0 อินเดีย-เนปาล: วันเดินทาง


0 อินเดีย: วันเดินทาง

เดินทางกลับจากจังหวัดอุบล แม่ได้เตรียมอาหารไว้รอนั่งทานข้าวกับแม่จนดึกพอควร แต่ข้าพเจ้าก็นั่งจัดกระเป๋าเตรียมเดินทางไปอินเดียการเดินทางรอบนี้ไปหลายวันมากข้าพเจ้าเตรียมเสื้อผ้าประมาณสิบกว่าชุดได้กระเป๋าใบโตพอสมควร ก็ได้พิจารณาว่าเรานำไปเยอะเกินไปไหม ความพอดีพอเพียงอยู่ตรงไหน ความหวาดกลัวทำให้เรากังวลใจพิจารณาเช่นนี้กลับไปกลับมาอยู่หลายรอบจนเช้า จึงตัดสินใจเปลี่ยนกระเป๋าใหม่แยกเป็นเป้ใบใหญ่หนึ่งใบ และกระเป๋าลากใบเล็กหนึ่งใบเสื้อผ้าที่เกินพอดีนำออก จัดเก็บเฉพาะที่จำเป็นนำติดตัวไปด้วย

พี่เล็กคนขับรถมารับตรงเวลาข้าพเจ้่าตั้งใจจะเข้าไปกราบลาหลวงปู่ท่านก่อน จึงนัดพี่เล็กมารับเช้าหน่อยจากนั้นข้าพเจ้าและหมออ้อพร้อมพี่เติ้ลก็เข้าไปกราบหลวงปู่ ด้วยความเมตตาพ่อน้อยจัดข้าวก้นบาตรหลวงปู่ใหเราทานก่อน โอกาสของการได้กราบลาและฟังเทศน์หลวงปู่ก่อนเดินทางไกลนี่ถือว่าเป็นบารมีที่ยิ่งใหญ่(กำลังใจ)

หลวงปู่ให้พ่อน้อยไปตามลูกเณรและเณรโบโซ่มานั่งพร้อมหน้าอย่างพร้อมเพียง หลวงปู่ให้ลูกเณรให้พรกับแม่ๆ ทั้งสามคนแม่่เติ้ล แม่อ้อ แม่กะปุ๋ม

การเดินทางครั้งนี้หลวงปู่ให้ไปเรียนรู้สังเวชนียสถานทั้งสี่แห่ง ที่สำคัญคือการไปสักการะพระพุทธเมตตา ท่านเมตตาให้โอวาทเล่าเรื่องราวและเน้นให้เราสัมผัสพร้อมจับความรู้สึก ณ ขณะที่ปฏิบัติบูชาที่นั่น ข้าพเจ้ายังชอบในบทธรรมที่ท่านเอ่ยถึงเรื่องวัดว่า "ดูวัดนั้นให้ดูฐาน ดูสมภารให้ดูเณร"

นอกจากนี้ท่านยังเมตตาให้ดูแลตัวเองพร้อมทั้งให้ระวังเรื่องหอยทากกัด
ความรู้สึกของการที่ได้กราบนมัสการหลวงปู่ก่อนออกเดินทางไปแสวงบุญและไปปฏิบัติบูชาเป็นอะไรที่ให้ความรู้สึกที่เต็มตื้นเต็มอิ่มอย่างมาก

หลวงปู่เมตตาให้ออกเดินทางเมื่อเวลาประมาณสิบโมง พี่เติ้ลชวนเดินทางผ่านมาทางบุรีรัมย์ระหว่างทางเราแวะกราบสักการะสรีรสังขารของหลวงปู่จันทร์แรมที่วัดเกาะแก้วซึ่งตั้งอยู่ก่อนถึงตัวเมืองบุรีรัมย์ประมาณสามสิบกว่ากิโลเมตร หน้าวัดจะมีรูปปั้นช้างใหญ่ยืนตระหง่านบริเวณภายในวัดร่มรื่น เมื่อรถวิ่งผ่านนกยูงรำแพนทักทายด้วยภาษากาย ไก่ต๊อกสองสามตัวเดินไปมาผ่านหน้าอย่างคุ้นเคยกับคน หมูป่าตัวใหญ่ยืนขวางหน้ารถสักพักก็เดินผ่านไปให้รถวิ่งทุกอย่างคือการเกื้อกูลและสัมพันธ์

ไม่ถึงสิบนาทีเราก็มาถึงบุรีรัมย์

ร้านอาอี๊ขายเครื่องสังฆภัณฑ์ท่าทางใจดีที่นี่เราได้ทั้งแผ่นทอง กล่องแก้วสำหรับบรรจุโมเดลฟันหลวงปู่ ที่สำคัญเราได้แลกแบงค์ยี่สิบมากันคนละหลายร้อยบาท ระแวกแถวนี้เป็นย่านขายของสังฆภัณฑ์และเป็นย่านเมืองเก่าของบุรีรัมย์พี่เติ้ลพาเดินไปทานบะหมี่ร้านอร่อยเสร็จเหนียวนุ่ม ไฮไลท์อยู่ที่หมูหมักเสียดายว่าข้าพเจ้านั้นไม่ทานหมูจึงไม่ได้ลิ้มรสอร่อย เพียงแค่ทานเส้นก็ถือว่าลิ้มรสอาหารขึ้นชื่อนี้แล้ว

ไปแวะที่บ้านพี่เติ้ลกราบคุณแม่ ท่านเป็นหญิงวัยชราที่เปี่ยมเมตตาธรรมที่บ้านหลังนี้เปรียบเสมือนสถานสงเคราะห์ผู้คน ทำให้นึกถึงคุณแม่การเดินทางรอบนี้คุณแม่ข้าพเจ้าท่านเย็บผ้าขาวให้คนละผืนและยังเผื่อแผ่ให้กับเพื่อนๆข้าพเจ้าคนละผืนด้วยเช่นกัน เมื่อเช้าก่อนออกจากบ้านคุณแม่เข้ามาสวมกอดและให้ปัจจัยถวายท่านต้อ และร่วมสมทบในการเดินทางครั้งนี้ด้วย

เราออกจากบุรีรัมย์ก็บ่ายมากแล้ว ถึงกรุงเทพน่าจะไม่ดึกที่เลือกนั่งรถมาเพราะกะว่าจะเก็บเกี่ยวรายละเอียดและสะดวกต่อการไปนั่นมานี่ ที่สำคัญมีรถใช้อุปฐากพระอาจารย์ท่านด้วย อากาศระหว่างทางมืดครึ้มไม่มีแดดและทำให้การเดินทางไม่ร้อนแต่ที่อินเดียนี่สิเมื่อหลายวันก่อน search ข้อมูลดูพบว่าอุณภูมิตั้ง 40 องศาเซลเซียสเดี่๋ยวพรุ่งนี้ก็คงจะทราบล่ะนะว่าเมื่อไปถึงแล้วอุณภูมิจะเท่าไร แต่อย่างน้อยในการเดินทางครั้งนี้เราก็เตรียมเสื้อผ้าสบายๆ เสื้อยืดและผ้าฝ้าย รองเท้าแตะเพราะที่เท้ามีแผลทั้งสองข้างเกิดทุกขเวทนาทางกายพอสมควรแต่ที่ใจก็ไม่ได้รับผลกระทบเท่าไรนัก

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งของการเดินทางอันยาวนานอันสืบเนื่องจากที่เรามีกิจกรรมหลายอย่าง แม้ระยะทางคลาดเคลื่อนไปบ้างเวลาเลื่อนไปพอสมควรแต่รายทางของชีวิตยังคงมีเต็มเปี่ยม

...

๒๓ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๔

 

หมายเลขบันทึก: 447187เขียนเมื่อ 4 กรกฎาคม 2011 04:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

อาจารย์หายไปนานมากครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท