หมายเหตุชีวิตตอนที่3 พี่สาวและพี่ชาย


          ผมเป็นลูกคนสุดท้องจาก พี่น้อง 3 คน พี่คนโตเป็นพี่สาว คนที่สองเป็นผู้ชาย และก็ผมคนสุดท้อง
พี่ชายผมอายุห่างจากพี่สาว 13 เดือน และผมอายุน้องกว่าพี่ชาย 10 เดือน โหย... คุณแม่ท่านเก่งมาเลยครับ แต่หากสมัยนี้อาจโดนคุณหมอบ่นนึดๆว่าทำไม่มีถี่จัง แต่แม่ผมบอกว่าไม่มีความรู้เลย เลยปล่อยเลย ผมคลอดก่อนกำหนด จึงห่างจากพี่ชายแค่ 10 เดือน
          พี่สาวและพี่ชายผมทั้งคู่เป็นคนขยันครับ หัวดี เรียนเก่งทั้งคู่ ผิดกับผมที่พ่อและแม่มักจะว่าผม หัวดีแต่ขี้เกียจ
          พี่สาวและพี่ชาย มักจะสอบได้ที่ 1 หรือไม่ก็เกือบที่ 1 ตั้งแต่ประถม จนมัธยมอยู่ห้องเก่งตลอด
         เราสามคนเรียนประถมที่เดียวกัน กลับบ้านพร้อมกัน จนขึ้นมัธยม พี่สาวผมสอบเข้าได้โรงเรียนหญิงประจำจังหวัด อยู่ห้องคิงส์(ห้องรวมเด็กเก่งสุดของชั้น)ตลอด จบมัธยมต้นก็สอบเข้าโรงเรียนประจำจังหวัด ซึ่งเป็นค่านิยม เพราะมีผลงานการสอบติดโควต้ามหาลัยเชียงใหม่และส่วนกลางมากที่สุด ( เพราะท่านเอาแต่เด็กเก่งๆของม.ต้นที่อื่นๆมาเกือบหมด ) และพี่สาวก็สอบได้และอยู่ห้องคิงส์ตามระเบียบ วิชาที่พี่สาวผมอ่อนสุด ตามสไตล์เด็กเก่งทั่วๆไป คือ พละครับ เธอไม่เก่งกีฬาอะไรเลย พอจะสอบเข้าเรียนต่อมหาลัยระบบโควต้าม.เชียงใหม่ พี่สาวผมเลือก คณะแพทย์อันดับ 1 คณะเภสัชอันดับ 2 และคณะวิทยาศาสตร์อันดับสุดท้าย แต่ต้องพลิกโผ เมื่อพี่สาวผมหลุดทั้ง 2 อันดับ มาติดอันดับ 3 ( ตอนประกาศผลสอบ รุ่นพี่ที่เชียงใหม่จะแฟกซ์ผลการสอบมาที่โรงเรียน และประชาสัมพันธ์จะประกาศออกเสียงตามสาย บรรยากาศเราจะเห็นรุ่นพี่นั่งอยู่บริเวณลานสัก(ต้นสัก..ซึ่งเป็นต้นไม่ประจำโรงเรียน และมีอยู่ทั่วไปในโรงเรียน) รอฟังผล เมื่อประกาศคณะแพทย์แล้วไม่มีชื่อพี่สาวผม เธอเริ่มหน้าไม่ดี เพื่อนๆบางคนติดแพทย์ไปแล้ว 5 คน คนที่ติดจะดีใจมาก กระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข พอประกาศคณะเภสัช ไม่มีชื่อพี่สาวผมเท่านั้นแหละ เธอร้องให้กอดเพื่อนที่ยังไม่มีชื่อประกาศเลยครับ แต่พอประกาศคณะวิทยาศาสตร์ มีชื่อเธอ....รอยยิ้มก็เกิด บรรยากาศแบบนี้หายากมากในปัจจุบัน ผมไม่รู้เหมือนกันว่ารุ่นหลังๆมีการประกาศและบรรยากาศแบบนี้หรือเปล่า เพราะเทคโนโลยีปัจจุบันก้าวไกลมาก สามารถตรวจสอบจากอินเตอร์เนทได้ พี่สาวผมเรียนจบวิทยาศาตร์ สาขาเคมีอุตสาหกรรม ด้วยเกียรตินิยมอันดับ2 จบไปสมัครเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และรับทุนไปเรียนต่อปริญญาโท ด้าน Inorganic chem' สอนได้ไม่กี่ปี สอบทุนรัฐบาล ไปเรียนต่อปริญญาเอกที่ เบอร์มิงแฮม สาขาโลหะวิทยา ตอนนี้กลับมาแล้วสอนที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ บ่นว่าได้เงินน้อย ผมเลยบอกว่า เลือกเป็นอาจารย์แล้วต้องทำใจ อาจารย์คือผู้เสียสละ สร้างคนให้เป็นคนเก่งและดี ภูมิใจเหอะครับ
          พี่ชายผมเรียนจบประถมที่เดียวกัน สอบเข้ามัธยมต้นที่โรงเรียนประจำจังหวัด และก็ติดและอยู่ห้องคิงส์เหมือนพี่สาวผมเลย แต่พอจบม.ต้น พี่ชายผมขอไปเรียนเทคนิค ซึ่งพ่อและแม่ผมก็ให้ เรียนเทคนิคแผนกช่างElectronic และสอบเทียบไปด้วย เรียนเทคนิคไม่เคยสอนฟิสิกส์ เคมี ชีวะ คณิต เหมือนสายสามัญ พี่ชายผมอ่านเองหมด และไม่เคยไปเรียนพิเศษ ขยันอ่านหนังสือมาก เคยให้ผมมาสอนเรื่องคลื่น เรื่องเดียว และพี่ชายผมก็สอบเข้า วิศวกรรมศาสตร์ไฟฟ้า สถาบันพระจอมเกล้าพระนครเหนือได้เป็นคนแรกของโรงเรียน แถมยังสอบเอนทรานซ์โดยใช้สอบเทียบมาสอบ ก็สอบได้คณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่นอีก โหย...อะไรจะเก่งปานนั้น ผมทึ่งสุดๆเพราะแกอ่านหนังสือเอง พี่ชายผมเลือกพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และก็จบด้วยเกียรตินิยมอันดับ2 หลังจบไปทำงานบริษัท 1 ปี แล้วเบื่อ ไปเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยศรีปทุมอีก1 ปี เพื่ออยากขอทุนไปเรียน แต่พิจารณาสัญญาแล้วผูกมัดเกินไป ก็ลาออกมาเป็นอาจารย์ที่ตนเองจบมา และสอบทุนรัฐบาลไปเรียนปริญญาโทที่เยอรมัน สาขาสื่อสาร แต่ไม่เรียนต่อจนจบปริญญาเอก เพราะอยากแต่งงานครับท่าน ตอนนี้ลาออกจากอารย์แล้ว เพิ่งทำงานบริษัท ที่เกี่ยวกับการใช้อะไรสักอย่างแทนบาร์โค้ด
หมายเลขบันทึก: 43384เขียนเมื่อ 8 สิงหาคม 2006 13:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:34 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
  • แวะมาอ่าน
  • จากอารย์แล้ว  พิมพ์ผิดครับ
  • เก่งๆทั้งบ้านเลยครับ น่าภูมิใจมากครับคุณหมอ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท