แม่


ข้าพเจ้าอดจินตนาการไปถึงความคิดของท่าน ที่อาจจะเห็นว่าเงิน 4-5 ล้านบาทมีความสำคัญต่อความเป็นอยู่ของลูกหลานมากกว่าชีวิตที่เหลือของท่าน

ค่ำคืนนี้ ขอเล่าเรื่องที่สะเทือนจิตใจ จากการรับฟังคำบอกเล่าของเพื่อนรักเก่าแก่คนหนึ่งที่รู้จักเมื่อครั้งไปรับราชการที่จังหวัดอ่างทอง ถึงเหตุการณ์ของพี่ที่เคารพรักคนหนึ่งว่า แม่ของพี่ท่านนี้ได้กระทำอัตวิบากกรรมโดยการผูกคอตายที่บ้านของตนเอง ด้วยวัยเพียง 71 ปี สอบถามถึงสาเหตุในการตัดสินใจ ไม่มีใครรู้  ข้าพเจ้าจึงถามว่าท่านมีโรคประจำตัวหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่า มีโรคเบาหวาน แต่ก็ได้รับการรักษาอย่างเป็นประจำและต่อเนื่อง ซึ่งไม่น่าจะเป็นต้นเหตุสำคัญของการตัดสินใจ  ท่ามกลางความสงสัยของบรรดาญาติสนิท และบางคนต้องการพิสูจน์ลายนิ้วมือ เนื่องจากครอบครัวนี้ก็มีฐานะดี มีกิจการน้ำดื่มบรรจุขวดภายในบ้าน

                ผ่านพ้นไปหนึ่งวัน  พิธีการต่างๆถูกดำเนินการไปตามขนบธรรมเนียมประเพณี ข้าพเจ้าได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่า ลูกๆและพ่อ ค้นพบว่ามีเงินที่แม่ท่านนี้แอบเก็บไว้ที่หัวเตียงนอนประมาณ หนึ่งแสนกว่าบาท เป็นจำนวนเงินที่สามารถจัดงานศพได้ในระดับหนึ่ง  และลูกๆได้ทราบจากปากคนข้างบ้านที่พูดคุยกับแม่ท่านนี้ว่า คุณหมอนัดให้ไปพบอีกครั้งในวันที่ 18 สิงหาคม นี้ โดยที่ครั้งล่าสุดที่ได้คุยกับหมอว่าท่านมีทีท่าว่าจะเป็นโรคไต ซึ่งท่านก็ได้ข้อมูลมาว่าการรักษามีค่าใช้จ่ายสูงมาก ประมาณ 4-5 ล้าน พอข้าพเจ้าได้ฟังดังนั้น ก็อึ้งไปพักหนึ่ง เป็นอีกครั้งที่ข้าพเจ้าได้ยินเรื่องพวกนี้ซ้ำซากจากเรื่องเล่าของใครต่อใคร แต่ครั้งนี้คืบคลานเข้ามาใกล้ถึงแม่ของเพื่อน 

               ข้าพเจ้าอดจินตนาการไปถึงความคิดของท่าน ที่อาจจะเห็นว่าเงิน 4-5 ล้านบาทมีความสำคัญต่อความเป็นอยู่ของลูกหลานมากกว่าชีวิตที่เหลือของท่าน

               ความเคียดแค้นเข้ามารุกรานจิตใจของข้าพเจ้าอีกครั้ง ไม่รู้เหมือนกันว่าเคียดแค้นใคร ได้แต่สวดมนต์ภาวนาให้เรื่องราวเช่นนี้อย่าได้เกิดขึ้นอีกเลยไม่ว่ากับใครทั้งสิ้น ความสูญเสียที่ประมาณค่ามิได้เหล่านี้ หากเทคโนโลยีในบ้านเรามีความทันสมัยและราคาถูกลง เยาวชนมีโอกาสเรียนด้านการแพทย์ก้าวไกลขึ้น  เรียนการผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย  คุณภาพชีวิตของคนไทยจะดีขึ้นสักเพียงไหน สวัสดิการการเข้าถึงด้านการรักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้นจากรัฐบาล  ขวัญและกำลังของคนในครอบครัวที่เพิ่มขึ้นจนไม่อาจตีราคาเป็นเงินจำนวนมหาศาล

                ข้าพเจ้าเขียนเรื่องนี้ ไม่ได้ต้องการให้ใครก็ตามนำไปเป็นแบบอย่างการตัดสินใจ ขอร้องเถอะค่ะ  ใครก็ตามที่กำลังประสบปัญหาและกำลังคิดเช่นนี้ ขอให้เปลี่ยนความคิดใหม่ และที่สำคัญขอให้ใครก็ตามที่มีอำนาจและพลังเพียงพอช่วยเปลี่ยนแปลงอะไรก็ได้สักอย่างเพื่ออนาคต ดิฉันเชื่อว่าไม่มีใครอยากฟังเรื่องราวเช่นนี้จากคนที่เป็นแม่หรือเป็นใครในโลกนี้ทั้งสิ้นไม่ว่าจะอีกสักเพียงหนึ่งคน  ช่วยกันนะคะ.....

หมายเลขบันทึก: 452629เขียนเมื่อ 5 สิงหาคม 2011 23:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 20:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สวัสดีค่ะคุณ'วิริศิรินทร์'

อ่านแล้วเศร้ามากๆ...ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้ที่สูญเสียคุณแม่ไปด้วยนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท