรที่สำคัญที่สุด ในองค์กรต้องการคที่มีประสิทธิภาพมาทำงานเพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้าและในปัจจุบันนี้องค์กรจะขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้นั้นจำเป็นต้องมีInnovationหรือนวัตกรรม นวัตกรรมคือสิ่งใหม่ที่เกิดจากการใช้ความรู้และความคิดสร้างสรรค์ซึ่งInnovation มี3stgeด้วยกัน1. ความคิดใหม่ๆ
2. ต้องใช้ความรู้ความคิดสร้างสรรค์นั้นนำมาทำให้เกิดขึ้นจริง
3. สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นประโยชญ์ต่อเศรฐกิจและสังคม
นวัตกรรมอาจไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในวงธุรกิจแต่มีทั้งรัฐวิสาหกิจ ราชการ การทำให้มีInnovationเราต้องหาคนเก่งคือคนที่มีIdeaใหม่ๆมาอยู่กับเรา ทำให้เค้ารักองค์กรและอยู่กับองค์กรให้นานที่สุดการทำให้คนมีความผูกพันธ์กับองค์กรจะทำให้บุคคลากรทำงานอย่างประสิทธภาพ องค์กรก็เจริณเติบโต
ตอนนี้ขอตอบข้อ1.ก่อนค่ะพรุ่งนี้จะกลับมาตอบที่เหลืออีก3ข้อนะคะ
ขอขอบคุณท่านอาจารย์ครับที่ได้ให้โอกาสผมได้แสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนความรู้ ผมไม่ได้จบมาในสาขานี้โดยตรงและไม่มีประสบการณ์ทางด้านนี้เลยแต่ก็ขอเสนอความคิดเห็นแลกเปลี่ยนความรู้ดังนี้ครับ
1.ผมคิดว่าถ้าไม่มีการจัดการทรัพยากรมนุษย์ที่ดี นวัตกรรมก็ไม่เกิดขึ้น ซึ่งทรัพยากรมนุษย์เป็นจุดเริ่มแรกให้เกิดนวัตกรรมขึ้น เพราะมนุษย์มีความคิด
2.ทรัพยากรมนุษย์ช่วยในการทำ Idea ให้เกิด Action Plan ได้อย่างไรผมคิดว่าเราต้องทำให้บุคคลนั้นเข้าใจในจุดยืนหรือเป้าหมายที่ต้องการเสียก่อน ว่าเราต้องการอะไร บุคคลากรที่จะให้เกิดนวัตกรรมได้ผมคิดว่า
- ต้องมีแรงกระตุ้น ต้องมีแรงกดดันซึ่งทำให้เกิดการ active ขึ้น
- ต้องเป็นผู้แสวงหาความรู้ ไม่หยุดนิ่งในความรู้เพราะ idea ใหม่สามารถเกิดได้ทุกที่ ทุกเวลา
-ต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลง เพราะการยอมรับการเปลี่ยนแปลงซึ่งจะทำให้เรารู้มากขึ้น มันอาจไม่ประสบความสำเร็จแต่เราอาจได้รับรู้แนวทางที่เพิ่มขึ้น
-ต้องกล้าที่จะลงมือทำ ถ้าไม่ลงมือทำก็ไม่สามารถที่จะรู้ได้เลยว่าสิ่งที่ทำนั้นมีผลอย่างไร อย่างที่อาจารย์ได้บอกว่านวัตกรรมทำแล้วอาจไม่ประสบความสำเร็จแต่ถ้าไม่ทำก็จะอยู่ไม่ได้
3.โครงการเหล่านั้นจะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้นต้องเกิดจากการร่วมมือกับผู้ที่เกี่ยวข้องหลายสาขาวิชา สิ่งสำคัญคือความร่วมมือสามัคคี ซึ่งเป็นหลักสำคัญ การระดมความคิดเป็นการกระตุ้นให้เกิดแนวทางหลากหลายซึ่งจะมีข้อเปรียบเทียบได้มากกว่าที่จะคิดคนเดียว
4 องค์กรผมทำอยู่เป็นองค์กรราชการซึ่งมีขนาดใหญ่ และผมได้ทำในส่วนของการบริการซึ่งตอนนี้ได้พยายามทำให้ผู้บริการสามารถที่จะยื่นหรือดำเนินการได้ทาง website แต่ที่ยังไม่ประสบความสำเร็จอาจเนื่องมาจากข้อมูลที่มีมากเกินไปและความซับซ้อนของข้อมูล
ปิติภัทร บุญประสพ รหัส 4914980998 MBA innovation
1การจัดการทรัพยากรมนุษย์ช่วยในเรื่องนวัตกรรมอย่างไร
-การดำเนินธุรกิจในโลกปัจจุบันจะต้องมีการปรับตัวให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของดลกปัจจุบันดยการนำ hr มาพัฒนาร่วมกับนวัตกรมคือการคิดอะไรใหม่ๆมองวิสันทัศน์ที่กว้างไกลเพราะฉะนั้นในองค์กรควรจะมีบุคคลากรที่มีคุณภาพและพร้อมที่จะเรียนรูกับสิ่งใหม่ๆดยกาเรียนรู้ว่าตัวเองต้องการอะไรและคว่ทสำเร็จนั้นเกิดจากอะไรโดยทำให้เกิดความคิดสร้างสรรคในองค์กรมากยิ่งขึ้น
2 ทรัพยากรมนุษย์ช่วยในเรื่องidea เพื่อทำให้เกิดprojectหรือ action plan
-การนำความรู้ทักษะ มาพัฒนาให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีคือการนำบุคคลากรที่มีความชำนาญในproject นั้น๐มาแบ่งงานในแต่ล่ะหน้าที่ตามความเหมาะสมในการทำงานนั้นๆให้บรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
3 ทำอย่างไรจะทำโครงการให้ประสบความสำเร็จและมีอุปสรรคในเรื่องทรัพยากรมนุษย์และมีอุปรรคอารายบ้างที่ไม่ประสบความสำเร็จ
-ทำอย่างไรจะทำให้โครงการประสบความสำเร็จ
1.บุคคลากรในองค์กรจะต้องมีหน้าที่ความรับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมา
2.บุคคลากรทุกคนขององค์กรมีการยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่นอย่างมีเหตูผลโยมีกาแลกเปลี่ยนวิสัยทัสน์กับเพื่อนร่วมงานแล้วนำมาประยุกต์ใช้งานได้อย่างสอดคล้องกัน
3.สร้างทัศนคติและขวัญกำลังใจในการทำงานเพื่ออช่วยเสริมสร้างบุคคลากรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
4.องค์กรสามารถนำปัญหาที่เกิดขึ้นมาแก้ไขความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในองค์กรและได้เสนอแนวคิดในการแก้ปัญหามาพัฒนาและปรับปรุงไปในทางที่ดีขึ้น
-อุปสรรคของการทำให้โครงการไม่ประสบความสำเร็จ
1.บุคคลากรไม่มีศักยภาพในการทำงานองค์กรทำให้การทำงานในองค์กรทำให้โครงการที่ทำไม่ประสบความสำเร็จ
2.องค์กรขาดกลยุทธ์ในการบริหารองค์กร3
3.พนักงานมีอคติกับหัวหน้างานโดยตรง
4.บุคคลากรไม่เข้าใจในงานที่ได้รับมอบหมาย
5.บุคคลากรมีอคติกับเพือนร่วมงาน
4.เราจะนำเอาความรู้เรื่อง HR ไปใช้ให้ได้ผลจริงๆหรือทำโครงการในรูปธรรมได้อย่างไร
-ของกล่าวว่าในขณะนี้ผมทำงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเพราะฉะนั้นผมจะนำความรู้ทางด้าน HR ไปใช้ในบุคคลากรให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร
โดยการวิเคราะห์จากการประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคคลากรที่เป็นส่วนที่ดูและอยู่ว่ามีข้อบกพร่องแล้วผิดพลาดอะไรบ้างแล้วนำมาก้ไข ดดยอาจจะดูว่าบุคคลากร มีข้อบกพร่องส่วนใดอาทิเช่นเรื่องภาษา หรือ การควบคุมอารมณ์ระหว่างการทำงาน เราจะต้องจัดการภาษา และ การควบคุมอารมณ์ในการปฏิบัตืงานโดยผ่านทางผู้ชำนาญในด้านต่างๆต่อไป
|
เรียน ศ.ดร จีระที่เคราพ กระผมไม่ขอเกริ่นก็แล้วกันครับผมตอบ สิ่งที่อาจารย์ให้คิดต่อก็แล้วกันครับ
1 การจัดการทรัพยากรมนุษย์ช่วยในเรื่องนวัตกรรมอย่างไร
ในความคิดของกระผม ๆ คิดว่า Innovation ไม่ใช่เรื่องใหม่ในสังคม เพียงแต่ว่ามาตื่นตัวในยุคนี้มากพอสมควรเนื่องจากทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดแต่มีความต้องการมากขึ้นและยิ่งถ้าเราไม่รู้จักใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่าละก็ อนาคตก็จะไม่มีอะไรเหลือเป็นแน่นอน มันจึงทำให้มนุษย์ซึ่งเป็นทรัพยากรอย่างหนึ่งที่มีอำนาจควบคุมและดูแลทรัพยากรอย่างอื่นด้วย ต้องพยายามคิดค้น ค้นพบ สิ่งใหม่ ๆ หรือพัฒนาสิ่งที่มีอยู่เดิมให้เกิดประโยชน์กับมนุษย์เองมากที่สุด เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเท่ากับว่า มนุษย์หรือ "คน" เป็นตัวแปรทุกสิ่งทุกอย่าง แม้กระทั่งการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติซึ่งเราคิดว่าเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นก็ทราบแล้วว่าการจัดการทรัพยากรมนุษย์นั้นมีความสำคัญยิ่งต่อสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่หรือที่อาจเรียกว่า Innovation
2 ทรัพยากรมนุษย์ช่วยในเรื่องidea เพื่อทำให้เกิดprojectหรือ action plan
เมื่อเราทราบกันดีอยู่แล้วว่ามนุษย์คือผู้คิดค้นหรือผู้สร้างนวัตกรรม เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วโครงการที่เกิดขึ้นนั้นล้วนแล้วแต่เกิดจากวัตถุประสงค์ที่จะทำให้ดีกว่า ล้วนแล้วเกิดจาก คน แทบทั้งสิ้น จึงต้องอาศัยการจัดการด้านทรัพยากรมนุษย์มากพอสมควรเนื่องจากกลไกของ Project,Idea,Action Plan นั้นต้องอาศัยการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์อย่างเป็นระบบและจะทำให้โครงการนั้น ๆ สมบูรณ์แบบมากที่สุด
3 ทำอย่างไรจะทำโครงการให้ประสบความสำเร็จและมีอุปสรรคในเรื่องทรัพยากรมนุษย์และมีอุปรรคอะไรบ้างที่ไม่ประสบความสำเร็จ
การที่เราจะทำให้โครงการประสมความสำเร็จนั้นต้องอาศัย คน เป็นตัวหลักสำคัญในการ วางแผน นำไปปฏิบัติ ตรวจสอบ และปรับปรุงแก้ไข โดยเป็นลูป ของ Dr.Demming ซึ่งแต่ละวงล้อของการทำงานนั้น ต้องมีคนที่มีประสิทธิภาพ มีความอดทนเป็นเลิศ มีความตั้งใจ และอีกหลาย ๆ อย่าง เพื่อทำให้โครงการนั้นสำเร็จได้ แต่เท่านี้ยังไม่พอ ปัญหาคือ จะทำอย่างไรให้โครงการนั้นประสมความสำเร็จอย่างยั่งยืน แต่ สิ่งที่จะตอบได้ว่าจะยังยืนหรือไม่ ก็อยู่ที่ "คน"
อุปสรรคที่พบในการทำโครงการส่วนใหญ่
ก็คือ คน คืออยู่ที่ว่าคนที่เรามีอยู่นั้น มีความเก่ง มีความดี มากเพียงใด แต่ทั้งสองอย่างนี้ก็ยังตอบได้ไม่หมด ถ้า คนที่มีอยู่ ขาดซึ่งคุณธรรม และ จริยธรรม
4.จะเอาความรู้เรื่องทรัพยากรมนุษย์ไปใช้ให้ได้ผลจริง โดยมีโครงการที่คิดว่าอยากจะทำในอนาคต
โครงการที่กระผมคิดจำทำในอนาคตหรือที่" เป็นฝันเล็กๆของผม แต่จะเป็นความจริงที่ยิ่งใหญ่ " นั้นคือผมต้องการมีโรงบ่มไวน์ที่มีรสชาดถูกปากคนไทยและคนทั่งโลก โดยผลิตจากไร่องุ่นของผมเอง แต่เมื่อกลับหลังมามองตัวเอง ณ เวลานี้ไม่มีอะไรเลยที่จะทำให้ฝันของผมเป็นจริงได้เลย
1. ทุนยังไม่มีพอที่จะทำในตอนนี้
2. ความรู้เรื่องไวน์ก็ยังไม่มี
3. ช่องทางที่จะทำก็ยังมองไม่เห็น
แต่สิ่งที่ผมมีอยู่ก็คือ ความฝัน บวกความมุ่งมั่น และความตั้งใจ โดยอาศัยความรู้ที่เรียนมาครึ่งชีวิตคือ บันไดที่จำนำความฝันของผมสู่ความจริงให้จงได้ ไม่วันนี้ ก็ พรุ่งนี้ ไม่พรุ่งนี้ ก็ ปีหน้า ไม่ปีหน้าก็ 10 ปีข้างหน้า
ทำไมถึงคิดจะทำสิ่งนี้
เนื่องจากผมมีความคิดแปลกๆ อยู่ว่าเมื่อเราชอบกิน เราก็ต้องชอบทำ มันเลยทำให้ผมคิดว่าการทำไวน์มันคงจะไม่ทำเป็นเฉพาะฝรั่งหรอกเราคนไทยตัวเล็กก็ทำได้เหมือนกัน แต่เรายังขาดสิ่งที่จำทำให้มันประสบความสำเร็จอยู่มากพอสมควร แต่ " ผมเชื่อว่าความสุขที่แท้จริงของมนุษย์คือการได้ทำฝันให้เป็นความจริง "
เรียน ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์และทีมงาน และสวัสดีเพื่อนๆชาว MBA Innovation Management ม.รามคำแหงรุ่น1 ทุกคน ดิฉันนางสาวดนยา จันทรวงศ์ รหัสนักศึกษา 4914980770 ขอShare Idea ในเรื่อง HR & Innovation ดังนี้
1) การจัดการทรัพยากรมนุษย์มีส่วนช่วยสร้างนวัตกรรมได้อย่างไร
การบริหารทรัพยากรมนุษย์จะมีส่วนช่วยเรื่องของ นวัตกรรม ในเรื่องใหญ่ๆ 3เรื่องดังนี้
1.1 คน : เริ่มจากกระบวนการสรรหาบุคลากร คัดเลือกพนักงานที่มีแนวโน้มกล้าแสดงความคิดเห็นอย่างเหมาะสม
: การประเมิน-วัดผลการทำงาน ว่าพนักงานยังขาดทักษะด้านใดในการสร้างนวัตกรรม
: การพัฒนาความรู้-ทักษะ เพื่อสร้างเสริมให้คนหรือบุคลากรในองค์กรเกิดการเรียนรู้ และเกิดความคิด โดยมีขั้นตอนการพัฒนาการเรียนรู้ เริ่มจากข้อมูลดิบ (Data) >> ข้อมูล (Information) >> ความรู้ (Knowledge) >> ปัญญา (wisdom)
1.2 บรรยากาศ: ส่งเสริมให้มีบรรยากาศการทำงานที่ดี เพื่อให้พนักงานมีความสุข เช่น
- ทุกคนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ (TQM)
- มีการแบ่งปันความรู้ (Sharing Knowledge)
- สร้างชุมชนนักปฏิบัติ (COPs) ซึ่งหมายถึง ชุมชนของคนที่มีความสนใจ, ความถนัดในเรื่องเดียวกัน
- สนับสนุนการแสดงออกของพนักงานเช่นการให้Rewards (การชมเชย)
1.3 งาน: สร้างงานปัจจุบันให้มีมาตรฐาน (ISO) และพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง
2) ทรัพยากรมนุษย์ช่วยทำให้เกิดการทำงาน project หรือ Action Plan อย่างไรบ้าง
2.1 กำหนดเป้าหมายของProject ให้ชัดเจน และมีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้สมาชิกProject ทุกคนเข้าใจในเป้าหมายในแนวทางเดียวกัน
2.2 อบรม,ให้ความรู้สมาชิกProject ให้มีความรู้ในเรื่องเดียวกัน ในระดับใกล้เคียงกัน
2.3 สร้างโอกาสให้สมาชิกทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์โดยเสรี
2.4 สร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของ มีส่วนร่วมในการตัดสินใจในProject
2.5 กำหนดมาตรฐานการทำงานเพื่อให้พนักงานคนอื่นสามารถเข้าใจในProject หรือ Action Plan ได้
2.6 ผู้บริหารระดับสูงมีความเข้าใจและEmpower ให้สมาชิกProject ทำงานอย่างเต็มที่
3) Idea หรือโครงการใหม่ๆ นั้นจะทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ
3.1 แน่ใจได้ว่าสมาชิกของโครงการเข้าใจวัตถุประสงค์ และบทบาทของตนเองในการบรรลุเป้าหมายของโครงการนั้นๆ อุปสรรค : Customer Base – มีความต้องการที่ซับซ้อน สมาชิกอาจไม่เข้าใจเป้าหมายไม่ตรงกัน และดำเนินงานคนละทิศทาง
3.2 กำหนดโครงสร้างทีมงานให้ชัดเจน ว่าใครมีบทบาทเป็นผู้วิเคราะห์ข้อมูล ,ใครเป็นผู้นำในโครงการ, ใครมีหน้าที่ตัดสินใจ,ใครได้รับมอบหมายงานเรื่องใดบ้าง
อุปสรรค : Customer Base – สมาชิกสับสนในหน้าที่
3.3 การทำงานให้เสร็จทันกำหนดเวลา, มีการบริหารเวลาอุปสรรค : Cultural Change – มีงานด่วนมาแทรกงานโครงการ
3.4 การใช้เครือข่ายทางสังคม เช่นดูวิธีการทำงานจากองค์กรอื่นที่เป็นBest Practice
อุปสรรค : Command Control – ผู้บริหารองค์กรปิดกั้นการเรียนรู้จากภายนอก
4) จะนำความรู้เรื่องทรัพยากรมนุษย์ไปใช้ให้ได้ผลจริงหรือก่อให้เกิดโครงการที่เป็นรูปธรรมในเรื่องใด
ดิฉันสนใจในเรื่องการสร้างนวัตกรรม “ข้าวหยอดเหรียญ” เพื่อให้เกิดประโยชน์ 4 ด้านดังนี้
4.1 สังคม: ช่วยเกษตรกรไทยเพิ่มรายได้ โดยรับซื้อข้าวจากเกษตรกรเพื่อนำมาใส่ในเครื่อง “ข้าวหยอดเหรียญ”
4.2 สินค้า: สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าหลักของประเทศ
4.3 ลูกค้า: ลูกค้าในเมืองมีเวลาน้อย ต้องการความสะดวก, รวดเร็ว
4.4 ความรู้: นำความรู้จากโครงการนวัตกรรมของสนช.เรื่อง “ข้าวหุงสุกเร็ว” มาใช้งานในลักษณะต่อยอด
นิสาลักษณ์ รัษจ์ฎาธิ ID 4914981619
จากที่ได้รับความรู้ในเรื่อง ทรัพยากรมนุษย์ ผ่านประสบการณ์ และ มุมมองเรื่องต่างๆผ่านการบอกเล่าของอาจารย์ ดร แล้วนั้น แม้ว่าจะเป็นการเรียนที่เป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่เป็นการเรียนผ่านลักษณะรูปแบบทางการศึกษาที่ค่อนข้างหาได้ยากในบ้านเมืองเรา คือเรียนแบบแสดงความคิดเห็น เหมือนกับเป็นworkshop ย่อยๆ ซึ่งเป็นเวทีทางความคิด ขอบคุณค่ะสำหรับการสละเวลามาแบ่งปันประสบการณ์ และถ่ายทอดประสบการณ์ที่พี่ค่านี้ให้พวกเรา
จากโจทย์ที่อาจารย์ได้ทิ้งไว้ให้พวกเราทำการบ้านต่อนั้น จะเห็นได้ว่า key หลักของสิ่งทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ข้อ 1 - 4 คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะพูดว่ามนุษย์ หรือเรียกรวมกันแบบเป็นทางการว่า ทรัพยากรมนุษย์คือกลจักร หรือเฟืองสำคัญในการไดร์ฟ innovation ให้เกิดเป็นสิ่งที่จับต้องได้ เมื่อเราทราบแล้วว่า อะไรเป็น source สิ่งต่อมาที่ต้องคิดต่อคือ ทำไงให้มนุษย์ คิดสิ่งใหม่ วางแผนทำสิ่งนั้น และ ตลอดจนนำไปปฏิบัติให้เกิดผล โดย link มนุษย์ให้เชื่อมโยงกับ innovation
ณ ปัจจุบัน แม้ว่า innovation จะเกิดขึ้นในบ้านเรามาในระยะเวลาหนึ่ง แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าใจ innovation อย่างแท้จริง รวมถึงตัวเองก่อนที่เข้าคลาสเรียนกับ ดร นั้น ก็ยังคิดเชื่อมโยงไปว่า innovation คือการคิดเทคโนโลยีใหม่ๆ แต่ได้รับทราบจาก ดร ในคลาสเองว่า innovation กับ technology นั้นเป็นคนละสิ่ง แต่สองสิ่งนี้สามารถใช้ link ถึงกันได้เพื่อเอื้อประโยชน์ในการทำบางนวัตกรรมให้ประสบความสำเร็จ หรือบางทีในบางนวัตกรรมอาจจะ พบว่าไม่จำเป็นเสมอไปที่ innovation จะต้องพึ่งพา technology ก็เป็นได้ ทรัพยากรมนุษย์ คือทุนที่ต้องเริ่ม เพื่อให้เกิด innovation ในอนาคต สิ่งมี่ต้องคิดคำนึงคือ ทำอย่างไรให้ innovation เกิด innovation จะเกิดได้ ก็มาจากทรัพยากรมนุษย์ที่มี ความเข้าใจ innovation อย่างถูกต้อง รวมถึงเค้าเหล่านั้นต้องมีพื้นฐาน หรือมีองค์ความรู้ที่มากเพียงพอ ในการสนับสนุนให้เกิดการคิดใหม่ๆ ตลอดไปจนถึงการนำความรู้แบบใหม่นั้นไปวางแผน และ implement ให้เกิดขึ้นจริงแม้ไม่ใช่ความสำเร็จอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ ณ ครั้งแรกที่ทำก็ตาม เพราะฉะนั้น สรุปสั้นๆคือ การทำให้ทรัพยากรณ์มนุษย์ มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมเรื่องการศึกษา ความรู้รอบตัว ตลอดจนพัฒนาศักยภาพ ของมนุษย์เหล่านั้นเอง ให้เพิ่มพูนขึ้น ด้วยมุมมองในการรู้จักแสวงหาความรู้และ พัฒนาตัวเอง นั่งคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ องค์กรการพัฒนารูปแบบทางความคิดของประเทศต้องนำไปพิจารณา
ถ้าจะให้จินตนาการสิ่ง ที่น่าจะเป็นโปรเจคในความคิดคือการปฏิรูประบบการศึกษา หรือ Education Reformation ที่จะทำให้เด็กไทย หรือแม้แต่คนไทยในปัจจุบันเล็งเห็นการเรียนรู้ให้รู้จักคิด มากกว่าให้ความสำคัญในเรื่องของคะแนนสอบ การท่องจำ รวมถึง ประกาศนียบัตรต่างๆ เหมือนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งก็น่าเป็นทีดีใจว่า การเปลี่ยนแปลงนี้ได้มีจุดเริ่มต้นแล้วที่ คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการนวัตกรรม มหาวิทยาลัยรามคำแหง ในคลาสของ อาจารย์ ดร จิระ
ขอบคุณสำหรับความรู้ทุกอย่างค่ะ
เรียน อาจารย์ยม ที่เคารพ
ผมพยายามส่งขึ้น Blog หลายครั้ง พอตรวจดูแล้วก็พบว่า
เมื่อทำการบันทึกตัวเลขตัวอักษรมันเพี้ยน อ่านแล้ว
อาจจะงงๆ ได้ ผมรู้สึกกังวลดังนั้นจึงแนบต้นฉบับมากับ E-mail นี้ รบกวน
อาจารย์ยม ส่งต่อ ศ.ดร.จีระ ให้ผมด้วยนะครับ เพราะผมพยายามเขียนให้ได้ใจความเป็นอย่างมากครับ
ด้วยความเคารพ
นาย จักร์กริช เงาแสงจันทร์
ID 4914980889
Tel : 011711339, 016266403
*****************************************************************
รายงานนวัตกรรมกับการบริหารการจัดการทรัพยากรมนุษย์
โครงการบริหารธุรกิจมหาบัญฑิต MBA (Innovation)
นำเสนอ ท่านอาจารย์ ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์
จัดทำโดย
นาย จักร์กริช เงาแสงจันทร์
รหัสนักศึกษา 4914980889
Tel: 01-1711339
นวัตกรรมกับการบริหารการจัดการด้านทรัพยากรมนุษย์เป็นที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง หรือจะกล่าวได้ว่าเป็นสิ่งต้องอยู่คู่กันทั้งในระดับองค์กร จะถึงระดับประเทศก็ว่าได้ เพราะนวัตกรรมทั้งหลายทั้งปวงจะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยบุคคล เช่นบุคคลากรในองค์กร มีแนวความคิด มีความสามารถในการประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ๆ จากองค์ความรู้ (Knowledge) ที่มีอยู่เดิมในองค์กร หรือในตัวของแต่ละบุคคลเอง หรือองค์ความรู้ที่เกิดจากการวิจัย(Research) หรือ องค์ความรู้ที่เกิดจากการวิจัยและพัฒนาที่ได้สะสมมา (Research & Development : R&D) โดยการนำองค์ความรู้ต่างๆเหล่านั้นมาประสมประสานจนก่อให้เกิดเป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ หรือกระบวนการใหม่ (New Business Process) หรื่อก่อให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่หรือบริการใหม่ ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม ประเทศชาติ และที่สำคัญคือเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติหากมองในระดับโลกาภิวัตน์ (Globalization) โดยไม่ได้หมายถึงประโยชน์ทางด้านการเงินเพียงอย่างเดียว แต่จะหมายถึงประโยชน์ที่เป็นมูลค่าทางด้านสังคมและจิตใจในอีกนัยหนึ่งด้วย ดังนั้นดังที่กล่าวมาทรัพยากรมนุษย์จึงเป็นสิ่งแรกที่จะต้องคำนึงถึง เป็นสิ่งที่ขาดเสียมิได้ และต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่จากองค์กร พร้อมกันนั้นการใช้การบริหารการจัดการทรัพยากรมนุษย์ต้องให้มีความทันสมัย ก่อให้เกิดเป็นกระบวนการที่เป็นรูปธรรมที่สามารถจับต้องและนำมาปฏิบัติจนประสพผลสำเร็จตามเป้าหมายหรือนโยบายที่ได้วางไว้ได้ (Achieved)
จากแนวความคิดใหม่ดังกล่าวจัดว่าเป็นการนำความรู้ความคิด และการนำประสบการณ์ที่ได้ในด้านทรัพยากรมนุษย์จนถูกริเริ่มนำมาใช้ ซึ่งจัดเป็นแนวความคิดใหม่จนก่อเกิดเป็นนวัตกรรมในด้านการบริหารการจัดการทรัพยากรมนุษย์ และเป็นนวัตกรรมที่สามารถจับต้องนำมาใช้ได้ เพื่อดูแลและพัฒนาบุคคลากรในองค์กรเหล่านั้นสู่ยุคแห่งการพัฒนาบุคลากรด้านนวัตกรรมในปัจจุบันและในอนาคตอันใกล้ที่กำลังจะมาถึง โดยนวัตกรรมด้านการจัดการทรัพยากรมนุษย์ดังกล่าวเห็นว่าบุคลากรมีความสำคัญและมีค่า หรือที่ปัจจุบันเรียกว่า “บุคลากรเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญอย่างหนึ่งและมีคุณค่ากับองค์กร ที่ต้องดูแลรักษาหรือเก็บรักษาไว้” (Human Capital) บุคคลากรเหล่านั้นอาจก่อให้เกิดหรือสร้างนวัตกรรมได้ในภายหลัง
2. การจัดการทรัพยากรมนุษย์มีการทำงานที่เป็นรูปธรรม หรือ Project หรือ Action Plan สามารถทำได้อย่างไรนวัตกรรมจะเกิดได้จะต้องเกิดจากการสร้างกระบวนการที่สามารถจับต้องได้ และนำมาใช้ก่อให้เกิดเป็นรูปธรรมได้ ดังนั้นจากคำว่า “กระบวนการ” จัดอยู่ในเส้นทางที่เรียกว่ากลางน้ำ (Middle-Steam) เป็นกระบวนการในการทำหรือขั้นตอนในการนำไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ของนวัตกรรมนั้น ประกอบด้วยการนำความรู้ที่จะต้องคำนึงถึง เช่น 5K, 8K, 4L, 2R และ 3Q เป็นต้น
ในการสร้างเป็นโครงการ (Projects) หรือ แผนปฏิบัติการ (Action Plan) สามารถทำได้โดยการนำโครงการต่างๆนำเสนอต่อผู้บริหารระดับสูงหรือ CEO ขององค์กรนั้น เช่น โครงการการพัฒนาบุคลากรนวัตกรรมในองค์การ (Innovation Human Development Project) มีระยะเวลาของโครงการ 3 เดือนโดยมีบุคลากรในฝ่ายต่างๆเข้าร่วม และจัดทำเป็นแผนปฎิบัติการ (Action Plan) นำเสนอนุมัติอีกครั้ง โดยในแผนปฏิบัติการต้องมีการกำหนดช่วงระยะเวลา และครอบคลุมเรื่องราวต่างดังนี้
- คัดเลือกบุคลากรจากฝ่ายต่างๆ ที่เหมาะสม- กำหนดหลักสูตร และ Workshop ที่นำมาประกอบขึ้น- เนื้อหาและขั้นตอนระยะเวลาปฏิบัติที่ต้องมีประสิทธิภาพ และมีประสิทธิผลสูงสุด- ประเมินผลการฝึกอบรม เป็นต้น 3. ทำอย่างไรโครงการนวัตกรรมเหล่านั้นจึงจะประสพความสำเร็จ และไม่สำเร็จเพราะอะไรความสำเร็จของนวัตกรรมจัดอยู่ในระดับปลายน้ำ (Down-Steam) ซึ่งจะประสพผลสำเร็จหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับนวัตกรรมนั้นก่อให้เกิดผลสำเร็จตามเป้าหมายหรือไม่ ดังนั้นการนวัตกรรมจะประสพความสำเร็จได้ต้องเกิดจากการประสมประสานที่ดีของ 3 ขั้นตอน (3 Stages) ดังต้องไปนี้
1. Communication Change หมายถึง บุคลากรไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงในการสื่อสารของนวัตกรรมนั้น
2. Customer Base หมายถึง นวัตกรรมเหล่านั้นไม่ตอบโจทย์ หรือตอบสนองความต้องการของลูกค้าต่างๆได้
3. Command Control หมายถึง การควบคุมสั่งการไปในทิศทางต้องถูกต้องเหมาะสมกับนวัตกรรมนั้น
ในความสำเร็จของนวัตกรรมนั้นควรมีการให้รางวัลกับบุคลากรเหล่านั้นเมื่อคิดค้นจนสามารถนำมาประดิษฐ์เป็นสิ่งใหม่ๆที่จัดเป็นผลงานในด้านนวัตกรรม (Innovation) ได้เป็นผลสำเร็จ เพื่อเป็นแรงจูงใจ และเป็นตัวอย่างแก่บุคลากรอื่นๆต่อไป 4. หากท่านอยากทำนวัตกรรมด้านทรัพยากรมนุษย์เราจะทำในเรื่องใด?หากข้าพเจ้าจะจัดทำโครงการด้านนวัตกรรมด้านการบริหารการจัดการทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งข้าพเจ้าจะทำในเรื่องของ การสร้างวัฒนธรรมองค์กรเป็นหลัก (Cooperative Culture) เพราะวัฒนธรรมองค์กรที่ดีจัดเป็นการสร้างนวัตกรรมที่ท้าทายอย่างหนึ่ง โดยจะมีผลดีกับองค์กร สังคม ประเทศชาติ และเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติในที่สุด เพราะนวัตกรรมการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดีจะทำให้ทรัพยากรมนุษย์เหล่านั้นตระหนัก ถึงความสำคัญต่อตนเองและผู้อื่น สามารถประดิษฐคิดค้นและพัฒนาสิ่งต่างๆ ออกสู่ภายนอก โดยเน้น การนำนวัตกรรมด้านสินค้า และบริการที่ทรงคุณค่า และจริยธรรมทางธุรกิจ ไปสู่สังคมและพลโลกในที่สุด ข้าพเจ้าจะใช้หลักการ 3C เช่นกัน แต่เป็น 3C สู่ความสำเร็จ คือ
- Communication Clearly หมายถึง ฝึกอบรมให้มีการสื่อสารชัดเจนตรงประเด็น รับผิดชอบต่อการสื่อสารนั้น
- Continuous Human Resource Improvement หมายถึงพัฒนาแนวความคิดของบุคคลด้านการสร้างนวัตกรรมให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- Create Business culture on Business Ethic. หมายถึง การสร้างวัฒนธรรมด้านการทำธุรกิจบนจริยธรรมด้านธุรกิจเมื่อได้แนวทางและหลักการดังกล่าวก่อเกิดเป็นนวัตกรรมด้านการบริหารการจัดการด้ายทรัพยากรมนุษย์แล้วจากนั้นจะนำไปสร้างกระบวนการและขั้นตอนเพื่อบรรลุเป้าหมายสู่ความสำเร็จต่อไป
รายงานนวัตกรรมกับการบริหารการจัดการทรัพยากรมนุษย์
โครงการบริหารธุรกิจมหาบัญฑิต MBA (Innovation)
นำเสนอ ท่านอาจารย์ ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์
จัดทำโดย
นาย จักร์กริช เงาแสงจันทร์
รหัสนักศึกษา 4914980889
Tel: 01-1711339
นวัตกรรมกับการบริหารการจัดการด้านทรัพยากรมนุษย์เป็นที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง หรือจะกล่าวได้ว่าเป็นสิ่งต้องอยู่คู่กันทั้งในระดับองค์กร จะถึงระดับประเทศก็ว่าได้ เพราะนวัตกรรมทั้งหลายทั้งปวงจะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยบุคคล เช่นบุคคลากรในองค์กร มีแนวความคิด มีความสามารถในการประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ๆ จากองค์ความรู้ (Knowledge) ที่มีอยู่เดิมในองค์กร หรือในตัวของแต่ละบุคคลเอง หรือองค์ความรู้ที่เกิดจากการวิจัย(Research) หรือ องค์ความรู้ที่เกิดจากการวิจัยและพัฒนาที่ได้สะสมมา (Research & Development : R&D) โดยการนำองค์ความรู้ต่างๆเหล่านั้นมาประสมประสานจนก่อให้เกิดเป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ หรือกระบวนการใหม่ (New Business Process) หรื่อก่อให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่หรือบริการใหม่ ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม ประเทศชาติ และที่สำคัญคือเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติหากมองในระดับโลกาภิวัตน์ (Globalization) โดยไม่ได้หมายถึงประโยชน์ทางด้านการเงินเพียงอย่างเดียว แต่จะหมายถึงประโยชน์ที่เป็นมูลค่าทางด้านสังคมและจิตใจในอีกนัยหนึ่งด้วย ดังนั้นดังที่กล่าวมาทรัพยากรมนุษย์จึงเป็นสิ่งแรกที่จะต้องคำนึงถึง เป็นสิ่งที่ขาดเสียมิได้ และต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่จากองค์กร พร้อมกันนั้นการใช้การบริหารการจัดการทรัพยากรมนุษย์ต้องให้มีความทันสมัย ก่อให้เกิดเป็นกระบวนการที่เป็นรูปธรรมที่สามารถจับต้องและนำมาปฏิบัติจนประสพผลสำเร็จตามเป้าหมายหรือนโยบายที่ได้วางไว้ได้ (Achieved)
จากแนวความคิดใหม่ดังกล่าวจัดว่าเป็นการนำความรู้ความคิด และการนำประสบการณ์ที่ได้ในด้านทรัพยากรมนุษย์จนถูกริเริ่มนำมาใช้ ซึ่งจัดเป็นแนวความคิดใหม่จนก่อเกิดเป็นนวัตกรรมในด้านการบริหารการจัดการทรัพยากรมนุษย์ และเป็นนวัตกรรมที่สามารถจับต้องนำมาใช้ได้ เพื่อดูแลและพัฒนาบุคคลากรในองค์กรเหล่านั้นสู่ยุคแห่งการพัฒนาบุคลากรด้านนวัตกรรมในปัจจุบันและในอนาคตอันใกล้ที่กำลังจะมาถึง โดยนวัตกรรมด้านการจัดการทรัพยากรมนุษย์ดังกล่าวเห็นว่าบุคลากรมีความสำคัญและมีค่า หรือที่ปัจจุบันเรียกว่า “บุคลากรเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญอย่างหนึ่งและมีคุณค่ากับองค์กร ที่ต้องดูแลรักษาหรือเก็บรักษาไว้” (Human Capital) บุคคลากรเหล่านั้นอาจก่อให้เกิดหรือสร้างนวัตกรรมได้ในภายหลัง
2. การจัดการทรัพยากรมนุษย์มีการทำงานที่เป็นรูปธรรม หรือ Project หรือ Action Plan สามารถทำได้อย่างไร
นวัตกรรมจะเกิดได้จะต้องเกิดจากการสร้างกระบวนการที่สามารถจับต้องได้ และนำมาใช้ก่อให้เกิดเป็นรูปธรรมได้ ดังนั้นจากคำว่า “กระบวนการ” จัดอยู่ในเส้นทางที่เรียกว่ากลางน้ำ (Middle-Steam) เป็นกระบวนการในการทำหรือขั้นตอนในการนำไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ของนวัตกรรมนั้น ประกอบด้วยการนำความรู้ที่จะต้องคำนึงถึง เช่น 5K, 8K, 4L, 2R และ 3Q เป็นต้น
ในการสร้างเป็นโครงการ (Projects) หรือ แผนปฏิบัติการ (Action Plan) สามารถทำได้โดยการนำโครงการต่างๆนำเสนอต่อผู้บริหารระดับสูงหรือ CEO ขององค์กรนั้น เช่น โครงการการพัฒนาบุคลากรนวัตกรรมในองค์การ (Innovation Human Development Project) มีระยะเวลาของโครงการ 3 เดือนโดยมีบุคลากรในฝ่ายต่างๆเข้าร่วม และจัดทำเป็นแผนปฎิบัติการ (Action Plan) นำเสนอนุมัติอีกครั้ง โดยในแผนปฏิบัติการต้องมีการกำหนดช่วงระยะเวลา และครอบคลุมเรื่องราวต่างดังนี้
- คัดเลือกบุคลากรจากฝ่ายต่างๆ ที่เหมาะสม- กำหนดหลักสูตร และ Workshop ที่นำมาประกอบขึ้น- เนื้อหาและขั้นตอนระยะเวลาปฏิบัติที่ต้องมีประสิทธิภาพ และมีประสิทธิผลสูงสุด- ประเมินผลการฝึกอบรม เป็นต้น
3. ทำอย่างไรโครงการนวัตกรรมเหล่านั้นจึงจะประสพความสำเร็จ และไม่สำเร็จเพราะอะไร
ความสำเร็จของนวัตกรรมจัดอยู่ในระดับปลายน้ำ (Down-Steam) ซึ่งจะประสพผลสำเร็จหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับนวัตกรรมนั้นก่อให้เกิดผลสำเร็จตามเป้าหมายหรือไม่ ดังนั้นการนวัตกรรมจะประสพความสำเร็จได้ต้องเกิดจากการประสมประสานที่ดีของ 3 ขั้นตอน (3 Stages) ดังต้องไปนี้
นวัตกรรมที่ไม่ประสพผลสำเร็จเกิดจากสิ่ง 3 สิ่งตามทฤษฎี (3C)
1. Communication Change หมายถึง บุคลากรไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงในการสื่อสารของนวัตกรรมนั้น
2. Customer Base หมายถึง นวัตกรรมเหล่านั้นไม่ตอบโจทย์ หรือตอบสนองความต้องการของลูกค้าต่างๆได้
3. Command Control หมายถึง การควบคุมสั่งการไปในทิศทางต้องถูกต้องเหมาะสมกับนวัตกรรมนั้น
ในความสำเร็จของนวัตกรรมนั้นควรมีการให้รางวัลกับบุคลากรเหล่านั้นเมื่อคิดค้นจนสามารถนำมาประดิษฐ์เป็นสิ่งใหม่ๆที่จัดเป็นผลงานในด้านนวัตกรรม (Innovation) ได้เป็นผลสำเร็จ เพื่อเป็นแรงจูงใจ และเป็นตัวอย่างแก่บุคลากรอื่นๆต่อไป
4. หากท่านอยากทำนวัตกรรมด้านทรัพยากรมนุษย์เราจะทำในเรื่องใด?
หากข้าพเจ้าจะจัดทำโครงการด้านนวัตกรรมด้านการบริหารการจัดการทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งข้าพเจ้าจะทำในเรื่องของ การสร้างวัฒนธรรมองค์กรเป็นหลัก (Cooperative Culture) เพราะวัฒนธรรมองค์กรที่ดีจัดเป็นการสร้างนวัตกรรมที่ท้าทายอย่างหนึ่ง โดยจะมีผลดีกับองค์กร สังคม ประเทศชาติ และเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติในที่สุด เพราะนวัตกรรมการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดีจะทำให้ทรัพยากรมนุษย์เหล่านั้นตระหนัก ถึงความสำคัญต่อตนเองและผู้อื่น สามารถประดิษฐคิดค้นและพัฒนาสิ่งต่างๆ ออกสู่ภายนอก โดยเน้น การนำนวัตกรรมด้านสินค้า และบริการที่ทรงคุณค่า และจริยธรรมทางธุรกิจ ไปสู่สังคมและพลโลกในที่สุด ข้าพเจ้าจะใช้หลักการ 3C เช่นกัน แต่เป็น 3C สู่ความสำเร็จ คือ
- Communication Clearly หมายถึง ฝึกอบรมให้มีการสื่อสารชัดเจนตรงประเด็น รับผิดชอบต่อการสื่อสารนั้น
- Continuous Human Resource Improvement หมายถึงพัฒนาแนวความคิดของบุคคลด้านการสร้างนวัตกรรมให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- Create Business culture on Business Ethic. หมายถึง การสร้างวัฒนธรรมด้านการทำธุรกิจบนจริยธรรมด้านธุรกิจ
เมื่อได้แนวทางและหลักการดังกล่าวก่อเกิดเป็นนวัตกรรมด้านการบริหารการจัดการด้ายทรัพยากรมนุษย์แล้วจากนั้นจะนำไปสร้างกระบวนการและขั้นตอนเพื่อบรรลุเป้าหมายสู่ความสำเร็จต่อไป
ดิฉันรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้รับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับทางด้านทรัพยากรมนุษย์จากท่าน และรู้สึกว่าได้รับประโยชน์มากเลยทีเดียว และดิฉันจะขอแสดงความคิดเห็นต่อคำถามของท่าน ดังต่อไปนี้
เรียน ศ. ดร. จีระ หงส์ลดารมภ์
ดิฉัน น.ส. วรรณทนา ราชชมภู นักศึกษาปริญญาโท บริหารธุรกิจ สาขานวัตกรรม รหัส 4914980634
ขอแสดงความคิดเห็นดังนี้ค่ะ
มนุษย์เป็นผู้คิดและเป็นผู้ทำ นวัตกรรมต่างๆต้องเกิดจากมนุษย์เป็นสรรค์สร้างขึ้น
ทรัพยากรมนุษย์ที่จะทำนวัตกรรมได้ต้องมี
- เป็นคนเก่ง ในที่นี้หมายถึงเป็นผู้ที่มีความรู้ ช่างคิด ช่างสังเกต มีมุมมองที่หลากหลาย
- เป็นคนดี จะต้องคิดนวัตกรรมในเชิงสร้างสรรค์ เป็นประโยชน์ต่อสังคมและเศรษฐกิจ
- เป็นผู้ที่ทำให้เกิดความสามัคคีในหมู่คณะ จึงจะทำให้นวัตกรรมประสบผลสำเร็จ
- ต้องศึกษาถึงปัญหาหรือความต้องการของลูกค้า แล้วกำหนดเป้าหมายของ project ให้ชัดเจน
- ผู้บริหารต้องมีความมุ่งมั่นที่จะทำ project
- กำหนดระยะเวลาในการติดตามความคืบหน้าให้ชัดเจน
- ประสัมพันธ์ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรับทราบถึง project และให้เข้าใจตรงกัน
- จัดการฝึกอบรมในส่วนที่ต้องได้รับความรู้หรือทักษะเพิ่มเติม เพื่อมาใช้ในการพัฒนา project
- ผู้บริหารต้องการสนับสนุนเต็มที่ เช่น มีรางวัลพิเศษในการทำ project, เปิดโอกาสให้ผู้ปฏิบัติได้แสดงความคิดเห็น
- ต้องมีความตั้งใจ จริงจัง มีเป้าหมายที่แน่นอน
- ประสานงานกันเป็นทีม
อุปสรรคที่ทำให้โครงการไม่ประสบผลสำเร็จ
- ไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหาร
- ขาดความเอาใจใส่ของผู้ปฏิบัติงาน
- ขาดกำลังใจในการทำงาน
- บุคคลากรไม่เพียงพอ
เนื่องจากดิฉันทำงานทางด้าน R&D เกี่ยวกับเครื่องสำอาง โดยบริษัทเป็นการรับจ้างการผลิต
แต่มีการคิดค้นสูตรใหม่ๆนำเสนอให้ลูกค้าตลอดเวลา
โครงการที่สนใจคือการนำ พืชสมุนไพรไทย เช่น สมอไทย มาผลิตเป็นเครื่องสำอาง ซึ่งจะต้องร่วมการทำงานกับทางมหาวิทยาลัย โดยนำงานวิจัยที่ค้นคว้าไว้แล้วนำมาใช้ในการผลิตเป็นเครื่องสำอางเพื่อนำเสนอไปสู่ตลาดสากล
Diagram of HR & Innovation relationship
1. การหาคนเก่ง คนดี รักสามัคคี 1. Products 2. การพัฒนาคน ความรู้ใหม่ ส่งเสริม ß HR ßà Innovation à 2. Service3. การรักษาคนเก่ง คนดี ให้อยู่นานๆ 3. HR Innovation
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเริ่มจากรากฐานที่มั่นคงและแข็งแรง หากต้องการผลลัพธ์ที่มีคุณภาพและยั่งยืน ในการเข้าถึงคำว่า Innovation ก็เช่นกัน ต้องเริ่มจากรากฐานที่มั่นคงก่อน เมื่อ Innovation คือการใช้ความรู้และเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้ว ไปปฏิบัติเพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ขึ้นมาและมีประโยชน์แก่ส่วนรวม แล้วใครล่ะที่จะเลือกใช้ความรู้ที่มีอยู่มากหมายเหล่านั้น แล้วใครล่ะที่จะนำไปปฏิบัติโดยอยู่ในกรอบแห่งเหตุผล ถ้าไม่ใช่ HR
ดังนั้นทรัพยากรมนุษย์ ถือเป็น ผู้เริ่ม ผู้วางรากฐาน และผู้ปฏิบัติ ที่มีคุณค่าจนไม่สามารถใช้หลักเศรษฐศาสตร์ใด ๆ มาประเมินราคาให้เป็นหน่วยวัดได้ แต่ปัญหาก็คือ HR แบบไหนล่ะที่จะก่อให้เกิดนวัตกรรมที่แท้จริง ซึ่งต้องขออนุญาต ท่านอาจารย์ จีระ หงส์ลดารมภ์ ยืมคำว่า System Thinking มาใช้ นั่นคือบุคคลเหล่านั้นต้องมีระบบความคิดที่ดี คิดเป็น วิเคราะห์เป็น จึงจะทำได้ ขอย้ำอีกครั้งว่า จะต้อง “คิดเป็น วิเคราะห์เป็น และ คิดดี” จึงจะโป๊ะเช๊ะ จึงจะเกิด Innovation เมื่อคน “โป๊ะเช๊ะ” แน่นอน Innovation ย่อม “โป๊ะเช๊ะ” ตาม ตอนนี้ก็เหลือเพียงว่า เราจะทำอย่างไรต่อไปล่ะจึงจะเกิดขึ้นจริงและเป็นรูปธรรม จึงนำมาสู่คำถามถัดไปคือ
2. เราจะนำระบบการจัดการทรัพยากรมนุษย์มาใช้ให้เป็นรูปธรรมได้อย่างไรในประเด็นนี้ ผมต้องขอนำตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริงและเป็นรูปธรรมในปัจจุบันที่สุดมาใช้ตอบคำถาม นั่นคือ วิธีการบริหารบุคคลของท่าน พารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา ซึ่งผมคิดว่า คงไม่มีต้นแบบที่จับต้องได้อื่นใดที่จะสื่อความชัดเจนได้มากเท่าท่านอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อในคุณค่าของบุคคล และดึงความสามารถนั้น ๆ มาใช้ให้เหมาะสมและเป็นประโยชน์ที่สุดด้วยความต้องการของเขาจริง ๆ โดยไม่จำเป็นต้องบังคับสั่งการ หรือกรสร้างความอบอุ่นในองค์กรของท่านด้วยการมองความเท่าเทียมกันในความเป็นมนุษย์โดยไม่แบ่งชนชั้น หรือไม่ว่าจะเป็นการเน้นความเป็นผู้นำทางความคิดและการปฏิบัติ ที่นำไปสู่ความร่วมมือในองค์กรอย่างไม่รู้เหนื่อยของพนักงานทุกคน เพราะทำด้วยใจ และความเข้าใจ
ท่านพารณฯ ถือเป็นผู้นำ การเปลี่ยนแปลงด้านทรัพยากรมนุษย์ที่เป็นรูปธรรมชัดเจนที่สูดผู้หนึ่ง และท่านเป็นผู้ที่เหมาะสมกับการใช้คำว่า “ผู้นำ” แทนคำว่า “หัวหน้าหรือผู้บังคับบัญชา” ที่เน้น Command&Control มากที่สุดเช่นกัน จากที่กล่าวมานี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่แสดงความเป็นรูปธรรมที่สุดเท่านั้น ทั้งนี้จุดกระตุ้นในการนำมามาสู่การเปลี่ยนแปลง คงหนีไม่พ้นทฤษฎี 4 L’s ของท่านเอง คือ Village that learns, School that learns, Industry that learns และNation that learns
อย่างไรก็ดี จากที่กล่าวมาทั้งหมด คือตัวอย่างของความเป็นรูปธรรม ที่เป็นเพียงบทสรุปจากการปฏิบัติ ไม่ใช่กระบวนการปฏิบัติหรือที่เรียกว่า Action plan แต่อย่างใด
ในการบริหารทรัพยากรมนุษย์กับ Innovation ที่จะนำไปสู่การปฏิบัติจริงในองค์กรนั้น เราอาจมีระยะเวลาไม่มากพอที่จะใช้ทฤษฎี 4 L’s ของท่านพารณฯ ในการวางรากฐานในการเรียนรู้องค์รวม แต่ด้วยวิธีการทำงานต่าง ๆ ของท่านพารณฯนี้เองสามารถนำไปสู่ Action plan ในอีกรูปแบบหนึ่งคือ
1) การสร้างความเข้าใจและการยอมรับการเปลี่ยนแปลงด้วยการมีส่วนร่วมของพนักงานกับบริษัท ซึ่งอาจเริ่มจากการทำ Workshop ในแต่ละแผนก ที่เป้าหมายผูกกับรายได้ส่วนเพิ่ม (Incentive)ของพนักงานเอง เป็นต้น ซึ่งในช่วงต้นอาจมองว่าเป็นการกดดันพนักงานและคล้ายกับระบบ Command&Control ก็ได้ แต่ผ่านไปสักระยะหนึ่งก็จะเข้าใจและเป็นการร่วมมือมากขึ้นเอง
2) สร้างคุณค่าของบุคลากรด้วยการมอบโอกาสให้พนักงานในการเสนอความคิดเห็นในการพัฒนาองค์กร เช่น หัวหน้าแผนกทุกแผนกต้องทำหน้าที่เป็นผู้นำหรือ Coach ที่ดีให้กับลูกน้องในการชี้ประเด็น(เป้าหมาย) ในแต่ละเรื่องที่ประชุม และให้โอกาสพนักงานแสดงความคิดเห็นในการปฏิบัติการแก้ปัญหา เป็นต้น
3) ให้กำลังใจหรือรางวัล เมื่อพนักงานทำได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ หรือลงโทษ/ติชม หากทำไม่ได้โดยไม่มีเหตุผลที่สมควร
4) ดำรงรักษาการปฏิบัติงานไว้ให้ยั่งยืน ด้วยการจัดทำเป็นมาตรฐานการปฏิบัติงาน และพัฒนาอบรมเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง
แน่นอนการนำสิ่งเหล่านี้ไปใช้ย่อมพบกับอุปสรรค แต่นับว่าเป็นความโชคดีของพวกเราที่ได้พบกับ Guru ทาง HR เช่นอาจารย์จีระ ที่มาชี้ประเด็นของอุปสรรคล่วงหน้าที่เราจะต้องเจอไว้อย่างชัดเจนแล้ว เมื่อเราจะเปลี่ยนแปลงการทำงานในองค์กร นั่นก็คือ ทฤษฎี 3 C ได้แก่
- Communication change..คือไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง เพราะวัฒนธรรมองค์กรไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง หรือที่เรียกว่า Cultural change
- Customer base..คือ มี Idea ดี แต่ไม่มีการมองลูกค้า มีแต่ supply ไม่มี demand
- Command control..คือ มี Idea ดี แต่นายไม่เปิดโอกาสให้ลูกน้อง share idea เลยมีนายเก่ง คิดอยู่คนเดียว
อุปสรรค 3 อย่างที่ต้องเผชิญนี้ อาจถือเป็นสัจธรรมทุกครั้งที่จะต้องเกิด เมือจะเปลี่ยนแปลง และในการฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านี้ให้ได้ด้วยดีนั้น จะต้องสร้างความเข้าใจและการยอมรับของพนักงานกับการเปลี่ยนแปลงนั้น ๆ ให้ได้ ซึ่งก็ทำให้ผมต้องอ้างชื่อท่านพารณฯ อีกครั้ง ว่า การผูกใจพนักงานด้วยความรัก คือทางออกที่ดีที่สุดนั่นเอง และนอกจากนี้การแสดงตนให้เป็นต้นแบบของการเปลี่ยนแปลงนั้น ๆ ก็เป็นเรื่องที่สำคัญพอ ๆ กัน ในหนทางปฏิบัติของท่านพารณฯ ท่านทำตนเป็นต้นแบบที่ดีอยู่ 4 เรื่อง คือ
- คนเก่ง-คนดี (เก่ง 4 ดี 4)
- ความเชื่อในคุณค่าของคน ว่าเป็นทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดขององค์กร ยิ่งพัฒนาอบรม ยิ่งมากค่า
- Holistic concern คือ “คนไม่ได้ต้องการผลตอบแทนที่เป็นเงินทองอย่างเดียว แต่ยังต้องการผลตอบแทนทางใจด้วย”
- การทำงานเป็นทีม
และจากที่ได้กล่าวมาข้างต้น คือคำตอบของคำถามข้อที่ 3 เรื่องทำอย่างไรโครงการนวัตกรรมเหล่านั้นจึงจะประสพความสำเร็จ และไม่สำเร็จเพราะอะไร
ท้ายนี้ผมขออภัยทุกท่านที่ใช้พื้นที่ใน Blog ค่อนข้างมาก แต่มันคือส่วนหนึ่งที่ผมอยาก share กับสิ่งที่ผมได้มาจากการที่ได้ฟังอาจารย์ จีระ บรรยายใน 3-4 ชั่วโมง หากผมอธิบายไม่รู้เรื่องหรือเข้าใจอะไรบางอย่างผิดไปขอกราบอภัยทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
สำหรับคำถามข้อสุดท้ายคือ โครงการในฝันที่ท่านจะทำให้เกิดขึ้นจริงในส่วนของ HR ที่สัมพันธ์กับ Innovation สำหรับตัวผมเองนั้น ข้อนี้ยากมากที่จะตอบให้ตรงประเด็นครับ และขอยอมรับว่ายังไม่สามารถตอบได้ เพราะผมคิดว่า โครงการจะทำได้จริง จะต้องประกอบไปด้วย 4 ส่วนคือ การคิด, การพิสูจน์ความเป็นไปได้ด้วยเหตุผล, การลงมือปฏิบัติจริง และสุดท้ายต้องตรวจสอบผลงาน ด้วยเหตุนี้เอง ผมจึงยังไม่สามารถตอบได้ แต่ถ้าให้ตอบเฉพาะส่วนแรก คือเรื่อง ความคิด นั้น ยังพอตอบได้บ้างแต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะนำไปปฏิบัติได้จริงหรือไม่ เพราะยังไม่มีเวลาพิสูจน์ด้วยเหตุผลและลงมือปฏิบัติจริง ก็คือ “โครงการบูรณาการการศึกษาจากรากหญ้าสู่สากลด้วยการเรียนรู้เชิงระบบ” ที่เริ่มจากแนวคิดของทฤษฎี 4 L’s ของท่านพารณฯ เพราะผมมองว่าเป็นคำตอบสำหรับการสร้างรากฐานที่มั่นคงและยั่งยืนที่สุดแห่ง Innovation Capitalรายงานจาก นาย จารุพงษ์ เหล่าพรสวรรค์ รหัส 4914980813
1. การจัดการทรัพยากรมนุษย์ช่วยในเรื่องนวัตกรรมอย่างไร
ตอบ ทรัพยากรมนุษย์ นับเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักที่มีความสำคัญที่สุด ที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ องค์กรจำเป็นต้องมีบุคคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ และวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล สามารถประยุกต์ความรู้ส่วนบุคคลมาใช้กับนวัตกรรมที่องค์กรจัดหาให้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้จริง หากขาดการจัดการทรัพยากรมนุษย์ที่ดี และเหมาะสม นวัตกรรมที่มีอยู่ก็ไม่สามารถเกิดประโยชน์ได้ด้วยตัวของมันเอง
2 ทรัพยากรมนุษย์ช่วยในเรื่องidea เพื่อทำให้เกิดprojectหรือ action plan
ตอบ ทรัพยากรมนุษย์ จะกล่าวอีกนัยหนึ่งหมายถึง บุคคล ซึ่งแน่นอนว่า คนแต่ละคน มีความสนใจ และมีความคิด มุมมอง บุคคลิกภาพ มีการเรียนรู้จากสังคม มีสภาพความเป็นอยู่ ที่แตกต่างกัน เราต้องสามารถบริหารความแตกต่างให้เกิดประโยชน์ ตามความคิดสร้างสรรค์ โดยการจัดทำโครงการให้เป็นรูปธรรม เกิดขึ้นตามแผนงานจริง มีระยะเวลาที่แน่นอน และตรงตามเป้าหมายของการพัฒนาองค์กรได้
3 ทำอย่างไรจะทำโครงการให้ประสบความสำเร็จและมีอุปสรรคในเรื่องทรัพยากรมนุษย์และมีอุปรรคอะไรบ้างที่ไม่ประสบความสำเร็จ
ตอบ การจะทำสิ่งใดให้ประสบความสำเร็จ จะต้ององค์ประกอบที่สำคัญดังนี้
- มีเป้าหมายขององค์กรที่ชัดเจน และสนับสนุนการทำงาน
- มีผู้นำองค์กรที่มีวิสัยทัศน์ และให้การสนันสนุนให้เกิดการปฏิบัติงานได้จริง
- มีผู้ปฏิบัติงานที่มีความรู้ ความสามารถ นำนวัตกรรมมาใช้
- มีเงินทุน
- มีความกล้าหาญ ยอมรับต่อสิ่งใหม่ๆ
- มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
อุปสรรค
- ขาดความร่วมมือ จากผู้นำ ผู้ร่วมงาน ภายในองค์กร- ขาดบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ - ขาดเป้าหมายขององค์กรที่ชัดเจน - ขาดวิสัยทัศน์ และมีความอคติ ของบุคคลากร - ขาดการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ - ขาดคุณธรรม และจริยธรรมในการนำนวัตกรรมมาใช้ในเชิงสร้างสรรค์4.จะเอาความรู้เรื่องทรัพยากรมนุษย์ไปใช้ให้ได้ผลจริง โดยมีโครงการที่คิดว่าอยากจะทำในอนาคตตอบ ผมสนใจที่จะสร้างความรู้ความเข้าใจ เรื่องของนวัตกรรม กับกลุ่มเด็กๆในระดับอนุบาล ให้ รู้จัก คุ้นเคย กับ คำว่า นวัตกรรม เพื่อให้ได้เริ่มมีความรู้พื้นฐานทางความคิดเกี่ยวกับ นวัตกรรมในแง่บวก และกระตุ้นให้เกิดการอยากเรียนรู้ที่แปลกใหม่ ประโยชน์ ความสำคัญและการใช้นวัตกรรมให้มากขึ้น
เรียน ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ และคณะ
ดิฉัน นางเนตรทราย ชัยสมภพ นักศึกษาปริญญาโท โครงการบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการนวัตกรรม มหาวิทยาลัยรามคำแหง รหัสประจำตัว 4914981524 ขอกราบขอบพระคุณท่านศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ , อาจารย์ยม และคณะ ที่ได้กรุณามอบความรู้และประสบการณ์อันมีค่ายิ่งแก่ดิฉัน และดิฉันใคร่ขอโอกาสนี้ เสนอความคิดเห็นในเรื่องของทรัพยากรมนุษย์ และนวัตกรรม ดังนี้
ประเทศไทยในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ตั้งแต่หลังยุคฟองสบู่แตก ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ต่างมีความตื่นตัว หันมาให้ความสนใจในการที่จะยกระดับห่วงโซ่มูลค่าเพิ่มของผลิตผลที่มีอยู่เดิม เพื่อปฏิรูปและผลักดันให้เศรษฐกิจเกิดการขับเคลื่อน โดยมีการลงทุนทั้งในด้านการศึกษา และการพัฒนาด้านต่างๆ จนเกิดการปรับเปลี่ยนพัฒนาแนวคิด , องค์ความรู้ ตลอดจนเกิดวัฒนธรรมใหม่ๆ ในการดำเนินชีวิตขึ้น เพื่อให้เกิดความอยู่รอด ในท่ามกลางภาวะการแข่งขันอันเข้มข้น ไม่เฉพาะแต่ภายในประเทศ หรือในภูมิภาคเอเชียเท่านั้น แต่สถานะการณ์ดังกล่าว ยังครอบคลุมไปทั่วทุกภูมิภาคในโลก ภายใต้ยุคที่เรียกว่า "โลกาภิวัฒน์" เช่นนี้
การสร้างลมหายใจให้กับชีวิตใหม่ดังกล่าว ถูกบัญญัติขึ้นเป็นคำศัพท์ใหม่ที่เรียกกันว่า "นวัตกรรม " ดังที่ ดร.ศุภชัย หล่อโลหะการ ได้ให้คำนิยามไว้ว่า "นวัตกรรม คือการนำสิ่งที่มีอยู่แล้ว มาผ่านกระบวนการความรู้และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาขึ้นเป็นสิ่งใหม่ อันมีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคม "
คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ แล้วเรื่องใหม่ๆ อย่างเรื่อง "นวัตกรรม" เกี่ยวข้องกับเรื่องเดิมๆ อย่างเรื่อง "การจัดการทรัพยากรมนุษย์" ได้อย่างไร?
"การจัดการทรัพยากรมนุษย์ " จากคำจำกัดความโดย รศ.แก้วตา ผู้พัฒนพงศ์ คือ "กระบวนการที่จะสนับสนุนให้เกิดการบรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กร โดยผ่านทางการจัดหา, การพัฒนาเพิ่มพูนความรู้ และทักษะของพนักงาน รวมไปถึงการธำรงรักษาให้พนักงาน มีขวัญและกำลังใจที่ดี มีความสุข ทั้งขณะปฏิบัติงาน หรือแม้เมื่อพ้นจากหน้าที่ไปแล้วก็ตาม " ซึ่งเมื่อพิจารณาถึงความเชื่อมโยงของเรื่องราวทั้งสองยุคสมัยนั้น เราจะพบว่ามีสิ่งหนึ่งที่เกี่ยวข้องกันอยู่เสมอ นั่นก็คือ "มนุษย์" และนวัตกรรมจะไม่มีวันเกิดขึ้นได้ ถ้าไม่มีมนุษย์เป็นผู้กระทำ เพราะมนุษย์คือผู้ทำหน้าที่ขับเคลื่อนกลไกความคิด, การริเริ่มกระบวนการสร้างสรรค์, การพัฒนาสิ่งต่างๆ ตลอดจนการลงมือกระทำให้ Idea กลายเป็น Project หรือ Action Plan ที่เกิดขึ้นจริงในที่สุด
และ นวัตกรรมที่ดี ย่อมเกิดได้จากทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ คือทรัพยากรมนุษย์ที่มีพื้นฐานตามทฤษฎีทุน 8K's ของศ.ดร.จีระ อย่างครบถ้วนนั่นเอง หรืออาจกล่าวโดยสรุปได้ว่า ปัจจัยที่จะทำให้ทรัพยากรมนุษย์ประสบความสำเร็จในการทำนวัตกรรม ก็คือปัจจัยตามทฤษฎีนวัตกรรม 3Q's ของอ.ยม อันได้แก่ Quality of Human Resources ซึ่งก่อให้เกิด Quality of Thinking, Action and Continue Improvement อันจะนำมาซึ่งการเกิด Quality of Innovation ในที่สุด
ส่วนปัจจัยที่จะทำให้ทรัพยากรมนุษย์เป็นอุปสรรคต่อการทำนวัตกรรม ก็คือปัจจัยในทฤษฎี 3C's ที่ศ.ดร.จีระ กล่าวไว้ ได้แก่ Cultural Chaneg วัฒนธรรมในการไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งทำให้ไม่ยอมรับสิ่งใหม่ๆ Command Control สถานะการณ์ที่ผู้เป็นหัวหน้าไม่กระจายอำนาจ นายเป็นใหญ่หรือคิดเองตัดสินใจเองตลอดโดยไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของลูกน้อง ทำให้ท้ายที่สุดแล้ว ลูกน้องก็จะหยุดคิดหยุดแสดงความสามารถไปเองในที่สุด Customer Base การไม่คำนึงถึงลูกค้า ซึ่งต่อให้ความคิด หรือสิ่งที่ทำออกมาดีแค่ไหน ก็อาจไม่ประสบผลสำเร็จได้
สำหรับคำตอบสุดท้าย ในเรื่องของการนำความรู้ด้านทรัพยากรมนุษย์ไปทำให้เกิดรูปธรรมนั้น
ดิฉันขอเลือกนำความรู้ทางด้านทรัพยากรมนุษย์ที่ได้รับมา ไปเริ่มจากการสร้างโครงการนวัตกรรมขึ้นภายในตัวของดิฉันเองก่อนในเบื้องต้น เพื่อสร้างให้ดิฉันรู้จักคิดพัฒนาสิ่งใหม่ๆให้เกิดขึ้น, คิดให้เป็น, คิดให้ดี, และคิดให้มาก แล้วนำมาลงมือปฏิบัติให้เกิดผลจริง มิใช่เพียงแต่คิดแล้วก็ปล่อยให้ผ่านเลยไป จากนั้นดิฉันจะนำความรู้ดังกล่าว มาต่อยอดขยายวงกว้างไปสู่การพัฒนาบุคลากรในองค์กรธุรกิจของดิฉัน เพื่อปรับปรุงพัฒนาให้ธุรกิจที่ดิฉันทำอยู่ สามารถเติบโตอย่างมีคุณภาพ ให้เกิดเป็นองค์กรที่มีนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ให้ได้สักวันนึงในอนาคต
ID : 4914980398
เรียนท่าน ศ.ดร.จิระ หงส์ลดารมภ์
“ปัญหาส่วนใหญ่ของการทำงานเกิดจาก “คน”ซึ่งต้นเหตุของปัญหา คือ องค์การไม่ได้เน้นนโยบายเรื่องคนเพราะเอาใจใส่แต่เรื่อง “งาน กับ เงิน”ดังนั้น เมื่อมีงานและมีเงิน จึงจะรับคนที่ทำงานให้ได้เข้ามาทำจุดนี้เองที่ดีก็ไม่ได้และที่ได้ก็ไม่ดี... กิจการไม่รักพวกเขา แล้วจะให้พวกเขารักกิจการได้อย่างไร จากบทความข้างต้น ในการจะกระทำงานหรือกิจกรรมใดๆ ให้ประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องอาศัยคนหรือทรัพยากรบุคคล เป็นตัวขับเคลื่อน องค์การควรจะให้ความสำคัญกับเรื่องคนที่จะเข้ามาทำ และคนที่จะกระทำงานเหล่านั้นให้ได้ดีและประสบความสำเร็จ ต้องมีความรักในงานที่จะทำ มีความอยากที่จะทำงานเหล่านั้นและอยากที่จะทำงานร่วมกับองค์การนั้นจริงๆ และจะต้องมีความรู้ความสามารถที่จะกระทำในเรื่องนั้นๆ หากบุคคลที่เราเลือกไม่มีใจรักในงาน ไม่มีพลังขับเคลื่อนแห่งความอยากทำ และไม่มีความรู้ในเรื่องนั้นๆ แล้วงานที่ทำจะประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายได้อย่างไร คนนับว่ามีความสำคัญมากๆ พอกับปัจจัยอื่นหรือมากกว่า.. ที่ส่งผลต่อการประสบความสำเร็จของงานซึ่งรวมไปถึงงาน Innovation ด้วย ข้าพเจ้าเชื่อว่าการใช้ “Put the Right man on the right job” ก็มีส่วนช่วยเหลือให้เกิดงาน Innovation เพราะการที่คนได้สัมผัสกับสิ่งที่ตนเองถนัดเป็นเวลานานๆ มักจะมีการพัฒนาความคิดในการสร้างสรรค์งานของตนเองอยู่เรื่อยๆ “คน” หากเปรียบเสมือนต้นไม้ ที่ได้รับการใส่ปุ๋ย รดน้ำพรวนดินอย่างสม่ำเสมอ ต้นไม้นั้นก็จะเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ แตกกิ่งก้านสาขาออกไปเรื่อยๆ เช่นเดียวกับคนที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ ได้รับการพัฒนาทักษะความรู้ ความสามารถ อยู่เสมอ ยิ่งนานวันก็จะแตกกิ่งของความคิดใหม่ๆ ขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งความคิดใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นได้รับการสร้างสรรค์ย่อมเป็นการนำมาซึ่งการเกิด Project และ Action plan ที่เป็นประโยชน์แก่องค์การProject เหล่านั้นจะประสบความสำเร็จได้ ต้องอาศัยทีมงาน ที่มีแนวคิดและทิศทางการทำงานที่มีเป้าหมายเดียวกัน ซึ่งแต่ละคนอาจมีเทคนิคการทำงานที่แตกต่างกันหรือจะกระทำโดยวิธีใดๆ ก็ตาม แต่งานที่ออกมาต้องสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งนี้เพื่อให้ได้วิธีการทำงานที่หลากหลายกว่าเดิมเพราะเชื่อว่าคนแต่ละคนย่อมมีทักษะความรู้ความสามารถที่ไม่เท่ากันและแตกต่างกัน และเป็นการเปิดโอกาสให้แต่ละบุคคลที่ทำงานร่วมกันได้ใช้ทักษะความรู้ ความสามารถที่ตนมีได้อย่างเต็มที่ เป็นการสร้างสรรค์งานที่จะก่อให้เกิด Innovation จากการทำงานแต่การทำงานแบบนี้มีโอกาสที่จะทำให้ Project นั้นประสบความสำเร็จได้ยากมาก อันเนื่องมาจากอุปสรรคปัญหาเหล่านี้ n ความแตกต่างในเรื่องของมุมมองn ความยากในการเปลี่ยนจิตใจคนหรือความคิด
n การขาดความมุ่งมั่นของผู้บริหารn ความไม่เพียงพอในเรื่องของความสามารถและคุณสมบัติของสมาชิกในทีม(Abilities of members)n ขนาดของทีมงาน (Size of work teams)n ความชำนาญด้านเทคนิค (Technical expertise)n ทักษะทางด้านการแก้ปัญหาและการตัดสินใจ (Problem-solving and decision-making skills)n ทักษะระหว่างบุคคล (Interpersonal skills)
และท้ายนี้การจะเอาความรู้เรื่องการบริหารทรัพยากรมนุษย์ ไปใช้ให้ได้ผลที่เป็นรูปธรรม ข้าพเจ้าอยากให้นำเอาเรื่อง HR ไปใช้ในเรื่องของการพัฒนาระบบการศึกษาให้มากๆ เพราะการศึกษาเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาและเป็นรากฐานสำคัญที่จะนำไปสู่คำว่า Innovationศิวกานต์ อบเชย
กราบเรียน ศ.ดร. จีระ หงส์ลดารมภ์ และ ทีมงานทุกท่าน
กระผมนายพีรพนธ์ เลิศสุภาธวัช นักศึกษาปริญญาโท บริหารธุรกิจ นวัตกรรม รหัส 4914981563
กราบเรียน ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์
“ปัญหาส่วนใหญ่ของการทำงานเกิดจาก “คน”ซึ่งต้นเหตุของปัญหา คือ องค์การไม่ได้เน้นนโยบายเรื่องคนเพราะเอาใจใส่แต่เรื่อง “งาน กับ เงิน”ดังนั้น เมื่อมีงานและมีเงิน จึงจะรับคนที่ทำงานให้ได้เข้ามาทำจุดนี้เองที่ดีก็ไม่ได้และที่ได้ก็ไม่ดี... กิจการไม่รักพวกเขา แล้วจะให้พวกเขารักกิจการได้อย่างไร จากบทความข้างต้น ในการจะกระทำงานหรือกิจกรรมใดๆ ให้ประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องอาศัยคนหรือทรัพยากรบุคคล เป็นตัวขับเคลื่อน องค์การควรจะให้ความสำคัญกับเรื่องคนที่จะเข้ามาทำ และคนที่จะกระทำงานเหล่านั้นให้ได้ดีและประสบความสำเร็จ ต้องมีความรักในงานที่จะทำ มีความอยากที่จะทำงานเหล่านั้นและอยากที่จะทำงานร่วมกับองค์การนั้นจริงๆ และจะต้องมีความรู้ความสามารถที่จะกระทำในเรื่องนั้นๆ หากบุคคลที่เราเลือกไม่มีใจรักในงาน ไม่มีพลังขับเคลื่อนแห่งความอยากทำ และไม่มีความรู้ในเรื่องนั้นๆ แล้วงานที่ทำจะประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายได้อย่างไร คนนับว่ามีความสำคัญมากๆ พอกับปัจจัยอื่นหรือมากกว่า.. ที่ส่งผลต่อการประสบความสำเร็จของงานซึ่งรวมไปถึงงาน Innovation ด้วย ข้าพเจ้าเชื่อว่าการใช้ “Put the Right man on the right job” ก็มีส่วนช่วยเหลือให้เกิดงาน Innovation เพราะการที่คนได้สัมผัสกับสิ่งที่ตนเองถนัดเป็นเวลานานๆ มักจะมีการพัฒนาความคิดในการสร้างสรรค์งานของตนเองอยู่เรื่อยๆ “คน” หากเปรียบเสมือนต้นไม้ ที่ได้รับการใส่ปุ๋ย รดน้ำพรวนดินอย่างสม่ำเสมอ ต้นไม้นั้นก็จะเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ แตกกิ่งก้านสาขาออกไปเรื่อยๆ เช่นเดียวกับคนที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ ได้รับการพัฒนาทักษะความรู้ ความสามารถ อยู่เสมอ ยิ่งนานวันก็จะแตกกิ่งของความคิดใหม่ๆ ขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งความคิดใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นได้รับการสร้างสรรค์ย่อมเป็นการนำมาซึ่งการเกิด Project และ Action plan ที่เป็นประโยชน์แก่องค์การProject เหล่านั้นจะประสบความสำเร็จได้ ต้องอาศัยทีมงาน ที่มีแนวคิดและทิศทางการทำงานที่มีเป้าหมายเดียวกัน ซึ่งแต่ละคนอาจมีเทคนิคการทำงานที่แตกต่างกันหรือจะกระทำโดยวิธีใดๆ ก็ตาม แต่งานที่ออกมาต้องสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งนี้เพื่อให้ได้วิธีการทำงานที่หลากหลายกว่าเดิมเพราะเชื่อว่าคนแต่ละคนย่อมมีทักษะความรู้ความสามารถที่ไม่เท่ากันและแตกต่างกัน และเป็นการเปิดโอกาสให้แต่ละบุคคลที่ทำงานร่วมกันได้ใช้ทักษะความรู้ ความสามารถที่ตนมีได้อย่างเต็มที่ เป็นการสร้างสรรค์งานที่จะก่อให้เกิด Innovation จากการทำงานแต่การทำงานแบบนี้มีโอกาสที่จะทำให้ Project นั้นประสบความสำเร็จได้ยาก อันเนื่องมาจากอุปสรรคปัญหาเหล่านี้ n ความแตกต่างในเรื่องของมุมมองn ความยากในการเปลี่ยนจิตใจคนหรือความคิดn ความไม่เพียงพอในระบบการพัฒนาทรัพยากรบุคคลn การขาดความมุ่งมั่นของผู้บริหารn ความไม่เพียงพอในเรื่องของความสามารถและคุณสมบัติของสมาชิกในทีม(Abilities of members)n ขนาดของทีมงาน (Size of work teams)n ความชำนาญด้านเทคนิค (Technical expertise)n ทักษะทางด้านการแก้ปัญหาและการตัดสินใจ (Problem-solving and decision-making skills)n ทักษะระหว่างบุคคล (Interpersonal skills)และท้ายนี้การจะเอาความรู้เรื่องการบริหารทรัพยากรมนุษย์ ไปใช้ให้ได้ผลที่เป็นรูปธรรม ข้าพเจ้าอยากให้นำเอาเรื่อง HR ไปใช้ในเรื่องของการพัฒนาระบบการศึกษาให้มากๆ เพราะการศึกษาเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาและเป็นรากฐานสำคัญที่จะนำไปสู่คำว่า "Innovation"
ศิวกานต์ อบเชย ID 4914980398ดังนั้น "นวัตกรรม" ภายในหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง จึงควรมีคุณลักษณะในการเป็น กระบวนการ หรือขั้นตอน ที่จะพัฒนาคนในหน่วยงาน ความสำคัญของ "นวัตกรรม" นั้น อาจต้องมาจาก "ความตั้งใจ" ที่ต้องการให้เกิดขึ้น มากกว่าจะเกิดขึ้นโดยบังเอิญ และต้องมี "ความใหม่" และ "นำมาใช้ได้" ในระดับกลุ่ม ฝ่าย หรือทั้งหน่วยงานด้วย....
ลัดดาวัลย์ พนมกุล
ผมนายอาทรศม ทองนาก รหัส 4914980361 นักศึกษาปริญญาโท โครงการบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการนวัตกรรมขอแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องทรัพยากรมนุษย์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ innovation ในกรณีต่างๆดังนี้
1.การที่ทรัพยากรมนุษย์มีส่วนช่วยในการสร้าง Innovation นั้น ผมขออธิบายดังนี้ทรัพยากรมนุษย์นั้น เป็นตัวแปรสำคัญในการสร้าง innovation ขึ้นมาโดยการนำเอาความคิดหลายๆอย่างมารวมกันเพื่อให้เกิด innovation ขึ้นมา ทั้งนี้ ไม่ว่ากระบวนการคิด และ การปฎิบัติ ล้วนเริ่มขึ้นจากทรัพยากรมนุษย์ทั้งสิ้น ดังนั้นจึงถือได้ว่า ทรัพยากรมนุษย์เป็นต้นกำเนิดของการสร้าง innovation โดยแท้จริงทั้งนี้ รูปแบบของ innovation ที่เกิดขึ้นนั้น ในภายหน้า จะถูกหลอมรวมกับ innovation อื่น ทำให้เกิด next step innovation ขึ้นมาโดยไม่มีที่สิ้นสุด
2.ในส่วนของ Idea ที่ทำให้เกิด Action Plan นั้น ทรัพยากรมนุษย์มีส่วนช่วยเป็นอย่างมากที่ทำให้เกิด การผลักดัน Idea ต่างๆ ให้เป็น Action Plan โดยมีหลักใหญ่ๆ 4 ข้อ คือThink คิดโครงการและวิธีการเปลี่ยน Idea เป็น Action Plan ซึ่งเป็นรูปธรรม โดยไม่ยึดติดกับกรอบความคิดเดิม แต่ก็ไม่ใช่การเพ้อฝันโดยปราศจากหลักความจริงTeam สร้างทีมขึ้นมาเพื่อความร่วมมือในการทำงาน เนื่องจาก innovation ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะกระทำได้เพียงคนเดียวโดยลำพัง เพราะต้องมีความรู้ในหลายด้าน เช่น หลักเศรษฐศาสตร์ หลักวิทยาศาสตร์ หลักสังคมศาสตร์ เป็นต้นTry ลงแรงกายและแรงใจทำอย่างสุดความสามารถ เนื่องจาก innovation เป็นเรื่องของสิ่งใหม่และความเสี่ยงซึ่งมีอยู่สูงมาก หลายครั้งที่การทำงานอาจล้มเหลว ดังนั้นกำลังใจและความพยายามจึงเป็นสิ่งสำคัญมากในการสร้าง innovation ขึ้นมาTogether ร่วมมือร่วมใจกันทุกฝ่าย ไม่เฉพาะแค่ภายในกลุ่มเท่านั้น แต่รวมไปถึงความร่วมมือกับบุคคลภายนอกทั่วโลกด้วย เพราะการแลกเปลี่ยนความรู้ความสามารถ รวมทั้งการทำงานโดยมีเป้าหมายไปในแนวทางเดียวกันจะทำให้งานมีประสิทธิภาพดีที่สุด3.ในด้านปัจจัยที่ทำให้โครงการมีความสำเร็จนั้น ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบในหลายด้าน ได้แก่ ความรู้ เทคโนโลยี ทุน ความมุ่งมั่น สังคม เศรษฐกิจ ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้เป็นตัวแปรสำคัญทุกอย่าง การเอาใจใส่ต่อสิ่งเหล่านี้จะทำให้โอกาสประสบความสำเร็จมีสูง แต่ ถ้าละเลยไม่ปฎิบัติ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จจะมีน้อยมาก
4.สำหรับโครงการทางนวัตกรรมที่อยากจะทำในอนาคตนั้น จะเป็นโครงการเกี่ยวกับการหมุนเวียนพลังงาน โดยแปลงสภาวะพลังงานจากรูปแบบหนึ่งไปเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง เช่น ณ ปัจจุบันนี้เราสามารถแปลงพลังงานความร้อนและพลังงานลมรวมถึงพลังงานน้ำไปสู่รูปแบบของพลังงานไฟฟ้าได้ แต่เมื่อพลังงานไฟฟ้าถูกใช้ไปแล้วก็จะเปลี่ยนเป็นพลังงานรูปแบบอื่นและไม่สามารถเก็บพลังงานเหล่านั้นไว้ใช้ต่อได้ ดังนั้นลักษณะนวัตกรรมที่จะถูกคิดค้นขึ้นจะเป็นแนวทางการหมุนเวียนพลังงานเพื่อใช้ต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด หรือเกิดการสูญเสียพลังงานน้อยที่สุดเพื่อรักษาทรัพยากรโลกสืบไว้
2. การจัดการทรัพยากรมนุษย์ให้มีการทำงานที่เป็นรูปธรรม หรือ Project หรือ Action Plan สามารถทำได้อย่างไร?
เมื่อโครงการหรือแผนการที่วางไว้ได้รับการยอมรับจากองค์กรแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ ความกล้าที่จะปฏิบัติ กล้าได้กล้าเสีย และพร้อมที่จะยอมรับในสิ่งที่จะเกิดขึ้น เมื่อได้ลงมือปฏิบัติแล้วความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อได้รับความร่วมมือจากทุกคนที่เกี่ยวข้องร่วมมือร่วมใจกันช่วยกันทำงานอย่างระมัดระวัง รอบคอบในทุก ๆ ขั้นตอน ช่วยกันทำงานอย่างเต็มที่และไม่มีอคติ โดยนำความรู้และประสบการณ์ที่มีมาประยุกต์ใช้ 3. การจัดการทรัพยากรมนุษย์เพื่อให้โครงการประสบความสำเร็จได้อย่างไรและอุปสรรคที่เกิดจากทรัพยากรมนุษย์ที่ทำให้งานไม่ประสบความสำเร็จคืออะไร? การที่โครงการจะประสบความสำเร็จได้นั้นประกอบไปด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ดังนี้1) คนหรือทรัพยากรมนุษย์ หมายความว่า คนที่จะปฏิบัติงานได้ดีต้องมีพื้นฐานความรู้ที่มากพอ ต้องมีความรู้ ความเข้าใจในเนื้อหาของงาน คิดเป็นระบบ ต้องมีความพร้อมที่จะปฏิบัติงานทั้งทางร่างกายและจิตใจ มีความขยัน อดทน มุ่งมั่น ร่วมมือร่วมใจกัน ทั้งในระดับผู้บริหารและพนักงาน2) การบริหารจัดการ หมายถึง การบริหารงานอย่างมีระบบ มีเป้าหมายที่ชัดเจน วางแผนงานอย่างเป็นระบบรวมทั้งการวางแผนกำลังคน กำหนดขั้นตอนการทำงานอย่างชัดเจน และมีการจัดเตรียมแผนการแก้ไขไว้ล่วงหน้าย่อมจะช่วยให้การทำงานประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น3) กลไกหรือกลวิธีในการดำเนินการ คือ การทำงานให้ได้ตามแผนที่วางไว้ เสร็จเรียบร้อยตามเวลาที่กำหนด 4) เทคโนโลยี ควรใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วยในการทำงานเพื่อให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้นส่วนอุปสรรคที่ทำให้งานไม่ประสบความสำเร็จดิฉันเห็นว่ามาจากปัจจัยหลัก ๆ 3 หลัก นั่นคือ ทฤษฎี 3C ที่ท่านอาจารย์ได้วิเคราะห์ไว้- Cultural Change หมายถึง การไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น นั่นบ่งบอกถึงการมีวิสัยทัศน์ที่แคบ ซึ่งเป็นปัญหาต่อการดำเนินงานและต่อการเปลี่ยนแปลงนวัตกรรม- Customer Base หมายถึง ไม่รู้ถึงความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง เนื่องจากการขาดการสำรวจข้อมูลก่อนที่จะกำหนดโครงการที่ถูกต้อง หรือขาดความรอบคอบในการทำงาน- Command Control หมายถึง การที่ผู้บริหารไม่กระจายอำนาจ ไม่รับฟังความคิดเห็นของคนอื่นนอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับอีกหลาย ๆ ปัจจัย เช่น- ปัจจัยภายในองค์กรเอง ซึ่งมาจากผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ที่แคบ ไม่มีการส่งเสริมในเรื่องการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ภายในองค์การ ไม่มีการส่งเสริมด้านเทคโนโลยี ไม่มีเงินทุนในการสนับสนุน ไม่มีการกระจายอำนาจในการบริหารงาน ไม่ยอมรับความคิดเห็นของคนอื่น เป็นต้น และปัจจัยที่เกิดจากตัวของพนักงานหรือผู้ดำเนินงาน เช่น พนักงานไม่มีศักยภาพขาดความรู้ความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ ไม่ขยัน ไม่มีความอดทน ขาดความร่วมมือในการดำเนินงาน และขาดจริยธรรมในการดำเนินงาน- ปัจจัยภายนอกองค์กร เช่น สภาวะเศรษฐกิจของประเทศ นโยบายของรัฐบาล การแข่งขันระหว่างองค์กร และกฎหมาย เป็นต้น 4. ท่านจะนำความรู้เรื่อง HR ไปใช้ให้ได้ผลจริง ๆ หรือทำโครงการให้เป็นรูปธรรมในเรื่องใด?ดิฉันอยากจะใช้การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การตลาดในปัจจุบันนอกจากจะแข่งขันกันในด้านการขายแล้ว ยังแข่งขันกันในด้าน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ตรงกับความต้องการผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นด้านความสะดวกในการใช้ ความทันสมัย และยังรวมไปถึงรูปทรงสวยและหีบห่อที่สวยงามอีกด้วย ฉะนั้นจึงมีความ จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องพัฒนาบุคลากรในสายการผลิตก่อนเป็นอันดับแรก โดยการทำโครงสร้างการบริหารจัดการ ( Command Control) ไปเป็นส่วนต่าง ๆ เช่น ฝ่ายบริหารจัดการทั่วไป ฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์ ฝ่ายจัดหาจัดซื้อวัตถุดิบ ฝ่ายการผลิต ฝ่ายตรวจสอบคุณภาพ ฝ่ายคลังสินค้าและกระจายสินค้า เป็นต้น โดยเมื่อจัดแบ่งแล้วให้จัดให้มีผู้อำนาจหรือผู้รับผิดชอบ ( Responsible) ในส่วนงานของแต่ละส่วนงานให้ดี และให้มีความสอดคล้องกัน มีเป้าหมายร่วมกัน( Cooperate Target)นั่นคือ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ของกิจการให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และจัดให้มีการฝึกอบรมพนักงาน ( Training )ในทุกภาคส่วนให้มีความรู้ความชำนาญ ( Competitive or Talent Development) ให้มากที่สุด และจัดให้มีการทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อเสริมสร้างความเป็นทีม ( Team work ) เพื่อให้การบริหารจัดการสามารถทำได้อย่างเต็มที่ และบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ นอกจากจะสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์แล้วยังจะสามารถลดความสูญเสียจากการผลิต ซึ่งหมายถึงต้นทุนของกิจการ และจะสามารถสร้างผลกำไรที่เพิ่มขึ้นของกิจการได้อีกด้วยธันยารัตน์ นันทิสิงห์ ID : 4914980825
