อยุธยา “มหานครแห่งการเรียนรู้”
ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ปรากฏการณ์พฤติกรรมของมนุษย์ ปรากฎการณ์ทางสังคม ย่อมทิ้งร่องรอยข้อชวนคิด ข้อสงสัยให้ได้หาคำตอบ ยิ่งกาลเวลาผ่านไปนานเข้าความชวนสงสัยยิ่งมีมากขึ้น ยิ่งเราไม่มีโอกาสร่วมสมัย ยิ่งมีอะไรที่เราต้องการคำตอบมีมากมาย
“อยุธยา” เป็นคำที่ใช้เรียกชื่อเมืองหลวงในอดีตของไทย และอีนัยหนึ่งเป็นการเรียกชื่อของจังหวัดหนึ่งอย่างสั้น ๆ คือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยุธยา ที่จะเขียนต่อไปนี้จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเมืองหลวงเก่า และเกี่ยวข้องกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นที่ตั้งของ เมืองหลวงเก่า กรุงศรีอยุธยา
สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ปฐมกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา และพระเจ้าเอกทัศน์ หรือพระที่นั่งสุริยาสอมรินทร์หรือขุนหลวงขี้เรื้อน ปัจฉิมกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา เดี๋ยวนี้ถ้าถามเด็กว่ากษัตริย์องค์แรกและองค์สุดท้ายของกรุงศรีอยุธยา ทรงพระนามอะไร เด็กตอบไม่ได้ เป็นสิ่งที่น่าคิด
ภาพจำลองพระราชวังหลวงอยุธยา
พระบรมราชานุสาวรีย์
สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1
รวมเวลาแห่งราชอาณาจักรกรุงศรีอยุธยา จากปี พ.ศ. 1893 – พ.ศ. 2310 เป็นเวลา 417 ปี มีพระมหากษัตริย์ 5 ราชวงศ์ 34 พระองค์ เพิ่มมาอีก 1 พระองค์ได้อย่างไร ที่เพิ่มก็คือ ขุนวรวงษาธิราช อย่างไรก็ต้องนับพระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ด้วย เวลา 417 ปี นับว่าเป็นเวลาที่ยาวนาน มีเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย มีทั้งยุคที่วุ่นวานทั้งศึกภายใน ศึกภายนอก ยุคที่เจริญรุ่งเรือง ไม่ว่าจะเป็นยุคไหน สมัยไหน เหตุการณ์ที่ผ่านมาย่อมมีสิ่งอะไรที่แอบซ่อนให้เราได้ศึกษาเป็นอย่างมาก ทุกตารางนิ้วของอยุธยา ไม่ว่าจะไปทางไหน มองลงไปมีสิ่งที่จะให้เราได้ศึกษาได้ทั้งนั้น
วัดพุทไธสวรรค์ สร้างบริเวณที่สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ตำหนักพระพุทธโฆษาจารย์วัดพุทไธสวรรค์ ตั้งบ้านเมือง ก่อนที่จะข้ามไปสถาปนากรุงศรีอยุธยา
ศึกษาอะไรจากอยุธยา
อยุธยามีอะไรให้ศึกษามากมาย
- แม่น้ำ คลอง อยุธยาได้ชื่อว่าเป็นเวนิช ตะวันออก ตัวเมืองอยุธยาเป็นเกาะมีแม่น้ำล้อมรอบ ภายในเมืองมีคลองหลายคลอง ตัดตามแนวเหนือ ใต้ ซึ่งปัจจุบันคลองโดนถมไปหมดแล้ว คลองต่าง ๆ นั้น อยู่ตรงไหนบ้าง
แผนที่กรุงศรีอยุธยาสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
วาดโดย อแลง มาเลต์ จะเห็นว่ามีคลองหลายคลอง
- ชนชาติต่าง ๆ ในอยุธยา ลาลูแบร์ ทูตฝรั่งเศสที่เข้ามาในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ บอกว่ามีชนชาติต่าง ๆอยู่ในอยุธยาถึง 40 ชนชาติ เราลองศึกษาดูซิว่ามีชนชาติใดบ้าง แล้วเขาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ไหน
- ย่านตลาดการค้า อยุธยามีทั้งตลาดบกและตลาดน้ำ ในอยุธยาจะเรียกตลาดว่า ป่าหรือย่าน จะตั้งชื่อตลาดตามชื่อขายสินค้า เช่า ป่าตะกั่ว จะขายลูกแหที่ทำด้วยตะกั่ว และเครื่องตะกั่ว ป่ามะพร้าว ก็ขายมะพร้าว ป่าตอง ก็ขาย กล้วย ใบตอง ป่าผ้าเหลือง ก็ขายผ้าไตร จีวร ตลาดแต่ละแห่งตั้งอยู่ที่ไหนบ้างในปัจจุบัน
- โบราณสถาน โบราณวัตถุ บางแห่งก็ไม่สามารถที่จะยืนยันได้ว่าสร้างในสมัยใด ต้องดูสิ่งก่อสร้าง สิ่งแวดล้อมอื่น
- วัฒนธรรม ประเพณี ศิลปะแขนงต่าง ๆ
- การเมืองการปกครอง
จากสิ่งที่ยกมาเป็นตัวอย่างนี้ จะเห็นว่าการศึกษาอยุธยา มี 3 รูปแบบ ได้แก่
อยุธยา มีอะไรให้ศึกษามากมาย และควรจะได้ศึกษา ลองเปรียบเทียบอยุธยากับกรุงเทพฯ จะมีอะไรที่เหมือน ๆ กัน ในด้านแนวการสร้างเมือง สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ การตั้งชื่อสถานที่ และที่สำคัญ “อดีตย่อมเป็นกระจกส่องให้เห็นปัจจุบัน”
วัดพระศรีสรรเพชญ์กับ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
เจดีย์และมณฑป วัดพระศรีสรรเพชญ์กับวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
พระที่นั่งสรรเพชญ์ปราสาทกับพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ติดริมน้ำเจ้าพระยา
พระราชวังกรุงศรีอยุธยาก็ตั้งอยู่ติดริมน้ำลพบุรี
ถ้าสนใจต้องการที่จะไปศึกษาอยุธยาถึงแหล่งเรียนรู้ยินดีให้ข้อมูล ประสานงาน จัดตารางการท่องเที่ยว การนำชม ติดต่อ [email protected] ในฐานะครูอยุธยา ยินดีรับใช้
สวัสดีค่ะ'ครูสายันต์'
แวะมาอ่านมาชื่นชมประวัติศาสตร์และความสวยงามของ'อยุธยา'ค่ะ
ไปชมกี่ครั้งก็มีความสวยงามประทับใจ...
แต่สถานที่สำคัญๆหลายๆแห่งมีร้านขายของ,ร้านขายอาหาร มากมายเกินความจำเป็น
ถ้าจัดรูปแบบและจำนวนร้านค้าต่างๆให้เข้ากับบรรยากาศของสถานที่น่าจะดูสวยงามมากขึ้นนะคะ...
ขอบคุณมากครับที่ได้เข้ามาเยี่ยมชม ครับสภาพที่อาจารย์เห็นหลายคนก็ไม่อยากจะให้เกิดขึ้นครับ ซึ่งสาเหตุแรก ในพื้นที่มีหลายเจ้าของ เช่น กรมศิลปากร กรมศาสนา ราชพัสดุ เทศบาล ทุกฝ่ายทำงานไม่ประสานกัน ไม่เห็นประโยชน์ส่วนรวม ทุกฝ่ายหาประโยชน์โดยไม่คำนึงถึงผผลกระทบที่ตามมาครับ มีอีกหลายที่ไม่ห้ามแต่แรก เมื่อก่อนนี่ขายเฉาพะ เสาร์ อาทิตย์ ไม่กี่ร้าน เมื่อขายเสร็จขนของกลับ แต่ปัจจุบันนี้ขายทุกวัน ทำร้านถาวร มีร้านเพิ่มขึ้น อย่างนี้ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่มีส่วนเห็นด้วยจะทำได้ไหม และหลายที่ก็จะเริ่มมีร้านค้าขึ้นเรื่อย ๆ พอไล่ก็ไม่ยอมกันแล้ว ประเด็นต่อมาความเห็นแก่ตัวของร้านค้า ประเด็นที่สำคัญ วัดเองสร้างสิ่งปลูกสร้าง (เต็นท์) บังโบราณสถาน เพื่อใช้เป็นที่จำหน่ายดอกไม้ ธูป เทียน ตู้บริจาค บางวัดไปทางไหน ไม่รู้จะไหว้อะไรเลย มีทั่วไปหมด รวมทั้งตู้บริจาค ไม่มีใครห้ามได้ ยิ่งนักการเมืองท้องถิ่นไม่ค่อยกล้าไปแตะต้องเพราะกลัวเสียคะแนนเสียง ก็เลยต้องปล่อยไป ความเป็นระเบียบเรียบร้อยไม่มี สู้จังหวัดสุพรรณไม่ได้ครับ มีคนใหญ่คนเดียวเป็นศูนย์รวม ทุกคนทำตามแนวเดียวกัน พูดไปก็เอาจังหวัดตัวเองมาให้คนอื่นเขารู้ ถ้าไปเที่ยวอยุธยาบอกนะครับ จะพาเที่ยวให้ครับ
ครูสายันต์ครับ
ติดต่อผ่านโทรศัพท์บ้างเเล้ว
ผมจะเดินทางไปในวันที่ 18 เย็น พักที่อยุธยาบุรีเทวีครับ ช่วงกลางคืนที่อยุธยา เเละเช้าในวันรุ่ง...ผมจะขอ ครูสายันต์ เป็นไกด์ให้ผมนะครับ ส่วนตาราง ทัวร์จะขอให้ครูช่วยดูให้ว่ากลางคืนจะไปที่ไหน อย่างไร
ผมมีเพื่อน๑ คน พร้อมลูกๆอีก ๒ ครับ รวม 4 คน
สวัสดีครับ คุณเอก
ยินดีต้อนรับด้วยความเต็มใจครับ น้องที่มานั้นอายุเท่าไรครับ คงต้องเดินมากหน่อยครับ
วันที่ 18 เมษายน 2554 เข้าที่พัก รับประทานอาหาร แล้วออกเดินทาง
18.00 น. วัดพระศรีสรรเพชญ์ เป็นวัดในพระราชวังหลวงกรุงศรีอยุธยา เหมือนวัดพระศรีรัตนศาสดราม
19.30 น. วัดไชยวัฒนาราม อยู่นอกเกาะเมืองสร้างในสมัยพระเจ้าปราสาททอง
20.00 น. วัดท่าการ้องยามค่ำคืน
วันที่ 19 เมษายน 2554 ก็น่าจะคุยกันว่าจะไปเที่ยวที่ใด แต่ผมคิดว่าจะพาไปสถานที่ ๆ อยู่นอกเมือง ที่คนไม่ค่อยไปกัน แต่มีความสำคัญ ส่วนวัดในเมืองนั้นมาเที่ยวกันเองมาได้ก็มาได้ ผมจะไม่พาไป หรือแล้วแต่ว่าจะไปวัดใดก็จพาไป
เด็กๆ เป็นวัยที่เดินเก่งครับ
เด็กชาย ๒ คน / วัย ๑๐ เเละ ๑๓ ครับ พี่ๆ ลุงๆน่าจะเดิน วิ่ง ตามเด็กๆครับผม