หลังจากเก็บเกี่ยวเรียวรวงข้าวในแปลงนา
เกษตรกรจะนำข้าวที่ได้มามัดฟ่อน หอบ หาบ เข้าไปเก็บหรือตากไว้ในลาน
เพื่อรอกระบวนการนวดเพื่อเอาเมล็ด บ้างก็ใช้มือใช้เท้า
บ้างก็ใช้วัวควายช่วยนวดย่ำวนรอบบนลาน เพื่อนบ้านใกล้เคียงก็จะออกมาช่วยกัน คราด
เก็บ ฝัด เศษของตอซังฟางข้าวที่ตกค้างในลานจนเหลือแต่เพียงเมล็ดเหลืองอร่ามเพียงอย่างเดียว
จึงนำไปสีไปฝัดให้สะอาดก่อนนำไปเก็บในยุ้งฉางและคัดแบ่งไว้ส่วนหนึ่งเตรียมเป็นเมล็ดพันธุ์ไว้เพาะปลูกในฤดูถัดไป
ในฤดูกาลแบบนี้เกษตรกรในอดีตจะถือว่าเป็นช่วงระยะเวลาที่พักผ่อน
หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยกับกิจกรรมทำนามาเป็นเวลานาน เมื่อว่างเว้นจากการทำนาจึงมีเวลากัดปลาตีไก่ตามอัธยาศัยของวิถีชีวิตชนบทไทย
ซึ่งทำให้เกิดความสนิทสนมกลมเกลียว มีชุมชนที่เข้มแข็งกว่าสังคมปัจจุบัน
ยามว่างเว้นก็ปล่อยให้ตอซังฟางข้าวผุพังเน่าเปื่อยไปตามกาลเวลา
จนกว่าจะถึงฤดูกาลทำนารอบต่อไป
แต่เกษตรกรหรือชาวนายุคปัจจุบันไม่ได้ทำเช่นดังแต่เก่าก่อน
เก็บเกี่ยวเสร็จก็รีบเร่งเผาตอซัง พังเขื่อนระบายน้ำเข้านาเตรียมไถย่ำทำเทือก ให้พร้อมต่อการไถหว่านในรอบต่อไป
สังคมจึงมีแต่ความรีบเร่ง
อินทรียวัตถุในดินไม่มีเวลาพักตัวย่อยสลาย จุลินทรีย์ไม่มีเวลาสร้างกิจกรรม
ดินตายแน่นแข็ง ปลูกข้าวก็ต้องใช้ปุ๋ยเยอะ เพราะโครงสร้างดินขาดการปรับปรุง
ดูแลอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ถ้าเกษตรกรท่านใดต้องพบเจอกับสถานการณ์เช่นนี้สามารถปรับปรุงแก้ไขได้ด้วยการใช้
“ซีโอ-พูมิชซัลเฟอร์” ซึ่งเป็นกลุ่มของหินแร่ภูเขาไฟเกรดพรีเมี่ยม
มีซิลิก้าช่วยทำให้ต้นข้าวแข็งแกร่งใบตั้งชูสู้แสง มีค่า ซี.อี.ซี. (Cation Exchange Capacity) สูง ช่วยจับสารพิษในดิน
(ยาคุมและฆ่าหญ้า) มิให้ทำอันตรายหรือเกิดผลข้างเคียงต่อต้นข้าว และยังช่วยจับตรึงปุ๋ยให้กลายเป็นปุ๋ยละลายช้าได้อย่างดีเยี่ยม
อีกทั้งมีธาตุอาหารหลักอยู่อีกหนึ่งตัว คือ ฟอสฟอรัส
ช่วยเพิ่มรากให้ยาวหาอาหารได้มากขึ้น มีธาตุรอง แคลเซียม แมกนีเซียม และกำมะถัน
รวมทั้งจุลธาตุอย่างเช่นเหล็ก ทองแดง แมงกานีส สังกะสี โบรอน โมลิบดินัม ฯลฯ
ช่วยให้ข้าวได้รับธาตุอาหารอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยทดแทนจากสารอาหารที่ถูกเผาไปกับตอซังฟางข้าว
ทดแทนจากพฤติกรรมการทำนาที่ไม่ได้หยุดหย่อน ไม่มีเวลาพักดิน
มนตรี บุญจรัส
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ
www.thaigreenagro.com
ไม่มีความเห็น