HRM กับ Innovation
การที่เราต้องการจะทำธุรกิจอะไรซักอย่างนั้น องค์ประกอบที่ควรจะมีก็คือ บุคลากร กระบวนการในการดำเนินธุรกิจ กลยุทธ์ และเทคโนโลยี ซึ่งตัวขับเคลื่อน (Drive) ที่สำคัญที่สุดที่จะก่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ขึ้น คือ เรื่องของบุคลากร เนื่องจากคนเปรียบเสมือนเป็นสิ่งที่จะทำให้ธุรกิจเกิดขึ้นหรือเกิด สินค้า/บริการใหม่ ๆ ได้ และคนเองก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อความประสบความสำเร็จของธุรกิจด้วย ซึ่งในการสรรหาบุคลากรที่สามารถทำให้ธุรกิจของเราประสบความสำเร็จได้นั้น เราก็ต้องหาคนที่มีคุณภาพ ซึ่งในการสรรหาบุคลากรนั้นก็ต้องพิจารณาในหลาย ๆ ด้านด้วยกัน เช่น ในเรื่องของการศึกษา ความรู้ความสามารถ ความชำนาญของแต่ละบุคคล ประสบการณ์ ทัศนคติ และที่สำคัญถ้าบุคลากรขององค์กรนั้นมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีขององค์กรที่จะได้รับรู้ในสิ่งใหม่ ๆ จากบุคลากรในองค์กรด้วย ซึ่งเมื่อทางองค์กรสามารถคัดเลือกคนได้แล้ว ก็ต้องดูความเหมาะสมในงานของแต่ละบุคคลด้วย (put the right man in the right job at the right time) ทางองค์กรควรให้พนักงานได้ใช้ความรู้ความสามารถของพวกเขาอย่างเต็มที่ ซึ่งทางองค์กรก็ต้องให้ความเชื่อใจ (Believe) กับพนักงานด้วย ควรเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถนำเสนอความคิดเห็นต่าง ๆ เพื่อให้องค์กรได้รับสิ่งใหม่ ๆ ที่เกิดจากการใช้ความรู้ และความคิดสร้างสรรค์ที่มีประโยชน์ต่อองค์กร จากพนักงานของพวกเขา และเมื่อเกิดความคิดใหม่ ๆ แล้ว ทางองค์กรเองก็ต้องพิจารณาถึงความเป็นไปได้ของความคิดเหล่านั้น (Reality) ซึ่งถ้าสามารถทำได้จริง ทางองค์กรก็ต้องกล้า (Dare) ที่จะนำไปปฏิบัติด้วย แต่ในการคิดริเริ่มทำสิ่งใหม่ ๆ (Innovation) นั้นย่อมต้องมีความเสี่ยง (Risk) ที่อาจเกิดขึ้น ทางองค์กรเองก็ต้องพยายามยอมรับกับความเสี่ยงนั้นให้ได้ ซึ่งถ้าเกิดความผิดพลาดเกิดขึ้นนั้น ก็ให้ถือว่าเป็นประสบการณ์ แล้วเรียนรู้ (Learning) กับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจในครั้งนั้น และนำผลมาวิเคราะห์ หาสาเหตุ แนวทางแก้ไข และพัฒนาปรับปรุงให้ดีขึ้น เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนต่อไปในการคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในสิ่งใหม่ ๆ ให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
ซึ่งถ้าเป็นไปได้อยากนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในเรื่องของ การบริการ เนื่องจากในปัจจุบันนี้สิ่งที่ธุรกิจต้องคำนึงถึงมากที่สุดที่จะทำให้ธุรกิจของพวกเขาอยู่รอดและประสบความสำเร็จ ก็คือ ลูกค้า ซึ่งในปัจจุบันการให้บริการหลังการขายเป็นสิ่งที่กลุ่มผู้บริโภคมีความต้องการเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ธุรกิจในด้านของการบริการนั้นก็เริ่มมีหลากหลายมากขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ดังนั้น ถ้าเรามีการใช้นวัตกรรมในด้านของการบริการ ก็น่าจะตอบสนองความต้องการที่มีแตกต่างกันของผู้บริโภคได้
เรียน ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ และทีมงาน
ดิฉัน นางสาวยมาภรณ์ กลับวิเศษ
รหัสนักศึกษา 4914981727
MBA Innovation Management ม.รามคำแหงรุ่น 1
ดิฉันขอแสดงความคิดเห็นในหัวข้อที่ ศ.ดร.จิระ หงส์ลดารมภ์ ได้ให้ไว้ดังนี้
1.1 | การสร้างและส่งเสริมทรัพยากรมนุษย์ให้เกิดการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ (Think out of box) |
1.2 | การสร้างและส่งเสริมการต่อยอดจากนวัตกรรมที่มีอยู่แล้ว หรือนวัตกรรมที่ถูกคิดค้นขึ้นมาใหม่ (Management Innovation) |
อุปสรรคในเรื่องทรัพยากรบุคคล ที่ทำให้โครงการไม่ประสบความสำเร็จในความคิดของดิฉัน แบ่งออกได้เป็น 2 ความคิดเห็นคือ
สวัสดีอีกครั้งค่ะวันนี้ดิฉันขอตอบข้อ2-4
2.ทรัพยากรมนุษย์ช่วยทำให้เราเกิดการทำงานที่เป็นรูปธรรม(Project/Action plan) ได้อย่างไร
****ในองต์กรใดองค์กรหนึ่งจะเกิดการทำงานที่เป็นรูปธรรมได้ต้องใช้ทรัพยากรมนุษ์ที่มีประสิทธิภาพเริ่มตั้งแต่ผู้บริหารจนถึงพนักงานผู้บริหารต้องส่งเสริมการนำความคิดสร้างสรรค์ไปใช้ในการทำงานส่งเสริมให้พนักงานกล้าที่จะทำ กล้าลองผิดลองถูกและกล้าเผชิญกับความล้มเหลวโดยมีพื้นฐานความรู้และความรักในองค์กรอยากให้องค์กรมีความเจริญเติบโต และตามที่ท่านพารณกล่าวไว้ว่าคนเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดการจะเกิดสิ่งใดได้ขึ้นอยู่กับคนการให้Empowerment ก็เป็นการส่งเสริมให้องค์กรมีความคิดใหม่ๆและเกิดสิ่งใหม่ๆที่พัฒนาองค์กรได้
3. ทำอย่างไรถึงทำให้โครงการเหล่านั้นประสบผลสำเร็จ อุปสรรคในทรัพยากรมนุษย์ที่ทำให้โครงการเหล่านั้นไม่ประสบผลสำเร็จมีอะไรบ้าง
**** การที่จะทำให้โครงการประสบผลสำเร็จต้องมีการทำงานเป็นทีม มี Network Collaboration จะต้องมีการจัดการทรัพยากรมนุษย์ที่มีประสิทธิภาพ มอบหมายงานให้ตรงกับความสนใจและศักยภาพของพนักงาน ผู้บริหารให้Empowerment เพื่อให้แต่ละคนแสดงศักยภาพออกมาให้เต็มที่
อุปสรรคที่ทำให้โครงการไม่ประสบผลสำเร็จ คือทฤษฎี3C
1.Cultural change
2.Customer base
3.Command control
นอกจากทฤษฎี3C แล้วการที่บุคคลากรไม่กล้าที่จะคิด/ทำนอกกรอบก็เป็นปัจจัยที่ทำให้โครงการไม่สำเร็จได้ การมีคุณธรรมก็จะทำให้งานประสบผลสำเร็จอย่างยั่งยืนได้
4.เราจะเอาความรู้เรื่องทรัพยากรมนุษย์ไปใช้ให้ได้ผลจริงๆหรือทำเป็นโครงการที่เป็นรูปธรรมได้อย่างไร
**** เนื่องจากดิฉันทำงานเป็นพยาบาลซึ่งเป็นงานด้านบริการเป็นหลักและคิดว่าการบริการด้นการแพทย์และการพยาบาลจะสามารถทำให้ประเทศมีรายได้มากขึ้นได้เห็นได้จากนักท่องเที่ยวก่อนที่จะมาประเทศไทยเค้าจะดูข้อมูลว่ามีการแพทย์การดูแลที่ดีมีมาตรฐานหรือไม่ ดิฉันจึงมีความคิดที่จะนำความรู้นี้ไปใช้เพื่อให้เกิดการบริการที่ดี ลูกค้าคือผู้มารับบริการมีความพึงพอใจ การบริการที่ดีหมายถึงมีประสิทธิภาพถูกต้องตามหลักวิชาชีพ ถ้าเรามีการจัดการทรัพยากรมนุษย์ที่ดีก็จะทำให้เกิดการบริการที่ดีได้
โครงการที่ดิฉันอยากทำคือ การบริการที่ถูกต้อง ฉับไวและสุขใจร่วมกัน เพราะดิฉันคิดว่าความต้องการของลูกค้าคือบริการที่ถูกต้อง รวดเร็ว พึงพอใจ เราต้องทำให้คนในองค์กรมีการทำงานเป็นทีม เยกว่าทีมสุขภาพ มีการอบรมพัฒนาความรู้อย่างต่อเนื่อง หัวหน้าเปิดโอกาศให้ลูกน้องแสดงความคิดเห็นและกล้าให้ทำสิ่งใหม่ๆโดยอยู่ภายใต้ความรู้และจรรยาบรรณวิชาชีพ รู้จักการเอาใจเขามาใส่ใจเรา เมื่อคนในองค์กรทำได้ทั้งหมดนี้จะทำให้องค์กรพัฒนาไปด้วยความยั่งยืนได้
สุดท้ายนี้ดิฉันขอขอบคูรอ.ดร.จีระ และทีมงานที่ไห้พวกเราได้มีความคิดมีมุมมองที่กว้างขึ้นและได้แสดงความคิดเห็น ขอบคุณค่ะ
เรียน ศ.ดร.จิระ หงส์ลดารมภ์
ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณมากเลยนะคะ ที่อาจารย์ให้เกียรติมาสอนพวกเราชาว MBA Innovation ที่ ม.รามคำแหง รู้สึกประทับใจในการสอนของอาจารย์มากค่ะ และเพื่อไม่ให่เสียเวลาขอแสดงความคิดเห็นดังนี้ค่ะ ดิฉัน น.ส.ศิริพร คงสมบูรณ์ (ID 4914980728) No. 35 Sec. 2
ทฤษฎีมูลค่าเพิ่ม--->Data--->Information--->Knowledge--->Value Added--->Wisdom
2.1 มีความรู้ ความเข้าใจในองค์กรและธุรกิจ
2.2 มีความชำนาญในวิชาชีพ
2.3 เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง
2.4 มีความดิดริเริ่มสร้างสรรค์
2.5 คิดอย่างเป็นระบบ
2.6 เข้าใจผู้อื่น
2.7 มีการสื่อสาร
2.8 มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
2.9 มีทักษะในการพัฒนาผู้อื่น
2.10 มีการพัฒนาตนเอง
3.1 ผู้บริหาร จะต้องให้ความร่วมมือและเป็นผู้นำในการปรับเปลี่ยน พฤติกรรมขององค์กร ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างวัฒนธรรมขององค์กร
3.2 ศึกษาความต้องการของลูกค้า ต้องรู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร แนวโน้มของตลาดเป็นอย่างไร
3.3 การวิจัยและพัฒนา ในตัวสินค้าหรือบริการที่จะทำ
3.4 การสร้างพันธมิตรเพื่อนวัตกรรม ขอความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการ
3.5 การสร้าง Brand ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
อุปสรรคในเรื่องทรัพยากรมนุษย์ที่ทำให้โครงการไม่ประสบความสำเร็จ
1 Culture Change การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กร เพราะคนเราจะไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง
2 Customer Base ไม่ศึกษาความต้องการของลูกค้าและตลาด
3 Command Control ผู้บริหารขาดคุณสมบัติความเป็นผู้นำที่ดี
เรียน ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ดิฉัน นางสาวปทิดา มกรพงษ์ นักศึกษาปริญญาโท สาขาการจัดการนวัตกรรม รหัสประจำตัวนักศึกษา 4914981020
ทรัพยากรมนุษย์มีส่วนช่วยใน Innovation อย่างไร
ทรัพยากรมนุษย์นับว่าเป็นส่วนสำคัญขององค์กร การที่องค์กรจะมีความเจริญก้าวหน้าได้นั้น ต้องเริ่มมาจากการมีบุคคลากรที่ดี มีคุณภาพ การเชื่อมั่นในคุณค่าของคนจะนำมาซึ่งความสำเร็จขององค์กร องค์กรจึงควรให้ความสำคัญในเรื่องทรัพยากรมนุษย์ โดยเริ่มตั้งแต่การรับบุคลากรเข้าทำงาน จนกระทั่งเค้าเข้าทำงานแล้ว ควรมีการเพิ่มพูนความรู้ใหม่ๆ เช่น การจัดฝึกอบรม ,สัมมนา ฯลฯ ซึ่งในปัจจุบันการทำธุรกิจในระยะยาวจะต้องให้มีประสิทธิภาพในทุกๆเรื่อง โดยเฉพาะการมีเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาเกี่ยวข้อง บุคคลากรจะต้องมีความรู้ ความสามารถไปตามเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจะมีความเกี่ยวข้องกับ Innovation โดยตรง เพราะนวัตกรรมคือการนำสิ่งที่มีอยู่ มาปรับปรุง เปลี่ยนแปลง พัฒนา เพื่อให้เกิดเป็นสิ่งใหม่ๆ และจะต้องเจริญควบคู่ไปกับความรู้ ความสามารถที่พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ภายในองค์กร นั่นก็คือทรัพยากรมนุษย์นั่นเอง
ทรัพยากรมนุษย์ช่วยในการนำ Idea เพื่อให้เกิด Project หรือ action plan อย่างไร
ทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ ย่อมจะมีการปฏิบัติในการทำงานอย่างต่อเนื่อง Project จะเกิดจากการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ซึ่งมาจาก Idea ที่มาจากบุคคลากรที่มีคุณภาพ การได้รับการฝึกฝนและเพิ่มพูนความรู้ต่าง ๆ แก่บุคคลากร ย่อมจะทำให้บุคคลากรเหล่านั้นมี Idea ใหม่ ๆ มาพัฒนาองค์กร ซึ่งผลที่ได้ก็คือ Project หรือ Action plan ที่มีประสิทธิภาพ
ทำอย่างไรจึงจะทำให้โครงการเหล่านั้นประสบความสำเร็จ อุปสรรคในเรื่องทรัพยากรมนุษย์ที่ทำให้โครงการไม่ประสบความสำเร็จ มีอะไรบ้าง
การที่จะทำให้โครงการประสบความสำเร็จได้นั้น จะต้องมาจากบุคคลากรภายในองค์กรทีได้รับการพัฒนาทั้งความรู้ และประสบการณ์ โดยมีการร่วมมือ ร่วมคิด ร่วมทำ และได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง การที่โครงการจะไม่ประสบความสำเร็จ มีหลายประการ คือ
- การขาดการให้โอกาส และการสนับสนุนจากผู้บริหาร
- ขาดทักษะ ความรู้ในเรื่องที่ได้รับมอบหมาย
- ขาดความสามารถในการปกิบัติงาน
- ข้อจำกัดในด้านเวลา
เราจะนำความรู้เรื่องทรัพยากรมนุษย์ไปใช้ให้ได้ผลจริงๆ หรือทำโครงการที่เป็นรูปธรรมในเรื่องใด
เราจะนำความรู้เรื่องทรัพยากรมนุษย์ไปใช้ให้ได้ผลจริงๆได้ก็คือ ใช้กับการปฏิบัติงานในปัจจุบัน โดยในการเรียนรู้ทำให้ได้รับความรู้จากเร่องทรัพยากรมนุษย์หลายๆด้าน เช่น การที่จะทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชารักเรา เราต้องใหความจริงใจกับเค้าก่อน ให้ความรู้ ทักษะต่างๆควบคู่ไปกับคุณธรรม จริยธรรมในการบริหารทรัพยากรมนุษย์ สร้างความผูกพันธ์ในองค์กร ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ ถ้าเราสามารถนับไปปรับใช้ในการปฏิบัติงาน จะทำให้องค์กรดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรักษาทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ
ดิฉัน นางสาวนันทวัน เทศชูวงศ์ ID 4914980455 นักศึกษาปริญญาโท MBA INNOVATION ม.รามคำแหง ขอส่งความคิดเห็นที่อาจารย์ให้แสดงความคิดเห็น 4 ข้อดังนี้
1. ทรัพยากรมนุษย์มีส่วนช่วยใน Innonation คือ มนุษย์สามารถนึกคิก เรียนรู้ ศึกษา และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆให้เกิดขึ้นเสมอ แล้วยังนำสิ่งเดิมที่มีอยู่แล้วมาพัฒนาได้เกิดประโยชน์ ให้มีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นให้ทันต่อยุคโลกาภิวัฒน์ รวมทั้งมีคุณค่าต่อสังคม
2. ทรัพยากรณ์มนุษย์ช่วยในการนำ Idea เพื่อให้เกิด Project หรือ Action Plan ได้นั้น องค์ที่มีการตัดสินใจอยู่ที่ผู้บริหารหรือหัวหน้า ต้องเป็นคนที่เปิดใจให้กว้างยอมรับฟังความคิดเห็นของผุ้ใต้บังคับบัญชา และคนในองค์กรต้องพร้อมที่จะยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และต้องมีกรอบเป้าหมายหรือนโยบายในการให้แนวคิด เพื่อที่จะได้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่อาจจะต้องมีแรงจูงใจด้วยการให้รางวัลหรือผลตอบแทน เช่น เลื่อนตำแหน่ง ขึ้นเงินเดือน หรือ เงินโบนัส ฯลฯ เพื่อที่จะได้เห็นแนวความคิดของคนในองค์กรว่ามีแนวความคิดอย่างไร
3. ทำอย่างไรโครงการนั้นจึงจะประสบความสำเร็จ
-ทุกคนในองค์กรต้องให้ความร่วมมือ และพร้อมที่จะยอมการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในอนาคต
-ผู้บริหาร/หัวหน้า ต้องเป็นผ้ที่ใจกว้างยอมรับฟังความคิดเห็นของทุคนในองค์กร
- ต้องให้โอกาสคนทุกระดับชั้น(หัวหน้างาน,ลูกจ้าง เป้นต้น) ร่วมแสดงความคิดเห้นหรือแสดงความคิด โดยไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ
- ต้องมีแรงจูงใจหรือผลตอบแทน
- ต้องมีคุณธรรมและจริยธรรม
- มีความสามัคคี
- อุปสรรคที่ทำให้โครงการไม่ประสบความสำเร็จ
- คนในองค์กรไม่ให้ความร่วมมือ ไม่ยอมรับการเปลี่ยนที่จะเกิดขึ้น ยึดติดอยู่กับสิ่งเดิมๆ
- ผู้บริหารไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของคนในองค์กร เอาความคิดตัวเองเป้นใหญ่
- กำหนดเป้าหมาย โครงการ หรือ นโยบายไม่ชัดเจน
- คนในองค์กรไม่มีความรู้ความสามรถ
- ขาดแรงจูงใจ หรือผลตอบแทน
- มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก ไม่มีความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
- ไม่มีโอกาสได้แสดงความคิดเห็น/แนวคิด
4. เราจะเอาความรู้เรื่องทรัพยากรมนุษย์ไปใช้ให้เกิดผล คือ ถ้าอนาคตมีบริษัทเป็นของตัวเองจะอบรมปลูกฝังคนในองค์ให้มีคุณธรรมและจริยธรรม มีความสามัคคี และรู้จักรักองค์กร(โดยการให้ทุกคนนำเสนอแนวความคิดเพื่อช่วยในงานพัฒนาองค์กร) เมื่อองค์กรพัฒนาแล้วจึงนำมาซึ่งผลตอบแทน(เงินเดือน) และต้องการให้พัฒนาขึ้นเรื่องๆ ก็จะให้แรงจูงใจและผลตอบแทน และที่สำคัญต้องยอมรับฟังความคิดเห็นของทุกคนในองค์
Innovation จะเกิดขึ้นได้ "ต้องไม่หยุดนิ่งแนวความคิด" แต่แนวความคิดต้องมีคุณธรรมและจริยธรรม ประกอบเข้าไปด้วย พร้อมทั้งให้คุณค่ากับสัมคมด้วย
ที่ทำให้ผมได้~กระตุ้นความอยากรู้ อยากคิด อยากค้นคว้ามากขึ้น~
ความคิดเห็นในข้อที่ 1สำหรับในความเข้าใจของผมคือ การสร้างคนให้มีความเข้าใจถึง “ความต้องการของคน(ลูกค้า)” บนพื้นฐานของคำว่า คนนั้นมีความต้องการไม่รู้จบ เมื่อ คน(HR)ที่เข้าใจถึงความต้องการที่แท้จริง ของ
คน(ลูกค้า) คน(HR) เหล่านั้นก็จะสามารถสรรสร้างนวัตกรรม เพื่อตอบสนองความต้องการในเรื่องนั้นๆ ได้ ด้วยความรู้ของขบวนการที่เป็นระบบ ซึ่งจะทำให้นวัตกรรมในแต่ละเรื่องนั้นประสพผลสำเร็จได้มากขึ้น ผมเชื่อ 100 % ว่าพื้นฐานของนวัตกรรมนั้นมากจาก คน(HR) เพราะฉะนั้นประเด็นสำคัญสำหรับตัวผมแล้วนั้นคิดว่า สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือ การสร้างคน(HR) ให้มีความเข้าใจอย่างแท้จริงในเรื่องของความต้องการใหม่ๆของคน(ลูกค้า) ถ้าทำได้คน(HR)เหล่านี้ก็จะสามารถสรรสร้างนวัตกรรมขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการนั้นแบบโป๊ะเช๊ะประสพผลสำเร็จมากขึ้น เพราะนวัตกรรมเกิดจากคน ไม่มีคนที่ต้องการใช้ นวัตกรรมไม่เกิด Key: เข้าให้ถึงความต้องการ แล้วนวัตกรรมก็จะเกิดขึ้นเอง ความคิดเห็นในข้อที่ 2 แน่นอน ชัวครับว่าหนีไม่พ้นเรื่องของความ ~กล้า~ ครับ แต่ก่อนที่คนจะกล้านั้น ควรจะต้องมีความเข้าใจถึง ขบวนการจัดการ idia นั้นๆ ว่ามีความเป็นไปได้จริงแค่ไหนโดยการนำเอาทษฎีต่างๆ มาสนับสนุน แล้วคำนวณหาความเสี่ยงในการลงทำให้ได้ ว่ามีความเป็นไปได้ กี่ % อัตราเสี่ยงกี่ % เพราะความเสี่ยงนั้นมีความสำคัญยิ่งในความกล้าที่จะตัดสินใจลงมือทำทรัพยากรมนุษย์ มีส่วนช่วยในการพัฒนา Innovation
เมื่อพูดถึงทรัพยากรมนุษย์ กับการพัฒนา innovation นั้นถือว่าเป็นส่วนสำคัญมากๆ กับ การสร้างสรรค์ แนวคิด การจัดการกระบวนการดำเนินการ เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันประเทศกับแห่งการแข่งขันที่มากขึ้นจากนอกประเทศที่เข้ามาแข่งขันในปัจจุบัน
ด้านการบริหารงานบุคลากร Collaborate Teamยกย่อง ส่งเสริมบุคคลที่ ที่เก่ง ให้อยู่ในองค์กร , ยอมรับเชื่อมั่น ในคุณค่าของคน
รักษาคนเก่ง ได้คนที่มีคุณภาพ คนเก่ง มีการเรียนรู้ตลอดเวลา อ่านหนังสือเป็น, ปลูกฝังให้พนักงานมีความผูกสัมพันธ์ที่ดีกับองค์กร ความรักองค์กร ในด้านต่างเช่น สร้างบุคลากรให้มีความเชื่อและความเลื่อมศรัทธาให้มีความเข้มแข็ง มีอุดมการณ์ร่วมกันในการไปสู่เป้าหมาย
การทำ innovation ต้องกล้าที่จะตัดสินใจ กล้าที่จะเสี่ยง ต้องการเปลี่ยนแปลง กล้าในการออกความคิดเห็น และ แสดงสิ่งซึ่ง เข้าใจแล้ว และกระตุ้นให้ผู้ร่วมอุดมการณ์ รับรู้และเข้าใจ
การบริหารงานการตัดสินใจ Empowermentระบบการตัดสินใจ การกระจายอำนาจในการตัดสินใจ หรือ Empowerment กระจายการตัดสินใจลงไปในระดับรองลงไป ทำให้ผู้ร่วมทีม เกิดความมั่นใจ รักในการมีส่วนมากขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนความสัมพันธ์ กับความสามัคคี กันการทำงาน พื้นฐานของการตัดสินใจต้องมีข้อมูลการตัดสินใจ เพื่อการลดความเสี่ยงในเรื่องนั้นๆ
ต้องมีบุคคลากรที่มีความแม่นยำในการตัดสินใจ
เมื่อได้คนที่เก่ง ที่ดี ก็จะมี idea ที่จะนำไปทำในเกิดเป็น action plan ได้ ทำให้ความเสี่ยงลดลง และ เปอร์เซ็นต์ความสำเร็จก็จะเพิ่มขึ้นตามตามเป้าหมายไปด้วย
เปิดโอกาสให้ผู้ร่วมทีม คิด เสนอ แนวทาง การปฏิบัติงาน โดยมองจาก เป้าหมายมาก ขึ้นให้อิสระทางด้านความคิดแนวๆใหม่, วิธีการใหม่ๆ ทำให้เป็น กระบวนการใหม่ วิธีการใหม่ๆ มากขึ้น
อยากให้นำแนวคิดการบริหารงานในลักษณะ Leader มาใช้ให้คนใน team รู้จักงานของตัวเองคิดได้เองว่าควรทำอะไร สามารถที่ กับการทำ Innovation ต้องมีความกล้าที่จะเสี่ยง กล้าทดลอง ต้องไม่กลัวที่จะเจ้ง ถ้าไม่ทำเจ้งแน่ๆ
ต้องสร้างสังคม innovation ตรงนี้จะไม่อยากเน้นลงไปอยากให้ทุกท่านได้ใส่ลงไปในความคิดว่าเราจะสร้างมันได้อย่างไร อยากจะฝากให้ทุกท่านช่วยกันเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์ และปลูกฝังคนรอบข้างให้เข้าใจการเปลี่ยนแปลงไปสู่ innovation ทฤษฎียิ่งให้มากย่อมได้รับมากจำไม่ได้ว่าไปฟังจากที่ไหนค่ะ สิ่งที่เป็นปัญหาหรืออุปสรรคสุดท้ายนี้ข้าพเจ้าคิดว่าจะนำความรู้ด้านทรัพยากรมนุษย์ไปใช้ในเรื่อง การทำงานในปัจจุบันในด้านการพัฒนาซอฟแวร์ใช้ในองค์กรด้านใช้ empowerment มากขึ้น และลักษณะการทำงานเป็น team ทุกคนมีส่วนในการตัดสินใจ และระหว่างหัวหน้ากับลูกน้อง จะเป็นแบบ Leader มากขึ้นค่ะ
คิดให้ปิ้ง...ทำให้จริง...กัดไม่ปล่อย...เข้าใจถึงความต้องการ
**เนื่องจากส่งครั้งแรก format ไม่เรียบร้อยจึงส่งใหม่อีกครั้งครับ**
เรียน ศ.ดร.วีระ หงส์ลดารมภ์
ข้าพเจ้า นาย วีระพันธ์ รุ่งเรืองกุลดิษฐ์ นักศึกษาโครงการหลักสูตรบริหาร มหาบัณฑิต สาขาการจัดการ นวัตกรรมรุ่นที่ 1 มหาวิทยาลัยรามคำแหง รหัส 4914980800
จากการที่ได้รับการสอนเรื่องทรัพยากรมนุษย์จากอาจารย์มาแล้วนั้น ข้าพเจ้าขอเสนอความคิดเห็น ดังนี้ 1. ทรัพยากรมนุษย์มีส่วนช่วยในเรื่องนวัตกรรมอย่างไรมนุษย์เป็นทรัพยากรที่มีค่าสำหรับซึ่งสำคัญกับองค์กร ดังนั้นการที่จะทำงานต่างๆ ให้ประสบความสำเร็จได้นั้น จะต้องมีมนุษย์เป็นปัจจัยหลักทั้งสิ้น มนุษย์มีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ในหลายรูปแบบ มนุษย์เป็นคนที่น่าเชื่อถือ มนุษย์จะมีการรับรู้เกี่ยวกับตนเอง และสิ่งแวดล้อมตามประสบการณ์ของแต่ละบุคคล มนุษย์ต้องการความรักความความเอาใจใส่ และการยอมรับจากผู้อื่น ซึ่งล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมในด้านความคิดและการกระทำทั้งสิ้น
2. ทรัพยากรมนุษย์ช่วยในเรื่อง idea เพื่อทำให้เกิด project หรือ action plan มนุษย์ทุกคนมีความสนใจมีความคิดในการพัฒนานวัตกรรมต่างๆ ซึ่งสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ในทุกเรื่องทำให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและองค์กร แต่มนุษย์นั้นก็มีปัญหาทางความคิดหลายๆ อย่างที่แตกต่างกัน ปัญหาคือมนุษย์พยายามปรับสิ่งแวดล้อมแทนที่จะจัดการกับตัวเอง หรือแทนที่จะพึ่งตนเอง พัฒนาตนเองให้มีความสามารถ มีวุฒิภาวะเพิ่มขึ้น มนุษย์ขาดความยืดหยุ่นทางความคิดและการกระทำจนไม่ยอมรับหรือไม่สัมผัสกับสิ่งแวดล้อม มนุษย์ครุ่นคิดแต่สถานการณ์ในอดีตที่ก่อปัญหาให้กับตัวเองโดยย้ำคิด ซึ่งเป็นการเปลืองพลังงานแทนที่จะใช้พลังงานในการคิด Idea ใหม่ๆ หรือ project ต่างๆ ซึ่งหากนำการพัฒนาด้านทรัพยากรมนุษย์มาช่วยเหลือปรับปรุงการทำงานทุกๆ อย่างจะลุล่วงไปได้ด้วยดี
3. ทำอย่างไรจะทำโครงการให้ประสบความสำเร็จ และมีอุปสรรคในเรื่องทรัพยากรมนุษย์ และมีอุปสรรคอะไรที่ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จการที่มนุษย์จะทำการสิ่งใดให้ประสบความสำเร็จ มนุษย์ยุคใหม่มีความสามารถในการพัฒนาตัวเอง รู้จักตนเองและสามารถนะจิตสำนึก จิตใต้สำนึก และจิตเหนือสำนึกที่มีอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของคนเรานี้ และความสุขให้แก่ตนเองและผู้อื่นได้อย่างเต็มที่แนวทางที่จะทำให้โครงการประสบความสำเร็จมีดังนี้
3.1 ด้านส่วนตัว การเสริมสร้างบุคลิกภาพและความเชื่อมั่นในตนเอง การเอาชนะความกลัว ความวิตกกังวล ปมด้อยปมเด่นของคนเรา การผ่อนคลายความเครียด การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ การพัฒนาความจำ
3.2 ด้านครอบครัว การเสริมสร้างเสน่ห์ในตัวเรา การช่วยคนในครอบครัว นำศักยภาพในตัวเองออกมาใช้ให้ได้มากและมีความสุข
3.3 ด้านการงาน มีมนุษย์สัมพันธ์ในการทำงาน มีศิลปะของการการเป็นเจ้านายหรือลูกน้อง การปรับพฤติกรรมของตนเองและบุคคลอื่นๆ ในหน่วยงาน
อุปสรรคทรัพยากรมนุษย์ ควรมีทัศนคติที่ดีต่อตัวบุคคล ทัศนคติคือสภาพจิตใจ พฤติกรรม หรือความประพฤติที่แสดงออกในเรื่องหนึ่งถึงความคิดเห็นความรู้สึกอย่างมีวัตถุประสงค์ หรือจุดมุ่งหมายภายใต้ความเชื่อของตนเอง บุคคลที่มีพฤติกรรมการทำงานที่ไม่ดี ทำงานคนเดียวเก่ง ทำเป็นทีมแย่ ชอบนำบุคคลใกล้ชิดรวมถึงญาติมิตรเข้ามาร่วมงาน และไม่วางตัวเป็นกลาง ไม่ชอบแสดงความคิดเห็นในที่ประชุม แต่ชอบแสดงความคิดเห็นนอกห้อง มีความคิดสร้างสรรค์แต่ขาดการต่อเนื่องฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ที่ดี มีความคิดกว้างไกล มีทิศทาง มีความคิดสร้างสรรค์ มีความกล้า มีพลัง มีคุณธรรมสูง ก่อให้เกิดความศรัทธาในหน่วยงาน มีวินัยในตนเอง ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงงานได้ดี
4. จะเอาความรู้เรื่องทรัพยากรมนุษย์ไปใช้ให้ได้ผลดี โดยมีโครงการที่คิดว่าอยากจะทำในอนาคตผมจะนำความรู้เรื่อง HR ไปปรับปรุงงานที่ทำอยู่ในปัจจุบันทั้งทางด้าน ความคิดและการปฏิบัติตัวกับผู้ร่วมงานเพื่อให้เกิดประโยชน์กับองค์กร โดยปฏิบัติตัวเป็นแหล่งข้อมูล ผู้รับข้อมูล เป็นผู้นำ กล้ารับผิดชอบ เป็นศูนย์กลางแก้ปัญหาทั้งเล็กและใหญ่ เป็นผู้ช่วยเหลือชี้แนะใส่ใจการทำงานของลูกน้องอย่างเหมาะสม เป็นผู้มอบอำนาจแจกจ่ายงาน เป็นผู้สอนตามขั้นตอนปฏิบัติเป็นผู้กำหนดนโยบายการวางแผน กลยุทธ์ต่างๆ เช่นการนำ 4 M มาใช้ในการทำงาน คือ 1. Money 2. Material 3. Machine และ 4. Man
"ปัญหาของการนวัตกรรมคนในองค์กร หรือคนในองค์กรไม่ค่อยมีการรังสรรค์
นวัตกรรม มักมาจากพื้นฐานเรื่องของระบบ การศึกษาที่สอนให้ท่องจำ และทำตามมากกว่าที่จะให้คิด"
คนมีพลังสามารถสร้างสรรค์ได้ด้วยการเรียนรู้และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ความคิดของคนถ้าสามารถก้าวกระโดดได้ (break though) ก็จะพบสิ่งที่เราคาดหวังเอาไว้
เรียน ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์
ผม นายสุทธิรัตน์ อรรคอุดม ID 4914980540 RU:MBA INNOVATION
1. การจัดการทรัพยากรบุคคล ถือว่ามีส่วนสำคัญ เนื่องจาก ไม่ว่าองค์กรใดๆก็ตาม ทำธุรกิจแบบใด ตัวจักรสำคัญที่เป็นตัวขับเคลื่อนการทำงาน ความคิดสร้างสรรค์ การพัฒนา ล้วนแล้วแต่มาจากคนทั้งสิ้น
ดังนั้นการสร้างคน การคัดเลือกคน การส่งเสริมให้ความรู้ ฝึกอบรม ให้โอกาสมอบอำนาจ กิจกรรมต่างๆ ที่ HR จัดขึ้น สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งที่ HR ส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมทั้งสิ้น
จากแนวคิดดังกล่าว อาจพูดได้ว่า องค์กรจะมีนวัตกรรมเกิดขึ้นหรือไม่ หรือถ้ามีแล้วจะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น การจัดการทรัพยากรบุคคลคือหัวใจสำคัญ
2. การที่บุคคลจะใช้ความรู้และความคิดสร้างสรรค์มรามีอยู่ให้ออกมานอกกรอบเดิมๆ แต่ความคิดนั้นๆต้องไม่ใช่เพ้อฝัน ต้องเป็นแนวคิดที่อยู่บนพื้นฐาน หรือหลักการที่เป็นไปได้ นั้น นโยบายขององค์กรก็มีส่วนสำคัญ การสร้างพนักงานให้มีความรู้ ความคิด กล้าที่จะทำตามความคิดนั้น การมีความคิดใหม่ การมีโครงการใหม่ การต่อยอดธุรกิจต่างๆนั้น พนักงานต้องมีพื้นฐานความรู้ (ทุนทางปัญญา) ทุนทางปัญญาจะเกิดขึ้นได้ก็มาจากพื้นฐานและความสนใจของพนักงานเองส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็มาจากองค์ความรู้ (knowledge base ) ที่ HR ช่วยสนับสนุน ฝึกอบรมให้ เมื่อมีแนวคิดดี โครงการดี การที่จะลงมือทำก็น่าจะเป็นไปได้ดี
การจัดการทรัพยากรบุคคลขององค์กรที่มีความสอดคล้องกับนโยบายของผู้บริหาร สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า และสอดคล้องกับเทคโนโลยีที่มีอยู่ ก็จะทำให้องค์กรและนวัตกรรมที่สร้างขึ้นประสบความสำเร็จ
3. องค์ประกอบที่สนับสนุนให้นวัตกรรมสำเร็จ
- นโยบายของผู้บริหารระดับสูง สนับสนุนเต็มที่ (เงินทุน , เวลา , อื่นๆ )
- ความรู้ ความสามารถของทีมงานนวัตกรรม
- คุณธรรมและจริยธรรม ( เพื่อให้เติบโตอย่างยั่งยืน )
- คำนึงถึงความต้องการของลูกค้า
- ยอมรับในความล้มเหลวที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เพื่อให้ทึมงานมีกำลังใจ ไม่ต้องกังวลว่าถ้าลมเหลวและจะถูกลงโทษ
- KNOWLEDGE BASE
- ความกล้าที่จะเสี่ยง ( แต่ต้องไม่โง่ )
อุปสรรคที่ขัดขวาง การทำนวัตกรรม
- ผู้บริหารระดับสูง ขาดความรู้ ความสามารถ และไม่เข้าใจเรื่องของนวัตกรรม
- ไม่มีเจ้าภาพที่ชัดเจน ( หาผู้รับผิดชอบไม่ได้ )
- การไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้น ทำให้เกิดการต่อต้านกันเอง
- ความรู้ ความสามารถของทีมงานไม่เพียงพอ
- ความไม่กล้าที่จะเสี่ยงลงทุน
- ความไม่เป็นอิสระของผู้ปฎิบัติ (ไม่มีอำนาจในการสั่งการ )
- ทำโดยไม่คิดถึงความต้องการของลูกค้า ( โอกาสล้มเหลวสูง )
- ไม่คำนึงถึงคุณธรรมและจริยธรรม ( ไม่ยั่งยืน )
4. นวัตกรรมที่มีความสนใจ มีหลายแนวคิด แต่ยังไม่มีความชัดเจนนัก เช่น
- การพัฒนาการบริการรูปแบบใหม่ๆ เนื่องจากการบริการเป็นงานที่ช่วยเพิ่มประสิธิภาพต่างๆ ให้ประโยชน์ ลดขั้นตอน ลดกระบวนการ ลดค่าใช้จ่าย เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ และเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีอีกด้วย และเป็นการลงทุนที่สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างมาก
- การต่อยอดธุรกิจที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เนื่องจากปัจจุบันลูกค้ามีความต้องการบริโภคสินค้า ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่นใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ กระบวนการผลิตม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งทำให้เราสามารถนำเอาจุดนี้มาเป็นตัวที่ช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการได้
คำถาม Q1 ทรัพยากรมนุษย์มีส่วนช่วยใน innovation อย่างไร
Q2 ทรัพยากรมนุษย์ช่วยในการนำ idea เพื่อทำให้เกิด project หรือ action plan อย่างไร
Q3 ทำอย่างไรจึงจะทำให้โครงการเหล่านั้นประสบความสำเร็จ อุปสรรคในเรื่องทรัพยากรมนุษย์ที่ทำให้โครการไม่
ประสบความสำเร็จมีอะไรบ้าง
Q4 ถ้าจะเอาความรู้เรื่องทรัพยากรมนุษย์ไปใช้ให้ได้จริง ๆ หรือทำโครงการที่เป็นรูปธรรมในด้านใด
กระผม นาย วิทูรย์ วิจิตร นักศึกษาปริญญาโท การจัดการนวัตกรรม รหัสประจำตัว 4914981551
ต้องกราบขอบพระคุณท่าน ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ เป็นอย่างมากที่ได้สละเวลามาเป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ ทรัพยากรมนุษย์
สำหรับ นวัตกรรม ซึ่งการบรรยายได้ให้ความรู้ และข้อคิดกับนักศึกษามากมายหลายประการ
สำหรับความคิดเห็นของกระผม ต่อคำถามที่ได้มีการแลกเปลี่ยนความรู้กันเกิดขึ้น มีดังต่อไปนี้
A1 ทรัพยากรมนุษย์ มีส่วยช่วยพัฒนาทุก ๆ สิ่งให้ดีขึ้น เนื่องจากทรัพยากรมนุษย์เปรียบได้กับทรัพยากรที่มีค่าที่สุด
สามารถที่จะจัดการกับทุกอย่างได้ เพราะฉะนั้นมนุษย์ก็ย่อมจะเป็นผู้ทำให้เกิด หรือการใช้ประโยชน์ที่เกิดจาก innovation
ไม่ว่าจะเป็น innovation ทางด้านใด รูปแบบใด สาขาใด
A2 มนุษย์ หรือการจัดการทรัพยากรมนุษย์ที่ดี ย่อมทำให้ขั้นตอนการทำ นวัตกรรม มีโอกาสประสบความสำเร็จ
ถึงแม้ว่าโอกาสที่จะประสบความล้มเหลวจะมีมากกว่าเยอะเยอะ แต่การเริ่มต้นที่ดี และเริ่มต้นอย่างมีหลักการ ก็อาจทำให้
โครงการ ที่ต้องการทำมีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากขึ้น
A3 การที่จะทำให้โครงการใด ๆ สำเร็จขึ้น นั่น ย่อมต้องอาศัยขบวนการมากมายหลายขั้นตอน รวมทั้งจังหวะ
และโอกาสด้วย ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่าการที่จะทำเกี่ยวกับ นวัตกรรม มันย่อมมีโอกาสเสี่ยงที่จะพบกับความล้มเหลวมากกว่าโอกาส
ที่จะประสบความสำเร็จมากมาย อุปสรรคที่อาจเกิดขึ้น อาจมีได้มากมายหลายทาง ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมเรื่องทุน เวลา รวมถึงผู้ร่วมงาน
ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องโดยตรงหรือไม่เกี่ยวข้องเลย ก็ได้ เช่น บุคคลากรขาดความรู้ ขาดความเอาใจใส่ ในการที่จะปฏิบัติภารกิจ
,บุคคลขาดการประสานงาน หรืออาจมีการกระทบกระทั่งกันในขณะปฏิบัติงานก็ได้
A4 สามารถเอาความรู้ด้านทรัพยากรมนุษย์ มาช่วยในการวางแผนการดำเนินงานได้ เพราะถ้าเกิดเรา คิด
โครงการ หรือทำโครงการใดโครงการหนึ่ง ถ้าเราสามารถวิเคราะห์ปัญหา วิเคราะห์อุปสรรค ได้ วางลำดับขั้นตอนการปฏิบัติงาน
เป็นลำดับแบบแผน โอกาสจะประสบความสำเร็จ ก็จะมีมากขึ้น
วิทูรย์ วิจิตร รหัสประจำตัว 4914981551
ในการทำธุรกิจส่วนตัวขนาดเล็ก การจะเติบโตไปเป็นอุตสาหกรรมระดับชาติได้จำเป็นต้องมีการบริหารจัดการที่ดี ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าไม่ใช่เป็นการบริหารจัดการด้านใดด้านหนึ่ง แต่เป็นการบริหารจัดการเกี่ยวกับทรัพยากรมนุษย์ ความคิดของมนุษย์จะเป็นตัวผลักดันให้องค์กรเติบโตอย่างรวดเร็วและยั่งยืนได้ ผมอยากจะเป็นผู้บริหารองค์กรระดับชาติ และผมมั่นใจว่าเป็นได้เมื่อผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับทรัพยากรมนุษย์มากเพียงพอ
รู้สึกเสียดายมากๆครับที่ไม่ได้รับฟังการบรรยายของท่านอาจารย์ เพราะว่าต้องไปสัมนาที่ต่างประเทศ เห็นพี่น้องผองเพื่อนที่เรียนบอกว่าสนุกมาก ยังงัยโอกาสหน้าไม่พลาดครับ
1) การจัดการทรัพยากรมนุษย์มีส่วนช่วยใน INNOVATION ได้อย่างไรถ้าเรานับตามพ.ศ. จะเห็นว่าโลกได้ถือกำเนิดขึ้นมากว่า 2,500 ปี มนุษย์ก็มีการพัฒนาการมาเรื่อยๆตั้งแต่ สมัยยุคหินจนถึงสมัยยุคดิจิตอล ช่วงเวลาที่ผ่านมามีนวัตกรรมเกิดขึ้นมากมาย ทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ โดยผ่านการเรียนรู้ ลองผิดลองถูก และอะไรอื่นๆอีกมากมาย การสะสมองค์ความรู้เหล่านี้และการต่อยอดองค์ความรู้เกิดจากความคิดและการสร้างสรรค์ของมนุษย์ ทั้งสิ้น ดังนั้นคงปฏิเสธไม่ได้ว่าทรัพยากรมนุษย์เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้โลกของพวกเราอยู่ได้จนกระทั่งถึงทุกวันนี้
2) ทรัพยากรมนุษย์ช่วยในการนำ Idea เพื่อทำให้เกิด Project หรือ Action Plan อย่างไรบ้างในแต่ละวันทั่วโลกจะมีแนวความคิดใหม่ หรือผสมผสานออกมามากมาย แต่จะมีแนวความคิดอันไหนที่สามารถทำให้เกิดขึ้นจริงๆได้ โดยไม่ใช่สิ่งเพ้อฝันถือเป็นเรื่องหนึ่งที่ควรพิจารณา เพราะว่าจะต้องมีองค์ประกอบหลายๆด้านมาช่วยผลักดันแนวความคิดเหล่านั้นไปสู่การใช้งานได้จริง เช่น ความเป็นไปได้ของโครงการ, ค่าใช้จ่าย, คนที่เข้ามาบริหารจัดการ และกรอบแนวคิด ไม่ว่าจะในหรือนอกกรอบ มาช่วยสนับสนุนแนวความคิดเหล่านี้ไปสู่การปฏิบัติงานจริง อาทิเช่น โครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ได้แนวความคิดจากวิถีชาวบ้านแบบไทยๆ ซึ่งบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของความเป็นไทย แล้วนำไปต่อยอดทางธุรกิจโดยผ่านการวิเคราะห์ วิจัยมาอย่างมากมาย, ข้อดี-ข้อเสีย ก่อนที่จะมาเป็นโครงการอย่างทุกวันนี้ และนำไปสู่ผลการปฏิบัติงานได้อย่างจริงจัง
3) ทำอย่างไรจึงจะทำให้โครงการเหล่านั้นประสบความสำเร็จ อุปสรรคในเรื่องทรัพยากรมนุษย์ที่ทำให้โครงการเหล่านั้นไม่ประสบความสำเร็จมีอะไรบ้างในแต่ละโครงการ จะต้องมีหลายคน จากหลายๆหน่วยงานเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการ ดังนั้นจะต้องมีการวางแผนงานที่ดี, การร่วมแรงร่วมใจ, วางกำลังคนให้ถูกกับงาน, สายงานบังคับบัญชาชัดเจน, การควบคุมเรื่องค่าใช้จ่าย, การพัฒนาองค์ความรู้คู่คุณธรรม, การทำงานเป็นทีม, ระยะเวลาสำเร็จของโครงการ, ศึกษาจุดแข็ง จุดอ่อน และประเมินผลงานในแต่ละช่วงของโครงการว่าสิ่งใดที่เป็นตัวปัญหา และสิ่งใคช่วยสนับสนุนงานของโครงการให้ประสบผลสำเร็จ ในขณะเดียวกันการดำเนินของโครงการก็ต้องมีอุปสรรคอยู่บ้าง เช่น การสื่อสารของคนในโครงการไม่ดีพอ, การประเมินความเสี่ยงต่อโครงการไม่คลอบคลุมถึงผลกระทบ, ความร่วมมือของคนในหลายๆส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าความสำเร็จหรืออุปสรรคในทุกๆส่วนของโครงการล้วนแล้วมีทรัพยากรมนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้องทั้งสิ้น ดังนั้นทรัพยากรมนุษย์จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้โครงการสำเร็จหรือล้มเหลว
4) จะนำความรู้เรื่องทรัพยากรมนุษย์ไปใช้ให้ได้ผลจริงหรือก่อให้เกิดโครงการที่เป็นรูปธรรมในเรื่องใดโลกเราทุกวันนี้เป็นยุคโลกไร้พรมแดน กล่าวคือมนุษย์สามารถติดต่อสื่อสารถึงกันได้แค่ปลายนิ้วมือเดียว ดังนั้นจะต้องมีเทคโนโลยีที่สามารถตองสนองความต้องการของมนุษย์และความพึงพอใจสูงสุดได้มากกว่าที่เป็นอยู่ปัจจุบัน เช่น การนำระบบ วัตถุบ่งชี้อัตโนมัติมาใช้งาน (RFID) ยกตัวอย่างเช่น ท่านจะรู้สึกอย่างไรเมื่อท่านเข้าไปที่ธนาคาร แล้วมีเสียงพูดว่า “สวัสดีครับ คุณ…… ทางธนาคารยินดีรับใช้” แล้วพนักงานสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำรายการล่าสุด และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับท่านทั้งหมด รวมทั้งนำเสนอบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องและดีที่สุดกับตัวท่าน สิ่งเหล่านี้สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าไม่มากก็น้อย ซึ่งระบบ RFID เป็นเทคโนโลยีที่คิดว่าจะทำให้สามารถเกิดประโยชน์ในหลายๆด้านในอนาคตอันใกล้นี้กราบเรียนท่านอาจารย์ ดร. จิระ หงส์ลดารมภ์ สวัสดีเพื่อนร่วม Class MBA InnovatIon RU และเพื่อนชาว Blog ทุกท่าน ผมสมเกียรติ สุวพันธ์ รหัส 4914981397 ผมรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับความรู้จากท่านอาจารย์ ในเรื่องการบริหารพรัพยากรมนุษย์และได้รู้เกี่ยวกับทฤษฎี 4L's ,5K's ,8K's ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับการนำไปใช้ในการทำงานและการดำรงชีวิตประจำวัน
สิ่งสำคัญอย่างยิ่งประการแรกคือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนให้ทุก คนมีความกล้าที่จะคิดนอกกรอบและพร้อมที่จะรับการเปลี่ยนแปลง ถ้าทุกคนในองค์กรยินดีที่จะดิดว่า Change is Challenge การเปลี่ยนแปลง คือความท้าทาย โอกาสที่องค์กรนั้นสามารถเกิดนวัฒตกรรมได้มาก แต่ในบางองค์กรยังไม่ยินดีที่จะยอมรับการเปลี่ยนแปลง ผมจึงอยากเสนอแนวคิดเพื่อให้ทดลองนำไปใช้กัน
A small truth to make life 100%
If
A B C D E F G H I J K L M N O P Q R S T U V W X Y Z
Is equal to
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26
What make 100%
HARD WORK
H+A+R+D+W+O+R+K
8+1+18+4+23+15+18+11=98%
KNOWLEDGE
K+N+O+W+L+E+D+G+E
11+14+15+23+12+5+4+7+5=96%
LOVE
L+O+V+E
12+15+22+5=54%
LUCK
L+U+C+K
12+21+3+11=47%
MONEY
M+O+N+E+Y
13+15+14+5+25=72%
LEADERSHIP
L+E+A+D+E+R+S+H+I+P
12+5+1+4+5+18+19+9+16=89%
Every probrem has a solution only if we perhaps change our
ATTITUDE
A+T+T+I+T+U+D+E
1+20+9+20+21+4+5=100%
It is our attitude towards life and work that makes OUR life 100%!!
ATTITUDE IS EVERYTHING
Change your attitude and change your life !!
เมื่อทุกคนมี Attitude ที่ดีทุกอย่างก็สามารถดำเนินการได้ง่าย
จากคำกล่าวของอาจารย์ ศุภชัย หล่อโลหการ Inovation นวัฒตกรรม คือ สิ่งใหม่ที่เกิดจากใช้ความรู้และความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ และสังคม จากการเกิดนวัฒตกรรมสามารถเกิดได้ในสภาวะต่างๆ
1. สภาวะวิกฤต (Crisis) Ex. Internet เพื่อการสื่อสารในสงครามเวียดนาม การเกิดนวัฒตกรรมในสภาวะวิกฤตนั้น HRD อาจมีส่วนเกี่ยวข้องน้อยเนื่องจากนวัฒตกรรมเกิดจากพื้นฐานความรู้ที่มนุษย์ต้องการแก้ปัญหาในสภาวะนั้นๆ
2. สภาวะปกติ (Normal) HRD มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมากเนื่องจากการพัฒนา ทรัพยกรมนุษย์ให้เกิดความกล้าที่จะคิดและทำสิ่งใหม่นั้นทำได้ค่อนข้างยาก แนวทางที่จะส่งเสริมให้เกิดนวัฒตกรรมอย่างต่อเนื่องมีอยู่มากมาย ขึ้นอยู่กับประเภทขององค์กรและธุรกิจ
จากคำถามของอาจารย์ในห้องเรียนผมขอสรุปโดยรวมทั้ง 4 ข้อดังต่อไปนี้ครับผมขอเสนอแนวทางที่จะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้เกิด นวัฒกรรมอย่างต่อเนื่องและนำไปสู่ Actions plan ได้ 6 หัวข้อ
1. Empowerment การมอบหมายอำนาจและความรับผิดชอบ
พร้อมที่จะรับผิดชอบให้บรรลุวัตถุประสงค์
อิสระที่ปฏิบัติงานที่ตัวเองรับผิดชอบ
ลำดับความสำคัญของงานสนุกกับงาน
2. Truth and respect ให้เกียรติและไว้วางใจซึ่งกันและกัน
วางตนน่าเชื่อถือ ซื่อสัตย์ เปิดเผยต่อเพื่อนร่วมงาน
ใส่ใจพนักงานเพื่อนร่วมงาน
ให้เกียรติกันและกันทั้งระบบ Supply chain รวมทั้งสังคม
3. Passion to win
มุ่งมั่นที่จะชนะ ความเป็นเลิศ
บรรลุวัตถุประสงค์มากกว่าแล้วเสร็จ
ผลิตภัณฑ์และบริการที่คุณภาพสูง
4. Entrepreneural Spirit มีจิตรสำนึกของความเป็นจำของธุรกิจ
การกระตือรือร้นที่จะก้าวหน้า
เสนอแนวทางใหม่เพื่อความสำเร็จ
รอบคอบกล้าเสี่ยงอย่างมีหลักการ
5. Individual filfullment เติมเต็มให้กับชีวิต สุขส่วนตัว
การตอบแทนอย่างเหมาะสมให้โอกาส
6. Continuous improvement
พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง
หาความรู้
รู้จากประสบการณ์ ส่วนอื่น
ริเริ่มแนวคิดใหม่
สรุปได้ว่า การทำให้ทุกคนในองค์กรมี Attitude ที่ดีนั้น
ก็จะสามารถนำองค์สู่การเปลี่ยนแปลงแล้วนำหลักการ HRD เข้ามาใช้ให้เหมาะสมกับองค์กรและประเภทธุรกิจก็จะสามารถพัฒนาให้เกิด นวัฒตกรรมอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนสืบไป
สุดท้ายหวังและเชื่อมั่นว่าทุกหน่วนงานและองค์กรสามารถพัฒนา ไปสู่นวัฒตกรรมได้
ขอบคุณครับ
กระผมนายคงศักดิ์ กาญจนกูลกิจ รหัสประจำตัว 4914981045 นักศึกษาโครงการบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการนวัตกรรม ขอเสนอความคิดเห็นในเรื่องของทรัพยากรมนุษย์สำหรับนวัตกรรม ดังนี้ครับ
1. การจัดการทรัพยากรมนุษย์มีส่วนช่วยสร้างนวัตกรรมได้อย่างไร
คุณภาพของนวัตกรรมจะดีขึ้นได้ประกอบด้วยปัจจัยหลายๆด้าน แต่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้นวัตกรรมมีคุณภาพคือการที่มีทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพนั่นเอง ซึ่งแต่คนมีความสามารถในการคิดค้น ประดิษฐ์ พัฒนา และสามารถบริหารจัดการให้สามารถดำเนินธุรกิจในภาวะที่มีการแข่งขันกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในการที่จะมีส่วนช่วยสร้างนวัตกรรมนั้น ผู้ที่มีส่วนสร้างสรรค์ต้องเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีคุณธรรม มีความรู้ มีการบริหารจัดการที่ดี และต้องสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมอีกด้วย
2. ทรัพยากรมนุษย์ช่วยในการนำ idea เพื่อทำให้เกิด Project หรือ action plan อย่างไร
ทรัพยากรมนุษย์สามารถเรียนรู้ พัฒนาตนเอง เพื่อให้อยู่รอดในสังคมที่มีการแข่งขันกันสูง ในสถานการณ์ที่แข่งขันกันมากนี้เองจะทำให้มนุษย์เกิดแนวความคิดใหม่ๆ ในการคิดค้น ประดิษฐ์ และนำมาสร้างสรรค์จนเป็นนวัตกรรมที่มีคุณภาพ ดังนั้นในการเพื่อให้เกิด Project หรือ Action Plan นั้นในความคิดเห็นของกระผมควรที่ต้อง
- มีความเข้าใจในธุรกิจของตนเองและคู่แข่งทางธุรกิจ
- มีการบริหารจัดการที่ดี
- มีความสามัคคีกันในองค์กร
- มีการพัฒนาคนในองค์กรอย่างต่อเนื่อง
- มีคุณธรรมและจริยธรรม
3. ทำอย่างไรถึงทำให้โครงการเหล่านั้นประสบความสำเร็จ อุปสรรคในทรัพยากรมนุษย์ที่ทำให้โครงการเหล่านั้นไม่ประสบความสำเร็จมีอะไรบ้าง
การที่จะประสบความสำเร็จในโครงการนั้น ทรัพยากรมนุษย์ต้องมีการพัฒนาตนเอง หาความรู้ใหม่ๆ ศึกษาคู่แข่ง มีการวางกลยุทธ์ที่ดีและเหมาะสม รวมถึงต้องมีความร่วมมือกันในองค์กร ผู้บริหารในองค์กรจะต้องให้การสนับสนุน ไม่ปิดกั้นความคิดของตนเองและผู้อื่น และที่สำคัญจะต้องมีคุณธรรมและจริยธรรม
อุปสรรคในทรัพยากรมนุษย์ที่ทำโครงการไม่ประสบความสำเร็จนั้น มีเหตุผลมากมาย แต่เห็นผลที่เด่นชัดและพบเห็นโดยทั่วไปคือ
- คนในองค์กรไม่สามัคคีกัน
- คนในองค์กรไม่ช่วยเหลือกัน
- ความแตกต่างกันด้านอุปนิสัย บางคนมีความเป็นตัวของตัวเองสูงจนไม่ยอมฟังความคิดคนอื่น บางคนไม่ออกความคิดเห็น บางคนไม่ฟังความคิดของคนอื่น
- การไม่ให้โอกาสซึ่งกันและกัน
4. จะนำความรู้เรื่องทรัพยากรมนุษย์ไปใช้ให้ได้ผลจริงหรือก่อให้เกิดโครงการที่เป็นรูปธรรมในเรื่องใด
ปัจจุบันมีการแข่งขันกันในด้านธุรกิจและเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง แต่ละองค์กรได้พัฒนาบริการ ผลิตภัณฑ์ การตลาด มีการวางกลยุทธ์ที่ดีในการแข่งขันกับคู่แข่ง ซึ่งองค์กรต้องให้ความสำคัญในเรื่องของทรัพยากรมนุษย์เป็นอันดับต้นๆ ดังนั้นควรนำความรู้ในเรื่องทรัพยากรมนุษย์มาใช้ในการบริหารงานเช่น ความสัมพันธ์กับคนในองค์กร การวางแผนอัตรากำลัง ฝึกอบรมและให้ความรู้กับคนในองค์กรอย่างต่อเนื่อง การให้เงินเดือนและสวัสดิการอย่างดีและเหมาะสมเป็นต้น
รหัส 4914980033 นักศึกษาปริญญาโท โครงการบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการนวัตกรรม
1. การจัดการทรัพยากรมนุษย์มีส่วนช่วยในการสร้างนวัตกรรม หรือ innovation ได้อย่างไร
2. การนำความคิดสร้างสรรค์ไปสร้างให้เกิดเป็นรูปธรรมในการทำงาน หรือ นำ idea เพื่อทำให้เกิด actioin plan ได้อย่างไร
3. การทำให้โครงการประสบความสำเร็จในการสร้างนวัตกรรม และอุปสรรคที่ทำให้โครงการนั้นไม่ประสบความสำเร็จมีอะไรบ้าง
4. โครงการที่คาดว่าจะทำหลังจากการเรียน เพื่อที่จะนำเอาความรู้ในเรื่อง HR ไปใช้ให้ได้ผลจริงๆ หรือทำโครงการเป็นรูปธรรม คือเรื่องใด
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. คำว่า innovation เกิดได้เพราะความพยายามของคนที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ซึ่งสามารถเขียนเป็น equation ได้ว่า
innovation = human + reality
ถ้าสังเกตให้ดี H คือ Human และ R คือ Reality เมื่อนำความคิดของมนุษย์มาตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงจะทำให้เกิด
innovation
innovation = H + R = HR
ฉะนั้น innovation จึงแยกออกจาก HR ไม่ได้เลย เพราะมนุษย์เป็นต้นกำเนิดของความคิด
เพื่อให้ได้มาซึ่งมูลค่าเพิ่มจากสิ่งเดิมสู่สิ่งใหม่ เนื่องจาก HR เป็นส่วนหนึ่งของการทำให้เกิด innovation ดังนั้นจะเห็นได้ชัดว่า HR มีส่วนช่วยในการสร้างนวัตกรรม
นวัตกรรมไม่ใช่เพียงแค่ความรู้หรือความคิดสร้างสรรค์เพียงอย่างเดียว แต่ต้องนำมาอิงกับความเป็นไปได้ในโลกแห่งความเป็นจริงด้วย การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ จึงเป็นการพัฒนานวัตกรรม
2. การทำให้ idea เกิดเป็น action plan นั้นจะต้องมีองค์ประกอบดังนี้
- การระดมแนวคิดของทีม ซึ่งการระดมแนวคิดต้องเกิดจากแหล่งความคิดที่แตกต่าง
- ความกล้าในการตัดสินใจลงมือทำ
- เงินทุนสนับสนุน
- ประโยชน์อันเป็นผลดีต่อสังคม และมนุษย์โลก
3.1 ปัจจัยที่ทำให้โครงการเหล่านั้นประสบความสำเร็จ
- ความชัดเจนของโครงการ เพื่อให้ทีมงานสามารถรู้ได้ว่า แนวคิดนั้นเป็นการเพ้อฝันหรือเป็น innovation
- การสนับสนุนจากเจ้าของหรือผู้บริหารสูงสุด หรือหน่วยงานของรัฐ ในเรื่องของเงินทุน
- มีวัฒนธรรมในแนวทางเดียวกันเพื่อให้เกิดแนวความคิดใหม่ๆ
3.2 อุปสรรคที่ทำให้โครงการไม่ประสบความสำเร็จ
- ความไม่โปร่งใสของแนวคิด ทำให้ทีมหรือสมาชิกในทีมขาดความเชื่อมั่น แม้ทุกคนจะทราบดีว่า การทำ innovation เป็นการเริ่มต้นความเสี่ยง แต่หากทิศทางของ idea ไม่ชัดเจนจะทำให้ทีมรู้สึกว่าความเสี่ยงยิ่งเพิ่มขึ้นกว่าเดิม
- ความสามัคคีของทีมงาน innovation อาทิ สมาชิกของทีมมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน และแนวโน้มในการผลิต innovation ที่แตกต่างกันมีสูง และแยกเวลาแยกทีมให้กับผลงานของตัวเอง มากกว่าผลงานของทีม จะทำให้ยากต่อการบริหารงาน
- การจัดลำดับความสำคัญ หากสมาชิกในทีม จัดความสำคัญของ innovation ไว้ไม่เท่ากัน จะทำให้การทุ่มเทต่อการสร้าง idea ให้เป็นรูปธรรมนั้นมีไม่เท่ากัน
- การตัดสินใจ แม้ว่าจะได้รับการสนับหรือไม่ หากมีเป้าหมายเดียวกัน ย่อมแก้ปัญหาและหาทุนเพื่อสร้าง innovation ได้
- การขาดการสนับสนุนของภาครัฐ หรือเงินทุน
4. การนำความรู้เรื่อง HR ไปใช้ให้ได้ผลจริง โดยคิดว่าโครงการที่จะทำในอนาคต
- การสอนแนวใหม่ เพื่อให้ innovation ซึมเข้าไปในทุกสาขาวิชาแบบบูรณาการ ซึ่งเหนือกว่า การบูรณาการเพียงอย่างเดียว หรือการรวมเอาหลายวิชาเข้าด้วยกัน แต่ให้มีการคิด วิเคราะห์ใช้สิ่งที่มีอยู่ในสร้างสรรค์องค์ความรู้ใหม่ๆ ได้ ไม่ติดอยู่กับรูปแบบการสอนเดิมๆ เน้นการพัฒนาทางความคิดมากกว่าสั่งให้คิด หรือถูกบังคับให้คิด การให้เกิดแนวการสอนที่เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดกับทุกๆคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในชั้นเรียน เช่น ครู นักเรียน เจ้าหน้าที่ เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้บนพื้นฐานชีวิตจริงมากขึ้น การใช้ชื่อเล่นเพื่อให้สัมพันธ์กับวัฒนธรรมไทย และลดความสำคัญของ คำนำหน้าลง หรือยศฐาบรรดาศักดิ์ เพื่อให้นักเรียนสนุกกับความรู้มากขึ้นกว่าการสะดุดกับประสบการณ์ที่แตกต่าง และกดให้นักเรียนไม่กล้าแสดงออก เป็นต้น
สรุปโดยรวมแล้ว ขอนำเสนอ ทฤษฎี CRHR
C หมายถึง Change Methodology หรือกระบวนการให้เกิดการเปลี่ยน เนื่องจากว่า ถ้ายังติดอยู่กับแนวความคิดเดิมๆ จะไม่ให้ทำให้เกิดวิสัยทัศน์ที่แตกต่าง ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงก็ต้องเริ่มต้นที่ตัวของ นวัตกร เอง เปลี่ยนระบบความคิด เปลี่ยนวิธีการคิด เป็นต้น
R หมายถึง Reality Methodology หรือกระบวนมองภาพแห่งความเป็นจริง ไม่เพ้อฝัน เพื่อให้เกิดวิสัยทัศน์ถึงความเป็นไปได้ ในการสร้าง idea ให้เกิดขึ้นจริง เป็นรูปธรรม
H หมายถึง Happy Methodoloy หมายถึง การทำ idea ให้เป็นรูปธรรม อย่างมีความสุข เมื่อนวัตกร สร้างสรรค์ผลงานอย่างมีความสุขแล้ว ย่อมเกิดผลดี และสร้างสรรค์ผลงานได้มากขึ้น
R หมายถึง Relevance Methodology หมายถึง การให้เกิดขึ้นจริง หรือการโยงสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบย่อย ทั้งเรื่องการเปลี่ยนแปลง สภาพความเป็นจริง และความสุขในการสร้างสรรค์ผลงาน
ในทางตรงกันข้าม ถ้าคนไม่ยอมรับการเปลี่ยน ก็ย่อมไม่เกิดไม่นวัตกรรม เช่นเดียวกัน ในสภาพความเป็นจริง นวัตกรรมที่สร้างขึ้นควรจะก่อให้เกิดประโยชน์ตามสภาพความเป็นจริง เช่น ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า เป็นต้น เรื่องของความสุขก็เช่นเดียวกัน หากการควบคุมสั่งการนั้น ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม ทำให้ผู้ปฏิบัติเกิดความทุกข์ในการสร้างสรรค์ผลงาน และสิ่งสำคัญคือ หากขาดการประสานสิ่งเหล่านี้ ก็ไม่อาจจะทำให้นวัตกรรมเกิดขึ้นได้เช่นกัน
เรียน ศ.ดร. จิระ หงด์ลดารมภ์
ชื่อนายสำเร็จ บุญเนาว์
เลขที่ 4914981493 หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาการจัดการนวัตกรรม ม.รามคำแหง
A1
HR สามารถเป็นทั้งแหล่งรวมรวมศาสตร์ หรือความรู้ด้านทรัพยากรมนุษย์ แบบใหม่ หรือที่ผมจะใช้คำว่า inno-HR ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ ดังจะเห็นได้ว่ากระแส Innovation นั้นกำลังเป็นกระแส (Trend) อยู่ในขณะนี้นั้น ผมสามารถสรุปตามความเข้า ที่ได้ร่ำเรียนกับท่านอาจารย์ ทั้งสอง ท่าน ได้ว่า inno-HR จะเป็นการนำองค์ความรู้เดิมที่มีปรากฏอยู่แล้วนั้น นำกลับมาเรีบเรียงใหม่ โดยการใช้กระบวนการคิดใหม่ จะทำให้เกิดองค์ความรู้รู้แบบใหม่ขึ้นอีก และความรู้นี้สามารถนำไปเป็นแนวการปฏิบัติต่อองค์การ และหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาคเอกชน หรือรัฐบาล
Inno-HR ในความต้องการของผมจะต้องประกอบไปด้วย
-Attitude inno-HR หมายความว่า ตน อันหมายถึงบุคคล หรือทรัพยากรบุคคล ต้องมีทัศนคติที่ดี ต่อ การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิด ขึ้นจากการเรียนรู้และการเปี่ยนแปลงจากการปฏิบัติ ตามแนวความคิดใหม่ๆ
-Creative inno-HR หมายความว่า บุคคลนั้นๆ นอกจากจะต้องเรียน inno-HR แล้ว ยังต้องสามารถ ต่อเติมองค์ความรู้ที่ตนได้เรียน ให้สามารถนำกลับไปใช้กับองด์การ ของตน หรือสามารถเป็นที่ปรึกษา และให้คำแนะนำต่อหน่วยงาน และผู้ใต้บังคับบัญชาได้ รวมถึงผู้ได้บังคับบัญชา ก็เช่นกัน หากว่าสามารถปฏิบัติได้เช่นนี้ ก็จะแสดงถึงว่าบุคคลผู้นั้นมีความเข้าใจในตัวตนเอง และตัวตนของบุคคลอื่น ดังพระราชาดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ว่า “เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา” นั้นเอง
A2
Project และ Action Plan นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องนำ inno-HR มาใช้ ให้เกิดขึ้นจริง ดังเช่นว่าการใช้ นำหลัก Customer Base inno-HR มาใช้เพื่อปรับปรุงด้านลูกค้า ซึ่งประกอบไปด้วย การพิจารณาเพื่อทำความเข้าใจในส่วนลึกของลูกค้า แต่ละกลุ่ม ผมหมายความว่าการใช้การจัดการทรัพยากรบุคคล แบบใหม่ น่าจะทำให้เจ้าหน้าที่ขององค์การ หรือหน่วยงาน นั้น ทั้งหมดเข้าใจ ในหน้าที่ของตนเองแบบใหม่ คือเติมใจในการให้บริการต่อผู้เข้ามารับบริการ และถ้าเกิดความสำเร็จขึ้น จะทำให้เกิดการเข้ามาใช้บริการนั้นๆ ซ้ำอีก นั้นก็หมายถึงรายได้ของหน่วยงานที่จะมากขึ้นอย่างแน่นอน ในทางตรงกันข้ามหากว่าหน่วยงาน นั้นๆ ยังคงใช้การจัดการบุคคลแบบเก่า ก็อาจจะทำให้หน่วยงานนั้น หายไปจากความต้องการขิงลูกค้าได้ เมื่อนำ Customer Base inno-HR เข้ามาใช้ในหน่วย เราก็อาจจะเริ่มต้นจากการร่างวัตถุประสงค์, กำหนดแนวทาง, ออกแบบแนวปฏิบัติ, ปฏิบัติตามแผน หรือที่ต่างชาติเรียกว่า Action Plan (ซึ่งก็ควรจะเป็น Action Plan ที่สามารถนำเราไปสู่การปกฺบัติได้จริง และที่สำคัญควรจะต้องสำเร็จ ด้วย) และการติดตามประเมินผลในท้ายที่สุด
A3
ในการนำ inno-HR ไปใช้เป็นแนวทางปฏิบัตินั้น เพื่อให้เกิดความสำเร็จ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ บุคคลจะต้องเข้าองค์ความรู้ของ inno-HR ให้ดีก่อน และการนำไปใช้นั้น จะต้องรู้การประยุกต์ใช้เพื่อให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม ต่างๆ ซึ่งผมได้เรียนท่านอาจารย์แต่ต้น เรื่อง Creative inno-HR หากว่าบุคคลนั้นเข้าใจและสามารถนำองค์ความรู้ของ inno-HR ไปใช้อย่างระมัดระวัง ก็เชื่อว่าจะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก อุปสรรคที่สำคัญนั้นผมยังมีความเชื่องอย่างมั่นคงว่า จะมาจากมนุษย์ด้วยกัน ที่มีอคติและไม่ยอมรับเหตุผล ของคนอื่นๆ อาทิเช่นว่า เจ้านายไม่เข้าใจ และไม่สนับสนุนให้ นำการเปี่ยนแปลงมาสู่หน่วยงานเป็นต้น ผมซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติก็ไม่สามารถจะทำให้เกิดผลสำเร็จได้ ครับ
A4
ผมมีความเห็นว่าการนำ inno-HR มาใช้ ในโครงการที่มีขนาดเล็กๆ ก่อนจะทำให้สามารถปฏิบัติได้ และที่สำคัญคือ ทำแล้วจะต้องประสบการความสำเร็จ เพื่อเป็นตัวอย่างต่อการพัฒนาของหน่วยงานอื่นๆ โครงการที่น่าจะเริ่มต้น ในความเห็นของผมจะเป็น โครงการขนาดเล็กๆ ของรัฐบาล อาทิ เช่น โครงดารเงินกองทุนหมู่บ้าน หรือโครงการ OTOP หรือโครงการ SML เป็นต้น อันเนื่องจากว่าโครงการเหล่านี้ มีขนาดเล็ก สามารถเข้าไปให้ความรู้ ในเรื่องการบริหารงานทรัพยากรมนุษย์ ในแบบ inno-HR ตามที่ได้เรียนให้ทราบแต่ ตอนต้น ผมยังเชื่อว่าความเป็นคนท้องถิ่นจะทำให้การพัฒนา และจัดการทรัพยากรแบบใหม่ จะประสบความสำเร็จได้โดยง่าย แต่เนื่องจากว่าในแต่ละท้องถิ่นนั้น มีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป จึงเป็นไปได้ว่า บางแห่งอาจจะประความสำเร็จ และบางแห่งอาจจะประสบกับความล้มเหลว ก็เป็นได้
“เนื่องจากเวลาจำกัด กระผมจะขอเรียนเสนอ แนวความคิดแบบใหม่ๆ ในโอกาสต่อๆ ไป ครับ”
นายศตนันท์ นิยมสันติสุข 491 498 0252 เด็ก ป.โท รามคนหนึ่ง สาขาการจัดการนวัตกรรม
Satanun๑vejthani.com
Satanun๑gmail.com
เนื่องจากเป็นการเรียนรู้ใหม่ในวัย 30 กว่าๆ คำตอบของผม ถ้ามีส่วนใดที่ผมคิดผิด หรือ มีคำคมใดๆที่บอกกล่าว ขอให้ Feedback ให้ทราบด้วยครับ เนื่องจากผมจะนำมาใช้ในที่ทำงาน และชีวิตส่วนตัวให้เกิด Innovation มาใช้ในงานปัจจุบัน ขอบพระคุณอย่างสูงครับ
Q. ทรัพยากรมนุษย์มีส่วนช่วยในการให้เกิด Innovation อย่างไร A. เนื่องจาก Innovation เป็นการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ หรือต่อยอดแนวคิดเดิมให้ฉีกออกไป out of box ดังนั้นจึงต้องให้ทรัพยากรมนุษย์รู้จักคิดให้เยอะๆ เพราะการคิดเยอะทำให้เราเกิดจินตนาการ แต่ต้องไม่ใช่คิดฟุ้งซ่านโดยขาดหลักความจริงที่สามารถเกิดขึ้นได้ หรือเพ้อฝัน ดังนั้นจึงต้องคิดอย่างมีระบบ และต้องเข้าใจถึงกระบวนการที่จะสามารถถ่ายทอดความคิดของเราออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรม ซึ่งอาจจะต้องมีเครื่องมือมาช่วยเพิ่มเติม เพื่อให้คนอื่นเห็น เช่น Technology / บุคคลที่สอนให้คิดอย่างเป็นระบบ ถ้าตอบกันเชิงวิชาการหน่อยก็คือ Learning Methodology เข้าใจวิธีการเรียนรู้ Environment สร้างบรรยากาศ Opportunities สร้างโอกาส Communities สร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ ในแง่คิดที่ขอเสนอให้แตกต่างคือ มนุษย์ต่างจากสัตว์โดยทั่วไป เนื่องจากคิดเป็น แต่สัตว์เป็นตามสัญชาติญาณ แต่เราเคยสังเกตหรือไม่ว่าภายใต้แรงกดดันสัตว์ก็จะมีอะไรให้เห็นแปลกๆ นั่นก็เรียก Innovation แต่เป็นของสัตว์ แต่มนุษย์ต้องทำโดยเป็นระบบ และผ่านการเรียนรู้ หรือ ต้องถูก pressure ตามสถานการณ์ หรือมี motivate ถึงจะเกิด Innovation ขึ้นได้
| Q. ทรัพยากรมนุษย์มีส่วนช่วยในการนำ Idea เพื่อให้เกิด project หรือ action อย่างไร A. รู้จักวิเคราะห์เชิงป้องกันประเมินสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ กำหนด Teamwork ที่เกี่ยวข้อง / หา Team support / Motivate และ รู้จัก Flexible ในการแก้ไขอุปสรรค โดยต้องกำหนดเงื่อนไขของเวลาที่ประสบความสำเร็จในแต่ละขั้นตอน |
Q. ทำอย่างไรที่จะให้โครงการประสบความสำเร็จ อุปสรรคของ HR ที่ทำให้ไม่สำเร็จมีอะไร A.อันดับแรกต้องมีความมุ่งมั่น กล้าเสี่ยง มีskill / knowledge / รู้จักเป็นนักแสวงหาโอกาสที่เหมาะสม รู้จัก Globalization ว่าปัจจุบันมันไปถึงไหนกันแล้ว และมี vision มุมมองที่แตกต่าง ในกรณีที่ไม่สามารถผลักดันความคิดตัวเองได้ก็ต้องอาศัยแนวร่วม หรือ Team building เพราะมันทำให้เราเปิดมุมมองได้กว้างขึ้น อุปสรรคของ Human Resource การที่ต้องทำงานกับ culture เก่าๆ กับคนหรือระบบที่ยึดติด / ความไม่มั่นใจไม่กล้าเสี่ยง เอาแต่กลัวว่าพลาดแล้วจะเกิดอะไรขึ้น อย่างนี้ Innovation ไม่ได้ผุดได้เกิดแน่ๆครับ และการทำตาม customer base คือไม่เสนอมุมมองอื่นให้ลูกค้าได้เห็น และในการที่ต้องเป็นลูกน้องที่ต้องทำตามเจ้านายตลอดแบบ command control โดยขาดการ Empowerment ของเจ้านาย | Q. เราจะนำความรู้เรื่อง HR ไปใช้ให้ได้ผลจริง หรือ นำโครงการที่เป็นรูปธรรมในเรื่องใด A. หลังจากที่คิดว่าตัวเองมีความรู้แน่นพอ และเข้าใจ Innovation อย่างแท้จริงสิ่งที่คิดว่าจะต้องทำก่อนคือ การพิจารณางานที่เราทำอย่างเชิงลึกมากขึ้น เนื่องจากผมทำงานโรงพยาบาลและเข้าใจว่ามาตรฐานของโรงพยาบาลต่างๆ ต่างกันมาก ในส่วนที่ผมรับผิดชอบในการรักษาก่อน คือ ต้องทำระบบการส่งภาพเอกซเรย์ให้เป็น digital file คือไม่ว่าจะไปเปิดดูภาพที่ไหนบ้านนอกหรือเมืองนอก ที่ไหนก้อจะเห็นภาพเหมือนกัน ลดกระบวนการซ้ำซ้อนไปได้เยอะมาก โดยอาศัย Technology / Internet / software ที่มีอยู่แล้ว ซึ่งจะช่วยให้การรักษาผู้ป่วยได้ดีขึ้น และลดช่องว่างของคนที่มีสิทธิเท่าเทียมกันในความเป็นมนุษย์ |
เรียน ศ.ดร. จิระ หงด์ลดารมภ์
สุดารัตน์ แซ่อึ้ง ระหัส 4914981115 นักศึกษาปริญญาโทหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาการจัดการนวัตกรรม ม.รามคำแหง
จากที่ได้รับควมรู้จากท่านอาจารย์เกี่ยวกับ การจัดการทรัพยากรมนุษย์ จึงมีความคิดเห็นเกี่ยวกับคำถามที่ได้รับดังนี้
1.ทรัพยากรมนุษย์มีส่วนช่วยในเรื่อง innovation อย่างไร
- ความคิดใหม่ๆจะเกิดขึ้นเมื่อ คนได้รับการส่งเสริมให้มีความรู้อย่างกว้างขวางรอบด้าน โดยต้องเป็นความรู้ที่รู้จริง มีเหตุมีผล มีการพัฒนาความรู้อย่างต่อเนื่อง และต้องสร้างให้รู้จักการวิเคราะห์ รู้คิด มีทัศนคติที่ดี มีวิสัยทัศน์ที่กว้าง มีความเข้าใจในการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่เกิดขึ้น
2.ทรัพยากรมนุษย์ช่วยทำให้เกิด project หรือ action plan อย่างไร
- การกำหนดแผนงาน หรือโครงการต่างๆ จะต้องมีการจัดระบบการทำงานที่เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน กำหนดช่วงเวลาทำงานและ หน้าที่ความรับผิดชอบในแต่ละขั้นตอน โดยระบุผู้รับผิดชอบ และทีมงาน ซึ่งทุกคนจะต้องมีภาวะผู้นำ มีความรับผิดชอบ มีความรู้ในงานที่ได้รับ สามารถทำงานเป็นทีมได้ และมีการสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องต่อกัน
3.ทำอย่างไรจึงจะทำให้โครงการเหล่านั้นประสบคามสำเร็จ
- ทุกคนมีความรับผิดชอบ มีทัศนคติที่ดีต่อการทำงานในหน้าที่
-มีความสารถนำความรู้มาประยุกต์ใช้ในงานได้อย่างถูกต้อง
- มีความสามัคคีกันในกลุ่ม รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น มีความสารถในการทำงานเป็นทีมได้ดี
- มีผู้นำทีมที่มีความสามารถ มีภาวะผู้นำสูง มีวิสัยทัศน์ที่ดี
-มีการติดตามงานตามกำหนดเวลา วิเคราะห์ประเมินผลงานเป็นระยะ
- เมื่อพบปัญหาต้องสามารถปรับกลยุทธในการปฏิบัติได้ทันที
อุปสรรคที่จะทำให้โครงการไม่สำเร็จ คือ
- ทีมงานขาดความรู้ ในงานที่รับผิดชอบ
-. เกิดความขัดแย้งในทีม
- ขาดระเบียบวินัยในการทำงาน
-ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ มักทำอะไรแบบเดิมๆ
-บางคนมีความเห็นแก่ตัว ไม่รู้จักการช่วยเพื่อร่วมทีม
- มีทัศนคติที่ไม่ดีต่องานในหน้าที่รับผิดชอบ
4. เมื่อเรียนแล้ว คิดจะทำโครงการอะไร
จากความรู้ที่ได้ในการศึกษานี้ จะนำความรู้ไปสร้าง โครงการเสริมสร้างมนุษย์เงินเดือนพันธุ์ใหม่ในองค์กร ซึ่งจะเน้นในเรื่ององค์ความรู้ และ จริยธรรม
ชื่อ ชมพูนุท ศิริกุล รหัสนักศึกษา 4914980128 มหาวิทยาลัยรามคำแหง Innovation รุ่นที่ 1
1. ทรัพยากรมนุษย์มีส่วนช่วยใน Innovation อย่างไรตอบ การดำเนินงานขององค์การภายใต้สภาพแวดล้อมทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในยุคโลกาภิวัฒน์ องค์การต่าง ๆ ทั้งภาครัฐบาล และภาคเอกชนต่างมุ่งหวังในการเพิ่มประสิทธิภาพประสิทธิผล และการได้เปรียบทางการแข่งขัน การบริหารจัดการองค์การให้ประสพความสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้จึงเป็นสิ่งที่ท้าทายผู้บริหารในการจัดการทรัพยากมนุษย์ภายในองค์การ การดำเนินงานในองค์การให้บรรลุผลสำเร็จนั้น มนุษย์เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการบริหารงาน และเป็นทรัพยากรที่มีค่ามีศักยภายในตนเอง สามารถพัฒนาตนเองและองค์การได้ เมื่อต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นส่งผลให้องค์การต้องปรับกลยุทธใหม่เน้นความคิดริเริ่มสร้างสรรค์การทำงานที่รวดเร็วมีคุณภาพ และมีกาคิดค้นผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาอยู่เสมอ เพื่อให้องค์การสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้
ดังนั้น องค์การต้องมีบุคลากรมีความรู้ มีความคิดสร้างสรรค์เพื่อนำไปสู่การสร้าง “นวัตกรรม” โดยเริ่มตั้งแต่การสรรหาและการคัดเลือกพนักงานตลอดจนการให้การฝึกอบรมพัฒนาความรู้อยู่เสมอ และที่สำคัญผู้บริหารระดับสูงต้องมีความมุ่งมั่นในการนำองค์การไปสู่การสร้างนวัตกรรมเพื่อให้องค์การสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้โดยการเปิดโอกาสให้ทุกคนในองค์การได้แสดงความคิดสร้างสรรค์และนำเสนอ Idea ได้อย่างอิรสระ
กล้าทดลอง กล้าตัดสินใจทำ “นวัตกรรม” คือ สิ่งใหม่ อาจจะเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น,หรือการต่อยอดจากผลงานการวิจัย โดยการใช้ความรู้และความคิดสร้างสรรค์เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์หรือบริการในรูปแบบ
ใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยยึดหลักการมีคุณธรรมและจริยธรรมด้วย และองค์การจะต้องมีเงินทุนสนับสนุนเพื่อกระตุ้นและผลักดันให้เกิดนวัตกรรมอย่างเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริงและต้องทำอย่างต่อเนื่อง2.ทรัพยากรมนุษย์ช่วยในการนำ Idea เพื่อทำให้เกิด Project หรือ Action Plan อย่างไรตอบ คือการนำความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ที่ได้รับจากการพัฒนาการฝึกอบรม,การดูงาน,การสังเกตุ,การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ที่ได้รับเพื่อสร้าง Project หรือ Action Plan ในการพัฒนาองค์การให้ประสบความสำเร็จ และสามารถในการแข่งขันกับตลาดโลกได้ ต้องมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์,พัฒนาต่อยอดความรู้อยู่เสมอ มีความกล้าคิด,กล้าตัดสินใจทำ กล้าที่จะล้มเหลว เพื่อความสำเร็จในวันข้างหน้า การทำงานนั้นต้องทำงานเป็นทีม มีอิสระทางความคิด เพื่อให้ได้มี Project ใหม่ ๆ เกิดขึ้นองค์การจะได้แข่งขันได้
3.ทำอย่างไรจึงจะทำให้โครงการเหล่านั้นประสพความสำเร็จ อุปสรรคในเรื่องทรัพยากรมนุษย์ที่ทำให้โครงการไม่ประสพความสำเร็จมีอะไรบ้างตอบ ทำอย่างไรจึงจะทำให้โครงการประสพความสำเร็จ
1.ผู้บริหารต้องส่งเสริมและให้การสนับสนุนอย่างจริงจัง ทั้งทางด้านเงินทุน,เวลา,รางวัลผลตอบแทน,การพัฒนาความรู้ให้แก่พนักงานอยู่เสมอ
2.ต้องมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่งานที่ได้รับมอบหมาย
3.ต้องทำงานเป็นทีมและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
4.หากการทำโครงการล้มเหลวผู้บริหารยอมรับความล้มเหลวนั้นโดยไม่ลงโทษพนักงาน
5.มีการกำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายของการทำโครงการร่วมกันเพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมและรับทราบแนวทางการปฏิบัติงานที่ถูกต้อง
อุปสรรค
1. ไม่ทราบวัตถุประสงค์และเป้าหมายของการทำโครงการเพื่ออะไร
2. องค์การไม่เห็นถึงความจำเป็นในการพัฒนาความรู้,ทักษะและเทคโนโลยีให้แก่พนักงาน ทำให้พนักงานขาดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ไม่มีความคิดแปลก ๆ ใหม่ ๆ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการในรูปแบบใหม่ ๆ
3.ขาดการสนับสนุนจากองค์การและผู้บริหารอย่างจริงจัง
4.องค์การขาดกลยุทธ์ในการบริหารการจัดการองค์การ
5.องค์การขาดการดูแลเอาใจใสความสุขกายสุใจ,ผลตอบแทนหรือรางวัล ที่ให้แก่พนักงาน
4. เราจะนำความรู้เรื่องทรัพยากรมนุษย์ไปใช้ให้ได้ผลจริง ๆ หรือทำโครงการที่เป็นรูปธรรมในเรื่องใดตอบ ดิฉันทำงานรับราชการกรมสรรพากร จะนำความรู้เรื่องการจัดการทรัพยากรมนุษย์ ไปใช้ในเรื่องของการประเมินผลการปฏิบัติงานผู้ใต้บังคับบัญชา โดยการนำเทคนิคและวิธีการตลอดจนเครื่องมือที่ใช้ในการวัดผลการปฏิบัติงานไปปรับใช้ในการประเมินผลการปฏิบัติงานเพื่อให้เกิดความเที่ยงธรรม,ความน่าเชื่อถือ,การยอมรับ
และแจ้งผลการปฏิบัติงานให้แก่ผู้บังคับบัญชารับทราบถึงข้อดี และจุดบกพร่องของผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อให้
สามารถปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้นเรียน ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์
ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ดิฉัน นางสาวกมลพรรณ อรรถกรปัญญา รหัสนักศึกษา ( 4914981427 ) รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้ารับฟังการบรรยายจากท่านอาจารย์ในหัวข้อเรื่อง " HR and Innovation " ซึ่งดิฉันขอเสนอแนวความคิดที่อาจารย์ได้ทำการตั้งคำถามให้กับนักศึกษา ซึ่งดิฉันเชื่อว่ามันเป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งของทางอาจารย์ที่จะให้นักศึกษาที่ได้รับฟังการบรรยายไปแล้วนั้น ได้กลับไปทบทวนสิ่งต่าง ๆ ที่ได้ฟัง เพื่อให้สมองได้เกิดการพุฒนาและเรียนรู้ ดังนั้นดิฉันจึงอยากจะขอแสดงความคิดเห็นใน 4 หัวข้อที่อาจารย์ได้ตั้งคำถามไว้1. ทรัพยากรมนุษย์มีส่วนช่วยใน Innovation อย่างไร
Innovation ในความหมายของดิฉัน คือ การนำสิ่งที่มีอยู่แล้วมาทำให้เกิดประโยชน์สูงขึ้น ซึ่งหากจะกล่าวในแง่ของธุรกิจแล้ว จะหมายถึง การลดต้นทุน หรือเพิ่มคุณค่าให้กับตัวของมันเอง ซึ่งดิฉันถือว่า "ทรัพยากรมนุษย์ " เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะทำให้ Innovation ดำเนินต่อไปได้ ยกตัวอย่างเช่น คนในองค์กรสามารถทำงานให้ได้มากขึ้นโดยใช้เวลาน้อยลง หรือ การลดปริมาณการใช้กระดาษโดยใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาเป็นตัวช่วย เป็นต้น ดังนั้นดิฉันจึงคิดว่า Innovation ที่เป็นระบบ จะเกิดได้ก็ต่อเมื่อ ทรัพยากรมนุษย์มีความคิดที่เป็นระบบระเบียบแบบแผน ซึ่ง ในที่นี้ ทรัพยากรมนุษย์ หมายถึง บุคคลทุกคนที่มีอยู่ในองค์กรนั้นๆ จะต้องมีความคิดที่จะพัฒนาองค์กรของตนให้ประสบความสำร็จ2.ทรัพยากรมนุษย์ช่วยในการนำ Innovation เพื่อทำให้เกิด Project หรือ Action Plan อย่างไรดิฉันมีความเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า บุคคลใดก็ตามที่มีความเชื่อมั่นว่าจะเขาจะสามารถชนะอุปสรรคที่จะเกิดขึ้นได้เสมอ บุคคลนั้นจะมีแรงผลักดันจากภายในสู่ภายนอก เป็นได้ทั้งฝ่ายรุกและฝ่ายรับ หรือ หากอยู่ในสถานการณ์ได้ไม่สู้ดีนักก็สามารถที่จะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส มองเห็นแสงสว่างในทางตัน ซึ่งหากองค์กรใดหรือหน่วยงานใด หรือประเทศชาติใด มีบุคลากรดังกล่าว เขาจะมีความมุ่งมั่นในการทำงาน มีการวางแผนการทำงาน
(Action Plan) ที่เป็นระบบ จึงจะสามารถนำ Innovation มาเป็นช่วยแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าได้ ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น การถือกำเนิดของอินเตอร์เน็ตปัจจุบัน เกิดขึ้นจากสภาวะความตึงเครียดของสงครามที่ขาดการติดต่อกัน ดังที่อาจารย์เคยกล่าวให้ฟังในการบรรยาย.....3. ทำอย่างไรจึงจะทำให้โครงการเหล่านี้ประสบความสำเร็จ อุปสรรคในเรื่องทรัพยากรมนุษย์ที่ทำให้โครงการไม่ประสบความสำเร็จมีอะไรบ้าง
ถ้าจะกล่าวว่าปัจจัยใดที่จะส่งผลให้โครงการต่าง ๆ ประสบความสำเร็จ ดิฉันก็ยังเชื่อว่า ความคิดที่เป็นแง่ลบของคน ( Negative Thinking ) เป็นปัจจัยหลักที่สำคัญที่จะทำให้การพัฒนาไม่สามารถเกิดขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ผู้บริหารที่มีความมุ่งมั่นที่จะแสวงหาผลกำไรที่เป็นตัวเงินเพียงอย่างเดียว นโยบายที่ออกมาก็จะไม่ค่อยคำนึงถึงพนักงาน ซึ่งค่อนข้างส่งผลเสียอย่างมาก ขอยก Case Study เรื่องหนึ่งให้ฟังนะคะ มันเป็นเรื่องของเพื่อนดิฉัน เขาทำงานอยู่บริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นการจ้างพนักงานแบบ Contractor คือจะมีอีกหนึ่งบริษัทเป็นตัวกลางในการจ่ายเงินเดือนให้ เขาทำงานนี่มาสักพัก หัวหน้างานบอกว่าถ้าทำครบ 1 ปี ก็ทำการบรรจุให้เป็นพนักงานประจำ แต่เมื่อครบกำหนด 1 ปี ขึ้นมา ทางบริษัทก็แจ้งว่าตอนนี้ทางผู้ใหญ่ของบริษัทยังไม่มีนโยบายในการบรรจุพนักงาน ทางเพื่อนดิฉันก็ถามว่าแล้วจะบรรจุเมื่อไหร่ ทางฝ่ายบุคคลแจ้งว่ายังไม่สามารถบอกได้ ทางเพื่อนดิฉันก็หางานใหม่เมื่อได้ก็มาทำเรื่องของลาออก ทางบริษัทบอกว่าจะทำการบรรจุเป็นพนักงานประจำให้ถ้าไม่ลาออก แต่สุดท้ายเพื่อนของดิฉันก็ลาออก พร้อมกับมีหนึ่งคำถามเกิดขึ้นว่า " ทำไมต้องให้ลาออกก่อนถึงจะบรรจุเป็นพนักงานให้" ดิฉันคิดว่าการที่บริษัททำการ Training การทำงานให้กับพนักงานมันเป็นค่าใช้จ่ายอย่างหนึ่ง ซึ่งต้องทั้งใช้เงินและเวลาจำนวนหนึ่ง ในการที่จะฝึกคนให้มีเชี่ยวชาญในวิชาชีพนั้น Innovation จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ถ้าคนไม่มีใจให้งาน การพัฒนาก็จะไม่เกิดขึ้น ดังนั้นคำขวัญที่ว่า " พัฒนาคน พัฒนางาน พัฒนาชาติ " ก็ยังน่าจะเข้าได้กับทุกยุคทุกสมัย ดังนั้นจึงพึงระลึกว่า คนเราคิดยังไงก็ได้อย่างนั้น คิดว่าทำไม่ได้ ก็ทำไม่ได้ตั้งแต่คิด คิดว่าแพ้ ก็แพ้ตั้งแต่คิด4. เราจะเอาความรู้เรื่องทรัพยากรมนุษย์ไปใช้ให้ได้ผลจริง ๆ หรือทำโครงการที่เป็นรูปธรรมในเรื่องใด
ดิฉันคิดว่า ดิฉันจะนำความรู้ที่จากการฟังบรรยายเรื่อง " HR and Innovation " ไปใช้ประโยชน์ในการดำเนินชีวิต ดิฉัน แต่ขออนุญาตยังไม่ขอพูดถึงเรื่องในอนาคตนะคะ อย่างน้อยที่สุดวันนี้ดิฉันได้แนะนำหัวหน้างานดิฉันของดิฉันให้มาเข้ามาเยี่ยมชม www.ChiraAcademy.com ของอาจารย์ ดิฉันคิดว่ามันก็ถือเป็น Innovation อย่างหนึ่งเลยนะคะ ที่ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นตัวถ่ายทอดแนวความคิดในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่เชื่อว่าอาจารย์ก็ตั้งใจจะถ่ายทอดความรู้ที่อาจารย์มีให้กับสาธารณะชนได้รับทราบ เพราะวันนี้หัวหน้างานดิฉันก็ได้เข้าไปอ่าน ดิฉันถือว่ามันเป็นโอกาสให้เกิดการเรียนรู้จากอาณาจักรแห่งการเรียนรู้